งานหมั้นที่ยิ่งใหญ่แต่หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งเสียใจที่ตนเองนั้นต้องมาหมั้นกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก หลังจากงานหมั้นจบเสร็จพิธีนิตาเดินตรงเข้ามาหาพ่อตนเองในห้อง เรือนร่างบางคุกเข่าลงที่พื้นพ่อของเธอนั้นนั่งอยู่บนเตียงสายตาของเขาจับจ้องมองลูกสาวและถอนหายใจก่อนหน้านี้ยังมีหลานสาวอยู่ด้วยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแต่เขาก็รักอันนาเหมือนกับลูกสาวแต่ใจก็เห็นแก่ตัวไม่อยากให้ลูกสาวที่แท้จริงต้องไปเจ็บปวด
"คุณพ่อ…นิตาสงสารน้อง" นิตาเงยหน้ามองพ่อของตัวเองทั้งน้ำตาเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมเอ่ยพูดบอกกับพ่อว่าสงสารอันนา
"ถ้าสงสารน้องแกก็ไปแทนสิ! ถ้าไม่อยากเจ็บและทุกข์ทรมานเหมือนอันนาก็อยู่เฉยๆ วันนี้เป็นงานหมั้นของแกไม่ควรขึ้นมาบนนี้และถ้าคนอื่นมาได้ยินแกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตอยู่! ทำอะไรไม่รู้จักคิดตั้งแต่แรกเหมราชมันไม่ใช่คนธรรมดาไม่อย่างนั้นท่านรองคงไม่ออกตัวให้มันขนาดนี้! สิ่งเดียวที่ทำได้คือแกต้องเกาะคู่หมั้นของแกไว้ให้ดีเพราะเขาจะทำให้แกหลุดพ้นแล้วไม่ต้องไปเจ็บปวดแบบอันนา"
"คุณพ่อไม่รักอันนาบ้างเลยเหรอ แล้วทำไมคุณพ่อถึงไม่ช่วยน้องอำนาจและบารมีคุณพ่อมีเพียงแค่ท่านรอง!...”
นิตาถูกเป็นพ่อนั้นตบหน้าทันทีในขณะที่เธอเอ่ยพูดว่าไม่รักอันนาน้องสาวตนเอง
"ทำไมฉันจะไม่รักอันนาเป็นหลานสาวของฉัน ฉันก็รักไม่แตกต่างจากแกหรอก แต่ฉันรักแกมากกว่าไงถึงได้ยอมให้มันเป็นแบบนี้" เขาถอนหายใจไม่อยากทำร้ายหลานสาวที่ตนเองรักแต่ก็ไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองต้องเจ็บอย่างที่อันนาโดนกระทำ
"เป็นเพราะนิตาจริงๆ มีวิธีไหนที่จะทำให้อันนารอดพ้นจากเขาได้ไหม" เรือนร่างบางหันใบหน้าตัวเองกลับมามองผู้เป็นพ่อและเอ่ยถามหาวิธีที่จะให้น้องสาวนั้นหลุดพ้นจากคนใจร้าย
กรณ์ส่ายหน้าไปมาให้กับลูกสาวไม่มีวิธีไหนนอกจากดวงของอันนาที่จะรอดพ้นเพราะคนอย่างเหมราชคงไม่ปล่อยให้อันนาใช้ชีวิตหรือมีชีวิตต่ออย่างแน่นอน แต่ถ้าโชคดีหรือว่าดวงเข้าข้างผู้ชายคนนั้นหลงรักหลานสาวอาจจะเป็นไปได้ที่ความแค้นทั้งหมดจะกลายเป็นความรัก
"มันไม่มีทาง! อยู่เฉยๆ และอย่าลืมทำอะไรที่ฉันบอกเป็นไปได้ก็เป็นเมียของมันไปเลย จะได้รีบแต่งงานกันไวๆ ถ้ามันรู้ความจริงว่าแกเป็นคนฆ่าน้องสาวมัน แกไม่รอดแน่นิตา"
นิตาได้เพียงแต่ก้มหน้ายอมรับ ตัวเธอเองก็ขี้ขลาดไม่กล้าพอกลัวว่าเขาจะรู้ความจริงและทำร้ายเธอแทนน้องสาว เมื่อนิตาลงมาด้านล่างว่าที่คู่หมั้นของเขานั้นจับจ้องมองเหมือนดั่งว่านิตาไม่เต็มใจที่จะหมั้นแต่เป็นเพราะผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกัน
"ดูหน้าซีดๆ นะ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้เป็นคู่หมั้นนั้นเดินมาใกล้ๆ รีบจับมือของนิตาทั้งสองคนไม่รู้จักกันมาก่อนทางชายหนุ่มเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ผู้เป็นแม่และพ่อรีบจัดงานหมั้นให้โดยกะทันหันแต่เขาก็ไม่ขัดและยอมหมั้นกับเธอ
"อคินย์เราไม่ได้รักคุณ คุณก็ยังไม่ได้รักเราคือขอคุยแบบตรงๆ เลยนะ มันมีความจำเป็นที่เราต้องหมั้นกับคุณ" อคินย์ยิ้มให้กับนิตาเขาเข้าใจเพราะตนเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ใบหน้าหล่อกระซิบเข้ามาข้างๆ หูของเธอพร้อมกับพูด
"เราก็แกล้งรักกันไปก่อนเอาไว้ทุกอย่างจบเราก็เป็นเพื่อนกัน" นิตายิ้มให้กับอคินย์ทันที
"ขอบใจมากๆ นะ อคินย์….ขอบใจจริงๆ"
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันทางพ่อและแม่ของอคินย์เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มดีใจที่ลูกชายนั้นชื่นชอบว่าที่คู่หมั้นจนดูเหมือนหยอกล้อกัน
"แม่ดีใจนะที่อคินย์ชอบว่าที่คู่หมั้นที่แม่หาให้ คิดว่าจะไม่ชอบซะแล้ว ต้องดูแลหนูนิตาดีๆ นะลูกอีกไม่นานทั้งสองคนก็จะต้องแต่งงานกัน"
อคินย์จับมือของนิตาทั้งสองคนได้คุยกันแล้วและเข้าใจกันว่าหลังจากจบทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาทั้งคู่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
"ครับ…คุณแม่ผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุด"
"นิตาขอบคุณ คุณหญิงแม่นะคะ ที่เมตตานิตาแล้วก็ขอบคุณคุณพ่อด้วนนะคะ"
งานหมั้นในวันนี้เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะมากมายดื่มฉลองให้กับลูกทั้งสอง เมื่อนิตาเดินมาเข้าห้องน้ำเธอหยุดชะงักได้ยินเสียงพ่อของตนเองคุยกับลูกน้องจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ และแอบฟังยังหน้าประตูห้องทำงาน
"มันทำอันนาขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วตอนนี้อันนาอยู่โรงพยาบาลไหนอาการเป็นยังไงบ้าง" คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันเมื่อพ่อของเธอนั้นพูดถึงอันนาผู้เป็นน้องสาวเข้าโรงพยาบาลนิตาจะจับลูกบิดประตูเปิดเข้าไป แต่เธอต้องหยุดชะงักแอบฟังลูกน้องคนสนิทกับพ่อตัวเองดีกว่าพรวดพราดเข้าไปถาม
"เมื่อวานนี้คุณอันนาอาการแย่หลังจากกลับไปจากที่นี่เข้าโรงพยาบาลแต่ทางนั้นไม่ยอมให้นอนและลากตัวกลับบ้าน ได้ข่าวว่าถูกขังไว้ในกรงจนโดนงูกัดตอนนี้ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน หมอยังให้คำตอบไม่ได้ครับ" นิตาได้ยินแบบนั้นเธอตกใจที่น้องสาวของตัวเองต้องเจ็บตัวเข้าโรงพยาบาลช่วงจังหวะที่ถอยหลังทำให้ลำตัวของนิตาชนแจกันดอกไม้ร่วงหล่นลงพื้นดังสนั่น
ผู้เป็นพ่อรีบออกมาดูทันทีจึงรู้ว่าเป็นลูกสาวแอบฟัง
"คุณพ่อ…คุณพ่อจะปล่อยให้อันนาตายจริงๆ เหรอ นิตาไม่ยอมหรอกนะ นิตาไม่ให้น้องตาย" ใบหน้าน้อยร้องไห้น้ำตาไหลริน เธอจับแขนของผู้เป็นพ่อกลัวว่าอันนานั้นจะตายจริงๆ
"แล้วจะให้กูทำยังไงวะ! ถ้าไม่ให้หลานตายลูกก็ต้องตายเพราะว่าไปทำน้องสาวของมันไว้ ยังไงก็ต้องตาย" เรือนร่างบางของนิตาทรุดเข่าลงตรงหน้าผู้เป็นพ่อ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดสงสารผู้เป็นน้องสาวที่ต้องมารับกรรมแทน
"นิตาจะไปบอกความจริงกับเขา" นิตาเธอลุกขึ้นบอกกับพ่อนั้นว่าจะไปบอกความจริงว่าตัวเองเป็นคนทำเพลงพิณ
"อย่าโง่นะนิตา! มีสติหน่อยตอนนี้อันนาก้าวเข้าไปเกินกว่าครึ่งชีวิตแล้ว ถ้ามันจงใจและอยากให้ตายจริงๆ มันไม่พามาที่โรงพยาบาลหรอก รอในวันที่ความรักของมันเกิดขึ้นกับอันนาทุกอย่างมันจะจบลงเชื่อพ่อ"
ผู้เป็นพ่อคุกเข่าลงต่อหน้าลูกสาวลูบหัวของลูกสาวเบาๆ ในความคิดของเขานั้นเชื่อว่าเหมราชจะหลงรักอันนาสักวันและไม่มีวันที่จะฆ่าอย่างแน่นอน ถ้าตั้งใจที่จะฆ่าเขาคงไม่ปล่อยให้มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
"มันจะเป็นไปได้เหรอคะ มันจะเป็นไปได้เหรอ เขาจะรักคนที่ฆ่าน้องสาวตัวเองได้เหรอ"
"ความใกล้ชิดมันเป็นบ่อเกิดแห่งความรักและคนที่ใกล้ชิดโดยที่มีเพศสัมพันธ์กันมันมากกว่าความรักอีก ไม่มีทางที่ผู้ชายเหมราชจะปล่อยให้อันนาหลุดพ้น"
ราวกับว่าพ่อของเขานั้นเดาทางออกว่าเหมราชทำอะไรกับอันนาไว้บ้าง และคอยสอดส่องส่งลูกน้องตามดูอันนาตลอดเวลา เขาไม่สามารถช่วยหลานสาวได้ ได้เพียงแต่ภาวนาให้เหมราชรักหลานสาวตัวเองขึ้นมาจริงๆ ถึงจะรอดพ้น
ตัดมาทางโรงพยาบาล เมื่อคุณหมอออกมาจากห้องฉุกเฉินใบหน้าของเขาซีดเซียวโชคดีที่พิษไม่แล่นสู่หัวใจของอันนา งูตัวที่ฉกเป็นงูเห่าและมีพิษพร้อมกับเรือนร่างบางที่อ่อนแรงจึงทำให้เธอล้มลงโดยไร้สติอย่างง่าย"แล้วมึงจะเอายังไงในเมื่อจะแก้แค้นทำไมมึงถึงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นตายไปเลยล่ะ ทุกอย่างมันจะได้จบพ่อของเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าพ่อของเธอจะรักลูกคนเล็กมากกว่านะ" ถ้าเป็นอย่างที่เหมราชพูดให้คลาสฟังผู้เป็นพ่อของฝ่ายนั้นก็ต้องรักลูกสาวคนเล็กมากกว่าถึงยอมปล่อยให้ลูกสาวคนโตมาชดใช้กรรม
"มันไม่สามารถขัดได้ต่างหาก ถ้ามันขัดได้มันคงไม่ปล่อยให้ลูกของมันมาเจอกับความเจ็บปวดหรอก ที่มึงถามว่าทำไมถึงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ตายใช่ไหม มันยังไม่สาแก่ใจกูไง มันทำน้องสาวของกูต้องตาย มันก็ต้องเจ็บปวดทั้งครอบครัวของมันด้วย" เหมราชกำหมัดเข้าหากันเขายังคงโกรธแค้นและเกลียดกรณ์
"งั้นกูจะช่วยนายเอง!”
เขาหันมองหน้าคลาสเพื่อนสนิทตนเองที่พูดว่าจะช่วยในการแก้แค้นให้น้องสาวของเขา
"หมายความว่ายังไงวะ'
"ในเมื่อมันเล่นด้วยอำนาจ เราก็ต้องเล่นด้วยอำนาจใส่มัน! อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่เคยมีอำนาจสั่งนู่นนี่นั่นได้ตอนที่มันไม่มีแล้วมันจะเป็นยังไง"
คลาสเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตนเองนั้นได้รับตำแหน่งมอบหมายมาจากพ่อของเขาและพร้อมที่จะช่วยเหมราชจัดการพ่อของอันนา
เวลาผ่านไปเรือนร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดเธอฝันร้ายว่าตัวเองนั้นถูกจับขังไว้ในกรงและโดนงูกัด เมื่อเธอสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นหันมองซ้ายและขวาที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขาไม่ใช่บ้านของตัวเอง แต่ที่นี่มันคุ้นๆ จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมองเห็นกระปุกน้ำเกลืออยู่ด้านบน และครวญคิดว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความฝัน แต่คือความจริงเธอถูกจับขังไว้ในกรงหมาและในขณะนั้นที่เธอนั่งกอดเข่าอยู่มีงูตัวหนึ่งเลื่อยเข้ามาใกล้ๆ มันชูคอใส่อย่างน่ากลัว เธอพยายามที่จะหนีแต่ด้วยกรงที่คับแคบไม่สามารถให้เธอหลบงูได้ เมื่องูฉกเข้ามาที่ขามันรีบพุ่งตัวออกไป เธอพยายามกรีดร้องให้คนเข้ามาช่วงขาของเธอปวดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเรือนร่างบางที่เปลือกตาหนักลงเรื่อยๆ
"ทำไมฉันยังมีชีวิตรอดอยู่อีกเหรอ" อันนาเธอถอนหายใจให้กับชีวิตตัวเอง ถ้างูกัดเมื่อวานนี้แล้วเธอตายไปทุกอย่างคงจะจบแต่นี่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อรอรับความเจ็บปวดอีกทำไม
เสียงประตูเปิดเข้ามาเรือนร่างบางหันหน้าไปมองเขาคนใจร้ายเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
"สะใจดีนะ ขังไว้ในกรงหมาไม่พองูยังกัดอีก แต่ก็อย่างว่านะ คนมันมีเวรมีกรรมเยอะตายง่ายๆ มันก็จะง่ายเกินไป" เธอหลับตาลงเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของคนใจร้าย
"จะหลับตาทำไมฟังไหมในสิ่งที่กูพูด"
มือหนาคว้าจับต้นแขนจนอันนาลืมตาขึ้นมองเขา
"คุณมันโรคจิต"
"อย่าคิดว่าอยู่โรงพยาบาลแล้วกูจะทำอะไรไม่ได้นะอันนา! อย่ามาปากดีแล้วอย่ามาว่ากู ถ้าไม่ทำน้องสาวของกูก่อนทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้และไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ด้วย!”
"ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตายไปเลย ทุกอย่างมันจะได้จบ คุณแก้แค้นให้น้องสาวของคุณมันจะได้จบไง ช่วยฉันไว้ทำไม" มือน้อยทั้งสองข้างยกผลักหน้าอกของเขาในขณะที่เขาจับเข้าที่ปลายคางของเธอและปล่อยออก ด้วยแรงที่มีผลักไปเขาแทบจะหงายท้องเรือนร่างบางตะเบ็งเสียงใส่เขา
"ก็บอกแล้วไงว่าการตายมันง่ายเกินไป! เธอต้องอยู่ชดใช้เวรกรรมอีกเยอะ ฮ่าๆ หรือว่าจะใช้เวรกรรมในตอนนี้เลยดี" ไหล่ทั้งสองข้างถูกมือหนาจับกดลงในขณะที่อยู่บนเตียงใบหน้าหนาซุกไซ้ เข้าที่ซอกคอทั้งซ้ายและขวาที่นี่โรงพยาบาลไม่ใช่ที่บ้านที่เขาจะมาเสพสมร่างกายของเธอ ทั้งขาซ้ายขวาพยายามถีบเขาออกแต่ยิ่งพยายามขัดขืนเขายิ่งโต้ตอบกลับเธอรุนแรงขึ้น
"โอ๊ย!! ฮื่อๆๆ”
ร่างบางร้องไห้สายน้ำเกลือนั้นหลุดออกจนเลือดเปรอะเปื้อนบนที่นอนและเสื้อผ้าตัวเองเขาจึงดีดตัวออกจากเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่จับจ้องด้วยความสะใจ
"สะใจว่ะ แต่มันยังไม่พอ!”
เพียงสิ้นสุดคำพูดเหมราชเดินออกไปจากห้องและทันใดนั้นพยาบาลวิ่งเข้ามาทันที
"คุณอยู่เฉยๆ นะคะ เดี๋ยวฉันจะเสียบสายน้ำเกลือให้ใหม่"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ปล่อยให้ฉันตายไปเลยทุกอย่างจะได้จบ ฉันเหนื่อยแล้วฉันเจ็บ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วพี่พยาบาลได้ยินไหมว่าฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ไม่ต้องจับฉันไม่ต้องเสียบน้ำเกลือให้ฉันแล้ว ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว" มือน้อยทั้งสองข้างยกปัดพยาบาลไม่ให้ช่วยตัวเองเธอร้องไห้ฟูมฟายดั่งคนไร้สติจนเสียงดังออกไปถึงข้างนอก
ชายหนุ่มร่างแกร่งที่คิดว่าตัวเองนั้นใจร้ายยืนพิงผนังห้องยืนกอดอกมอง.เขาก้มหน้าลงยิ่งได้ยินเสียงร้องไห้ของคนด้านในเขายิ่งรู้สึกใจคอไม่ดี
"สมแล้วมันสมแล้วนี่…จะไปสงสารทำไมวะ" เสียงในใจได้เพียงแต่คิดต่างกับตัวเองจนหัวใจของเขานั้นมันรู้สึกแปลกๆ
บทที่ 10 อันนาโวยวายดั่งคนไร้สติจนกระทั่งเธอนั่งนิ่งสักพักหมอใหญ่ได้เข้ามาทำการฉีดยานอนหลับให้เธอพักผ่อน สายตาของผู้เป็นหมอจับจ้องมองเรือนร่างบางและส่ายหน้าไปมาเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวผู้นี้ถูกกระทำทางร่างกายและจิตใจมาอย่างหนักเป็นแน่เหมราชเดินเข้าไปพบหมอหลังจากที่หมอเรียกญาติให้ไปคุย ทางหมอเลยแจ้งไว้ว่าอย่าทำอะไรที่กระทบจิตใจเธอ ไม่อย่างนั้นอันนาเธอจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองหลังจากเหมราชเดินออกมาจากห้องของคุณหมอ เขาก็เข้ามาหาอันนาที่นอนหลับอยู่บนเตียงสายตาได้เพียงแต่จับจ้องมองมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เธอทำร้ายตัวเองโดยที่เขาไม่ต้องลงมือแต่ทำไมเขารู้สึกว่าความคิดตนเองเริ่มขัดแย้งกันไม่อยากให้เรือนร่างของผู้หญิงคนนี้ต้องเจ็บปวดไม่อยากให้เธอต้องเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่หมอพูด"โธ่เว้ย!!”เหมราชลุกขึ้นก้าวเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ เตียงเห็นใบหน้าน้อยนอนหลับตาด้วยฤทธิ์ยาสลบ "นายครับเขามา" สายตาของลูกน้องหันไปมองยังหน้าประตูรีบเข้ามาบอกกับเจ้านายตนเองว่ากรณ์มาที่นี่เหมราชเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยืนอยู่ข้างเตียงของอันนาในขณะที่กรณ์เดินเข้าไปด้วยแววตาห่วงใย เขามองจับจ้องหลานสาวอย่างน่าสงสารอยา
บทที่ 11 หลังจากที่ลุงกลับออกไปสายตาของเขากวาดมองจ้องเธอและปล่อยมือออกจากผมของเธอ การกระทำของเขายิ่งรุนแรงขึ้นและน่ากลัว แต่อันนาไม่มีอะไรที่จะเสียไปมากกว่านี้เเล้ว เธอทั้งเจ็บทั้งอยากตายอยากหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้สักที "หมอสั่งไว้ว่าให้กินข้าว" มือหนาคว้าหยิบถ้วยข้าวต้มจับช้อนและตักข้าวต้มนั้นไปจ่อที่ปากของอันนา แต่เธอไม่อ้าปากมีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นจับจ้องมองชายใจร้ายตรงหน้าทั้งโกรธและเกลียดจนอยากจะจับถ้วยข้าวต้มในมือของเขาสาดใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ"กูบอกให้อ้าปาก ปากมันอ้าออกยากมากหรือไงอยากตายใช่ไหม" เขาวางถ้วยข้าวต้มลงและจับปลายคางของเธอบีบเพื่อที่ให้อ้าปากและทันใดนั้นช้อนข้าวต้มยัดเข้าไปในปากน้อยเรือนร่างบางสะดุ้งเพราะข้าวต้มยังร้อนอยู่ เธอคายออกหลังจากที่เขาวางช้อนเพียงไม่นานคนใจร้ายคิดว่าเธอนั้นพ่นข้าวทิ้งทำท่าทียกมือจะตบแต่หยุดชะงักเพราะไม่กล้าที่จะทำเธอใบหน้าน้อยเอียงหน้าหนีในใจคิดว่าตนเองนั้นจะโดนตบไปแล้วแต่พอลืมตาขึ้นหันกลับไปมองฝ่ามือยังยกค้างไว้อยู่บนอากาศ"กูให้เวลากินข้าว 10 นาที ถ้ายังกินไม่หมดถ้วย เตรียมแก้ผ้าแล้วอ้าขาได้เลย" เขาวางถ้วยข้าวลงเสียงดังตรงช่วงหัวเตียงแล
บทที่ 12 หลังจากที่คลาสเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทและโกรธคนที่ทำกับเพลงพิณ แต่คลาสก็ไม่ใจร้ายพอที่จะให้อันนาต้องตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ เขามองเพื่อนตัวเองที่บอกว่าโกรธเกลียดอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวดูจาดแววตาก็รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ยิ่งในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นห่วงอันนาจริงๆ เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อพ้นประตูคลาสจึงเอียงคอหันกลับไปมองเล็กน้อย"คนที่นายเกลียดนี่แหละจะเป็นคนที่นายรักมากที่สุด! ขอให้ความรักของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้ลบล้างความแค้นออกจากใจได้นะ" เมื่อหันหน้ากลับมาเตรียมที่จะก้าวขาออกลูกน้องคนสนิทของเหมราชได้เดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองสายตาของเขาเหมือนกับอยากพูดอะไรบางอย่างกับคลาส แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ คลาสจึงเอ่ยถามขึ้นเอง"มีอะไรจะพูดกับกูหรือเปล่า??”"ผมสงสารคุณอันนาและผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่!!”"ความสงสารไม่ได้ทำให้มึงมีข้าวกิน การทำงานเท่านั้นที่จะทำให้มันมีข้าวกินอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย เวรกรรมต้องระงับด้วยการจองเวร" เขาพูดกับลูกน้องคนสนิทเพื่อนอย่างไม่ไยดีหลังจากพูดจบคลาสเดินออ
บทที่ 13 กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง "คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง "เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตั
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 16 อันนารู้สึกเกลียดตัวเองในขณะที่เธออยู่ในห้องน้ำมือน้อยกำหมัดและทุบลงไปที่อ่างล้างหน้าได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเมื่อคืนเธอถึงเผลอตัวเผลอใจให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่เขาโกรธและเกลียดเธอมากยิ่งรู้สึกน้อยใจเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเขาบอกว่าเกลียดตัวเองทั้งที่บอกรักเธอมื้อคืนนี้ เรือนร่างบางจับจ้องมองตัวเองในกระจกร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวและยังมีรอยช้ำมากมายบนผิวกาย ได้เพียงแต่ถามตัวเองว่าถูกเขากระทำขนาดนี้ทำไมถึงยังรู้สึกดีกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อยู่ เหมราชลงมาด้านล่างนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจ "ขอโทษค่ะ ป้าหนูไปตามแล้วคนสวนไม่ว่างมาจริงๆ จะให้หนูทำยังไง" ในขณะที่เหมราชนั่งดื่มกาแฟอยู่นั้นได้ยินเสียงแม่บ้านกำลังคุยกันและเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับคนสวนที่ไม่มาทำงานเหมราชจึงลุกขึ้นเดินตรงมาหาป้าแม่บ้านพร้อมกับแม่บ้านอีกคนที่เข้ามารายงาน"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้า" ป้าแม่บ้านคนนี้อยู่ที่นี่มานานจนเหมราชเรียกว่าป้า"ก็คนสวนสิคะ เบี้ยวแถมทั้งยังโกงเงินไปเป็นพันให้มาใช้หนี้โดยการตัดหญ้าก็ไม่ยอมมา ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ" เหมราชพยักหน้าให้กับป้าแม่บ้านเงินพันเดียวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลย"ช่างเถ
บทที่ 17 หญิงสาวคนสวยเธอชื่อควีนเป็นเพื่อนสนิทของเหมราชและคลาสตั้งแต่สมัยเรียน วันนี้เธอไปเซอร์ไพรส์คลาสที่บ้านก่อนที่จะให้คลาสพามาเซอร์ไพรส์เหมราช ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกว่าคนอื่นมักจะโทรคุยกันอยู่เรื่อยๆ ควีนเธอเคยมีใจให้กับเหมราชแต่หยุดความสัมพันธ์กลัวว่าจะเสียเพื่อน ทั้งสามจึงเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดแต่คนที่สนิทกันและรักกันมากคือเหมราชกับคลาส "ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าวันนี้จะโดนเซอร์ไพรส์ดีใจมากๆ เลยนะที่มาหา" เหมราชขยับเข้าไปใกล้ๆ ควีนโดยที่ใช้มือนั้นโอบกอดไหล่เหมือนกับสมัยเรียน แต่ว่าสายตาของเธอที่มองมือของเหมราชนั้นไม่ได้คิดเพียงแค่เพื่อนใบหน้าน้อยแดงระเรื่อพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นดั่งกับคนที่เขินอาย"ยิ้มแบบนี้อย่าบอกนะว่าเขินเหมราชมัน" คลาสเอ่ยแซวควีนเพื่อนของตัวเองจนเขานั้นต้องถูกควีนตีเอา "พูดอะไรเพื่อนกันต่างหากป่ะ อื้อลืมถามเลยในตอนที่เรามาผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพื้นเธอเป็นใครเหรอ แล้วเธอโดนอะไรทำไมสภาพถึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เหมราชกับคลาสหันมองหน้ากันในขณะที่ควีนเอ่ยถามถึงอันนา"ไม่มีอะไรหรอกแค่คนใช้ที่นั่งล้างอ่างปลาเท่านั้น" อันนาเธอเดินออกมาหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูด