บทที่ 13
กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง
"คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว
กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง
"เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย
"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตัวเองยังไม่มีปัญญาเลยเหรอ"
ดวงตาคู่น้อยเบิกกว้างน้ำตาไหลเอ่อล้น พ่อของเธอไม่เคยเอ่ยว่าให้เจ็บปวดหรือพูดแทงใจดำเลยสักครั้ง แต่ในครั้งนี้ทั้งโกรธและโมโหตะคอกใส่จนเรือนร่างบางสะดุ้ง
"รู้ไหมว่าสิ่งที่นิตาก่อไว้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันนาน้องสาวของนิตาต้องไปชดใช้ในสิ่งที่ไม่ได้ทำในตอนนี้ชีวิตของเธอเหมือนตายทั้งเป็น ทุกข์ทรมานทุกอย่างสภาพในตอนนี้ไม่แตกต่างอะไรจากหมาจรจัดอยู่ในอุ้งมือของคนชั่ว
นิตานั่งคุกเข่าลง สองมือกุมใบหน้าก้มร้องไห้เธอเสียใจที่เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่านิตานิ่งนอนใจที่เห็นอันนาผู้เป็นน้องสาวทุกข์ทรมาน แต่เธอไม่สามารถช่วยได้เลยแม้แต่อย่างเดียว
"ไม่ใช่ว่านิตาเห็นน้องสาวตัวเองทุกข์ทรมานแล้วไม่คิดจะทำอะไร เเต่พยายามแล้วทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณพ่อบอก ถึงแม้ว่าคุณพ่อของฝ่ายนั้นจะมีอำนาจแต่เขาไม่สามารถช่วยเราได้" กรณ์เหลียวมองหน้าลูกสาวตัวเองหมายความว่านิตาไปบอกกับพ่อฝ่ายนู้นแล้วหรืออย่างนั้นเหรอ
"หมายความว่ายังไง"
"นิตาขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อฝ่ายนั้นแล้วเขาบอกว่าสามารถช่วยนิตาได้เพียงแค่คนเดียว"
กรณ์รู้สึกโล่งใจอย่างน้อยลูกสาวที่ตนเองรักก็อยู่ก็จะปลอดภัยต่อให้ต้องสูญเสียอำนาจบารมีที่เคยสร้างมาแต่ยังไงชีวิตของลูกสาวก็สำคัญกว่า
"นิตาขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ นิตาไม่ได้ตั้งใจ" มือน้อยทั้งสองข้างพนมมือไหว้ผู้เป็นพ่อเอ่ยคำขอโทษทั้งน้ำตา ถ้าเธอย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ทำเพลงพิณให้ถึงแก่ความตายเลย
ผู้เป็นพ่อเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ ลูกสาว เขานั่งยองๆ ลงพร้อมกับดึงเรือนร่างบางเข้าไปโอบกอดเธอผู้นี้ดั่งหัวใจดวงน้อยของเขายอมสูญเสียทุกอย่างได้แต่ไม่ใช่ลูกสาว
"พ่อสูญเสียทุกอย่างแล้วต่อจากนี้ไปลูกก็ดูแลตัวเองอย่าให้ใครทำร้ายหรือว่ายอมใครนะนิตา" เธอรู้สึกจุกอกเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อที่เอ่ยบอกราวกับว่าเอ่ยลาเธออย่างนั้น เรือนร่างบางใจคอไม่ดีจึงจับเข้าที่ต้นแขนของคุณพ่อตัวเองจับจ้องมองหน้าในแววตานั้นเคว้งคว้างดั่งคนที่สูญเสียสิ่งที่เคยเป็นของตัวเอง
"คุณพ่อพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ไม่ใช่อย่างที่นิตาคิดใช่ไหม ของทุกอย่างที่เสียไปเดี๋ยวเราก็ได้คืนมา คุณพ่ออย่าทิ้งนิตาไปไหนนะ" เขาไม่พยักหน้าหรือรับปากลูกสาวได้เพียงแต่ยิ้มและยกมือหนาลูบหัวของเธอเบาๆ
ในดวงตาคู่ร้ายเคยโหดร้ายกับทุกๆ อย่างยกเว้นลูกสาวที่แสนดี เขายิ้มทั้งน้ำตาที่เห็นใบหน้าของลูกสาวผู้เป็นดวงใจตัวเอง
"พ่ออยากให้นิตามีชีวิตที่ดีนะลูก อยากให้ลูกเจอคนที่ดีและดูแลลูกได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง แต่ถ้ามีโอกาสอยากให้นิตาพาน้องออกมาจากขุมนรกนั้น"
ทั้งสองพ่อลูกกอดกันร้องไห้หมดปัญญาและหนทางที่จะพาอันนาออกมาจากคนชั่วนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาขี้ขลาดโดยเฉพาะนิตาที่กลัวตัวเองจะต้องรับโทษ
ตัดมาด้านของอันนา
เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสสำหรับร่างบางที่ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อนึกคิดถึงเรือนร่างของตนเองที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระทำของเขาทำให้ใบหน้าที่ซีดเซียวได้เพียงแต่เหลียวมองออกไปข้างนอกหน้าต่างพร้อมกับความหม่นหมองที่อยู่ภายในจิตใจ
เมื่อเธอลุกขึ้นนั่งที่เตียงประตูห้องก็ถูกเปิดทันทีอันนาตกใจคิดว่าเป็นเขานั่นกลับมา แต่กลับเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาเข้ามาพร้อมกับของกินมากมาย
"ผมเอาของกินเข้ามาให้…วันพรุ่งนี้นายก็กลับแล้ว"
อันนาถอนหายใจเสียงทุ้มเมื่อพูดถึงคนใจร้ายจะกลับมาในวันพรุ่งนี้
"ขอยืมโทรศัพท์คุยกับน้องสาวหน่อยได้ไหม" คำพูดติดขัดที่เอ่ยเรียกนิตาว่าน้องสาวเพราะความเป็นจริงแล้วเธอคนนั้นคือพี่สาวต่างหาก ใบหน้าน้อยจับจ้องมองลูกน้องคนสนิทของเขาเอ่ยขอยืมเพื่อคุยกับคนที่บ้านและเขาไม่ใช่คนใจร้ายรีบพยักหน้าให้กับอันนาทันที
"ได้สิครับอย่างนั้นผมไปนั่งรอหน้าห้อง ถ้าผมเคาะประตูรีบเก็บโทรศัพท์นะนายอาจจะมาก่อนเวลาอันนี้ผมแค่เดา" เธอที่ยิ้มพร้อมกับมือทั้งสองข้างพนมไหว้เพื่อขอบคุณลูกน้องคนสนิทของเขา
เมื่ออันนาได้โทรศัพท์เธอกดโทรหาเบอร์พี่สาวตัวเองที่จำได้ขึ้นใจ
"โทรมาทำไมเบอร์แปลกไม่จำเป็นต้องโทรมาเบอร์ฉันรู้ไหมว่าฉันเครียดขนาดไหนยังต้องมาวุ่นวายกับโทรศัพท์มือถืออีก" เมื่อนิตากดรับสายเธอพูดใส่โทรศัพท์โดยที่ไม่ฟังว่าใครเป็นคนโทรมา
"นิตา" ดูเหมือนว่าไปสายจะตกใจจนเงียบเมื่อได้ยินเสียงอันนาที่เอ่ยเรียกชื่อตัวเอง
"อันนาจริงๆ เหรอ"
"อื้อ ตอนนี้อยู่กับใครอยู่กับคุณลุงหรือเปล่า"
"ฮื่อๆ ไม่ได้อยู่คุณพ่ออยู่บนห้องยังไม่ยอมลงมา ฮื่อๆ อันนานิตาขอโทษขอโทษจริงๆ ขอโทษที่อันนาต้อง…”
"ไม่เป็นไรหรอกนิตาเรื่องมันผ่านมาแล้วอีกอย่างอันนาเต็มใจยอมรับผิดเองไม่ต้องโทษตัวเองนะ" มือน้อยยกขึ้นปาดน้ำตาตนเองในขณะที่คุยกับพี่สาวเธอเต็มใจยอมรับผิดเพราะอยากตอบแทนบุญคุณของลุงและพี่
"คุณพ่อตอนนี้อาการแย่ เขาโดนปลดออกจากคลังไม่มีอำนาจและบารมีเหมือนเมื่อก่อน คุณพ่อไม่ทานอะไรเลยอันนา ฮื่อๆ เป็นเพราะว่าฉันที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้เป็นเพราะว่าฉันทำให้ครอบครัวต้องพังทำให้คุณพ่อต้องสูญเสีย ฮื่อๆ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วอันนา"
นิตาร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกความจริงกับอันนาและเธอเองก็ตกใจทำไมครอบครัวถึงพังจนไม่เหลือชิ้นดี
"มันเกิดอะไรขึ้นอันนาทำไมคุณลุงถึงโดนปลดทุกอย่าง"
"เป็นเพราะว่าพี่ชายของเพลงพิณ ฮื่อๆ คุณพ่อไม่เหลืออะไรแล้วในตอนนี้ท่านไม่ยอมกินอะไรเมื่อวานท่านเอ่ยสั่งเสีย ฮื่อๆ นิตากลัว กลัวว่าจะเสียคุณพ่อไป" อันนาเงยหน้าขึ้นปาดน้ำตาตัวเองเขายังไม่ยอมหยุดที่จะทำร้ายครอบครัวของเธอแม้กระทั่งเขาเอาตัวเธอมาทรมาน แต่มันก็ยังไม่สาแก่ใจจนทำครอบครัวของเธอไม่เหลือชิ้นดี ลุงผู้มีบุญคุณต้องสูญเสียบัลลังก์จนตรอมใจไม่ยอมกินข้าว
"ใจเย็นๆ นะ นิตาทางออกไม่ใช่การฆ่าตัวตายมันต้องมีหนทางสักทางสิ ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงอันนานะดูแลคุณลุงให้ดีอันนาเชื่อว่าสักวันเราทั้ง 3 คน จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน"
หลังจากวางสายเธอคืนโทรศัพท์ให้กับลูกน้องของเขา ได้เพียงแต่นั่งจับช้อนข้าวเขี่ยไปมาพยายามกินแล้วแต่กลืนอะไรไม่ลงนอกจากน้ำ
ในขณะที่สายตาของเธอนั้นดูเคว้งคว้างมองไปยังหน้าจอทีวีข่าวบันเทิงออกเกี่ยวกับลุงของเธอ ว่ากรณ์ผู้มีอิทธิพลโดนปลดแถมทั้งยังล้มละลายไม่เหลือแม้แต่บ้าน
"ฮื่อๆ เจ้านายของคุณใจร้ายมากเลยนะ" มีเพียงแค่คำว่าให้กับเขาผ่านลูกน้องดวงตาคู่น้อยน้ำตาไหลริน เธอทำอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว
"ผมขอให้คุณสู้สักวัน คุณจะเจอทางออกที่ดี"
ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นได้เพียงแต่ให้กำลังใจเธอพูดได้เพียงแค่คำปลอบใจเท่านั้น
หลังจากอันนาได้ออกจากโรงพยาบาล เขาพาเธอกลับมาที่บ้านส่วนเหมราชถึงกำหนดกลับวันนี้แต่น่าจะกลับมาในช่วงเย็น
"คุณผู้หญิงคะ ทานข้าวหน่อยเถอะ คุณไม่ทานข้าวตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลแล้วเดี๋ยวจะแย่ลงไปอีกนะ" ป้าแม่บ้านผู้หวังดีได้ยกข้าวต้มมาให้กับอันนาและบอกให้ทานข้าวบ้างแต่อันนาส่ายหน้าไปมา
"ขอบคุณนะคะป้า เขาไม่ได้อยากให้อันนาอยู่เขาแค่อันนาตายทุกอย่างมันก็จบ" ใบหน้าเหม่อลอยหลั่งไหลน้ำตาไม่มองแม้กระทั่งป้าแม่บ้านที่เอ่ยคุยด้วย
"ป้าขอตัวก่อนนะคะ" เธอไม่เห็นว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไร เหมราชยืนมองอันนาอยู่หน้าประตูและเผอิญป้าแม่บ้านหันไปเจอพอดีจึงคลานถอยหลังรีบออกไป
"ป้ายังไม่ไปอีกเหรอคะ อันนาขอถามป้าหน่อยได้ไหมว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะยอมรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากมายขนาดนี้ได้ยังไง ฮึ๊ก!”
เมื่อเหมราชเห็นจึงยืนนิ่งฟังสิ่งที่อันนาพูดหมอที่รักษาเธอได้บอกก่อนหน้านี้แล้วว่าอันนาจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าหรือว่าอาการเริ่มแรกเกิดขึ้นแล้วกันแน่
"ในวันที่สูญเสียพ่อแม่ก็เป็นวันที่เจ็บปวดแล้ว แต่ทำไมในวันนี้มันเจ็บปวดมากกว่า" เรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดถึงตัวเองจนคนตัวโตคิ้วขมวดเข้าหากันสูญเสียผู้เป็นพ่อและแม่อย่างนั้นเหรอ???”
เลิกยัง? เลิกโง่ยังพ่อใหญ่5555ไปค่ะไปตำอีบุ๊คให้มันจบๆ
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 16 อันนารู้สึกเกลียดตัวเองในขณะที่เธออยู่ในห้องน้ำมือน้อยกำหมัดและทุบลงไปที่อ่างล้างหน้าได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมเมื่อคืนเธอถึงเผลอตัวเผลอใจให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆ ที่เขาโกรธและเกลียดเธอมากยิ่งรู้สึกน้อยใจเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเขาบอกว่าเกลียดตัวเองทั้งที่บอกรักเธอมื้อคืนนี้ เรือนร่างบางจับจ้องมองตัวเองในกระจกร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวและยังมีรอยช้ำมากมายบนผิวกาย ได้เพียงแต่ถามตัวเองว่าถูกเขากระทำขนาดนี้ทำไมถึงยังรู้สึกดีกับผู้ชายใจร้ายคนนี้อยู่ เหมราชลงมาด้านล่างนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจ "ขอโทษค่ะ ป้าหนูไปตามแล้วคนสวนไม่ว่างมาจริงๆ จะให้หนูทำยังไง" ในขณะที่เหมราชนั่งดื่มกาแฟอยู่นั้นได้ยินเสียงแม่บ้านกำลังคุยกันและเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับคนสวนที่ไม่มาทำงานเหมราชจึงลุกขึ้นเดินตรงมาหาป้าแม่บ้านพร้อมกับแม่บ้านอีกคนที่เข้ามารายงาน"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับป้า" ป้าแม่บ้านคนนี้อยู่ที่นี่มานานจนเหมราชเรียกว่าป้า"ก็คนสวนสิคะ เบี้ยวแถมทั้งยังโกงเงินไปเป็นพันให้มาใช้หนี้โดยการตัดหญ้าก็ไม่ยอมมา ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ" เหมราชพยักหน้าให้กับป้าแม่บ้านเงินพันเดียวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลย"ช่างเถ
บทที่ 17 หญิงสาวคนสวยเธอชื่อควีนเป็นเพื่อนสนิทของเหมราชและคลาสตั้งแต่สมัยเรียน วันนี้เธอไปเซอร์ไพรส์คลาสที่บ้านก่อนที่จะให้คลาสพามาเซอร์ไพรส์เหมราช ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกว่าคนอื่นมักจะโทรคุยกันอยู่เรื่อยๆ ควีนเธอเคยมีใจให้กับเหมราชแต่หยุดความสัมพันธ์กลัวว่าจะเสียเพื่อน ทั้งสามจึงเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดแต่คนที่สนิทกันและรักกันมากคือเหมราชกับคลาส "ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าวันนี้จะโดนเซอร์ไพรส์ดีใจมากๆ เลยนะที่มาหา" เหมราชขยับเข้าไปใกล้ๆ ควีนโดยที่ใช้มือนั้นโอบกอดไหล่เหมือนกับสมัยเรียน แต่ว่าสายตาของเธอที่มองมือของเหมราชนั้นไม่ได้คิดเพียงแค่เพื่อนใบหน้าน้อยแดงระเรื่อพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นดั่งกับคนที่เขินอาย"ยิ้มแบบนี้อย่าบอกนะว่าเขินเหมราชมัน" คลาสเอ่ยแซวควีนเพื่อนของตัวเองจนเขานั้นต้องถูกควีนตีเอา "พูดอะไรเพื่อนกันต่างหากป่ะ อื้อลืมถามเลยในตอนที่เรามาผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพื้นเธอเป็นใครเหรอ แล้วเธอโดนอะไรทำไมสภาพถึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เหมราชกับคลาสหันมองหน้ากันในขณะที่ควีนเอ่ยถามถึงอันนา"ไม่มีอะไรหรอกแค่คนใช้ที่นั่งล้างอ่างปลาเท่านั้น" อันนาเธอเดินออกมาหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูด
บทที่ 18 หลังจากที่ควีนและเหมราชทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอนที่ห้องของแต่ละคน เมื่อเขานอนลงกลับรู้สึกกระสับกระส่ายและร้อนวูบวาบราวกับว่าตัวเองนั้นมีอารมณ์เกิดขึ้นๆ แท่งเอ็นร้อนของเขานั้นก็พองตัวขึ้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้ "หรือว่าฉันจะเสพติดร่างกายของเธอแล้วนะ" เสียงหายใจหืดหอบยิ่งพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้นแต่มันก็ฟุ้งซ่านจนทำให้เขาจับเข้ายังเป้าของตัวเอง ร่างหนาลุกขึ้นเดินมายังหน้าต่างเพื่อก้มมองไปที่ห้องของอันนาเห็นเธอนั่งอยู่หน้าห้อง เขาไม่รอช้าที่จะพุ่งตัวเตรียมออกมาหาแต่ทันใดที่เปิดประตู เขาเห็นควีนเพื่อนของตนเองนั้นยืนอยู่เธอสวมใส่ชุดนอนสายเดี่ยวบางๆ จนมองเห็นแทบจะทะลุเนื้อ เหมราชหลบสายตาของเพื่อนเขายิ่งครวญคิดสิ่งที่ไม่ดีแถมทั้งอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นอยากจะดึงเรือนร่างสวยของเพื่อนเข้าไปกระทำ "เป็นอะไรหรือเปล่าเหมราชทำไมเหงื่อถึงเต็มใบหน้าขนาดนั้น" เรือนร่างบางขยับเข้ามาใกล้ๆ เพื่อน เธอใช้ความสวยอ่อยและทันใดที่เอ่ยถามหลังมือของเธออันนุ่มสัมผัสเข้ายังหน้าผากของเหมราช "เดี๋ยวมานะ" เหมราชฟุ้งซ่านกลัวจะหักห้ามใจไม่ไหว เขารีบดันตัวของควีนเพื่อนสนิทของตนเองนั้น
บทที่ 19 ลำตัวหนาดีดออกจากร่างบางสายตายังคงจับจ้องมองเรือนร่างบางและช่วงล่างที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยน้ำกามของเขาไหลออกมาจากรูน้อย "ผู้หญิงแบบเธอมันน่าสมเพชจริงๆ นี่ เธอร่านจนต้องเอายาปลุกเซ็กส์ให้กับฉันกินเลยเหรอ มันยังไม่สาแก่ใจเหรอที่ฉันเอาเธออยู่ทุกวัน" ความผิดที่เธอไม่ได้ทำแต่ถูกกล่าวหาพร้อมทั้งคำพูดที่ต่อว่าด่าทอรุนเเรง"แน่ใจเหรอคะ ว่าฉันเป็นคนทำฉันจะไปเอายาปลุกเซ็กส์พวกนั้นมาจากที่ไหนวันๆ ฉันอยู่แต่ในห้องอยู่แต่ในบ้าน" มือน้อยคว้าจับผ้าห่มปกคลุมเรือนร่างของตัวเอง เธอขยับลุกขึ้นเอ่ยเถียงเขาด้วยแววตาแดงก่ำ แต่ทันใดนั้นมือหนาคว้าจับปลายคางของเธอบีบเอาไว้"ไม่มีสิทธิ์เถียงกู!! จำเอาไว้ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตไม่มีวันที่คนแบบกูจะให้อภัยฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวตัวเอง" คำต่อว่าให้เธอเพียงเท่านั้นและเขาปล่อยมือออกจากตัวเธอ เข้าไปในห้องน้ำส่วนเธอนั้นได้เพียงแต่นั่งร้องไห้ ทำไมตัวเองต้องหวั่นไหวกับผู้ชายใจร้ายคนนี้ ทำไมเธอต้องน้อยใจในคำพูดด่าทอของเขาที่รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่มีวันเป็นไปได้ ร่างบางนั่งมองผ้าปูที่นอนที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบเลือด เธออดที่จะมองไม่ได้จึงลุกขึ้นดึงผ้าปูที่นอนนั้
บทที่ 20 อันนารู้สึกหิวน้ำเธอจึงเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเหยือกน้ำในห้องแต่เธอต้องหยุดชะงัก เมื่อออกมาเจอคนใจร้ายที่ตนเองหวั่นไหวและรู้สึกดีกอดอยู่กับผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่จ้องจะเอาเขาทำสามีทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันในขณะที่เขาทั้งคู่ยืนโอบกอดกันแน่นดั่งคู่รักร่างบางได้เพียงแต่เงียบอยู่ๆ น้ำตาไหลเอ่อล้นทำไมจะต้องหวงหึงผู้ชายคนนี้ด้วย เธอได้เพียงแต่ถามตัวเองจนกระทั่งมือน้อยเผลอปล่อยเหยือกน้ำตกร่วงลงพื้นเสียงเพร๊งดังสนั่นเมื่อเหยือกน้ำในมือของอันนานั้นร่วงหลุดลงพื้นเหมราชกับควีนรีบดีดตัวออกจากกันด้วยความตกใจ เหมราชหันไปมองเสียงที่เกิดขึ้นเห็นเป็นอันนา เขารีบดีดตนเองออกจากเพื่อน เหมือนดั่งว่ากลัวอันนานั้นเข้าใจผิดทั้งๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องแก้ตัวก็ได้"ขอโทษค่ะ…พอดีว่าจะมาเอาน้ำ" อันนารีบก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายทั่วพื้น เธอทำท่าทีรนจนเศษแก้วนั้นบาดมือ "โอ๊ย!"ร่างน้อยสะดุ้งจนตัวโยกปลายนิ้วมือของเธอเต็มไปด้วยเลือด เหมราชส่ายหน้าไปมาเขาเดินมามองใกล้ๆ พร้อมกับเปิดไฟสว่างทั่วบ้าน"ทำบ้าอะไรเนี่ยเลือดออกขนาดนี้มานี่ไม่ต้องเก็บเอาไว้ให้คนอื่นเก็บ" แขนน้อยถูกจับกระชากให้ลุ
บทที่ 21 ประตูนั้นถูกปิดแต่ไม่สามารถใส่กลอนได้เหมือนเดิมเพราะว่าเขาถีบมัน ประตูพังหลังจากควีนเดินออกมาแล้ว เขาจับจ้องมองหน้าอันนา"เมื่อคืนนี้คุณคงมีความสุขกับเพื่อนของคุณมากสินะ โอบกอดกันขึ้นไปบนห้องขนาดนั้น" อันนาหึงเขาจนเผลอหลุดพูดและทำให้เหมราชรู้ว่าเธอนั้นหึงตัวเอง"พูดแบบนี้หึงฉันอยู่เหรอ? เธอไม่มีสิทธิ์มาหึงฉัน ผู้หญิงแบบเธอเป็นเพียงแค่นางบำเรอของฉันก็เท่านั้น เมื่อฉันเบื่อฉันก็ฆ่าเธอทิ้งเพราะว่าฉันไม่มีวันปล่อยฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของฉันไปใช้อย่างมีชีวิตอยู่หรอก" "ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าเลยสิ เพราะฉันก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่เหมือนกัน""อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะอันนา! อย่าคิดว่าฉันจะหลงรักในตัวของเธอ เพราะว่าเธอมันไม่มีอะไรดีเลย! ส่วนเรื่องเมื่อคืนที่ฉันมีอะไรกับเธอก็เพราะว่าฤทธิ์ยา ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวเธอเลยสักนิด ผู้หญิงก็เหมือนกันทั้งนั้นและฉันสามารถเอาใครก็ได้ เอาผู้หญิงสวยที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเธอ" "ผัวะ!" อันนาทนคำพูดดูถูกของเขาไม่ไหวจึงยกมือตบหน้าของเหมราชทันที เขาหันกลับมาพร้อมกับมือหนาจับเข้าที่มุมปากตัวเอง"หึงเหรอ! จำเอาไว้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์หึงหวงฉัน อยากตายมากใช่ไหม! ไ