บทที่ 12
หลังจากที่คลาสเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทและโกรธคนที่ทำกับเพลงพิณ แต่คลาสก็ไม่ใจร้ายพอที่จะให้อันนาต้องตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ เขามองเพื่อนตัวเองที่บอกว่าโกรธเกลียดอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวดูจาดแววตาก็รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ยิ่งในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นห่วงอันนาจริงๆ
เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อพ้นประตูคลาสจึงเอียงคอหันกลับไปมองเล็กน้อย
"คนที่นายเกลียดนี่แหละจะเป็นคนที่นายรักมากที่สุด! ขอให้ความรักของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้ลบล้างความแค้นออกจากใจได้นะ" เมื่อหันหน้ากลับมาเตรียมที่จะก้าวขาออกลูกน้องคนสนิทของเหมราชได้เดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเอง
สายตาของเขาเหมือนกับอยากพูดอะไรบางอย่างกับคลาส แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ คลาสจึงเอ่ยถามขึ้นเอง
"มีอะไรจะพูดกับกูหรือเปล่า??”
"ผมสงสารคุณอันนาและผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่!!”
"ความสงสารไม่ได้ทำให้มึงมีข้าวกิน การทำงานเท่านั้นที่จะทำให้มันมีข้าวกินอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย เวรกรรมต้องระงับด้วยการจองเวร" เขาพูดกับลูกน้องคนสนิทเพื่อนอย่างไม่ไยดีหลังจากพูดจบคลาสเดินออกไปข้างนอก เขามีบางอย่างที่จะทำแล้วมันจะต้องสนุกมากกว่านี้
ร่างบางนั่งร้องไห้เนื้อตัวสั่นเครือไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้หลังจากที่เพื่อนสนิทของเขานั้นเดินออกไปใบหน้าน้อยก้มมุดลงที่เข่าตัวเอง
"อยากตายมากนักหรือไง! แต่ไม่สิเธอควรตายอยู่แล้ว ฉันไม่น่าช่วยคนแบบเธอไว้เลยรู้งี้ปล่อยให้มันใส่ลูกปืนจริงๆ แล้วก็ยื่นปืนให้เธอ" ทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นเป็นคนช่วยแต่ปากกลับบอกว่าอยากให้ตาย เขาเดินมานั่งที่โซฟาจับจ้องมองเธอก่อนที่จะลุกออกมาหน้าประตู
"กูมีเรื่องที่จะต้องไปต่างจังหวัดหลายวัน ฝากดูแลด้วยแต่ไม่ต้องดูแลแบบใกล้ชิด กูบอกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เปรอะเปื้อนและสกปรกอย่าไปยุ่งกับตัวของเธอควรเชื่อฟังกูด้วย" ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นก้มหน้าให้เมื่อเจ้านายเอ่ยสั่งบอกว่าสกปรกหรือว่าหวงไม่อยากให้ลูกน้องเข้าใกล้กันแน่ ใบหน้าของลูกน้องที่จับจ้องมองเจ้านายปากแข็งเดินออกไปเขาได้เพียงแต่ยิ้มและส่ายหน้าไปมา
ลูกน้องคนสนิทของเขาเปิดประตูเข้ามาในห้องเห็นอันนาก้มหน้าลงอยู่ เขาได้เพียงแต่เดินมาใกล้ๆ และหยิบแก้วน้ำยื่นให้กับเธอ
"ไม่มีใครเขาอยากตายกันหรอกนะครับคุณอันนา ต่อให้คุณจะเจอสถานการณ์เจ็บปวดหรือว่าทุกข์ทรมานแค่ไหน ทุกคนล้วนกระเสือกกระสนเพื่อเอาชีวิตรอด! แล้วผมเชื่อว่าคนดีไม่มีวันต้องเจ็บแบบนี้ไปตลอด"
ใบหน้าน้อยเงยมองหน้าลูกน้องคนสนิทของเขาทั้งน้ำตาร่างบางสะอึกสะอื้น ยกมือเช็ดน้ำตาเบาๆ
"ก็คงจะมีแต่คุณที่คอยให้กำลังใจ แต่ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ฉันเจ็บ"
“แล้วคุณไปทำน้องสาวของเขาก่อนทำไม"
"ฉันไม่ได้ทำ…”
ดวงตาคู่น้อยเบิกกว้างเธอจะหลุดพูดคำว่าไม่ได้ทำ ก่อนที่จะยกมือปิดปากของตัวเองเอาไว้ร่างบางกำลังจะเอ่ยเถียงลูกน้องคนสนิทของเขาแต่ดันหลุดพูดความจริง
"คุณหมายความว่ายังไง คุณไม่ได้เป็นคนทำอย่างที่ผมสงสัยมันเป็นความจริงใช่ไหมคุณพูดมาสิ เอาคนที่ทำมาคุณจะได้หลุดพ้นสักที คุณอยากเจ็บตัวแบบนี้ไปตลอดเลยหรือไง"
อันนาส่ายหน้าไปมาได้เพียงแต่โทษตัวเองที่หลุดพูด
"มันไม่ใช่อย่างนั้นฉันพูดผิด ขอบใจนะแต่ออกไปได้แล้วฉันอยากอยู่คนเดียว" เธอรับแก้วน้ำจากลูกน้องคนสนิทของเขามาพร้อมกับผายมือให้เขาไปข้างนอก
"นายบอกว่าไม่อยู่หลายวัน ในช่วงเวลานี้คุณอันนาก็ใช้เวลาที่เขาไม่อยู่พักผ่อนนะครับ แล้วก็กินอะไรลองท้องเพื่อที่จะได้มีแรง! ถ้านายตั้งใจที่จะฆ่าคุณจริงๆ นายคงไม่ปล่อยให้คุณอยู่มาถึงทุกวันนี้และคงไม่พาคุณมารักษาตัวที่โรงพยาบาล"
"หยุดพูดถึงเขาสักที ฉันเกลียดเขาเกลียดมาก! แล้วจำเอาไว้เลยว่าชาตินี้ฉันจะไม่มีวันให้อภัยผู้ชายแบบเขา"
คิดเหรอว่าคนเจ้าเล่ห์แบบเหมราชจะเดินออกไปจริงๆ เขาแอบฟังลูกน้องคนสนิทกับอันนาคุยกันอยู่หน้าห้อง
"หึ! เธอต้องเข้าใจไม่ใช่เธอมาเกลียดฉันเพราะฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม" ถ้าไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปธุระต่างจังหวัดเขาคงไม่ปล่อยให้เธออยู่กับลูกน้องคนสนิทอย่างแน่นอน
เหมราชมารับคลาสเพราะว่าทั้งสองคนได้นัดกันเอาไว้แล้วในวันนี้มีประชุมมาเฟียครั้งใหญ่และต้องเข้าคลังกันทุกคน ถ้าใครไม่ไปถือว่าพลาดวันนี้กรณ์พ่อของอันนาจะต้องไปอย่างแน่นอนและพวกเขาทั้งสองคนต้องได้เยาะเย้ยและเหยียบย่ำกรณ์
เมื่อมาถึงสถานที่นี่คือร้านอาหารสุดหรูย่านพัทยา ในวันนี้กลุ่มแก๊งมาเฟียนัดกันดื่มฉลองและเข้าประชุมกันที่นี่
ทุกคนอยู่กันครบในขณะที่คลาสกับเหมราชเดินเข้าไปสายตาของกรณ์ที่นั่งมองอยู่นั้นไม่พอใจเขากำหมัดเข้าหากันพยายามไม่แสดงอาการได้เพียงแต่กัดฟันเพื่อระบายความโกรธ
"สวัสดีครับทุกคนมารอกันนานหรือยัง" มือหนาทั้งสองข้างค้ำลงบนโต๊ะอาหารสุดหรูคลาสใช้สายตาเจ้าเล่ห์กวาดมองทุกคนและหยุดชะงักตรงกรณ์
"เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรให้ผู้ใหญ่มารอนาน ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ควรมีอำนาจและบารมี" กรณ์รู้ตัวเองดีว่ากำลังพูดอยู่กับใครผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เพียงมาเฟียวัยรุ่นทั่วไปแต่เป็นถึงลูกคนใหญ่คนโตและมีอำนาจเหนือกว่าแม้กระทั่งท่านรอง
"จุ๊ๆ ไม่เป็นอันธพาลสิหมาแก่ อุ๊ยไม่ใช่คนแก่" เริ่มมีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากคนรอบข้างและเสียงหัวเราะที่ดังลั่นนั้นคือคลาส
"ควรให้เกียรติกูด้วยนะ กูแก่รุ่นพ่อมึงแล้ว"
"มึงไม่มีสิทธิ์พูดถึงพ่อกู! หรือว่ามึงไม่อยากมีแม้แต่ชื่ออยู่ในคลัง"
เขาต้องเงียบให้กับเด็กหนุ่มหน้าใหม่ที่เพิ่งถูกแต่งตั้งขึ้นมาเป็นมาเฟีย ถ้ายังขืนต่อปากต่อคำคนที่เสียก็คือเขาเอง
ในขณะที่นั่งประชุมสายตาของเหมราชที่จับจ้องมองกรณ์และแสดงใบหน้าเยาะเย้ยยกยิ้มด้วยมุมปากใช้ปากกาควงไปมาจนกระทั่งเขารู้ตัวและหันกลับมามองหน้าเหมราช
"มึงยังต้องการอะไรกับกูอีกเล่นไม่ซื่อเอาเพื่อนมาเล่นกูเหรอ" คนที่ทำอะไรไม่ได้ได้เพียงแต่เอ่ยถามด้วยความโกรธ กรณ์มองอยู่นานว่าเหมราชจ้องตัวเองจึงเอ่ยพูดขึ้นในขณะที่ประชุม
"จุ๊ๆ เป็นมาเฟียมาจนแก่แล้วยังไม่รู้จักมารยาทในขณะที่เขาประชุมอยู่อีกเหรอ เป็นแบบนี้ไม่สมควรนะ ออกไปเลี้ยงควายดีหรือเปล่า" เหมราชใช้แววตาเยาะเย้ยยกยิ้มด้วยมุมปากหลังจากที่พูดวิจารณ์กรณ์จบเขาดีดตนเองลุกขึ้นทันทีในขณะที่ประชุม
"กรณ์คุณไม่ควรทำแบบนี้ผมกำลังประชุมอยู่" ท่านรองเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเข้มในแววตาและใบหน้าของเขาไม่พอใจที่กรณ์ดันไม่มีมารยาทลุกขึ้นยืนในขณะที่เขากำลังพูดเรื่องประชุม
"หึ! ผมบอกแล้วไงท่านรองว่าหมาแก่ตัวนี้ไม่สมควรอยู่"
"มึงไม่สมควรเรียกกูว่าหมา! พ่อมึงสิเป็นหมา" กรณ์หมดความอดทนกับความกวนประสาทและคำพูดด่าของคลาสไม่ไหวจึงชี้หน้าด่าโชว์ทุกคนแม้กระทั่งท่านรองที่ยืนมองอยู่
ท่านรองตกใจในที่ประชุมนี้ไม่ได้มีแค่เขายังมีพ่อของคลาสที่มองผ่านกล้องออนไลน์ถึงแม้ว่าไม่ปรากฏตัวให้กับทุกคนได้เห็น แต่เขามีอำนาจเพียงสั่งแค่คำเดียวทุกคนต้องทำตาม
( เมื่อกี้กูได้ยินใครบอกกูว่าเป็นหมา ถ้าไม่เคารพแล้วให้เกียรติกูขนาดนี้ต่อไปนี้มึงก็เป็นศัตรูกับกูเชิญออกไปจากคลังของกูและไม่ต้องกลับเข้ามาให้กูเห็นหน้าอีก อำนาจและบารมีที่กูเคยแต่งตั้งให้มึงจะไม่เหลือแม้แต่อย่างเดียว ) กล้องออนไลน์ได้หันมาจ้องกรณ์เขาเงยขึ้นจับจ้องมองกล้องและได้ยินเสียงคำสั่งจากเบื้องบนในตอนนี้กรณ์ไม่เหลืออำนาจและบารมีอะไรเลยแถมทั้งยังถูกไล่ออกจากคลังเป็นไปตามที่คลาสและเหมราชต้องการ
ขาของเขาแทบก้าวไม่ออกอยากจะทรุดตัวลงตั้งแต่หนุ่มจนแก่เขาพยายามที่จะไต่เต้าเลื่อนตนเองขึ้นสูงสุดท้ายต้องมาถูกรุ่นลูกปิดจบโดยการเขี่ยลง
"ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่ผมเพียงเพราะลูกชายของคุณปั่นประสาท" กรณ์เงยหน้าขึ้นมองกล้องพร้อมกับเอ่ยเถียง เขาไม่ยอมที่จะออกไปจากคลังนี้ง่ายๆ และไม่ยอมยกบัลลังก์ตัวเองให้ใคร
"กูไม่รู้จะพูดอะไรเพราะคนหน้าด้านมักจะไม่ยอมเสียของที่ตัวเองรัก มึงด่ากูก่อนแล้วกูไม่ได้เป็นคนเริ่มเชิญออกไปจากคลังของกูก่อนที่มึงจะไม่เหลืออะไรแม้แต่ร่างกายของลูกสาวมึง"
เมื่อพูดถึงลูกสาวกรณ์ต้องยอมก้มหน้ารับความจริง ถ้าไม่อย่างนั้นลูกสาวของเขาคงไม่ปลอดภัยเมื่อเดินออกมาจากคลัง กรณ์ไม่กลับบ้านเขาขึ้นไปดื่มในห้อง VIP เพื่อระบายความเครียดในขณะที่ลูกน้องคนสนิทนั้นยืนเฝ้าดูแลความปลอดภัย ชายหนุ่มทั้งสองคนทั้งคลาสและและเหมราชได้เดินเข้าไป ลูกน้องคนสนิทของเขาจึงเดินออกมาขวางสายตาของกรณ์กวาดมองด้วยความเกลียด
"พวกมึงมาทำไม แค่นี้พวกมึงยังทำให้กูตกต่ำไม่พออีกเหรอ" กรณ์ควักปืนออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังตัวเองชี้ไปที่เหมราชเป็นคนแรก
"เจอเรื่องแค่นี้ไปถึงกับนั่งดื่มเหล้าคนเดียวเลยเหรอ! กูบอกแล้วไงว่ากูจะทำให้ครอบครัวของมึงฉิบหายจนไม่เหลืออะไร กูจะทำให้ลูกของมึงตายทั้งเป็น! เหมือนกับที่ลูกของมึงฆ่าน้องสาวกู"
"มึงควรหยุดได้แล้วไม่ใช่หรือยังไง มึงได้ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้วมึงหยุดได้แล้ว”
น้ำเสียงสั่นเครือกับปลายกระบอกปืนที่ควงไปมาชี้หน้าของเหมราชและเอ่ยถาม
"อาจจะยังไม่พอก็ได้ดูเหมือนว่ายังเหลือลูกสาวอีกคนไม่ใช่เหรอ ถึงแม้ว่าจะหมั้นไปแล้วแต่มันก็สนุกดีนะ ถ้าพรากผัวเมียออกจากกัน"
"อย่านะเว้ย….อย่ายุ่งกับนิตา" อาการของกรณ์ยิ่งเหมือนกับคนที่หวงนิตามากกว่าอันนาจึงทำให้เหมราชรู้สึกสนุกกับบางอย่าง
"เอ๊~ดูเหมือนว่าจะหวงลูกสาวคนเล็กมากกว่าคนโตนะ แบบนี้น่าสนุกมากกว่าเดิมอีกนะคลาส"
"พวกมึงจะย่ำยีอะไรกูหนักหนา พวกมึงก็ได้ไปทุกๆ อย่างแล้วเลิกแล้วต่อกูสักที!!!"
"ฮ่าๆ ไปดีกว่าเพื่อนไปหาดื่มฉลองให้กับตำแหน่งใหม่ดีกว่า" คลาสยกมือกอดคอเหมราชและพากันเดินออกมาจากกรณ์ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยใส่คนที่กำลังเสียใจที่สูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งอำนาจและบารมี
"โถ่เว้ย!!!!!"
บทที่ 13 กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง "คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง "เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตั
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 16 อันนารู้สึกเกลียดตัวเองในขณะที่เธออยู่ในห้องน้ำมือน้อยกำหมัดและทุบลงไปที่อ่างล้างหน้าได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเมื่อคืนเธอถึงเผลอตัวเผลอใจให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่เขาโกรธและเกลียดเธอมากยิ่งรู้สึกน้อยใจเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเขาบอกว่าเกลียดตัวเองทั้งที่บอกรักเธอมื้อคืนนี้ เรือนร่างบางจับจ้องมองตัวเองในกระจกร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวและยังมีรอยช้ำมากมายบนผิวกาย ได้เพียงแต่ถามตัวเองว่าถูกเขากระทำขนาดนี้ทำไมถึงยังรู้สึกดีกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อยู่ เหมราชลงมาด้านล่างนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจ "ขอโทษค่ะ ป้าหนูไปตามแล้วคนสวนไม่ว่างมาจริงๆ จะให้หนูทำยังไง" ในขณะที่เหมราชนั่งดื่มกาแฟอยู่นั้นได้ยินเสียงแม่บ้านกำลังคุยกันและเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับคนสวนที่ไม่มาทำงานเหมราชจึงลุกขึ้นเดินตรงมาหาป้าแม่บ้านพร้อมกับแม่บ้านอีกคนที่เข้ามารายงาน"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้า" ป้าแม่บ้านคนนี้อยู่ที่นี่มานานจนเหมราชเรียกว่าป้า"ก็คนสวนสิคะ เบี้ยวแถมทั้งยังโกงเงินไปเป็นพันให้มาใช้หนี้โดยการตัดหญ้าก็ไม่ยอมมา ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ" เหมราชพยักหน้าให้กับป้าแม่บ้านเงินพันเดียวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลย"ช่างเถ
บทที่ 17 หญิงสาวคนสวยเธอชื่อควีนเป็นเพื่อนสนิทของเหมราชและคลาสตั้งแต่สมัยเรียน วันนี้เธอไปเซอร์ไพรส์คลาสที่บ้านก่อนที่จะให้คลาสพามาเซอร์ไพรส์เหมราช ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกว่าคนอื่นมักจะโทรคุยกันอยู่เรื่อยๆ ควีนเธอเคยมีใจให้กับเหมราชแต่หยุดความสัมพันธ์กลัวว่าจะเสียเพื่อน ทั้งสามจึงเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดแต่คนที่สนิทกันและรักกันมากคือเหมราชกับคลาส "ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าวันนี้จะโดนเซอร์ไพรส์ดีใจมากๆ เลยนะที่มาหา" เหมราชขยับเข้าไปใกล้ๆ ควีนโดยที่ใช้มือนั้นโอบกอดไหล่เหมือนกับสมัยเรียน แต่ว่าสายตาของเธอที่มองมือของเหมราชนั้นไม่ได้คิดเพียงแค่เพื่อนใบหน้าน้อยแดงระเรื่อพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นดั่งกับคนที่เขินอาย"ยิ้มแบบนี้อย่าบอกนะว่าเขินเหมราชมัน" คลาสเอ่ยแซวควีนเพื่อนของตัวเองจนเขานั้นต้องถูกควีนตีเอา "พูดอะไรเพื่อนกันต่างหากป่ะ อื้อลืมถามเลยในตอนที่เรามาผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพื้นเธอเป็นใครเหรอ แล้วเธอโดนอะไรทำไมสภาพถึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เหมราชกับคลาสหันมองหน้ากันในขณะที่ควีนเอ่ยถามถึงอันนา"ไม่มีอะไรหรอกแค่คนใช้ที่นั่งล้างอ่างปลาเท่านั้น" อันนาเธอเดินออกมาหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูด
บทที่ 18 หลังจากที่ควีนและเหมราชทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอนที่ห้องของแต่ละคน เมื่อเขานอนลงกลับรู้สึกกระสับกระส่ายและร้อนวูบวาบราวกับว่าตัวเองนั้นมีอารมณ์เกิดขึ้นๆ แท่งเอ็นร้อนของเขานั้นก็พองตัวขึ้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้ "หรือว่าฉันจะเสพติดร่างกายของเธอแล้วนะ" เสียงหายใจหืดหอบยิ่งพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้นแต่มันก็ฟุ้งซ่านจนทำให้เขาจับเข้ายังเป้าของตัวเอง ร่างหนาลุกขึ้นเดินมายังหน้าต่างเพื่อก้มมองไปที่ห้องของอันนาเห็นเธอนั่งอยู่หน้าห้อง เขาไม่รอช้าที่จะพุ่งตัวเตรียมออกมาหาแต่ทันใดที่เปิดประตู เขาเห็นควีนเพื่อนของตนเองนั้นยืนอยู่เธอสวมใส่ชุดนอนสายเดี่ยวบางๆ จนมองเห็นแทบจะทะลุเนื้อ เหมราชหลบสายตาของเพื่อนเขายิ่งครวญคิดสิ่งที่ไม่ดีแถมทั้งอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นอยากจะดึงเรือนร่างสวยของเพื่อนเข้าไปกระทำ "เป็นอะไรหรือเปล่าเหมราชทำไมเหงื่อถึงเต็มใบหน้าขนาดนั้น" เรือนร่างบางขยับเข้ามาใกล้ๆ เพื่อน เธอใช้ความสวยอ่อยและทันใดที่เอ่ยถามหลังมือของเธออันนุ่มสัมผัสเข้ายังหน้าผากของเหมราช "เดี๋ยวมานะ" เหมราชฟุ้งซ่านกลัวจะหักห้ามใจไม่ไหว เขารีบดันตัวของควีนเพื่อนสนิทของตนเองนั้น
บทที่ 19 ลำตัวหนาดีดออกจากร่างบางสายตายังคงจับจ้องมองเรือนร่างบางและช่วงล่างที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยน้ำกามของเขาไหลออกมาจากรูน้อย "ผู้หญิงแบบเธอมันน่าสมเพชจริงๆ นี่ เธอร่านจนต้องเอายาปลุกเซ็กส์ให้กับฉันกินเลยเหรอ มันยังไม่สาแก่ใจเหรอที่ฉันเอาเธออยู่ทุกวัน" ความผิดที่เธอไม่ได้ทำแต่ถูกกล่าวหาพร้อมทั้งคำพูดที่ต่อว่าด่าทอรุนเเรง"แน่ใจเหรอคะ ว่าฉันเป็นคนทำฉันจะไปเอายาปลุกเซ็กส์พวกนั้นมาจากที่ไหนวันๆ ฉันอยู่แต่ในห้องอยู่แต่ในบ้าน" มือน้อยคว้าจับผ้าห่มปกคลุมเรือนร่างของตัวเอง เธอขยับลุกขึ้นเอ่ยเถียงเขาด้วยแววตาแดงก่ำ แต่ทันใดนั้นมือหนาคว้าจับปลายคางของเธอบีบเอาไว้"ไม่มีสิทธิ์เถียงกู!! จำเอาไว้ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตไม่มีวันที่คนแบบกูจะให้อภัยฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวตัวเอง" คำต่อว่าให้เธอเพียงเท่านั้นและเขาปล่อยมือออกจากตัวเธอ เข้าไปในห้องน้ำส่วนเธอนั้นได้เพียงแต่นั่งร้องไห้ ทำไมตัวเองต้องหวั่นไหวกับผู้ชายใจร้ายคนนี้ ทำไมเธอต้องน้อยใจในคำพูดด่าทอของเขาที่รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่มีวันเป็นไปได้ ร่างบางนั่งมองผ้าปูที่นอนที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบเลือด เธออดที่จะมองไม่ได้จึงลุกขึ้นดึงผ้าปูที่นอนนั้
บทที่ 20 อันนารู้สึกหิวน้ำเธอจึงเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเหยือกน้ำในห้องแต่เธอต้องหยุดชะงัก เมื่อออกมาเจอคนใจร้ายที่ตนเองหวั่นไหวและรู้สึกดีกอดอยู่กับผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่จ้องจะเอาเขาทำสามีทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันในขณะที่เขาทั้งคู่ยืนโอบกอดกันแน่นดั่งคู่รักร่างบางได้เพียงแต่เงียบอยู่ๆ น้ำตาไหลเอ่อล้นทำไมจะต้องหวงหึงผู้ชายคนนี้ด้วย เธอได้เพียงแต่ถามตัวเองจนกระทั่งมือน้อยเผลอปล่อยเหยือกน้ำตกร่วงลงพื้นเสียงเพร๊งดังสนั่นเมื่อเหยือกน้ำในมือของอันนานั้นร่วงหลุดลงพื้นเหมราชกับควีนรีบดีดตัวออกจากกันด้วยความตกใจ เหมราชหันไปมองเสียงที่เกิดขึ้นเห็นเป็นอันนา เขารีบดีดตนเองออกจากเพื่อน เหมือนดั่งว่ากลัวอันนานั้นเข้าใจผิดทั้งๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องแก้ตัวก็ได้"ขอโทษค่ะ…พอดีว่าจะมาเอาน้ำ" อันนารีบก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายทั่วพื้น เธอทำท่าทีรนจนเศษแก้วนั้นบาดมือ "โอ๊ย!"ร่างน้อยสะดุ้งจนตัวโยกปลายนิ้วมือของเธอเต็มไปด้วยเลือด เหมราชส่ายหน้าไปมาเขาเดินมามองใกล้ๆ พร้อมกับเปิดไฟสว่างทั่วบ้าน"ทำบ้าอะไรเนี่ยเลือดออกขนาดนี้มานี่ไม่ต้องเก็บเอาไว้ให้คนอื่นเก็บ" แขนน้อยถูกจับกระชากให้ลุ