แชร์

ตอนที่ 5 หอเลิศรส  

ผู้เขียน: อาหลานเร่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-15 20:45:05

ตอนที่ 5

หอเลิศรส

“หานอี้ บุรุษที่พวกเราเดินสวนทางด้วยใกล้ๆกับทางไปเรือนท่านแม่สามีนั้นใช่สามีข้าไหม”

หลันซู่ถงในร่างของหลิวซู่ซู่เอ่ยถามหานอี้สาวใช้คนสนิทของตน เมื่อนึกไปถึงยามที่นางกำลังจะเดินไปยังเรือนใหญ่ของท่านแม่สามี ระหว่างทางได้สวนทางเข้ากับบุรุษสองคน

ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นเป็นบุรุษที่มีลักษณะเย็นชาแต่ก็ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความมีอำนาจและความมั่งคั่งแบบที่นางมองไปที่เขาก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างกับบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งเดินตามหลังอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก

“ใช่เจ้าค่ะ ท่านผู้นั้นก็คือท่านเขยเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินคำตอบของสาวใช้คนสนิท นางก็อดนึกไปถึงใบหน้าของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางมิได้

บุรุษผู้นี้หากเพื่อนรักของเธอในมิติที่แล้วอย่างเฟ่งเสี่ยวซ่ง มาเห็นคงต้องถูกเรียกว่าแรร์ไอเทมมิต่างกันกับคุณหมอเฟิงฉางเหอผู้นั้นแน่นอน จะว่าไปแล้วเป็นเพราะเธอเคยเห็นคุณหมอเฟิงฉางเหอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงจำใบหน้าของมิค่อยได้เท่าไหร่ แต่นางกับมีความรู้สึกว่า บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอในมิตินี้ มีส่วนคล้ายกับคุณหมอเฟิงฉางเหอผู้นั้นอยู่มิน้อยเลยทีเดียว

มันจะเป็นไปได้ไหมนะถ้าเขาจะเป็นคนผู้เดียวกันหากแต่ต่างมิติ เช่นเดียวกับนางและหลิวซู่ซู่ที่ตายไป

แต่เอาเถิดเรื่องนี้นางต้องหาทางพิสูจน์ให้รู้จนได้ เพียงแต่จะใช้วิธีใดนั้นคงต้องรอให้นางคิดออกเสียก่อน แต่ก็คงมิง่ายดายแน่นอน

ดูจากการที่เขากับนางเดินสาวทางกัน แม้จะมิได้เดินสวนใกล้ขนาดที่ชายแขนเสื้อต้องกัน แต่ก็ห่างกันเพียงมิถึงสองช่วงตัวเพียงเท่านั้น แต่ซู่ฉางซานบุรุษผู้นั้น แม้แต่หางตายังมิมีแม้แต่จะแลมาทางนางเสียด้วยซ้ำ

มองก็รู้ว่าเขามิได้อยากยุ่งกับนางแม้แต่สักเพียงนิด แต่จะทำเช่นใดได้เล่ายามนี้นางอยากจะยุ่งกับเขาเพื่อดูว่าเขากับคุณหมอเฟิงฉางเหอในมิติที่นางมาเป็นคนเดียวกันรึไม่ ยังไงนางก็ต้องไปยุ่งกับเขาดูสักตั้งแล้ว

“หานอี้พวกเราออกไปนอกจวนกันสักหน่อยได้รึไม่” 

อยู่ๆนางก็นึกอะไรสนุกๆขึ้นมาได้จึงได้เอ่ยถามสาวใช้คนสนิทของตนไป อยู่ในจวนๆวันๆนางนอกจากินและก็นอนก็มิได้ทำอันใดอีก สู้ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกเสียหน่อยคงจะดีมิน้อย

“ฮูหยินน้อยอยากออกไปนอกจวนรึเจ้าคะ” หานอี้เมื่อได้ยินคำถามของฮูหยินน้อยของตน ก็ฉงนในใจอยู่มิน้อย ย้ายจากสกุลหลิวที่อยู่นอกเมืองมาที่สกุลฉู่ที่อยู่ในเมืองหลวงเป็นเวลากว่าสองเดือนครึ่งแล้ว

นอกจากอยู่ในเรือนพักเงียบๆคุณหนูของนางก็มิเคยมีทีท่าว่าอยากจะออกไปนอกจวนเลยเสียสักครั้ง ยามนี้มิใช่ว่านับว่าเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นหรอกหรือ

“ข้าอยากจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อยมิได้รึอย่างไรกัน”

“ย่อมได้แน่นอนเจ้าค่ะ บ่าวขอตัวไปเตรียมตัวสักครู่นะเจ้าคะคุณหนู”

นางรับคำฮูหยินน้อยของนางอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะรีบเดินหวังจะไปบอกให้สาวใช้รวมไปถึงบ่าวชายที่คอยรับใช้อยู่ในเรือนเตรียมตัวที่จะตามฮูหยินน้อยของนางออกไปข้างนอก ถ้ามิติที่ว่าโดนฮูหยินน้อยของนางเรียกเอาไว้เสียก่อน

“หานอี้มิต้องให้ใครตามออกไปทั้งนั้น ข้าออกไปกับเจ้าเพียงสองคนก็พอ”

หานอี้ที่ได้ยินใบหน้ายินดียิ้มแย้มเมื่อครู่ถอดสีทันที

“ได้เช่นใดกันเจ้าคะ ออกไปกันเองบ่าวว่าฮูหยินน้อยอาจมิปลอดภัยได้นะเจ้าคะ”

“ไปกันแค่เจ้ากับข้าก็พอ แล้วก็หาชุดบุรุษให้ข้าสักชุดหนึ่ง”

“หาชุดบุรุษหรือเจ้าคะ หามาทำอันใดกันเจ้าคะฮูหยินน้อย” นางเอ่ยถามฮูหยินน้อยของนางอย่างมิเข้าใจ

“นำมาให้ข้าใส่อย่างไรเล่า ข้าจะใส่ชุดบุรุษออกจากจวน”    

หนึ่งชั่วยามต่อมาสุดท้ายแล้วนางก็ออกมายืนอยู่ท่ามกลางถนนที่คับคั่งไปด้วยผู้คนที่กำลังจับจ่ายซื้อหาข้าวของเป็นที่สำเร็จจนได้

นางตอนนี้อยู่ในชุดบุรุษสีน้ำเงินเรียบๆแต่ก็ตัดเย็บมาจากผ้าชั้นดี ตามที่หานอี้บอกนางเริ่มแรกชุดอันนี้เป็นชุดที่นางตั้งใจจะนำมาพึ่งปักเย็บลวดลาย แต่ยังมิทันได้เริ่มปักอันใดนางก็ล้มป่วยไปเสียก่อน ชุดเสื้อผ้าบุรุษตัวนี้จึงยังมิมีลวดลายใดๆทั้งสิ้น กล่าวได้ว่าเป็นเพียงผ้ามิมีลายที่นำมาทำเป็นชุดก็เท่านั้น

รวมไปถึงขนาดของชุดบุรุษที่นางสวมใส่อยู่มีขนาดใหญ่กว่าตัวนางไปหน่อยจึงทำให้ดูเทอะทะไปบ้าง

นางเดินนำหานอี้แวะเวียนไปยังร้านค้าแผงลอยต่างๆที่มีอยู่เยอะแยะเต็มสองข้างทางของถนนด้วยความตื่นเต้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วยามนางเหน็ดเหนื่อยกับการเดินดูข้าวของต่างๆ

แล้วจึงได้พาหานอี้เข้ามานั่งพักยัง หอเลิศรส ซึ่งเป็นหอที่นางได้ยินมาว่าขึ้นชื่อในเรื่องอาหารที่สุดในเมืองหลวงตามที่นางได้สอบถามกับแม่ค้าร้านขายสีทาชาดที่นางแวะเข้าไปเป็นร้านสุดท้าย

หอเลิศรส เป็นหอที่มีความคล้ายๆกับโรงเตี้ยมขนาดมิได้ใหญ่มาเท่าใด แต่ตกแต่งสวยงามเรียบหรูทำให้ดูน่าเข้ามาทานอาหารยิ่งนัก บริเวณทางเข้าของหอเลิศรสจะเป็นบันใดสูงให้เดินก้าวขึ้นไปยังหออาหารที่ภายในชั้นสองจะมีโต๊ะไม้เนื้อดีที่ขัดจนเป็นเงาดูสะอาดหมดจด ตั้งอยู่ในระยะที่เว้นเอาไว้พอให้เป็นที่ส่วนตัวพอสมควร

ยามนี้นอกจากนางและหานอี้ที่นั่งอยู่ในหอเลิศรสแล้วก็มีเพียง ลูกค้าอีกเพียงสามโต๊ะเท่านั้น ซึ่งเมื่อมองไปยังโต๊ะอื่นๆแล้วก็เห็นได้ชัดเลยว่าผู้ที่นั่งประจำอยู่ที่โต๊ะนั้นๆล้วนแล้วแต่เป็นพวกคุณหนูคุณชายทั้งนั้น ชุดเสื้อผ้าอาภรณ์ที่พวกคนเหล่านั้นสวมใส่อยู่หรูหรามองก็รู้ว่าทำมาจากผ้าเนื้อดี เครื่องประดับก็ถูกนำมาประดับเยอะแยะไปหมดจนนางตาพร่างไปหมดยามที่เห็นแสงสะท้อนจากเครื่องประดับของพวกนาง

“คุณชายน้อยท่านจะรับสิ่งใดเพิ่มอีกไหมเจ้าคะ”

เสียงของหานอี้ที่เอ่ยถามขึ้นทำให้เธอกลับมาสนใจที่โต๊ะของตัวเองอีกครั้ง เป็นเพราะตั้งแต่เข้ามานางก็สนใจในสิ่งต่างๆในร้านจึงมอบหมายให้หานอี้เป็นผู้จัดการสั่งอาหารกับเสี่ยวเอ้อร์ที่มายืนรออยู่ใกล้ๆแทน

“งั้นเสี่ยวเอ้อร์เจ้าก็จัดอาหารขึ้นชื่อของที่นี่มาอีกสั่งสามอย่างก็แล้วกัน”

นางเอ่ยสั่งออกไปอย่างส่งๆเพราะนางแทบจะมิได้ฟังยามที่หานอี้สั่งแม้แต่น้อย แต่ก็คิดว่าสาวใช้คนสนิทของนางคงมิได้สั่งสิ่งใดมามากนัก อาจจะเป็นกับข้าวสองสามจานเพียงเท่านั้น

เพียงมินานนักอาหารหลากหลายก็ถูกลำเลียงโดยเสี่ยวเอ้อร์ขึ้นมาอยู่บนโต๊ะของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มิว่าจะเป็นเป็ดน้ำแดง ไก่อบน้ำผึ้งทั้งตัว ซี่โครงหนูผัดซอส ผัดผักรวม ซาลาเปาแปดลูก เป๋าฮื้อตุ๋นโสม ทุกอย่างส่งกลิ่นหอมชวนกินเป็นอย่างยิ่ง

นางและหานอี้ช่วยกันจัดการอาหารเลิศรสตรงหน้าทันที โดยความที่นางเหน็ดเหนื่อยมากจากการเดินเที่ยวเล่นทำให้นางจัดการกับอาหารตรงหน้าไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว

“รสดียิ่งนักหานอี้” นางเอ่ยกับสาวใช้คนสนิท เมื่อวางตะเกียบลงละนั่งพิงไปกลับเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ยามนี้นางอิ่มจนขยับแทบมิไหวเลยที่เดียว เมื่อก่อนยามที่อยู่มิติโน้นนางไม่ค่อยๆจะได้กินของอร่อยๆแบบหลากหลายเช่นนี้มาก่อน เพราะนางเป็นผู้ที่หาเงินตัวคนเดียว จึงมิค่อยกล้าที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนัก ยามนี้นางได้ใช้เงินที่มีมากมายซึ่งก็เป็นของผู้อื่นหามาให้นางใช้นางซึ่งมิได้ลงมือหาเงินเองจึงใช้ได้อย่างคล่องมือยิ่งนัก

ถ้าหากในมิติเดิมนางคงมิกล้าที่จะเดินเข้าร้านขึ้นชื่อที่แค่มองผ่านหน้าร้านก็รู้แล้วว่าราคามิใช่เล่นๆเช่นนี้แน่

             ยังถือว่ามายังมิตินี้ของนางยังมีส่วนดีอยู่มากจริงๆ

             หลันซู่ถงคิดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข ชีวิตของนางมิตินี้ถือว่ามิเลวๆ

มันก็คงจะมิเลวอย่างที่นางคิดเอาไว้ ถ้ามิใช่ว่ายามนี้นางต้องมาเช็ดโต๊ะเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารที่ได้กินไปของหอเลิศรส

“เกือบดีอยู่แล้วเชียวหานอี้ วันนี้เกือบจะเป็นวันที่ดีสำหรับข้าแล้ว” นางเอ่ยออกมาพร้อมกับออกแรงเช็ดโต๊ะอาหารไม้เรียบหรูของหอเลิศรสแรงๆ

“บ่าวต้องขออภัยด้วยจริงๆนะเจ้าคะ” หานอี้ที่ยืนเช็ดโต๊ะอยู่ไม่ไกลจากฮูหยินน้อยของตนนั้นเองขึ้นมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ที่ทำให้ฮูหยินน้อยของนางต้องมาลำบากทนทำงานเช่นนี้

“ช่างเถิดข้ามิโทษเจ้าหรอกหานอี้ หากจะมีผู้ใดผิดผู้นั้นคงจะเป็นผู้ที่ขโมยถุงเงินของเจ้าไปผู้นั้นตั้งหาก”

ใช่แล้วยามนี้นางต้องมาทำงานชดใช้ค่าอาหารที่กินไปของหอเลิศรส ที่พวกนางมิมีจ่ายเพราะหานอี้ที่เป็นผู้เดียวที่พกถุงเงินติดตัวมานั้นทำถุงเงินหาย

แต่นางคิดว่าหานอี้ไม่น่าจะทำหล่นหายไปเอง แต่อาจจะเป็นบุรุษที่ท่าทางไม่ดีที่วันนี้เดินชนนางและหานอี้ที่ตลาดเป็นผู้ชกชิงไปเสียมากกว่า

ย้อนกลับไปเมื่อเสี่ยวเอ้อร์รู้ว่าพวกนางไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารก็เรียกให้พวกนางไปพบกับเถ้าแก่ตงผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลหอเลิศรสแห่งนี้ ทันที

“คุณชายน้อยท่านแต่งตัวก็ดูดีมีฐานะ ใยถึงไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารเพียงเล็กน้อยของหอเลิศรสเรากันเล่า”

เถ้าแก่ตงเอ่ยกลับบุรุษหน้าหวานดุสตรีที่นั่งอยู่ที่อีกฝั่งของโต๊ะทำงานของตน เขามองสำรวจคุณชายน้อยตรงหน้าอย่างประเมินการตั้งแต่การแต่งกาย รวมไปถึงเนื้อผ้าของชุดที่สวมอยู่ รวมไปถึงสาวใช้ผู้หนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก

“ใครว่าข้าไม่มีเงินจ่ายกัน ค่ามีเพียงแต่ยามนี้เงินนั้นหายไปแล้วตั้งหาก” นางเอ่ยตอบคำถามที่เถ้าแก่ตรงหน้าเอ่ยถามมาอย่างตรงไปตรงมาไม่คิดปิดบัง

“อ่า ที่แท้คุณชายน้อยก็ทำเงินหายไปแล้วนี่เอง” ตงลี่เอ่ยออกมาก่อนจะทำทีท่าว่าเข้าใจในเหตุการณ์ที่คุณชายน้อยผู้นี้ประสบมา

“ขอบคุณเถ้าแก่มากที่เข้าใจข้า แน่นอนว่าพรุ่งนี้ข้าจะรีบนำเงินค่าอาหารมาจ่ายท่านแน่” นางในเอ่ยออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่และเตรียมที่จะหันหลังกลับเดินออกไปจากห้องของเถ้าแก่ตงผู้นี้

“ช้าก่อนคุณชาย ข้าเข้าใจความลำบากของคุณชายดี หากแต่ข้าคงจะปล่อยท่านออกจากหอเลิศรสไม่ได้เสียแล้ว”

เมื่อได้ยินประโยคที่เถ้าแก่ตงเอ่ยขึ้นขาที่กำลังก้าวเดินที่มีจุดหมายคือการเดินออกจากที่แห่งนี้เป็นอันต้องชะงักลง

“ไหนเมื่อครู่เถ้าแก่ยังทำราวกับเข้าใจข้า เหตุใดจึงพูดเช่นนี้ออกมาอีกกันเล่า”

“คุณชายข้าน้อยทำการค้า ย่อมต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง คุณชายท่านในเมื่อท่านไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารวันนี้ก็ต้องทำงานชดใช้ให้หอเลิศรสเรา ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องส่งเรื่องนี้พร้อมกลับคุณชายและสาวใช้ของท่านไปที่กองมือปราบแล้ว”

และนั้นก็คือเหตุผลว่าทำไมนางจึงต้องมาทำงานอะไรแบบนี้ ซึ่งในมิติของนางงานแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมาก ต่างกันกับในมิตินี้ซึ่งจะมองแตกต่างกันไป หานอี้แทบจะน้ำตาไหลตลอดเวลาอยู่แล้วยามที่เห็นนางต้องมาทำอะไรแบบนี้

แต่ก็เอาเถิดถ้าให้เลือกระหว่างทำงานแบบนี้แค่เพียงวันเดียวและพรุ่งนี้ก็ไปนำเงินมาใช้เถ้าแก่ตงให้จบๆไป กับไปจบเรื่องนี้ที่กองมือปราบ แน่นอนว่านางเลือกจะทนทำงานแบบนี้เสียยังดีกว่า หากเรื่องถึงมือปราบนางคงจะแย่แน่ เพราะถ้าเรื่องถึงกองมือปราบจริงแน่นอนว่าอย่างไรเสียสกุลฉู่ต้องรู้เรื่องแน่

หากเป็นเช่นนั้นไม่ใช่ว่านางทำลายอิสระของตัวเองหรอกเหรอ หากครั้งหน้านางอยากจะออกมาอีกคงไม่ง่ายเช่นนี้อีกแล้ว หรือไม่ก็คงต้องมีคนคอยตามไม่น้อยเลยทีเดียวนางยังมีเรื่องสนุกๆอีกมากที่อยากจะทำ

และการที่มีผู้อื่นมากมายมาคอยเดินตามมันก็ทำให้เรื่องสนุกๆที่นางอยากจะทำกระทำได้ยากยิ่งนัก

เช่นนั้นแล้วแน่นอนว่านางย่อมไม่ควรเสี่ยงให้เรื่องนี้ถึงหูคนในสกุลฉู่เป็นเด็ดขาด

นางคิดก่อนจะลงมือทำงานต่อไปทนหน่อย หลันซู่ซู่อีกแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้นหอเลิศรสก็จะปิดแล้ว

เวลานั้นแหละที่นางและหานอี้จะเป็นอิสระ

ใช่แล้วนางเพียงต้องทนอีกครู่ใหญ่ก็เพียงเท่านั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวน  

    ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวนใจกลางตลาดใหญ่ในเมืองหลวงร้านผ้าเข็มทองคำของสกุลฉู่ถือว่าใหญ่โตหรูหราเป็นที่สุด เพราะมีถึงสี่ชั้นด้วยกันและทุกชั้นทั้งภายนอกและภายในร้านผ้าแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราสวยงาม โดยที่ชั้นแรกจะเป็นชั้นแรกที่จะมีผู้คอยแนะนำสินค้าและแน่นอนว่าคอยดูว่าควรจะส่งลูกค้าไปที่ชั้นไหนให้เหมาะสมที่สุดอีกด้วยในร้านผ้าแห่งนี้จะแบ่งให้ชั้นสองเป็นชั้นที่ผู้ที่มีฐานะปานกลางเอาไว้เลือกซื้อเสื้อผ้า และชั้นที่สามจะเป็นชั้นที่เอาไว้บริการลูกค้าที่ร่ำรวยมั่งคั่งจ่ายง่ายและจ่ายไม่อันแน่นอนว่าการแบ่งแยกชัดเจนเช่นนี้ทำให้ลูกค้ารวมไปถึงคนของร้านผ้าเข็มทองคำทำงานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นร้านผ้าเข็มทองคำแน่นอนว่าเป็นร้านขึ้นชื่อในเมืองหลวงรวมไปถึงในอำเภออื่นๆด้วย แน่นอนว่าแม้แต่เหล่าพระสนมในวังยังชื่นชอบเสื้อผ้าอาภรณ์ของร้านผ้าเข็มทองคำยิ่งนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้าที่ดีกว่าร้านอื่นและก็ฝีมือการตัดเย็บจากช่างที่ฝีมือดี ทำให้ไม่ยากเลยที่ร้านเข็มทองคำจะขึ้นเป็นร้านผ้าอันดับหนึ่งในเมืองหลวงยามนี้เจ้าของกิจการร้านผ้าเข็มทองคำซึ่งก็คงจะเป็นผู้อื่นผู้ใดไปได้หากไม่ใช่บุรุษชายคนเดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว“เถ้าแก่ตงเปิดประตูให้ข้าน้อยหน่อยเจ้าค่ะ คุณชายของข้าน้อยลืมของบางสิ่งเอาไว้ด้านใน”เป็นหานอี้ที่เป็นผู้ยืนทุบประตูส่งเสียงเรียกคน โดยที่มีหลิวซู่ซู่ยืนรอท่าอยู่ด้านหลังไม่ไกลเท่าไหร่นัก“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ บ่าวเคาะประตูนานแล้ว มิได้ยินเสียงผู้ใดขานตอบกลับมาเลยเจ้าค่ะ มิแน่ว่าเถ้าแก่ตงกับเหล่าเสี่ยวเอ้อร์ทั้งหลายอาจจะแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้วเจ้าคะ” หานอี้เอ่ยบอก นางยืนเคาะประตูอยู่ก็หลายคราแล้วทั้งร้องเรียกขนาดนี้หากยังมิมีผู้ใดออกมาย่อมแปลว่ามิมีคนอยู่ด้านในแล้วก็เท่านั้นเห็นทีนางคงจะต้องให้ฮูหยินน้อยกลับจวนสกุลฉู่โดยไร้พัดที่ฮูหยินใหญ่ให้มาเสียแล้ว นางได้แต่ภวนาในใจให้ฮูหยินใหญ่ไม่ถามถึงพัดเล่มนั้น และโทษที่พวกนางจะได้รับก็อย่าให้ถึงขั้นโบยลงโทษเลยมิเช่นนั้นนางก็มิอยากจะนึกถึงเลย ว่าสภาพของนางจะเป็นเช่นไร ยิ่งฮูหยินน้อยของนางยิ่งแล้วใหญ่หากโดนโทษโบยจริงเห็นทีจะล้มป่วยไปอีกนานทีเดียว“มิสู้พรุ่งนี้เราให้คนนำเงินมาจ่ายเถ้าแก่ตงและก็ถือโอกาสให้นำพัดของท่านกลับไปให้ด้วยเลยจะดีกว่าไหมเจ้าคะ”“นั้นสินะ ตกลงพรุ่งนี้ค่อยให้คนมานำพัดของท่านแม่สามีกลับมาให้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร

    ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรเป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่นางโดนกักตัวให้อยู่แต่ในจวน มิสามารถก้าวออกจากจวนสกุลฉู่ได้เลย เหล่าสาวใช้และบ่าวชายในจวนต่างก็พากันจับตาดูนางเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าจะขยับตัวเดินไปไหน ก็จะค่อยตามนางอยู่เงียบๆ จนนางรู้สึกอึดอัดไปหมดอึดอัดที่ต้องการเป็นเป้าสายตาของทุกคน จนกระทั่งวันนี้นางต้องปิดประตูเรือนและขังตนเองไว้เพื่อลดความอึดอัดจากสายตาผู้อื่นสองวันมานี้ในหัวของนางวนเวียนคิดเกี่ยวกับวิธีการหนีออกจากจวนมิรู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ก็มิได้วิธีดีๆที่มีความเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย“เห้อ” นางถอนหายใจออกมาอย่างคิดมิตก หรือว่านางควรจะเลิกคิดดี และก็ยอมรับสภาพของตนเองในยามนี้แทนอาหารทุกมื้อก็มีพร้อม เสื้อผ้าอาภรณ์มิคาดตกบกพร่อง มีสาวใช้คอยปรนนิบัติอย่างดี นางในมิตินี้มีทุกอย่าง ยกเว้นอิสระนางมิสามารถทนอยู่อย่างนี้ได้แน่ๆในมิติที่นางจากมา นางมีอิสระในการใช้ชีวิตหากไร้ซึ่งอิสระนางย่อมมิสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขแน่ๆใช่แล้ว สิ่งที่นางควรทำยามนี้คือการปรับตัว และหากอยากได้อิสระของนางคืนมา สิ่งเดียวที่จะทำให้อิสระของนางกลับมาอีกครั้งคงมีเพียง ฉู่ฉางซานผู้เดียวเท่านั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ

    ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ“มีผู้ใดอยู่หรือไม่”หลันซู่ถงเอ่ยขึ้น เมื่ออยู่ๆตัวของนางก็มาปรากฏอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งซึ่งมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง ราวกับว่านางเดินอยู่ในที่ๆไม่มีจุดหมายไร้ซึ่งทุกสัพสิ่งนางรู้สึกได้ว่าแม้ร่างกายของนางจะก้าวเดินได้ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุดเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีวันพบเจอกับสิ่งใดได้ นอกจากความมืด และ ความว่างเปล่า“หลันซู่ถง”“ผู้ใด ผู้ใดกันที่เรียกข้า” นางเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับหันมองไปรอบๆทิศทางเพื่อมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่พบสิ่งใด ยังคงมีแต่ความมืดทั่วสารทิศ“เจ้าไม่ต้องมองหาข้า เจ้าไม่มีทางมองเห็นข้าได้”“เช่นนั้นท่านคือผู้ใด ทำไมข้าจึงไม่สามารถมองเห็นได้” นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้าคือผู้ควบคุมประตูมิติ และมีส่วนทำให้วิญญาณของเจ้าเขาร่างผิดมิติ”“เช่นนั้นท่านต้องรีบพาข้ากลับมิติเดิมได้แล้ว ท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ผิดมิติเช่นนี้ไม่ได้”นางคิดเอาไว้แล้วว่าต้องมีเหตุอันใดสักอย่างที่ทำให้วิญญาณของนางเข้ามาอยู่ในร่างผิดมิติ“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการกลับไปยังมิติเดิม เพราะเหตุนี้ข้าจึงต้องเข้าฝันเจ้าเพื่อแจ้งสิ่งต่างๆทั้งหมดแก่เจ้าเสียก่อนอย่างไรเล่า”“ท่านถึงกับเข้าฝันข้าใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไร

    ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไรเวลากว่าสิบวันที่ผ่านมา หลันซู่ถงใช้ชีวิตในมิตินี้อย่างสนุกสนาน นางออกจากจวนทุกวันมาที่ร้านเฟิ่งฮวาเพื่อนปลูกดอกไม้และจัดดอกไม้ใส่แจกันทุกวัน นางจัดดอกไม้วันละหลายแจกัน จัดแล้วก็ให้คนนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำที่นางรู้มาจากฟ่งซีว่าเขามักจะอยู่จัดการงานต่างๆอยู่ที่นั้นสิบวันก่อนที่นางมาที่ร้านเฟิ่งฮวาครั้งแรก นางนึกสนุกและก็อดคันไม้คันมือไม่ได้ เลยจึงออกไปหาซื้อแจกันขนาดกลางที่ไม่ค่อยมีลวดลายเท่าไรนักมากหลายใบด้วยกัน นางนำดอกไม้หลากหลายมาจัดแจกใส่แจกันอย่างสวยงาม บางส่วนนางก็ตั้งโชว์เอาไว้ที่ร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้ และไม่ลืมที่จะแวะไปที่หอเลิศรสและนำแจกันที่นางจัดดอกไม้เอาไว้ไปตั้งเอาไว้ที่นั้นเสียหลายอันเช่นเดียวกันอาจเป็นเพราะนางหยิบแจกันมามากมายเกินไปจากร้านขาย และก็คงเป็นเพราะนางไม่ได้จัดดอกไม้มานานทำให้นางจัดดอกไม้มากเกินความจำเป็น ทุกแจกันถูกนางจัดส่งไปในที่ๆควรส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กับเหลืออันแจกันใบสุดท้าย นางจึงให้ฟ่งซีแวะนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำเดิมทีนางคิดเอาไว้ว่าเขาอาจจะโยนทิ้งออกมาอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง

    ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่องถือได้ว่าเหตุการณ์วุ่นวายได้จบลงด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยามนี้นางนอนพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางที่ทำสิ่งใดไม่ถูก เพราะนางกำลังถูกสายตาอันเฉียบคมจับจ้องอยู่ไม่ได้คาดสายตานับตั้งแต่นางแกล้งสลบไปในร้านเฟิ่งฮวา จนกระทั่งถูกฉู่ฉางซานพากลับมาที่จวนสกุลฉู่นอกจากเวลาที่ท่านหมอเข้ามารักษานางและหานอี้ช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฉู่ฉางซานก็จะนั่งมองนางอยู่กลางห้องไม่ขยับไปไหนเลย“มิใช่ความผิดข้านะเจ้าคะ ข้ามิได้เป็นคนก่อเรื่อง” นางออกตัวเต็มที่ อย่างน้อยๆก็ต้องยืนยันความความบริสุทธิ์ของนางให้ถึงที่สุด“ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง”“หา จริงหรือเจ้าคะ” นางอดที่จะเอ่ยออกมาอย่างตกใจไม่ได้เมื่ออยู่ๆฉู่ฉางซานผู้ที่ไม่ยอมฟังคำของนางง่ายๆ กับดูเหมือนว่าจงใจปล่อยนางไปอย่างไม่ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งมันเป็นการผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก จนนางเริ่มสงสัยระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย“ท่านแม่ส่งข่าวว่าอีกห้าวันก็จะเดินทางถึงจวนสกุลฉู่เราแล้ว”“ที่แท้ท่านแม่สามีก็ใกล้จะกลับแล้ว”คงเป็นเพราะท่านแม่สามีของนางจะกลับมาแล้ว ฉู่ฉางซานจึงคิดที่จะทำดีกับนางตบตาผู้เป็นมารดาขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 12  งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 12 งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้วมิใช่ว่าหน้าประตูจวนสกุลลู่ต้องมีแม่ลูกสกุลฟ่างนั่งคุกเข่าอยู่หรอกหรือ ไฉนกลายเป็นว่ายามนี้ผู้ที่อยู่หน้าจวนกับเป็นท่านพ่อและท่านแม่สามีของนางกัน แม้แต่ฉู่ฉางซานก็ยืนอยู่ด้วย นางแอบลอบมองไปที่หน้าจวนก็ไม่เห็นมีสองแม่ลูกสกุลฟ่าง แต่กับมีสาวงามผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของแม่สามีนางแทน“คาราวะท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ”นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเท่าที่สุดที่จะทำได้ ก่อนจะย่อตัวและโค้งศีรษะให้ทั้งสองท่านเป็นการทำความเคารพ“มิต้องมากพิธีหรอกซู่เอ๋อร์แม่ได้ข่าวว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ ไม่เป็นอันใดแล้วใช่หรือไม่” ฉู่ฮูหยินเอ่ยถามลูกสะใภ้ของนาง ก่อนจะตรงเข้าไปจับมือเล็กของลูกสะใภ้นางเอาไว้“ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วง ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เมื่อครู่แม่จัดการไล่แม่ลูกสกุลฟ่างให้เจ้าแล้ว ต่อจากนี้พวกนางจะไม่กล้ามาให้เจ้าเห็นหน้า หรือกล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกแล้ว เจ้าวางใจได้” ที่แท้ที่นางมองหาแม่ลูกสกุลฟ่างไม่เจอก็เพราะแม่สามีจัดการให้นางแล้วนี้เองท่านแม่สามีอุตส่าห์จัดการให้ มันก็ดีอยู่หรอก แต่มิเท่ากับว่านางยังไม่ได้วางท่าใส่แม่ลู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 13 แผนแรก คืนแรก

    ตอนที่ 13 แผนแรก คืนแรก“คุณชายขอรับยามนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ให้ข้าน้อยเรียกคนมาจัดอาหารให้ที่นี่เลยไหมขอรับ” ฟ่งสือที่รอรับใช้คุณชายของตนอยู่มิใกล้นัก เอ่ยถามคุณชายของตนเหมือนเห็นว่าได้เวลาอาหารและก็เหมือนว่าคุณชายของตนเองจะยังไม่ย่อมละความสนใจออกจากสมุดรายชื่อของสินค้าที่มาใหม่เสียที“ไม่ต้องเตรียมอาหารให้ข้า”“คุณชายจะไม่ทานอาหารหรือขอรับ เช่นนั้นให้ข้าน้อยสั่งคนให้จัดของว่างมาให้แทนนะขอรับ”“ไม่ต้องให้ใครเตรียมอันใดทั้งนั้น วันนี้ข้าจะไปทานที่เรือนธารากระจ่าง” ฉู่ฉางซานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ก่อนที่จะปิดสมุดในมือตน และวางมันไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะยืนขึ้นเต็มความสูงก้าวออกมาจากโต๊ะทำงานด้วยท่าทีเรียบเฉย “เจ้าก็อยู่ที่นี่แหละไม่ต้องตามข้าไป คืนนี้ข้าจะค้างที่เรือนธารากระจ่าง” พูดจบฉู่ฉางซานก็ก้าวออกจากเรือนตำราทิพย์เพื่อตรงไปยัง เรือนธารากระจ่างที่เขาพึ่งจะจากมาได้ไม่ถึงครึ่งวันดีนักเสียด้วยซ้ำ เพื่อที่จะไปกระทำตามแผนที่หลันซู่ซู่ได้วางเอาไว้ คืนนี้หลังจากกินข้าวกับนางเสร็จ เขาก็ต้องนอนรวมเตียงเดียวกันกับนางเป็นครั้งแรก ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่3

    ตอนพิเศษว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่ หลังจากที่เธอต้องใส่เผือกและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากแฟนหนุ่มอยู่เกือบสามเดือนในที่สุดเธอก็ได้ถอดเผือกและ กลับมาใช้ข้อมือได้อย่างอิสระอีกครั้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถกลับมาจัดดอกไม้ที่เธอรักได้อย่างถนัดอีกครั้ง อีกอย่างคือไม่ต้องถูกฉางเหอตามคุมเข้มอีกต่อไปแล้ว แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะกลัวเธอทำตัวซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวกว่าเดิมก็ตามแต่การที่ถูกแฟนซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอและซีอีโอรูปหล่อคอยตามดูแลอยู่ไม่ได้ห่างช่างเป็นอะไรที่หลบการตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่เขามาค่อยดูแล แต่ความดีใจกับมาพร้อมกับการที่มักจะทำตัวไม่ถูกของเธอ หลายครั้งที่เธอนึกอิจฉาความเฉยชาต่อสายตาเหล่านั้นของแฟนหนุ่มไม่ได้มีครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขาว่า เขาไม่รู้สึกรำคาญหรืออะไรบ้างหรือเวลาที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจเช่นนี้ เขาตอบกลับมาแค่ว่า “ผมไม่จำเป็นต้องแค่ใครนอกจากคุณ” เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขาฉันกลับเขาใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เธอใส่เผือกก็ถูกมัดมือชกแกล้มบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะถูก ที

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 2

    “มาครับผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อเอง” เขาเอ่ยขึ้นกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติบ้างได้แล้วนิดหน่อยเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลันซู่ถงจึงยิ้มออกมาให้เขาอย่างเอาใจ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงช่วยนางเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดคนไข้ชุดคนไข้ที่พยาบาลส่งให้เขาเมื่อครู่ยามนี้เขานำมาวางเอาไว้บนตักของเธอตัวเธอนั้นถูกเขาประคองให้ขึ้นมานั่งอยู่ที่ริมเตียงคนไข้ เนื่องจากเธอสูงไม่มากจึงขาลอยเมื่อนั่งหย่อนขาที่ริมเตียงคนไข้เช่นนี้ ในหัวอดคิดไปถึงคนไข้คนอื่นๆไม่ได้ว่าพวกเขาก็ขาไม่ถึงพื้นเช่นเธอเหมือนกันหรือไม่เวลาที่นั่งอยู่ริมเตียงคนไข้แบบนี้ตอนที่รอให้คุณหมอตามมาตรวจ “ข้อมือขวาคุณน่าจะหักผมว่าคุณอย่าขยับมันจะดีกว่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดุเธอทันที เมื่อเธอเผลอเกือบจะยกมือขึ้นมาหลังจากที่เขาเอื้อมมือมาหมายจะช่วยเธอปลดกระดุมชุดเดรสยีนส์ที่มีกระดุมเป็นแทบตั้งแต่ช่วงอกจนกระทั่งถึงช่วงเข่าของเธอ “เอ่อ ฉางเหอคะ ฉันว่าคุณให้พยาบาลเขามาช่วยฉันเปลี่ยนชุดน่าจะสะดวกกว่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา แน่นนอนว่าเมื่อกล่าวออกไปร่างสูงเบื้องหน้าเธอก็ขมวดค

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 1

    ตอนพิเศษเธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม หน้าฝนเช่นนี้แน่นอนว่าคงจะไม่แปลกเท่าไหร่นักหากคนส่วนให้ในเมืองจะเป็นหวัดกันไปหมด บางคนก็เป็นหวัดเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศที่สุดแสนจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างวันนี้ร้อนพรุ่งนี้พายุฝนตกกระหน่ำ อีกวันหนึ่งกับมีลมหนาว บางคนเดินๆอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหาที่หลบไม่ทัน กว่าจะวิ่งหาที่หลบฝนได้ก็เปียกไปกว่าครึ่งแล้วหลันซู่ถงเองเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆแต่พอไปถึงบริษัทเหม่ยหลง ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่เธอและเพื่อนอีกคนหนึ่งพึ่งจะร่วมทุนกันตั้งเป็นบริษัทสำหรับการรับตกแต่งสถานที่โดยมีดอกไม้เป็นตัวหลักวันนี้หลังจากที่ประชุมเรื่องเกี่ยวกับงานตกแต่งฉากโฆษณาเสร็จ เธอจึงได้คิดที่จะแวะเข้าไปให้หมอตรวจอาการของเธอก่อนจะตรงเข้าไปหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเช่นเดียวกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะหนิงจู” เธอเอ่ยขอบคุณหุ้นส่วนที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ไม่เป็นไรหรอก แกรีบเข้าไปให้หมอตรวจอาการเถอะ แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อน” หนิง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ เจ้าแม่แรร์ไอเทมจะว่าไปแล้วเธอก็งงอยู่เหมือนกันว่า ฉายาเจ้าแม่แรร์ไอเทมที่เธอได้มา ได้มายังไงจนเดือดร้อนถึงแม่เพื่อนสนิทของเธออย่างเฟ่งเสี่ยวซ่งต้องมาอธิบายไขข้อข้องใจ ให้เธอเสียยกให้“แม่เจ้านี่แกไม่รู้จริงๆ หรือตั้งใจจะถามให้ฉันอิจฉาตาร้อนเล่นห๊ะ”“ถ้ารู้ฉันก็ไม่ถามแกหรอกจริงไหม เลิกกัดฉันด้วยคำพูดแล้วก็รีบบอกมาเร็วเข้า” เธอเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของแม่เพื่อนตัวดีของเธอ“แฟนแกเป็นสุดยอดแรร์ไอเทมไง คนที่ได้เป็นแฟนกับเขาได้นั้นแปลว่าต้องเป็นนักชกมือฉกาจ และในเมื่อแกเก่งกล้าถึงขนาดนั้น เหล่าแฟนคลับเขาเลยเรียกแกว่า เจ้าแม่แรร์ไอเทม ไงเก็ทเนอะ”“เก็ทก็ได้ค่ะคุณเพื่อน”“ว่าแต่แกเถอะจะย้ายร้านเมื่อไหร่”“ก็คงจะสิ้นเดือนนี้พอดีนั้นแหละ ร้านใหม่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลของฉางเหอน่าจะตกแต่งเสร็จพอดี”“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้แกแรงๆหน่อยได้ไหม”“แกมาหมั่นไส้ฉันทำไมเนี่ย”เธออดจะขำออกมาเสียงดังไม่ได้ กับท่าทีที่ดูตลกของเฟ่งเสี่ยวซ่ง ที่เดียวๆทำคิ้วขมวด เดียวก็ทำหน้าบิดเบี้ยว“แกรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน” เฟ่งเสี่ยวซ่งเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทก่อนจะจับที่แข

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง (ตอนจบ)

    ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง(ตอนจบ)นี่ก็ผ่านมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอสลบไปเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า ไม่ใช่เพราะถูกฟ้าผ่าใส่แต่อยากใดทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอยังคงนึกไปถึงเรื่องในอีกมิติหนึ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังสับสนไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่เธอพลัดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็นความจริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่เธอฝันไปเองเท่านั้นยามที่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรก ก็เจอเข้ากับเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่มาเฝ้าเธออยู่พอดี เฟ่งเสี่ยวซ่งบอกกับเธอเพียงว่าร่างกายของเธอปกติทุกอย่างแต่กับนอนไม่ได้สติมาถึงสองอาทิตย์เต็ม ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในอีกมิติหนึ่งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเธออยู่ในมิตินั้นราวๆสามเดือนเห็นจะได้วันนี้เป็นวันที่เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผู้ที่มารับเธอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนั้นแหละ“ซู่ถงแกเดินไหวแน่นะ ไม่ใช่ว่าเดินๆไปแล้วแกล้มขึ้นมาฉันจับไม่ทันแกจะเจ็บตัวเอานะ”เฟ่งเสี่ยวซ่งเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็เงียบผิดปกติ อีกท

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมา

    ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมาหานอี้มองภาพของฮูหยินน้อยของนางที่กำลังพิงอยู่ที่ตัวของท่านเขยอย่างสงสารจับใจ นางพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ท่านเขยเห็นเพราะกลัวจะยิ่งทำให้ท่านเขยใจไม่ดีฮูหยินน้อยเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ช่วงค่ำ หากนางเชิญท่านหมอมาดูฮูหยินน้อยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นไม่นานนักฟ่งสือก็เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับท่านหมอตงและผู้ช่วยคนหนึ่ง “เรียนนายท่านฉู่ข้าน้อยได้ตรวจอาการของฮูหยินน้อยดูแล้ว มิมีสิ่งใดผิดปกติเลย มิได้มีโรคอันใดแทรกซ้อน มีเพียงแค่ชีพจรเท่านั้นที่เต้นอ่อนยิ่งนักขอรับ” หมอตงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นแล้วนางเป็นอันใดถึงได้กระอักเลือดออกมาเช่นนี้!!!” เขาลูบใบหน้าเล็กที่ยามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือด ของคนในอ้อมแขนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยก็พึ่งเคยพบอาการเช่นฮูหยินน้อยเป็นเป็นครั้งแรกขอรับ”หมอตงเอ่ยขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีกับไม่เคยเห็นอาการเช่นนี้ ทุกอย่างรวมไปถึงชีพจรแม้จะเต้นอ่อนยิ่งนักแต่ก็เป็นปกติอยู่ แต่กับมีอาการกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“ฟ่งสือ เจ้าไป

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น

    ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นนางรู้สึกได้ว่าฉู่ฉางซานผู้ซึ่งเหินทะยานพานางขึ้นมาด้านบนยามนี้เขายืนหยุดอยู่กับที่แล้ว“ลืมตาเจ้าขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว”เขาก้มลงเอ่ยบอกร่างเล็กที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะปล่อยนางลงเมื่อนางยอมลืมตาขึ้นมาแล้ว“สวยงามยิ่งนัก!!!”นางเอ่ยออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าของตนเองยามนี้ คือบ้านไม้ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าก่อนที่จะไปถึงตัวบ้านนั้นมีบ่อน้ำขนาดเล็กและมีสะพานทอดยาวให้ข้ามไปยังด้านหน้าของบ้านไม้หลังใหญ่นั้นได้นี่เลยที่นี่เปรียบเสมือนกันกับที่นางเฝ้าฝันว่าอยากจะมาอยู่ในบ้านที่ท่ามกลางธรรมชาติท่ามกลางดอกไม้เช่นนี้ ยามนี้นางได้มายืนอยู่ในที่ๆนางได้วาดฝันเอาไว้แล้ว“เจ้าชอบที่นี่มากขนาดนี้เชี่ยวรึ” เขามองร่างเล็กที่วิ่งไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยถามขึ้น“ข้าชอบที่นี่มากๆเลยเจ้าค่ะ ที่นี่เหมือนกับที่ๆข้าฝันเอาไว้ว่าอยากจะอยู่” นางส่งยิ้มให้เขา“ที่แท้เจ้าก็ชื่นชอบอันใดแบบนี้ เอาไว้กลับไปจวนสกุลฉู่ข้าจะให้คนมาสร้างเรือนเช่นนี้ให้เจ้าที่ท้ายจวนดีรึไม่”“จริงนะเจ้าคะ ท่านจะสร้างให้ข้าจริงๆนะ”

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้  

    ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม รถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งจึงได้ออกจากประตูเมืองทางใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วถนนใกล้บริเวณประตูเมืองทางใต้ยังพอให้มองเห็นผู้คนเดินทางไปมา เป็นผู้คนเดินทางด้วยเท้าบ้าง ม้าบ้าง หรือแม้จะทั่งใช้รถม้าเช่นเดียวกันกับนางขบวนรถม้าของนางมีฟ่งอี้เป็นผู้ควบคุมรถม้า มีฟ่งสือและองครักษ์อีกผู้หนึ่งที่ขี่รถม้านำอยู่หน้ารถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งอยู่ สวนด้านหลังยังมีองครักษ์ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังอีกสี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดฉู่ฉางซานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำเช่นเดียวกัน ส่วนนางยามนี้ก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดาๆชุดหนึ่งที่ไม่ได้ดึงดูสายตาของใครๆได้ แต่นางก็ชอบชุดนี้มากกว่าชุดสวยๆราคาแพงที่ใส่อยู่ทุกวันเสียอีก“ท่านว่ายามนี้เราเหมือนกับสามีภรรยาแบบปกติไหม”นางเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยามนี้เอนตัวนั่งพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของผนังรถม้า แม้เขาจะนั่งหลับตาอยู่แต่นางก็รู้ว่าเขาแค่หลับตาลงเอาไว้เฉยๆไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด“แล้วปกติเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้วรึอย่างไรกัน ถามสิ่งใดของเจ้า”“นั่นสิปกติเราก็เป็นสามีภรรยานี่ เพียงแต่ข้าหมายถึ

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ

    ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ “เล่นสนุกพอหรือยังเจ้า” เสียงเรียบเฉยที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำให้นางหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบฉู่ฉางซานที่กำลังก้าวลงมาจากบันได และเขากำลังก้าวเดินเข้ามาหานาง “เหมือนว่าข้าจะถูกท่านแอบดูเรื่องสนุกเสียแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลก “ข้าไม่ได้แอบดู เพียงแต่เจ้าสร้างเรื่องพอดีกับที่ข้าอยู่ก็เพียงเท่านั้น” “เรื่องนั้นช่างมันเถิด ว่าแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เช่นใดกัน ข้านึกว่าท่านจะไปอยู่ที่หอดนตรีเหม่ยหัวแล้วเสียอีก” นางเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย นางคิดจริงๆว่าฉู่ฉางซานน่าจะไปอยู่ที่หอดนตรีแล้ว เขาเป็นเจ้าของมิใช่ว่าต้องไปอยู่ดูความเรียบร้อยของกิจการก่อนหรือ “วันนี้ข้าไม่ได้จะไปที่หอดนตรีเหม่ยหัว ข้าจะเดินทางออกจากเมืองไปดูหุบเขาดอกไม้ที่นอกประตูเมืองทางเหนือเสียหน่อย คงไปสักสองสามวันเป็นอย่างต่ำ”“ที่นี่ใกล้ประตูเมืองทางเหนือมิใช่เหรอ ประตูทางใต้อยู่อีกทางหนึ่งเลยนี่น่า”“เป็นดังเจ้าว่ามันอยู่คนละทางกัน”“แล้วท่านมาที่ร้านนี้เพราะมีปัญหาอันใดเกิดขึ้นเช่นนั้นรึเปล่า” ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status