หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ / ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวน  

แชร์

ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวน  

ผู้เขียน: อาหลานเร่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-15 20:45:37

ตอนที่ 6

 ที่มาของเหตุอลวน

ใจกลางตลาดใหญ่ในเมืองหลวงร้านผ้าเข็มทองคำของสกุลฉู่ถือว่าใหญ่โตหรูหราเป็นที่สุด เพราะมีถึงสี่ชั้นด้วยกันและทุกชั้นทั้งภายนอกและภายในร้านผ้าแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราสวยงาม โดยที่ชั้นแรกจะเป็นชั้นแรกที่จะมีผู้คอยแนะนำสินค้าและแน่นอนว่าคอยดูว่าควรจะส่งลูกค้าไปที่ชั้นไหนให้เหมาะสมที่สุดอีกด้วย

ในร้านผ้าแห่งนี้จะแบ่งให้ชั้นสองเป็นชั้นที่ผู้ที่มีฐานะปานกลางเอาไว้เลือกซื้อเสื้อผ้า และชั้นที่สามจะเป็นชั้นที่เอาไว้บริการลูกค้าที่ร่ำรวยมั่งคั่งจ่ายง่ายและจ่ายไม่อัน

แน่นอนว่าการแบ่งแยกชัดเจนเช่นนี้ทำให้ลูกค้ารวมไปถึงคนของร้านผ้าเข็มทองคำทำงานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ร้านผ้าเข็มทองคำแน่นอนว่าเป็นร้านขึ้นชื่อในเมืองหลวงรวมไปถึงในอำเภออื่นๆด้วย แน่นอนว่าแม้แต่เหล่าพระสนมในวังยังชื่นชอบเสื้อผ้าอาภรณ์ของร้านผ้าเข็มทองคำยิ่งนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้าที่ดีกว่าร้านอื่นและก็ฝีมือการตัดเย็บจากช่างที่ฝีมือดี ทำให้ไม่ยากเลยที่ร้านเข็มทองคำจะขึ้นเป็นร้านผ้าอันดับหนึ่งในเมืองหลวง

ยามนี้เจ้าของกิจการร้านผ้าเข็มทองคำซึ่งก็คงจะเป็นผู้อื่นผู้ใดไปได้หากไม่ใช่บุรุษชายคนเดียวของสกุลฉู่อย่างฉู่ฉางซานซึ่งใช้ชั้นสี่ของร้านผ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ทำงานของตนเองทั้งชั้น

เพราะร้านผ้าเข็มทองคำหาได้ง่ายจึงทำให้ง่ายต่อการเดินทางมาและการเข้ามาติดต่อค้าขายในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการด้านอื่นๆที่เป็นของสกุลฉู่ด้วยเรียกได้ว่าร้านผ้าเข็มทองคำเป็นจุดศูนย์กลางของกิจการของสกุลฉู่เลยก็ว่าได้

“คุณชายขอรับเมื่อครู่ฮูหยินใหญ่ให้คนมาแจ้งว่าฮูหยินน้อยยังกลับไม่ถึงจวนเลยขอรับ”

“คนของเราที่ให้คอยตามดูนางเล่า ส่งข่าวมาว่าอย่างไรบ้าง” ฉางซานเอ่ยถามลูกน้อยคนสนิทของตนเองทั้งที่ยังไม่ล่ะสายตาออกจากสมุดรายการสินค้าที่อยู่ในมือของตนเองเลย

เขาไม่ได้ต้องรู้สึกร้อนหนาวอันใดกับการที่นางหายตัวไปเลยแม้แต่นิดเดียว ยามที่ท่านแม่ของเขาให้คนมาแจ้งว่านางออกมาเดินเล่นนอกจวนโดยที่ไม่ยอมให้คนในจวนติดตามไปนอกจากสาวใช้คนสนิทของนางเพียงคนเดียว

เขาก็ได้ส่งคนของเขาไปคอยตามดูนางห่างๆไม่ให้รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เขาส่งไปนับว่าเป็นยอดฝีมือแน่นอนว่ายามนี้ถึงแม้สตรีผู้นั้นจะยังไม่กลับถึงบ้านแต่ก็ไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับนางได้อย่างแน่นอน

“เค่ออี้ส่งข่าวมาว่า ยามนี้ฮูหยินน้อยยังอยู่ที่หอเลิศรสอยู่ขอรับ ฮูหยินน้อยกินอาหารในหอเลิศรสแล้วไม่มีเงินจ่ายขอรับ เถ้าแก่ตงเลยให้ทำงานเป็นประกันเอาไว้ก่อนขอรับ”

 ฟ่งสือรีบเอ่ยรายงานคุณชายของตนเองตามความจริงทันที

“ไม่มีเงินจ่ายงั้นรึ” ฉู่ฉางซานเอ่ยออกมาเสียงเย็น

สตรีนางนั้นไม่ใช่ว่ากำลังคิดยั่วยุเขาอยู่หรอกกระมัง นางเป็นผู้ใดกันถึงได้ไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารแค่ไม่เท่าไหร่นั้น ถึงแม้เขาจะทำเป็นไม่สนใจใยดีต่อนาง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ให้เงินทองนางเอาไว้ใช้

กลับกันเขาให้พ่อบ้านคอยนำเงินไปไว้ให้นางไม่เคยปล่อยให้ขาดมือเสียด้วยซ้ำ แล้วเช่นนี้นางยังจะไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารจนกระทั่งโดนให้ทำงานประกันได้เช่นใดกัน

คนของสกุลฉู่อันมั่งคั่งยามนี้ไม่มีแม้แต่เงินที่จะจ่ายค่าอาหาร รู้ไปถึงไหนเขาคงต้องถูกหัวเราะไม่มีชิ้นดีเป็นแน่

เห็นทีเขาคงต้องไปดูด้วยตนเองเสียแล้วสตรีนางนั้นต้องการสิ่งใดกันแน่ถึงได้กล้าที่จะกระทำเรื่องที่จะทำให้สกุลลู่ของเขาต้องอับอาย

“ไปหอเลิศรส”

คิดได้ดังนั้นฉางซานก็เอ่ยขึ้นกับลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที พร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเตรียมที่จะออกจากเดินออกไปจากห้องทำงานของตนเอง โดยที่จุดมุ่งหมายคือหอเลิศรสที่อยู่ไม่ไกลจากร้านผ้าเข็มทองคำของเขาเสียเท่าใดนัก เพียงแค่อยู่ถัดไปเพียงไม่กี่ร้านก็เท่านั้น

หากแต่ก่อนที่เขาจะได้เดินพ้นจากโต๊ะทำงานของตนเองไปนั้น ฟ่งอี้ลูกน้องคนสนิทของเขาซึ่งยามนี้น่าจะตรวจดูความเรียบร้อยอยู่ที่ชั้นล่างของร้านกับวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรนจนเขาอดที่จะเอ่ยถามออกไปอย่าหัวเสียไม่ได้

“เกิดอันใดขึ้น เหตุใดเจ้าจึงได้ร้อนรนเช่นนี้”

“เกิดเรื่อง เกิดเรื่องที่หอเลิศรสขอรับ” ฟ่งอี้เอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยหอบเพราะ คงเป็นเพราะว่าเขารีบวิ่งขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นเพื่อมาแจ้งข่าวต่อคุณชายของตน

“ฟ่งอี้เจ้ารีบไปแจ้งสำนักมือปราบหลวง ฟ่งสือเจ้าไปกับข้า” ฉู่ฉางซานเอ่ยสั่งการก่อนที่จะเดินกลับไปที่หลังโต๊ะทำงานและเลิกที่จะทะยานออกจากหน้าตาที่ตนเองเปิดเอาไว้ไปอย่างรวดเร็ว โดยที่มีฟ่งสือทะยานตามออกไปติดๆ

ยามนี้ทำให้ชั้นบนสุดของร้านผ้าเข็มทองคำไร้ซึ่งเงาของทั้งสองคนที่เคยอยู่ในห้องทำงานแห่งนี้ ผู้เดียวที่ยังคงยืนหอบอยู่ก็คือฟ่งอี้ผู้ที่มาแจ้งข่าวเมื่อครู่ และเป็นผู้เดียวที่คงจะเหนื่อยไม่น้อยเพราะต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงหลายชั้น และยามนี้เขาก็ต้องรีบไปแจ้งที่สำนักมือปราบหลวงอีก

“หากรู้เช่นนี้ข้าฝึกวรยุทธ์เอาไว้บ้างคงจะดีไม่น้อย” เขาเอ่ยออกมา ก่อนจะรีบวิ่งลงไปชั้นล่างเพื่อทำตามคำสั่งของคุณชายของตน นั้นคือรีบไปที่สำนักมือปราบ

ย้อนกลับไปเมื่อเวลาหนึ่งก้านธูป(*15 นาที)ก่อน ในขณะที่นางและสาวใช้คนสนิทอย่างหานอี้กำลังเอ่ยลากับเถ้าแก่ตงและบรรดาเสี่ยวเอ้อร์ทั้งสามคนของหอเลิศรสแห่งนี้

“เถ้าแก่ตงพรุ่งนี้ข้าจะรีบให้คนนำเงินมาจ่ายให้ท่านแน่นอน” นางเอ่ยขึ้น

“เหตุใดคุณชายน้อยท่านถึงไม่นำเงินมาจ่ายด้วยตนเองเล่า หรือเพราะไม่คิดที่จะเหยียบเข้ามาในหอเลิศรสนี้อีกแล้ว”

“มิใช่ว่าข้าไม่อยากมาด้วยตนเองเสียหน่อย แต่ข้าออกมานานจนเกินไป คงยากที่พรุ่งนี้จะออกมาอีกได้” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดจะเสียดายเล็กน้อย ป่านนี้คนในจวนคนนั่งไม่ติดกันไปหมดแล้วเป็นแน่

บ้างทียามนี้ท่านแม่สามีของนางอาจจะกำลังรอนางกลับไปอย่างร้อนใจอยู่ก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงคงจะยากยิ่งที่นางจะได้ออกมาเที่ยวเล่นเช่นนี้อีก

“คุณชายน้องบ้านท่านคงเข้มงวดมิน้อยเลยใช่หรือไม่ขอรับ ท่านเป็นบุรุษยังต้องกังวลเรื่องเวลากลับบ้าน หากท่านเป็นสตรีมิถูกขังเอาไว้ในบ้านเลยหรืออย่างไรกัน” เถ้าแก่ตงพูดออกมาอย่างทีเล่นทีจริง แต่เขากลับเห็นสีหน้าของคุณชายน้อยตรงหน้าของตนเองกับซีดลงเสียอย่างนั้น

“เอาเถิดคุณชายน้อยเอาเป็นว่าข้าเถ้าแก่ตงและทุกคนในหอเลิศรสแห่งนี้พร้อมต้อนรับท่านเสมอ หากท่านออกมาได้อย่างสะดวกเมื่อใดก็อย่าลืมหอเลิศรสเสียเล่า” ตงลี่เอ่ยออกมาอีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มเป็นมิตรให้แก่คุณชายน้อยตรงหน้าของตน

“แน่นอนเถ้าแก่ตง หากมีโอกาสข้าย่อมต้องมาที่หอเลิศรสอีกครั้งให้ได้ และหากท่านรับสาวงามเข้ามาในร้านบางข้าก็จะยิ่งมาให้ได้อย่างแน่นอนทีเดียว”

นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลกไม่แพ้กลับบุรุษกลางคนตรงหน้าที่นางเรียกว่าเถ้าแก่ตงเสียเท่าไหร่นัก และไม่ลืมที่จะแกล้งทำตัวเป็นบุรุษเจ้าสำราญใส่อีกฝ่ายอีกด้วย

            

หลิวซู่ซู่ที่ยามนี้จิตวิญญาณคือหลันซู่ถงนางและสาวใช้คนสนิทยามนี้กำลังเดินออกมาจากไกลจากหอเลิศรสเพียงเล็กน้อยเพียงเท่านั้นและคงจะไปได้ไกลยิ่งขึ้น หากไม่ใช่เพราะก่อนที่นางจะเดินพ้นหัวมุมของโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งซึ่งถ้าเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะบังหอเลิศรสจนมิดและทำให้มองไม่เห็นหอเลิศรสอีก นางก็หยุดฝีเท้าของตนเองเอาไว้เสียก่อน

“หยุดเดินทำไมรึเข้าคะฮูหยินน้อย” หานอี้ที่เดินตามหลังของฮูหยินน้อยของนางอยู่ เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอยู่ๆฮูหยินน้อยของนางก็หยุดเดินต่อไปเสียอย่างนั้น

“ข้าลืมของเอาไว้ที่หอเลิศรส” หลิวซู่ซู่เอ่ยบอกสาวใช้ของตน

“ฮูหยินน้อยท่านลืมสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“เหมือนว่าข้าจะลืมพัดเล่มที่ท่านแม่สามีให้มาวันนี้ไว้ที่หอเลิศรสเสียแล้ว”

“เช่นนั้นพวกเรารีบกลับไปเอามันเถิดเจ้าค่ะ”

หานอี้เอ่ยขึ้นอย่างออกความเห็น หากฮูหยินน้อยของนางลืมสิ่งอื่นไว้วันพรุ่งนี้ยังพอจะให้คนไปนำมาได้ หากแต่ลืมพัดที่ฮูหยินใหญ่พึ่งให้มา กลับไปที่จวนพวกนางยังมิรู้จะต้องเจอกับสิ่งใดบ้าง หากมีคดีทำของที่ฮูหยินใหญ่พึ่งให้มาหายอีก มิแน่ว่าฮูหยินน้อยรวมมาถึงนางอาจจะโดนโทษหนักมิน้อยเลยก็เป็นได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว“เถ้าแก่ตงเปิดประตูให้ข้าน้อยหน่อยเจ้าค่ะ คุณชายของข้าน้อยลืมของบางสิ่งเอาไว้ด้านใน”เป็นหานอี้ที่เป็นผู้ยืนทุบประตูส่งเสียงเรียกคน โดยที่มีหลิวซู่ซู่ยืนรอท่าอยู่ด้านหลังไม่ไกลเท่าไหร่นัก“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ บ่าวเคาะประตูนานแล้ว มิได้ยินเสียงผู้ใดขานตอบกลับมาเลยเจ้าค่ะ มิแน่ว่าเถ้าแก่ตงกับเหล่าเสี่ยวเอ้อร์ทั้งหลายอาจจะแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้วเจ้าคะ” หานอี้เอ่ยบอก นางยืนเคาะประตูอยู่ก็หลายคราแล้วทั้งร้องเรียกขนาดนี้หากยังมิมีผู้ใดออกมาย่อมแปลว่ามิมีคนอยู่ด้านในแล้วก็เท่านั้นเห็นทีนางคงจะต้องให้ฮูหยินน้อยกลับจวนสกุลฉู่โดยไร้พัดที่ฮูหยินใหญ่ให้มาเสียแล้ว นางได้แต่ภวนาในใจให้ฮูหยินใหญ่ไม่ถามถึงพัดเล่มนั้น และโทษที่พวกนางจะได้รับก็อย่าให้ถึงขั้นโบยลงโทษเลยมิเช่นนั้นนางก็มิอยากจะนึกถึงเลย ว่าสภาพของนางจะเป็นเช่นไร ยิ่งฮูหยินน้อยของนางยิ่งแล้วใหญ่หากโดนโทษโบยจริงเห็นทีจะล้มป่วยไปอีกนานทีเดียว“มิสู้พรุ่งนี้เราให้คนนำเงินมาจ่ายเถ้าแก่ตงและก็ถือโอกาสให้นำพัดของท่านกลับไปให้ด้วยเลยจะดีกว่าไหมเจ้าคะ”“นั้นสินะ ตกลงพรุ่งนี้ค่อยให้คนมานำพัดของท่านแม่สามีกลับมาให้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร

    ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรเป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่นางโดนกักตัวให้อยู่แต่ในจวน มิสามารถก้าวออกจากจวนสกุลฉู่ได้เลย เหล่าสาวใช้และบ่าวชายในจวนต่างก็พากันจับตาดูนางเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าจะขยับตัวเดินไปไหน ก็จะค่อยตามนางอยู่เงียบๆ จนนางรู้สึกอึดอัดไปหมดอึดอัดที่ต้องการเป็นเป้าสายตาของทุกคน จนกระทั่งวันนี้นางต้องปิดประตูเรือนและขังตนเองไว้เพื่อลดความอึดอัดจากสายตาผู้อื่นสองวันมานี้ในหัวของนางวนเวียนคิดเกี่ยวกับวิธีการหนีออกจากจวนมิรู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ก็มิได้วิธีดีๆที่มีความเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย“เห้อ” นางถอนหายใจออกมาอย่างคิดมิตก หรือว่านางควรจะเลิกคิดดี และก็ยอมรับสภาพของตนเองในยามนี้แทนอาหารทุกมื้อก็มีพร้อม เสื้อผ้าอาภรณ์มิคาดตกบกพร่อง มีสาวใช้คอยปรนนิบัติอย่างดี นางในมิตินี้มีทุกอย่าง ยกเว้นอิสระนางมิสามารถทนอยู่อย่างนี้ได้แน่ๆในมิติที่นางจากมา นางมีอิสระในการใช้ชีวิตหากไร้ซึ่งอิสระนางย่อมมิสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขแน่ๆใช่แล้ว สิ่งที่นางควรทำยามนี้คือการปรับตัว และหากอยากได้อิสระของนางคืนมา สิ่งเดียวที่จะทำให้อิสระของนางกลับมาอีกครั้งคงมีเพียง ฉู่ฉางซานผู้เดียวเท่านั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ

    ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ“มีผู้ใดอยู่หรือไม่”หลันซู่ถงเอ่ยขึ้น เมื่ออยู่ๆตัวของนางก็มาปรากฏอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งซึ่งมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง ราวกับว่านางเดินอยู่ในที่ๆไม่มีจุดหมายไร้ซึ่งทุกสัพสิ่งนางรู้สึกได้ว่าแม้ร่างกายของนางจะก้าวเดินได้ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุดเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีวันพบเจอกับสิ่งใดได้ นอกจากความมืด และ ความว่างเปล่า“หลันซู่ถง”“ผู้ใด ผู้ใดกันที่เรียกข้า” นางเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับหันมองไปรอบๆทิศทางเพื่อมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่พบสิ่งใด ยังคงมีแต่ความมืดทั่วสารทิศ“เจ้าไม่ต้องมองหาข้า เจ้าไม่มีทางมองเห็นข้าได้”“เช่นนั้นท่านคือผู้ใด ทำไมข้าจึงไม่สามารถมองเห็นได้” นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้าคือผู้ควบคุมประตูมิติ และมีส่วนทำให้วิญญาณของเจ้าเขาร่างผิดมิติ”“เช่นนั้นท่านต้องรีบพาข้ากลับมิติเดิมได้แล้ว ท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ผิดมิติเช่นนี้ไม่ได้”นางคิดเอาไว้แล้วว่าต้องมีเหตุอันใดสักอย่างที่ทำให้วิญญาณของนางเข้ามาอยู่ในร่างผิดมิติ“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการกลับไปยังมิติเดิม เพราะเหตุนี้ข้าจึงต้องเข้าฝันเจ้าเพื่อแจ้งสิ่งต่างๆทั้งหมดแก่เจ้าเสียก่อนอย่างไรเล่า”“ท่านถึงกับเข้าฝันข้าใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไร

    ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไรเวลากว่าสิบวันที่ผ่านมา หลันซู่ถงใช้ชีวิตในมิตินี้อย่างสนุกสนาน นางออกจากจวนทุกวันมาที่ร้านเฟิ่งฮวาเพื่อนปลูกดอกไม้และจัดดอกไม้ใส่แจกันทุกวัน นางจัดดอกไม้วันละหลายแจกัน จัดแล้วก็ให้คนนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำที่นางรู้มาจากฟ่งซีว่าเขามักจะอยู่จัดการงานต่างๆอยู่ที่นั้นสิบวันก่อนที่นางมาที่ร้านเฟิ่งฮวาครั้งแรก นางนึกสนุกและก็อดคันไม้คันมือไม่ได้ เลยจึงออกไปหาซื้อแจกันขนาดกลางที่ไม่ค่อยมีลวดลายเท่าไรนักมากหลายใบด้วยกัน นางนำดอกไม้หลากหลายมาจัดแจกใส่แจกันอย่างสวยงาม บางส่วนนางก็ตั้งโชว์เอาไว้ที่ร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้ และไม่ลืมที่จะแวะไปที่หอเลิศรสและนำแจกันที่นางจัดดอกไม้เอาไว้ไปตั้งเอาไว้ที่นั้นเสียหลายอันเช่นเดียวกันอาจเป็นเพราะนางหยิบแจกันมามากมายเกินไปจากร้านขาย และก็คงเป็นเพราะนางไม่ได้จัดดอกไม้มานานทำให้นางจัดดอกไม้มากเกินความจำเป็น ทุกแจกันถูกนางจัดส่งไปในที่ๆควรส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กับเหลืออันแจกันใบสุดท้าย นางจึงให้ฟ่งซีแวะนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำเดิมทีนางคิดเอาไว้ว่าเขาอาจจะโยนทิ้งออกมาอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง

    ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่องถือได้ว่าเหตุการณ์วุ่นวายได้จบลงด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยามนี้นางนอนพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางที่ทำสิ่งใดไม่ถูก เพราะนางกำลังถูกสายตาอันเฉียบคมจับจ้องอยู่ไม่ได้คาดสายตานับตั้งแต่นางแกล้งสลบไปในร้านเฟิ่งฮวา จนกระทั่งถูกฉู่ฉางซานพากลับมาที่จวนสกุลฉู่นอกจากเวลาที่ท่านหมอเข้ามารักษานางและหานอี้ช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฉู่ฉางซานก็จะนั่งมองนางอยู่กลางห้องไม่ขยับไปไหนเลย“มิใช่ความผิดข้านะเจ้าคะ ข้ามิได้เป็นคนก่อเรื่อง” นางออกตัวเต็มที่ อย่างน้อยๆก็ต้องยืนยันความความบริสุทธิ์ของนางให้ถึงที่สุด“ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง”“หา จริงหรือเจ้าคะ” นางอดที่จะเอ่ยออกมาอย่างตกใจไม่ได้เมื่ออยู่ๆฉู่ฉางซานผู้ที่ไม่ยอมฟังคำของนางง่ายๆ กับดูเหมือนว่าจงใจปล่อยนางไปอย่างไม่ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งมันเป็นการผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก จนนางเริ่มสงสัยระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย“ท่านแม่ส่งข่าวว่าอีกห้าวันก็จะเดินทางถึงจวนสกุลฉู่เราแล้ว”“ที่แท้ท่านแม่สามีก็ใกล้จะกลับแล้ว”คงเป็นเพราะท่านแม่สามีของนางจะกลับมาแล้ว ฉู่ฉางซานจึงคิดที่จะทำดีกับนางตบตาผู้เป็นมารดาขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 12  งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 12 งิ้วฉากใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้วมิใช่ว่าหน้าประตูจวนสกุลลู่ต้องมีแม่ลูกสกุลฟ่างนั่งคุกเข่าอยู่หรอกหรือ ไฉนกลายเป็นว่ายามนี้ผู้ที่อยู่หน้าจวนกับเป็นท่านพ่อและท่านแม่สามีของนางกัน แม้แต่ฉู่ฉางซานก็ยืนอยู่ด้วย นางแอบลอบมองไปที่หน้าจวนก็ไม่เห็นมีสองแม่ลูกสกุลฟ่าง แต่กับมีสาวงามผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของแม่สามีนางแทน“คาราวะท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ”นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเท่าที่สุดที่จะทำได้ ก่อนจะย่อตัวและโค้งศีรษะให้ทั้งสองท่านเป็นการทำความเคารพ“มิต้องมากพิธีหรอกซู่เอ๋อร์แม่ได้ข่าวว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ ไม่เป็นอันใดแล้วใช่หรือไม่” ฉู่ฮูหยินเอ่ยถามลูกสะใภ้ของนาง ก่อนจะตรงเข้าไปจับมือเล็กของลูกสะใภ้นางเอาไว้“ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วง ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เมื่อครู่แม่จัดการไล่แม่ลูกสกุลฟ่างให้เจ้าแล้ว ต่อจากนี้พวกนางจะไม่กล้ามาให้เจ้าเห็นหน้า หรือกล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกแล้ว เจ้าวางใจได้” ที่แท้ที่นางมองหาแม่ลูกสกุลฟ่างไม่เจอก็เพราะแม่สามีจัดการให้นางแล้วนี้เองท่านแม่สามีอุตส่าห์จัดการให้ มันก็ดีอยู่หรอก แต่มิเท่ากับว่านางยังไม่ได้วางท่าใส่แม่ลู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 13 แผนแรก คืนแรก

    ตอนที่ 13 แผนแรก คืนแรก“คุณชายขอรับยามนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ให้ข้าน้อยเรียกคนมาจัดอาหารให้ที่นี่เลยไหมขอรับ” ฟ่งสือที่รอรับใช้คุณชายของตนอยู่มิใกล้นัก เอ่ยถามคุณชายของตนเหมือนเห็นว่าได้เวลาอาหารและก็เหมือนว่าคุณชายของตนเองจะยังไม่ย่อมละความสนใจออกจากสมุดรายชื่อของสินค้าที่มาใหม่เสียที“ไม่ต้องเตรียมอาหารให้ข้า”“คุณชายจะไม่ทานอาหารหรือขอรับ เช่นนั้นให้ข้าน้อยสั่งคนให้จัดของว่างมาให้แทนนะขอรับ”“ไม่ต้องให้ใครเตรียมอันใดทั้งนั้น วันนี้ข้าจะไปทานที่เรือนธารากระจ่าง” ฉู่ฉางซานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ก่อนที่จะปิดสมุดในมือตน และวางมันไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะยืนขึ้นเต็มความสูงก้าวออกมาจากโต๊ะทำงานด้วยท่าทีเรียบเฉย “เจ้าก็อยู่ที่นี่แหละไม่ต้องตามข้าไป คืนนี้ข้าจะค้างที่เรือนธารากระจ่าง” พูดจบฉู่ฉางซานก็ก้าวออกจากเรือนตำราทิพย์เพื่อตรงไปยัง เรือนธารากระจ่างที่เขาพึ่งจะจากมาได้ไม่ถึงครึ่งวันดีนักเสียด้วยซ้ำ เพื่อที่จะไปกระทำตามแผนที่หลันซู่ซู่ได้วางเอาไว้ คืนนี้หลังจากกินข้าวกับนางเสร็จ เขาก็ต้องนอนรวมเตียงเดียวกันกับนางเป็นครั้งแรก ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 14 จุมพิตนั้นยังจำฝังใจ

    ตอนที่ 14 จุมพิตนั้นยังจำฝังใจยกเลิกได้รึไม่กันยามนี้นางยังยืนคิดหนักอยู่หลังม่านแต่งตัวอยู่เลย แม้จะแต่งตัวเสร็จนานพอควรแล้วแต่ก็มิกล้าก้าวออกไปยังห้องนอนของตนเองเสียทีเหตุก็เพราะเหตุที่เกิดขึ้นที่ศาลาหินอ่อนนั้นทำเอานาง ไม่อยากจะเจอหน้าฉู่ฉางซานยามนี้คิดแล้วก็อดรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าของตนเองขึ้นมาเสียอย่างนั้นแผนที่นางว่างเอาไว้ล้มไม่เป็นท่าเสียอย่างนั้น ท่านแม่สามีและแม่นางหมิงไม่ได้แม้จะจะก้าวมาที่หน้าศาลาเสียด้วยซ้ำ เมื่ออยู่ๆก็มีสาวใช้ที่ใดก็ไม่รู้มาตามแม่สามีของนางกลับเรือนไปเสียก่อนนางและฉู่ฉางซานผละออกจากกันแทบจะทันที เมื่อรู้สึกได้ว่าทุกผู้ที่เคยอยู่ใกล้ๆในบริเวณนั้นออกไปกันจนหมดแล้วนางไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาเลยเสียด้วยซ้ำ“ข้ากลับเรือนก่อนก็แล้วกัน” นางหันหลังให้เขาก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากศาลาหินอย่างรวดเร็วไม่ได้หันไปมองเขาอีกนางเผลอคิดไปถึงเรื่องที่นางรีบกลับมาเสียก่อน อย่างหัวเสีย เรื่องมันก็แค่การผิดพลาดนางมิควรคิดมากอันใดใช่แล้ว คิดเสียว่าไม่เคยมีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นก็แล้วกัน คิดได้ดังนั้น นางก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินออกจากม่านกั้นไปยังห้องนอนที่ยามนี้มีฉู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่3

    ตอนพิเศษว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่ หลังจากที่เธอต้องใส่เผือกและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากแฟนหนุ่มอยู่เกือบสามเดือนในที่สุดเธอก็ได้ถอดเผือกและ กลับมาใช้ข้อมือได้อย่างอิสระอีกครั้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถกลับมาจัดดอกไม้ที่เธอรักได้อย่างถนัดอีกครั้ง อีกอย่างคือไม่ต้องถูกฉางเหอตามคุมเข้มอีกต่อไปแล้ว แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะกลัวเธอทำตัวซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวกว่าเดิมก็ตามแต่การที่ถูกแฟนซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอและซีอีโอรูปหล่อคอยตามดูแลอยู่ไม่ได้ห่างช่างเป็นอะไรที่หลบการตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่เขามาค่อยดูแล แต่ความดีใจกับมาพร้อมกับการที่มักจะทำตัวไม่ถูกของเธอ หลายครั้งที่เธอนึกอิจฉาความเฉยชาต่อสายตาเหล่านั้นของแฟนหนุ่มไม่ได้มีครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขาว่า เขาไม่รู้สึกรำคาญหรืออะไรบ้างหรือเวลาที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจเช่นนี้ เขาตอบกลับมาแค่ว่า “ผมไม่จำเป็นต้องแค่ใครนอกจากคุณ” เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขาฉันกลับเขาใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เธอใส่เผือกก็ถูกมัดมือชกแกล้มบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะถูก ที

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 2

    “มาครับผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อเอง” เขาเอ่ยขึ้นกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติบ้างได้แล้วนิดหน่อยเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลันซู่ถงจึงยิ้มออกมาให้เขาอย่างเอาใจ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงช่วยนางเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดคนไข้ชุดคนไข้ที่พยาบาลส่งให้เขาเมื่อครู่ยามนี้เขานำมาวางเอาไว้บนตักของเธอตัวเธอนั้นถูกเขาประคองให้ขึ้นมานั่งอยู่ที่ริมเตียงคนไข้ เนื่องจากเธอสูงไม่มากจึงขาลอยเมื่อนั่งหย่อนขาที่ริมเตียงคนไข้เช่นนี้ ในหัวอดคิดไปถึงคนไข้คนอื่นๆไม่ได้ว่าพวกเขาก็ขาไม่ถึงพื้นเช่นเธอเหมือนกันหรือไม่เวลาที่นั่งอยู่ริมเตียงคนไข้แบบนี้ตอนที่รอให้คุณหมอตามมาตรวจ “ข้อมือขวาคุณน่าจะหักผมว่าคุณอย่าขยับมันจะดีกว่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดุเธอทันที เมื่อเธอเผลอเกือบจะยกมือขึ้นมาหลังจากที่เขาเอื้อมมือมาหมายจะช่วยเธอปลดกระดุมชุดเดรสยีนส์ที่มีกระดุมเป็นแทบตั้งแต่ช่วงอกจนกระทั่งถึงช่วงเข่าของเธอ “เอ่อ ฉางเหอคะ ฉันว่าคุณให้พยาบาลเขามาช่วยฉันเปลี่ยนชุดน่าจะสะดวกกว่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา แน่นนอนว่าเมื่อกล่าวออกไปร่างสูงเบื้องหน้าเธอก็ขมวดค

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 1

    ตอนพิเศษเธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม หน้าฝนเช่นนี้แน่นอนว่าคงจะไม่แปลกเท่าไหร่นักหากคนส่วนให้ในเมืองจะเป็นหวัดกันไปหมด บางคนก็เป็นหวัดเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศที่สุดแสนจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างวันนี้ร้อนพรุ่งนี้พายุฝนตกกระหน่ำ อีกวันหนึ่งกับมีลมหนาว บางคนเดินๆอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหาที่หลบไม่ทัน กว่าจะวิ่งหาที่หลบฝนได้ก็เปียกไปกว่าครึ่งแล้วหลันซู่ถงเองเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆแต่พอไปถึงบริษัทเหม่ยหลง ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่เธอและเพื่อนอีกคนหนึ่งพึ่งจะร่วมทุนกันตั้งเป็นบริษัทสำหรับการรับตกแต่งสถานที่โดยมีดอกไม้เป็นตัวหลักวันนี้หลังจากที่ประชุมเรื่องเกี่ยวกับงานตกแต่งฉากโฆษณาเสร็จ เธอจึงได้คิดที่จะแวะเข้าไปให้หมอตรวจอาการของเธอก่อนจะตรงเข้าไปหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเช่นเดียวกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะหนิงจู” เธอเอ่ยขอบคุณหุ้นส่วนที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ไม่เป็นไรหรอก แกรีบเข้าไปให้หมอตรวจอาการเถอะ แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อน” หนิง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ เจ้าแม่แรร์ไอเทมจะว่าไปแล้วเธอก็งงอยู่เหมือนกันว่า ฉายาเจ้าแม่แรร์ไอเทมที่เธอได้มา ได้มายังไงจนเดือดร้อนถึงแม่เพื่อนสนิทของเธออย่างเฟ่งเสี่ยวซ่งต้องมาอธิบายไขข้อข้องใจ ให้เธอเสียยกให้“แม่เจ้านี่แกไม่รู้จริงๆ หรือตั้งใจจะถามให้ฉันอิจฉาตาร้อนเล่นห๊ะ”“ถ้ารู้ฉันก็ไม่ถามแกหรอกจริงไหม เลิกกัดฉันด้วยคำพูดแล้วก็รีบบอกมาเร็วเข้า” เธอเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของแม่เพื่อนตัวดีของเธอ“แฟนแกเป็นสุดยอดแรร์ไอเทมไง คนที่ได้เป็นแฟนกับเขาได้นั้นแปลว่าต้องเป็นนักชกมือฉกาจ และในเมื่อแกเก่งกล้าถึงขนาดนั้น เหล่าแฟนคลับเขาเลยเรียกแกว่า เจ้าแม่แรร์ไอเทม ไงเก็ทเนอะ”“เก็ทก็ได้ค่ะคุณเพื่อน”“ว่าแต่แกเถอะจะย้ายร้านเมื่อไหร่”“ก็คงจะสิ้นเดือนนี้พอดีนั้นแหละ ร้านใหม่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลของฉางเหอน่าจะตกแต่งเสร็จพอดี”“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้แกแรงๆหน่อยได้ไหม”“แกมาหมั่นไส้ฉันทำไมเนี่ย”เธออดจะขำออกมาเสียงดังไม่ได้ กับท่าทีที่ดูตลกของเฟ่งเสี่ยวซ่ง ที่เดียวๆทำคิ้วขมวด เดียวก็ทำหน้าบิดเบี้ยว“แกรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน” เฟ่งเสี่ยวซ่งเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทก่อนจะจับที่แข

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง (ตอนจบ)

    ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง(ตอนจบ)นี่ก็ผ่านมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอสลบไปเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า ไม่ใช่เพราะถูกฟ้าผ่าใส่แต่อยากใดทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอยังคงนึกไปถึงเรื่องในอีกมิติหนึ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังสับสนไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่เธอพลัดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็นความจริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่เธอฝันไปเองเท่านั้นยามที่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรก ก็เจอเข้ากับเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่มาเฝ้าเธออยู่พอดี เฟ่งเสี่ยวซ่งบอกกับเธอเพียงว่าร่างกายของเธอปกติทุกอย่างแต่กับนอนไม่ได้สติมาถึงสองอาทิตย์เต็ม ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในอีกมิติหนึ่งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเธออยู่ในมิตินั้นราวๆสามเดือนเห็นจะได้วันนี้เป็นวันที่เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผู้ที่มารับเธอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนั้นแหละ“ซู่ถงแกเดินไหวแน่นะ ไม่ใช่ว่าเดินๆไปแล้วแกล้มขึ้นมาฉันจับไม่ทันแกจะเจ็บตัวเอานะ”เฟ่งเสี่ยวซ่งเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็เงียบผิดปกติ อีกท

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมา

    ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมาหานอี้มองภาพของฮูหยินน้อยของนางที่กำลังพิงอยู่ที่ตัวของท่านเขยอย่างสงสารจับใจ นางพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ท่านเขยเห็นเพราะกลัวจะยิ่งทำให้ท่านเขยใจไม่ดีฮูหยินน้อยเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ช่วงค่ำ หากนางเชิญท่านหมอมาดูฮูหยินน้อยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นไม่นานนักฟ่งสือก็เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับท่านหมอตงและผู้ช่วยคนหนึ่ง “เรียนนายท่านฉู่ข้าน้อยได้ตรวจอาการของฮูหยินน้อยดูแล้ว มิมีสิ่งใดผิดปกติเลย มิได้มีโรคอันใดแทรกซ้อน มีเพียงแค่ชีพจรเท่านั้นที่เต้นอ่อนยิ่งนักขอรับ” หมอตงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นแล้วนางเป็นอันใดถึงได้กระอักเลือดออกมาเช่นนี้!!!” เขาลูบใบหน้าเล็กที่ยามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือด ของคนในอ้อมแขนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยก็พึ่งเคยพบอาการเช่นฮูหยินน้อยเป็นเป็นครั้งแรกขอรับ”หมอตงเอ่ยขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีกับไม่เคยเห็นอาการเช่นนี้ ทุกอย่างรวมไปถึงชีพจรแม้จะเต้นอ่อนยิ่งนักแต่ก็เป็นปกติอยู่ แต่กับมีอาการกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“ฟ่งสือ เจ้าไป

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น

    ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นนางรู้สึกได้ว่าฉู่ฉางซานผู้ซึ่งเหินทะยานพานางขึ้นมาด้านบนยามนี้เขายืนหยุดอยู่กับที่แล้ว“ลืมตาเจ้าขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว”เขาก้มลงเอ่ยบอกร่างเล็กที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะปล่อยนางลงเมื่อนางยอมลืมตาขึ้นมาแล้ว“สวยงามยิ่งนัก!!!”นางเอ่ยออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าของตนเองยามนี้ คือบ้านไม้ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าก่อนที่จะไปถึงตัวบ้านนั้นมีบ่อน้ำขนาดเล็กและมีสะพานทอดยาวให้ข้ามไปยังด้านหน้าของบ้านไม้หลังใหญ่นั้นได้นี่เลยที่นี่เปรียบเสมือนกันกับที่นางเฝ้าฝันว่าอยากจะมาอยู่ในบ้านที่ท่ามกลางธรรมชาติท่ามกลางดอกไม้เช่นนี้ ยามนี้นางได้มายืนอยู่ในที่ๆนางได้วาดฝันเอาไว้แล้ว“เจ้าชอบที่นี่มากขนาดนี้เชี่ยวรึ” เขามองร่างเล็กที่วิ่งไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยถามขึ้น“ข้าชอบที่นี่มากๆเลยเจ้าค่ะ ที่นี่เหมือนกับที่ๆข้าฝันเอาไว้ว่าอยากจะอยู่” นางส่งยิ้มให้เขา“ที่แท้เจ้าก็ชื่นชอบอันใดแบบนี้ เอาไว้กลับไปจวนสกุลฉู่ข้าจะให้คนมาสร้างเรือนเช่นนี้ให้เจ้าที่ท้ายจวนดีรึไม่”“จริงนะเจ้าคะ ท่านจะสร้างให้ข้าจริงๆนะ”

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้  

    ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม รถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งจึงได้ออกจากประตูเมืองทางใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วถนนใกล้บริเวณประตูเมืองทางใต้ยังพอให้มองเห็นผู้คนเดินทางไปมา เป็นผู้คนเดินทางด้วยเท้าบ้าง ม้าบ้าง หรือแม้จะทั่งใช้รถม้าเช่นเดียวกันกับนางขบวนรถม้าของนางมีฟ่งอี้เป็นผู้ควบคุมรถม้า มีฟ่งสือและองครักษ์อีกผู้หนึ่งที่ขี่รถม้านำอยู่หน้ารถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งอยู่ สวนด้านหลังยังมีองครักษ์ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังอีกสี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดฉู่ฉางซานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำเช่นเดียวกัน ส่วนนางยามนี้ก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดาๆชุดหนึ่งที่ไม่ได้ดึงดูสายตาของใครๆได้ แต่นางก็ชอบชุดนี้มากกว่าชุดสวยๆราคาแพงที่ใส่อยู่ทุกวันเสียอีก“ท่านว่ายามนี้เราเหมือนกับสามีภรรยาแบบปกติไหม”นางเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยามนี้เอนตัวนั่งพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของผนังรถม้า แม้เขาจะนั่งหลับตาอยู่แต่นางก็รู้ว่าเขาแค่หลับตาลงเอาไว้เฉยๆไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด“แล้วปกติเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้วรึอย่างไรกัน ถามสิ่งใดของเจ้า”“นั่นสิปกติเราก็เป็นสามีภรรยานี่ เพียงแต่ข้าหมายถึ

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ

    ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ “เล่นสนุกพอหรือยังเจ้า” เสียงเรียบเฉยที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำให้นางหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบฉู่ฉางซานที่กำลังก้าวลงมาจากบันได และเขากำลังก้าวเดินเข้ามาหานาง “เหมือนว่าข้าจะถูกท่านแอบดูเรื่องสนุกเสียแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลก “ข้าไม่ได้แอบดู เพียงแต่เจ้าสร้างเรื่องพอดีกับที่ข้าอยู่ก็เพียงเท่านั้น” “เรื่องนั้นช่างมันเถิด ว่าแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เช่นใดกัน ข้านึกว่าท่านจะไปอยู่ที่หอดนตรีเหม่ยหัวแล้วเสียอีก” นางเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย นางคิดจริงๆว่าฉู่ฉางซานน่าจะไปอยู่ที่หอดนตรีแล้ว เขาเป็นเจ้าของมิใช่ว่าต้องไปอยู่ดูความเรียบร้อยของกิจการก่อนหรือ “วันนี้ข้าไม่ได้จะไปที่หอดนตรีเหม่ยหัว ข้าจะเดินทางออกจากเมืองไปดูหุบเขาดอกไม้ที่นอกประตูเมืองทางเหนือเสียหน่อย คงไปสักสองสามวันเป็นอย่างต่ำ”“ที่นี่ใกล้ประตูเมืองทางเหนือมิใช่เหรอ ประตูทางใต้อยู่อีกทางหนึ่งเลยนี่น่า”“เป็นดังเจ้าว่ามันอยู่คนละทางกัน”“แล้วท่านมาที่ร้านนี้เพราะมีปัญหาอันใดเกิดขึ้นเช่นนั้นรึเปล่า” ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status