สองอาทิตย์แล้วที่หล่อนหอบหัวใจและร่างกายอันบอบช้ำหนีจากแม็กซิมัสกลับมาอยู่ที่บ้านของคุณย่าวารี โดยที่เขาไม่ได้ไยดีแม้แต่จะโทรมาถามไถ่แม้แต่ครั้งเดียวปั้นหยาน้ำตาริน มองนาฬิกาที่ผนังด้วยหัวใจแหลกลาญ เพราะวันนี้คือวันที่หล่อนมีนัดกับแม็กซิมัสที่เขตเพื่อจดทะเบียนหย่า“หยาแน่ใจแล้วนะว่าจะทำแบบนี้น่ะ”คุณย่าวารีถามหล่อนเมื่อคืน และหล่อนก็ยืนยันคำเดิมว่าหล่อนต้องการหย่าขาดจากผู้ชายไร้หัวใจอย่างแม็กซิมัสเขาใจดีกับผู้หญิงทั้งโลก ยกเว้นแค่หล่อนเพียงคนเดียว ซึ่งหล่อนก็จะไม่โง่ยอมให้เขารังแกอีกแล้ว“คุณหยาคะ คุณหมอแม็กมาแล้วค่ะ”หลังมือเล็กรีบป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้กับเด็กรับใช้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล“บอกรอแป๊บนะจ๊ะ เดี๋ยวหยาลงไปจ้ะ”“ค่ะคุณหยา”ปั้นหยาลุกขึ้นจากเก้าอี้ มองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ ภาพของผู้หญิงหน้าตาเศร้าหมองน่าเวทนาสะท้อนออกมา มันช่างดูน่าสังเวชใจยิ่งนักร่างแบบบางของปั้นหยาดูผอมลงไปถนัดตาภายในระยะเวลาแค่สองอาทิตย์เท่านั้น แม็กซิมัสรู้สึกใจหายไม่ได้ ความรู้สึกห่วงใยเกิดขึ้นอย่างลืมตัว เมื่อเห็นร่างเล็กโงนเงนจะล้ม เขาจึงรีบเดินเข้าไปประคอง“ไม่สบายก็โทรเลื่อนฉันได้นี่”สั
โลกของหล่อนพังทลายลงหมดแล้ว...ปั้นหยานอนน้ำตาซึมอยู่ภายในห้องพักด้วยความชอกช้ำ หลังจากที่หล่อนต้องทำเป็นยิ้มคล้ายกับไม่เป็นอะไรต่อหน้าคุณย่าวารีเมื่อตอนเย็นหล่อนรักแม็กซิมัส และไม่ว่าเขาจะร้ายกาจ เหี้ยมโหด ไร้เมตตาด้วยสักแค่ไหน หัวใจไม่รักดีของหล่อนก็รักเขา และก็รักเขาไม่เสื่อมคลายหล่อนเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ เกลียดที่รักผู้ชายใจร้ายคนนั้น ทั้งๆ ที่เขาไม่มีทางเผื่อแผ่เสี้ยวเศษความรักมาให้ ทุกถ้อยคำของเขาล้วนแต่ทำร้ายทำลายความรู้สึกของหล่อนเสมอแต่หล่อนก็ยังรัก...เสียงสะอื้นไห้แผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม หยาดน้ำตาอุ่นๆ ไหลรินไม่ขาดสายเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังกังวานขึ้น หล่อนจำต้องควานหามันมากดรับ“สวัสดีค่ะ”“น้องหยา... พี่ไตรทศครับ”“เอ่อ... สวัสดีค่ะพี่ไตร” หล่อนจำต้องปั้นเสียงให้ราบเรียบเป็นปกติที่สุด“น้องหยานอนหรือยังครับ พี่โทรมากวนหรือเปล่า”“เอ่อ... เตรียมตัวจะนอนแล้วค่ะ พี่ไตรมีธุระอะไรกับหยาเหรอคะ”“พี่... เอ่อ... พี่ไม่รู้จะพูดยังไงดี” ไตรทศอึกอักไปเล็กน้อย เพราะพยายามจะเรียบเรียงถ้อยคำให้ฟังง่ายที่สุด“พี่ไตรพูดได้เลยค่ะ หยาฟังได้ทุกอย่างค่ะ”“คือ... เอ่อ
ประตูร้านอาหารที่ไตรทศพาหล่อนมารับประทานอาหารเที่ยงถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างสูงใหญ่คุ้นตาของผู้ชายที่หล่อนไม่เคยลืมเลือนจะก้าวเข้ามา ข้างกายของเขามีอันนาตามติดมาด้วยหล่อนหน้าซีดเผือด มือกำช้อนสเตนเลสแน่นอย่างลืมตัว ดวงตาไม่อาจจะละไปจากความสง่างามของแม็กซิมัสได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว จนกระทั่งเขาหันมามอง สบประสานสายตากัน หล่อนก็รู้สึกราวกับถูกดูดให้จมหายลงไปในบ่อโคลนทำไมหล่อนจะต้องมาเจอเขาที่นี่...ปั้นหยาถามตัวเองอย่างเจ็บช้ำ ก่อนจะกัดปากแรงๆ เพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา และหล่อนก็ทำได้ในที่สุด หล่อนสามารถแกะสายตาจากเรือนร่างของเขาลงมองจานอาหารได้สำเร็จและการพบกันโดยบังเอิญครั้งนี้ไม่ได้มีผลต่อปั้นหยาเพียงคนเดียว แต่สำหรับแม็กซิมัสก็ไม่ต่างกันเขายืนนิ่งอยู่กับที่ ก้าวเท้าไม่ออก ดวงตาจ้องเขม็งไปที่หล่อน อดีตภรรยาที่เพิ่งหย่าร้างกันไปเพียงแค่ไม่กี่วันหล่อนกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันกับผู้ชายท่าทางภูมิฐานคุ้นตาคนหนึ่ง และไม่ได้มีทีท่าแยแสต่อการปรากฏตัวของเขาเลยแม้แต่น้อยให้ตายเถอะ เขารู้สึกหงุดหงิดเหลือเกิน ที่เห็นหล่อนยิ้มให้กับผู้ชายคนนั้นมือใหญ่ข้างลำตัวกำเป็นกำปั้น กรามแกร่งขบกันแน
อันนาออกมาเที่ยวไนต์คลับตามลำพังเพราะแม็กซิมัสปฏิเสธที่ออกมาด้วย และหล่อนก็เบื่อที่จะต้องอยู่บ้านอย่างเดียว หล่อนจึงโทรนัดรัชนกให้ออกมาหา“หายหัวไปนานเลยนะนังอัน” รัชนกจิกกัดทันทีที่หย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าของอันนา“แกก็รู้ว่าฉันยุ่งๆ”“ยุ่งเรื่องแย่งผัวญาติผู้พี่ใช่ไหมล่ะ”“อีนก มึงก็พูดไปนั่น พี่แม็กน่ะของกู แต่นังหยามันแย่งไปต่างหากล่ะ” อันนากระฟัดกระเฟียด“เอาจริงๆ นะนังอัน ญาติมึงน่ะไม่ได้จะแย่งหรอก แต่มึงน่ะพลาดเองต่างหาก”“มึงเลิกพูดแบบนี้เลยอีนก กูไม่ใช่คนผิด ยังไงก็ไม่ผิด”อันนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม โดยมีสายตาเบื่อหน่ายของรัชนกจ้องมอง“แล้วนี่ตำรวจยังจับไอ้ประวิทย์ไม่ได้ แกไม่กลัวบ้างเหรอ”อันนาไหวไหล่อย่างไม่แยแส “ทำไมต้องกลัวมันด้วย หากตำรวจเจอมัน มันก็ต้องติดคุกยาว”“แล้วถ้ามันซัดทอดแกล่ะนังอัน”“ใครจะไปเชื่อคำพูดของมัน อ้อ... แต่เอาจริงๆ นะ ฉันไม่คิดว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่หรอก ถูกยิงไปสามนัดซ้อนแบบนั้นน่ะ” อันนายิ้มเหี้ยมเกรียม“ฉันไม่คิดเลยนะว่าผู้หญิงหน้าตาสวยๆ อย่างแกจะกล้าฆ่าคนด้วย”“ก็ถ้าปล่อยมันเอาไว้ ชีวิตของฉันก็ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงน่ะสิ ให้มันตายโหงตายห่าไปน
บ่ายของวันต่อมา นายตำรวจซึ่งเป็นพรรคพวกของเขากำลังนั่งคุยอยู่กับรัชนก ภายในสถานีตำรวจ ซึ่งเขาก็ถูกเรียกตัวให้มาพบด่วนเช่นกัน“คุณแม็ก...” รัชนกหน้าซีดเผือดยิ่งขึ้นเมื่อเห็นแม็กซิมัสปรากฏตัวขึ้น“สวัสดีครับคุณนก” แม็กซิมัสเอ่ยทักทาย ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งข้างๆ ร่างของรัชนก โดยมีตำรวจที่เป็นเพื่อนของเขานั่งอยู่ตรงกันข้าม“เรียกฉันมามีอะไรด่วนหรือ ไอ้พิท”“ก็เมื่อวานนายให้ฉันตามตัวคุณรัชนกมาสอบปากคำไม่ใช่เหรอ นี่ไง ฉันก็สอบปากคำให้แล้ว”แม็กซิมัสมองหน้าซีดเผือดของรัชนก ก่อนจะเลื่อนสายตามองเพื่อนตำรวจอีกครั้ง“แล้วสรุปมันคืออะไรวะ”พิทยาอมยิ้ม ก่อนจะถามรัชนก “คุณรัชนกจะพูดเอง หรือว่าจะให้ผมเป็นคนบอกไอ้แม็กครับ”“เอ่อ... คือว่า...” รัชนกรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน และก็หวาดกลัวว่าตัวเองจะติดร่างแหไปด้วย “นก... บอกเองก็ได้ค่ะ”แม็กซิมัสจ้องหน้ารัชนก อย่างรอคอยที่จะฟังสิ่งที่หญิงสาวกำลังจะพูด“นก... เป็นคนไปซื้อยานั่นมาเองค่ะ”“เรื่องนั้นผมเห็นในภาพจากกล้องวงจรปิดหมดแล้วครับ”“เอ่อ...”“สิ่งที่ผมอยากรู้ก็คือ... คุณซื้อยานั่นไปให้ปั้นหยาใช่ไหม”รัชนกช้อนตาขึ้นมองแม็กซิมัส หน้าตาของหล่อนซีดแล
หลังจากช็อปปิ้งอย่างสบายอารมณ์เสร็จ อันนาก็เดินหิ้วถุงกระดาษหลายใบมายังลานจอดรถใต้อาคารของห้างดัง หล่อนกำลังจะก้าวขึ้นรถ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อพบว่าประวิทย์มายืนอยู่ข้างหลัง พร้อมกับมีดจี้มาที่เอวของหล่อน“อีสารเลว วันนี้มึงได้ชดใช้เวรกรรมแน่”หน้าของอันนาซีดเผือด “นี่แก... ยังไม่ตายอีกเหรอ ไอ้สัตว์นรก”“กูยังตายไม่ได้หรอก ถ้ายังไม่ทำให้ชีวิตมึงป่นปี้เสียก่อน”“มึงจะทำอะไรกู...” อันนาละล่ำละลักถาม และก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะมีมีดแหลมจี้อยู่ที่บั้นเอว“กูจะทำให้มึงตกนรกยังไงล่ะ อีสารเลว!”“อย่านะ อย่าทำอะไรฉัน”“มึงอย่ามาอ้อนวอนกู ผู้หญิงอย่างมึงมันเชื่อใจไม่ได้ ขนาดกูยอมทำตามความต้องการของมึงทุกอย่าง แต่มึงก็ยังคิดจะฆ่ากู” ประวิทย์เค้นเสียงออกมาอย่างโกรธแค้น“พี่วิทย์... พี่วิทย์ขา ฉันขอโทษ... โอ๊ย” เส้นผมของอันนาถูกมือใหญ่ของประวิทย์กระชากแรงๆ จนขาดหลุดติดมือมานับสิบเส้น“มึงอย่ามาตอแหล กูไม่หลงกลมึงแล้ว”“ฉันขอโทษนะที่ทำแบบนั้น แต่ฉัน... จะให้เงินพี่เยอะๆ อยากได้เท่าไหร่ก็บอกมาเลย ฉันมีเงิน โอ๊ยยยย”เพียะ!หน้าของอันนาถูกตบจนล้มคว่ำลงไปกับพื้นลานจอดรถ ก่อนที่ประวิทย์จะตามไปกระชาก
“คุณท่านคะ มีสายจากตำรวจค่ะ”หน้าตาตื่นเต้นของสาวใช้ที่วิ่งถือกระบอกโทรศัพท์ไร้สายสีดำเข้ามาหาทำให้คุณย่าวารีที่กำลังนั่งฟังปั้นหยาอ่านหนังสือให้ฟังต้องขยับกายลุกขึ้นนั่ง และยื่นมือไปรับโทรศัพท์มาแนบหู“สวัสดีค่ะ ฉันวารี...”คุณย่าวารีกรอกเสียงไปตามสาย และสักพักสีหน้าของท่านก็เต็มไปด้วยความตกใจ“โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”หญิงสูงวัยยื่นโทรศัพท์ไร้สายคืนให้สาวใช้ ก่อนจะหันมาพูดกับปั้นหยาที่มองมาด้วยความสงสัย“เราต้องรีบไปสถานีตำรวจแม่หยา”“ไปสถานีตำรวจ? ไปทำไมคะคุณย่า” คิ้วโก่งสวยของปั้นหยาเลิกสูงคุณย่าวารีถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะตอบ “แม่อันถูกตำรวจจับ”“น้องอัน...”ปั้นหยาตกใจมาก และถึงแม้อันนาจะไม่เคยมองเห็นหล่อนเป็นพี่เลย แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะเกลียดอันนาแม้แต่สักครั้ง“แม่อันฆ่าคนตาย”ดวงหน้าของปั้นหยาซีดเผือด แต่ใบหน้าของคุณย่าวารีซีดกว่า หล่อนเข้าใจความรู้สึกของท่านดี“คุณย่าอย่ากังวลนะคะ เราไปคุยกับตำรวจ จะได้ประกันตัวน้องอันออกมา”แม้คุณย่าจะฝืนยิ้มออกมา แต่ปั้นหยาก็รู้ดีว่าท่านคงกำลังวิตกกังวลมากแค่ไหน เพราะถึงแม้ท่านจะดุด่าอันนาบ่อยๆ แต่ลึกๆ แล้วท่านก็รักอันนาไม่ต่างจากท
คราวนี้หล่อนต้องช้อนตาขึ้นมองเขา มองเขาด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจเหลือคณานับ“ก็เพราะคุณแม็กจะต้องกล้ำกลืนฝืนทนนั่งรถไปกับผู้หญิงที่ตัวเองขยะแขยงยังไงล่ะคะ”แม็กซิมัสถอนใจยาวเหยียด เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกคำพูดที่เคยพ่นรดหน้าของปั้นหยาย้อนกลับมาทำร้ายแบบนี้ นี่เขากำลังถูกกรรมตามสนองใช่ไหม“ก็บอกไปเมื่อกี้แล้วนี่ว่าไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ขยะแขยงอะไรเธอแล้ว ขึ้นรถเถอะ”“ไม่ค่ะ ถ้าคุณแม็กไม่พูดตรงนี้ หยาก็จะไม่ฟังอีก ขอตัวนะคะ”หล่อนสะบัดตัวแรงๆ จนพ้นจากพันธนาการของเขา ฝ่าเท้ากำลังก้าวหนี แต่เขาก็สวมกอดเข้ามาทางด้านหลังในเสี้ยววินาทีต่อมากายสาวเกร็งเครียด หัวใจเต้นแรงระรัวด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว เขากำลังเล่นเกมอะไรกับหล่อนเนี่ยปั้นหยาต้องสะกดกลั้นความโหยหาที่มีต่อแม็กซิมัสเอาไว้สุดกำลัง หล่อนไม่เคยเกลียดเขาได้เลย ไม่ว่าเขาจะร้ายกาจกับตนเองสักแค่ไหนก็ตาม“ปล่อยหยาค่ะ”“รับปากก่อนว่าจะขึ้นรถ”ปั้นหยารู้ดีว่าหากไม่ทำตามความต้องการของแม็กซิมัส เรื่องมันก็จะไม่มีวันจบ“ค่ะ”อ้อมแขนกำยำคลายออก พร้อมกับเขาที่ก้าวไปเปิดประตูรถให้ หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรงซ้ำอีก และก็ตัดสินใจก้าวขึ้นไปนั่งบนรถสปอร์ตคันง