หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ / ตอนที่ 4 ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง  

แชร์

ตอนที่ 4 ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง  

ผู้เขียน: อาหลานเร่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-15 20:40:55

ตอนที่ 4

ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง

เป็นเวลากว่าสามวันมาแล้วที่เธอฟื้นขึ้นมาให้มิติที่คล้ายกับจีนโบราณ วันแรกเธอจำตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่เมื่อได้นอนพักเต็มอิ่มจนร่างกายฟื้นฟูขึ้นได้มากแล้ว ความทรงจำของเธอในมิติเดิมที่เธออยู่ยามที่เธอคือ หลันซู่ถงก็คืนกลับมา

รวมไปถึงความทรงจำของตัวเธอในมิตินี้ด้วยซึ่งก็คือหลิวซู่ซู่ซึ่งเธอที่เป็นเจ้าของร่างในชาตินี้ได้ตายลงไปแล้วโดยไม่มีใครรู้ คงเพราะเกิดความผิดพลาดอะไรสักอย่างจึงทำให้เธอ มาเขาร่างของตัวเองในอีกมิติหนึ่งแทนที่จะกลับไปยังร่างที่มิติเดิมของตัวเอง

ครั้งแรกเธอคิดว่าตัวเองอาจจะย้อนเวลากลับมาในอดีตเหมือนในซีรี่ส์ที่เธอเคยดูอยู่บ้าง แต่มันกับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด

เมื่อเธอลองเรียบๆเคียงๆถามสาวใช้ของเธอในร่างของหลิวซู่ซู่ผู้นี้ดูแล้วกับกลายเป็นว่าแคว้นที่เธอมาอยู่ ณ เวลานี้เป็นแคว้นที่ไม่ได้มีอยู่ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับประเทศที่เธอเคยเรียนมาแม้แต่น้อย

อีกอย่างหนึ่งเลยก็คือใบหน้ารูปร่างต่างๆของหลิวซู่ซู่ในมิตินี้เหมือนกับเธอทุกอย่าง ที่จะต่างกันคงเป็นนิสัยและความเป็นอยู่ต่างๆเสียเท่านั้น

ในความทรงจำต่างๆในร่างของหลิวซู่ซู่ซึ่งก็คือเธอในมิตินี้ เป็นลูกสาวคนรองที่มาจากสกุลที่ดีพร้อม บิดามารดาก็รักใคร่ดูแลอย่างดี นิสัยอ่อนหวานนุ่มนวลตามแบบฉบับกุลสตรีในห้องหอทุกประการ รวมๆแล้วชีวิตของเธอในมิตินี้ก็นับว่าดีมากเลยทีเดียว

ถ้าไม่ติดว่าเธอในมิตินี้ดันแต่งงานกับบุรุษที่ไม่ใส่ใจใยดีสตรี เรียกง่ายๆก็คือไม่สนใจสตรีใดๆทั้งสิ้น

ทำให้เธอในมิตินี้ตรอมใจในชีวิตคู่ของตัวเองต้องมาอยู่กับผู้อื่นในบ้านของผู้อื่น ไร้ซึ่งคนใส่ใจดูแล เกินกว่าที่สตรีอ่อนแอเช่นเธอในมิตินี้จะรับไหวจึงได้ตรอมใจจนล้มป่วยและตายไปอย่างโดดเดี่ยวอย่างน่าสมเพชเวทนาเป็นที่สุด

หลายวันที่ผ่านมานี้เธอใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการปรับตัวเข้ากับมิติใหม่นี้

เธอคอยจำการเรียกแทนตัวต่างๆรวมไปถึงคำพูดและท่าทางบางอย่างจากเหล่าสาวใช้ที่คอยอยู่ดูแลเธอ หานอี้ซึ่งในความทรงจำของหลิวซู่ซู่นั้นเป็นสาวใช้คนที่เธอไว้ใจเป็นอย่างมาก เธอจึงเริ่มที่จะเรียกหาสาวใช้ผู้นี้ให้บ่อยครั้งขึ้น และบางครั้งก็ให้เธอพูดคุยด้วยกันกับเธอมากๆให้อยู่เป็นเพื่อนเธอในยามค่ำคืน

“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ” หานอี้เอ่ยเรียกนางหญิงของตนเอง ก่อนจะวางกาน้ำชาที่พึ่งไปอุ่นมาจากโรงครัวลงบนโต๊ะเบาๆ

“ว่าไง…มิใช่สิมีอันใดรึหานอี้” ซู่ถงในร่างของซู่ซู่รีบพูดกลบเกลื่อน 

เธอแอบถอนหายใจเบาๆ ในใจก็คิดไปว่าคนมิตินี้จะลุกจะนั่งจะพูดจะจาทำอะไรแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่ค่อยๆทำอย่างไม่เร่งรีบอะไรนุ่มนวลเกินไปจนหลายครั้งนางก็รู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะในมิติของนางเคยชินกับการทำอะไรรวดเร็วทันใจ          

ตราบใดที่เธอยังหาทางกลับไปยังมิติเดิมของตัวเองไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือการปรับตัวเข้ากับมิตินี้ให้ได้ล่ะนะ

“ฮูหยินน้อยท่านนั่งรับลมที่ศาลามาพักใหญ่แล้ว ข้าเกรงว่าท่านพึ่งหายป่วย หากโดนลมมากไปจะลมป่วยไปอีกได้นะเจ้าคะ”

หานอี้เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง นางแม้จะยังไม่ค่อยชินกับคำพูดแปลกๆที่ฮูหยินน้อยของนางมักจะหยุดปากออกมาบ่อยๆในช่วงหลายวันมานี้ หากแต่คุณหนูของนางกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และก็ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนนางก็พอใจมากแล้ว

             “เช่นนั้นเจ้าก็พาข้ากลับเข้าเรือนพักเถิด”

             เพียงแค่จะให้เธอกลับเข้าที่พักยังต้องเอ่ยอ้อมไปอ้อมมาอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่สู้พูดออกมาว่าให้เข้าเรือนได้แล้วก็พอแล้วหานอี้ ข้าล่ะเหนื่อยแทนเจ้าจริงๆที่ต้องมาค่อยเอ่ยอะไรๆยาวๆเช่นนั้นอยู่ทุกวัน

             เธอได้แต่คิดในใจก่อนจะปล่อยให้หานอี้เข้ามาพยุงนางกลับที่พักแต่โดยดี ทั้งที่เธอหายป่วยดีเป็นปลิดทิ้งแล้วทุกอย่างแต่กับไม่สามารถทำอะไรเองได้เลย ทุกอย่างล้วนแต่มีคนคอยทำให้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่การอาบน้ำ

             ครั้งแรกที่นางได้อาบน้ำในมิตินี้น่าตกใจจนลมแทบจับเมื่อในห้องอาบน้ำดันมีสาวใช้อยู่ถึงสามคนด้วยกัน นางพยายามไล่สาวใช้เหล่านั้นออกไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล จึงจำยอมต้องให้หานอี้เป็นคนเดียวที่ช่วยนางอาบน้ำแต่งตัวแทน

             อย่างน้อยๆนางก็อายน้อยลงไปมากอยู่ ถือว่านางยังพอรับมือไหว

            

             ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วสิ่งที่นางทำในทุกวันก็คือกินแล้วก็นอน ทุกอย่างเวียนวนอยู่อย่างนี้ พอได้เวลาก็จะมีเหล่าสาวใช้เขามาจัดเตรียมสำรับอาหารรสเลิศอย่างดีทุกมื้อให้กับนาง ยามรับของว่างก็จะมีของว่างแปลกๆมาให้เธอโดยไม่ซ้ำกันเลยสักวันจนนางอดสงสัยมิได้ จึงได้ถามหานอี้ดู

             “หานอี้ขนมพวกนี้เจ้าไปนำมาจากที่ใดกัน”

             “ขนมเหล่านี้เป็นฮูหยินใหญ่ให้คนจัดส่งมายังเรือนทุกวันเจ้าค่ะ”

             ฮูหยินใหญ่ที่ว่าคงเป็นแม่สามีของนางในมิตินี้สินะ เท่าที่ความทรงจำของหลันซู่ซู่มีต่อแม่สามีของนางก็ดูเหมือนจะเป็นแม่สามีที่ดีต่อลูกสะใภ้อยู่เช่นกัน ก็ถือว่านางโชคดีไปอีกเรื่องแล้วที่มีแม่สามีดี

             คิดไปถึงแม่สามีก็ไม่อาจไม่คิดไปถึงผู้เป็นสามีของนางในมิตินี้ไปได้ ในความทรงจำของหลันซู่ซู่ที่มีต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีแทบจะไม่มีอะไรเลย

             ในความทรงจำของหลันซู่ซู่ในคืนแต่งงาน

มีบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในห้องหอ บุรุษผู้นั้นเขาเข้ามาเพียงเอ่ยประโยคเดียวและออกไปจากห้องหอทันที แม้แต่ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวก็ไม่เสียเวลาเปิดออกเสียด้วยซ้ำ

“ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง”

บุรุษผู้นั้นนับจากวันเข้าหอก็ไม่เคยมาที่เรือนธารากระจ่างอีกเลย หลิวซู่ซู่ในมิตินี้นับตั้งแต่แต่งงานมาจนกระทั่งตายจากไปนางไม่เคยเห็นหน้าตาของสามีด้วยซ้ำไป นับว่าเป็นเช่นคำของบุรุษผู้นั้นที่เอ่ยในคืนเข้าหอมิมีผิดเพี้ยน

ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง

 “ฮูหยินน้อยเจ้าคะ ฮูหยินน้อย” หานอี้เอ่ยเรียกนายหญิงของตนเมื่อเห็นว่าอยู่ๆนายหญิงของนางก็นั่งเงียบไป

“มีสิ่งใดรึหานอี้”

นางเอ่ยถามขึ้น เมื่อเสียงเรียกของหานอี้ทำให้นางตื่นจากภวังค์ความคิดของตนเองที่กำลังนึกไปถึงความทรงจำในคือเขาหออันสุดเศร้าของหลิวซู่ซู่

 “เรียกฮูหยินน้อย ยามที่สาวใช้ของฮูหยินใหญ่นำของว่างของวันนี้มาให้ท่าน ฮูหยินใหญ่ได้ฝากคำพูดมาให้ท่านด้วยเจ้าค่ะ”

 “เช่นนั้นรึ ท่านแม่ฝากคำพูดใดมาถึงข้ากัน เจ้ารีบบอกมาเถิด”

 “ฮูหยินใหญ่ฝากมาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้ฮูหยินน้อยไปร่วมทานอาหารเช้าที่เรือนของฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”

 “ที่แท้ท่านแม่ก็อยากให้ข้าไปกินข้าวด้วย เดี๋ยวเจ้าให้คนไปแจ้งท่านแม่ทีบอกว่าพรุ่งนี้เช้าข้าจะไปแน่”

“เจ้าค่ะบ่าวจะให้คนไปแจ้งเดี๋ยวนี้” หานอี้รับคำเจ้านายตน ก่อนจะเดินออกไปยังหน้าศาลา ที่ไม่ไกลจากศาลานักมีสาวใช้หลายคนคอยยืนรอรับใช้ฮูหยินน้อยของนางอยู่ไม่ไกล

ทางด้านของหลันซู่ถงในร่างของหลิวซู่ซู่นั้น นางกำลังนั่งคิดไปถึงแม่สามีของนางผู้ที่พรุ่งนี้นางจะเข้าไปทานอาหารเช้าด้วย

ความจำของเจ้าของร่างที่นางเข้ามาอยู่ยามนี้พอจะมีเรื่องราวของแม่สามีผู้นี้อยู่บาง อีกทั้งแม่สามีผู้นี้หลายวันก่อนที่นางนอนป่วยไข้ก็ยังแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่หลายครั้ง อีกทั้งของว่างของนางรวมไปถึงยาบำรุงต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นท่านแม่สามีผู้นี้เป็นผู้จัดหามาให้ทั้งนั้น

นับได้ว่าท่านแม่สามีผู้นี้เอ็นดูนางมิใช่น้อยเลยทีเดียว หรือไม่ก็รู้สึกสงสารนางที่บุตรชายของตนหรือก็คือสามีของนางในมิตินี่ไม่สนใจใยดีนางเลย

อ่า หรือว่าท่านแม่สามีจะรู้สึกผิดต่อนางกัน

ใช่แล้วรู้สึกว่าในความทรงจำของหลิวซู่ซู่ดูเหมือนการที่นางแต่งเข้ามาในสกุลฉู่ได้นั้นท่านแม่สามีเป็นผู้ที่ลงแรงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

เอาเถิดอย่างน้อยๆถ้าเธออยากจะอยู่ที่มิตินี้แบบสบายๆก็มีแต่จะต้องหามิตรเอาไว้เสียหน่อยแล้ว แล้วก็ทำตัวให้กลมกลืนสุดๆกับคนที่นี่ล่ะนะ

เช้าวันรุ่งขึ้นวันนี้นางตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเรียกได้ว่าเตรียมตัวเต็มที่สำหรับการไปกินข้าวเช้ากับท่านแม่สามีเลยทีเดียว

โดยมีหานอี้เป็นผู้ช่วยทุกอย่างตั้งแต่อาบน้ำจนกระทั่งเลือกอาภรณ์รวมไปถึงการจัดแต่งทรงผมและใส่เครื่องประดับต่างๆ

วันนี้นางเลือกที่จะใส่ชุดชมพูอ่อนขลิบขาว ที่ชายแขนเสื้อและตัวชุดปักลายดอกไม้  ส่วนทรงผมนางก็ให้หานอี้รวบผมด้านหน้าขึ้นไปบางส่วนให้เหลือปล่อยสบายบ้าง เครื่องประดับนางเลือกเป็นชุดเครื่องประดับเงินเพียงสามชิ้นเท่านั้น ชิ้นแรกเป็นสร้อยประดับผมรูปใบไม้ที่จะห้อยลงมาที่หน้าผากเล็กน้อยเวลาที่ประดับแล้ว และชิ้นที่สองเป็นปิ่นรูปใบไม้เช่นเดียวกันแต่จะเป็นดอกไม้เล็กๆจำนวนมากอยู่ที่ปิ่นด้ามเดียวและที่ปิ่นก็จะมีสายห้อยรูปดอกไม้ลงมาด้วยเช่นกัน ส่วนชิ้นที่สามเป็นตุ้มหูที่เป็นตุ้มหูแบบห้อยที่มีลวดลายและรูปแบบเหมือนกับสร้อยประดับผม

หลันซู่ถงนางคิดจะใช้ประโยชน์จากร่างกายของหลิวซู่ซู่ที่ดูอ่อนแอเปราะบาง รวมไปถึงอาการป่วยที่พึ่งหายดีดึงความสงสารของท่านแม่สามีของนางให้มากขึ้นอีกจึงจงใจแต่งกายให้ดูงดงามอ่อนหวานและดูอ่อนแอ ใบหน้าของนางก็ถูกแต่งแต้มให้พอมีสีสันไม่ให้ดูโดดเด่นมากเกินไปนัก

 “ฮูหยินน้อยเจ้าคะ จวนจะได้เวลาแล้วเจ้าค่ะ” หานอี้ที่ยืนมองนางหญิงของตนส่องกระจกอยู่ใกล้ๆเอ่ยเตือน

 “เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด”

นางเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจากการช่วยประคองของหานอี้สาวใช้คนสนิทของนาง

“คุณชายขอรับ เมื่อครู่ฮูหยินใหญ่ส่งคนมาเชิญให้คุณชายไปทานอาหารที่เรือนใหญ่ของรับ” ฟ่งอี้เอ่ยบอกคุณชายของตนเองซึ่งยามนี้ กำลังยืนให้ฟ่งสือช่วยสวมอาภรณ์อยู่ที่ด้านหลังฉากกั้น

“ส่งคนไปบอกท่านแม่ว่าข้าต้องรีบออกไปดูร้านค้าคงไปกินด้วยมิได้” ฉางซานเอ่ยขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่บ่าวคนสนิทของเขาเอ่ย

“ขอรับคุณชาย บ่าวจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้” ฟ่งอี้รับคำก่อนจะออกจากห้องไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที

“ฟ่งสือ” เขาเอ่ยเสียงเรียบเรียกคนสนิทของตนเองที่ยามนี้กำลังช่วยเขาสวมเสื้อคลุมตัวนอกอยู่

“ขอรับคุณชาย” ฟ่งสือเอ่ยรับคำก่อนจะเดินตามคุณชายของตนออกไปยังโต๊ะกลางห้องที่ยามนี้มีคุณชายของเขานั่งอยู่

เขารินน้ำชาใส่ถ้วยอย่างรู้หน้าที่และวางลงตรงเบื้องหน้าของคุณชายของตน

“พักนี้เรือนธารากระจ่างมีความเคลื่อนไหวอันใดรึไม่”

“สาวใช้ที่ข้าน้อยให้เข้าไปคอยสืบความที่เรือนธารากระจ่างรายงานมาว่าช่วงนี้นอกจากอาการของฮูหยินน้อยที่ดีขึ้นแล้วก็รายงานมาอีกว่าฮูหยินบางครั้งก็มีท่าทางแปลกๆไปขอรับ”

“ท่าทางแปลกไปงั้นรึ แปลกเช่นใด”

“เห็นว่าฮูหยินน้อยจะตื่นแต่เช้าทุกวันมาเต้นท่าทางแปลกๆขอรับ อีกทั้งพักนี้ฮูหยินน้อยนางกินเยอะขึ้นมากเลยทีเดียว อาหารทุกมื้อที่ส่งไปที่เรือนล้วนไม่มีเหลือเหมือนแต่ก่อน”

“นางพึ่งหายป่วยย่อมต้องรีบกินบำรุงร่างกาย ช่วงนี้ก็ให้ที่โรงครัวทำอาหารดีๆส่งไปยังเรือนนางให้เยอะหน่อยก็แล้วกัน ส่วนเรื่องยาบำรุงก็ส่งให้อย่าให้ขาด”

“ขอรับคุณชาย”

ฉางซานเอ่ยสั่งคนสนิทพร้อมกับนั่งจิบชาในมือของตนเองไปด้วย เขาสั่งไปแบบนั้นเพื่อเป็นการตัดรำคาญไปในตัว อย่างน้อยก็ทำให้ในวันหน้าท่านแม่ของเขาจะหาเรื่องอะไรมาต่อว่าเขาอีกมิได้แล้ว

ชีวิตนี้เขามิเคยคิดที่จะแต่งกับสตรีนางใดทั้งนั้น ครั้งนี้เพราะโดนท่านแม่ของเขาทั้งร้องไห้คร่ำครวญสามวันสามคืนจนชีวิตเขาหาความสงบสุขไม่ได้ จึงได้ตัดรำคาญไปด้วยการย่อมเข้าพิธีแต่งงานกับสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งเขาให้คนไปสืบมาแล้วเป็นเพียงสตรีหัวอ่อนธรรมดาผู้หนึ่ง

เขาจึงได้แต่งนางเข้าจวนมา และแน่นอนถึงจะผ่านพิธีแต่งงานมาแล้ว ทุกคนทั้งภายนอกและภายในรับรู้ว่านางคือภรรยาของเขา แต่เขาเลือกที่จะไม่จดจำว่าได้แต่งนางมาเป็นภรรยา คิดที่จะให้นางอยู่ในที่ของนางและเขาอยู่ในที่ของเขา ชั่วชีวิตมิมีสิ่งใดผูกกันเอาไว้

เพราะเช่นนั้นในคืนเข้าหอ เข้าถึงเอ่ยว่า ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง และเดินออกไปทันที โดยไม่แม้แต่จะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวตามประเพณี

ที่เขากระทำแบบนั้นไปเพราะมิต้องการให้นางมายุ่งกับเขา ต้องการให้นางเกลียดเขาให้มากยิ่งดี มากจนเข้ากระดูดดำ จนมิต้องการพบหน้ากันอีก เพื่อที่ชีวิตของเขาจะได้กลับมาเป็นปกติเช่นดังเดิม เหมือนก่อนที่แต่งงานและหวังให้เป็นแบบนั้นตลอดไป...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 5 หอเลิศรส  

    ตอนที่ 5 หอเลิศรส“หานอี้ บุรุษที่พวกเราเดินสวนทางด้วยใกล้ๆกับทางไปเรือนท่านแม่สามีนั้นใช่สามีข้าไหม”หลันซู่ถงในร่างของหลิวซู่ซู่เอ่ยถามหานอี้สาวใช้คนสนิทของตน เมื่อนึกไปถึงยามที่นางกำลังจะเดินไปยังเรือนใหญ่ของท่านแม่สามี ระหว่างทางได้สวนทางเข้ากับบุรุษสองคนซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นเป็นบุรุษที่มีลักษณะเย็นชาแต่ก็ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความมีอำนาจและความมั่งคั่งแบบที่นางมองไปที่เขาก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างกับบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งเดินตามหลังอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก“ใช่เจ้าค่ะ ท่านผู้นั้นก็คือท่านเขยเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินคำตอบของสาวใช้คนสนิท นางก็อดนึกไปถึงใบหน้าของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางมิได้บุรุษผู้นี้หากเพื่อนรักของเธอในมิติที่แล้วอย่างเฟ่งเสี่ยวซ่ง มาเห็นคงต้องถูกเรียกว่าแรร์ไอเทมมิต่างกันกับคุณหมอเฟิงฉางเหอผู้นั้นแน่นอน จะว่าไปแล้วเป็นเพราะเธอเคยเห็นคุณหมอเฟิงฉางเหอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงจำใบหน้าของมิค่อยได้เท่าไหร่ แต่นางกับมีความรู้สึกว่า บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอในมิตินี้ มีส่วนคล้ายกับคุณหมอเฟิงฉางเหอผู้นั้นอยู่มิน้อยเลยทีเดียวมันจะเป็นไปได้ไหมนะถ้าเขาจะเป็นคนผู้เดียวกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวน  

    ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวนใจกลางตลาดใหญ่ในเมืองหลวงร้านผ้าเข็มทองคำของสกุลฉู่ถือว่าใหญ่โตหรูหราเป็นที่สุด เพราะมีถึงสี่ชั้นด้วยกันและทุกชั้นทั้งภายนอกและภายในร้านผ้าแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราสวยงาม โดยที่ชั้นแรกจะเป็นชั้นแรกที่จะมีผู้คอยแนะนำสินค้าและแน่นอนว่าคอยดูว่าควรจะส่งลูกค้าไปที่ชั้นไหนให้เหมาะสมที่สุดอีกด้วยในร้านผ้าแห่งนี้จะแบ่งให้ชั้นสองเป็นชั้นที่ผู้ที่มีฐานะปานกลางเอาไว้เลือกซื้อเสื้อผ้า และชั้นที่สามจะเป็นชั้นที่เอาไว้บริการลูกค้าที่ร่ำรวยมั่งคั่งจ่ายง่ายและจ่ายไม่อันแน่นอนว่าการแบ่งแยกชัดเจนเช่นนี้ทำให้ลูกค้ารวมไปถึงคนของร้านผ้าเข็มทองคำทำงานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นร้านผ้าเข็มทองคำแน่นอนว่าเป็นร้านขึ้นชื่อในเมืองหลวงรวมไปถึงในอำเภออื่นๆด้วย แน่นอนว่าแม้แต่เหล่าพระสนมในวังยังชื่นชอบเสื้อผ้าอาภรณ์ของร้านผ้าเข็มทองคำยิ่งนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้าที่ดีกว่าร้านอื่นและก็ฝีมือการตัดเย็บจากช่างที่ฝีมือดี ทำให้ไม่ยากเลยที่ร้านเข็มทองคำจะขึ้นเป็นร้านผ้าอันดับหนึ่งในเมืองหลวงยามนี้เจ้าของกิจการร้านผ้าเข็มทองคำซึ่งก็คงจะเป็นผู้อื่นผู้ใดไปได้หากไม่ใช่บุรุษชายคนเดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว“เถ้าแก่ตงเปิดประตูให้ข้าน้อยหน่อยเจ้าค่ะ คุณชายของข้าน้อยลืมของบางสิ่งเอาไว้ด้านใน”เป็นหานอี้ที่เป็นผู้ยืนทุบประตูส่งเสียงเรียกคน โดยที่มีหลิวซู่ซู่ยืนรอท่าอยู่ด้านหลังไม่ไกลเท่าไหร่นัก“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ บ่าวเคาะประตูนานแล้ว มิได้ยินเสียงผู้ใดขานตอบกลับมาเลยเจ้าค่ะ มิแน่ว่าเถ้าแก่ตงกับเหล่าเสี่ยวเอ้อร์ทั้งหลายอาจจะแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้วเจ้าคะ” หานอี้เอ่ยบอก นางยืนเคาะประตูอยู่ก็หลายคราแล้วทั้งร้องเรียกขนาดนี้หากยังมิมีผู้ใดออกมาย่อมแปลว่ามิมีคนอยู่ด้านในแล้วก็เท่านั้นเห็นทีนางคงจะต้องให้ฮูหยินน้อยกลับจวนสกุลฉู่โดยไร้พัดที่ฮูหยินใหญ่ให้มาเสียแล้ว นางได้แต่ภวนาในใจให้ฮูหยินใหญ่ไม่ถามถึงพัดเล่มนั้น และโทษที่พวกนางจะได้รับก็อย่าให้ถึงขั้นโบยลงโทษเลยมิเช่นนั้นนางก็มิอยากจะนึกถึงเลย ว่าสภาพของนางจะเป็นเช่นไร ยิ่งฮูหยินน้อยของนางยิ่งแล้วใหญ่หากโดนโทษโบยจริงเห็นทีจะล้มป่วยไปอีกนานทีเดียว“มิสู้พรุ่งนี้เราให้คนนำเงินมาจ่ายเถ้าแก่ตงและก็ถือโอกาสให้นำพัดของท่านกลับไปให้ด้วยเลยจะดีกว่าไหมเจ้าคะ”“นั้นสินะ ตกลงพรุ่งนี้ค่อยให้คนมานำพัดของท่านแม่สามีกลับมาให้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร

    ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรเป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่นางโดนกักตัวให้อยู่แต่ในจวน มิสามารถก้าวออกจากจวนสกุลฉู่ได้เลย เหล่าสาวใช้และบ่าวชายในจวนต่างก็พากันจับตาดูนางเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าจะขยับตัวเดินไปไหน ก็จะค่อยตามนางอยู่เงียบๆ จนนางรู้สึกอึดอัดไปหมดอึดอัดที่ต้องการเป็นเป้าสายตาของทุกคน จนกระทั่งวันนี้นางต้องปิดประตูเรือนและขังตนเองไว้เพื่อลดความอึดอัดจากสายตาผู้อื่นสองวันมานี้ในหัวของนางวนเวียนคิดเกี่ยวกับวิธีการหนีออกจากจวนมิรู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ก็มิได้วิธีดีๆที่มีความเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย“เห้อ” นางถอนหายใจออกมาอย่างคิดมิตก หรือว่านางควรจะเลิกคิดดี และก็ยอมรับสภาพของตนเองในยามนี้แทนอาหารทุกมื้อก็มีพร้อม เสื้อผ้าอาภรณ์มิคาดตกบกพร่อง มีสาวใช้คอยปรนนิบัติอย่างดี นางในมิตินี้มีทุกอย่าง ยกเว้นอิสระนางมิสามารถทนอยู่อย่างนี้ได้แน่ๆในมิติที่นางจากมา นางมีอิสระในการใช้ชีวิตหากไร้ซึ่งอิสระนางย่อมมิสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขแน่ๆใช่แล้ว สิ่งที่นางควรทำยามนี้คือการปรับตัว และหากอยากได้อิสระของนางคืนมา สิ่งเดียวที่จะทำให้อิสระของนางกลับมาอีกครั้งคงมีเพียง ฉู่ฉางซานผู้เดียวเท่านั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ

    ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ“มีผู้ใดอยู่หรือไม่”หลันซู่ถงเอ่ยขึ้น เมื่ออยู่ๆตัวของนางก็มาปรากฏอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งซึ่งมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง ราวกับว่านางเดินอยู่ในที่ๆไม่มีจุดหมายไร้ซึ่งทุกสัพสิ่งนางรู้สึกได้ว่าแม้ร่างกายของนางจะก้าวเดินได้ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุดเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีวันพบเจอกับสิ่งใดได้ นอกจากความมืด และ ความว่างเปล่า“หลันซู่ถง”“ผู้ใด ผู้ใดกันที่เรียกข้า” นางเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับหันมองไปรอบๆทิศทางเพื่อมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่พบสิ่งใด ยังคงมีแต่ความมืดทั่วสารทิศ“เจ้าไม่ต้องมองหาข้า เจ้าไม่มีทางมองเห็นข้าได้”“เช่นนั้นท่านคือผู้ใด ทำไมข้าจึงไม่สามารถมองเห็นได้” นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้าคือผู้ควบคุมประตูมิติ และมีส่วนทำให้วิญญาณของเจ้าเขาร่างผิดมิติ”“เช่นนั้นท่านต้องรีบพาข้ากลับมิติเดิมได้แล้ว ท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ผิดมิติเช่นนี้ไม่ได้”นางคิดเอาไว้แล้วว่าต้องมีเหตุอันใดสักอย่างที่ทำให้วิญญาณของนางเข้ามาอยู่ในร่างผิดมิติ“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการกลับไปยังมิติเดิม เพราะเหตุนี้ข้าจึงต้องเข้าฝันเจ้าเพื่อแจ้งสิ่งต่างๆทั้งหมดแก่เจ้าเสียก่อนอย่างไรเล่า”“ท่านถึงกับเข้าฝันข้าใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไร

    ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไรเวลากว่าสิบวันที่ผ่านมา หลันซู่ถงใช้ชีวิตในมิตินี้อย่างสนุกสนาน นางออกจากจวนทุกวันมาที่ร้านเฟิ่งฮวาเพื่อนปลูกดอกไม้และจัดดอกไม้ใส่แจกันทุกวัน นางจัดดอกไม้วันละหลายแจกัน จัดแล้วก็ให้คนนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำที่นางรู้มาจากฟ่งซีว่าเขามักจะอยู่จัดการงานต่างๆอยู่ที่นั้นสิบวันก่อนที่นางมาที่ร้านเฟิ่งฮวาครั้งแรก นางนึกสนุกและก็อดคันไม้คันมือไม่ได้ เลยจึงออกไปหาซื้อแจกันขนาดกลางที่ไม่ค่อยมีลวดลายเท่าไรนักมากหลายใบด้วยกัน นางนำดอกไม้หลากหลายมาจัดแจกใส่แจกันอย่างสวยงาม บางส่วนนางก็ตั้งโชว์เอาไว้ที่ร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้ และไม่ลืมที่จะแวะไปที่หอเลิศรสและนำแจกันที่นางจัดดอกไม้เอาไว้ไปตั้งเอาไว้ที่นั้นเสียหลายอันเช่นเดียวกันอาจเป็นเพราะนางหยิบแจกันมามากมายเกินไปจากร้านขาย และก็คงเป็นเพราะนางไม่ได้จัดดอกไม้มานานทำให้นางจัดดอกไม้มากเกินความจำเป็น ทุกแจกันถูกนางจัดส่งไปในที่ๆควรส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กับเหลืออันแจกันใบสุดท้าย นางจึงให้ฟ่งซีแวะนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำเดิมทีนางคิดเอาไว้ว่าเขาอาจจะโยนทิ้งออกมาอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง

    ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่องถือได้ว่าเหตุการณ์วุ่นวายได้จบลงด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยามนี้นางนอนพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางที่ทำสิ่งใดไม่ถูก เพราะนางกำลังถูกสายตาอันเฉียบคมจับจ้องอยู่ไม่ได้คาดสายตานับตั้งแต่นางแกล้งสลบไปในร้านเฟิ่งฮวา จนกระทั่งถูกฉู่ฉางซานพากลับมาที่จวนสกุลฉู่นอกจากเวลาที่ท่านหมอเข้ามารักษานางและหานอี้ช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฉู่ฉางซานก็จะนั่งมองนางอยู่กลางห้องไม่ขยับไปไหนเลย“มิใช่ความผิดข้านะเจ้าคะ ข้ามิได้เป็นคนก่อเรื่อง” นางออกตัวเต็มที่ อย่างน้อยๆก็ต้องยืนยันความความบริสุทธิ์ของนางให้ถึงที่สุด“ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง”“หา จริงหรือเจ้าคะ” นางอดที่จะเอ่ยออกมาอย่างตกใจไม่ได้เมื่ออยู่ๆฉู่ฉางซานผู้ที่ไม่ยอมฟังคำของนางง่ายๆ กับดูเหมือนว่าจงใจปล่อยนางไปอย่างไม่ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งมันเป็นการผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก จนนางเริ่มสงสัยระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย“ท่านแม่ส่งข่าวว่าอีกห้าวันก็จะเดินทางถึงจวนสกุลฉู่เราแล้ว”“ที่แท้ท่านแม่สามีก็ใกล้จะกลับแล้ว”คงเป็นเพราะท่านแม่สามีของนางจะกลับมาแล้ว ฉู่ฉางซานจึงคิดที่จะทำดีกับนางตบตาผู้เป็นมารดาขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 12  งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 12 งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้วมิใช่ว่าหน้าประตูจวนสกุลลู่ต้องมีแม่ลูกสกุลฟ่างนั่งคุกเข่าอยู่หรอกหรือ ไฉนกลายเป็นว่ายามนี้ผู้ที่อยู่หน้าจวนกับเป็นท่านพ่อและท่านแม่สามีของนางกัน แม้แต่ฉู่ฉางซานก็ยืนอยู่ด้วย นางแอบลอบมองไปที่หน้าจวนก็ไม่เห็นมีสองแม่ลูกสกุลฟ่าง แต่กับมีสาวงามผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของแม่สามีนางแทน“คาราวะท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ”นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเท่าที่สุดที่จะทำได้ ก่อนจะย่อตัวและโค้งศีรษะให้ทั้งสองท่านเป็นการทำความเคารพ“มิต้องมากพิธีหรอกซู่เอ๋อร์แม่ได้ข่าวว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ ไม่เป็นอันใดแล้วใช่หรือไม่” ฉู่ฮูหยินเอ่ยถามลูกสะใภ้ของนาง ก่อนจะตรงเข้าไปจับมือเล็กของลูกสะใภ้นางเอาไว้“ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วง ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เมื่อครู่แม่จัดการไล่แม่ลูกสกุลฟ่างให้เจ้าแล้ว ต่อจากนี้พวกนางจะไม่กล้ามาให้เจ้าเห็นหน้า หรือกล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกแล้ว เจ้าวางใจได้” ที่แท้ที่นางมองหาแม่ลูกสกุลฟ่างไม่เจอก็เพราะแม่สามีจัดการให้นางแล้วนี้เองท่านแม่สามีอุตส่าห์จัดการให้ มันก็ดีอยู่หรอก แต่มิเท่ากับว่านางยังไม่ได้วางท่าใส่แม่ลู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่3

    ตอนพิเศษว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่ หลังจากที่เธอต้องใส่เผือกและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากแฟนหนุ่มอยู่เกือบสามเดือนในที่สุดเธอก็ได้ถอดเผือกและ กลับมาใช้ข้อมือได้อย่างอิสระอีกครั้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถกลับมาจัดดอกไม้ที่เธอรักได้อย่างถนัดอีกครั้ง อีกอย่างคือไม่ต้องถูกฉางเหอตามคุมเข้มอีกต่อไปแล้ว แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะกลัวเธอทำตัวซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวกว่าเดิมก็ตามแต่การที่ถูกแฟนซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอและซีอีโอรูปหล่อคอยตามดูแลอยู่ไม่ได้ห่างช่างเป็นอะไรที่หลบการตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่เขามาค่อยดูแล แต่ความดีใจกับมาพร้อมกับการที่มักจะทำตัวไม่ถูกของเธอ หลายครั้งที่เธอนึกอิจฉาความเฉยชาต่อสายตาเหล่านั้นของแฟนหนุ่มไม่ได้มีครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขาว่า เขาไม่รู้สึกรำคาญหรืออะไรบ้างหรือเวลาที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจเช่นนี้ เขาตอบกลับมาแค่ว่า “ผมไม่จำเป็นต้องแค่ใครนอกจากคุณ” เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขาฉันกลับเขาใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เธอใส่เผือกก็ถูกมัดมือชกแกล้มบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะถูก ที

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 2

    “มาครับผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อเอง” เขาเอ่ยขึ้นกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติบ้างได้แล้วนิดหน่อยเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลันซู่ถงจึงยิ้มออกมาให้เขาอย่างเอาใจ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงช่วยนางเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดคนไข้ชุดคนไข้ที่พยาบาลส่งให้เขาเมื่อครู่ยามนี้เขานำมาวางเอาไว้บนตักของเธอตัวเธอนั้นถูกเขาประคองให้ขึ้นมานั่งอยู่ที่ริมเตียงคนไข้ เนื่องจากเธอสูงไม่มากจึงขาลอยเมื่อนั่งหย่อนขาที่ริมเตียงคนไข้เช่นนี้ ในหัวอดคิดไปถึงคนไข้คนอื่นๆไม่ได้ว่าพวกเขาก็ขาไม่ถึงพื้นเช่นเธอเหมือนกันหรือไม่เวลาที่นั่งอยู่ริมเตียงคนไข้แบบนี้ตอนที่รอให้คุณหมอตามมาตรวจ “ข้อมือขวาคุณน่าจะหักผมว่าคุณอย่าขยับมันจะดีกว่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดุเธอทันที เมื่อเธอเผลอเกือบจะยกมือขึ้นมาหลังจากที่เขาเอื้อมมือมาหมายจะช่วยเธอปลดกระดุมชุดเดรสยีนส์ที่มีกระดุมเป็นแทบตั้งแต่ช่วงอกจนกระทั่งถึงช่วงเข่าของเธอ “เอ่อ ฉางเหอคะ ฉันว่าคุณให้พยาบาลเขามาช่วยฉันเปลี่ยนชุดน่าจะสะดวกกว่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา แน่นนอนว่าเมื่อกล่าวออกไปร่างสูงเบื้องหน้าเธอก็ขมวดค

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 1

    ตอนพิเศษเธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม หน้าฝนเช่นนี้แน่นอนว่าคงจะไม่แปลกเท่าไหร่นักหากคนส่วนให้ในเมืองจะเป็นหวัดกันไปหมด บางคนก็เป็นหวัดเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศที่สุดแสนจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างวันนี้ร้อนพรุ่งนี้พายุฝนตกกระหน่ำ อีกวันหนึ่งกับมีลมหนาว บางคนเดินๆอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหาที่หลบไม่ทัน กว่าจะวิ่งหาที่หลบฝนได้ก็เปียกไปกว่าครึ่งแล้วหลันซู่ถงเองเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆแต่พอไปถึงบริษัทเหม่ยหลง ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่เธอและเพื่อนอีกคนหนึ่งพึ่งจะร่วมทุนกันตั้งเป็นบริษัทสำหรับการรับตกแต่งสถานที่โดยมีดอกไม้เป็นตัวหลักวันนี้หลังจากที่ประชุมเรื่องเกี่ยวกับงานตกแต่งฉากโฆษณาเสร็จ เธอจึงได้คิดที่จะแวะเข้าไปให้หมอตรวจอาการของเธอก่อนจะตรงเข้าไปหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเช่นเดียวกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะหนิงจู” เธอเอ่ยขอบคุณหุ้นส่วนที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ไม่เป็นไรหรอก แกรีบเข้าไปให้หมอตรวจอาการเถอะ แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อน” หนิง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ เจ้าแม่แรร์ไอเทมจะว่าไปแล้วเธอก็งงอยู่เหมือนกันว่า ฉายาเจ้าแม่แรร์ไอเทมที่เธอได้มา ได้มายังไงจนเดือดร้อนถึงแม่เพื่อนสนิทของเธออย่างเฟ่งเสี่ยวซ่งต้องมาอธิบายไขข้อข้องใจ ให้เธอเสียยกให้“แม่เจ้านี่แกไม่รู้จริงๆ หรือตั้งใจจะถามให้ฉันอิจฉาตาร้อนเล่นห๊ะ”“ถ้ารู้ฉันก็ไม่ถามแกหรอกจริงไหม เลิกกัดฉันด้วยคำพูดแล้วก็รีบบอกมาเร็วเข้า” เธอเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของแม่เพื่อนตัวดีของเธอ“แฟนแกเป็นสุดยอดแรร์ไอเทมไง คนที่ได้เป็นแฟนกับเขาได้นั้นแปลว่าต้องเป็นนักชกมือฉกาจ และในเมื่อแกเก่งกล้าถึงขนาดนั้น เหล่าแฟนคลับเขาเลยเรียกแกว่า เจ้าแม่แรร์ไอเทม ไงเก็ทเนอะ”“เก็ทก็ได้ค่ะคุณเพื่อน”“ว่าแต่แกเถอะจะย้ายร้านเมื่อไหร่”“ก็คงจะสิ้นเดือนนี้พอดีนั้นแหละ ร้านใหม่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลของฉางเหอน่าจะตกแต่งเสร็จพอดี”“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้แกแรงๆหน่อยได้ไหม”“แกมาหมั่นไส้ฉันทำไมเนี่ย”เธออดจะขำออกมาเสียงดังไม่ได้ กับท่าทีที่ดูตลกของเฟ่งเสี่ยวซ่ง ที่เดียวๆทำคิ้วขมวด เดียวก็ทำหน้าบิดเบี้ยว“แกรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน” เฟ่งเสี่ยวซ่งเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทก่อนจะจับที่แข

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง (ตอนจบ)

    ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง(ตอนจบ)นี่ก็ผ่านมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอสลบไปเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า ไม่ใช่เพราะถูกฟ้าผ่าใส่แต่อยากใดทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอยังคงนึกไปถึงเรื่องในอีกมิติหนึ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังสับสนไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่เธอพลัดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็นความจริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่เธอฝันไปเองเท่านั้นยามที่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรก ก็เจอเข้ากับเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่มาเฝ้าเธออยู่พอดี เฟ่งเสี่ยวซ่งบอกกับเธอเพียงว่าร่างกายของเธอปกติทุกอย่างแต่กับนอนไม่ได้สติมาถึงสองอาทิตย์เต็ม ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในอีกมิติหนึ่งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเธออยู่ในมิตินั้นราวๆสามเดือนเห็นจะได้วันนี้เป็นวันที่เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผู้ที่มารับเธอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนั้นแหละ“ซู่ถงแกเดินไหวแน่นะ ไม่ใช่ว่าเดินๆไปแล้วแกล้มขึ้นมาฉันจับไม่ทันแกจะเจ็บตัวเอานะ”เฟ่งเสี่ยวซ่งเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็เงียบผิดปกติ อีกท

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมา

    ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมาหานอี้มองภาพของฮูหยินน้อยของนางที่กำลังพิงอยู่ที่ตัวของท่านเขยอย่างสงสารจับใจ นางพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ท่านเขยเห็นเพราะกลัวจะยิ่งทำให้ท่านเขยใจไม่ดีฮูหยินน้อยเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ช่วงค่ำ หากนางเชิญท่านหมอมาดูฮูหยินน้อยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นไม่นานนักฟ่งสือก็เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับท่านหมอตงและผู้ช่วยคนหนึ่ง “เรียนนายท่านฉู่ข้าน้อยได้ตรวจอาการของฮูหยินน้อยดูแล้ว มิมีสิ่งใดผิดปกติเลย มิได้มีโรคอันใดแทรกซ้อน มีเพียงแค่ชีพจรเท่านั้นที่เต้นอ่อนยิ่งนักขอรับ” หมอตงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นแล้วนางเป็นอันใดถึงได้กระอักเลือดออกมาเช่นนี้!!!” เขาลูบใบหน้าเล็กที่ยามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือด ของคนในอ้อมแขนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยก็พึ่งเคยพบอาการเช่นฮูหยินน้อยเป็นเป็นครั้งแรกขอรับ”หมอตงเอ่ยขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีกับไม่เคยเห็นอาการเช่นนี้ ทุกอย่างรวมไปถึงชีพจรแม้จะเต้นอ่อนยิ่งนักแต่ก็เป็นปกติอยู่ แต่กับมีอาการกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“ฟ่งสือ เจ้าไป

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น

    ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นนางรู้สึกได้ว่าฉู่ฉางซานผู้ซึ่งเหินทะยานพานางขึ้นมาด้านบนยามนี้เขายืนหยุดอยู่กับที่แล้ว“ลืมตาเจ้าขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว”เขาก้มลงเอ่ยบอกร่างเล็กที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะปล่อยนางลงเมื่อนางยอมลืมตาขึ้นมาแล้ว“สวยงามยิ่งนัก!!!”นางเอ่ยออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าของตนเองยามนี้ คือบ้านไม้ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าก่อนที่จะไปถึงตัวบ้านนั้นมีบ่อน้ำขนาดเล็กและมีสะพานทอดยาวให้ข้ามไปยังด้านหน้าของบ้านไม้หลังใหญ่นั้นได้นี่เลยที่นี่เปรียบเสมือนกันกับที่นางเฝ้าฝันว่าอยากจะมาอยู่ในบ้านที่ท่ามกลางธรรมชาติท่ามกลางดอกไม้เช่นนี้ ยามนี้นางได้มายืนอยู่ในที่ๆนางได้วาดฝันเอาไว้แล้ว“เจ้าชอบที่นี่มากขนาดนี้เชี่ยวรึ” เขามองร่างเล็กที่วิ่งไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยถามขึ้น“ข้าชอบที่นี่มากๆเลยเจ้าค่ะ ที่นี่เหมือนกับที่ๆข้าฝันเอาไว้ว่าอยากจะอยู่” นางส่งยิ้มให้เขา“ที่แท้เจ้าก็ชื่นชอบอันใดแบบนี้ เอาไว้กลับไปจวนสกุลฉู่ข้าจะให้คนมาสร้างเรือนเช่นนี้ให้เจ้าที่ท้ายจวนดีรึไม่”“จริงนะเจ้าคะ ท่านจะสร้างให้ข้าจริงๆนะ”

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้  

    ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม รถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งจึงได้ออกจากประตูเมืองทางใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วถนนใกล้บริเวณประตูเมืองทางใต้ยังพอให้มองเห็นผู้คนเดินทางไปมา เป็นผู้คนเดินทางด้วยเท้าบ้าง ม้าบ้าง หรือแม้จะทั่งใช้รถม้าเช่นเดียวกันกับนางขบวนรถม้าของนางมีฟ่งอี้เป็นผู้ควบคุมรถม้า มีฟ่งสือและองครักษ์อีกผู้หนึ่งที่ขี่รถม้านำอยู่หน้ารถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งอยู่ สวนด้านหลังยังมีองครักษ์ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังอีกสี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดฉู่ฉางซานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำเช่นเดียวกัน ส่วนนางยามนี้ก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดาๆชุดหนึ่งที่ไม่ได้ดึงดูสายตาของใครๆได้ แต่นางก็ชอบชุดนี้มากกว่าชุดสวยๆราคาแพงที่ใส่อยู่ทุกวันเสียอีก“ท่านว่ายามนี้เราเหมือนกับสามีภรรยาแบบปกติไหม”นางเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยามนี้เอนตัวนั่งพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของผนังรถม้า แม้เขาจะนั่งหลับตาอยู่แต่นางก็รู้ว่าเขาแค่หลับตาลงเอาไว้เฉยๆไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด“แล้วปกติเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้วรึอย่างไรกัน ถามสิ่งใดของเจ้า”“นั่นสิปกติเราก็เป็นสามีภรรยานี่ เพียงแต่ข้าหมายถึ

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ

    ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ “เล่นสนุกพอหรือยังเจ้า” เสียงเรียบเฉยที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำให้นางหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบฉู่ฉางซานที่กำลังก้าวลงมาจากบันได และเขากำลังก้าวเดินเข้ามาหานาง “เหมือนว่าข้าจะถูกท่านแอบดูเรื่องสนุกเสียแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลก “ข้าไม่ได้แอบดู เพียงแต่เจ้าสร้างเรื่องพอดีกับที่ข้าอยู่ก็เพียงเท่านั้น” “เรื่องนั้นช่างมันเถิด ว่าแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เช่นใดกัน ข้านึกว่าท่านจะไปอยู่ที่หอดนตรีเหม่ยหัวแล้วเสียอีก” นางเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย นางคิดจริงๆว่าฉู่ฉางซานน่าจะไปอยู่ที่หอดนตรีแล้ว เขาเป็นเจ้าของมิใช่ว่าต้องไปอยู่ดูความเรียบร้อยของกิจการก่อนหรือ “วันนี้ข้าไม่ได้จะไปที่หอดนตรีเหม่ยหัว ข้าจะเดินทางออกจากเมืองไปดูหุบเขาดอกไม้ที่นอกประตูเมืองทางเหนือเสียหน่อย คงไปสักสองสามวันเป็นอย่างต่ำ”“ที่นี่ใกล้ประตูเมืองทางเหนือมิใช่เหรอ ประตูทางใต้อยู่อีกทางหนึ่งเลยนี่น่า”“เป็นดังเจ้าว่ามันอยู่คนละทางกัน”“แล้วท่านมาที่ร้านนี้เพราะมีปัญหาอันใดเกิดขึ้นเช่นนั้นรึเปล่า” ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status