มื้ออาหารค่ำของวันต่อมา อันนาก็ร่วมมือกับเพื่อนสนิทอย่างรัชนกทำตามแผนการที่วางเอาไว้ นั่นก็คือการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มของแม็กซิมัส
“แกแน่ใจนะนังนกว่ายาที่แกไปซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผล”
“แน่ใจสิยะ ไอ้คนขายมันบอกว่าเอาทั้งคืนไม่มีเหนื่อย แกเตรียมเมื่อยขาได้เลยนังอัน”
อันนาระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อสิ่งที่หวังกำลังจะเป็นจริง
“คราวนี้แหละฉันต้องท้องแน่ๆ แล้วพี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉันโดยเร็ว”
รัชนกมองหน้าเพื่อนซี้แล้วส่ายศีรษะไปมา “นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากหรอก ฉันจะรอให้พี่แม็กพร้อมและขอแต่งงานด้วยตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะ”
“ก็ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านนรกหลังนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว อ้อ และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีผู้หญิงจ้องจะงาบ
พี่แม็กของฉันเยอะเกินไป ฉันระแวง”“ก็ตามใจแก นั่นเสียงรถพี่แม็กหรือเปล่า”
รัชนกพยักพเยิดหน้า
อันนารีบวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างมอง และก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้ว
“ใช่ พี่แม็กมาแล้ว” น้ำเสียงของอันนาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“เดี๋ยวแกไปไล่คนใช้ให้กลับที่พักให้หมดเลยนะ จากนั้นแกก็รีบกลับไป ฉันอยากอยู่กับพี่แม็กตามลำพัง”
“ยะ” รัชนกกระแทกเสียงใส่อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ “แต่ในบ้านนี้ก็ยังเหลือลูกพี่ลูกน้องของแกอีกคนไม่ใช่เหรอ ชื่ออะไรนะ” รัชนกพยายามนึก แต่ยังไม่ทันนึกออก อันนาก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน
“แกหมายถึงนังปั้นหยาน่ะเหรอ”
“ใช่ๆ”
“นังนั่นมันไม่กล้ามาวุ่นวายอะไรกับฉันหรอก ยิ่งคุณย่าไม่อยู่ด้วยแบบนี้ มันก็ยิ่งไม่มีฤทธิ์มีเดช”
“โอเค งั้นฉันจะจัดการพวกคนใช้ให้ ส่วนแกก็ทำให้สำเร็จก็แล้วกัน อ้อ แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะว่าถูกเอาท่าไหนบ้าง” รัชนกหัวเราะคิกคัก
“ได้สิ แล้วแกจะต้องอิจฉาฉัน นังนก” อันนาเชิดหน้าสูงและยิ้มกริ่ม ก่อนจะรีบตัดบท “แกไปได้แล้ว ฉันจะออกไปรับหน้าพี่แม็กก่อน เดี๋ยวโดนสงสัยเอา”
“โอเค โชคดีนะยะ”
อันนารอจนร่างของรัชนกลับสายตาไปแล้ว จึงรีบวิ่งออกไปรับหน้า
“พี่แม็กมาเร็วจังค่ะ”
“เพราะพี่นัดกับอันไง พี่ก็เลยต้องรีบมา”
แม็กซิมัสระบายยิ้มบางๆ ขณะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของอันนา แล้วก้มลงจูบปากอิ่ม อันนารีบจูบตอบด้วยจริตจะก้านเอาอกเอาใจ จนชายหนุ่มครางออกมา
“จูบเก่งขึ้นทุกวันเลยนะแฟนพี่คนนี้น่ะ”
“แหม ก็พี่แม็กสอนอันเองนี่คะ”
แม็กซิมัสยกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มของอันนา ก่อนจะเดินเคียงข้างกับหล่อนเข้ามาในบ้าน
“ว่าแต่วันนี้ทำไมบ้านดูเงียบๆ ล่ะครับ ไม่เห็นใครสักคนเลย”
“อ๋อ คุณย่าไปถือศีลต่างจังหวัดน่ะค่ะ กลับพรุ่งนี้เช้า”
“ครับ” แม็กซิมัสผงกศีรษะตอบรับ
“ส่วนคนใช้ก็ลาป่วยบ้าง ลาหยุดบ้างน่ะค่ะ แต่อันไม่ได้สนใจอะไร เพราะปกติอันทำอะไรเองเสมอค่ะ”
แม็กซิมัสมองอันนาอย่างชื่นชม “พี่ชอบนะที่อันเป็นผู้หญิงง่ายๆ มองโลกในแง่บวกแบบนี้”
“อันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ชอบตัวตนของอัน”
“ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบผู้หญิงจิตใจดีหรอกครับ”
แม็กซิมัสดึงมือเล็กของอันนาขึ้นมาจูบแผ่วเบา
“พี่รักอันนะครับ”
“อันก็รักพี่แม็กค่ะ”
อันนาแสดงทีท่าสาวน้อยไร้เดียงสาที่ขวยเขินแฟนหนุ่มได้อย่างแนบเนียนนัก
“เอ่อ... อันว่าเราไปที่โต๊ะอาหารกันดีกว่าค่ะ อันตั้งโต๊ะรอพี่แม็กเอาไว้แล้ว”
“ครับ”
แม็กซิมัสเดินเคียงข้างอันนามาหยุดที่โต๊ะอาหารไม้ บนโต๊ะมีอาหารหน้าตาน่ารับประทานอยู่มากมาย ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ที่ผ่านการแกะสลักมาอย่างประณีต ขนมไทยชิ้นเล็กๆ หน้าตาสะสวย รวมไปถึงเครื่องดื่มที่เป็นไวน์ชั้นดี
“นี่เรากินกันสองคนหรือเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะ แค่เราสองคน”
อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างหวานฉ่ำ ขณะวางมือลงบนแผงอกกว้างและลูบไล้ไปมา
แม็กซิมัสอมยิ้ม ก่อนจะกุมมือเล็กที่ซุกซนอยู่บนหน้าอกของตนเองเอาไว้ และกระซิบเสียงแปร่งพร่า
“ยั่วกันแบบนี้ เดี๋ยวพี่ก็ไม่ได้กินอาหารหรอกครับ”
“ไม่ได้กินอาหาร แล้วพี่แม็กจะกินอะไรล่ะคะ”
“หึ...” เขาหัวเราะหึหึ “ก็กินคนทำอาหารให้พี่กินแทนยังไงล่ะ”
อันนาช้อนตาขึ้นมองเขา และเผยอปากออกจากกันแสดงท่าทางเชิญชวน
“ไม่เชื่อหรอกค่ะ ครั้งสุดท้ายที่เรามีอะไรกัน สามเดือนก่อนนู่นแน่ะ”
แม็กซิมัสหัวเราะเบาๆ กับคำตัดพ้อของคนตัวเล็ก
“พี่งานยุ่งนี่ครับ แล้วอีกอย่าง เราก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ไม่อยากให้เกิดเรื่องความผิดพลาดขึ้น”
“แหม พี่แม็กทั้งใส่ถุง ทั้งให้อันกินยาคุม ไม่มีทางท้องหรอกค่ะ”
แม็กซิมัสระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะดันร่างเล็กออกห่าง พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ให้อันนานั่ง โดยที่ตัวเองก็หย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงกันข้ามกับหญิงสาว
“น้องอันทำอาหารเองหมดนี่เลยหรือครับ”
“อ้อ... ใช่ค่ะ อันทำเองหมดเลย”
อันนาโกหกออกไป เพราะความจริงแล้ว อาหารทุกอย่างบนโต๊ะหล่อนขอร้องให้ปั้นหยาทำให้ทั้งหมด แม้กระทั่งจัดโต๊ะอาหาร หล่อนก็ไม่ได้มีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย
“พี่แม็กลองชิมนะคะ ไม่รู้จะถูกปากทุกจานไหม”
“ต้องถูกปากพี่สิครับ”
แล้วแม็กซิมัสก็ตักอาหารจานแรกใส่ปาก พร้อมกับเอ่ยชมออกมาทันที
“อร่อยมากเลยครับ ฝีมือน้องอันนี่ อร่อยกว่ารสมือของเชฟในภัตตาคารดังๆ ที่พี่เคยไปกินอีก”
“จริงเหรอคะพี่แม็ก”
“จริงสิครับ น้องอันเป็นผู้หญิงที่น่าอัศจรรย์จริงๆ ครับ”
แม็กซิมัสเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวของคนรักสาว
“ถ้าอร่อย พี่แม็กต้องทานเยอะๆ นะคะ”
“แน่นอนครับ”
แม็กซิมัสตักอาหารหน้าตาดีแถมรสชาติยังแสนอร่อยใส่ปากคำแล้วคำเล่า โดยมีสายตาของอันนามองตลอดเวลา
“เอ่อ... พี่แม็กคะ ชนแก้วกันหน่อยสิคะ”
“ได้สิครับ”
แม็กซิมัสหยิบแก้วไวน์แดงที่ถูกรินรอเอาไว้ก่อนหน้าแล้วขึ้นมาชนกับแก้วของอันนา
“แด่ความรักของเราค่ะพี่แม็ก”
“ครับ แด่ความรักของเรา”
แม็กซิมัสดื่มไวน์แดงท่ามกลางการคะยั้นคะยอของอันนาที่นั่งมองด้วยรอยยิ้ม
“ดื่มให้หมดแก้วเลยนะคะพี่แม็ก”
และแม็กซิมัสก็ดื่มจนหมดแก้วอย่างที่อันนาต้องการ
อันนาลอบยิ้มอย่างพึงพอใจ เมื่อแม็กซิมัสดื่มไวน์ผสมยาปลุกเซ็กซ์ชนิดรุนแรงไปหมดแล้ว
“ไวน์รสชาติดีมากเลยนะครับ”
“อ๋อ ค่ะ... อันดีใจที่พี่แม็กชอบนะคะ มาค่ะ เดี๋ยวอันรินไวน์ให้อีก”
“ขอบคุณครับ”
สองหนุ่มสาวนั่งดินเนอร์กันท่ามกลางแสงเทียนอย่างโรแมนติก ภายในห้องอาหารมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุข
ปั้นหยาที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องอาหารค่อยๆ ก้าวเดินห่างออกมาทั้งน้ำตา และก็อวยพรให้พวกเขามีความสุข
หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลออกมานองพวงแก้มทิ้ง ก่อนจะกัดฟันเดินหนีกลับเข้าไปยังห้องนอน และซ่อนตัวอยู่ในนั้นตามคำสั่งของอันนา
อันนามองใบหน้าหล่อเหลาของแม็กซิมัสที่กำลังแดงจัดด้วยความพึงพอใจ ท่าทางกระสับกระส่ายที่ชายหนุ่มแสดงออกมานั้น ทำให้หล่อนรู้ดีว่ายาปลุกเซ็กซ์เริ่มออกฤทธิ์แล้ว
“พี่แม็กเป็นอะไรหรือเปล่าคะ หน้าแดงจังเลยค่ะ”
แม็กซิมัสสบตากับอันนา เขาพยายามสะกดกลั้นความร้อนรุ่มภายในกายหนุ่มเอาไว้อย่างสุดกำลัง
เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไม ณ ขณะนี้ ร่างกายของเขาถึงได้รู้สึกเหมือนถูกตัวตัณหาร้ายกาจครอบงำ ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจแล้วว่าจะไม่หลับนอนกับอันนาอีก จนกว่าจะแต่งงานกัน
“พี่รู้สึกร้อนมากๆ”
“งั้นอันพาขึ้นไปอาบน้ำนะคะ”
แม็กซิมัสอยากปฏิเสธ แต่ดูเหมือนว่าการอาบน้ำจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ร่างกายของเขาเย็นลง
“ครับ”
อันนาแทบซ่อนรอยยิ้มตื่นเต้นดีใจเอาไว้ไม่มิด หล่อนขยับตัวลุกขึ้นยืน และเดินไปหยุดใกล้ร่างกำยำที่ลุกขึ้นยืนแล้วเช่นเดียวกัน พร้อมกับจงใจเอาเต้านมเบียดกับท่อนแขนล่ำสัน
แม็กซิมัสร้อนฉ่าจนแทบเป็นบ้า เขาขยับออกห่างร่างของอันนาทันที
“พี่อยากอาบน้ำ น้องอันรีบพาพี่ไปเถอะ”
“ได้สิคะ”
อันนาเดินนำหน้าแม็กซิมัสตรงไปยังห้องนอนของตนเอง ระหว่างทางก็อดที่จะหันไปมองผู้ชายตัวโตที่หน้าแดงจัดไม่ได้
แม็กซิมัสคงกำลังจะคลั่ง และหล่อนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทันได้อาบน้ำหรอก เพราะหล่อนจะลากเขาขึ้นเตียงทันทีเมื่อเข้าไปในห้องนอน“นี่ค่ะ ห้องนอนของอัน”หล่อนเปิดประตูห้องนอนให้กับแม็กซิมัส กำลังจะก้าวตามเขาเข้าไปภายในนั้น แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังกังวานขึ้นเสียก่อน“บ้าจริง ใครโทรมาตอนนี้วะ”หล่อนพึมพำอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ และพูดกับแม็กซิมัส“อันขอตัวรับสายก่อนนะคะ เชิญพี่แม็กตามสบายเลยค่ะ”“ครับ”หล่อนตั้งใจจะคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องนอนของตนเอง แต่พอเห็นเบอร์ที่เรียกเข้ามา ก็หน้าซีดเผือด ต้องรีบกดวางสายแทบไม่ทัน แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว มันก็ดังขึ้นมาใหม่ จนหล่อนจำต้องเดินเลี่ยงออกมาตรงระเบียง และกดรับสาย“แกจะโทรมารังควานฉันอีกทำไม ไอ้วิทย์”เสียงหัวเราะดังมาตามสายทำให้อันนายิ่งโกรธแค้นแน่นอก แต่หล่อนกำลังเสียเปรียบผู้ชายคนนี้“แหม ผัวจะโทรหาเมียบ้างไม่ได้เลยเหรอครับ”“ไอ้บ้า อย่ามาพูดแบบนี้นะ เงินก็เอาไปจากฉันแล้ว ยังจะมาตามรังควานอะไรฉันอีก ไปให้พ้น!”“เงินแค่สองแสน มันไม่พอที่จะปิดปากผัวได้หรอกเมียจ๋า”“ไอ้สัตว์นรก แกต้องการอะไรจากฉันอีก!”อันนาเจ็บใจนักที่ต
เสียงกรีดร้องขอความเมตตาของปั้นหยาหายเข้าไปในลำคอแกร่งของแม็กซิมัสทั้งหมด ไม่ว่าหล่อนจะวิงวอน ร้องไห้ขอให้เขาหยุดกระทำสักเท่าไหร่ แต่ผู้ชายที่กำลังถูกตัณหาครอบงำก็ไม่แม้แต่จะหยิบยื่นเศษความปรานีให้ปากของหล่อนถูกเขาประกบจูบอย่างเร่าร้อนดูดดื่ม จูบแรกของวัยสาวถูกผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารังเกียจนักหนาช่วงชิงไปอย่างป่าเถื่อน มือเล็กยกขึ้นผลักไสตลอดเวลา และก็พยายามที่จะเม้มปากแน่นไม่ให้ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามารุกรานภายใน แต่สุดท้ายแล้วหล่อนก็ต้องพ่ายแพ้ เมื่อความเจ็บหนึบที่เกิดขึ้นเพราะนิ้วแข็งแรงกดลงบนปลายคางรุนแรงเหลือเกิน“อ๊ะ... อื้อ...”หล่อนร้องครางต่อต้านได้แค่นั้น ลิ้นใหญ่ก็พุ่งทะยานเข้ามาภายใน เขาเอามือบีบอุ้งปากของหล่อนเอาไว้ เพื่อไม่ให้หล่อนกัดลิ้น จากนั้นก็ปลุกเร้าหล่อนด้วยลีลาเชี่ยวชาญช่ำชอง จนในที่สุดสาวน้อยไร้เดียงสาเช่นหล่อนก็ต้องยอมพ่ายแพ้ความรู้สึกวาบหวามที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตทำให้กายสาวลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟสวาทเร่าร้อนแผดเผาจนอนุสติสูญสลาย กายสาวค่อยๆ โอนอ่อนตอบสนองสัมผัสทรงอานุภาพของเขาในที่สุดเสียงครางด้วยความพึงพอใจของแม็กซิมัสดังกระหึ่มกังวาน เขาบดจูบหนักหน่วงยิ่
“อื้อ... อื้อ...”เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะทรมานสักแค่ไหน เพราะเขาเดินหน้าเคลื่อนไหวอย่างดุดัน ทุกจังหวะของเขาเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หยาดน้ำตาของหล่อนไม่อาจจะทำให้คนใจร้ายสงสารได้เลย“อืมมม โอ้ววว...”เสียงครางของเขาดังกังวานขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ความเจ็บเริ่มจางหายไปจากกายสาวบ้างแล้ว“อา... อา...”ความอุ่นซ่านแห่งความเสียวกระสันเกิดขึ้นในทุกครั้งที่แม็กซิมัสเคลื่อนไหว และมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนไม่สามารถหักห้ามใจได้อีก“อา... อา...”หล่อนปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับพายุสวาทของแม็กซิมัสอย่างยากจะต้านทาน กายสาวเบียดกระแซะขึ้นหา หยัดร่อนความเป็นหญิงขึ้นรับการสอดแทรกร้อนแรงด้วยความเต็มใจเสียงคำรามที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของเขาดังกังวานขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าหล่อจัดตอนนี้บิดเบี้ยวเหยเกคล้ายกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่ทรงพลังสะโพกของเขาส่ายวนคลึงเคล้นกับความเป็นหญิงร้อนแรง มือใหญ่ทั้งสองข้างกอบกุมสะโพกกลมกลึงเอาไว้แน่น และกระชากให้หล่อนอ้ารับความหิวกระหายบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า“อา... อา... คุณแม็ก... อา... ไม่ไหวแล้ว... อา...”หล่อนบิดกายเร่าๆ ครางสะอื้นเป็นชื่อของเขาน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนที่นอนขดอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าห่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตากลมโตเบิกท่ามกลางความมืดสลัว ความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หล่อนเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม และก็พยายามที่จะกัดฟันขยับตัวลงจากเตียง แต่ความเจ็บปวดที่ซอกขาทำให้หล่อนเผลอส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง“อ๊ะ...”ตรงนั้นของหล่อนเจ็บระบมมาก นั่นเป็นเพราะแม็กซิมัสรุนแรง ป่าเถื่อน และชำเราหล่อนนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แถมอาวุธที่เขาใช้รังแกหล่อนก็ทั้งใหญ่ทั้งยาว จนสาวบริสุทธิ์เช่นหล่อนรู้สึกคล้ายกับจะฉีกขาดไปทั้งตัวหล่อนพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะต่อสู้กับความเจ็บปวดก้าวลงจากเตียง ความเจ็บลึกในซอกขาย้ำเตือนให้หล่อนลืมความป่าเถื่อนของแม็กซิมัสไม่ลง“อัน... อยู่กับพี่ก่อน...”เอวคอดของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็พลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางความมืดมิดเขาเรียกหาอันนา โดยไม่ได้สนใจเลยว่าผู้หญิงใต้ร่างของเขาจะเป็นใคร“อย่า... ปล่อยค่ะ...”“พี่ต้องการอัน...”เขาครางเสียงกระเส่าก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่ม กลืนกินเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนเข้าไปในลำคอเสียห
อันนาเห็นแม็กซิมัสเข้าใจผิด หล่อนก็รีบสมทบสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นข้อสงสัยทันควัน“มึงร้ายกาจ... ร้ายกาจที่สุด นังปั้นหยา!”ปั้นหยาส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกปรักปรำจากสองคนที่กำลังเกรี้ยวกราดหล่อนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็ตายไปจากโลกใบนี้เสียเลย“พี่ไม่ได้ทำนะอัน... คุณแม็ก... หยาไม่ได้ทำ... หยา อ๊ะ... หยาเจ็บ...”“ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แล้วใครจะทำ เรื่องเลวๆ แบบนี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำ ปั้นหยา”เขาบีบแขนของหล่อนแรงมากราวกับต้องการทำให้กระดูกของหล่อนแตกละเอียดหล่อนเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพยายามวิงวอนให้เขาเมตตา“ได้โปรด... เชื่อหยา... หยาไม่รู้เรื่อง หยาไม่ได้ทำ...”หล่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครที่จะเชื่อหล่อนเลย“ตอแหล!”“อ๊ะ...”ปั้นหยาถูกผลักให้ล้มหงาย ร่างเปลือยแทบกลิ้งตกลงไปจากเตียง และพวกเขาก็คงจะรุมทึ้งหล่อนจนย่อยยับต่อไปอีก หากคุณย่าวารีไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังลั่นบ้านเชียว”“คุณย่า...”ปั้นหยาครางเรียกชื่อของผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ ในขณะที่แม็กซิมัสนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียงเพราะไร้ทางหลบหนี“หยา... หยาทำ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารู้ดีว่าตัวเองถูกวางยา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กระทำเรื่องน่าสมเพชเช่นนั้นลงไปได้ แถมเจ้าหล่อนก็ยังเข้ามาหาในเวลาที่เหมาะเจาะพอดิบพอดีชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ขณะตวัดตามองผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นยืนตัวสั่นตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เท่าที่เห็น หล่อนก็มีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนทำลายไป นอกนั้นปั้นหยาก็คือสิ่งจอมปลอม เป็นผู้หญิงสารเลวที่เขาขยะแขยงเขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของหล่อน มองด้วยสายตาชิงชังอย่างที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน“ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้นะปั้นหยา”คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นมาป้ายทิ้ง และกลั้นใจพูดโต้ตอบออกไป“หยา... จะจำเอาไว้ค่ะ”เขาหัวเราะเครียดๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยกองไฟจำนวนมหาศาล และมันก็แผดเผาคนถูกมองจนแทบมอดไหม้“ผู้หญิงที่ฉันรักคืออันนา ส่วนเธอมันก็แค่อีตัว ที่ฉันเผลอไผลนอนด้วย และอย่าฝันนะว่าฉันจะรับผิดชอบอะไรในตัวของเธอ”หล่อนเจ็บจนหัวใจชาดิก เลือดสดๆ ไหลทะลักท่วมท้นจนแทบจะทะลักออกมาทางปาก“หยา... ไม่ได้ต้องการให้คุณแม็กมารับผิดชอบอะไรอยู่แล้วค่ะ เรื่องเมื่อคืน... ให
แม็กซิมัสก็คิดไม่ต่างจากอันนาแม้แต่น้อย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่สมควรจะพูดมันออกไป“พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับน้องอัน รู้สึกเพลีย”อันนาช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัสอย่างโมโหเพราะรู้ทันว่าทำไมชายหนุ่มถึงอ่อนเพลีย“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่แม็ก ยังไงซะพี่แม็กก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของอัน เข้าใจไหมคะ”ใช่ มันคือความผิดพลาดของเขาเต็มๆ แต่ตัวต้นเหตุก็คือผู้หญิงแพศยาคนนั้น“พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องอัน ถึงพี่จะแต่งงานกับปั้นหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้แค่ทะเบียนสมรส กับความเหี้ยมโหดของพี่ เพราะคนที่พี่รักคือน้องอันคนเดียว”อันนาพอยิ้มออกมาได้บ้าง หล่อนรีบโผเข้ากอดแม็กซิมัสและประจบประแจงเสียงอ่อนเสียงหวาน“พี่แม็กพูดแล้วนะคะ ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด”“พี่เป็นคนรักษาคำพูดครับ น้องอันเชื่อใจพี่ได้ เราสองคนจะอยู่บนสวรรค์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกนรกทั้งเป็น”อันนาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้ เพราะถึงแม้เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ แต่แม็กซิมัสก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อนปั้นหยาที่หลบออกมาร้องไห้หน้าบ้านต้องรีบก้าวเท้าเพื่อเดินเลี่ยงไปทางอื่น เมื่อจู่ๆ แม็กซิมัสก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีเขียวจัดของเขาจ้องมองมาเขม
“คุณย่าขา... หยา... หยาไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคุณแม็ก... คุณย่าเลิกคำสั่งเถอะนะคะ”ปั้นหยานั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และซบหน้าลงกับตักของคุณย่าวารี น้ำตาไหลรินอาบแก้ม“หยา... ฟังย่านะ” คุณย่าวารียกมือขึ้นลูบศีรษะของปั้นหยาอย่างแสนเวทนา “เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้หยาเสื่อมเสียเกียรติ ยังไงคุณหมอแม็กซิมัสก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหยา”“แต่คุณแม็กกับน้องอันเป็นคนรักกันนะคะ หยาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักของน้อง...” หล่อนสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวทรมานเหลือเกิน“แม่อันน่ะ หัวหกก้นขวิดมานักต่อนักแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างหยานะลูก”“แต่เขาสองคนรักกัน หยาไม่...”“คุณหมอแม็กซิมัสควรจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่าแม่อัน และผู้หญิงคนนั้นก็คือหยาไงลูก”คุณย่าวารีรู้ว่าตัวเองอาจจะลำเอียงรักหลานสองคนไม่เท่ากัน แต่อันนาเป็นคนไม่ดี และจิตใจโหดร้าย หล่อนเป็นห่วงปั้นหยา“แต่คุณแม็กเกลียดหยา...”“คุณหมอแม็กแค่เข้าใจในตัวของหยาผิด ถ้าได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องได้เห็น และได้รู้ว่าหยาเป็นเด็กดีแค่ไหน และเขาก็จะรักหยาของย่าได้ไม่ยาก”หล่อนเคยได้ยินมากับหู ตอนที่อันนาใส่ไฟปั้นหยาให้กับแม็กซิมัส แต่หล่อน