Share

ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์
ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์
ผู้แต่ง: เพลงมีนา

Chapter 1. บทนำ

เสียงคมกระบี่ปะทะกันผสานกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด  เด็กหญิงวัยสิบสามถูกมือของมารดากำแน่นฉุดกระชากให้รีบวิ่งไปนอกคฤหาสน์  เด็กหญิงเหลียวมองไปด้านหลังในยามมืดมิดเช่นนี้กลับมีเปลวไฟโหมไหม้

            “ไฟไหม้! ท่านแม่! ไฟไหม้บ้านของเรา!”

            เด็กหญิงยื้อแขนตัวเองหวังจะกลับไปช่วยผู้อื่นดับไฟที่โหมลุกไหม้

            “ไม่ได้! เจ้ากลับไปไม่ได้!”

            “แล้วท่านพ่อล่ะ ทำไมท่านพ่อไม่มากับเรา”

            เด็กหญิงจำอะไรได้ไม่มากนัก  นางสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเสียงดังคล้ายฟ้าผ่า นางสะดุ้งผวาลุกขึ้นนั่งบนเตียง พลันประตูห้องเปิดออกอย่างรวดเร็ว ท่านพ่อกับท่านแม่วิ่งเข้ามาคว้าข้อมือเล็กให้วิ่งตามออกมาทั้งที่นางยังสวมแค่ชุดนอน กระทั้งรองเท้าก็ไม่ได้สวมให้เรียบร้อย  นางจึงกอดรองเท้าไว้แนบอกในขณะที่มืออีกข้างถูกลากจูงออกมาด้านนอกอย่างทุลักทุเล

            ร่างเล็กงุนงงและสับสน  มารดาชะงักไปเมื่อมีคนมาขวางทาง เสียงระเบิดดังจากด้านหลังทำให้เด็กหญิงหวีดร้อง  นางหันไปกลับไปมองเห็นเปลวเพลิงเหนือหลังคฤหสาน์   บัดนี้ท้องฟ้าถูกย้อมสีแดงฉานน่ากลัวยิ่งนัก

            “ท่านพ่อ”   เด็กหญิงร้องเรียกด้วยความกังวล นางผวาเฮือกเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของมารดา  นางหันกลับมาเห็นชายในชุดดำวาดกระบี่ฟาดลงใส่ร่างมารดาจนร่างนั้นร่วงลงไปกองกับพื้น  แต่กระนั้นมารดาก็ยังเป็นห่วงนาง

            “เวยเอ๋อร์ หนีไป” มารดาผลักห่อผ้าในมือใส่บุตรสาว ใช้เรี่ยวแรงที่เหลือดันร่างเล็กออกไปสุดมือ “ไปหาลุงจางฉวน อย่าคิดแก้แค้น  รักษาชีวิตไว้ จงมีชีวิตอยู่ต่อไป”

            “ท่านแม่”  

นางเซถลาไปด้านหลัง เห็นเพียงมารดาใช้ร่างตัวเองปกป้องนาง  เนื้อตัวของเด็กหญิงเปื้อนเปรอะโลหิตของมารดา  

            ยังไม่ทันทีเด็กสาวจะตั้งสติได้  คอเสื้อถูกหิ้วขึ้นจนเท้าลอยเหนือพื้น เท้าเล็กเตะเปะปะไปมาก่อน ถูกเหวี่ยงไปที่ตลิ่ง ศีรษะแหงนหงายจมไปในน้ำ นางยื่นมือไปไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยวแม้ลืมตาในน้ำแต่นางเห็นมือใหญ่ยื่นมากดใบหน้าของนางให้จมลงไปใต้ผิวน้ำที่แสนเยียบเย็น   นางดิ้นรนแต่ไร้ผลไม่อาจสู้แรงชายชุดดำได้  นี่คงเป็นความปราณีที่ชายผู้นี้มอบให้เช่นนั้นหรือ?  ให้นางได้ตายอย่างไร้บาดแผล  ร่างบอบบางหยุดดิ้นรนรอรับความตายเพื่อจะได้ติดตามมารดาและบิดาไป

            เพราะเห็นว่าร่างเล็กหยุดนิ่งไปแล้ว  ชายชุดดำจึงปล่อยมือจากศีรษะแล้วผลุบหายไปในความมืด เด็กหญิงผวาเฮือกเงยตัวขึ้นแล้วสำลักน้ำออกมา นางกวาดตามองไปรอบตัวแต่ไม่เห็นผู้ใดแล้ว  นางตั้งสติได้รีบคลานไปหาร่างมารดา

            “ท่านแม่...ท่านแม่”

            เด็กหญิงพยายามเขย่าตัวเรียกมารดา ทว่ากลับพบเพียงร่างแต่ไร้ลมหายใจ กลิ่นเหม็นไหม้ยังลอยคลุ้งในอากาศและเสียงโหวกเหวกทิศทางบ้านของนาง

            ‘รักษาชีวิตไว้’

            เด็กหญิงได้ยินประโยคสุดท้ายของมารดาลอยวนในสมองน้อยๆ  นางมองไปยังห่อผ้าที่ถูกทิ้งไว้ ซึ่งถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย เหลือก้อนเงินไม่กี่ก้อนที่ดูเหมือนมันจะหล่นเพราะความรีบร้อนของโจรชั่ว  นางเก็บก้อนเงินที่หล่นด้วยมือที่สั่นเทา  ก้มลงคำนับมารดาไม่อาจจะฝั่งศพนางได้

เด็กหญิงรีบวิ่งออกมาก่อนที่คนร้ายจะรู้ว่านางยังหายใจ!

...

“อยากได้หญิงรับใช้ทำงานบ้าน ไม่ใช่หญิงบำเรอ” 

บุรุษหนุ่มโวยวายอยู่ในห้องพักของโรงเตี้ยม  เดินทางแรมรอนมาสองเดือนจะได้กลับบ้านเสียที ยังต้องมาหัวเสียเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก  นี่เห็นเขาว่างมากหรือไรต้องเพิ่มปัญหามาให้ก่อนเดินทางกลับเช่นนี้

เดินทางคุ้มกันสินค้าก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว ยุ่งยากต้องซื้อข้าวของกลับไปอีก  รายการยาวเป็นหางว่าวกว่าจะได้ครบตามที่ต้องการ  และหนึ่งในรายการที่ต้องซื้อคือ “สาวใช้” หนึ่งคน  เขาสั่งกับเสี่ยวหงไว้แล้ว  แม้รู้ ‘เสี่ยวหง’ ช่ำชองเรื่องใดก็เถิด  แต่เพราะในเมืองนี้เขามิรู้ว่าจะไหว้วานใครหาหญิงสาวสักคนไปเป็นสาวใช้  จึงจำเป็นต้องให้เสี่ยวหงจัดการให้   มันเป็นรายการแรกที่เขาสั่งออกไปและเป็นรายการที่สุดท้ายที่เขาต้องเก็บขึ้นรถม้า  ทว่ามันกลับเป็นรายการที่ยุ่งยากเมื่อเขามารับหญิงรับใช้จากเสี่ยวหง แต่กลับได้หญิงสาวแต่งกายน้อยชิ้นและพยายามเย้ายวนชวนเขาขึ้นเตียงเพื่อตรวจสอบสินค้า

เขายังคงโวยวายซ้ำยังผลักไสให้หญิงนางนั้นออกจากห้อง  ปากตะโกนเรียกหาเสี่ยวหงทันที  นางจึงได้ยืนตัวสั่นงันงกเช่นนี้

หยางเหลาหู่ คุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬ  บุรุษอายุยี่สิบสองเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่กำยำ โครงหน้าคมคาย คิ้วเข้มเป็นระเบียบ ริมฝีปากหยักสวยกำลังเม้มแน่นสะกดโทสะในใจ  

ป้อมพยัคฆ์ทมิฬ มีกิจการหลายอย่างหนึ่งนั้นคือสำนักคุ้มภัย-คุ้มกันสินค้า  เขาเดินทางขึ้นเหนือลงใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก แทบทุกที่เขาล้วนเคยย่ำผ่าน   ชื่อเสียงของคุณชายหยางเหลาหู่น่าเกรงขามเพียงใดใครๆ ต่างรู้ดี  นั้นทำให้กิจการของเขาดียิ่ง  และมีน้องชายอย่างหยางกั๋วชิ่งที่คอยวางแผนซื้อขายจัดการเรื่องบัญชีต่างๆ   เมื่อใดที่เดินทางคุ้มกันสินค้าไปเมืองหนึ่ง  ขากลับจะได้สินค้ามีชื่อเสียงของเมืองนั้นกลับมาขาย  มิได้มีการกลับบ้านมือเปล่าสักคราวเดียว  เช่นครั้งนี้ที่เขามาเมืองเยว์และกลับเมืองจูโจวบ้านเกิด

“เจ้าค่ะๆ นายท่านอย่างเพิ่งโกรธ ข้าน้อยจะรีบหาหญิงรับใช้ให้ท่าน” 

เสี่ยวหงกลัวจนตัวสั่น ไม่คิดว่าเขาต้องการ ‘สาวใช้’ จริงๆ  หลายครั้งที่ชายผู้นี้มาและให้หาหญิงงามหรือนางรำไปรับรองผู้อื่นนั้น  นางรับงานอย่างแข็งขันไม่มีขาดตกบกพร่อง  นายท่านผู้นี้แม้ใบหน้าบึ้งตึงขึงขัง  แต่จ่ายเงินให้ครบถ้วนไม่มีต่อรอง บางครั้งให้พิเศษเพิ่มเป็นน้ำใจ  นางจึงถือว่าเขาเป็นลูกค้าชั้นดีของนาง

“ขออภัยนายท่าน”   นางพยายามใช้เสียงอ่อนหวานของตนให้เป็นประโยชน์

“ข้าไม่อยากได้คำขอโทษ อยากได้สาวใช้ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว!”

            “อีกสักสองสามวันได้ไหมเจ้าคะ   ข้าน้อยจะหาสาวใช้จริงๆให้”  อยากได้คนที่เป็นงานก็ต้องใช้เวลาสักหน่อย

“ข้ากลับวันนี้  ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอา  แล้วอย่าหวังว่าจะได้เงินจากข้าอีกไม่ว่ากรณีใดก็ตาม”

“คุณชายหยางโปรดใจกว้างให้โอกาสข้าน้อยเถิดเจ้าค่ะ”    ลูกค้ากระเป๋าหนักเช่นนี้ นางต้องรั้งไว้สุดกำลัง

“ข้าให้อีกครึ่งชั่วยาม  เจ้ารู้ว่าข้าพูดคำไหนคำนั้น ออกไปได้แล้ว ไป!”

อย่างไรเขาก็ต้องหาสาวใช้กลับไปให้ได้  ถ้าไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่อง

แค่นี้ ขบวนเดินทางที่เตรียมจะกลับแล้วนั้นคงได้เดินทางไปนานแล้ว

“เจ้าค่ะๆ” นางพูดขึ้นทั้งที่ปากคอสั่น

ผู้ชายคนนี้แม้จะอายุเพียงยี่สิบต้นๆ แต่ดูน่าเกรงขาม และชื่อเสียงความโหดเหี้ยมเอาแต่ใจก็ดังกระฉ่อนพอๆ กับความร่ำรวยของเขาเองด้วย เสี่ยวหงปากคอสั่นแล้วรีบวิ่งออกไปทันที

            หยางเหลาหู่ได้แต่สูดลมหายใจลึก แม้เขาเคยให้เสี่ยวหง จัดหาหญิงสาวมาปรนเปรอเป็นครั้งคราว  ตามประสาชายหนุ่มที่ยังมิได้แต่งงาน  แต่ครั้งนี้เขาต้องการ ‘หญิงรับใช้’ จริงๆ  เสี่ยวหงกลับส่งหญิงบำเรอมาแทน   

            เหตุที่ต้องหาหญิงรับใช้ไกลบ้านเช่นนี้  ส่วนหนึ่งเพราะเขาเองรำคาญหญิงสาวที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิต  หลายครั้งหลายคราวที่รับสาวใช้มาทำงานในบ้าน แต่ละคนล้วนอยากเลื่อนจากสาวใช้มาเป็นอนุหรือภรรยา ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาเอง น้องชายหรือแม้กระทั้งบิดาของเขาซึ่งมีมารดาของเขาเป็นเพียงภรรยาเอกคนเดียว เขาจึงขับไล่หญิงรับใช้ไปหมด เหลือเพียงหญิงรับใช้ที่รุ่นใหญ่ที่แก่ชราลงไปทุกวัน เรี่ยวแรงไม่ค่อยมีซ้ำอาหารที่เคยถูกปากก็รสชาติเปลี่ยนไป  ครั้นจะจ้างพ่อครัวใหม่ก็เห็นสีหน้าหมองเศร้าของแม่ครัวคนเก่าคนแก่ที่ใจสลายเพราะตกลำดับขั้นแล้ว เขาจำใจต้องกินอาหารรสชาติย่ำแย่นั้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status