บทที่ 10
อันนาโวยวายดั่งคนไร้สติจนกระทั่งเธอนั่งนิ่งสักพักหมอใหญ่ได้เข้ามาทำการฉีดยานอนหลับให้เธอพักผ่อน สายตาของผู้เป็นหมอจับจ้องมองเรือนร่างบางและส่ายหน้าไปมาเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวผู้นี้ถูกกระทำทางร่างกายและจิตใจมาอย่างหนักเป็นแน่
เหมราชเดินเข้าไปพบหมอหลังจากที่หมอเรียกญาติให้ไปคุย ทางหมอเลยแจ้งไว้ว่าอย่าทำอะไรที่กระทบจิตใจเธอ ไม่อย่างนั้นอันนาเธอจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเอง
หลังจากเหมราชเดินออกมาจากห้องของคุณหมอ เขาก็เข้ามาหาอันนาที่นอนหลับอยู่บนเตียงสายตาได้เพียงแต่จับจ้องมองมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เธอทำร้ายตัวเองโดยที่เขาไม่ต้องลงมือแต่ทำไมเขารู้สึกว่าความคิดตนเองเริ่มขัดแย้งกันไม่อยากให้เรือนร่างของผู้หญิงคนนี้ต้องเจ็บปวดไม่อยากให้เธอต้องเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่หมอพูด
"โธ่เว้ย!!”
เหมราชลุกขึ้นก้าวเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ เตียงเห็นใบหน้าน้อยนอนหลับตาด้วยฤทธิ์ยาสลบ
"นายครับเขามา" สายตาของลูกน้องหันไปมองยังหน้าประตูรีบเข้ามาบอกกับเจ้านายตนเองว่ากรณ์มาที่นี่
เหมราชเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยืนอยู่ข้างเตียงของอันนาในขณะที่กรณ์เดินเข้าไปด้วยแววตาห่วงใย เขามองจับจ้องหลานสาวอย่างน่าสงสารอยากจะพุ่งตัวเข้าไปโอบกอดแต่กลับทำได้เพียงยืนนิ่งมองเหมราชด้วยความโกรธมือทั้งสองข้างกำหมัดเข้าหากันแน่น
"มึงเอาลูกสาวของกูมาทรมานมึงยังไม่เลิกแก้เเค้นกูอีกเหรอ! มึงทำแบบนี้ได้ยังไงไอ้เหมราชตำแหน่งของกู กูสร้างมาตั้งนานมึงทำแบบนี้ได้ยังไง" เหมราชเลิกคิ้วขึ้นในสิ่งที่กรณ์พูดมันคืออะไรแต่เขานั้นยังไม่ได้เถียงและเอ่ยตอบคิดได้ว่าคงจะเป็นคลาสเพื่อนของตัวเองจัดการให้และต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน เขาจึงเผยรอยยิ้มดั่งผู้ชนะเดินเข้าไปใกล้ๆ โดยที่ใบหน้าแนบชิดกับอันนาโชว์ให้กรณ์ดู
"ลูกสาวของมึงก็สังเวยเรือนร่างให้กับกูแล้วแค่ตำแหน่งและอำนาจของมึงส่งมาให้กูอีกไม่ได้หรือยังไง ไม่สิคงจะได้แล้วแต่มันยังไม่พอเท่าที่ลูกสาวของมึงฆ่าน้องสาวกู!”
มือหนาคว้าจับหัวของอันนาราวกับว่าจะบีบแต่เขานั้นไม่ได้ออกแรงจริงๆ แค่โชว์เพราะคิดว่าผู้เป็นพ่อต้องเจ็บปวดเมื่อได้เห็นลูกสาวถูกกระทำใบหน้าของกรณ์ซีดลง เขาอยากจะก้าวเดินเข้าไปกระชากผู้ชายชั่วคนนี้ออกจากหลานสาวแต่ทำไม่ได้ได้เพียงแต่ยืนนิ่งและเก็บอาการ
"ทำไม!!…เห็นลูกสาวถูกกระทำแล้วมันเจ็บหัวใจอย่างนั้นเหรอ มันก็เหมือนกับกูที่ต้องเห็นน้องสาวตัวเองตายไปต่อหน้าไงละ"
"คุณลุง" ดวงตาคู่น้อยค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เธอคิดว่าตนเองกำลังฝันที่เห็นหน้าของลุงตนเองนั้นอยู่ด้านหน้าเธอเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ที่กูมาวันนี้กูจะมาเตือนมึงว่าอย่ามายุ่งกับกูอีก สิ่งที่มึงได้ไปมันมากเกินพอแล้ว ในเมื่อมึงบอกชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต มึงก็เอาชีวิตลูกสาวกูไปแล้วไง ยังมายุ่งวุ่นวายอะไรกับอำนาจกูอีก"
เหมราชเผยรอยยิ้มที่แท้กรณ์มาที่โรงพยาบาลก็เพราะว่าถูกเพื่อนของเขานั้นเล่นงานจนทำให้สะเทือนถึงอำนาจบางอย่างที่เขาครอบครองอยู่และคิดว่าเหมราชเป็นคนทำจึงมาด้วยความโกรธ
"ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นใครที่มันทำไว้ มันโชว์อำนาจมากแค่ไหนมันก็กำลังจะไม่มี เป็นห่วงอำนาจไม่คิดจะเป็นห่วงลูกสาวตัวเองเลยหรือไงอย่างว่าแหละนะ"
อันนาน้ำตาไหลรินทั้งสองข้างเธอเผลอพูดเรียกลุงต่อหน้าเขาแต่เขานั้นไม่ได้ยิน
"อันนา" ใบหน้าน้อยถูกจับผมกระชากเอาไว้ เธอได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา
"ไม่คิดถึงพ่อเหรออันนาไปหาพ่อไหมละ" ใบหน้าหนากระซิบเข้ามาข้างๆ หูของเธอ เขาใช้คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบนิ่งที่เหมือนจะทำร้ายกรณ์
"ไม่"
กรณ์รีบเดินออกไปด้วยความโมโหเขาแทบอยากจะถีบประตูให้กระเด็น เมื่อมันขวางอยู่ตรงหน้า กรณ์หัวเสียและหัวร้อนรีบไปหาท่านรองที่บ้าน
บ้านของท่านรอง
กรณ์ให้ลูกน้องจัดเตรียมกระเช้าเพื่อที่จะเอาไปเยี่ยมลูกสาวท่านรองเพราะได้ข่าวมาว่าลูกสาวท่านรองประสบอุบัติเหตุรถชนต้นไม้และยังไม่ตื่นกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
"ขอบคุณมากนะกรณ์จริงๆ ไม่น่าลำบาก" ท่านรองรุ่นราวคราวเดียวกันกับกรณ์อาจจะแก่กว่าไม่กี่เดือน คว้าหยิบกระเช้าผลไม้ที่กรณ์นั้นเอามาเยี่ยมลูกสาวตนเอง
"ไม่ลำบากเลยครับ ในตอนนี้อาการของลูกสาวท่านเป็นอย่างไรบ้าง"
"เชิญนั่งสิ! ในตอนนี้ปุยฝ้ายอาการดีขึ้นแต่หมอยังไม่การันตีว่าจะฟื้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม"
"คุณหมอเดี๋ยวนี้เก่งอีกไม่นานลูกสาวของท่านก็หายนะครับ" กรณ์พูดพร้อมกับรอยยิ้มให้กำลังใจท่านรอง แต่ใบหน้าของกรณ์แสดงความเครียดจนท่านรองนั้นรู้ว่ากรณ์มาที่นี่ทำไม
"มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า"
"คือผมพูดตรงๆ เลยนะว่าอยู่ๆ ในครั้งนี้กระทรวงเสกสรรบดินทร์ทำไมถึงย้ายแท่นให้ผมไปอยู่ด้านขวา ทำไมผมต้องเป็นรองไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั้นด้วย"
ท่านรองลุกขึ้นจากโซฟาเขาเดินหันหลังและไขว้มือดั่งคนไม่สบายใจเสียงถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนที่จะหันใบหน้ามองกรณ์
"มีคำสั่งจากเบื้องบนอีกทีเราทั้งสองคนก็รู้จักกันมานานช่วยเหลือกันหลายอย่าง ฉันคงไม่ทำให้นายเดือดร้อนหรอก แต่เบื้องบนนั้นไม่ยอมเพราะว่าไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่นายบอกเป็นลูกชายของเขา"
"ที่ผมกระเด็นลงมาจากแท่นก็เพราะว่าไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั้นเป็นลูกชายของเบื้องบนสินะ!”
กรณ์กำมือเข้าหากันทั้งโกรธและเกลียดชายหนุ่มที่ขึ้นแท่นแทนตนเอง เขาถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนที่ท่านรองจะหันมามองหน้า
"ระวังตัวไว้นะกรณ์ไม่ใช่แค่ลูกสาวของนายฆ่าน้องสาวของเขา แต่นายยังใช้อำนาจบารมีประกันตัวลูกสาวของตัวเองออกจนไม่ต้องติดคุกทางนั้นเขาโกรธและแค้นมากแน่นอนที่เขาจะไม่วางมืออย่างแน่นอน"
"แต่มันก็เอาตัวลูกสาวของผมไปทำร้ายจนปางตายตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาบาล ทำไมท่านรองถึงไม่เห็นใจผมบ้าง ผมต้องสูญเสียลูกสาวที่ผมรักด้วยนะ"
"ก็เพราะว่าลูกสาวของนายฆ่าน้องสาวของเขาก่อนต่างหากความผิดนี้คือความผิดของลูกสาวนายไม่ใช่คนอื่น"
"แต่ผมจะไม่มีวันเสียอำนาจของผมไปแน่นอน ผมอยากให้ท่านรองช่วยผลักผมขึ้นไปเหมือนเดิมได้โปรดเมตตาผมด้วยไม่ว่าท่านรองอยากได้อะไรผมจะหาให้" สายตาของท่านรองกวาดมองกรณ์เขาส่ายหน้าไปมาต่อให้เป็นท่านรองก็ยังไม่มีอำนาจเท่ากับเบื้องบน
"ผมไม่สามารถใช้อำนาจตัวเองเพราะว่าเบื้องบนกำลังจับตามองอยู่ขืนไปทำอะไรลูกชายของเขามีหวังได้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ใต้ล่างสุดแน่นอน"
"แล้วทำไมลูกชายของเขาถึงต้องการตำแหน่งผม??”
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันคิดไปมาว่าทำไมลูกชายของเขาถึงอยากได้ตำแหน่งตนเอง ท่านรองเผยรอยยิ้มและเดินมานั่งที่โซฟาจับจ้องมองหน้ากรณ์ในระยะใกล้ชิด
"ก็เพราะว่าลูกชายของเขากับเหมราชเป็นเพื่อนสนิทกัน"
เสียงถอนหายใจของกรณ์นั้นดังก้อง เขาได้เพียงแต่ยกมือลูบใบหน้าตัวเองยิ่งรู้ว่าคนที่จัดการและกระชากตนเองลงมาจากแท่นคือเพื่อนสนิทของเหมราชคนที่ต้องการทำลายและเอาคืนเขา
"เราอย่าเกลียดกันเลยสิ่งที่ทำได้ก็เพียงเท่านี้ คนที่จะให้อภัยแล้วหยุดการกระทำได้คือเหมราช ถ้าไม่หยุดคนที่จะพังก็คือแกกรณ์" กรณ์รู้ชะตากรรมตนเองแล้วว่าไม่สามารถยับยั้งหรือหยุดเหมราชได้ตนเองเป็นคนก่อเรื่องใช้อำนาจเพื่อประกันตัวลูกสาวให้รอดพ้นจากความผิดที่ฆ่าคนอื่น
เมื่อกลับมาที่บ้านยังไม่ทันจะได้นั่งข่าวร้ายก็เกิดขึ้น ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นได้วิ่งเข้ามาบอกว่าโกดังสินค้าอันใหญ่ถูกไฟเผาไหม้จนแทบหมด กรณ์ไม่ต้องเดาทางเลยว่าใครเป็นคนทำเขาทั้งโกรธและแค้นเหมราชแต่ไม่สามารถทำอะไรได้
"นี่มันจะทำให้กูไม่เหลืออะไรเลยเหรอวะ"
ทั้งโกรธและแค้นได้เพียงแต่นั่งลูบใบหน้าตัวเองไปมาจนกระทั่งลูกสาวของเขานั้นเดินลงมาจากบ้าน นิตาเข้ามานั่งใกล้ๆ ผู้เป็นพ่อยังไม่ทันจะได้จับแขนใบหน้าน้อยถูกตบจนริมฝีปากของเธอเลือดซึมออกมา
ร่างบางร้องไห้หันมามองหน้าผู้เป็นพ่อและเช็ดเลือดที่ริมฝีปากตนเองไปด้วย
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงต้องตบนิตาขนาดนี้"
กรณ์ลุกขึ้นด้วยความโกรธ ถ้าไม่ติดว่านิตาเป็นลูกสาวป่านนี้เขาคงฆ่าเธอไปแล้วสร้างแต่ความวุ่นวายจนทำให้อำนาจและบารมีของกรณ์กำลังหดหายไป
"เป็นเพราะว่ามึงนางลูกไม่รักดีส่งให้ไปเรียนแต่หลงผู้ชายจนทำร้ายคนอื่น ทุกอย่างมันเลยเลวร้ายลงไปแบบนี้ไง ฉันน่าจะส่งตัวเธอให้กับมันไม่น่าให้อันนาไปเลย" ผู้เป็นพ่อนั้นพูดตะคอกใส่หน้าลูกสาวจนเธอหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่น
"ฮื่อๆ คุณพ่อมันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ทำไมคุณพ่อถึงโมโหขนาดนี้มันเกิดอะไรขึ้น" ดวงตาคู่น้อยหลั่งไหลน้ำตาออกมามองหน้าผู้เป็นพ่อและเอ่ยถามก่อนหน้านี้ พ่อของเขาไม่ใช่คนใจร้ายแบบนี้ยังรักลูกและกลัวลูกจะถูกทำร้ายแต่ทำไมในวันนี้เขาถึงกลับมาทำร้ายเธอ
"กลับขึ้นไปซะ อย่าอยู่ให้ฉันเห็นหน้าอีกเพราะไม่ใช่แค่ตบอาจจะถูกยิงตายเลยก็ได้" กรณ์โมโหลูกสาวของตนเองมากและกลัวว่าจะพลาดพลั้งจึงเอ่ยชี้ให้ลูกสาวกลับขึ้นไปบนห้อง ด้วยความกลัวของนิตาเธอวิ่งร้องไห้ไปพร้อมน้ำตาและคราบเลือดที่ริมฝีปากลำตัวน้อยโน้มตัวลงนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นหวาดกลัวผู้เป็นพ่อตัวเอง
"ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะไม่ทำแบบนั้นเหมือนกัน อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะเพลงพิณ"
บทที่ 11 หลังจากที่ลุงกลับออกไปสายตาของเขากวาดมองจ้องเธอและปล่อยมือออกจากผมของเธอ การกระทำของเขายิ่งรุนแรงขึ้นและน่ากลัว แต่อันนาไม่มีอะไรที่จะเสียไปมากกว่านี้เเล้ว เธอทั้งเจ็บทั้งอยากตายอยากหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้สักที "หมอสั่งไว้ว่าให้กินข้าว" มือหนาคว้าหยิบถ้วยข้าวต้มจับช้อนและตักข้าวต้มนั้นไปจ่อที่ปากของอันนา แต่เธอไม่อ้าปากมีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นจับจ้องมองชายใจร้ายตรงหน้าทั้งโกรธและเกลียดจนอยากจะจับถ้วยข้าวต้มในมือของเขาสาดใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ"กูบอกให้อ้าปาก ปากมันอ้าออกยากมากหรือไงอยากตายใช่ไหม" เขาวางถ้วยข้าวต้มลงและจับปลายคางของเธอบีบเพื่อที่ให้อ้าปากและทันใดนั้นช้อนข้าวต้มยัดเข้าไปในปากน้อยเรือนร่างบางสะดุ้งเพราะข้าวต้มยังร้อนอยู่ เธอคายออกหลังจากที่เขาวางช้อนเพียงไม่นานคนใจร้ายคิดว่าเธอนั้นพ่นข้าวทิ้งทำท่าทียกมือจะตบแต่หยุดชะงักเพราะไม่กล้าที่จะทำเธอใบหน้าน้อยเอียงหน้าหนีในใจคิดว่าตนเองนั้นจะโดนตบไปแล้วแต่พอลืมตาขึ้นหันกลับไปมองฝ่ามือยังยกค้างไว้อยู่บนอากาศ"กูให้เวลากินข้าว 10 นาที ถ้ายังกินไม่หมดถ้วย เตรียมแก้ผ้าแล้วอ้าขาได้เลย" เขาวางถ้วยข้าวลงเสียงดังตรงช่วงหัวเตียงแล
บทที่ 12 หลังจากที่คลาสเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทและโกรธคนที่ทำกับเพลงพิณ แต่คลาสก็ไม่ใจร้ายพอที่จะให้อันนาต้องตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ เขามองเพื่อนตัวเองที่บอกว่าโกรธเกลียดอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวดูจาดแววตาก็รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ยิ่งในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นห่วงอันนาจริงๆ เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อพ้นประตูคลาสจึงเอียงคอหันกลับไปมองเล็กน้อย"คนที่นายเกลียดนี่แหละจะเป็นคนที่นายรักมากที่สุด! ขอให้ความรักของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้ลบล้างความแค้นออกจากใจได้นะ" เมื่อหันหน้ากลับมาเตรียมที่จะก้าวขาออกลูกน้องคนสนิทของเหมราชได้เดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองสายตาของเขาเหมือนกับอยากพูดอะไรบางอย่างกับคลาส แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ คลาสจึงเอ่ยถามขึ้นเอง"มีอะไรจะพูดกับกูหรือเปล่า??”"ผมสงสารคุณอันนาและผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่!!”"ความสงสารไม่ได้ทำให้มึงมีข้าวกิน การทำงานเท่านั้นที่จะทำให้มันมีข้าวกินอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย เวรกรรมต้องระงับด้วยการจองเวร" เขาพูดกับลูกน้องคนสนิทเพื่อนอย่างไม่ไยดีหลังจากพูดจบคลาสเดินออ
บทที่ 13 กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง "คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง "เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตั
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 16 อันนารู้สึกเกลียดตัวเองในขณะที่เธออยู่ในห้องน้ำมือน้อยกำหมัดและทุบลงไปที่อ่างล้างหน้าได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเมื่อคืนเธอถึงเผลอตัวเผลอใจให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่เขาโกรธและเกลียดเธอมากยิ่งรู้สึกน้อยใจเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเขาบอกว่าเกลียดตัวเองทั้งที่บอกรักเธอมื้อคืนนี้ เรือนร่างบางจับจ้องมองตัวเองในกระจกร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวและยังมีรอยช้ำมากมายบนผิวกาย ได้เพียงแต่ถามตัวเองว่าถูกเขากระทำขนาดนี้ทำไมถึงยังรู้สึกดีกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อยู่ เหมราชลงมาด้านล่างนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจ "ขอโทษค่ะ ป้าหนูไปตามแล้วคนสวนไม่ว่างมาจริงๆ จะให้หนูทำยังไง" ในขณะที่เหมราชนั่งดื่มกาแฟอยู่นั้นได้ยินเสียงแม่บ้านกำลังคุยกันและเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับคนสวนที่ไม่มาทำงานเหมราชจึงลุกขึ้นเดินตรงมาหาป้าแม่บ้านพร้อมกับแม่บ้านอีกคนที่เข้ามารายงาน"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้า" ป้าแม่บ้านคนนี้อยู่ที่นี่มานานจนเหมราชเรียกว่าป้า"ก็คนสวนสิคะ เบี้ยวแถมทั้งยังโกงเงินไปเป็นพันให้มาใช้หนี้โดยการตัดหญ้าก็ไม่ยอมมา ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ" เหมราชพยักหน้าให้กับป้าแม่บ้านเงินพันเดียวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลย"ช่างเถ
บทที่ 17 หญิงสาวคนสวยเธอชื่อควีนเป็นเพื่อนสนิทของเหมราชและคลาสตั้งแต่สมัยเรียน วันนี้เธอไปเซอร์ไพรส์คลาสที่บ้านก่อนที่จะให้คลาสพามาเซอร์ไพรส์เหมราช ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกว่าคนอื่นมักจะโทรคุยกันอยู่เรื่อยๆ ควีนเธอเคยมีใจให้กับเหมราชแต่หยุดความสัมพันธ์กลัวว่าจะเสียเพื่อน ทั้งสามจึงเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดแต่คนที่สนิทกันและรักกันมากคือเหมราชกับคลาส "ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าวันนี้จะโดนเซอร์ไพรส์ดีใจมากๆ เลยนะที่มาหา" เหมราชขยับเข้าไปใกล้ๆ ควีนโดยที่ใช้มือนั้นโอบกอดไหล่เหมือนกับสมัยเรียน แต่ว่าสายตาของเธอที่มองมือของเหมราชนั้นไม่ได้คิดเพียงแค่เพื่อนใบหน้าน้อยแดงระเรื่อพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นดั่งกับคนที่เขินอาย"ยิ้มแบบนี้อย่าบอกนะว่าเขินเหมราชมัน" คลาสเอ่ยแซวควีนเพื่อนของตัวเองจนเขานั้นต้องถูกควีนตีเอา "พูดอะไรเพื่อนกันต่างหากป่ะ อื้อลืมถามเลยในตอนที่เรามาผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพื้นเธอเป็นใครเหรอ แล้วเธอโดนอะไรทำไมสภาพถึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เหมราชกับคลาสหันมองหน้ากันในขณะที่ควีนเอ่ยถามถึงอันนา"ไม่มีอะไรหรอกแค่คนใช้ที่นั่งล้างอ่างปลาเท่านั้น" อันนาเธอเดินออกมาหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูด
บทที่ 18 หลังจากที่ควีนและเหมราชทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอนที่ห้องของแต่ละคน เมื่อเขานอนลงกลับรู้สึกกระสับกระส่ายและร้อนวูบวาบราวกับว่าตัวเองนั้นมีอารมณ์เกิดขึ้นๆ แท่งเอ็นร้อนของเขานั้นก็พองตัวขึ้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้ "หรือว่าฉันจะเสพติดร่างกายของเธอแล้วนะ" เสียงหายใจหืดหอบยิ่งพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้นแต่มันก็ฟุ้งซ่านจนทำให้เขาจับเข้ายังเป้าของตัวเอง ร่างหนาลุกขึ้นเดินมายังหน้าต่างเพื่อก้มมองไปที่ห้องของอันนาเห็นเธอนั่งอยู่หน้าห้อง เขาไม่รอช้าที่จะพุ่งตัวเตรียมออกมาหาแต่ทันใดที่เปิดประตู เขาเห็นควีนเพื่อนของตนเองนั้นยืนอยู่เธอสวมใส่ชุดนอนสายเดี่ยวบางๆ จนมองเห็นแทบจะทะลุเนื้อ เหมราชหลบสายตาของเพื่อนเขายิ่งครวญคิดสิ่งที่ไม่ดีแถมทั้งอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นอยากจะดึงเรือนร่างสวยของเพื่อนเข้าไปกระทำ "เป็นอะไรหรือเปล่าเหมราชทำไมเหงื่อถึงเต็มใบหน้าขนาดนั้น" เรือนร่างบางขยับเข้ามาใกล้ๆ เพื่อน เธอใช้ความสวยอ่อยและทันใดที่เอ่ยถามหลังมือของเธออันนุ่มสัมผัสเข้ายังหน้าผากของเหมราช "เดี๋ยวมานะ" เหมราชฟุ้งซ่านกลัวจะหักห้ามใจไม่ไหว เขารีบดันตัวของควีนเพื่อนสนิทของตนเองนั้น