บทที่ 11
หลังจากที่ลุงกลับออกไปสายตาของเขากวาดมองจ้องเธอและปล่อยมือออกจากผมของเธอ การกระทำของเขายิ่งรุนแรงขึ้นและน่ากลัว แต่อันนาไม่มีอะไรที่จะเสียไปมากกว่านี้เเล้ว เธอทั้งเจ็บทั้งอยากตายอยากหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้สักที
"หมอสั่งไว้ว่าให้กินข้าว" มือหนาคว้าหยิบถ้วยข้าวต้มจับช้อนและตักข้าวต้มนั้นไปจ่อที่ปากของอันนา แต่เธอไม่อ้าปากมีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นจับจ้องมองชายใจร้ายตรงหน้าทั้งโกรธและเกลียดจนอยากจะจับถ้วยข้าวต้มในมือของเขาสาดใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ
"กูบอกให้อ้าปาก ปากมันอ้าออกยากมากหรือไงอยากตายใช่ไหม" เขาวางถ้วยข้าวต้มลงและจับปลายคางของเธอบีบเพื่อที่ให้อ้าปากและทันใดนั้นช้อนข้าวต้มยัดเข้าไปในปากน้อยเรือนร่างบางสะดุ้งเพราะข้าวต้มยังร้อนอยู่ เธอคายออกหลังจากที่เขาวางช้อนเพียงไม่นาน
คนใจร้ายคิดว่าเธอนั้นพ่นข้าวทิ้งทำท่าทียกมือจะตบแต่หยุดชะงักเพราะไม่กล้าที่จะทำเธอใบหน้าน้อยเอียงหน้าหนีในใจคิดว่าตนเองนั้นจะโดนตบไปแล้วแต่พอลืมตาขึ้นหันกลับไปมองฝ่ามือยังยกค้างไว้อยู่บนอากาศ
"กูให้เวลากินข้าว 10 นาที ถ้ายังกินไม่หมดถ้วย เตรียมแก้ผ้าแล้วอ้าขาได้เลย" เขาวางถ้วยข้าวลงเสียงดังตรงช่วงหัวเตียงและหันหลังเดินออกไปด้วยอารมณ์โมโหแถมยังทิ้งท้ายด้วยคำขู่ ถ้ากลับเข้ามาในครั้งนี้เธอยังไม่ยอมกินข้าวเขาคงจัดการเธออย่างที่พูด
เมื่อเดินออกมาด้านนอกเหมราชคว้าหยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาดูดเพื่อระบายความเครียด
"ทำไมกูถึงไม่มีความสุข" ในขณะที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวเหมราชกุมมือเข้าหากันและก้มหน้าลงทำไมเขาถึงไม่มีความสุขกับการแก้แค้นให้น้องสาว
ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามานั่งข้างๆ ของเจ้านายตัวเอง
"ที่ไม่มีความสุขในการแก้แค้นคือนายกำลังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่" เหมราชหันรีบหันหน้าไปมองหน้าลูกน้องหลังจากที่พูดจบประโยคอย่างไว
"มึงจำเอาไว้เลยนะ ว่ากูไม่มีวันรักผู้หญิงฆาตกรคนนั้น ไม่มีวันที่กูจะรักผู้หญิงที่ฆ่าน้องสาวของตัวเองไม่มีวันจำเอาไว้ ว่าไม่มีวันกูเกลียดเธอ"
เหมราชลุกขึ้นด้วยความหัวเสียถึงกำหนดเวลาที่ตนเองจะเข้าไปดูว่าอันนากินข้าวหรือเปล่าเขาจึงผลักประตูเข้ามา
เมื่อเปิดประตูเข้ามายังเห็นถ้วยข้าวอยู่ที่เดิมและอันนานั้นนอนลงเธอไม่อยากกินอะไรพร้อมทั้งกำลังดื้อรั้นใส่คนใจร้าย เรือนร่างหนาพุ่งตรงเข้ามาหาถ้วยข้าวหยิบขึ้นและทุ่มลงที่พื้นจนถ้วยแตกกระจายข้าวต้มเปรอะเปื้อนไปทั่ว
"คิดว่าตัวเองเก่งเหรอ คิดว่าจะเรียกร้องความสนใจจากฉันได้หรือยังไง ได้ในเมื่อไม่กินคนอย่างฉันไม่เคยพูดขู่" ร่างบางถูกจับแขนกระชากลงมาจากเตียงเธอถูกเหวี่ยงไปยังโซฟาด้านข้าง
"ฉันจะตายอยู่แล้วคุณยังจะข่มขืนฉันก็เชิญ! ฉันจะได้กลั้นใจตายไปเลย" สายตาคู่น้อยแดงก่ำจับจ้องมองด้วยความเกลียดในเมื่อเขาต้องการที่จะทำร้ายตัวเธอ เธอก็ต้องการที่จะตายเพื่อชดใช้ให้เขาให้มันจบๆ กันไป
เขาไม่สนใจในคำพูดที่ขู่ว่าตัวเองจะได้ตายๆ ไป เรือนร่างหนาพุ่งตัวเข้ามาจับแขนของเธอกดลงบนโซฟาและใบหน้าซุกไซ้เข้าซอกคอทั้งซ้ายและขวา
เขาใช้ความรุนแรงกับเธอจนกระทั่งประตูเปิดเข้าไปโดยที่มีการไม่เคาะก่อน
เมื่อเหมราชเงยหน้าขึ้นมองกลับเป็นเพื่อนสนิทตนเองที่คลาสผลักประตูเข้ามาต่อให้หัวเสียก็ไม่กล้าที่จะโวยวายใส่ เขาดีดตนเองออกจากเธอแล้วลุกขึ้นยืน
มือน้อยทั้งสองข้างจัดแจงเสื้อผ้าชุดโรงพยาบาลปิดหน้าอกเอาไว้
"เธอจะตายขนาดนี้แล้วมึงยังทำเธอลงอีกเหรอ ถ้าตั้งใจจะฆ่าก็ฆ่าไปเลยอย่าไปทรมานให้มันเป็นเวรกรรม" คลาสถึงแม้ว่าจะโกรธเกลียดอันนาและครอบครัวของเธอแต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนทรมานใคร
"แล้วในสิ่งที่มันทำกับน้องกูล่ะ"
"ก็บอกแล้วไงว่า ถ้าโกรธเกลียดมากก็ฆ่าเธอทิ้งไปเลยทุกอย่างมันจะได้จบจะเอามาทรมานทำไมไม่ใช่ว่าไม่ทำ ทำมาตั้งหลายครั้งแล้ว"
เหมราชเดินตรงมาหาเพื่อนสนิทตนเองและจับแขนเดินออกมาจากห้องอยากคุยอะไรบางอย่างกับเพื่อนโดยที่ไม่ให้อันนาได้ยิน
หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปเรือนร่างบางพยุงตนเองนั่งอยู่บนโซฟามือน้อยทั้งสองลูบเข้าใบหน้าด้วยความเจ็บปวดหลังมือของเธอเต็มไปด้วยเลือดเพราะสายน้ำเกลือถูกกระชากออก
"เมื่อไร…ฉันจะหลุดจากเวรกรรมนี้สักที" ใครๆ ก็อยากหลุดพ้นจากความเจ็บปวดความทรมานด้วยความตายกันทั้งนั้นเพราะเธอหมดหนทางที่จะรอดพ้นจากคนใจร้ายด้วยความตายแล้ว
เพียงไม่นานพยาบาลและหมอเข้ามาทำแผลให้เหมือนเดิม เธอต้องแทงสายน้ำเกลือถึง 3-4 ครั้ง เพราะสายน้ำเกลือนั้นหลุดออกมาเป็นครั้งที่ 3
เรือนร่างบางนอนลงไปกับเตียงหลังจากพยาบาลทำความสะอาดแล้ว
ในขณะที่อันนานอนอยู่บนเตียง เธอหันหน้าไปทางอื่นและได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาคงจะเป็นคนใจร้ายที่เข้ามากระทำเธอเรือนร่างบางนอนร้องไห้หลั่งไหลน้ำตาจนเปียกหมอน
"อย่างที่เขาพูด คุณควรฆ่าฉันทุกอย่างจะจบความแค้นและความโกรธเกลียดที่คุณมี คุณฆ่าฉันเลยเพราะคุณทรมานฉันมานานแล้ว ฉันไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว" อันนาเธอเอ่ยพูดเพราะคิดว่าเป็นเหมราชที่เดินเข้ามาแต่คนที่เข้ามาคือเพื่อนของเขาต่างหาก
สายตาจับจ้องมองเรือนร่างบางนอนอยู่บนเตียง เขาเริ่มสงสารและรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นหน้าอันนาเหมือนกับเขาเห็นหน้าใครบางคน
"ฉันไม่ใช่เหมราช" ร่างบางหันกลับไปมองเสียงทุ้มนั้นพูดขึ้นจากทางด้านหลังในแววตาของเขาที่จับจ้องมองเธอเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างเหมือนกับใครบางคนที่อันนาเคยรู้จัก
คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันยิ่งเขาเดินขยับเข้าไปใกล้ๆ เธอยิ่งรู้สึกแปลกๆ จนหัวใจเธอสั่นไม่ใช่เพราะเขาหล่อหรือน่าหลงใหลแต่เธอรู้สึกเหมือนใครบางคนที่หายไปนั้นกลับมาเจอกันอีกครั้ง
"ฉันขอถามเธอหน่อยในตอนที่เธอทำเพลงพิณ เธอตั้งใจหรือเปล่า" ถ้าเธอปฏิเสธว่าไม่ตั้งใจยังไงก็ฟังไม่ขึ้น อันนาเธอได้เพียงแต่ก้มหน้าลงและไม่ตอบคำถามเขา
"ทำไมฉันถามเธอถึงไม่ตอบ ฉันดูออกนะว่าแววตาของเธอไม่ใช่คนใจร้าย" เขาเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ มือหนาจับปลายคางของเธอเสยขึ้นมองในดวงตาคู่นั้นผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะใช่คนใจร้าย
"ที่เธอไม่ตอบ เธอไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหม" อันนารีบส่ายหน้าทันที เธอไม่อยากปฏิเสธเขา
"ฉันเป็นคนทำ ฉันแค่พลาดแล้วไม่รู้ว่าเพลงพิณมีโรคประจำตัวและเกิดอาการช็อก"
"เหรอ แล้วเธอพร้อมตายหรือยังเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ทำ" ในหัวใจสั่นสะท้านหวาดกลัวในคำพูดของเขาดวงตาคู่น้อยหลั่งไหลน้ำตาออกมาเธอพยักหน้าให้กับคนที่เอ่ยถาม
"ฉันพร้อมที่จะชดใช้ทุกอย่าง"
และในขณะนั้นเขาควักปืนออกมาจากทางด้านหลังวางไว้บนขาของอันนา ร่างบางตกใจจนเนื้อตัวสะท้านเมื่อเห็นปืนวางบนขาตัวเอง
"ปืนนี้มันจะทำให้เธอเจ็บและตายแต่เพียงแค่ชั่วแว๊บเดียว ถ้าเธอไม่อยากถูกเพื่อนของฉันทรมานก็ควรที่จะเอาปืนเจาะหัวและลั่นไก"
เขาก้าวขาถอยหลังหนียักไหล่ให้กับอันนา เพราะคิดว่าเธอนั้นไม่กล้าพอที่จะจับปืน ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นมือน้อยสั่นเครือค่อยๆ จับปืนอันนั้น
"แค่ยกใส่หัวและลั่นไกทุกอย่างก็จบ" คลาสทำท่าทียกนิ้วตนเองใส่ที่หัว ชี้ทางให้กับอันนา
ร่างบางค่อยๆ ยกปืนขึ้นมาอย่างที่เขาต้องการและยังทันใดประตูก็ถูกเปิดเข้ามาพรวดพราด เหมราชตกใจในการกระทำของอันนาเขาจึงพุ่งตัวเข้ามาจับมือของเธอ
"ทำบ้าอะไรอะ" ปืนอันนั้นถูกเขวี้ยงลงด้านล่างสายตาของเหมราชมองอันนาด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะกวาดตามองคลาสเพื่อนสนิทของตนเอง
"กูก็แค่จะช่วยให้ฆาตกรที่มึงเกลียดได้ตายไวๆ" เขาก้มหยิบปืนอันนั้นขึ้นมาแต่เหมราชยืนบังอันนา
"กูว่าเรื่องนี้มึงไม่เกี่ยวออกไปก่อน กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ทรมานจนกว่ากูจะพอใจ แล้วค่อยฆ่าทิ้งแต่มึงทำไมไม่ฟังกูออกไปก่อน กูไม่อยากเสียงดังใส่" เขาเผยรอยยิ้มที่เห็นเพื่อนตนเองนั้นปกป้องคนที่บอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา
"ระวังนะ ความเจ็บปวดพวกนั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเอง กูอยู่เคียงข้างมึงเสมอเหมราช" เสียงดังแกร๊ก ปืนที่คลาสตั้งใจยื่นให้อันนาไม่มีลูกเขาจึงยิงโชว์ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
"ฮื่อๆ"
บทที่ 12 หลังจากที่คลาสเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทและโกรธคนที่ทำกับเพลงพิณ แต่คลาสก็ไม่ใจร้ายพอที่จะให้อันนาต้องตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ เขามองเพื่อนตัวเองที่บอกว่าโกรธเกลียดอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวดูจาดแววตาก็รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ยิ่งในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นห่วงอันนาจริงๆ เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อพ้นประตูคลาสจึงเอียงคอหันกลับไปมองเล็กน้อย"คนที่นายเกลียดนี่แหละจะเป็นคนที่นายรักมากที่สุด! ขอให้ความรักของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้ลบล้างความแค้นออกจากใจได้นะ" เมื่อหันหน้ากลับมาเตรียมที่จะก้าวขาออกลูกน้องคนสนิทของเหมราชได้เดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองสายตาของเขาเหมือนกับอยากพูดอะไรบางอย่างกับคลาส แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ คลาสจึงเอ่ยถามขึ้นเอง"มีอะไรจะพูดกับกูหรือเปล่า??”"ผมสงสารคุณอันนาและผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่!!”"ความสงสารไม่ได้ทำให้มึงมีข้าวกิน การทำงานเท่านั้นที่จะทำให้มันมีข้าวกินอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย เวรกรรมต้องระงับด้วยการจองเวร" เขาพูดกับลูกน้องคนสนิทเพื่อนอย่างไม่ไยดีหลังจากพูดจบคลาสเดินออ
บทที่ 13 กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง "คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง "เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตั
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 16 อันนารู้สึกเกลียดตัวเองในขณะที่เธออยู่ในห้องน้ำมือน้อยกำหมัดและทุบลงไปที่อ่างล้างหน้าได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเมื่อคืนเธอถึงเผลอตัวเผลอใจให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่เขาโกรธและเกลียดเธอมากยิ่งรู้สึกน้อยใจเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเขาบอกว่าเกลียดตัวเองทั้งที่บอกรักเธอมื้อคืนนี้ เรือนร่างบางจับจ้องมองตัวเองในกระจกร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวและยังมีรอยช้ำมากมายบนผิวกาย ได้เพียงแต่ถามตัวเองว่าถูกเขากระทำขนาดนี้ทำไมถึงยังรู้สึกดีกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อยู่ เหมราชลงมาด้านล่างนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจ "ขอโทษค่ะ ป้าหนูไปตามแล้วคนสวนไม่ว่างมาจริงๆ จะให้หนูทำยังไง" ในขณะที่เหมราชนั่งดื่มกาแฟอยู่นั้นได้ยินเสียงแม่บ้านกำลังคุยกันและเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับคนสวนที่ไม่มาทำงานเหมราชจึงลุกขึ้นเดินตรงมาหาป้าแม่บ้านพร้อมกับแม่บ้านอีกคนที่เข้ามารายงาน"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้า" ป้าแม่บ้านคนนี้อยู่ที่นี่มานานจนเหมราชเรียกว่าป้า"ก็คนสวนสิคะ เบี้ยวแถมทั้งยังโกงเงินไปเป็นพันให้มาใช้หนี้โดยการตัดหญ้าก็ไม่ยอมมา ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ" เหมราชพยักหน้าให้กับป้าแม่บ้านเงินพันเดียวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลย"ช่างเถ
บทที่ 17 หญิงสาวคนสวยเธอชื่อควีนเป็นเพื่อนสนิทของเหมราชและคลาสตั้งแต่สมัยเรียน วันนี้เธอไปเซอร์ไพรส์คลาสที่บ้านก่อนที่จะให้คลาสพามาเซอร์ไพรส์เหมราช ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกว่าคนอื่นมักจะโทรคุยกันอยู่เรื่อยๆ ควีนเธอเคยมีใจให้กับเหมราชแต่หยุดความสัมพันธ์กลัวว่าจะเสียเพื่อน ทั้งสามจึงเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดแต่คนที่สนิทกันและรักกันมากคือเหมราชกับคลาส "ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าวันนี้จะโดนเซอร์ไพรส์ดีใจมากๆ เลยนะที่มาหา" เหมราชขยับเข้าไปใกล้ๆ ควีนโดยที่ใช้มือนั้นโอบกอดไหล่เหมือนกับสมัยเรียน แต่ว่าสายตาของเธอที่มองมือของเหมราชนั้นไม่ได้คิดเพียงแค่เพื่อนใบหน้าน้อยแดงระเรื่อพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นดั่งกับคนที่เขินอาย"ยิ้มแบบนี้อย่าบอกนะว่าเขินเหมราชมัน" คลาสเอ่ยแซวควีนเพื่อนของตัวเองจนเขานั้นต้องถูกควีนตีเอา "พูดอะไรเพื่อนกันต่างหากป่ะ อื้อลืมถามเลยในตอนที่เรามาผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพื้นเธอเป็นใครเหรอ แล้วเธอโดนอะไรทำไมสภาพถึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เหมราชกับคลาสหันมองหน้ากันในขณะที่ควีนเอ่ยถามถึงอันนา"ไม่มีอะไรหรอกแค่คนใช้ที่นั่งล้างอ่างปลาเท่านั้น" อันนาเธอเดินออกมาหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูด
บทที่ 18 หลังจากที่ควีนและเหมราชทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอนที่ห้องของแต่ละคน เมื่อเขานอนลงกลับรู้สึกกระสับกระส่ายและร้อนวูบวาบราวกับว่าตัวเองนั้นมีอารมณ์เกิดขึ้นๆ แท่งเอ็นร้อนของเขานั้นก็พองตัวขึ้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้ "หรือว่าฉันจะเสพติดร่างกายของเธอแล้วนะ" เสียงหายใจหืดหอบยิ่งพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้นแต่มันก็ฟุ้งซ่านจนทำให้เขาจับเข้ายังเป้าของตัวเอง ร่างหนาลุกขึ้นเดินมายังหน้าต่างเพื่อก้มมองไปที่ห้องของอันนาเห็นเธอนั่งอยู่หน้าห้อง เขาไม่รอช้าที่จะพุ่งตัวเตรียมออกมาหาแต่ทันใดที่เปิดประตู เขาเห็นควีนเพื่อนของตนเองนั้นยืนอยู่เธอสวมใส่ชุดนอนสายเดี่ยวบางๆ จนมองเห็นแทบจะทะลุเนื้อ เหมราชหลบสายตาของเพื่อนเขายิ่งครวญคิดสิ่งที่ไม่ดีแถมทั้งอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นอยากจะดึงเรือนร่างสวยของเพื่อนเข้าไปกระทำ "เป็นอะไรหรือเปล่าเหมราชทำไมเหงื่อถึงเต็มใบหน้าขนาดนั้น" เรือนร่างบางขยับเข้ามาใกล้ๆ เพื่อน เธอใช้ความสวยอ่อยและทันใดที่เอ่ยถามหลังมือของเธออันนุ่มสัมผัสเข้ายังหน้าผากของเหมราช "เดี๋ยวมานะ" เหมราชฟุ้งซ่านกลัวจะหักห้ามใจไม่ไหว เขารีบดันตัวของควีนเพื่อนสนิทของตนเองนั้น
บทที่ 19 ลำตัวหนาดีดออกจากร่างบางสายตายังคงจับจ้องมองเรือนร่างบางและช่วงล่างที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยน้ำกามของเขาไหลออกมาจากรูน้อย "ผู้หญิงแบบเธอมันน่าสมเพชจริงๆ นี่ เธอร่านจนต้องเอายาปลุกเซ็กส์ให้กับฉันกินเลยเหรอ มันยังไม่สาแก่ใจเหรอที่ฉันเอาเธออยู่ทุกวัน" ความผิดที่เธอไม่ได้ทำแต่ถูกกล่าวหาพร้อมทั้งคำพูดที่ต่อว่าด่าทอรุนเเรง"แน่ใจเหรอคะ ว่าฉันเป็นคนทำฉันจะไปเอายาปลุกเซ็กส์พวกนั้นมาจากที่ไหนวันๆ ฉันอยู่แต่ในห้องอยู่แต่ในบ้าน" มือน้อยคว้าจับผ้าห่มปกคลุมเรือนร่างของตัวเอง เธอขยับลุกขึ้นเอ่ยเถียงเขาด้วยแววตาแดงก่ำ แต่ทันใดนั้นมือหนาคว้าจับปลายคางของเธอบีบเอาไว้"ไม่มีสิทธิ์เถียงกู!! จำเอาไว้ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตไม่มีวันที่คนแบบกูจะให้อภัยฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวตัวเอง" คำต่อว่าให้เธอเพียงเท่านั้นและเขาปล่อยมือออกจากตัวเธอ เข้าไปในห้องน้ำส่วนเธอนั้นได้เพียงแต่นั่งร้องไห้ ทำไมตัวเองต้องหวั่นไหวกับผู้ชายใจร้ายคนนี้ ทำไมเธอต้องน้อยใจในคำพูดด่าทอของเขาที่รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่มีวันเป็นไปได้ ร่างบางนั่งมองผ้าปูที่นอนที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบเลือด เธออดที่จะมองไม่ได้จึงลุกขึ้นดึงผ้าปูที่นอนนั้