บทที่ 7
อันนาไม่มีทางที่จะหนีเขาได้ต่อให้เธอไม่ถูกจับและปล่อยให้อยู่เป็นอิสระ แต่อันนาไม่อยากให้นิตานั้นต้องถูกกระทำเหมือนตัวเอง ในช่วงหัวค่ำลูกน้องคนสนิทของเขาได้เข้ามาบอกว่ามีช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมมาและพวกเขามาถึงก็รีบจัดการเตรียมแต่งตัวพร้อมทั้งชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำให้เธอได้สวมใส่จนสง่างาม
ช่างแต่งหน้าถูกสั่งมาว่าห้ามปกปิดรอยแดงบนเนื้อตัวเผยให้เห็นทุกจุดที่ถูกกระทำ
หลังจากพวกเขากลับไปประตูเปิดเข้ามาพรวดพราดในขณะที่อันนานั่งอยู่บนเตียง เธอถึงกับสะดุ้งเนื้อตัวของเธอร้อนผ่าวรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างกาย
"ได้เวลาที่เธอจะต้องไปแสดงความยินดีกับน้องสาวของเธอแล้วอันนา" ข้อมือน้อยถูกจับกระชากขึ้น
"หมายความว่ายังไง คุณจะให้ฉันไปงานหมั้นของนิตาโดยที่ใส่ชุดดำไปและเนื้อตัวของฉันเป็นแบบนี้เนี่ยเหรอ" เขาต้องมีแผนการบางอย่างที่จะทำลายครอบครัวของเธออย่างแน่นอน
"ใช่! เธอไม่มีสิทธิ์พูดและถามอะไร ถ้าไม่อยากให้น้องสาวของเธอต้องมาชดใช้กรรมแทนหรือว่าจะทำดีนะ"
"ไม่!! ฉันยอมแล้ว" อันนาก้มหน้ายอมรับทุกการกระทำของเขา เมื่อเดินออกมาจนถึงรถร่างบางรู้สึกหน้ามืดตาลายก้าวขาไม่ขึ้น เธอแทบจะล้มลงไปแต่เขานั้นคว้าประคองเอาไว้ได้ทัน
ดวงตาคู่น้อยเบิกกว้างเมื่อใบหน้าของเขาอยู่ในระยะใกล้ชิดในขณะที่ลำตัวของเธออยู่ในอ้อมกอดเขา ผู้ชายใจร้ายคนนี้ทำไมทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นดั่งกับว่าคนรักประคองโอบอุ้ม
เขาสะบัดหน้าออกก่อนที่จะผลักเธอเข้าไปในรถ เมื่ออันนาล้มลงแต่โชคดีที่ลูกน้องคนสนิทประคองเอาไว้ได้ทัน
"กูบอกแล้วไงว่าอย่าแตะต้องผู้หญิงคนนี้เพราะว่ามันสกปรก! ขึ้นรถอย่าแสดงทำท่าทีอ่อนแอต่อหน้าผู้ชาย ถ้าร่านมากเธอได้เจอดีแน่" เหมราชรู้สึกหวงอันนาใส่ลูกน้องคนสนิทที่จับประคองอันนาขึ้นไปบนรถ
บ้านหลังนี้ที่เคยอยู่ตั้งแต่เล็กถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านของลุงและไม่มีพ่อแม่แต่ที่นี่คือความสุขมีทุกอย่างเลี้ยงดูแลเธอเหมือนกับลูกที่แท้จริง
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ได้มีการจัดงานหมั้นให้กับลูกสาวกะทันหันผู้คนมากมายเริ่มทยอยเข้ามาแสดงความยินดีและเลี้ยงฉลองกัน
ต้นแขนน้อยถูกจับกระชากเข้ามาด้านในตามเขา เมื่อแม่บ้านเห็นอันนาจึงรีบก้มหัวและเดินเข้ามาหา
"คุณหนูหายไปไหนมาคะ" แม่บ้านคนนี้สนิทกับอันนามากและพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเธอหายไปไหนเมื่อเห็นอันนาจึงรีบวิ่งมาถามไถ่
"เป็นคนใช้ก็อยู่ส่วนคนใช้!”
เขาดึงกระชากเธอออกมาจากแม่บ้านโดยที่อันนาไม่ได้ตอบคำถามพวกเขาเลยอันาเปรียบดั่งว่าร่างกายของเธอนั้นเป็นหุ่นเชิดให้เขาดึงไปทางโน้นทีทางนี้ทีจะทำอะไรกับเธอก็ได้
ในขณะที่งานเลี้ยงนั้นกำลังครึกครื้นเหมราชเดินเข้าไปพร้อมกับอันนาและด้านหลังมีพวงหรีดที่ลูกน้องของเขาเดินตามเข้ามาด้วย
พ่อของนิตาจับจ้องมองมาที่เหมราชด้วยความไม่พอใจแขกในงานมากมาย ทว่าเขากลั่นแกล้งโดยที่ไม่ไว้หน้าถือพวงหรีดเข้าไปยังไม่พอให้อันนาหลานสาวของเขานั้นสวมใส่ชุดสีดำมางานหมั้นนิตา
กรณ์เดินตรงเข้ามาหาหลานสาวมองตั้งแต่หัวจรดเท้าเห็นเรือนร่างของหลานสาวคนสวยเต็มไปด้วยรอยช้ำมากมายใบหน้าซีดเซียวต่อให้แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางก็ยังเห็นได้ชัด
"ทำแบบนี้ทำไม"
"นี่! ลูกมาหาไม่ดีใจเลยเหรอ พาลูกสาวมาหาทั้งทีหรือว่าไม่อยากเจอ" เหมราชคว้าจับต้นคอของอันนาบีบเอาไว้ทำท่าทีจะขยับลูกสาวของเขานั้นเข้าใกล้ผู้เป็นพ่อ
"มึงไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับอันนา"
"ทำไมกูจะไม่มีสิทธิ์! ทีเวลาลูกของมึงทำกับน้องของกูล่ะ มึงคงไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าไหร่หรอกที่เห็นลูกสาวชดใช้กรรมเพราะถ้าคนที่มันรู้สึกจริงๆ มันจะต้องอ้อนวอนขอให้ลูกสาวของมันหลุดพ้น แต่นี่มันไม่สนใจแม้แต่จะตามหาขนาดแม่บ้านก็ยังไม่รู้เลยว่าลูกสาวของเจ้านายหายไปไหน" ใบหน้าน้อยน้ำตาไหลรินเธอได้เพียงแต่มองหน้าของลุงผู้มีพระคุณ
สายตาของลุงมองมาด้วยความเจ็บปวด เขาอยากจะพาหลานสาวให้หลุดพ้นออกจากผู้ชายใจร้ายคนนี้ ทว่าเขาทำไม่ได้เพราะผู้ชายใจร้ายคนนี้มีเบื้องบนที่สูงกว่ามีอำนาจมากกว่าสามารถทำร้ายเขาจนพังทลายได้เลยในพริบตา
"คุณพ่อ อันนา" นิตาไม่เห็นว่าพี่ชายของเพลงพิณมาที่นี่ในขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยเรียกคุณพ่อให้เข้าไปด้านใน สายตาของเธอหันมาเห็นอันนาน้องสาวตนเองจึงพุ่งตัวเข้าโอบกอด
อันนาได้เพียงแต่ยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะกอดตอบ คอของเธอยังถูกบีบด้วยมือของเขา สายตาของอันนาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจับจ้องมองนิตาสวมใส่ชุดหมั้น
"น้องสาวก็สวยไม่แพ้ไปกว่าพี่สาวเลยนี่หรือว่า!!
เหมราชทำท่าทีเจ้าเล่ห์มองเรือนร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าของนิตา กรณ์จึงรีบดึงลูกสาวของตนเองไปไว้ทางด้านหลัง
"มึงได้ลูกสาวของกูไปแล้ว ยังจะอะไรอีก! ออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้!”
"นี่มึงยกลูกสาวมึงให้กูง่ายขนาดนี้เลยเหรอ! ก็อย่างว่าแหละนะ มึงรักอำนาจและเงินทองมากกว่าลูกสาวตัวเอง! ใครที่มันทำร้ายน้องของกู กูไม่ปล่อยมันไว้แน่นอน เอาของขวัญให้น้องสิอันนา" เขาออกแรงบีบมือที่ต้นคอของเธอและเอ่ยสั่งให้อันนาเอาพวงหรีดให้กับนิตาที่เป็นน้องสาวของเธอ
พวงหรีดอันนั้นอยู่ในมือของอันนา เธอต้องทำตามคำสั่งของเขาเพราะถ้าขัดขืนนิตาคงไม่ปลอดภัย
"ขอโทษนะ~ฮึ๊ก" นิตาส่ายหน้าไปมาเห็นอันนาตกอยู่ใต้อำนาจของคนใจร้ายไม่ว่าเอ่ยสั่งอะไร เธอต้องทำตาม เนื้อตัวที่บอบช้ำของอันนานั้นมากมายหลายจุดจนนิตาอดที่จะสงสารไม่ได้
"อันนาขอโทษ"
"ไม่ต้องมาขอโทษอะไรทั้งนั้นฉันจะกลับแล้ว" อันนากลัวว่านิตาจะหลุดพูดเธอจึงรีบแทรกด้วยถ้อยคำที่ไม่พอใจ
"คุยกับน้องสาวก่อนสิ จะรีบไปไหน! เรายังไม่ได้ร่วมฉลองยินดีกับงานหมั้นของน้องสาวเธอเลยนะ"
"มึงออกไปจากบ้านของกูได้แล้ว! อย่าให้กูต้องเลวบ้างนะเหมราช"
"นี่!! เอ่ยไล่แม้กระทั่งลูกสาวตัวเองเลยเหรอ! ทำไมผู้หญิงคนนี้มันสร้างความเดือดร้อนให้มากจนไม่อยากให้อยู่ในบ้านหลังนี้เลย??”
"คุณเหมราชพอได้แล้ว" เขาขยับใบหน้าเข้าใกล้เธออีกครั้งกระซิบเข้าข้างหูเบาๆ ก่อนที่จะปล่อยมือนั้นออกจากต้นคอ
"ฉันให้เวลาเธอ 2 ชั่วโมง เดินกลับไปให้ถึงบ้าน ถ้าเกินเวลาน้องสาวที่กำลังจะมีความสุขได้หมั้นกับผู้ชายรวยมีหน้าตาและชื่อเสียงจะกลายเป็นแบบเธอทันที" ดวงตาคู่น้อยหันมองด้วยความไม่พอใจคำพูดของผู้ชายใจร้าย เขาปล่อยให้เธอเดินกลับตั้งแต่บ้านตนเองไปจนถึงบ้านของเขา
"และอย่าให้ใครช่วยล่ะ เธอถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลาอันนา"
เขาเดินหันหลังออกไปพร้อมกับลูกน้อง
"อันนารอก่อนนะ นิตากับคุณพ่อจะหาทางช่วยเธอ" นิตาเสียใจร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ไม่สามารถช่วยอันนาให้หลุดพ้นจากผู้ชายใจร้ายได้ เธอต้องรีบหมั้นกับลูกผู้มีอิทธิพลเพื่อที่จะรอดพ้นก่อนที่เหมราชจะรู้ความจริงว่าเธอคือคนฆ่าน้องสาวของเขา
"ไม่เป็นอะไรหรอก ฮึ๊ก! ขอให้นิตามีความสุขมากๆ นะ"
เมื่ออันนาหันหลังนิตาจึงรีบวิ่งมาคว้าแขนเอาไว้
"ขอบใจนะ อันนาขอบใจที่…”
"อย่าพูดคำนี้ออกมาเพราะความเจ็บปวดที่ฉันเจอกว่าจะผ่านไปได้แต่ละนาทีมันแทบหมดลมหายใจ ฝากดูแลคุณลุงด้วยนะ ฉันรักเธอกับคุณลุงมากนะ"
อันนายกมือลูบหลังของนิตาพูดเบาๆ กลัวว่าคนของเหมราชจะได้ยินเมื่อเธอพูดฝากลุงของตนเองจบจึงเดินหันหลังออกมาจากบ้าน
ใบหน้าน้อยหันมองบ้านหลังนี้ทั้งน้ำตาอีกครั้งเวลาแค่ 2 ชั่วโมง เธอสามารถเดินกลับไปที่บ้านของเขาได้ยังไง
อันนาไม่ยอมแพ้ก้าวฝีเท้าเดินไปพร้อมกับชุดราตรีที่ยาวจนต้องรวบจับและยกขึ้น อันนาเดินออกมาได้ไม่ไกลมากนัก ตาของเธอเริ่มพร่ามัวเหมือนจะวูบจนไม่สามารถเดินต่อไปได้
ไม่นานเรือนร่างน้อยหมดสติและล้มลงไปกับฟุตบาท!!
"คุณๆ เป็นอะไรไหม" ชายหนุ่มผู้ใจดีขับรถผ่านเห็นว่ามีคนเป็นลมจึงรีบจอดรถและลงมาช่วย ร่างหนาพุ่งตัวประคองเรือนร่างบางเขย่าเมื่อเห็นเธอหมดสติจึงรีบอุ้มเข้ามาในรถ
"ขอโทษนะครับ อย่ายุ่งกับคุณผู้หญิง" รถตู้รีบขับมาปาดหน้าและจอดขวางเอาไว้ เขาเดินลงมากระชากประตูรถเปิดออกโอบอุ้มเรือนร่างบางไร้สติออกไปจากรถเก๋งของชายหนุ่มผู้ใจดี
"เอ้า…รู้จักกันจริงหรือเปล่าวะ เอายังไงดีเนี่ยหรือว่าควรแจ้งความ"
รถตู้คันนั้นไม่ได้มีเพียงแต่ลูกน้องคนสนิทของเหมราช ทว่าเขายังนั่งอยู่ด้วยไม่ปล่อยให้อันนาละสายตาอย่างแน่นอน เมื่อร่างบางถูกอุ้มขึ้นมาวางบนเบาะรถด้านข้าง ไอร้อนออกมาจากผิวบางจนใบหน้าแดงก่ำ
"ผมว่าเธอไข้ขึ้นสูงมาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้คงชักตายแน่นอนครับนาย"
"แล้วมึงจะรออะไรสั่งให้คนขับรถพาไปโรงพยาบาลสิ อยากให้ชักตายก่อนหรือไง" คนใจร้ายที่บอกว่าจะทำร้ายให้เธอปางตายในตอนนี้เริ่มเป็นห่วงเรือนร่างบางด้านข้างกลัวว่าจะชักแบบที่ลูกน้องคนสนิทพูดจึงรีบสั่งให้พาไปโรงพยาบาล
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลไข้ที่ขึ้นสูงค่อยๆ ลดลงหลังจากที่หมอได้เข้าดูแลรักษา
อันนาต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2 คืน เพื่อให้น้ำเกลือแต่เหมราชไม่ต้องการให้เธอนั้นอยู่นี้จึงนำตัวของเธอกลับ
"แค่นี้อย่าเพิ่งรีบตายสิ" เธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะโต้ตอบกลับเขาได้เพียงแต่นั่งเหม่อในขณะที่รถตู้ของเขาขับเคลื่อนออก
"ถามทำไมไม่พูด!”
"ไม่สบาย! เหนื่อยปวดหัวยังจะอะไรกับฉันอีกก็บอกแล้วไงว่า ถ้าเกลียดมากก็ให้ฆ่ากันทิ้งไปเลยทุกอย่างจะได้จบ" อันนาหมดความอดทนเธอสะบัดมือของตนเองออกกวาดสายตามองเหมราชด้วยความเกลียด!
บทที่ 8 เขาคงเกลียดเธอมากแม้แต่อาการของเธอจะแย่แค่ไหนหมอสั่งให้นอนโรงพยาบาล เขายังไม่ยอมเมื่อมาถึงบ้านต้นแขนน้อยถูกกระชากดึงเหวี่ยงลงยังพื้นบ้านสายตาของเขาจับจ้องมองด้วยความพอใจ เขาเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นเธอนั้นซมซานเรือนร่างไร้เรี่ยวแรง สายตาของเขาจ้องมองมาอย่างไร้ความสงสารและปราณีต่อเรือนร่างบางในขณะที่เธอนั้นนั่งพับเพียบอยู่ที่พื้น เขานั่งยองๆ ลงใช้มือหนาจับปลายคางเสยขึ้นรอยยิ้มแห่งความสะใจมองจ้องใบหน้าน้อยเพียงไม่นาน เหมราชคว้าจับคางของเธอกระชากเข้าหาตนเอง"อยากตายมากเหรอ คิดเหรอว่าคำพูดขู่ของเธอจะทำให้ฉันสงสาร จำเอาไว้ว่ากูเกลียดฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวกูมากที่สุดและชีวิตนี้กูสัญญาไว้ว่ากูจะทำให้มันได้ตายทั้งเป็นเหมือนกับที่มันทำน้องสาวกู" เรือนร่างบางเจ็บปวดมากที่สึดในหัวใจ น้ำตาเธอเอ่อล้นได้เพียงแต่สะอื้นก้มหน้ายอมรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ทำ "ถ้าคุณจะให้น้องคุณไปแบบสงบ คุณควรเลิกคิดเลิกแค้น.." เธอแทบพูดไม่จบประโยคเพราะยิ่งพูดถึงน้องสาวของเขาเหมราชยิ่งโกรธและออกเเรงบีบมากกว่าเดิม ใบหน้าน้อยถูกสะบัดกลับลงไปกับพื้นในขณะที่เขาเหวี่ยงแขนและลุกขึ้น "มึงเอาผู้หญิงคนนี้ไปขั
บทที่ 9งานหมั้นที่ยิ่งใหญ่แต่หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งเสียใจที่ตนเองนั้นต้องมาหมั้นกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก หลังจากงานหมั้นจบเสร็จพิธีนิตาเดินตรงเข้ามาหาพ่อตนเองในห้อง เรือนร่างบางคุกเข่าลงที่พื้นพ่อของเธอนั้นนั่งอยู่บนเตียงสายตาของเขาจับจ้องมองลูกสาวและถอนหายใจก่อนหน้านี้ยังมีหลานสาวอยู่ด้วยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแต่เขาก็รักอันนาเหมือนกับลูกสาวแต่ใจก็เห็นแก่ตัวไม่อยากให้ลูกสาวที่แท้จริงต้องไปเจ็บปวด"คุณพ่อ…นิตาสงสารน้อง" นิตาเงยหน้ามองพ่อของตัวเองทั้งน้ำตาเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมเอ่ยพูดบอกกับพ่อว่าสงสารอันนา "ถ้าสงสารน้องแกก็ไปแทนสิ! ถ้าไม่อยากเจ็บและทุกข์ทรมานเหมือนอันนาก็อยู่เฉยๆ วันนี้เป็นงานหมั้นของแกไม่ควรขึ้นมาบนนี้และถ้าคนอื่นมาได้ยินแกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตอยู่! ทำอะไรไม่รู้จักคิดตั้งแต่แรกเหมราชมันไม่ใช่คนธรรมดาไม่อย่างนั้นท่านรองคงไม่ออกตัวให้มันขนาดนี้! สิ่งเดียวที่ทำได้คือแกต้องเกาะคู่หมั้นของแกไว้ให้ดีเพราะเขาจะทำให้แกหลุดพ้นแล้วไม่ต้องไปเจ็บปวดแบบอันนา" "คุณพ่อไม่รักอันนาบ้างเลยเหรอ แล้วทำไมคุณพ่อถึงไม่ช่วยน้องอำนาจและบารมีคุณพ่อมีเพียงแค่ท่านรอง!...”นิตาถูกเป
บทที่ 10 อันนาโวยวายดั่งคนไร้สติจนกระทั่งเธอนั่งนิ่งสักพักหมอใหญ่ได้เข้ามาทำการฉีดยานอนหลับให้เธอพักผ่อน สายตาของผู้เป็นหมอจับจ้องมองเรือนร่างบางและส่ายหน้าไปมาเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวผู้นี้ถูกกระทำทางร่างกายและจิตใจมาอย่างหนักเป็นแน่เหมราชเดินเข้าไปพบหมอหลังจากที่หมอเรียกญาติให้ไปคุย ทางหมอเลยแจ้งไว้ว่าอย่าทำอะไรที่กระทบจิตใจเธอ ไม่อย่างนั้นอันนาเธอจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองหลังจากเหมราชเดินออกมาจากห้องของคุณหมอ เขาก็เข้ามาหาอันนาที่นอนหลับอยู่บนเตียงสายตาได้เพียงแต่จับจ้องมองมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เธอทำร้ายตัวเองโดยที่เขาไม่ต้องลงมือแต่ทำไมเขารู้สึกว่าความคิดตนเองเริ่มขัดแย้งกันไม่อยากให้เรือนร่างของผู้หญิงคนนี้ต้องเจ็บปวดไม่อยากให้เธอต้องเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่หมอพูด"โธ่เว้ย!!”เหมราชลุกขึ้นก้าวเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ เตียงเห็นใบหน้าน้อยนอนหลับตาด้วยฤทธิ์ยาสลบ "นายครับเขามา" สายตาของลูกน้องหันไปมองยังหน้าประตูรีบเข้ามาบอกกับเจ้านายตนเองว่ากรณ์มาที่นี่เหมราชเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยืนอยู่ข้างเตียงของอันนาในขณะที่กรณ์เดินเข้าไปด้วยแววตาห่วงใย เขามองจับจ้องหลานสาวอย่างน่าสงสารอยา
บทที่ 11 หลังจากที่ลุงกลับออกไปสายตาของเขากวาดมองจ้องเธอและปล่อยมือออกจากผมของเธอ การกระทำของเขายิ่งรุนแรงขึ้นและน่ากลัว แต่อันนาไม่มีอะไรที่จะเสียไปมากกว่านี้เเล้ว เธอทั้งเจ็บทั้งอยากตายอยากหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้สักที "หมอสั่งไว้ว่าให้กินข้าว" มือหนาคว้าหยิบถ้วยข้าวต้มจับช้อนและตักข้าวต้มนั้นไปจ่อที่ปากของอันนา แต่เธอไม่อ้าปากมีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นจับจ้องมองชายใจร้ายตรงหน้าทั้งโกรธและเกลียดจนอยากจะจับถ้วยข้าวต้มในมือของเขาสาดใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ"กูบอกให้อ้าปาก ปากมันอ้าออกยากมากหรือไงอยากตายใช่ไหม" เขาวางถ้วยข้าวต้มลงและจับปลายคางของเธอบีบเพื่อที่ให้อ้าปากและทันใดนั้นช้อนข้าวต้มยัดเข้าไปในปากน้อยเรือนร่างบางสะดุ้งเพราะข้าวต้มยังร้อนอยู่ เธอคายออกหลังจากที่เขาวางช้อนเพียงไม่นานคนใจร้ายคิดว่าเธอนั้นพ่นข้าวทิ้งทำท่าทียกมือจะตบแต่หยุดชะงักเพราะไม่กล้าที่จะทำเธอใบหน้าน้อยเอียงหน้าหนีในใจคิดว่าตนเองนั้นจะโดนตบไปแล้วแต่พอลืมตาขึ้นหันกลับไปมองฝ่ามือยังยกค้างไว้อยู่บนอากาศ"กูให้เวลากินข้าว 10 นาที ถ้ายังกินไม่หมดถ้วย เตรียมแก้ผ้าแล้วอ้าขาได้เลย" เขาวางถ้วยข้าวลงเสียงดังตรงช่วงหัวเตียงแล
บทที่ 12 หลังจากที่คลาสเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทและโกรธคนที่ทำกับเพลงพิณ แต่คลาสก็ไม่ใจร้ายพอที่จะให้อันนาต้องตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ เขามองเพื่อนตัวเองที่บอกว่าโกรธเกลียดอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวดูจาดแววตาก็รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ยิ่งในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นห่วงอันนาจริงๆ เขาเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อพ้นประตูคลาสจึงเอียงคอหันกลับไปมองเล็กน้อย"คนที่นายเกลียดนี่แหละจะเป็นคนที่นายรักมากที่สุด! ขอให้ความรักของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้ลบล้างความแค้นออกจากใจได้นะ" เมื่อหันหน้ากลับมาเตรียมที่จะก้าวขาออกลูกน้องคนสนิทของเหมราชได้เดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองสายตาของเขาเหมือนกับอยากพูดอะไรบางอย่างกับคลาส แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ คลาสจึงเอ่ยถามขึ้นเอง"มีอะไรจะพูดกับกูหรือเปล่า??”"ผมสงสารคุณอันนาและผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่!!”"ความสงสารไม่ได้ทำให้มึงมีข้าวกิน การทำงานเท่านั้นที่จะทำให้มันมีข้าวกินอย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย เวรกรรมต้องระงับด้วยการจองเวร" เขาพูดกับลูกน้องคนสนิทเพื่อนอย่างไม่ไยดีหลังจากพูดจบคลาสเดินออ
บทที่ 13 กรณ์กลับบ้านมาด้วยความหัวเสียเอะอะโวยวายตะเบ็งเสียงลั่นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นเพราะลูกสาวเพียงคนเดียวจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่ความเป็นพ่อไม่สามารถยกความผิดให้กับลูกสาวและทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของตนเองได้ ในขณะที่เขากำลังโวยวายปัดข้าวของมากมายร่วงหล่นลงพื้น เหล่าแม่บ้านพากันตกใจรีบเข้าหลบมุมจนกระทั่งผู้เป็นลูกสาวเดินลงมาจากบนห้อง "คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ปกติคุณพ่อไม่เคยโมโหอะไรขนาดนี้เลย" สายตาของเขากวาดมองด้วยความโกรธใบหน้าของลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าสลดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว กรณ์สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกจนเสียงดัง เขาหันใบหน้าหนีลูกสาวไม่อยากจะใช้อารมณ์กลัวว่าจะพลาดพลั้งและทำร้ายลูกสาวตัวเอง "เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้วว่าที่คู่หมั้นได้เป็นผัวหรือยัง" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาถามถึงเรื่องที่ให้ลูกจัดการรวบรัดคู่หมั้นตนเองเป็นสามี เพื่อที่จะได้แต่งงานกันโดยเร็ว นิตาส่ายหน้าไปมาเธอไม่สามารถโกหกพ่อตัวเองได้เพราะเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันเลย"ทำไมอะ มันยากนักเหรอทีเวลากับผู้ชายคนอื่นดันมีอะไรได้และไปตบตีเพราะแย่งผู้ชายกับคนอื่นเพียงแค่คู่หมั้นตั
บทที่ 14 "ทำไมป้าถึงเงียบหรือว่าป้าสมเพชในตัวของฉัน ป้าไม่ต้องสมเพชหรอกชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วมีความสุขกับครอบครัวเพียงไม่นานพวกเขาก็จากไป"ประโยคที่ 2 ยิ่งทำให้เหมราชนั้นงงกับคำพูดที่เหม่อลอยของเรือนร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นถ้อยคำหรือว่าเธอจะเข้าสู่อาการโรคซึมเศร้าแล้วจริงๆ ถึงนั่งคุยคนเดียวแจกันด้านข้างประตูนั้นถูกเท้าของเขาเตะกระเด็นจนแตกเรือนร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแต่จริงๆ แต่กลับเป็นคนใจร้าย มือน้อยรีบปาดน้ำตาตัวเองเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่าหรือว่าเขาเพิ่งมา เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปใกล้ๆ เธอขยับหนีจนสุดเตียง "เธอพูดอะไรครอบครัวอะไรที่พังพ่อแม่อะไรที่ตายไปแล้ว?”สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองใบหน้าที่ส่ายไปมาเธอปฏิเสธในคำพูดของตัวเอง"นี่เธอกำลังจะเป็นบ้าเหรอ?? ก็ดีทรมานดีสะใจ" ไม่เพียงแต่คำพูดที่สะใจคนตัวโตยังกระโดดขึ้นมาบนเตียงพุ่งตรงมาหาเธอ มือทั้งสองข้างคว้าแขนเรียวบางจับกดทับบนเรือนร่างบางจนหงายราบลงไปกับเตียง เธอพยายามที่จะขัดขืนแต่ด้วยที่เขานั้นตัวใหญ่กว่า "หยุดนะ ไอ้คนชั่ว คุณนี่มันโคตรชั่วเลยคุณทำร้ายฉันทุกอย่างมันก
บทที่ 15 เขาปล่อยเธอให้อยู่บนห้องส่วนเขานั้นเดินมาด้านล่างที่สระน้ำ ความรู้สึกที่เคยมีน้องสาวอยู่ด้วยมีเสียงหัวเราะที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้กลับมีแต่เงียบงันกลับความเคว้งคว้างที่อยู่ในจิตใจ เหมราชยังทำใจไม่ได้ที่น้องสาวของเขานั้นจากไปกะทันหันบุหรี่ไฟฟ้าราคาแพงถูกหยิบขึ้นมาสูบและปล่อยออกเป็นควันลอยละล่องไปตามอากาศเขาเอื้อมหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกระดกดื่ม ในทุกๆ วันไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงน้องสาวตัวเองอยากจะดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในการสูญเสียคนที่รัก อยากจะดื่มและตื่นขึ้นมาเจอแต่ความสุขที่มีน้องสาวอยู่ด้วยแต่มันกลับไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว"นายครับ นายทำกับคุณอันนามากเกินไปหรือเปล่า" เหมราชกวาดสายตามองลูกน้องคนสนิทด้วยความไม่พอใจเพราะในขณะที่กำลังคิดถึงน้องสาวคิดในเรื่องความตายที่เธอนั้นจากเขาไปเร็วเกินไป จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลา แต่ลูกน้องคนสนิทของเขานั้นกลับเอ่ยพูดว่าทำกับอันนาผู้ฆ่าน้องสาวตนเองเกินไป แก้วไวน์ในมือของเขาถูกเขวี้ยงลงด้านข้าง ลำตัวหนาลุกขึ้นพรวดพราดคว้าจับคอเสื้อของลูกน้องคนสนิทกระชากเข้าหาตัวเองแววตาและใบหน้าจับจ้องมองด้วยความโกรธน้ำเสียงเข้มตะคอกใส่"ทำไมมึงเห็นผู้หญิงคนนั้น
บทที่ 43เด็กชายตัวเล็กนั้นยังไม่หายจากอาการป่วยเพราะว่าบาดแผลยังไม่หายดีแต่หมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เหมราชพาอัคคีและอันนามาที่ห้างเพราะอันนาจะมาซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับลูกและจะพาลูกมาทานไอศกรีมด้วย ระหว่างที่อยู่ในร้านไอศกรีมแสดงเหมือนครอบครัวที่อบอุ่นต่อหน้าลูกทั้งคุยกันและหัวเราะหยอกกันอย่างกับว่าสามีภรรยาที่รักกันมากแต่จริงๆ แล้วอันนาเธอแกล้งแสดงต่อหน้าลูกเพียงเท่านั้น"อัคคีดีใจดีใจมากๆ ที่คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อัคคีอยู่กับคุณแม่ 2 คน ไม่สนุกเลย" "อัคคีครับคุณพ่อซื้อบ้านให้อัคคีหลังอย่างใหญ่เลยนะ วันนี้เราไปดูกันไหมครับ" มือหนาลูบหัวของลูกชายเบาๆ บ้านหลังนั้นเหมราชตั้งใจซื้อให้อันนากับอัคคีตั้งแต่วันคลอดแต่เธอกลับพาลูกหนีไปซะก่อนจึงไม่ได้เข้าไปอยู่ส่วนเหมราชให้คนดูแลแต่ไม่เคยเข้าไปอยู่เลยสักครั้ง"คุณพ่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้เลยเหรอครับ""ใช่แล้วครับ จริงๆ คุณพ่อตั้งใจซื้อให้อัคคีตั้งแต่อัคคีคลอดเลยนะ""คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงาน" "คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงานเหรอครับ" เหมราชยิ้มด้วยความดีใจที่แท้แล้วอันนาไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพ่อเลยสักนิด"ขอบคุณนะที่ไม่ทำ
บทที่ 42 อันนานั่งกุมมือของลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงเฝ้ารอให้ลูกชายฟื้นตื่นขึ้นมานั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกคนกลับบ้านเหลือเพียงแต่เหมราชที่ยังไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ที่โซฟากังวลใจและก็รอลูกชายตื่นด้วยเช่นเดียวกัน"ตื่นมาสิครับเดี๋ยวคุณแม่จะพาไปกินไอศกรีมนะ คุณแม่ไม่อยากให้อัคคีนอนหลับนานแบบนี้เลย" น้ำเสียงสั่นเอ่ยบอกกับลูกชายที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงในแววตาคู่น้อยกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ยิ่งเห็นลูกเจ็บเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่า ถ้าเป็นไปได้คนเป็นแม่ขอยอมเจ็บแทนเหมราชลุกขึ้น เขาเดินไปอยู่อีกฝั่งของเตียงตรงข้ามกับอันนามือหนากุมจับมือน้อยของลูกชาย"พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้มีโอกาสดูแลลูกเลยตื่นขึ้นมานะครับ" ใบหน้าของลูกชายช่างคล้ายกับเขาในวัยเด็กสายตาของผู้เป็นพ่อจับจ้องมองหัวใจดวงน้อยที่พลัดพรากหายไป 2 ปี"หิวน้ำ" ทั้งคู่สายตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้น อันนาเธอยิ้มทั้งน้ำตาลูกชายของเธอตื่นขึ้นมาแล้ว"น้ำเหรอเดี๋ยวคุณแม่เอาน้ำให้นะครับ' ดวงตาคู่น้อยมองหน้าเหมราชในระยะใกล้ชิดซึ่งเขาตกใจและแปลกใจทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มาอยู่ตรงนี้"คุณลุงคุณลุงมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงครับ" เหมราชยกมือลูบ
บทที่ 41 เหมราชไม่ได้ใช้ความรุนแรงอย่างเช่นเคยเขาจับเธอเข้ามาในบ้านก็จริงแต่เป็นการกระทำที่อ่อนโยน เรือนร่างน้อยถูกโอบกอดด้วยแขนหนาทั้งสองข้างด้วยความคิดถึงและความโหยหาของเหมราชมากเกินกว่าจะยับยั้งใจ"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" มือน้อยทั้งสองทั้งผลักหน้าอกและทุบตีแต่เหมราชไม่ปล่อย เขากระชับกอดแน่นมากกว่าเดิมยิ่งเธอดิ้นแขนหนาทั้งสองยิ่งรัดแน่น"ฉันคิดถึงเธอนะ…คิดถึงเธอกับลูกมากตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาฉันตามหาเธอทุกวันอย่าไปไหนนะ" อันนาผลักหน้าอกของเขาออกจนสำเร็จใบหน้าน้อยจ้องมองเพียงไม่นาน ฝ่ามือฟาดตบเข้าที่ใบหน้าของเหมราชสายตาของเขามองกลับมาหาอันนาด้วยแววตาจำนนและยอมทุกอย่าง"ฉันไม่เคยมีความสงสารคุณเลยและฉันก็ไม่ได้สมเพชคุณด้วยแต่ที่ฉันไป ฉันสะใจและรู้สึกดีที่เห็นคุณเป็นแบบนี้เป็นยังไงล่ะลิ้มรสกับความเจ็บปวด" "รู้สึกหมดทุกอย่างแล้วและเจ็บปวดมาเกือบ 2 ปี ฉันไม่รู้หรอกนะว่าผู้ชายข้างนอกเป็นใครหรือว่าเป็นคนใหม่ของเธอจริงๆ ฉันอยากขอโอกาสได้ดูแลลูกได้ใกล้ชิดกับลูกบ้าง" "ผัวใหม่คุณคิดถูกแล้วผู้ชายข้างนอกคือผัวใหม่ของฉันและเขาก็ใจกว้างพอที่ให้ฉันมาคุยกับคนแบบคุณ ที่ฉันมาในวันนี้ฉันต้องการของข
บทที่ 40 เหมราชดีใจมากจนเขาทำอะไรไม่ถูกได้เห็นหน้าลูกชายตัวเล็ก เขาช่างเหมือนกับตัวเองอย่างกับฝาแฝดใบหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มกลับบ้านมาด้วยความดีใจ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเหมราชไม่เคยหยุดตามหาอันนากับลูกเลย แต่เขานั้นจนปัญญาแล้วจริงๆ ให้ผู้มีอำนาจช่วยตามก็ไร้วี่เเววที่จะตามหาเธอเจอ จนกระทั่งวันนี้เธอปรากฏตัวอยู่ที่บริษัทของเธอเองและเธอตั้งใจที่จะมาขอบริษัทคืน "นายครับแล้วจะทำยังไงต่อไป" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาใกล้เหมราชเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิท เขายกยิ้มด้วยมุมปากหัวใจที่เหี่ยวเฉามา 2 ปี เต็มเริ่มพองโตขึ้นมีความหวังอีกครั้งจนกลายเป็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าร้าย"มึงคิดเหรอวะ ว่ากูจะยอมปล่อยเมียกับลูกไปได้อีก กูต้องเอาอันนากลับมาเป็นเมียกูเหมือนเดิมให้ได้" "แล้วนายจะทำยังไงเหรอครับ ดูเหมือนว่าการกลับมาของคุณอันนาครั้งนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ และอยู่ๆ ทำไมถึงไปหานายที่บริษัท ถ้าตั้งใจไปขอบริษัทคืนจริงๆ เธอต้องมีข้อต่อรองแต่นี่ดูเหมือนว่าจะไปของ่ายๆ มันต้องมีอะไรสักอย่าง" เหมราชลุกขึ้นจากโซฟามือถือแก้วไวน์กระดกดื่มจนหมดแก้ว ลูกน้องคนสนิทพูดก็ถูกทำไมอยู่ๆ อันนาถึงไปที่บริษัทและตั้งใจเอาลู
บทที่ 392 ปีผ่านไป กาลเวลาหมุนเวียนตามเข็มนาฬิกา วันเวลาที่ผ่านไปนั้นล้วนมีทั้งความสุขและความทุกข์ ทว่าชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกุมมืออยู่บนโซฟาตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน การรอคอยและตามหานั้นช่างทรมานสำหรับเขาเหลือเกิน มีทุกอย่างยกเว้นความสุขเหมราชใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยความหวังที่จะได้เจอลูกชายและอันนาอีกครั้งเสียงถอนหายใจดังขึ้นชายหนุ่มร่างโตลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเปิดประตูห้องเดินออกมาพรวดพราดไม่ทันจะได้ตั้งตัว ทว่ามือของเขานั้นจึงคว้าเด็กตัวเล็กที่วิ่งมาด้วยความซุกซนชนกับเขาจนจะล้ม"มือหนาทั้งสองข้างประคองเด็กผู้ชายไว้ เด็กวัยสองขวบที่กำลังวิ่งซุกซนสายตาของเขาจ้องมองหน้าเด็กชายคนนั้นเพียงแค่ไม่นานหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นรู้สึกหวั่นไหว"ใครเอาลูกมาทำงาน" เหมราชกวาดสายตามองเลขาหน้าห้องตนเองสายตาของเลขามองไปยังด้านข้าง "คุณแม่" มือน้อยของเด็กชายตัวเล็กชี้ไปทางด้านหลัง เขาจึงเงยมอง เหมราชแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเขาลุกขึ้นยืนจับจ้องมองหญิงสาวเดินเข้ามาอย่างสง่า ลมหายใจแผ่วเบาผายออกเบาๆ อันนาเดินเข้ามาใกล้ๆ และเด็กผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปหา"อันนา" ยิ่งกว่าฟ้าผ่าลงกลาง
บทที่ 38เหมราชเดินออกมาจากบ้านของคลาสด้วยความว่างเปล่าเขาไม่ได้คำตอบจากแม่ของคลาส แต่รู้อยู่ในใจว่ายังไงต้องเป็นเขาที่ช่วยอันนาหนีไป"มึงส่งคนไปดูทีว่าคลาสไปจังหวัดไหน" ในขณะที่นั่งรถกลับเหมราชสั่งกับลูกน้องคนสนิทให้จัดการส่งคนไปดูว่าคลาสไปอยู่ที่ไหน เขาพยายามทำทุกทางและตามหาทุกที่จนกว่าจะเจอเมียกับลูก "ได้ครับนาย" ใช้เวลาเพียงไม่นานไมถึง 10 นาที ด้วยซ้ำภาพของคลาสและที่อยู่นั้นปรากฏขึ้นบนหน้าจอช่องแชทในไลน์ของมือถือเหมราช คลาสอยู่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งอยู่บ้านพักตากอากาศแต่ไม่ได้อยู่กับอันนาคนที่อยู่ด้วยนั้นคือนิตาเหมราชคิ้วขมวดเข้าหากันทำไมเพื่อนสนิทของตัวเองถึงอยู่กับผู้หญิงฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของเขา"หมายความว่ายังไงวะ…ทำไมคลาสถึงอยู่กับนิตา?"เหมราชเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิทที่ไร้คำตอบเช่นเคยเขาได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา"แล้วอันนากับลูกอยู่ไหน" เหมราชไม่ยอมหยุดที่จะตามหาภรรยาและลูกอย่างแน่นอน เขาส่งข้อความไปบอกกับท่านรองให้ช่วยตามหาอันนากับลูกให้เขา ไม่ว่าจะเสียเงินสักเท่าไรเขายอมเสียเพื่อที่จะได้เจอเมียกับลูก มือหนาทั้งสองข้างกุมเข้าหากัน เขานั่งอยู่โซฟากลางบ้านใบหน้าที่เหม่อลอยห
บทที่ 37 เรือนร่างหนาเดินออกมาท่ามกลางฝนตกหนักอย่างไร้เรี่ยวแรงใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินออกมาสู้กับสายฝนในแววตาแดงก่ำได้เพียงแต่กำหมัดทุบลงพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาได้เห็นหน้าเจ้าตัวเล็กผู้เป็นสายเลือดและดวงใจของเขาเพียงแค่ไม่กี่วัน เธอก็นั้นพาลูกหนีไปจากเขา"อันนาได้โปรดกลับมาเดี๋ยวนี้ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอกับลูกฉันขอโทษได้โปรดกลับมาหาฉัน" เสียงฟ้าที่ผ่าดังเปรี้ยงยังไม่ทำให้เหมราชตกใจหวาดกลัว เขาร้องไห้สู้กับสายฝนระบายความเจ็บปวดนั้นเป็นน้ำตามากมายทุกอย่างที่เคยหวังไว้พังทลายลงสิ้นดี บ้านหลังใหม่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างที่หวังนั้นไม่มีอีกต่อไป"กลับมาได้ไหม ฉันอยู่ไม่ได้ขอร้องพาลูกชายของฉันกลับมาเถอะนะ" หลับตาลงก็เห็นเพียงแต่ใบหน้าลูกชายตัวเล็กในอ้อมกอดเขาได้สัมผัสและจับลูกเพียงแค่ 3 วัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขานั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องเสียลูกกับเธอไปเพื่อนสนิทอย่างคลาสได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมามองเหมราชเจ็บปวดท่ามกลางสายฝน เขาเองก็ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขานั้นไปไหนพยายามถามแม่แล้วแต่ก็ไม่รู้"เหมราชมึงทำแบบนี้ร่างกายของมึงจะแย่เอานะ ทำไมไม่เก็บแรงไว้ตามหาลูกกับเมียล่ะ" คลาสทนเห
บทที่ 36 อันนาลืมตาตื่นหลังจากฤทธิ์ยาสลบนั้นหมดฤทธิ์แล้วในช่วงเวลากลางคืน เธอได้ยินเสียงของเด็กน้อยร้องอยู่ด้านข้างดวงใจของเธอที่เคยหดหู่และเจ็บปวดมานานได้ยินเสียงของเด็กน้อยนั้นมันเริ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ดีใจจนน้ำตาไหล เรือนร่างบางขยับร่างกายเตรียมที่จะลุกขึ้นแต่รู้สึกเจ็บที่หน้าท้องเพราะว่าแผลผ่าตัด"อันนาใจเย็นๆ นะ แผลจะฉีก" คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันคนที่พูดขึ้นนั้นคือเขา ผู้ชายใจร้ายที่เธอเกลียดมากที่สุดในชีวิตเขาพุ่งตัวเข้ามาประคองเธอ"มาที่นี่ทำไม" สายตาคู่น้อยกวาดมองด้วยความไม่พอใจน้ำเสียงกระชากพูดใส่เขาอย่างไม่พอยังสะบัดมือออกไม่ให้เขาจับตัวเอง"มาดูแลเมียกับลูกสิอันนา ลูกของเราน่ารักมากๆ เลยนะไม่สิเขาต้องเรียกว่าน่าเกลียดน่าชังมากๆ เลย ดูสิเขาเลี้ยงง่ายด้วย" อันนาเธอได้เพียงแต่มองหน้าเขานิ่งๆ ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่เธอเอ่ยไล่เขาและใช้อารมณ์รุนแรงไม่เขวี้ยงข้าวของใส่เขา อันนาก็มักจะเขวี้ยงข้าวของใส่เขาแต่ในครั้งนี้เธอกลับนิ่งสายตาคู่น้อยหันไปมองลูกตัวเอง "อันนาอยากเห็นลูกใกล้ๆ ใช่ไหมเดี๋ยวฉันขยับลูกเข้าไปใกล้ๆ ให้นะ" เหมราชดีใจจนเนื้อตัวสั่นเขารีบขยับลูกเข้าไปใกล้
บทที่ 35 8 เดือนผ่านไป อันนาเธอขออยู่บ้านพักต่างจังหวัดติดทะเลของป้า เธอและไม่กลับมาที่กรุงเทพฯอีกไม่ติดต่อกับนิตาเพราะยังโกรธในสิ่งที่พ่อของนิตาทำกับพ่อแม่ตัวเอง อันนาอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียวแต่มีแม่บ้านคอยแวะเวียนมาทำความสะอาดให้แทบจะทุกวัน อันนาท้องโตมาก คลาสลูกพี่ลูกน้องนั้นแวะเวียนมาบ่อยเพราะว่าพาอันนาไปฝากท้องและในทุกๆ ครั้งที่หมอนัดคลาสจะเป็นคนพาไป ส่วนเหมราชตั้งแต่วันนั้นเขาไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก ความโกรธเบาลงด้วยตามกาลเวลาแต่เธอนั้นยังไม่ลืมสิ่งที่เหมราชกระทำกับเธอได้เลย"อันนาแต่งตัวเสร็จหรือยัง วันนี้หมอนัดแต่เช้านะ" จากเด็กสาวตัวเล็กในวันนั้นกลายเป็นคุณแม่ท้องแก่ที่ท้องใหญ่มากเหมือนกับว่าได้ลูกแฝด แต่หมอดูแล้วเด็กในท้องเป็นเด็กผู้ชายไม่ใช่แฝดเพียงแต่เขาตัวใหญ่และสมบูรณ์มากน้ำหนักจึงเกินเกณฑ์ "เสร็จแล้วค่ะ…วันนี้คุณหมอบอกว่าให้เตรียมข้าวของไปด้วยเพราะว่าใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว ถ้าเกิดปากมดลูกไม่เปิดคุณหมอจะให้นอนโรงพยาบาลเพื่อที่เตรียมเข้าห้องผ่าตัดในวันพรุ่งนี้" ใบหน้าน้อยฉีกยิ้มให้กับผู้เป็นพี่ชายและสะพายกระเป๋าข้าวของที่ตนเองนั้นเตรียมไว้ออกมาด้วย"วันนี้ทำไมรอยยิ