Home / รักโบราณ / ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ / ตอนที่ 3 หลิวซู่ซู่ผู้ฟื้นคืน

Share

ตอนที่ 3 หลิวซู่ซู่ผู้ฟื้นคืน

last update Last Updated: 2024-12-15 20:40:34

ตอนที่ 3

หลิวซู่ซู่ผู้ฟื้นคืน

‘อือ’

เสียงบิดขี้เกียจของหลันซู่ถงดังขึ้น เธอรู้สึกเหมือนได้นอนหลับเต็มอิ่มที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา  เธอรู้สึกสบายจนแทบไม่อยากลืมตาตื่นเลยเสียด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่ามีเสียงคนดังขึ้นมาเสียก่อนเธอก็คงจะเคลิ้มหลับไปอีกครั้งแล้ว

“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูรู้สึกตัวแล้วรึเจ้าคะ”

เสียงที่ดังขึ้นอย่างตื่นเต้นบวกกับแรงจับที่ข้อมือ ทำให้หลันซู่ถงที่กำลังจะเข้าห้วงนิทราอีกครั้งจำเป็นต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน

แต่เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาแล้วก็ต้องตกใจจนอดที่จะร้องออกมาไม่ได้

“เฮ้ยๆๆๆๆ!!!”

เธอร้องออกมาก่อนจะคลานไปซุกอยู่ที่มุมเตียงด้านในอย่างตกใจ

“คุณหนูๆ ท่านเป็นอันใดไปเจ้าคะ”

ผู้หญิงที่แต่งตัวประหลาดๆคล้ายๆกับสมัยก่อนเอ่ยถามเธอ อีกทั้งพยายามทีจะดึกผ้าห่มที่เธอใช้คลุมตัวออกไปด้วย

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอันใดไปเจ้าค่ะบอกบ่าวเถิดเจ้าคะ”

หานอี้เอ่ยถามคุณหนูคนงามของตนอย่างเป็นห่วง คุณหนูของนางอยู่ๆเมื่อสามวันก่อนก็เป็นลมล้มป่วยไม่ได้สติ จนกระทั่งผ่านมาหลายวัน วันนี้ถึงได้ฟื้นขึ้นมาได้

“คุณหนูอะไรของเธอ ฉันไม่ใช่คุณหนูอะไรนั้นอย่ามายุ่งกับฉัน!!!” เธอเอ่ยขึ้นเสียงดัง ก่อนจะใช้จังหวะที่ผู้หญิงแปลกๆตรงหน้าไม่ทันตั้งตัว ผลักเธอออกไปจนล้มลงที่พื้นข้างเตียง และรีบวิ่งออกไปยังประตูที่เปิดเอาไว้

เธอวิ่งออกไปนอกห้องแล้วกับยิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ ในเมื่อสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเธอตอนนี้กับเป็นสิ่งที่เธอไม่คุ้นเคยอย่างยิ่ง แต่กลับเป็นสิ่งที่เธอเคยเห็นอยู่บางในหนังย้อนยุคหลายๆเรื่อง

เบื้องหน้าของเธอยามนี้เป็นสวนดอกไม้ ที่จัดแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ข้างๆกับมีศาลาที่อยู่ติดกับสระบัวขนาดใหญ่ที่ยามนี้ดอกบัวในสระนั้นกำลังเบ่งบานอยู่อย่างสวยงาม

“คุณหนู คุณหนูท่านหยุดก่อนเจ้าค่ะ”

หลันซู่ถงออกวิ่งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังไล่หลังมา เธอตัดสินใจวิ่งออกไปยังสะพานโค้งที่อยู่ไม่ไกลจากศาลานัก ซึ่งยื่นออกไปยังกลางสระบัว

“อะไรทำไมสะพานไปต่อไม่ได้แล้วเนี่ย”

เธอเอ่ยออกมาอยากหัวเสีย เมื่อเธอไม่สามารถวิ่งต่อไปได้อีก

ไม่ใช่เพราะเธอเหนื่อยหรืออะไรทั้งสิน แต่เป็นเพราะสะพานนี้มันไม่มีให้เธอวิ่งต่อไปได้แล้ว มีเพียงขั้นบันไดไม้ที่ยืนลงไปในน้ำ คล้ายกลับว่าทำไว้เพื่อสำหรับลงเรือ แต่กับไม่มีเรืองสักลำอยู่เลย

“ทำยังไงดี ทำไง ทำไงๆๆๆ” เธอพูดออกมาอย่างร้อนรน

“คุณหนูท่านเป็นอันใดไปบอกบ่าวนะเจ้าคะ คุณหนูเป็นอย่างนี้บ่าวไม่สบายใจเลยเจ้าคะ”

เอาแล้วไง ตอนนี้ดูเหมือนเธอหลันซู่ถงจะโดนผู้หญิงที่เธอเจอในห้องและผู้หญิงที่แต่งตัวแปลกๆอีกหลายๆคนล้อมทางออกเดียวที่เธอมีเอาไว้ซะแล้ว

ซึ่งทางออกเดียวที่มีก็คือทางขึ้นสะพานไม้ที่เธอขึ้นมา เหมือนกับว่าตอนนี้หากเธอต้องการจะออกไปจากสะพานไม้ก็ต้องผ่านผู้หญิงแต่งตัวประหลาดพวกนี้ไป หรืออีกทางก็กระโดดลงสระบัวไปซะ

แน่นอนว่าเธอหลันซู่ถงไม่เลือกทางเลือกหลังแน่ๆ เพราะว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นเลือกกระโดดลงไปก็เท่ากับฆ่าตัวตายนะสิ

“คุณหนูท่านระวังตกน้ำนะเจ้าคะ”

“พวกเธอก็ถอยไปให้ฉันออกไปสิ”

“คุณหนูพูดอันใดเจ้าคะ บ่าวมิค่อยจะเข้าใจเลยเจ้าค่ะ” หานอี้เอ่ยถามคุณหนูของนางอย่างฉงนในใจ เมื่อคำพูดของคุณหนูของนางแปลกไป

“พูดอะไรก็เรื่องของฉัน ถอยออกไปให้ฉันก็พอ ไม่อย่างนั้นฉันจะกระโดดลงไปจริงๆ” เธอเอ่ยออกมาก่อนจะแกล้งก้าวไปจนติดขอบสะพาน

“คุณหนู คุณหนูอย่าทำอันใดวู่วามนะเจ้าคะ บ่าวถอยแล้วเจ้าค่ะ” หานอี้เอ่ยก่อนจะไล่สาวใช้อีกสามคนที่นางพามาด้วยให้ออกไปจากสะพานไม้

“ดี เธอก็ถอยออกไปด้วย” เธอเอ่ยออกมาอีกครั้งอย่างค่อนข้างพอใจ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไล่ผู้หญิงเหล่านั้นไปจนหมดแล้ว

“บ่าวถอยแน่เจ้าค่ะ แต่คุณหนูต้องก้าวออกมาจากขอบสะพานก่อนนะเจ้าคะ แล้วบ่าวจะถอยออกไป”

“ได้สิ ตกลงตามนั้น ฉันจะเดินเข้าไปเธอถอยออกไปได้แล้ว”

หลันซู่ถงเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนที่เธอจะก้าวเท้าเข้าไปในสะพานมากขึ้นแต่อยู่ๆมือของเธอที่กำลังจะเอื้อมไปคว้าราวสะพานก็คว้าไม่อยู่เป็นเหตุให้เธอเสียหลักตกลงไปในสระบัวข้างหลังทันทีท่ามกลางเสียงร้องอย่างตกใจของผู้หญิงแต่งตัวประหลาดคนนั้น

‘ตูม!!!’

“ช่วยด้วยคุณหนูตกน้ำ!!! ช่วยด้วยช่วยด้วยเจ้าค่ะ!!!”

นางพยายามตะเกียกตะกายขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่ก็ไม่เป็นผลอาจจะเป็นเพราะว่าตกลงมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และไหนจะชุดยาวรุ่มร่ามที่อยู่บนตัวเธออีกมันทำให้เธอเคลื่อนไหวไม่สะดวกเอาเสียเลย

เธอกำลังจะกลั้นหายใจต่อไปไม่ไหวแล้ว

ดีแล้ว ตายนั้นแหละดีแล้ว เธอจะได้หลุดพ้นจากที่บ้าๆนี่ซะที

คิดได้อย่างนั้น เธอก็ค่อยๆหลับตาลงอีกครั้งก่อนที่จะปล่อยลมหายใจที่กลั้นเอาไว้ออก เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีน้ำจำนวนมากจะทะลักเข้าปากและจมูกของเธออย่างรวดเร็ว…

“หานอี้ไหนเจ้าบอกมาสิว่าซู่เอ๋อร์ตกลงไปในสระบัวได้อย่างไรกัน”

ฉู่ฮูหยินเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทของลูกสะใภ้ของตน หลายวันก่อนที่นางและสามีไม่อยู่ในจวนเพราะออกไปท่องเที่ยวที่นอกเมืองด้วยกัน พ่อบ้านฉางซึ่งเป็นพ่อบ้านเก่าแกของสกุลฉู่ก็ส่งจดหมายไปบอกนางว่าลูกสะใภ้เพียงคนเดียวของนางที่กว่าจะได้มาเป็นสะใภ้นั้นนางต้องเสียน้ำตาไปมากจนกระทั่งบุตรชายยอมใจอ่อน นั้นอยู่ๆก็เป็นลมมิได้สติไปตั้งหลายวัน ซ้ำร้ายกว่านั้นเมื่ออาการดีขึ้นกับตกสระน้ำไปอีก

“ว่าอย่างไรหานอี้” ฉู่ฮูหยินเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

“เรียนฮูหยินใหญ่ ตั้งแต่คุณหนูฟื้นขึ้นมาก็แปลกๆไปเจ้าค่ะ อยู่ๆก็วิ่งออกจากเรือนไปที่สะพานไม้และก็พลัดตกลงไปเจ้าค่ะ”

หานอี้ที่คุกเข่ารอรับความผิดอยู่เอ่ยตอบอย่างหวาดหวั่น นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตาฮูหยินใหญ่ตรงหน้าด้วยซ้ำ

“นั้นคงเป็นเพราะนางป่วยยังไม่หายดีเป็นแน่ ทีหลังเจ้าต้องดูแลเจ้านายตัวเองให้ดีกว่านี้รู้หรือไม่”

ฉู่ฮูหยินนางเอ่ยออกมาพรางเดินไปที่เตียงนอนที่ยามนี้มีร่างเล็กสีหน้าซีดเซียวนอนหลับตาหายใจบางเบานอนหลังอยู่

ซึ่งเจ้าของร่างเล็กผู้นี้ก็มิใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นลูกสะใภ้ของนางเอง มิรู้นางคิดผิดคิดถูกที่ให้สตรีเปราะบางเช่นนี้แต่งเข้ามาให้สกุลฉู่ คิดแล้วนางก็อดสงสารร่างบางตรงหน้าอย่างจับใจไม่ได้ หากเรื่องนี้จะมีคนผิดคงเป็นนางเองที่ไปดึง สตรีไร้เดียงสาผู้นี้ลงมาในกองทุกข์กองใหญ่

“อีกอย่างหนึ่งยามนี้ซู่เอ๋อร์แต่งเข้าสกุลฉู่ของเราแล้ว เจ้าก็เลิกเรียกนางว่าคุณหนูได้แล้วกระมัง ต่อจากนี้อย่าให้ข้าได้ยินเจ้าเรียกสะใภ้ข้าเช่นนั้นอีก”

เอาเถิดแม้นางจะมิสามารถทำให้บุตรชายของนางมาสนใจ สะใภ้ผู้ไร้เดียงสาของนางได้ แต่อย่างน้อยนางก็ต้องให้ซู่เอ๋อร์ของนางเป็นฮูหยินที่ทุกคนมิว่าจะในจวนหรือนอกจวนยอมรับนับถือให้จงได้

“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่”

“แล้วนี่ฉางซานแวะมาที่เรือนบ้างหรือไม่” นางเอ่ยถามต่อ

“คือ… เอ่อ”

“เอาเถิดเจ้ามิต้องพูดแล้ว” ฉู่ฮูหยินเอ่ยออกมาก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง นางก็ไม่น่าถามอะไรที่นางย่อมรู้คำตอบดีอยู่แล้วกระมัง ฉางซานบุตรชายของนางไม่มีทางมาแน่ๆ

ก่อนออกจากเรือนธารากระจ่างที่เป็นเรือนหอรวมไปถึงเรือนพักของลูกสะใภ้ นางก็ไม่ลืมที่จะกำชับสาวใช้คนสนิทของร่างเล็กที่กำลังนอนหลับมิได้สติให้ดูแลเจ้าของเรือนให้ดีอีกครั้ง ก่อนที่จะก้าวออกจากเรือนไป

แน่นอนว่าจุดหมายของนางคือเรือนตำราทิพย์ซึ่งอยู่ไกลจากเรือนธารากระจ่ายเรียกได้ว่าอยู่กันคนละทิศเลยก็ว่าได้ ซึ่งเรือนตำราทิพย์ก็เป็นเรือนของผู้อื่นผู้ใดไปมิได้นอกจากเป็นเรือนที่บุตรชายของนางใช้เป็นเรือนพัก นับตั้งแต่ที่ซู่เอ๋อร์แต่งเข้าสกุลมา

ยามแรกนางก็คิดว่าอย่างไรเสียบุตรชายของนางก็เป็นบุรุษเช่นบุรุษอื่นมีเลือดมีเนื้อเช่นเดียวกัน แต่งสตรีเข้าจวนมาแล้วย่อมต้องกระทำอันที่สามีควรกระทำต่อผู้เป็นภรรยาอยู่แล้ว

นางจึงมิได้ยืนมือเข้ามาตั้งแต่สองเดือนที่แล้วที่ซู่เอ๋อร์แต่งเข้าจวนมาใหม่ๆ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วอย่างไรเสีย นางซึ่งเป็นแม่สามีคงจะทนอยู่เฉยๆต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

“ฉางซานเล่า”

เมื่อเดินมาหยุดที่หน้าเรือนตำราทิพย์ นางก็เอ่ยถามคนสนิทของบุตรชายที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูทันที

“เรียนฮูหยินใหญ่ คุณชายยามนี้ตรวจสมุดบัญชีอยู่ด้านในขอรับ” ฟ่งอี้เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อมเป็นอย่างดี

เขาทำแสร้งมิรับรู้ถึงอารมณ์กรุ่นโกรธของฮูหยินใหญ่ประจำสกุลฉู่ซึ่งเป็นสตรีที่มีอำนาจที่สุดในจวนแห่งนี้

“ดียิ่ง เวลาเช่นนี้บุตรชายข้ายังมีอารมณ์ตรวจสมุดบัญชีอีกเห็นทีข้าจะเลี้ยงบุตรมาได้ดีไม่น้อย!!!” นางเอ่ยเสียงดังอย่างประชดประชันก่อนจะเดินผ่านฟ่งอี้เข้าไปด้านในเรือนตำราทิพย์

“ฉางซาน”

นางเอ่ยเรียกบุตรชายตนที่ยามนี้ กำลังนั่งอ่านตำราเล่มหนึ่งซึ่งก็น่าจะเป็นสมุดบัญชีอย่างที่ฟ่งอี้บอกนางก่อนที่นางจะเข้ามาในเรือนตำราทิพย์อยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมีฟ่งสือบ่าวรับใช้คนสนิทอีกคนยืนค่อยรับใช้บุตรชายของนางอยู่ไม่ไกล

“ท่านแม่ กลับมาที่จวนแล้วรึขอรับ” เขาเงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชีในมือ เมื่อได้ยืนเสียงเอ่ยเรียกชื่อของตนเองอย่างคุ้นเคย

             “แม่ต้องกลับสิ มิกลับได้เช่นใดกันซู่เอ๋อร์นางป่วยหนักเสียขนาดนั้น”

             “นางป่วยก็ตัวนาง ท่านแม่มิต้องไปสนใจหรอกขอรับ” เขายังคงเอ่ยตอบท่านแม่ของตนเองด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียบเฉยเช่นเดิม ในมือก็ยังถือสมุดบัญชีสายตาก็จับจ้องอยู่ในเนื้อหาของสมุดบัญชีนั้นมิมีเปลี่ยนแปลง

             “ผู้ที่เจ้าเอ่ยว่ามิควรไปสนใจนั้นคือผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินของเจ้านะฉางซานเจ้าเอ่ยออกมาเช่นนี้มิใช่ใจร้ายต่อนางไปหน่อยรึอย่างไรกัน”

นางรู้ว่านอกจากเรื่องการค้าแล้วบุตรชายของตัวเองก็มิได้สนใจสิ่งใดอีก แต่เรื่องนี้นางก็มิอาจเฉยเมยได้อีกแล้ว

ซู่เอ๋อร์ลูกสะใภ้ของนางน่าสงสารเกินไปแล้วจริงๆ แต่งงานมาไม่เพียงสามีมิเอาใจใส่ดูแล แม้แต่การทำตามธรรมเนียมกลับบ้านเดิมเจ้าสาวก็ยังมิได้ทำตามแต่อย่างใด ยามนางเอ่ยถามบุตรชายก็เอาแต่ผัดวันประกันพรุ่งอยู่ร่ำไป

มิต้องบอกนางก็รู้ว่าเหตุใดตั้งแต่สะใภ้ของนางแต่งเข้าสกุลมาถึงได้ล้มป่วยอยู่บ่อยครั้งเช่นนี้ ถ้ามิใช่เป็นเพราะตรอมใจกับสิ่งต่างๆที่ต้องประสบเป็นแน่แท้

“ท่านแม่ลูกว่าท่านย่อมรู้อยู่แล้วว่าลูกมิได้ต้องการแต่งนางมาเป็นภรรยาตั้งแต่แรกทุกอย่างล้วนเพราะท่านแม่ต้องการเพียงเท่านั้น ส่วนต่อจากนี้นางจะเป็นเช่นไรข้าย่อมไม่ขอใส่ใจนางอีก”

 เขาเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉยเช่นเดิม ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเต็มความสูง และก้าวเดินลงมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าท่านแม่ของตนเองที่ยามนี้กำลังมองเขาด้วยความโมโห

“ถึงจะแต่งโดยมิเต็มใจแต่ก็ได้แต่งไปแล้วลูกก็ควรจะใส่ใจดูแลนางบาง” ฉู่ฮูหยินเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ นางโมโหมากยามนี้แต่ก็รู้ว่าความผิดทุกอย่างล้วนมาจากนาง ที่ลูกสะใภ้ต้องรับเคราะห์ล้วนเพราะนางทั้งสิ้นที่บังคับบุตรชายเรื่องแต่งงานทั้งๆที่เขามิได้เต็มใจ

“อาภรณ์ดีที่สุด อาหารดีที่สุด ยาดีที่สุด เรือนพักที่ดีที่สุด ข้าว่านางได้รับทุกอย่าง อย่างดียิ่งแล้วตั้งแต่แต่งเข้ามายังสกุลฉู่ ข้ามีงานสำคัญต้องทำอีกมากขอตัวก่อนนะขอรับ”

ฉางซานเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานของตนเองอย่างมิหันกลับไปตามเสียงเรียกของท่านแม่ของเขาที่ดังอยู่เลย

“ฉางซาน ฉางซาน ฉู่ฉางซาน!!!”

Related chapters

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 4 ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง  

    ตอนที่ 4 ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้างเป็นเวลากว่าสามวันมาแล้วที่เธอฟื้นขึ้นมาให้มิติที่คล้ายกับจีนโบราณ วันแรกเธอจำตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่เมื่อได้นอนพักเต็มอิ่มจนร่างกายฟื้นฟูขึ้นได้มากแล้ว ความทรงจำของเธอในมิติเดิมที่เธออยู่ยามที่เธอคือ หลันซู่ถงก็คืนกลับมารวมไปถึงความทรงจำของตัวเธอในมิตินี้ด้วยซึ่งก็คือหลิวซู่ซู่ซึ่งเธอที่เป็นเจ้าของร่างในชาตินี้ได้ตายลงไปแล้วโดยไม่มีใครรู้ คงเพราะเกิดความผิดพลาดอะไรสักอย่างจึงทำให้เธอ มาเขาร่างของตัวเองในอีกมิติหนึ่งแทนที่จะกลับไปยังร่างที่มิติเดิมของตัวเองครั้งแรกเธอคิดว่าตัวเองอาจจะย้อนเวลากลับมาในอดีตเหมือนในซีรี่ส์ที่เธอเคยดูอยู่บ้าง แต่มันกับไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเมื่อเธอลองเรียบๆเคียงๆถามสาวใช้ของเธอในร่างของหลิวซู่ซู่ผู้นี้ดูแล้วกับกลายเป็นว่าแคว้นที่เธอมาอยู่ ณ เวลานี้เป็นแคว้นที่ไม่ได้มีอยู่ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับประเทศที่เธอเคยเรียนมาแม้แต่น้อยอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือใบหน้ารูปร่างต่างๆของหลิวซู่ซู่ในมิตินี้เหมือนกับเธอทุกอย่าง ที่จะต่างกันคงเป็นนิสัยและความเป็นอยู่ต่างๆเสียเท่านั้นในความทรงจำต่างๆในร่างของหลิวซู่ซู่ซึ่ง

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 5 หอเลิศรส  

    ตอนที่ 5 หอเลิศรส“หานอี้ บุรุษที่พวกเราเดินสวนทางด้วยใกล้ๆกับทางไปเรือนท่านแม่สามีนั้นใช่สามีข้าไหม”หลันซู่ถงในร่างของหลิวซู่ซู่เอ่ยถามหานอี้สาวใช้คนสนิทของตน เมื่อนึกไปถึงยามที่นางกำลังจะเดินไปยังเรือนใหญ่ของท่านแม่สามี ระหว่างทางได้สวนทางเข้ากับบุรุษสองคนซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นเป็นบุรุษที่มีลักษณะเย็นชาแต่ก็ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความมีอำนาจและความมั่งคั่งแบบที่นางมองไปที่เขาก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างกับบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งเดินตามหลังอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก“ใช่เจ้าค่ะ ท่านผู้นั้นก็คือท่านเขยเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินคำตอบของสาวใช้คนสนิท นางก็อดนึกไปถึงใบหน้าของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางมิได้บุรุษผู้นี้หากเพื่อนรักของเธอในมิติที่แล้วอย่างเฟ่งเสี่ยวซ่ง มาเห็นคงต้องถูกเรียกว่าแรร์ไอเทมมิต่างกันกับคุณหมอเฟิงฉางเหอผู้นั้นแน่นอน จะว่าไปแล้วเป็นเพราะเธอเคยเห็นคุณหมอเฟิงฉางเหอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงจำใบหน้าของมิค่อยได้เท่าไหร่ แต่นางกับมีความรู้สึกว่า บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอในมิตินี้ มีส่วนคล้ายกับคุณหมอเฟิงฉางเหอผู้นั้นอยู่มิน้อยเลยทีเดียวมันจะเป็นไปได้ไหมนะถ้าเขาจะเป็นคนผู้เดียวกัน

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวน  

    ตอนที่ 6 ที่มาของเหตุอลวนใจกลางตลาดใหญ่ในเมืองหลวงร้านผ้าเข็มทองคำของสกุลฉู่ถือว่าใหญ่โตหรูหราเป็นที่สุด เพราะมีถึงสี่ชั้นด้วยกันและทุกชั้นทั้งภายนอกและภายในร้านผ้าแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราสวยงาม โดยที่ชั้นแรกจะเป็นชั้นแรกที่จะมีผู้คอยแนะนำสินค้าและแน่นอนว่าคอยดูว่าควรจะส่งลูกค้าไปที่ชั้นไหนให้เหมาะสมที่สุดอีกด้วยในร้านผ้าแห่งนี้จะแบ่งให้ชั้นสองเป็นชั้นที่ผู้ที่มีฐานะปานกลางเอาไว้เลือกซื้อเสื้อผ้า และชั้นที่สามจะเป็นชั้นที่เอาไว้บริการลูกค้าที่ร่ำรวยมั่งคั่งจ่ายง่ายและจ่ายไม่อันแน่นอนว่าการแบ่งแยกชัดเจนเช่นนี้ทำให้ลูกค้ารวมไปถึงคนของร้านผ้าเข็มทองคำทำงานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นร้านผ้าเข็มทองคำแน่นอนว่าเป็นร้านขึ้นชื่อในเมืองหลวงรวมไปถึงในอำเภออื่นๆด้วย แน่นอนว่าแม้แต่เหล่าพระสนมในวังยังชื่นชอบเสื้อผ้าอาภรณ์ของร้านผ้าเข็มทองคำยิ่งนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้าที่ดีกว่าร้านอื่นและก็ฝีมือการตัดเย็บจากช่างที่ฝีมือดี ทำให้ไม่ยากเลยที่ร้านเข็มทองคำจะขึ้นเป็นร้านผ้าอันดับหนึ่งในเมืองหลวงยามนี้เจ้าของกิจการร้านผ้าเข็มทองคำซึ่งก็คงจะเป็นผู้อื่นผู้ใดไปได้หากไม่ใช่บุรุษชายคนเดี

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว

    ตอนที่ 7 เหตุอลวนที่เกิดขึ้นแล้ว“เถ้าแก่ตงเปิดประตูให้ข้าน้อยหน่อยเจ้าค่ะ คุณชายของข้าน้อยลืมของบางสิ่งเอาไว้ด้านใน”เป็นหานอี้ที่เป็นผู้ยืนทุบประตูส่งเสียงเรียกคน โดยที่มีหลิวซู่ซู่ยืนรอท่าอยู่ด้านหลังไม่ไกลเท่าไหร่นัก“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ บ่าวเคาะประตูนานแล้ว มิได้ยินเสียงผู้ใดขานตอบกลับมาเลยเจ้าค่ะ มิแน่ว่าเถ้าแก่ตงกับเหล่าเสี่ยวเอ้อร์ทั้งหลายอาจจะแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้วเจ้าคะ” หานอี้เอ่ยบอก นางยืนเคาะประตูอยู่ก็หลายคราแล้วทั้งร้องเรียกขนาดนี้หากยังมิมีผู้ใดออกมาย่อมแปลว่ามิมีคนอยู่ด้านในแล้วก็เท่านั้นเห็นทีนางคงจะต้องให้ฮูหยินน้อยกลับจวนสกุลฉู่โดยไร้พัดที่ฮูหยินใหญ่ให้มาเสียแล้ว นางได้แต่ภวนาในใจให้ฮูหยินใหญ่ไม่ถามถึงพัดเล่มนั้น และโทษที่พวกนางจะได้รับก็อย่าให้ถึงขั้นโบยลงโทษเลยมิเช่นนั้นนางก็มิอยากจะนึกถึงเลย ว่าสภาพของนางจะเป็นเช่นไร ยิ่งฮูหยินน้อยของนางยิ่งแล้วใหญ่หากโดนโทษโบยจริงเห็นทีจะล้มป่วยไปอีกนานทีเดียว“มิสู้พรุ่งนี้เราให้คนนำเงินมาจ่ายเถ้าแก่ตงและก็ถือโอกาสให้นำพัดของท่านกลับไปให้ด้วยเลยจะดีกว่าไหมเจ้าคะ”“นั้นสินะ ตกลงพรุ่งนี้ค่อยให้คนมานำพัดของท่านแม่สามีกลับมาให้ข

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร

    ตอนที่ 8 เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรเป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่นางโดนกักตัวให้อยู่แต่ในจวน มิสามารถก้าวออกจากจวนสกุลฉู่ได้เลย เหล่าสาวใช้และบ่าวชายในจวนต่างก็พากันจับตาดูนางเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าจะขยับตัวเดินไปไหน ก็จะค่อยตามนางอยู่เงียบๆ จนนางรู้สึกอึดอัดไปหมดอึดอัดที่ต้องการเป็นเป้าสายตาของทุกคน จนกระทั่งวันนี้นางต้องปิดประตูเรือนและขังตนเองไว้เพื่อลดความอึดอัดจากสายตาผู้อื่นสองวันมานี้ในหัวของนางวนเวียนคิดเกี่ยวกับวิธีการหนีออกจากจวนมิรู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ก็มิได้วิธีดีๆที่มีความเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย“เห้อ” นางถอนหายใจออกมาอย่างคิดมิตก หรือว่านางควรจะเลิกคิดดี และก็ยอมรับสภาพของตนเองในยามนี้แทนอาหารทุกมื้อก็มีพร้อม เสื้อผ้าอาภรณ์มิคาดตกบกพร่อง มีสาวใช้คอยปรนนิบัติอย่างดี นางในมิตินี้มีทุกอย่าง ยกเว้นอิสระนางมิสามารถทนอยู่อย่างนี้ได้แน่ๆในมิติที่นางจากมา นางมีอิสระในการใช้ชีวิตหากไร้ซึ่งอิสระนางย่อมมิสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขแน่ๆใช่แล้ว สิ่งที่นางควรทำยามนี้คือการปรับตัว และหากอยากได้อิสระของนางคืนมา สิ่งเดียวที่จะทำให้อิสระของนางกลับมาอีกครั้งคงมีเพียง ฉู่ฉางซานผู้เดียวเท่านั

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ

    ตอนที่ 9 ช่องว่างระหว่างมิติ“มีผู้ใดอยู่หรือไม่”หลันซู่ถงเอ่ยขึ้น เมื่ออยู่ๆตัวของนางก็มาปรากฏอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งซึ่งมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง ราวกับว่านางเดินอยู่ในที่ๆไม่มีจุดหมายไร้ซึ่งทุกสัพสิ่งนางรู้สึกได้ว่าแม้ร่างกายของนางจะก้าวเดินได้ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุดเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีวันพบเจอกับสิ่งใดได้ นอกจากความมืด และ ความว่างเปล่า“หลันซู่ถง”“ผู้ใด ผู้ใดกันที่เรียกข้า” นางเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับหันมองไปรอบๆทิศทางเพื่อมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่พบสิ่งใด ยังคงมีแต่ความมืดทั่วสารทิศ“เจ้าไม่ต้องมองหาข้า เจ้าไม่มีทางมองเห็นข้าได้”“เช่นนั้นท่านคือผู้ใด ทำไมข้าจึงไม่สามารถมองเห็นได้” นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้าคือผู้ควบคุมประตูมิติ และมีส่วนทำให้วิญญาณของเจ้าเขาร่างผิดมิติ”“เช่นนั้นท่านต้องรีบพาข้ากลับมิติเดิมได้แล้ว ท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ผิดมิติเช่นนี้ไม่ได้”นางคิดเอาไว้แล้วว่าต้องมีเหตุอันใดสักอย่างที่ทำให้วิญญาณของนางเข้ามาอยู่ในร่างผิดมิติ“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการกลับไปยังมิติเดิม เพราะเหตุนี้ข้าจึงต้องเข้าฝันเจ้าเพื่อแจ้งสิ่งต่างๆทั้งหมดแก่เจ้าเสียก่อนอย่างไรเล่า”“ท่านถึงกับเข้าฝันข้าใ

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไร

    ตอนที่ 10 สตรีผู้นี้คิดจะส่งดอกไม้ให้บุรุษทุกวันเลยรึอย่างไรเวลากว่าสิบวันที่ผ่านมา หลันซู่ถงใช้ชีวิตในมิตินี้อย่างสนุกสนาน นางออกจากจวนทุกวันมาที่ร้านเฟิ่งฮวาเพื่อนปลูกดอกไม้และจัดดอกไม้ใส่แจกันทุกวัน นางจัดดอกไม้วันละหลายแจกัน จัดแล้วก็ให้คนนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำที่นางรู้มาจากฟ่งซีว่าเขามักจะอยู่จัดการงานต่างๆอยู่ที่นั้นสิบวันก่อนที่นางมาที่ร้านเฟิ่งฮวาครั้งแรก นางนึกสนุกและก็อดคันไม้คันมือไม่ได้ เลยจึงออกไปหาซื้อแจกันขนาดกลางที่ไม่ค่อยมีลวดลายเท่าไรนักมากหลายใบด้วยกัน นางนำดอกไม้หลากหลายมาจัดแจกใส่แจกันอย่างสวยงาม บางส่วนนางก็ตั้งโชว์เอาไว้ที่ร้านเฟิ่งฮวาแห่งนี้ และไม่ลืมที่จะแวะไปที่หอเลิศรสและนำแจกันที่นางจัดดอกไม้เอาไว้ไปตั้งเอาไว้ที่นั้นเสียหลายอันเช่นเดียวกันอาจเป็นเพราะนางหยิบแจกันมามากมายเกินไปจากร้านขาย และก็คงเป็นเพราะนางไม่ได้จัดดอกไม้มานานทำให้นางจัดดอกไม้มากเกินความจำเป็น ทุกแจกันถูกนางจัดส่งไปในที่ๆควรส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กับเหลืออันแจกันใบสุดท้าย นางจึงให้ฟ่งซีแวะนำไปให้ฉู่ฉางซานที่ร้านผ้าเข็มทองคำเดิมทีนางคิดเอาไว้ว่าเขาอาจจะโยนทิ้งออกมาอย่

    Last Updated : 2024-12-15
  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง

    ตอนที่ 11 ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่องถือได้ว่าเหตุการณ์วุ่นวายได้จบลงด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยามนี้นางนอนพิงหัวเตียงอยู่ด้วยท่าทางที่ทำสิ่งใดไม่ถูก เพราะนางกำลังถูกสายตาอันเฉียบคมจับจ้องอยู่ไม่ได้คาดสายตานับตั้งแต่นางแกล้งสลบไปในร้านเฟิ่งฮวา จนกระทั่งถูกฉู่ฉางซานพากลับมาที่จวนสกุลฉู่นอกจากเวลาที่ท่านหมอเข้ามารักษานางและหานอี้ช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฉู่ฉางซานก็จะนั่งมองนางอยู่กลางห้องไม่ขยับไปไหนเลย“มิใช่ความผิดข้านะเจ้าคะ ข้ามิได้เป็นคนก่อเรื่อง” นางออกตัวเต็มที่ อย่างน้อยๆก็ต้องยืนยันความความบริสุทธิ์ของนางให้ถึงที่สุด“ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ก่อเรื่อง”“หา จริงหรือเจ้าคะ” นางอดที่จะเอ่ยออกมาอย่างตกใจไม่ได้เมื่ออยู่ๆฉู่ฉางซานผู้ที่ไม่ยอมฟังคำของนางง่ายๆ กับดูเหมือนว่าจงใจปล่อยนางไปอย่างไม่ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งมันเป็นการผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก จนนางเริ่มสงสัยระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย“ท่านแม่ส่งข่าวว่าอีกห้าวันก็จะเดินทางถึงจวนสกุลฉู่เราแล้ว”“ที่แท้ท่านแม่สามีก็ใกล้จะกลับแล้ว”คงเป็นเพราะท่านแม่สามีของนางจะกลับมาแล้ว ฉู่ฉางซานจึงคิดที่จะทำดีกับนางตบตาผู้เป็นมารดาขอ

    Last Updated : 2024-12-19

Latest chapter

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่3

    ตอนพิเศษว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่ หลังจากที่เธอต้องใส่เผือกและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากแฟนหนุ่มอยู่เกือบสามเดือนในที่สุดเธอก็ได้ถอดเผือกและ กลับมาใช้ข้อมือได้อย่างอิสระอีกครั้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถกลับมาจัดดอกไม้ที่เธอรักได้อย่างถนัดอีกครั้ง อีกอย่างคือไม่ต้องถูกฉางเหอตามคุมเข้มอีกต่อไปแล้ว แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะกลัวเธอทำตัวซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวกว่าเดิมก็ตามแต่การที่ถูกแฟนซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอและซีอีโอรูปหล่อคอยตามดูแลอยู่ไม่ได้ห่างช่างเป็นอะไรที่หลบการตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่เขามาค่อยดูแล แต่ความดีใจกับมาพร้อมกับการที่มักจะทำตัวไม่ถูกของเธอ หลายครั้งที่เธอนึกอิจฉาความเฉยชาต่อสายตาเหล่านั้นของแฟนหนุ่มไม่ได้มีครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขาว่า เขาไม่รู้สึกรำคาญหรืออะไรบ้างหรือเวลาที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจเช่นนี้ เขาตอบกลับมาแค่ว่า “ผมไม่จำเป็นต้องแค่ใครนอกจากคุณ” เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขาฉันกลับเขาใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เธอใส่เผือกก็ถูกมัดมือชกแกล้มบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะถูก ที

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 2

    “มาครับผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อเอง” เขาเอ่ยขึ้นกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติบ้างได้แล้วนิดหน่อยเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลันซู่ถงจึงยิ้มออกมาให้เขาอย่างเอาใจ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงช่วยนางเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดคนไข้ชุดคนไข้ที่พยาบาลส่งให้เขาเมื่อครู่ยามนี้เขานำมาวางเอาไว้บนตักของเธอตัวเธอนั้นถูกเขาประคองให้ขึ้นมานั่งอยู่ที่ริมเตียงคนไข้ เนื่องจากเธอสูงไม่มากจึงขาลอยเมื่อนั่งหย่อนขาที่ริมเตียงคนไข้เช่นนี้ ในหัวอดคิดไปถึงคนไข้คนอื่นๆไม่ได้ว่าพวกเขาก็ขาไม่ถึงพื้นเช่นเธอเหมือนกันหรือไม่เวลาที่นั่งอยู่ริมเตียงคนไข้แบบนี้ตอนที่รอให้คุณหมอตามมาตรวจ “ข้อมือขวาคุณน่าจะหักผมว่าคุณอย่าขยับมันจะดีกว่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดุเธอทันที เมื่อเธอเผลอเกือบจะยกมือขึ้นมาหลังจากที่เขาเอื้อมมือมาหมายจะช่วยเธอปลดกระดุมชุดเดรสยีนส์ที่มีกระดุมเป็นแทบตั้งแต่ช่วงอกจนกระทั่งถึงช่วงเข่าของเธอ “เอ่อ ฉางเหอคะ ฉันว่าคุณให้พยาบาลเขามาช่วยฉันเปลี่ยนชุดน่าจะสะดวกกว่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา แน่นนอนว่าเมื่อกล่าวออกไปร่างสูงเบื้องหน้าเธอก็ขมวดค

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 1

    ตอนพิเศษเธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม หน้าฝนเช่นนี้แน่นอนว่าคงจะไม่แปลกเท่าไหร่นักหากคนส่วนให้ในเมืองจะเป็นหวัดกันไปหมด บางคนก็เป็นหวัดเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศที่สุดแสนจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างวันนี้ร้อนพรุ่งนี้พายุฝนตกกระหน่ำ อีกวันหนึ่งกับมีลมหนาว บางคนเดินๆอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหาที่หลบไม่ทัน กว่าจะวิ่งหาที่หลบฝนได้ก็เปียกไปกว่าครึ่งแล้วหลันซู่ถงเองเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆแต่พอไปถึงบริษัทเหม่ยหลง ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่เธอและเพื่อนอีกคนหนึ่งพึ่งจะร่วมทุนกันตั้งเป็นบริษัทสำหรับการรับตกแต่งสถานที่โดยมีดอกไม้เป็นตัวหลักวันนี้หลังจากที่ประชุมเรื่องเกี่ยวกับงานตกแต่งฉากโฆษณาเสร็จ เธอจึงได้คิดที่จะแวะเข้าไปให้หมอตรวจอาการของเธอก่อนจะตรงเข้าไปหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเช่นเดียวกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะหนิงจู” เธอเอ่ยขอบคุณหุ้นส่วนที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ไม่เป็นไรหรอก แกรีบเข้าไปให้หมอตรวจอาการเถอะ แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อน” หนิง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ เจ้าแม่แรร์ไอเทมจะว่าไปแล้วเธอก็งงอยู่เหมือนกันว่า ฉายาเจ้าแม่แรร์ไอเทมที่เธอได้มา ได้มายังไงจนเดือดร้อนถึงแม่เพื่อนสนิทของเธออย่างเฟ่งเสี่ยวซ่งต้องมาอธิบายไขข้อข้องใจ ให้เธอเสียยกให้“แม่เจ้านี่แกไม่รู้จริงๆ หรือตั้งใจจะถามให้ฉันอิจฉาตาร้อนเล่นห๊ะ”“ถ้ารู้ฉันก็ไม่ถามแกหรอกจริงไหม เลิกกัดฉันด้วยคำพูดแล้วก็รีบบอกมาเร็วเข้า” เธอเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของแม่เพื่อนตัวดีของเธอ“แฟนแกเป็นสุดยอดแรร์ไอเทมไง คนที่ได้เป็นแฟนกับเขาได้นั้นแปลว่าต้องเป็นนักชกมือฉกาจ และในเมื่อแกเก่งกล้าถึงขนาดนั้น เหล่าแฟนคลับเขาเลยเรียกแกว่า เจ้าแม่แรร์ไอเทม ไงเก็ทเนอะ”“เก็ทก็ได้ค่ะคุณเพื่อน”“ว่าแต่แกเถอะจะย้ายร้านเมื่อไหร่”“ก็คงจะสิ้นเดือนนี้พอดีนั้นแหละ ร้านใหม่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลของฉางเหอน่าจะตกแต่งเสร็จพอดี”“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้แกแรงๆหน่อยได้ไหม”“แกมาหมั่นไส้ฉันทำไมเนี่ย”เธออดจะขำออกมาเสียงดังไม่ได้ กับท่าทีที่ดูตลกของเฟ่งเสี่ยวซ่ง ที่เดียวๆทำคิ้วขมวด เดียวก็ทำหน้าบิดเบี้ยว“แกรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน” เฟ่งเสี่ยวซ่งเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทก่อนจะจับที่แข

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง (ตอนจบ)

    ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง(ตอนจบ)นี่ก็ผ่านมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอสลบไปเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า ไม่ใช่เพราะถูกฟ้าผ่าใส่แต่อยากใดทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอยังคงนึกไปถึงเรื่องในอีกมิติหนึ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังสับสนไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่เธอพลัดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็นความจริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่เธอฝันไปเองเท่านั้นยามที่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรก ก็เจอเข้ากับเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่มาเฝ้าเธออยู่พอดี เฟ่งเสี่ยวซ่งบอกกับเธอเพียงว่าร่างกายของเธอปกติทุกอย่างแต่กับนอนไม่ได้สติมาถึงสองอาทิตย์เต็ม ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในอีกมิติหนึ่งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเธออยู่ในมิตินั้นราวๆสามเดือนเห็นจะได้วันนี้เป็นวันที่เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผู้ที่มารับเธอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนั้นแหละ“ซู่ถงแกเดินไหวแน่นะ ไม่ใช่ว่าเดินๆไปแล้วแกล้มขึ้นมาฉันจับไม่ทันแกจะเจ็บตัวเอานะ”เฟ่งเสี่ยวซ่งเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็เงียบผิดปกติ อีกท

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมา

    ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมาหานอี้มองภาพของฮูหยินน้อยของนางที่กำลังพิงอยู่ที่ตัวของท่านเขยอย่างสงสารจับใจ นางพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ท่านเขยเห็นเพราะกลัวจะยิ่งทำให้ท่านเขยใจไม่ดีฮูหยินน้อยเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ช่วงค่ำ หากนางเชิญท่านหมอมาดูฮูหยินน้อยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นไม่นานนักฟ่งสือก็เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับท่านหมอตงและผู้ช่วยคนหนึ่ง “เรียนนายท่านฉู่ข้าน้อยได้ตรวจอาการของฮูหยินน้อยดูแล้ว มิมีสิ่งใดผิดปกติเลย มิได้มีโรคอันใดแทรกซ้อน มีเพียงแค่ชีพจรเท่านั้นที่เต้นอ่อนยิ่งนักขอรับ” หมอตงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นแล้วนางเป็นอันใดถึงได้กระอักเลือดออกมาเช่นนี้!!!” เขาลูบใบหน้าเล็กที่ยามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือด ของคนในอ้อมแขนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยก็พึ่งเคยพบอาการเช่นฮูหยินน้อยเป็นเป็นครั้งแรกขอรับ”หมอตงเอ่ยขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีกับไม่เคยเห็นอาการเช่นนี้ ทุกอย่างรวมไปถึงชีพจรแม้จะเต้นอ่อนยิ่งนักแต่ก็เป็นปกติอยู่ แต่กับมีอาการกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“ฟ่งสือ เจ้าไป

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น

    ตอนที่ 18 ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นนางรู้สึกได้ว่าฉู่ฉางซานผู้ซึ่งเหินทะยานพานางขึ้นมาด้านบนยามนี้เขายืนหยุดอยู่กับที่แล้ว“ลืมตาเจ้าขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว”เขาก้มลงเอ่ยบอกร่างเล็กที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะปล่อยนางลงเมื่อนางยอมลืมตาขึ้นมาแล้ว“สวยงามยิ่งนัก!!!”นางเอ่ยออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าของตนเองยามนี้ คือบ้านไม้ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าก่อนที่จะไปถึงตัวบ้านนั้นมีบ่อน้ำขนาดเล็กและมีสะพานทอดยาวให้ข้ามไปยังด้านหน้าของบ้านไม้หลังใหญ่นั้นได้นี่เลยที่นี่เปรียบเสมือนกันกับที่นางเฝ้าฝันว่าอยากจะมาอยู่ในบ้านที่ท่ามกลางธรรมชาติท่ามกลางดอกไม้เช่นนี้ ยามนี้นางได้มายืนอยู่ในที่ๆนางได้วาดฝันเอาไว้แล้ว“เจ้าชอบที่นี่มากขนาดนี้เชี่ยวรึ” เขามองร่างเล็กที่วิ่งไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยถามขึ้น“ข้าชอบที่นี่มากๆเลยเจ้าค่ะ ที่นี่เหมือนกับที่ๆข้าฝันเอาไว้ว่าอยากจะอยู่” นางส่งยิ้มให้เขา“ที่แท้เจ้าก็ชื่นชอบอันใดแบบนี้ เอาไว้กลับไปจวนสกุลฉู่ข้าจะให้คนมาสร้างเรือนเช่นนี้ให้เจ้าที่ท้ายจวนดีรึไม่”“จริงนะเจ้าคะ ท่านจะสร้างให้ข้าจริงๆนะ”

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้  

    ตอนที่ 17 มุ่งหน้าสู่หุบเขาดอกไม้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม รถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งจึงได้ออกจากประตูเมืองทางใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วถนนใกล้บริเวณประตูเมืองทางใต้ยังพอให้มองเห็นผู้คนเดินทางไปมา เป็นผู้คนเดินทางด้วยเท้าบ้าง ม้าบ้าง หรือแม้จะทั่งใช้รถม้าเช่นเดียวกันกับนางขบวนรถม้าของนางมีฟ่งอี้เป็นผู้ควบคุมรถม้า มีฟ่งสือและองครักษ์อีกผู้หนึ่งที่ขี่รถม้านำอยู่หน้ารถม้าที่นางและฉู่ฉางซานนั่งอยู่ สวนด้านหลังยังมีองครักษ์ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังอีกสี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดฉู่ฉางซานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำเช่นเดียวกัน ส่วนนางยามนี้ก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดาๆชุดหนึ่งที่ไม่ได้ดึงดูสายตาของใครๆได้ แต่นางก็ชอบชุดนี้มากกว่าชุดสวยๆราคาแพงที่ใส่อยู่ทุกวันเสียอีก“ท่านว่ายามนี้เราเหมือนกับสามีภรรยาแบบปกติไหม”นางเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยามนี้เอนตัวนั่งพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของผนังรถม้า แม้เขาจะนั่งหลับตาอยู่แต่นางก็รู้ว่าเขาแค่หลับตาลงเอาไว้เฉยๆไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด“แล้วปกติเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้วรึอย่างไรกัน ถามสิ่งใดของเจ้า”“นั่นสิปกติเราก็เป็นสามีภรรยานี่ เพียงแต่ข้าหมายถึ

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ

    ตอนที่ 16 ข้าขอไปด้วยนะเจ้าคะ “เล่นสนุกพอหรือยังเจ้า” เสียงเรียบเฉยที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำให้นางหันไปมองตามเสียงนั้น ก็พบฉู่ฉางซานที่กำลังก้าวลงมาจากบันได และเขากำลังก้าวเดินเข้ามาหานาง “เหมือนว่าข้าจะถูกท่านแอบดูเรื่องสนุกเสียแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างติดตลก “ข้าไม่ได้แอบดู เพียงแต่เจ้าสร้างเรื่องพอดีกับที่ข้าอยู่ก็เพียงเท่านั้น” “เรื่องนั้นช่างมันเถิด ว่าแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เช่นใดกัน ข้านึกว่าท่านจะไปอยู่ที่หอดนตรีเหม่ยหัวแล้วเสียอีก” นางเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย นางคิดจริงๆว่าฉู่ฉางซานน่าจะไปอยู่ที่หอดนตรีแล้ว เขาเป็นเจ้าของมิใช่ว่าต้องไปอยู่ดูความเรียบร้อยของกิจการก่อนหรือ “วันนี้ข้าไม่ได้จะไปที่หอดนตรีเหม่ยหัว ข้าจะเดินทางออกจากเมืองไปดูหุบเขาดอกไม้ที่นอกประตูเมืองทางเหนือเสียหน่อย คงไปสักสองสามวันเป็นอย่างต่ำ”“ที่นี่ใกล้ประตูเมืองทางเหนือมิใช่เหรอ ประตูทางใต้อยู่อีกทางหนึ่งเลยนี่น่า”“เป็นดังเจ้าว่ามันอยู่คนละทางกัน”“แล้วท่านมาที่ร้านนี้เพราะมีปัญหาอันใดเกิดขึ้นเช่นนั้นรึเปล่า” ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status