บทที่ 8
เขาคงเกลียดเธอมากแม้แต่อาการของเธอจะแย่แค่ไหนหมอสั่งให้นอนโรงพยาบาล เขายังไม่ยอมเมื่อมาถึงบ้านต้นแขนน้อยถูกกระชากดึงเหวี่ยงลงยังพื้นบ้านสายตาของเขาจับจ้องมองด้วยความพอใจ เขาเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นเธอนั้นซมซานเรือนร่างไร้เรี่ยวแรง
สายตาของเขาจ้องมองมาอย่างไร้ความสงสารและปราณีต่อเรือนร่างบางในขณะที่เธอนั้นนั่งพับเพียบอยู่ที่พื้น เขานั่งยองๆ ลงใช้มือหนาจับปลายคางเสยขึ้นรอยยิ้มแห่งความสะใจมองจ้องใบหน้าน้อยเพียงไม่นาน เหมราชคว้าจับคางของเธอกระชากเข้าหาตนเอง
"อยากตายมากเหรอ คิดเหรอว่าคำพูดขู่ของเธอจะทำให้ฉันสงสาร จำเอาไว้ว่ากูเกลียดฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวกูมากที่สุดและชีวิตนี้กูสัญญาไว้ว่ากูจะทำให้มันได้ตายทั้งเป็นเหมือนกับที่มันทำน้องสาวกู" เรือนร่างบางเจ็บปวดมากที่สึดในหัวใจ น้ำตาเธอเอ่อล้นได้เพียงแต่สะอื้นก้มหน้ายอมรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ทำ
"ถ้าคุณจะให้น้องคุณไปแบบสงบ คุณควรเลิกคิดเลิกแค้น.." เธอแทบพูดไม่จบประโยคเพราะยิ่งพูดถึงน้องสาวของเขาเหมราชยิ่งโกรธและออกเเรงบีบมากกว่าเดิม
ใบหน้าน้อยถูกสะบัดกลับลงไปกับพื้นในขณะที่เขาเหวี่ยงแขนและลุกขึ้น
"มึงเอาผู้หญิงคนนี้ไปขังไว้ในกรงหลังบ้าน"
เหมราชเอียงใบหน้าหันไปมองลูกน้องคนสนิทพร้อมกับเอ่ยคำสั่งให้พาอันนาไปขังไว้ในกรงหมาหลังบ้าน
เมื่อลูกน้องคนสนิทเข้ามาเขาไม่อยากทำตามที่เจ้านายบอกจึงถอนหายใจในขณะที่กำลังก้มจะจับแขนของอันนา เขาต้องหยุดชะงักเพราะเสียงของเจ้านาย
"ไม่จำเป็นที่มึงจะต้องแตะตัวผู้หญิงคนนี้เพราะผู้หญิงคนนี้มันสกปรก ถ้าลุกเดินเองไม่ได้เดี๋ยวกูจะจับเอง" สายตากวาดมองลูกน้องด้วยความไม่พอใจในขณะที่ลูกน้องคนสนิทจะจับตัวของอันนา
"แต่ดูเหมือนเธอจะเดินไม่ไหวแล้วนะครับ อีกอย่างคุณหมอให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลแต่นาย…”
เหมราชเดินเข้ามาใกล้ลูกน้องคนสนิทเพราะโกรธในคำพูดของลูกน้องตัวเองที่พยายามเหมือนจะช่วยอันนาหรือว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน เมื่อมาถึงใบหน้าหนาของลูกน้องคนสนิทนั้นถูกตบจนหันไปอีกข้าง
"มึงเป็นลูกน้องกูสั่งอะไรทำไมไม่ทำตาม…มึงสงสารผู้หญิงคนนี้ มึงสมเพชผู้หญิงคนนี้หรือว่ามึงมีใจให้กับเธอ! แต่กูบอกไว้ก่อนเลยนะ ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนขยะเศษสวะที่ทุกคนต้องรังเกียจโดยเฉพาะกูที่ขยะแขยง" คำพูดดูถูกที่เขานั้นเปล่งออกมาทั้งยังชี้หน้าด่าอันนาที่นั่งอยู่กับพื้น
"ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ถ้านายจะฆ่าเธอนายก็ควรที่จะฆ่าเลยทำไมถึงยัง…”
เป็นครั้งที่สองที่เขานั้นพูดไม่จบประโยคแต่เจ้านายกลับเปล่งเสียงใส่ด้วยความโกรธ
“ถ้ากูจะฆ่า กูก็ฆ่าไปแล้วแต่กูจะเอาไว้ทรมาน มึงเข้าใจไหมว่ากูจะเอาผู้หญิงคนนี้ไว้ทรมานให้มันค่อยๆ เจ็บปวดจนตายให้ไม่ต่างจากน้องสาวของกู"
"แล้วถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนฆ่าน้องสาวของนาย?”
ในขณะที่อันนาเธอนั่งก้มหน้าอยู่ต้องตกใจในคำพูดของลูกน้องคนสนิทของเขา เธอเงยหน้าขึ้นทันที คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันส่ายหน้าไปมากลัวว่าลูกน้องคนสนิทนั้นจะรู้อะไรบางอย่างทำไมอยู่ๆ เขาถึงพูดออกมาแบบนั้นในใจของอันนาคิดกระวนกระวายอยากจะเอ่ยพูดแทรก
"ช่วยพาฉันไปที่กรงเถอะ ฉันลุกไหวแล้ว" ต่อให้เจ็บปวดร่างกายหรือพยุงตนเองไม่ขึ้น เธอรวบรวมแรงที่มีค่อยๆ ลุกขึ้นขัดจังหวะกลัวว่าลูกน้องคนสนิทของเหมราชจะพูดออกมา
"มึงเห็นไหมว่าผู้หญิงคนนี้เสแสร้งมากแค่ไหนจริงๆ เธอก็ลุกยืนเองได้! แต่เพราะอะไรไม่รู้หรือเพราะเห็นผู้ชายไงร่านอยากจะให้ผู้ชายจับมือ หึ! สมแล้วที่พ่อของเธอไม่สนใจเป็นคนแบบนี้นี่เอง" เธอกวาดสายตามองเหมราชด้วยความโกรธและแค้น มือน้อยทั้งสองข้างกำเข้าหากันอยากจะเดินเข้ามาตบหน้าตบปากในคำพูดขิงเขาแต่เธอทำได้เพียงแค่เงียบ สะอื้นปาดน้ำตาบนหน้า
"พูดแค่นี้โกรธเหรอเกลียดเหรอ?”
อันนาก้มหน้าลง ถ้ายังเถียงกลับเขาอยู่คงได้เจ็บตัวมากกว่านี้ เธอเดินหันหลังและออกมาทางหลังบ้าน เมื่อลูกน้องคนสนิทเดินตามออกมาจนกระทั่งถึงกรงหมาอันใหญ่ เธอรู้แล้วว่ามันทั้งเหม็นและต้องอยู่ในความมืดถึงแม้ว่าจะมีหลอดไฟ แต่มันไม่ได้น่าอยู่เลยมีแต่ความน่าขยะแขยง และทั้งไม่มีมุ้งปกคลุมป้องกันยุงคืนนี้เธอจะอยู่ยังไง
ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นถอนหายใจเดินมาตามหลังได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมาให้กับอันนา
"ทำไมไม่บอกความจริงกับนายว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ" ในขณะที่อันนากำลังครวญคิดว่าคืนนี้ตนเองนั้นจะอยู่ยังไงในกรง ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นเอ่ยพูดความจริงขึ้นเรือนร่างบางสะดุ้งรีบหันกลับไปมองเขา เธอส่ายหน้าไปมา
"คุณพูดอะไรขึ้นมา อย่าพูดแบบนี้นะ ฉันเป็นคนทำน้องสาวของเขา!!”
เธอกลัวว่าเขานั้นจะรู้ความจริงว่าเป็นนิตาผู้เป็นคนที่ทำน้องสาวของเหมราช
"หรือว่าเป็นอย่างที่ผมคิด แค่ผมพูดเพียงแค่ว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ คุณก็ดูมีพิรุธแล้วนะ"
สายตาของเขาที่กวาดมองเรือนร่างบางทำท่าทีมีพิรุธหรือว่าจะเป็นอย่างที่เขาเดาจริงๆ
"อย่าพูดแบบนี้เลย เดี๋ยวทุกอย่างมันจะบานปลายไปมากกว่านี้ ขอให้มันจบลงที่ฉัน ขอบคุณมากๆ นะ ที่คอยช่วยเหลือแล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกอย่างไปเถอะ อย่าให้เขาต้องทำร้ายนายเลย" อันนากลัวว่าเหมราชจะทำร้ายลูกน้องคนสนิทที่คอยช่วยเหลือเธออยู่ เธอจึงบอกให้กับเขาไปเรือนร่างบางคุกเข่าลงก้มคลานเข้าไปในกรงหมา
อยากจะอ้วกออกมาเพราะว่ามันเหม็น แต่ทำได้เพียงแต่นั่งกอดเข่าตนเอง เสียงถอนหายใจของลูกน้องคนสนิทดังขึ้นอีกครั้ง เขาไม่อยากกระทำในสิ่งที่เจ้านายสั่งหลังจากที่อันนาเข้าไปนั่งอยู่ในนั้นเขาจึงจัดการล็อกกรงด้วยกุญแจ
เมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านสายตาของเจ้านายที่มองจ้องมาด้วยความไม่พอใจ เขาแบมือออกเพื่อขอลูกกุญแจกับลูกน้อง
"จะทำอะไรก็ทำไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับฆาตกร!! มึงไม่ต้องสงสารแค่สมเพชก็พอ ถ้าเป็นมึงเจอเหตุการณ์เดียวกับกูต้องสูญเสียน้องสาวที่กูรักมากและเหลือเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างกายกูมึงก็คงต้องทำแบบกู!”
ลูกน้องของเขาได้เพียงแต่ก้มหน้าเชื่อฟังคำสั่งเจ้านายตัวเอง หลังจากที่เหมราชขึ้นมาบนห้องปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จ เขาเดินมาเปิดหน้าต่างจ้องมองมายังกรงหลังบ้าน
"คงไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่ถ้าจะตายก็ไม่เห็นต้องสนใจเลยนี่วะ! ผู้หญิงคนนี้มันฆ่าเพลงพิณ มันก็สมควรที่จะได้รับกรรมแล้ว" เหมราชรู้สึกแปลกใจทำไมตนเองถึงไม่สะใจในการกระทำและมีความรู้สึกวูบหนึ่งที่สงสารหญิงสาวผู้นั้น
เขาเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะไปดูอันนาหลังบ้าน แต่ในขณะที่เดินลงมามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ยังหน้าบ้านซึ่งตอนนี้ก็ดึกมากใครที่มาหาเขา
"ไปดูดิว่าใครมา" เหมราชพยักหน้าให้กับลูกน้องออกมาดูหน้าบ้านว่าใครมาหาเขาและไม่ช้าลูกน้องคนนั้นเดินกลับเข้าไป
"คุณคลาสมาขอพบครับนาย" เหมราชยิ้มออกมาทันทีเพื่อนสนิทคนเดียวของเหมราชคือคลาสเรียนมาด้วยกันอยู่ด้วยกันจนเหมือนพี่น้องแต่ต้องแยกออกจากกันเพราะคลาสไปเรียนต่อ
"บอกให้เข้ามา"
เมื่อเพื่อนทั้งสองคนได้เจอกันทั้งกอดและถามไถ่จนคลาสถามหาเพลงพิณเหมราชไม่เคยบอกคลาสเลยเรื่องที่น้องสาวของตัวเองตายเพราะไม่อยากให้เพื่อนกังวลใจ ก่อนที่จะเกิดเรื่องเขาทั้งสองคนได้คุยกันและคลาสกำลังจะเข้ารับตำแหน่งมาเฟียเลยไม่อยากให้เพื่อนต้องกังวลและกลับมา
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมมึงถึงไม่บอกกูวะ น้องสาวมึงตายทั้งคนนะเว้ย ต่อให้กูไม่ได้รับตำแหน่งกูก็ยอมกลับมา"
เหมราชนั่งน้ำตาคลอช่วงนั้นมันฉุกละหุกทำอะไรไม่ถูก เขาเองก็ใจสลายไม่มีกะจิตกะใจโทรหาใครไม่มีญาติที่ไหน
"กูเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เพลงพิณไปไวจน…”
"ทำไม กูไม่รู้เรื่องนี้เลยแล้วทำไมถึงไม่มีข่าวเลย"
เหมราชกวาดสายตามองคลาสและกำมือเข้าหากันที่ข่าวไม่ยอมออกเพราะว่ากรณ์คนที่เหมราชเข้าใจว่าเป็นพ่อของอันนาปกปิดไว้จนไม่มีข่าวแผ่ออกมา ถ้าเกิดเหมราชไม่เข้าหาท่านรอง ทางนั้นคงไม่ยอมให้อันนามาชดใช้อย่างในสิ่งที่ทำแน่นอน
"เลว คนผิดก็ไม่ได้เข้าคุกแล้วคนที่ฆ่าน้องสาวของเรามันก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอะดิ ยอมได้ยังไงวะ"
คลาสโกรธจนกำหมัดเข้าหากัน เขาไม่รู้ว่าเพื่อนของตนเองนั้นเอาคนผิดที่ทำเพลงพิณมาทรมาน
"นายครับนาย คุณอันนาถูกงูกัดอยู่ในกรงนายช่วยไปเปิดที" เหมราชลุกขึ้นทันทีเขาวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อเอากุญแจกรงหมาที่ลูกน้องคนสนิทนั้นให้ไว้พร้อมกับวิ่งลงมาด้านล่าง เพื่อนของเขาและลูกน้องคนสนิทรออยู่ที่หน้ากรงแล้ว
ขาน้อยตรงช่วงต้นขาถูกงูฉกเรือนร่างบางอ่อนระทวยไร้สติหลังจากที่ร้องไห้หวาดกลัวและเจ็บปวดมาสักพัก
"อันนา อันนา" เขาดูเป็นห่วงเธอจนลืมไปว่าผู้หญิงคนนี้ฆ่าน้องสาวตนเอง เมื่อเปิดกรงได้เท่านั้นเขารีบคว้าดึงตัวของอันนามาเขย่าแต่เรือนร่างบางไร้สติไม่มีโต้ตอบแม้แต่ปลายนิ้วมือ
"งูต้องมีพิษแน่ๆ เลยเพราะบาดแผลเป็นสีม่วงผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันวะ" คลาสจับเข้ายังข้อเท้าตรงบาดแผลและรู้ว่างูที่ฉกหญิงสาวผู้นี้ต้องมีพิษ เหมราชรีบลุกขึ้นอุ้มอันนาในท่าเจ้าสาวตรงมายังรถของตนเองหน้าบ้าน
"ขับรถออกเร็วๆ" เหมราชพยายามจับใบหน้าน้อยของอันนานั้นเขย่าเพื่อเรียกสติแต่เธอก็ร่วงหล่นดั่งตุ๊กตายางไม่มีแม้การโต้ตอบมีเพียงแต่ลมหายใจแผ่วเบา
เมื่อถึงโรงพยาบาลเขาได้เพียงแต่นั่งอยู่หน้าห้องและ คิดว่าตัวเองควรปล่อยให้หญิงสาวคนนี้ตายแต่ทำไมพอเจอเหตุการณ์และหัวใจของเขาสั่งให้รีบพาเธอมาโรงพยาบาล
"ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน" คลาสเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ เหมราชเพื่อนของตนเองและถามขึ้นมสด้วยความสงสัย
"ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ฆ่าเพลงพิณ"
"ห๊ะ! อย่าบอกนะว่ามึงเอาลูกสาวของมันมาทรมาน??”
เหมราชกวาดสายตามองคลาสพยักหน้าให้ตามความจริง เขาดูตกใจในการกระทำของเพื่อนตัวเองมากจนตาค้าง
"จริงๆ มันไม่ถูกต้องนะ เราควรทำลายมันมากกว่าเอามันมาทรมานเอง"
"แต่มันก็สมควรแล้วหรือเปล่า หรือมึงอยากให้น้องของเราตายไปฟรีๆ"
เขาไม่มีคำโต้ตอบเพื่อนได้เพียงแต่นั่งนิ่งและไม่คิดว่าเหมราชจะแค้นจนเอาหญิงสาวคนนั้นมาทรมานที่บ้าน
บทที่ 9งานหมั้นที่ยิ่งใหญ่แต่หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งเสียใจที่ตนเองนั้นต้องมาหมั้นกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก หลังจากงานหมั้นจบเสร็จพิธีนิตาเดินตรงเข้ามาหาพ่อตนเองในห้อง เรือนร่างบางคุกเข่าลงที่พื้นพ่อของเธอนั้นนั่งอยู่บนเตียงสายตาของเขาจับจ้องมองลูกสาวและถอนหายใจก่อนหน้านี้ยังมีหลานสาวอยู่ด้วยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแต่เขาก็รักอันนาเหมือนกับลูกสาวแต่ใจก็เห็นแก่ตัวไม่อยากให้ลูกสาวที่แท้จริงต้องไปเจ็บปวด"คุณพ่อ…นิตาสงสารน้อง" นิตาเงยหน้ามองพ่อของตัวเองทั้งน้ำตาเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมเอ่ยพูดบอกกับพ่อว่าสงสารอันนา "ถ้าสงสารน้องแกก็ไปแทนสิ! ถ้าไม่อยากเจ็บและทุกข์ทรมานเหมือนอันนาก็อยู่เฉยๆ วันนี้เป็นงานหมั้นของแกไม่ควรขึ้นมาบนนี้และถ้าคนอื่นมาได้ยินแกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตอยู่! ทำอะไรไม่รู้จักคิดตั้งแต่แรกเหมราชมันไม่ใช่คนธรรมดาไม่อย่างนั้นท่านรองคงไม่ออกตัวให้มันขนาดนี้! สิ่งเดียวที่ทำได้คือแกต้องเกาะคู่หมั้นของแกไว้ให้ดีเพราะเขาจะทำให้แกหลุดพ้นแล้วไม่ต้องไปเจ็บปวดแบบอันนา" "คุณพ่อไม่รักอันนาบ้างเลยเหรอ แล้วทำไมคุณพ่อถึงไม่ช่วยน้องอำนาจและบารมีคุณพ่อมีเพียงแค่ท่านรอง!...”นิตาถูกเป
บทที่ 10 อันนาโวยวายดั่งคนไร้สติจนกระทั่งเธอนั่งนิ่งสักพักหมอใหญ่ได้เข้ามาทำการฉีดยานอนหลับให้เธอพักผ่อน สายตาของผู้เป็นหมอจับจ้องมองเรือนร่างบางและส่ายหน้าไปมาเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวผู้นี้ถูกกระทำทางร่างกายและจิตใจมาอย่างหนักเป็นแน่เหมราชเดินเข้าไปพบหมอหลังจากที่หมอเรียกญาติให้ไปคุย ทางหมอเลยแจ้งไว้ว่าอย่าทำอะไรที่กระทบจิตใจเธอ ไม่อย่างนั้นอันนาเธอจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองหลังจากเหมราชเดินออกมาจากห้องของคุณหมอ เขาก็เข้ามาหาอันนาที่นอนหลับอยู่บนเตียงสายตาได้เพียงแต่จับจ้องมองมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เธอทำร้ายตัวเองโดยที่เขาไม่ต้องลงมือแต่ทำไมเขารู้สึกว่าความคิดตนเองเริ่มขัดแย้งกันไม่อยากให้เรือนร่างของผู้หญิงคนนี้ต้องเจ็บปวดไม่อยากให้เธอต้องเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่หมอพูด"โธ่เว้ย!!”เหมราชลุกขึ้นก้าวเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ เตียงเห็นใบหน้าน้อยนอนหลับตาด้วยฤทธิ์ยาสลบ "นายครับเขามา" สายตาของลูกน้องหันไปมองยังหน้าประตูรีบเข้ามาบอกกับเจ้านายตนเองว่ากรณ์มาที่นี่เหมราชเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยืนอยู่ข้างเตียงของอันนาในขณะที่กรณ์เดินเข้าไปด้วยแววตาห่วงใย เขามองจับจ้องหลานสาวอย่างน่าสงสารอยา
บทที่ 11 หลังจากที่ลุงกลับออกไปสายตาของเขากวาดมองจ้องเธอและปล่อยมือออกจากผมของเธอ การกระทำของเขายิ่งรุนแรงขึ้นและน่ากลัว แต่อันนาไม่มีอะไรที่จะเสียไปมากกว่านี้เเล้ว เธอทั้งเจ็บทั้งอยากตายอยากหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้สักที "หมอสั่งไว้ว่าให้กินข้าว" มือหนาคว้าหยิบถ้วยข้าวต้มจับช้อนและตักข้าวต้มนั้นไปจ่อที่ปากของอันนา แต่เธอไม่อ้าปากมีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นจับจ้องมองชายใจร้ายตรงหน้าทั้งโกรธและเกลียดจนอยากจะจับถ้วยข้าวต้มในมือของเขาสาดใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ"กูบอกให้อ้าปาก ปากมันอ้าออกยากมากหรือไงอยากตายใช่ไหม" เขาวางถ้วยข้าวต้มลงและจับปลายคางของเธอบีบเพื่อที่ให้อ้าปากและทันใดนั้นช้อนข้าวต้มยัดเข้าไปในปากน้อยเรือนร่างบางสะดุ้งเพราะข้าวต้มยังร้อนอยู่ เธอคายออกหลังจากที่เขาวางช้อนเพียงไม่นานคนใจร้ายคิดว่าเธอนั้นพ่นข้าวทิ้งทำท่าทียกมือจะตบแต่หยุดชะงักเพราะไม่กล้าที่จะทำเธอใบหน้าน้อยเอียงหน้าหนีในใจคิดว่าตนเองนั้นจะโดนตบไปแล้วแต่พอลืมตาขึ้นหันกลับไปมองฝ่ามือยังยกค้างไว้อยู่บนอากาศ"กูให้เวลากินข้าว 10 นาที ถ้ายังกินไม่หมดถ้วย เตรียมแก้ผ้าแล้วอ้าขาได้เลย" เขาวางถ้วยข้าวลงเสียงดังตรงช่วงหัวเตียงแล
บทที่ 12 หลังจากที่คลาสเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทและโกรธคนที่ทำกับเพลงพิณ แต่คลาสก็ไม่ใจร้ายพอที่จะให้อันนาต้องตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ เขามองเพื่อนตัวเองที่บอกว่าโกรธเกลียดอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวดูจาดแววตาก็รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ยิ่งในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นห่วงอันนาจริงๆ เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อพ้นประตูคลาสจึงเอียงคอหันกลับไปมองเล็กน้อย"คนที่นายเกลียดนี่แหละจะเป็นคนที่นายรักมากที่สุด! ขอให้ความรักของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้ลบล้างความแค้นออกจากใจได้นะ" เมื่อหันหน้ากลับมาเตรียมที่จะก้าวขาออกลูกน้องคนสนิทของเหมราชได้เดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองสายตาของเขาเหมือนกับอยากพูดอะไรบางอย่างกับคลาส แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ คลาสจึงเอ่ยถามขึ้นเอง"มีอะไรจะพูดกับกูหรือเปล่า??”"ผมสงสารคุณอันนาและผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่!!”"ความสงสารไม่ได้ทำให้มึงมีข้าวกิน การทำงานเท่านั้นที่จะทำให้มันมีข้าวกินอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย เวรกรรมต้องระงับด้วยการจองเวร" เขาพูดกับลูกน้องคนสนิทเพื่อนอย่างไม่ไยดีหลังจากพูดจบคลาสเดินออ
บทที่ 13 กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง "คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง "เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตั
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 16 อันนารู้สึกเกลียดตัวเองในขณะที่เธออยู่ในห้องน้ำมือน้อยกำหมัดและทุบลงไปที่อ่างล้างหน้าได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเมื่อคืนเธอถึงเผลอตัวเผลอใจให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่เขาโกรธและเกลียดเธอมากยิ่งรู้สึกน้อยใจเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเขาบอกว่าเกลียดตัวเองทั้งที่บอกรักเธอมื้อคืนนี้ เรือนร่างบางจับจ้องมองตัวเองในกระจกร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวและยังมีรอยช้ำมากมายบนผิวกาย ได้เพียงแต่ถามตัวเองว่าถูกเขากระทำขนาดนี้ทำไมถึงยังรู้สึกดีกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อยู่ เหมราชลงมาด้านล่างนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจ "ขอโทษค่ะ ป้าหนูไปตามแล้วคนสวนไม่ว่างมาจริงๆ จะให้หนูทำยังไง" ในขณะที่เหมราชนั่งดื่มกาแฟอยู่นั้นได้ยินเสียงแม่บ้านกำลังคุยกันและเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับคนสวนที่ไม่มาทำงานเหมราชจึงลุกขึ้นเดินตรงมาหาป้าแม่บ้านพร้อมกับแม่บ้านอีกคนที่เข้ามารายงาน"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้า" ป้าแม่บ้านคนนี้อยู่ที่นี่มานานจนเหมราชเรียกว่าป้า"ก็คนสวนสิคะ เบี้ยวแถมทั้งยังโกงเงินไปเป็นพันให้มาใช้หนี้โดยการตัดหญ้าก็ไม่ยอมมา ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ" เหมราชพยักหน้าให้กับป้าแม่บ้านเงินพันเดียวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลย"ช่างเถ
บทที่ 43เด็กชายตัวเล็กนั้นยังไม่หายจากอาการป่วยเพราะว่าบาดแผลยังไม่หายดีแต่หมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เหมราชพาอัคคีและอันนามาที่ห้างเพราะอันนาจะมาซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับลูกและจะพาลูกมาทานไอศกรีมด้วย ระหว่างที่อยู่ในร้านไอศกรีมแสดงเหมือนครอบครัวที่อบอุ่นต่อหน้าลูกทั้งคุยกันและหัวเราะหยอกกันอย่างกับว่าสามีภรรยาที่รักกันมากแต่จริงๆ แล้วอันนาเธอแกล้งแสดงต่อหน้าลูกเพียงเท่านั้น"อัคคีดีใจดีใจมากๆ ที่คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อัคคีอยู่กับคุณแม่ 2 คน ไม่สนุกเลย" "อัคคีครับคุณพ่อซื้อบ้านให้อัคคีหลังอย่างใหญ่เลยนะ วันนี้เราไปดูกันไหมครับ" มือหนาลูบหัวของลูกชายเบาๆ บ้านหลังนั้นเหมราชตั้งใจซื้อให้อันนากับอัคคีตั้งแต่วันคลอดแต่เธอกลับพาลูกหนีไปซะก่อนจึงไม่ได้เข้าไปอยู่ส่วนเหมราชให้คนดูแลแต่ไม่เคยเข้าไปอยู่เลยสักครั้ง"คุณพ่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้เลยเหรอครับ""ใช่แล้วครับ จริงๆ คุณพ่อตั้งใจซื้อให้อัคคีตั้งแต่อัคคีคลอดเลยนะ""คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงาน" "คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงานเหรอครับ" เหมราชยิ้มด้วยความดีใจที่แท้แล้วอันนาไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพ่อเลยสักนิด"ขอบคุณนะที่ไม่ทำ
บทที่ 42 อันนานั่งกุมมือของลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงเฝ้ารอให้ลูกชายฟื้นตื่นขึ้นมานั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกคนกลับบ้านเหลือเพียงแต่เหมราชที่ยังไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ที่โซฟากังวลใจและก็รอลูกชายตื่นด้วยเช่นเดียวกัน"ตื่นมาสิครับเดี๋ยวคุณแม่จะพาไปกินไอศกรีมนะ คุณแม่ไม่อยากให้อัคคีนอนหลับนานแบบนี้เลย" น้ำเสียงสั่นเอ่ยบอกกับลูกชายที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงในแววตาคู่น้อยกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ยิ่งเห็นลูกเจ็บเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่า ถ้าเป็นไปได้คนเป็นแม่ขอยอมเจ็บแทนเหมราชลุกขึ้น เขาเดินไปอยู่อีกฝั่งของเตียงตรงข้ามกับอันนามือหนากุมจับมือน้อยของลูกชาย"พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้มีโอกาสดูแลลูกเลยตื่นขึ้นมานะครับ" ใบหน้าของลูกชายช่างคล้ายกับเขาในวัยเด็กสายตาของผู้เป็นพ่อจับจ้องมองหัวใจดวงน้อยที่พลัดพรากหายไป 2 ปี"หิวน้ำ" ทั้งคู่สายตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้น อันนาเธอยิ้มทั้งน้ำตาลูกชายของเธอตื่นขึ้นมาแล้ว"น้ำเหรอเดี๋ยวคุณแม่เอาน้ำให้นะครับ' ดวงตาคู่น้อยมองหน้าเหมราชในระยะใกล้ชิดซึ่งเขาตกใจและแปลกใจทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มาอยู่ตรงนี้"คุณลุงคุณลุงมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงครับ" เหมราชยกมือลูบ
บทที่ 41 เหมราชไม่ได้ใช้ความรุนแรงอย่างเช่นเคยเขาจับเธอเข้ามาในบ้านก็จริงแต่เป็นการกระทำที่อ่อนโยน เรือนร่างน้อยถูกโอบกอดด้วยแขนหนาทั้งสองข้างด้วยความคิดถึงและความโหยหาของเหมราชมากเกินกว่าจะยับยั้งใจ"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" มือน้อยทั้งสองทั้งผลักหน้าอกและทุบตีแต่เหมราชไม่ปล่อย เขากระชับกอดแน่นมากกว่าเดิมยิ่งเธอดิ้นแขนหนาทั้งสองยิ่งรัดแน่น"ฉันคิดถึงเธอนะ…คิดถึงเธอกับลูกมากตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาฉันตามหาเธอทุกวันอย่าไปไหนนะ" อันนาผลักหน้าอกของเขาออกจนสำเร็จใบหน้าน้อยจ้องมองเพียงไม่นาน ฝ่ามือฟาดตบเข้าที่ใบหน้าของเหมราชสายตาของเขามองกลับมาหาอันนาด้วยแววตาจำนนและยอมทุกอย่าง"ฉันไม่เคยมีความสงสารคุณเลยและฉันก็ไม่ได้สมเพชคุณด้วยแต่ที่ฉันไป ฉันสะใจและรู้สึกดีที่เห็นคุณเป็นแบบนี้เป็นยังไงล่ะลิ้มรสกับความเจ็บปวด" "รู้สึกหมดทุกอย่างแล้วและเจ็บปวดมาเกือบ 2 ปี ฉันไม่รู้หรอกนะว่าผู้ชายข้างนอกเป็นใครหรือว่าเป็นคนใหม่ของเธอจริงๆ ฉันอยากขอโอกาสได้ดูแลลูกได้ใกล้ชิดกับลูกบ้าง" "ผัวใหม่คุณคิดถูกแล้วผู้ชายข้างนอกคือผัวใหม่ของฉันและเขาก็ใจกว้างพอที่ให้ฉันมาคุยกับคนแบบคุณ ที่ฉันมาในวันนี้ฉันต้องการของข
บทที่ 40 เหมราชดีใจมากจนเขาทำอะไรไม่ถูกได้เห็นหน้าลูกชายตัวเล็ก เขาช่างเหมือนกับตัวเองอย่างกับฝาแฝดใบหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มกลับบ้านมาด้วยความดีใจ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเหมราชไม่เคยหยุดตามหาอันนากับลูกเลย แต่เขานั้นจนปัญญาแล้วจริงๆ ให้ผู้มีอำนาจช่วยตามก็ไร้วี่เเววที่จะตามหาเธอเจอ จนกระทั่งวันนี้เธอปรากฏตัวอยู่ที่บริษัทของเธอเองและเธอตั้งใจที่จะมาขอบริษัทคืน "นายครับแล้วจะทำยังไงต่อไป" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาใกล้เหมราชเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิท เขายกยิ้มด้วยมุมปากหัวใจที่เหี่ยวเฉามา 2 ปี เต็มเริ่มพองโตขึ้นมีความหวังอีกครั้งจนกลายเป็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าร้าย"มึงคิดเหรอวะ ว่ากูจะยอมปล่อยเมียกับลูกไปได้อีก กูต้องเอาอันนากลับมาเป็นเมียกูเหมือนเดิมให้ได้" "แล้วนายจะทำยังไงเหรอครับ ดูเหมือนว่าการกลับมาของคุณอันนาครั้งนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ และอยู่ๆ ทำไมถึงไปหานายที่บริษัท ถ้าตั้งใจไปขอบริษัทคืนจริงๆ เธอต้องมีข้อต่อรองแต่นี่ดูเหมือนว่าจะไปของ่ายๆ มันต้องมีอะไรสักอย่าง" เหมราชลุกขึ้นจากโซฟามือถือแก้วไวน์กระดกดื่มจนหมดแก้ว ลูกน้องคนสนิทพูดก็ถูกทำไมอยู่ๆ อันนาถึงไปที่บริษัทและตั้งใจเอาลู
บทที่ 392 ปีผ่านไป กาลเวลาหมุนเวียนตามเข็มนาฬิกา วันเวลาที่ผ่านไปนั้นล้วนมีทั้งความสุขและความทุกข์ ทว่าชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกุมมืออยู่บนโซฟาตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน การรอคอยและตามหานั้นช่างทรมานสำหรับเขาเหลือเกิน มีทุกอย่างยกเว้นความสุขเหมราชใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยความหวังที่จะได้เจอลูกชายและอันนาอีกครั้งเสียงถอนหายใจดังขึ้นชายหนุ่มร่างโตลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเปิดประตูห้องเดินออกมาพรวดพราดไม่ทันจะได้ตั้งตัว ทว่ามือของเขานั้นจึงคว้าเด็กตัวเล็กที่วิ่งมาด้วยความซุกซนชนกับเขาจนจะล้ม"มือหนาทั้งสองข้างประคองเด็กผู้ชายไว้ เด็กวัยสองขวบที่กำลังวิ่งซุกซนสายตาของเขาจ้องมองหน้าเด็กชายคนนั้นเพียงแค่ไม่นานหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นรู้สึกหวั่นไหว"ใครเอาลูกมาทำงาน" เหมราชกวาดสายตามองเลขาหน้าห้องตนเองสายตาของเลขามองไปยังด้านข้าง "คุณแม่" มือน้อยของเด็กชายตัวเล็กชี้ไปทางด้านหลัง เขาจึงเงยมอง เหมราชแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเขาลุกขึ้นยืนจับจ้องมองหญิงสาวเดินเข้ามาอย่างสง่า ลมหายใจแผ่วเบาผายออกเบาๆ อันนาเดินเข้ามาใกล้ๆ และเด็กผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปหา"อันนา" ยิ่งกว่าฟ้าผ่าลงกลาง
บทที่ 38เหมราชเดินออกมาจากบ้านของคลาสด้วยความว่างเปล่าเขาไม่ได้คำตอบจากแม่ของคลาส แต่รู้อยู่ในใจว่ายังไงต้องเป็นเขาที่ช่วยอันนาหนีไป"มึงส่งคนไปดูทีว่าคลาสไปจังหวัดไหน" ในขณะที่นั่งรถกลับเหมราชสั่งกับลูกน้องคนสนิทให้จัดการส่งคนไปดูว่าคลาสไปอยู่ที่ไหน เขาพยายามทำทุกทางและตามหาทุกที่จนกว่าจะเจอเมียกับลูก "ได้ครับนาย" ใช้เวลาเพียงไม่นานไมถึง 10 นาที ด้วยซ้ำภาพของคลาสและที่อยู่นั้นปรากฏขึ้นบนหน้าจอช่องแชทในไลน์ของมือถือเหมราช คลาสอยู่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งอยู่บ้านพักตากอากาศแต่ไม่ได้อยู่กับอันนาคนที่อยู่ด้วยนั้นคือนิตาเหมราชคิ้วขมวดเข้าหากันทำไมเพื่อนสนิทของตัวเองถึงอยู่กับผู้หญิงฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของเขา"หมายความว่ายังไงวะ…ทำไมคลาสถึงอยู่กับนิตา?"เหมราชเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิทที่ไร้คำตอบเช่นเคยเขาได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา"แล้วอันนากับลูกอยู่ไหน" เหมราชไม่ยอมหยุดที่จะตามหาภรรยาและลูกอย่างแน่นอน เขาส่งข้อความไปบอกกับท่านรองให้ช่วยตามหาอันนากับลูกให้เขา ไม่ว่าจะเสียเงินสักเท่าไรเขายอมเสียเพื่อที่จะได้เจอเมียกับลูก มือหนาทั้งสองข้างกุมเข้าหากัน เขานั่งอยู่โซฟากลางบ้านใบหน้าที่เหม่อลอยห
บทที่ 37 เรือนร่างหนาเดินออกมาท่ามกลางฝนตกหนักอย่างไร้เรี่ยวแรงใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินออกมาสู้กับสายฝนในแววตาแดงก่ำได้เพียงแต่กำหมัดทุบลงพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาได้เห็นหน้าเจ้าตัวเล็กผู้เป็นสายเลือดและดวงใจของเขาเพียงแค่ไม่กี่วัน เธอก็นั้นพาลูกหนีไปจากเขา"อันนาได้โปรดกลับมาเดี๋ยวนี้ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอกับลูกฉันขอโทษได้โปรดกลับมาหาฉัน" เสียงฟ้าที่ผ่าดังเปรี้ยงยังไม่ทำให้เหมราชตกใจหวาดกลัว เขาร้องไห้สู้กับสายฝนระบายความเจ็บปวดนั้นเป็นน้ำตามากมายทุกอย่างที่เคยหวังไว้พังทลายลงสิ้นดี บ้านหลังใหม่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างที่หวังนั้นไม่มีอีกต่อไป"กลับมาได้ไหม ฉันอยู่ไม่ได้ขอร้องพาลูกชายของฉันกลับมาเถอะนะ" หลับตาลงก็เห็นเพียงแต่ใบหน้าลูกชายตัวเล็กในอ้อมกอดเขาได้สัมผัสและจับลูกเพียงแค่ 3 วัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขานั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องเสียลูกกับเธอไปเพื่อนสนิทอย่างคลาสได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมามองเหมราชเจ็บปวดท่ามกลางสายฝน เขาเองก็ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขานั้นไปไหนพยายามถามแม่แล้วแต่ก็ไม่รู้"เหมราชมึงทำแบบนี้ร่างกายของมึงจะแย่เอานะ ทำไมไม่เก็บแรงไว้ตามหาลูกกับเมียล่ะ" คลาสทนเห
บทที่ 36 อันนาลืมตาตื่นหลังจากฤทธิ์ยาสลบนั้นหมดฤทธิ์แล้วในช่วงเวลากลางคืน เธอได้ยินเสียงของเด็กน้อยร้องอยู่ด้านข้างดวงใจของเธอที่เคยหดหู่และเจ็บปวดมานานได้ยินเสียงของเด็กน้อยนั้นมันเริ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ดีใจจนน้ำตาไหล เรือนร่างบางขยับร่างกายเตรียมที่จะลุกขึ้นแต่รู้สึกเจ็บที่หน้าท้องเพราะว่าแผลผ่าตัด"อันนาใจเย็นๆ นะ แผลจะฉีก" คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันคนที่พูดขึ้นนั้นคือเขา ผู้ชายใจร้ายที่เธอเกลียดมากที่สุดในชีวิตเขาพุ่งตัวเข้ามาประคองเธอ"มาที่นี่ทำไม" สายตาคู่น้อยกวาดมองด้วยความไม่พอใจน้ำเสียงกระชากพูดใส่เขาอย่างไม่พอยังสะบัดมือออกไม่ให้เขาจับตัวเอง"มาดูแลเมียกับลูกสิอันนา ลูกของเราน่ารักมากๆ เลยนะไม่สิเขาต้องเรียกว่าน่าเกลียดน่าชังมากๆ เลย ดูสิเขาเลี้ยงง่ายด้วย" อันนาเธอได้เพียงแต่มองหน้าเขานิ่งๆ ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่เธอเอ่ยไล่เขาและใช้อารมณ์รุนแรงไม่เขวี้ยงข้าวของใส่เขา อันนาก็มักจะเขวี้ยงข้าวของใส่เขาแต่ในครั้งนี้เธอกลับนิ่งสายตาคู่น้อยหันไปมองลูกตัวเอง "อันนาอยากเห็นลูกใกล้ๆ ใช่ไหมเดี๋ยวฉันขยับลูกเข้าไปใกล้ๆ ให้นะ" เหมราชดีใจจนเนื้อตัวสั่นเขารีบขยับลูกเข้าไปใกล้
บทที่ 35 8 เดือนผ่านไป อันนาเธอขออยู่บ้านพักต่างจังหวัดติดทะเลของป้า เธอและไม่กลับมาที่กรุงเทพฯอีกไม่ติดต่อกับนิตาเพราะยังโกรธในสิ่งที่พ่อของนิตาทำกับพ่อแม่ตัวเอง อันนาอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียวแต่มีแม่บ้านคอยแวะเวียนมาทำความสะอาดให้แทบจะทุกวัน อันนาท้องโตมาก คลาสลูกพี่ลูกน้องนั้นแวะเวียนมาบ่อยเพราะว่าพาอันนาไปฝากท้องและในทุกๆ ครั้งที่หมอนัดคลาสจะเป็นคนพาไป ส่วนเหมราชตั้งแต่วันนั้นเขาไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก ความโกรธเบาลงด้วยตามกาลเวลาแต่เธอนั้นยังไม่ลืมสิ่งที่เหมราชกระทำกับเธอได้เลย"อันนาแต่งตัวเสร็จหรือยัง วันนี้หมอนัดแต่เช้านะ" จากเด็กสาวตัวเล็กในวันนั้นกลายเป็นคุณแม่ท้องแก่ที่ท้องใหญ่มากเหมือนกับว่าได้ลูกแฝด แต่หมอดูแล้วเด็กในท้องเป็นเด็กผู้ชายไม่ใช่แฝดเพียงแต่เขาตัวใหญ่และสมบูรณ์มากน้ำหนักจึงเกินเกณฑ์ "เสร็จแล้วค่ะ…วันนี้คุณหมอบอกว่าให้เตรียมข้าวของไปด้วยเพราะว่าใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว ถ้าเกิดปากมดลูกไม่เปิดคุณหมอจะให้นอนโรงพยาบาลเพื่อที่เตรียมเข้าห้องผ่าตัดในวันพรุ่งนี้" ใบหน้าน้อยฉีกยิ้มให้กับผู้เป็นพี่ชายและสะพายกระเป๋าข้าวของที่ตนเองนั้นเตรียมไว้ออกมาด้วย"วันนี้ทำไมรอยยิ