Home / รักโบราณ / ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ / ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ

Share

ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ

last update Last Updated: 2024-12-15 20:47:02

ตอนที่ 9

ช่องว่างระหว่างมิติ

“มีผู้ใดอยู่หรือไม่”

หลันซู่ถงเอ่ยขึ้น เมื่ออยู่ๆตัวของนางก็มาปรากฏอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งซึ่งมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง ราวกับว่านางเดินอยู่ในที่ๆไม่มีจุดหมายไร้ซึ่งทุกสัพสิ่งนางรู้สึกได้ว่าแม้ร่างกายของนางจะก้าวเดินได้ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุดเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีวันพบเจอกับสิ่งใดได้ นอกจากความมืด และ ความว่างเปล่า

“หลันซู่ถง”

“ผู้ใด ผู้ใดกันที่เรียกข้า” นางเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับหันมองไปรอบๆทิศทางเพื่อมองหาที่มาของเสียง

แต่ก็ไม่พบสิ่งใด ยังคงมีแต่ความมืดทั่วสารทิศ

“เจ้าไม่ต้องมองหาข้า เจ้าไม่มีทางมองเห็นข้าได้”

“เช่นนั้นท่านคือผู้ใด ทำไมข้าจึงไม่สามารถมองเห็นได้” นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ข้าคือผู้ควบคุมประตูมิติ และมีส่วนทำให้วิญญาณของเจ้าเขาร่างผิดมิติ”

“เช่นนั้นท่านต้องรีบพาข้ากลับมิติเดิมได้แล้ว ท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ผิดมิติเช่นนี้ไม่ได้”

นางคิดเอาไว้แล้วว่าต้องมีเหตุอันใดสักอย่างที่ทำให้วิญญาณของนางเข้ามาอยู่ในร่างผิดมิติ

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการกลับไปยังมิติเดิม เพราะเหตุนี้ข้าจึงต้องเข้าฝันเจ้าเพื่อแจ้งสิ่งต่างๆทั้งหมดแก่เจ้าเสียก่อนอย่างไรเล่า”

“ท่านถึงกับเข้าฝันข้าในมิตินี้เพื่อต้องการเข้ามาแจ้งบ้างสิ่งแก่ข้า คงมิใช่ว่ายามนี้ข้ายังไม่สามารถกลับมิติเดิมของตนเองได้หรอกกระมัง”

นางรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ

             ท่านผู้ควบคุมประตูมิติก็รู้อยู่ว่าวิญญาณของนางอยู่ผิดมิติ แต่ก็ไม่ได้แก้ไขให้นางสามารถกลับมิติเดิมได้ทันที เช่นนี้แล้วแสดงว่าต้องมีเหตุอันใดทำให้ท่านผู้ควบคุมประตูมิติทำเช่นนั้นไม่ได้

             ซึ่งเหตุดังกล่าวคือเหตุใดคงต้องรอให้ท่านผู้ควบคุมประตูมิติแห่งนี้เป็นผู้บอกแล้ว

             “ยามนี้ประตูมิติที่เชื่อมระหว่างมิติที่เจ้าจากมากับมิติที่เจ้าอยู่ยามนี้เกิดพังทลายลง เจ้าจงยังไม่สามารถเดินทางกลับมิติของเจ้าได้”

             “ประตูเชื่อมมิติพังเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ทำไมมันถึงพังลงได้เล่าเจ้าคะ มีผู้มาทำลายมันหรืออย่างไร แล้วเช่นนี้ไม่ใช่ว่าข้าจะต้องติดอยู่ในมิตินี้ไปตลอดกาลหรืออย่างไร” นางเอ่ยถามชุดใหญ่

             “มีผู้ทำลายประตูเชื่อมมิติจริง แต่เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าเป็นผู้ใด ส่วนเรื่องที่เจ้าจะต้องอยู่ในอีกมิติถึงเมื่อไหร่ข้าก็คงต้องบอกเจ้าว่า จน กว่าประตูเชื่อมมิติจะสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น

 เมื่อถึงเวลานั้นวิญญาณของเจ้าจะถูกดึงกลับมิติเดิมของเจ้าเอง”

             ผู้ควบคุมประตูมิติรีบเอ่ยบอกสิ่งต่างๆอย่างรวดเร็ว จะให้เขาบอกได้อย่างไรว่าเพราะเขาหลับฝันว่ากำลังประลองยุทธ์กับเทพบนสวรรค์อยู่ จึงได้เผลอซัดฝ่ามือใส่ประตูเชื่อมมิติไปโดยไม่รู้ตัว และในขณะเดี่ยวกันประจวบเหมาะกับการที่คลื่นวิญญาณของหลันซู่ถงปะทะเข้ากับประตูเชื่อมมิติพอดี จึงทำให้คลื่นวิญญาณหลงเข้าไปยังมิติอื่น

             “อีกเพียงไม่นานข้าก็จะได้กลับไปมิติของข้า”

             “เป็นเช่นดังเจ้าว่านั้นแหละ ระหว่างรอเจ้าก็ใช้ชีวิตในมิตินี้ให้สนุกก็แล้วกัน ใกล้รุ่งสางแล้วข้าคงต้องไปแล้ว”

และนั้นก็เป็นความฝันของนางเมื่อคืนนี้ จะบอกว่าความฝันก็คงไม่ถูกนักคงต้องบอกว่าเป็นสถานที่แจ้งข่าวเสียมากกว่า ถ้าจะให้ขยายความก็คงคล้ายๆกับห้องลับ  เพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้มีเพียงต้อง

ยามนี้นางยังคงนอนลืมตาอยู่บนเตียงนอนของนางในเรือนธารากระจ่างอยู่ เนื่องจากยามนี้ท้องฟ้าภายนอนยังคงไม่สว่างมากนัก แสดงที่ส่องรอดเข้ามาก็ยังไม่ได้สว่าง ตอนนี้หน้าจะเป็นเวลาเช้ามืดเพราะนางแอบได้ยินเสียงเหมือนเหล่าสาวใช้ที่เริ่มทำงานกันอยู่ข้างนอกเรือนแล้ว

สิ่งที่นางได้รับรู้จากท่านผู้ควบคุมประตูมิติทำให้นางหายกังวลใจว่าจะสามารถกลับไปยังมิติเดิมของตนเองได้หรือไม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะว่านางสามารถกลับไปได้ทันทีเมื่อประตูเชื่อมระว่างมิติสร้างขึ้นใหม่เสร็จ

เช่นนั้นต่อจากนี้นางก็สามารถใช้ชีวิตในมิตินี้ได้อย่างไรกังวล ซ้ำยามนี้อิสระที่นางต้องการก็มีอยู่ตามที่นางต้องการเรียบร้อยแล้วเช่นกัน นางคงจะเปรียบเทียบการใช้ชีวิตต่อในมิตินี้ เป็นการเที่ยวต่างเมืองอย่างอิสรเสรี นางจะสนุกให้สุดๆและกลับไปทำงานหาเงินที่มิติเดิมอย่างเต็มที่

             ข้อตกลงของนางและฉู่ฉางซานเป็นไปอย่างเรียบง่าย ต่อจากนี้นางสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระเพียงแต่ก่อนออกจากจวนต้องให้ฟ่งซี องครักษ์สาวค่อยติดตามออกไปด้วยทุกครั้ง และที่สำคัญห้ามนางก่อเรื่องอีกเด็ดขาด ซึ่งสำหรับข้อนี้ถ้ามิมีผู้ใดมาหาเรื่องนางก่อน นางก็ไม่มีทางไปก่อเรื่องโดยไม่จำเป็นแน่นอนอยู่แล้ว และก็ห้ามนางแต่งเป็นชายออกจากจวนไปหาเรื่องเล่นอะไรแปลกประหลาดอีก

             “ฟ่งซี” นางเอ่ยเรียกองครักษ์สาวซึ่งต่อจากนี้จะต้องคอยติดตามนางตลอดเวลาให้เข้ามาหา เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งอยู่นอกศาลารับลมที่นางนั่งอยู่สักพักหนึ่งแล้ว

             “เจ้าค่ะ ฮูหยินน้อย”

ฟ่งซีผู้นี้เป็นสตรีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ใหญ่กว่าพวกนางไปเสียเท่าไหร่นัก มองไปที่นางก็จะรู้สึกได้ทันทีว่าเป็นสตรีที่แข็งแรงมิใช่อ่อนแอเปราะบาง พร้อมที่มือจะถือดาบเล่มหนึ่งเอาไว้อยู่เสมอ

“นั่งก่อนสิ” นางเอ่ยบอกให้องครักษ์สาวนั่งลงที่ๆนั่งตรงข้ามที่ ที่เป็นเก้าอี้หินอ่อน

“มิเป็นไรเจ้าค่ะ ข้าน้อยยืนได้ ฮูหยินน้อยมีสิ่งใดก็เชิญเอ่ยออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”

                “ข้าถามเจ้าได้รึไม่ว่าพวกเจ้าฟ่งอี้ฟ่งสือมาอยู่กับฉู่ฉางซานได้อย่างไรกัน”

“พวกเราสามพี่น้องพ่อแม่ถูกโจรฆ่าตายหมด ได้นายท่านฉู่และฮูหยินใหญ่ช่วยเหลือและให้มาอยู่ในจวนสกุลฉู่ด้วยกันเจ้าค่ะ ตั้งแต่นั้นพวกเราก็ติดตามคุณชายฉู่มาตลอด”

ฟ่งซีเล่าเรื่องทั้งหมดตามความจริงอย่างมิคิดปิดบังให้ฮูหยินน้อยฟังตามตรง

เดิมที่นางจะทำหน้าที่คอยตรวจสอบร้านค้าต่างๆทั้งในเมืองและนอกเมืองให้คุณชายฉู่ บางครั้งก็คุมขบวนการค้าไปส่งของที่ต่างเมือง ครั้งนี้นางถูกเรียกตัวให้มาคอยตามดูแลฮูหยินน้อย ทำเอานางแปลกใจไม่น้อยที่คุณชายของตนตัดสิ้นใจเช่นนี้ ไม่ใช่ว่ายามนี้คุณชายฉู่ผู้ที่ไม่สนใจสตรีใด ไม่ว่าจะสาวขนาดไหน จะมาใจอ่อนให้ฮูหยินน้อยผู้นี้เสียแล้วกระมัง

“อ่า ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วยที่เอ่ยถาม” นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่อยากรู้เรื่องจนทำให้ผู้อื่นต้องรื้อฟื้นความทรงจำที่ไม่ดีให้อดีต

“มิใช่เรื่องใหญ่อันใดแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยมิได้มีอันใดฝังใจรุนแรงถึงเพียงนั้นแล้ว” 

นางเอ่ยพร้อมกับสังเกตท่าทางที่ฮูหยินน้อยแสดงออกมา นางรู้สึกดีไม่น้อยที่ฮูหยินน้อยเป็นผู้ที่มิมองข้ามความรู้สึกของผู้อื่น แม้แต่นางที่เป็นเพียงองครักษ์ฮูหยินน้อยก็ปฏิบัติกับนางอย่างระมัดระวังถึงเพียงนี้

นางยังเคยคิดไปว่าฮูหยินน้อยที่มาจากสกุลหลิวผู้นี้น่าจะเป็นคุณหนูผู้อ่อนแออ่อนต่อโลกเปราะบางชนิดที่แค่โดนลมก็ล้มป่วยแล้ว เมื่อเห็นว่าฮูหยินน้อยผู้นี้ช่างเจรจา อีกทั้งท่าทางยังดูคล่องแคล้วจะก้าวเดินลุกนั่งก็ไม่มีเชื่องช้า แต่กับแข็งแรงมั่นคง เห็นที่เรื่องที่นางได้ฟังมาจากฟ่งสือและฟ่งอี้เกี่ยวกับฮูหยินน้อยที่เกิดขึ้นที่หอเลิศรสจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว

“ฟ่งซีข้าจะหาดอกไม้หลายๆชนิดได้จากที่ใดกัน”

อยู่ๆนางก็อยากจะลงมือจัดดอกไม้ ที่เป็นสิ่งที่นางรักและถนัดที่สุดในชีวิต หลังจากที่ไม่เคยได้ลงมือจัดดอกไม้อีกเลยเมื่อพลัดมาอยู่ที่มิตินี้

“ฮูหยินน้อยสามารถไปที่ร้านเฟิ่งฮวาซึ่งเป็นร้านขายและเพาะพันธุ์ดอกไม้มากมายได้เลยเจ้าค่ะ”

“ร้านนั้นเป็นอีกหนึ่งของกิจการของสกุลฉู่รึเปล่า”

“เจ้าค่ะ ร้านเฟิ่งฮวาก็เป็นกิจการของสกุลฉู่”

“เช่นนั้นพวกเราก็ไปร้านเฟิ่งหัวกันเถิด” นางเอ่ยออกมาเมื่อรู้ว่าร้านเฟิ่งฮวาเป็นหนึ่งในกิจการของสกุลฉู่ นั้นก็แสดงว่าจะต้องเป็นร้านใหญ่และมีดอกไม้มากมายอย่างที่นางต้องการเป็นแน่

“เช่นนั้นข้าจะไปสั่งคนให้เตรียมรถม้าก่อนนะเจ้าคะ”

“เจ้าไปเถิด”

ร้านเฟิ่งฮวาเป็นร้านสองชั้นที่ทำจากไม้ทั้งหมด ด้านหน้าของร้านจะเป็นประตูใกล้ที่เปิดกว้างเอาไว้ให้สามารถมองเห็นด้านในได้ ข้างหน้าร้านมีดอกไม้ที่ถูกห้อยเอาไว้มากมาย

นางถูกฟ่งซีช่วยประคองลงจากรถม้า ที่มาจอดอยู่ที่หน้าร้านเฟิ่งฮวาอย่างพอดิบพอดี

เมื่อนางลงมายืนอยู่ที่พื้นหน้าร้านเฟิ่งฮวาเรียบร้อยแล้ว ไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนและสตรีอีกสองนางที่ดูแล้วไม่น่าจะอายุมากกว่านางเท่าไหร่นักวิ่งออกมาต้อนรับพวกนางอย่างรวดเร็ว

“แม่นางฟ่งซีวันนี้ท่านมาตรวจร้านแทนนายท่านฉู่รึเจ้าค่ะ”

ฮุ่ยเจินสตรีวัยกลางคนรีบเอ่ยขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดกันที่มาเยือนร้านเฟิ่งฮวา

“วันนี้งานหลักของข้าหาใช่การตรวจร้านไม่”

“เช่นนั้นหรือว่าแม่นางฟ่งซีไม่ได้ทำงานให้นายท่านฉู่แล้ว”

นางฮุ่ยเจินเอ่ยออกมาอยากตกใจ เพราะปกติผู้ที่นายท่านฉู่ไว้ใจให้ไปตรวจร้านหรือกิจการอื่นๆของสกุลฉู่จะมีเพียงพี่น้องแซ่ฟ่งสามคนเพียงเท่านั้น นอกนั้นนายท่านฉู่ไม่เคยไว้ใจใครอีก

“ข้าทั้งชีวิตนี้มีไว้เพื่อตอบแทนสกุลฉู่ ไม่มีทางจากไปที่ใดหากไม่ตายจาก ส่วนวันนี้ที่ข้ามาเพราะฮูหยินน้อยอยากได้ดอกไม้ข้าจึงได้พานางมาที่นี่”

เมื่อได้ยินว่าเหตุใดฟ่งซีถึงได้มาที่นี่ ฮุ่ยเจินจึงมองไปที่สตรีที่ยืนอยู่ข้างฟ่งซีที่แต่งตัวธรรมดาไม่ได้พิเศษโดดเด่นอันใดเลย บนศีรษะก็ปักปิ่นเงินเล็กๆธรรมดาๆเพียงด้ามเดียวเท่านั้น  หาได้มองไปแล้วเหมือนกับฮูหยินตระกูลมั่งคั่งอย่างที่ควรจะเป็นไม่

แต่เอาเถิดเมื่อแม่ฟ่งซีถึงกับพามาด้วยตัวเองเช่นนี้คงไม่พาคนมาผิดตัวเป็นแน่

เมื่อคิดได้ดังนั้นฮุ่ยเจินก็ไม่รีรอที่จะฉีกยิ้มหวานไปให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“อ่า ที่แท้ก็เป็นฮูหยินน้อยที่นี่เอง ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะที่ไม่ได้รีบต้อนรับท่าน”

“ช่างมันเถิด ท่านคงเป็นน้าฮุ่ยเจินผู้ดูแลร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้ใช่หรือไม่”

นางเอ่ยออกมาอยากเข้าอกเข้าใจ ผู้ใดเห็นนางแต่งตัวธรรมดาแบบนี้ก็คงคิดว่าเป็นชาวบ้านร้านตลาดทั่วไป นางจะเอาอันใดไปถือสาผู้อื่นกันเล่า ในเมื่อนางตั้งใจที่จะแต่งตัวธรรมดามาเอง

คิดดูเอาเถิดหากใส่เสื้อผ้าราคาแพงมาแล้วเกิดนางต้องขุดดินหรือรดน้ำต้นไม้ นางคงได้ทำเสื้อผ้าพวกนั้นเลอะเทอะไปหมดอย่างไม่เหลือเค้าเดิมเป็นแน่

สู้สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆไม่มีราคาค่างวดอันใดสูงนัก ยามทิ้งก็ยังจะพอทำใจทิ้งลงได้หน่อย

“เจ้าค่ะ ข้าคือฮุ่ยเจินผู้ดูแลร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้”

“ระหว่างทางมาที่นี่ฟ่งซีเล่าเรื่องของน้าฮุ่ยเจินให้ข้าฟังมามาทีเดิม ข้าคงต้องขอรบกวนน้าฮุ่ยเจินแล้ว”

Related chapters

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไร

    ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไรเวลากว่าสิบวันที่ผ่านมา หลันซู่ถงใช้ชีวิตในมิตินี้อย่างสนุกสนาน นางออกจากจวนทุกวันมาที่ร้านเฟิ่งฮวาเพื่อนปลูกดอกไม้และจัดดอกไม้ใส่แจกันทุกวัน นางจัดดอกไม้วันละหลายแจกัน จัดแล้วก็ให้คนนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำที่นางรู้มาจากฟ่งซีว่าเขามักจะอยู่จัดการงานต่างๆอยู่ที่นั้นสิบวันก่อนที่นางมาที่ร้านเฟิ่งฮวาครั้งแรก นางนึกสนุกและก็อดคันไม้คันมือไม่ได้ เลยจึงออกไปหาซื้อแจกันขนาดกลางที่ไม่ค่อยมีลวดลายเท่าไรนักมากหลายใบด้วยกัน นางนำดอกไม้หลากหลายมาจัดแจกใส่แจกันอย่างสวยงาม บางส่วนนางก็ตั้งโชว์เอาไว้ที่ร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้ และไม่ลืมที่จะแวะไปที่หอเลิศรสและนำแจกันที่นางจัดดอกไม้เอาไว้ไปตั้งเอาไว้ที่นั้นเสียหลายอันเช่นเดียวกันอาจเป็นเพราะนางหยิบแจกันมามากมายเกินไปจากร้านขาย และก็คงเป็นเพราะนางไม่ได้จัดดอกไม้มานานทำให้นางจัดดอกไม้มากเกินความจำเป็น ทุกแจกันถูกนางจัดส่งไปในที่ๆควรส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กับเหลืออันแจกันใบสุดท้าย นางจึงให้ฟ่งซีแวะนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำเดิมทีนางคิดเอาไว้ว่าเขาอาจจะโยนทิ้งออกมาอย่

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง

    ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่องถือได้ว่าเหตุการณ์วุ่นวายได้จบลงด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยามนี้นางนอนพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางที่ทำสิ่งใดไม่ถูก เพราะนางกำลังถูกสายตาอันเฉียบคมจับจ้องอยู่ไม่ได้คาดสายตานับตั้งแต่นางแกล้งสลบไปในร้านเฟิ่งฮวา จนกระทั่งถูกฉู่ฉางซานพากลับมาที่จวนสกุลฉู่นอกจากเวลาที่ท่านหมอเข้ามารักษานางและหานอี้ช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฉู่ฉางซานก็จะนั่งมองนางอยู่กลางห้องไม่ขยับไปไหนเลย“มิใช่ความผิดข้านะเจ้าคะ ข้ามิได้เป็นคนก่อเรื่อง” นางออกตัวเต็มที่ อย่างน้อยๆก็ต้องยืนยันความความบริสุทธิ์ของนางให้ถึงที่สุด“ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง”“หา จริงหรือเจ้าคะ” นางอดที่จะเอ่ยออกมาอย่างตกใจไม่ได้เมื่ออยู่ๆฉู่ฉางซานผู้ที่ไม่ยอมฟังคำของนางง่ายๆ กับดูเหมือนว่าจงใจปล่อยนางไปอย่างไม่ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งมันเป็นการผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก จนนางเริ่มสงสัยระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย“ท่านแม่ส่งข่าวว่าอีกห้าวันก็จะเดินทางถึงจวนสกุลฉู่เราแล้ว”“ที่แท้ท่านแม่สามีก็ใกล้จะกลับแล้ว”คงเป็นเพราะท่านแม่สามีของนางจะกลับมาแล้ว ฉู่ฉางซานจึงคิดที่จะทำดีกับนางตบตาผู้เป็นมารดาขอ

    Last Updated : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 12  งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 12 งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้วมิใช่ว่าหน้าประตูจวนสกุลลู่ต้องมีแม่ลูกสกุลฟ่างนั่งคุกเข่าอยู่หรอกหรือ ไฉนกลายเป็นว่ายามนี้ผู้ที่อยู่หน้าจวนกับเป็นท่านพ่อและท่านแม่สามีของนางกัน แม้แต่ฉู่ฉางซานก็ยืนอยู่ด้วย นางแอบลอบมองไปที่หน้าจวนก็ไม่เห็นมีสองแม่ลูกสกุลฟ่าง แต่กับมีสาวงามผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของแม่สามีนางแทน“คาราวะท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ”นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเท่าที่สุดที่จะทำได้ ก่อนจะย่อตัวและโค้งศีรษะให้ทั้งสองท่านเป็นการทำความเคารพ“มิต้องมากพิธีหรอกซู่เอ๋อร์แม่ได้ข่าวว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ ไม่เป็นอันใดแล้วใช่หรือไม่” ฉู่ฮูหยินเอ่ยถามลูกสะใภ้ของนาง ก่อนจะตรงเข้าไปจับมือเล็กของลูกสะใภ้นางเอาไว้“ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วง ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เมื่อครู่แม่จัดการไล่แม่ลูกสกุลฟ่างให้เจ้าแล้ว ต่อจากนี้พวกนางจะไม่กล้ามาให้เจ้าเห็นหน้า หรือกล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกแล้ว เจ้าวางใจได้” ที่แท้ที่นางมองหาแม่ลูกสกุลฟ่างไม่เจอก็เพราะแม่สามีจัดการให้นางแล้วนี้เองท่านแม่สามีอุตส่าห์จัดการให้ มันก็ดีอยู่หรอก แต่มิเท่ากับว่านางยังไม่ได้วางท่าใส่แม่ลู

    Last Updated : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 13 แผนแรก คืนแรก

    ตอนที่ 13 แผนแรก คืนแรก“คุณชายขอรับยามนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ให้ข้าน้อยเรียกคนมาจัดอาหารให้ที่นี่เลยไหมขอรับ” ฟ่งสือที่รอรับใช้คุณชายของตนอยู่มิใกล้นัก เอ่ยถามคุณชายของตนเหมือนเห็นว่าได้เวลาอาหารและก็เหมือนว่าคุณชายของตนเองจะยังไม่ย่อมละความสนใจออกจากสมุดรายชื่อของสินค้าที่มาใหม่เสียที“ไม่ต้องเตรียมอาหารให้ข้า”“คุณชายจะไม่ทานอาหารหรือขอรับ เช่นนั้นให้ข้าน้อยสั่งคนให้จัดของว่างมาให้แทนนะขอรับ”“ไม่ต้องให้ใครเตรียมอันใดทั้งนั้น วันนี้ข้าจะไปทานที่เรือนธารากระจ่าง” ฉู่ฉางซานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ก่อนที่จะปิดสมุดในมือตน และวางมันไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะยืนขึ้นเต็มความสูงก้าวออกมาจากโต๊ะทำงานด้วยท่าทีเรียบเฉย “เจ้าก็อยู่ที่นี่แหละไม่ต้องตามข้าไป คืนนี้ข้าจะค้างที่เรือนธารากระจ่าง” พูดจบฉู่ฉางซานก็ก้าวออกจากเรือนตำราทิพย์เพื่อตรงไปยัง เรือนธารากระจ่างที่เขาพึ่งจะจากมาได้ไม่ถึงครึ่งวันดีนักเสียด้วยซ้ำ เพื่อที่จะไปกระทำตามแผนที่หลันซู่ซู่ได้วางเอาไว้ คืนนี้หลังจากกินข้าวกับนางเสร็จ เขาก็ต้องนอนรวมเตียงเดียวกันกับนางเป็นครั้งแรก ม

    Last Updated : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 14 จุมพิตนั้นยังจำฝังใจ

    ตอนที่ 14 จุมพิตนั้นยังจำฝังใจยกเลิกได้รึไม่กันยามนี้นางยังยืนคิดหนักอยู่หลังม่านแต่งตัวอยู่เลย แม้จะแต่งตัวเสร็จนานพอควรแล้วแต่ก็มิกล้าก้าวออกไปยังห้องนอนของตนเองเสียทีเหตุก็เพราะเหตุที่เกิดขึ้นที่ศาลาหินอ่อนนั้นทำเอานาง ไม่อยากจะเจอหน้าฉู่ฉางซานยามนี้คิดแล้วก็อดรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าของตนเองขึ้นมาเสียอย่างนั้นแผนที่นางว่างเอาไว้ล้มไม่เป็นท่าเสียอย่างนั้น ท่านแม่สามีและแม่นางหมิงไม่ได้แม้จะจะก้าวมาที่หน้าศาลาเสียด้วยซ้ำ เมื่ออยู่ๆก็มีสาวใช้ที่ใดก็ไม่รู้มาตามแม่สามีของนางกลับเรือนไปเสียก่อนนางและฉู่ฉางซานผละออกจากกันแทบจะทันที เมื่อรู้สึกได้ว่าทุกผู้ที่เคยอยู่ใกล้ๆในบริเวณนั้นออกไปกันจนหมดแล้วนางไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาเลยเสียด้วยซ้ำ“ข้ากลับเรือนก่อนก็แล้วกัน” นางหันหลังให้เขาก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากศาลาหินอย่างรวดเร็วไม่ได้หันไปมองเขาอีกนางเผลอคิดไปถึงเรื่องที่นางรีบกลับมาเสียก่อน อย่างหัวเสีย เรื่องมันก็แค่การผิดพลาดนางมิควรคิดมากอันใดใช่แล้ว คิดเสียว่าไม่เคยมีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นก็แล้วกัน คิดได้ดังนั้น นางก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินออกจากม่านกั้นไปยังห้องนอนที่ยามนี้มีฉู

    Last Updated : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 15 ชำระบัญชีแค้น

    ตอนที่ 15 ชำระบัญชีแค้นเดิมทีนางคิดว่าหอดนตรีเหม่ยหัวจะอยู่ละแวกเดียวกับตลาดในเมืองหลวงหรือก็คงไม่ไกลไปจากร้านดอกไม้เฟิ่งฮวาเท่าใดนักหากแต่นางคิดผิด หอดนตรีเหม่ยหัวอยู่ไกลพอสมควรเลยทีเดียว ฟ่งซีบอกนางว่าหอดนตรีเหม่ยหัวนั้นอยู่ใกล้กับประตูทางออกจากเมืองหลวง ห่างกันเพียงไม่ถึงห้าถนนก็จะถึงประตูทางออกเมืองหลวงนางและท่านแม่สามีรวมไปถึงแม่นางหมิงที่ของติดตามมาด้วย นั้นล้วนแล้วแต่กำลังนั่งอยู่บนรถม้าคันเดียวกันทั้งหมดดีหน่อยที่ท่านแม่สามีเพียงแต่ชวนนางพูดคุยเรื่องต่างๆทั่วๆไป ไม่ได้มีการถามถึงความสัมพันธ์ของนางและฉู่ฉางซานเลยแม้แต่น้อยจากการที่นางสังเกตและได้พูดคุยกับแม่นางหมิง ดูก็รู้ว่าเป็นคนจริงใจ น่าคบหน้าด้วยอย่างยิ่ง แม่นางหมิงผู้นี้ไม่มีความร้ายที่แสดงออกมาทางท่าทางหรือแววตาเลยแม้สักนิดมันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว นางมิใช่นางเอกเสียหน่อย จะมีนางร้ายผู้งดงานเช่นแม่นางหมิงผู้นี้ได้เช่นใดกัน หากจะให้นางเป็นนางเอกนางก็คงจะเลือกคุณหนูสกุลฟ่างผู้ที่นางมีเรื่องด้วยที่ร้านเฟิ่งฮวาเป็นนางร้ายอย่างไม่มีอันใดให้คิดเลยทีเดียว คิดไปถึงเรื่องสองแม่ลูกสกุลฟ่างนางก็อดถอนใจออกมา

    Last Updated : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ

    ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ “เล่นสนุกพอหรือยังเจ้า” เสียงเรียบเฉยที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำให้นางหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบฉู่ฉางซานที่กำลังก้าวลงมาจากบันได และเขากำลังก้าวเดินเข้ามาหานาง “เหมือนว่าข้าจะถูกท่านแอบดูเรื่องสนุกเสียแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลก “ข้าไม่ได้แอบดู เพียงแต่เจ้าสร้างเรื่องพอดีกับที่ข้าอยู่ก็เพียงเท่านั้น” “เรื่องนั้นช่างมันเถิด ว่าแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เช่นใดกัน ข้านึกว่าท่านจะไปอยู่ที่หอดนตรีเหม่ยหัวแล้วเสียอีก” นางเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย นางคิดจริงๆว่าฉู่ฉางซานน่าจะไปอยู่ที่หอดนตรีแล้ว เขาเป็นเจ้าของมิใช่ว่าต้องไปอยู่ดูความเรียบร้อยของกิจการก่อนหรือ “วันนี้ข้าไม่ได้จะไปที่หอดนตรีเหม่ยหัว ข้าจะเดินทางออกจากเมืองไปดูหุบเขาดอกไม้ที่นอกประตูเมืองทางเหนือเสียหน่อย คงไปสักสองสามวันเป็นอย่างต่ำ”“ที่นี่ใกล้ประตูเมืองทางเหนือมิใช่เหรอ ประตูทางใต้อยู่อีกทางหนึ่งเลยนี่น่า”“เป็นดังเจ้าว่ามันอยู่คนละทางกัน”“แล้วท่านมาที่ร้านนี้เพราะมีปัญหาอันใดเกิดขึ้นเช่นนั้นรึเปล่า” ห

    Last Updated : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้  

    ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม รถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งจึงได้ออกจากประตูเมืองทางใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วถนนใกล้บริเวณประตูเมืองทางใต้ยังพอให้มองเห็นผู้คนเดินทางไปมา เป็นผู้คนเดินทางด้วยเท้าบ้าง ม้าบ้าง หรือแม้จะทั่งใช้รถม้าเช่นเดียวกันกับนางขบวนรถม้าของนางมีฟ่งอี้เป็นผู้ควบคุมรถม้า มีฟ่งสือและองครักษ์อีกผู้หนึ่งที่ขี่รถม้านำอยู่หน้ารถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งอยู่ สวนด้านหลังยังมีองครักษ์ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังอีกสี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดฉู่ฉางซานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำเช่นเดียวกัน ส่วนนางยามนี้ก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดาๆชุดหนึ่งที่ไม่ได้ดึงดูสายตาของใครๆได้ แต่นางก็ชอบชุดนี้มากกว่าชุดสวยๆราคาแพงที่ใส่อยู่ทุกวันเสียอีก“ท่านว่ายามนี้เราเหมือนกับสามีภรรยาแบบปกติไหม”นางเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยามนี้เอนตัวนั่งพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของผนังรถม้า แม้เขาจะนั่งหลับตาอยู่แต่นางก็รู้ว่าเขาแค่หลับตาลงเอาไว้เฉยๆไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด“แล้วปกติเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้วรึอย่างไรกัน ถามสิ่งใดของเจ้า”“นั่นสิปกติเราก็เป็นสามีภรรยานี่ เพียงแต่ข้าหมายถึ

    Last Updated : 2024-12-19

Latest chapter

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่3

    ตอนพิเศษว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่ หลังจากที่เธอต้องใส่เผือกและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากแฟนหนุ่มอยู่เกือบสามเดือนในที่สุดเธอก็ได้ถอดเผือกและ กลับมาใช้ข้อมือได้อย่างอิสระอีกครั้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถกลับมาจัดดอกไม้ที่เธอรักได้อย่างถนัดอีกครั้ง อีกอย่างคือไม่ต้องถูกฉางเหอตามคุมเข้มอีกต่อไปแล้ว แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะกลัวเธอทำตัวซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวกว่าเดิมก็ตามแต่การที่ถูกแฟนซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอและซีอีโอรูปหล่อคอยตามดูแลอยู่ไม่ได้ห่างช่างเป็นอะไรที่หลบการตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่เขามาค่อยดูแล แต่ความดีใจกับมาพร้อมกับการที่มักจะทำตัวไม่ถูกของเธอ หลายครั้งที่เธอนึกอิจฉาความเฉยชาต่อสายตาเหล่านั้นของแฟนหนุ่มไม่ได้มีครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขาว่า เขาไม่รู้สึกรำคาญหรืออะไรบ้างหรือเวลาที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจเช่นนี้ เขาตอบกลับมาแค่ว่า “ผมไม่จำเป็นต้องแค่ใครนอกจากคุณ” เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขาฉันกลับเขาใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เธอใส่เผือกก็ถูกมัดมือชกแกล้มบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะถูก ที

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 2

    “มาครับผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อเอง” เขาเอ่ยขึ้นกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติบ้างได้แล้วนิดหน่อยเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลันซู่ถงจึงยิ้มออกมาให้เขาอย่างเอาใจ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงช่วยนางเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดคนไข้ชุดคนไข้ที่พยาบาลส่งให้เขาเมื่อครู่ยามนี้เขานำมาวางเอาไว้บนตักของเธอตัวเธอนั้นถูกเขาประคองให้ขึ้นมานั่งอยู่ที่ริมเตียงคนไข้ เนื่องจากเธอสูงไม่มากจึงขาลอยเมื่อนั่งหย่อนขาที่ริมเตียงคนไข้เช่นนี้ ในหัวอดคิดไปถึงคนไข้คนอื่นๆไม่ได้ว่าพวกเขาก็ขาไม่ถึงพื้นเช่นเธอเหมือนกันหรือไม่เวลาที่นั่งอยู่ริมเตียงคนไข้แบบนี้ตอนที่รอให้คุณหมอตามมาตรวจ “ข้อมือขวาคุณน่าจะหักผมว่าคุณอย่าขยับมันจะดีกว่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดุเธอทันที เมื่อเธอเผลอเกือบจะยกมือขึ้นมาหลังจากที่เขาเอื้อมมือมาหมายจะช่วยเธอปลดกระดุมชุดเดรสยีนส์ที่มีกระดุมเป็นแทบตั้งแต่ช่วงอกจนกระทั่งถึงช่วงเข่าของเธอ “เอ่อ ฉางเหอคะ ฉันว่าคุณให้พยาบาลเขามาช่วยฉันเปลี่ยนชุดน่าจะสะดวกกว่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา แน่นนอนว่าเมื่อกล่าวออกไปร่างสูงเบื้องหน้าเธอก็ขมวดค

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 1

    ตอนพิเศษเธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม หน้าฝนเช่นนี้แน่นอนว่าคงจะไม่แปลกเท่าไหร่นักหากคนส่วนให้ในเมืองจะเป็นหวัดกันไปหมด บางคนก็เป็นหวัดเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศที่สุดแสนจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างวันนี้ร้อนพรุ่งนี้พายุฝนตกกระหน่ำ อีกวันหนึ่งกับมีลมหนาว บางคนเดินๆอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหาที่หลบไม่ทัน กว่าจะวิ่งหาที่หลบฝนได้ก็เปียกไปกว่าครึ่งแล้วหลันซู่ถงเองเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆแต่พอไปถึงบริษัทเหม่ยหลง ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่เธอและเพื่อนอีกคนหนึ่งพึ่งจะร่วมทุนกันตั้งเป็นบริษัทสำหรับการรับตกแต่งสถานที่โดยมีดอกไม้เป็นตัวหลักวันนี้หลังจากที่ประชุมเรื่องเกี่ยวกับงานตกแต่งฉากโฆษณาเสร็จ เธอจึงได้คิดที่จะแวะเข้าไปให้หมอตรวจอาการของเธอก่อนจะตรงเข้าไปหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเช่นเดียวกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะหนิงจู” เธอเอ่ยขอบคุณหุ้นส่วนที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ไม่เป็นไรหรอก แกรีบเข้าไปให้หมอตรวจอาการเถอะ แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อน” หนิง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ เจ้าแม่แรร์ไอเทมจะว่าไปแล้วเธอก็งงอยู่เหมือนกันว่า ฉายาเจ้าแม่แรร์ไอเทมที่เธอได้มา ได้มายังไงจนเดือดร้อนถึงแม่เพื่อนสนิทของเธออย่างเฟ่งเสี่ยวซ่งต้องมาอธิบายไขข้อข้องใจ ให้เธอเสียยกให้“แม่เจ้านี่แกไม่รู้จริงๆ หรือตั้งใจจะถามให้ฉันอิจฉาตาร้อนเล่นห๊ะ”“ถ้ารู้ฉันก็ไม่ถามแกหรอกจริงไหม เลิกกัดฉันด้วยคำพูดแล้วก็รีบบอกมาเร็วเข้า” เธอเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของแม่เพื่อนตัวดีของเธอ“แฟนแกเป็นสุดยอดแรร์ไอเทมไง คนที่ได้เป็นแฟนกับเขาได้นั้นแปลว่าต้องเป็นนักชกมือฉกาจ และในเมื่อแกเก่งกล้าถึงขนาดนั้น เหล่าแฟนคลับเขาเลยเรียกแกว่า เจ้าแม่แรร์ไอเทม ไงเก็ทเนอะ”“เก็ทก็ได้ค่ะคุณเพื่อน”“ว่าแต่แกเถอะจะย้ายร้านเมื่อไหร่”“ก็คงจะสิ้นเดือนนี้พอดีนั้นแหละ ร้านใหม่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลของฉางเหอน่าจะตกแต่งเสร็จพอดี”“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้แกแรงๆหน่อยได้ไหม”“แกมาหมั่นไส้ฉันทำไมเนี่ย”เธออดจะขำออกมาเสียงดังไม่ได้ กับท่าทีที่ดูตลกของเฟ่งเสี่ยวซ่ง ที่เดียวๆทำคิ้วขมวด เดียวก็ทำหน้าบิดเบี้ยว“แกรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน” เฟ่งเสี่ยวซ่งเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทก่อนจะจับที่แข

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง (ตอนจบ)

    ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง(ตอนจบ)นี่ก็ผ่านมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอสลบไปเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า ไม่ใช่เพราะถูกฟ้าผ่าใส่แต่อยากใดทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอยังคงนึกไปถึงเรื่องในอีกมิติหนึ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังสับสนไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่เธอพลัดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็นความจริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่เธอฝันไปเองเท่านั้นยามที่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรก ก็เจอเข้ากับเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่มาเฝ้าเธออยู่พอดี เฟ่งเสี่ยวซ่งบอกกับเธอเพียงว่าร่างกายของเธอปกติทุกอย่างแต่กับนอนไม่ได้สติมาถึงสองอาทิตย์เต็ม ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในอีกมิติหนึ่งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเธออยู่ในมิตินั้นราวๆสามเดือนเห็นจะได้วันนี้เป็นวันที่เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผู้ที่มารับเธอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนั้นแหละ“ซู่ถงแกเดินไหวแน่นะ ไม่ใช่ว่าเดินๆไปแล้วแกล้มขึ้นมาฉันจับไม่ทันแกจะเจ็บตัวเอานะ”เฟ่งเสี่ยวซ่งเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็เงียบผิดปกติ อีกท

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมา

    ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมาหานอี้มองภาพของฮูหยินน้อยของนางที่กำลังพิงอยู่ที่ตัวของท่านเขยอย่างสงสารจับใจ นางพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ท่านเขยเห็นเพราะกลัวจะยิ่งทำให้ท่านเขยใจไม่ดีฮูหยินน้อยเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ช่วงค่ำ หากนางเชิญท่านหมอมาดูฮูหยินน้อยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นไม่นานนักฟ่งสือก็เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับท่านหมอตงและผู้ช่วยคนหนึ่ง “เรียนนายท่านฉู่ข้าน้อยได้ตรวจอาการของฮูหยินน้อยดูแล้ว มิมีสิ่งใดผิดปกติเลย มิได้มีโรคอันใดแทรกซ้อน มีเพียงแค่ชีพจรเท่านั้นที่เต้นอ่อนยิ่งนักขอรับ” หมอตงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นแล้วนางเป็นอันใดถึงได้กระอักเลือดออกมาเช่นนี้!!!” เขาลูบใบหน้าเล็กที่ยามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือด ของคนในอ้อมแขนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยก็พึ่งเคยพบอาการเช่นฮูหยินน้อยเป็นเป็นครั้งแรกขอรับ”หมอตงเอ่ยขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีกับไม่เคยเห็นอาการเช่นนี้ ทุกอย่างรวมไปถึงชีพจรแม้จะเต้นอ่อนยิ่งนักแต่ก็เป็นปกติอยู่ แต่กับมีอาการกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“ฟ่งสือ เจ้าไป

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น

    ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นนางรู้สึกได้ว่าฉู่ฉางซานผู้ซึ่งเหินทะยานพานางขึ้นมาด้านบนยามนี้เขายืนหยุดอยู่กับที่แล้ว“ลืมตาเจ้าขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว”เขาก้มลงเอ่ยบอกร่างเล็กที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะปล่อยนางลงเมื่อนางยอมลืมตาขึ้นมาแล้ว“สวยงามยิ่งนัก!!!”นางเอ่ยออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าของตนเองยามนี้ คือบ้านไม้ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าก่อนที่จะไปถึงตัวบ้านนั้นมีบ่อน้ำขนาดเล็กและมีสะพานทอดยาวให้ข้ามไปยังด้านหน้าของบ้านไม้หลังใหญ่นั้นได้นี่เลยที่นี่เปรียบเสมือนกันกับที่นางเฝ้าฝันว่าอยากจะมาอยู่ในบ้านที่ท่ามกลางธรรมชาติท่ามกลางดอกไม้เช่นนี้ ยามนี้นางได้มายืนอยู่ในที่ๆนางได้วาดฝันเอาไว้แล้ว“เจ้าชอบที่นี่มากขนาดนี้เชี่ยวรึ” เขามองร่างเล็กที่วิ่งไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยถามขึ้น“ข้าชอบที่นี่มากๆเลยเจ้าค่ะ ที่นี่เหมือนกับที่ๆข้าฝันเอาไว้ว่าอยากจะอยู่” นางส่งยิ้มให้เขา“ที่แท้เจ้าก็ชื่นชอบอันใดแบบนี้ เอาไว้กลับไปจวนสกุลฉู่ข้าจะให้คนมาสร้างเรือนเช่นนี้ให้เจ้าที่ท้ายจวนดีรึไม่”“จริงนะเจ้าคะ ท่านจะสร้างให้ข้าจริงๆนะ”

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้  

    ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม รถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งจึงได้ออกจากประตูเมืองทางใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วถนนใกล้บริเวณประตูเมืองทางใต้ยังพอให้มองเห็นผู้คนเดินทางไปมา เป็นผู้คนเดินทางด้วยเท้าบ้าง ม้าบ้าง หรือแม้จะทั่งใช้รถม้าเช่นเดียวกันกับนางขบวนรถม้าของนางมีฟ่งอี้เป็นผู้ควบคุมรถม้า มีฟ่งสือและองครักษ์อีกผู้หนึ่งที่ขี่รถม้านำอยู่หน้ารถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งอยู่ สวนด้านหลังยังมีองครักษ์ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังอีกสี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดฉู่ฉางซานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำเช่นเดียวกัน ส่วนนางยามนี้ก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดาๆชุดหนึ่งที่ไม่ได้ดึงดูสายตาของใครๆได้ แต่นางก็ชอบชุดนี้มากกว่าชุดสวยๆราคาแพงที่ใส่อยู่ทุกวันเสียอีก“ท่านว่ายามนี้เราเหมือนกับสามีภรรยาแบบปกติไหม”นางเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยามนี้เอนตัวนั่งพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของผนังรถม้า แม้เขาจะนั่งหลับตาอยู่แต่นางก็รู้ว่าเขาแค่หลับตาลงเอาไว้เฉยๆไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด“แล้วปกติเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้วรึอย่างไรกัน ถามสิ่งใดของเจ้า”“นั่นสิปกติเราก็เป็นสามีภรรยานี่ เพียงแต่ข้าหมายถึ

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ

    ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ “เล่นสนุกพอหรือยังเจ้า” เสียงเรียบเฉยที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำให้นางหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบฉู่ฉางซานที่กำลังก้าวลงมาจากบันได และเขากำลังก้าวเดินเข้ามาหานาง “เหมือนว่าข้าจะถูกท่านแอบดูเรื่องสนุกเสียแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลก “ข้าไม่ได้แอบดู เพียงแต่เจ้าสร้างเรื่องพอดีกับที่ข้าอยู่ก็เพียงเท่านั้น” “เรื่องนั้นช่างมันเถิด ว่าแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เช่นใดกัน ข้านึกว่าท่านจะไปอยู่ที่หอดนตรีเหม่ยหัวแล้วเสียอีก” นางเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย นางคิดจริงๆว่าฉู่ฉางซานน่าจะไปอยู่ที่หอดนตรีแล้ว เขาเป็นเจ้าของมิใช่ว่าต้องไปอยู่ดูความเรียบร้อยของกิจการก่อนหรือ “วันนี้ข้าไม่ได้จะไปที่หอดนตรีเหม่ยหัว ข้าจะเดินทางออกจากเมืองไปดูหุบเขาดอกไม้ที่นอกประตูเมืองทางเหนือเสียหน่อย คงไปสักสองสามวันเป็นอย่างต่ำ”“ที่นี่ใกล้ประตูเมืองทางเหนือมิใช่เหรอ ประตูทางใต้อยู่อีกทางหนึ่งเลยนี่น่า”“เป็นดังเจ้าว่ามันอยู่คนละทางกัน”“แล้วท่านมาที่ร้านนี้เพราะมีปัญหาอันใดเกิดขึ้นเช่นนั้นรึเปล่า” ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status