ร้อนสวาทหญิงเจ้ามารยา
โดย
แม่นางว่างจิงจิง
แนะนำตัวละคร
เถาหลี่น่า สาวน้อยกำพร้าซึ่งทำงานในองค์กรลับ นางได้รับการฝึกฝนจนช่ำชองทั้งการใช้เล่ห์มารยาของหญิงสาวเพื่อเป็นอาวุธสำคัญจนทำงานสำเร็จเป็นที่ยอมรับแก่หัวหน้าสายงาน
ลลินา หญิงสาวซึ่งมีอาชีพเป็นเพื่อนเที่ยวให้แก่ชายทั้งหนุ่มทั้งสูงอายุเพื่อคลายเหงา
เถาโจวหย่ง หัวหน้าสายงานผู้ฝึกฝนและคอยมอบหมายงานแก่เถาหลี่น่า
ข่งเจียวจิ้น คุณชายน้อยบุตรชายของราชครู
สวีเจินจื้อ บุตรชายคหบดีซึ่งกลายเป็นญาติฝั่งมารดา
ซูหวังเหล่ย ศิษย์พี่ในสำนักศึกษา
หวังตงหยาง โจรหนุ่มซึ่งประกาศตัวออกปล้นคนชั่วเพื่อช่วยเหลือคนดี
อ๋องจ้าวห่าวหร่าน ผู้รับหน้าที่เฟ้นหาคนดีมีวิชาเพื่อสอบเข้ารับตำแหน่งขุนนางที่ว่างลงในแต่ละปี
อาหยวน ชายตาบอดซึ่งมีอาชีพปั้นหม้อไหยังชีพอย่างยากเข็น
เหลียงฮุ่ยหมิง องค์ชายรองจากแคว้นเหลียง
บทนำ
เถาหลี่น่า เด็กสาวกำพร้าซึ่งได้รับการฝึกฝนวิชาที่จำเป็นอยู่ในองค์กรลับมาหลายปี ด้วยใบหน้าส่อเค้าความงามและผิวพรรณขาวเนียนนางจึงถูกส่งไปฝึกวิชาอิสตรีที่หอคณิกาเพิ่มเติมมากว่าสองปีเพื่อให้ช่ำชองในการใช้เล่ห์มารยาหญิงและการบำรุงรักษาร่องดอกไม้คับแคบอันเป็นอาวุธลับของสาวงาม
แน่นอนว่างานสำหรับอิสตรีย่อมแตกต่างจากบุรุษเพศด้วยเพียงใช้ความงดงาม อ่อนแอ น่าสงสาร ก็เพียงพอสำหรับการหลอกล่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว
องค์กรลับแห่งนี้มีสาขามากมาย ไม่ว่าจะอยู่ด้านหลังร้านขายยา ร้านแพรพรรณ ร้านเครื่องเขียนหรือแม้แต่ร้านแลกเงินหรือแผงขายบะหมี่ข้างทาง เพียงมองเห็นสัญลักษณ์เป็นรูปดอกเถาฮวามีธนูปักตรงกลางก็สามารถติดต่อว่าจ้างให้สืบข่าวและหาของตามแต่ต้องการ
จำนวนเงินค่าจ้างย่อมขึ้นกับความยากง่ายของงาน แต่ใช่ว่าพวกเขาจะยอมรับทุกงานที่ติดต่อมา มีบ้างที่ถูกปฏิเสธด้วยเสี่ยงภัยเกินไปหรือยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรข้องเกี่ยวมากเกินไป
ดอกเถาฮวาที่พวกเขาใช้เป็นสัญลักษณ์หมายถึงชีวิตอันยืนยาวอีกทั้งมีความเชื่อว่าสามารถป้องกัน สิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ และเป็นไม้สวรรค์ซึ่งหากได้กินจะมีอายุยืนและไม่ตาย นั่นย่อมให้ความหมายแก่พวกเขาว่างานที่ทำแม้จะเสี่ยงเพียงใดแต่พวกเขาย่อมไม่ตายง่ายๆแน่
ตอนที่หนึ่งพร้อมสำหรับงานแรก “ท่านแม่ ทรวงอกของข้าใหญ่ขึ้นอีกแล้ว ท่านแม่ลองดูสิเจ้าคะ” เถาหลี่น่าเดินแหวกเสื้อออกเผยเต้าทรวงอวบอิ่มให้แม่เล้าใหญ่ของหอคณิกาได้ชมอย่างเต็มตา “อืม...ทรวงอกของเจ้าใหญ่ขึ้นจริง หมั่นนวดเฟ้นให้ดีจึงจะอวบอิ่มเต่งตึงจนเชื้อเชิญให้เหล่าชายอยากจับต้องเพียงแรกเห็น” แม่เล้าใหญ่ซึ่งคอยฝึกสอนสาวน้อยมาตลอดสองปีเอ่ยด้วยความชื่นชม ลูกศิษย์สาวนางนี้เรียนรู้เร็วและมีความจำดีจนนางชื่นชอบที่จะสั่งสอนอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยยามทอดมองใบหน้าอันอ่อนหวาน รูปโฉมงดงาม เรือนร่างเย้ายวน ดวงตาที่มองสบมาพราวระยับเต็มไปด้วยชีวิตชีวา คิ้วตาเครื่องหน้าเปี่ยมราศี คำพูดคำจาที่เอ่ยมาล้วนหลักแหลมคมคาย ท่วงท่าสดใสเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งหญิงสาวสาวน้อยนางนี้นับว่ามีรูปเป็นทรัพย์ ทั้งทรวงอกอวบอิ่มเต่งตึงซึ่งขยายใหญ่ขึ้นตามการเติบโตของร่างกายจนบัดนี้นับว่าใหญ่ล้นมือแล้วร่องดอกไม้ของนางสีชมพูสดบ่งบอกวัยแรกแย้มอีกทั้งยังปกปิดมิดชิดอิ่มเอิบน่าจับต้อง ขนฟูตรงเนินโหนกนูนของนางมีเพียงบางเบาชวนให้มองดูอย่างน่ารักแม้ไม่รู้วัยแท้จริงของสาวน้อยแต่ย่อมเดาได้ว่ายังอยู
แม้เถาโจวหย่งจะอายุมากกว่าสาวน้อยถึงสิบกว่าปี แต่เขามีรูปร่างแข็งแกร่งใบหน้าคมเข้ม อีกทั้งยังจัดว่าหน้าตาดีด้วยต้องใช้หลอกล่อหญิงสาวในการทำงานอยู่หลายครั้ง เมื่อต้องเล่นจ้องตากัน สาวน้อยจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างอ่อนหัด“เฮอะ อย่าได้คิดท้าทายชายหนุ่มเช่นนี้อีก หลี่น่า เจ้ายังอ่อนหัดนัก เอาล่ะ มาฟังงานแรกของเจ้ากัน” เสียงเป็นงานเป็นการบอกออกมาก่อนจะชี้แจงรายละเอียดงานอย่างชัดแจ้ง“เจ้าต้องแสร้งเป็นสาวน้อยซึ่งถูกปล้นชิงแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากบุตรชายของราชครู นามของเขาคือ‘ข่งเจียวจิ้น’ คุณชายน้อยผู้นี้อายุเพียง16 แต่เก่งกาจด้านการจับผิดผู้คน เขาจะนั่งรถม้าผ่านมาในบ่ายวันพรุ่งนี้ เจ้าต้องเล่นให้ดีอย่าให้เขาจับได้เด็ดขาด”“และเพื่อให้ได้เข้าไปอยู่ในจวนราชครู เจ้าต้องใช้ความอ่อนเดียงสาน่าสงสารหลอกล่อเขา และคงต้องพลีความบริสุทธิ์ครั้งแรกให้”“หากคุณชายน้อยได้ชิมกลีบดอกไม้แรกแย้มอย่างเจ้าย่อมลุ่มหลงได้ไม่ยาก เมื่อได้รับความเชื่อใจเจ้าจงหาทางให้เขาพาเดินชมให้ทั่วจวนจนรู้หนทางเข้าไปยังห้องเก็บสมบัติประจำตระกูล”“งานนี้สิ่งที่ต้องลอบนำออกมาตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการคือภาพวาดซึ่งบังเอิญมีสาวงามที่
ตอนที่สองช่วยข้าด้วย “ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วยยยย” เสียงตะโกนร้องอย่างน่าเห็นใจพร้อมร่างกระเซอะกระเซิงของสาวน้อยซึ่งวิ่งหนีอย่างไร้หนทาง ‘ข่งเจียวจิ้น’ บุตรชายราชครูซึ่งนั่งรถม้าผ่านมาเปิดผ้าม่านเพื่อมองดูเห็นร่างน้อยวิ่งสะเปะสะปะอย่างหมดเรี่ยวแรงจนไปล้มลงข้างต้นไม้ใหญ่ เขาตัดสินใจสั่งหยุดรถเพื่อลงไปดูด้วยตนเองจนเห็นร่างสาวน้อยวัยเยาว์นอนคว่ำหน้าหมดสติ “แม่นางน้อย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หนุ่มน้อยพลิกร่างบอบบางขึ้นก่อนจะตกตะลึงเมื่อเห็นความงดงามเย้ายวนตรงหน้า เสื้อผ้าของสาวน้อยถูกกิ่งไม้เกี่ยวจนขาดวิ่นเผยทรวงอวบอิ่มออกมาเกือบครึ่งเต้า ใบหน้าอ่อนหวานเต็มไปด้วยเหงื่อและคราบน้ำตา อืม...นางดูน่าสงสารนัก คงมิใช่คนร้ายกระมัง บุตรชายราชครูตัดสินใจนำหญิงสาวแปลกหน้ากลับจวนเพื่อช่วยรักษาดูแล หมอหลวงถูกตามมารักษาและจัดยาก่อนที่สาวน้อยจะฟื้นคืนสติในเวลาไม่นาน “ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ” เถาหลี่น่าเล่าเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาอย่างน่าเห็นใจ นางทั้งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนผู้ฟังต่างใจอ่อนยวบด้วยความสงสาร เรื่องการแสดงเหล่านี้ลลิ
ตอนที่สอง ช่วยข้าด้วย ข่งเจียวจิ้นถูกความอวบอิ่มตรงหน้าหลอกล่อยั่วยวนจนสติแตกไม่อาจควบคุมมือไม้ ยิ่งร่างบางเอนกายลงไปนอนลงยกขาขึ้นข้างหนึ่งคล้ายพยุงตนเองไม่อยู่ แต่นั่นกลับแหวกสองเรียวขาให้อ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้ชมพูอันสวยสดมิดชิด “อ้า...พี่เจียวจิ้น พี่ลูบทรวงอกข้าเช่นนี้รู้สึกดีมาก” สาวน้อยแสร้งเด้งร่างไปมารับการลูบคลึง “เช่นนั้นพี่ลูบเจ้าทั้งตัวดีหรือไม่” “อืม...ดี” เถาหลี่น่าแทบจะส่งร่างบางของตนเองให้เขาได้ลูบไล้จนสมใจ ยามเมื่อมือหนาแหวกเรียวร่องสองช่องกลีบเพื่อสำรวจดูอย่างตื่นตาตื่นใจ หญิงสาวเด้งร่างบิดเร้าอย่างซ่านกระสันโอ๊ย หนุ่มน้อย เมื่อไหร่จะเข้ามาเสียที นางอยากจนตัวสั่นแล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้าทั้งหน้าตาดี ทั้งยังหนุ่มแน่น ลลินาจึงคิดถึงความสุขสมซึ่งรอคอยอยู่เบื้องหน้าจนแทบทนไม่ไหว เธอไม่ได้สอดใส่มานานจนแทบลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว หญิงสาวแทบอยากเลิกเสแสร้ง แต่ด้วยต้องรักษาบทบาทเอาไว้จึงเพียงเด้งร่างไปมาเพื่อให้ข่งเจียวจิ้นจับท่อนกายสอดใส่เข้ามาในร่องแคบของนางเสียที "โอ๊ยยยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดพร้อมน้ำตา
ตอนที่สามห้องเก็บสมบัติ“พี่เจียวจิ้น ข้าทอดร่างให้พี่เชยชมจนสมใจ อีกไม่นานพี่คงเบื่อหน่ายแล้วทอดทิ้งข้า” เถาหลี่น่าเริ่มแผนต่อไปเมื่อสอดใส่กันมาระยะหนึ่งจนเด็กหนุ่มไว้วางใจแล้ว“พี่ไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าแน่”“แต่ท่านราชครูคงไม่มีวันยินยอมให้รับข้าเข้ามาอยู่ในจวน” เด็กสาวใช้น้ำเสียงเศร้าสร้อย“ท่านพ่อบังคับพี่ไม่ได้” เสียงดื้อดึงเอ่ยออกมา“หากข้าจะขอความมั่นใจด้วยของประจำตระกูลของพี่เจียวจิ้นสักอย่างเป็นของแทนใจจะมากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ” “ย่อมไม่ พี่ขอโทษที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เอาเถอะ พี่จะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” ข่งเจียวจิ้นโดนเสน่ห์ของสาวน้อยจนหน้ามืดตามัวเกรงหญิงสาวจะน้อยใจจนหนีหายไป จึงตัดสินใจพานางเข้าไปจนถึงห้องเก็บสมบัติของตระกูลข่ง “โอ้วว...พี่เจียวจิ้น บ้านท่านมีของมีค่ามากมายเพียงนี้ ยิ่งเห็นข้ายิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควร” เด็กสาวส่งเสียงตื่นเต้นเมื่อได้เห็นคลังสมบัติของตระกูลเก่าแก่ “ไม่นะน้องหลี่น่า เจ้าอย่าคิดมาก ของในนี้บางชิ้นไม่ได้มีราคามากมาย เพียงเก่าแก่เท่านั้น เจ้าลองดูเถิดว่าชอบชิ้นใด พี่จะมอบให้เป็นของแทนใจ” เถาหลี่น่าได้โอกาสรีบเดินส
ข่งเจียวจิ้นเอาใจสาวคนรักอย่างออกนอกหน้าจนเถาหลี่น่าแอบนึกเสียดายหากนางได้เป็นคนรักของเขาจริงๆคงได้รับการเอาใจอย่างดีจนล่องลอย แต่นั่นย่อมเป็นเพียงฝัน และนางต้องตื่นโดยเร็ว ลลินาซึ่งเคยถูกล่อลวงด้วยฝันหวานมาหลายครารีบปลุกปลอบตนเอง ภาพวาดถูกส่งออกไปให้คนขององค์กรอย่างเรียบร้อยทำให้เถาหลี่น่าโล่งอกและพรั่งพรูลมหายใจออกมาอย่างเบาใจ จากนั้นสาวน้อยจึงชวนชายหนุ่มเดินเลือกชมข้าวของอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะมีตัวละครซึ่งเตี๊ยมกันมาอย่างดีแล้วที่ร้านแพรพรรณเข้ามาร่วมแสดงบทบาท “หลี่น่า หลานหายไปที่ใดมา พวกเราตามหาเจ้าแทบพลิกแผ่นดิน แล้วท่านพ่อของเจ้าเล่า อยู่ที่ใด” “ท่านอาหญิง ฮือๆๆๆ” เถาหลี่น่าสวมบทบาทสาวน้อยผู้พบเจอญาติสนิทอย่างแนบเนียน สาวใหญ่ผู้ซึ่งอ้างว่าคืออาสาวของเถาหลี่น่า และเป็นน้องสาวซึ่งบิดาของนางต้องการเดินทางมาหาจนถูกปล้นชิงตามคำบอกเล่าของสาวน้อยในวันที่พบกับข่งเจียวจิ้น กอดรัดกับหลานสาวอย่างโศกเศร้าเมื่อได้รับรู้ว่าพี่ชายถูกโจรฆ่าตายแล้ว “ข้าคงต้องขอตัวหลานสาวไปอยู่ด้วย นางเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวจะให้เร่ร่อนพักอาศ
ตอนที่สี่คุ้มค่าเงินที่ลงทุนหรือไม่คำพูดเหล่านั้นของราชครูถูกนำมาบอกเล่ากับเถาหลี่น่าซึ่งหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ท่านราชครูก็เอ่ยเกินไป ข้าเป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็กๆจะอาจหาญถึงขั้นพาพวกบุกปล้นจวนราชครูผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร” “อย่าได้เอาแต่หัวเราะ ระวังอย่าได้พบหน้าข่งเจียวจิ้นอีกเป็นอันขาด เขาเคียดแค้นเจ้ามาก” “หัวหน้าคงไม่นำงานที่ต้องได้พบหน้าเขามาให้ข้าอีกกระมัง” “ข้าจะพยายามคัดเลือกให้ดี แต่เมืองหลวงไม่ใหญ่โตมากจนไม่มีวันได้พบกันอีก” “เช่นนั้นก็ออกนอกเมืองไปไกลๆไม่ได้หรือ”
ตอนที่ห้าดีหรือไม่“แล้วพวกเขาได้สอนให้เจ้าช่วยตนเองบ้างหรือไม่” เมื่อตนเองสุขสมใจแล้ว เถาโจวหย่งจึงคิดอยากลองช่องคับแคบซึ่งเห็นมาตั้งแต่ยังไม่เบ่งบานดูบ้าง“สอนเจ้าค่ะ สอนให้ข้าใช้นิ้วละเลงสร้างความเสียวให้ตนเอง”“แล้วดีหรือไม่”“ข้าชอบ ความรู้สึกเสียวซ่านช่างสุขสันต์ แต่ท่านแม่บอกว่าหากให้ผู้อื่นทำจะดีกว่า”“เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าได้เสียวกว่าที่เคย”หัวหน้าเถาโจวหย่งจับร่างบางขึ้นนอนลงบนเตียง มือหนาจับเรียวขาขาวผ่องอ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้งามและเนินขนนุ่มฟูมือร้อนลูบไล้ผ่านเนินนูนและขนนุ่มไปยังสองกลีบแดงอันเจิ่งนองไปด้วยน้ำหวานใส“อืม...เพิ่งโดนสอดใส่ไม่กี่ครา ร่องของเจ้ายังคงคับแคบอยู่มาก” นิ้วร้อนถูกสอดแยงสำรวจความคับแน่นก่อนจะวกมาบดคลึงยังติ่งเสียวขณะอีกมือลูบขึ้นคลึงเคล้นก้อนเนื้ออวบด้านบน“อ้า...ดียิ่ง บดอีกเจ้าคะ อู้ววว เสียวกว่าใช้นิ้วของตนเองจริงด้วย”ร่างเล็กแอ่นหลั
ตอนที่ห้าสิบห้า แผนการเป็นชายา “ข้านับเป็นคนแคว้นเหลียง จะนับญาติอันใดได้ พวกเขาแล้งน้ำใจกับมารดาถึงเพียงนั้น จะถามหาน้ำใจใดกับข้าได้หรือ”“อืม...ก็จริง”“หากข้าตั้งใจนับญาติกับพวกเขา อาจโดนคิดว่ากำลังหาทางยึดครองแคว้นจ้าวก็เป็นได้”“กลายเป็นเช่นนั้นไป”“คนแคว้นจ้าวต่างหวาดระแวงไม่เชื่อผู้อื่น แคว้นเราไม่ใคร่มีผู้ใดอยากเดินทางไปนักหรอก”“ยิ่งคนในราชวงศ์ยิ่งใช้ไม่ได้”เมื่อนึกถึงการโดนหลอกใช้ให้ขโมยของต่างๆที่ผ่านมา เถาหลี่น่าจึงเอ่ยคำนี้ออกมา“เจ้าเห็นด้วยกับข้าแล้วหรือ”“ข้าเห็นเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”เมื่อไม่เห็นความสำคัญในการพูดคุยเรื่องของแคว้นจ้าว เถาหลี่น่าจึงเปลี่ยนมาสอบถามเรื่องในแคว้นเหลียง“ทุกวันนี้ ท่านดูแลงานด้านใดหรือ”“เดิมทีเสด็จพ่อไม่ได้มอบหมายให้ข้าทำงานด้านใดเป็นพิเศษ แต่หลังจากนี้ข้าจะทูลขอทำงานด้านการข่าว ดีหรือไม่”
บนโต๊ะอาหาร สองหนุ่มสาวพูดคุยกันแผ่วเบาราวกำลังหวานชื่น แต่เรื่องที่คุยกลับเป็น“คนของเราสืบหาอยู่นานยังไม่พบเบาะแสว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นคนของผู้ใด พวกเขาล้วนเป็นนักฆ่าที่ถูกจ้างมา จึงไม่อาจเจาะลงไปถึงผู้ว่าจ้างได้”“ให้หัวหน้าของข้าช่วยดีหรือไม่”“อืม...ดี เจ้าเร่งติดต่อไป อ้อ...ชุดพวกนี้เจ้าชอบหรือไม่”“ชอบมาก ขอบคุณ”“ของพวกนี้ข้ามอบให้เจ้า อีกหน่อยจะมีมากกว่านี้”“อยู่ที่นี่สบายดีมาก อีกนานหรือไม่ที่พวกเราต้องเข้าไปในวังหลวง”“เจ้าไม่อยากไปล่ะสิ”“ย่อมไม่อยาก อยู่ที่นี่ข้าเป็นใหญ่ อยากทำสิ่งใดล้วนไม่มีผู้ใดขัดขวาง”“เอาเถอะ หากมีเวลา เจ้าก็หาทางออกมาพักผ่อนหย่อนใจหรือใช้ชีวิตที่ชอบได้”“ได้หรือ”“ย่อมได้ ข้าเองมีงานมาก อาจไม่มีเวลาปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลา การที่เจ้าออกมาข้างนอกบ้างอาจดีกว่า”“ดี เยี่ยมเลย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มแย้มเต็มหน้าจึงบัง
ตอนที่ห้าสิบสี่รุนแรงสองหนุ่มสาวตกลงกันอย่างจริงจังราวเป็นเรื่องการค้ามิใช่เรื่องสามีภรรยา จนเมื่อตกลงกันได้เรียบร้อย มือหนาของชายหนุ่มจึงเริ่มขยับเขยื้อนเข้าคลึงเคล้นสองก้อนเต้าซึ่งกระเพื่อมไหวหลอกล่ออยู่ตรงหน้า“พวกเราเปลือยร่างตกลงเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ควรทำเรื่องของสามีภรรยาให้สมบูรณ์ใช่หรือไม่”“เชอะ มิใช่ว่าพวกเราทำเรื่องสามีภรรยากันมาหลายคราแล้วหรือ”“จะกี่คราข้าก็ยังติดใจในตัวเจ้าเช่นเดิม เถาหลี่น่า เจ้าใช้ยาเสน่ห์ใดหรือไม่ เหตุใดข้าจึงอยากซุกไซ้สอดใส่ในร่องแคบของเจ้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน”“นั่นเป็นเพียงข้ออ้างของท่านต่างหาก ข้าหรือจะมียาเสน่ห์ใด หากมีข้าคงใช้กับผู้อื่นมิใช่ท่านแล้ว”“เอ่ยเยี่ยงนี้ คืนนี้อย่าหวังจะได้นอนเลย”“ข้าเคยกลัวหรือ”“เถาหลี่น่า เจ้ากล้ามาก”เพียงได้ยินว่าหญิงสาวอยากใช้เสน่ห์ของตนเองกับชายอื่น องค์ชายฮุ่ยหมิงก็จับร่างบางยกขึ้นกางขาสอดแทรกท่อนกายแกร่
ตอนที่ห้าสิบสามสุขสบายองครักษ์เคลื่อนขบวนอย่างระมัดระวังด้วยไม่อาจแน่ใจได้ว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นฝ่ายใด จนถึงชายแดนจึงเริ่มผ่อนคลายขึ้นบ้าง ทหารเฝ้าเขตแดนเข้ามาตรวจตรา เมื่อเห็นว่าเป็นองค์ชายจากแคว้นตนเองจึงเร่งนำขบวนอย่างไม่รีรอ เถาหลี่น่าประคับประคององค์ชายฮุ่ยหมิงตลอดทางจนกระทั่งถึงตำหนักพักร้อนนอกเมืองจึงพอผ่อนคลายได้บ้าง “เอาล่ะ พักที่นี่ก่อนระยะหนึ่ง พวกเจ้ากระจายกันไปสืบหาว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นพวกใดกันแน่” องค์ชายฮุ่ยหมิงตัดสินใจพักรอเพื่อให้บาดแผลหายสนิทดีก่อนกลับเข้าเมืองหลวงเถาหลี่น่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายด้วยแม้เป็นเพียงตำหนักนอกเมือง แต่ก็มีขันทีและนางกำนัลอยู่รับใช้ทุกหน้าที่ นางอยู่ในฐานะสตรีขององค์ชายจึงได้รับการดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “แม่นางเถาจะอาบน้ำหรือไม่เจ้
ตอนที่ห้าสิบสองบาดเจ็บ “เจ็บแผลหรือไม่” เถาหลี่น่าเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางไม่เคยได้รับความคุ้มครองมาก่อน มิคาดว่าองค์ชายหนุ่มซึ่งเดิมทีนางคิดว่าเขาเป็นเพียงชายแปลกหน้ากลับเป็นคนแรกซึ่งให้การดูแลและคุ้มครองปกป้องนางอย่างใส่ใจ “หากจะบอกว่าไม่เจ็บก็คงโกหก เอาเป็นว่าเจ็บบ้างแต่พอทนไหว” “ท่านไม่ควรต้องกอดข้าไว้ น้ำหนักที่มากเกินไปทำให้กระแทกแรงจนเลือดออกมาก” “เจ้าเป็นสาวน้อยตัวเล็กเพียงนี้ไม่ได้เพิ่มน้ำหนักถึงเพียงนั้นหรอกอย่าได้คิดมากไป อีกอย่างเจ้ากับข้าได้ร่วมรักสอดใส่ทุกค่ำคืน นับว่าเจ้าเป็นอนุคนหนึ่งของข้าแล้ว ถึงไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ข้าก็ต้องดูแลเจ้าตามสมควร” “อนุหรือ?”&
ตอนที่ห้าสิบเอ็ดรัญจวนใจองค์ชายหนุ่มตอบพลางถามกลับบ้าง“อ๋องนั่นร่วมรักกับเจ้าทุกคืนใช่หรือไม่”“ใช่ คืนละหลายครา”“เช่นนั้นระหว่างนี้ ข้าจะร่วมรักกับเจ้าทุกคืนคืนละหลายคราเช่นกัน”อ้าว...เดี๋ยว ได้ถามความยินยอมของนางหรือไม่เหตุใดพูดเองเออเองเช่นนี้องค์ชายฮุ่ยหมิงไม่ปล่อยให้สาวน้อยได้ทันคิด มือหนาจับร่างบางคว่ำหน้าแล้วสอดแทรกเข้ามาทางก้นนุ่มนิ่มอย่างรวดเร็ว เสียงตอกกระแทกกระทั้นดังขึ้นอีกคราอย่างดุเดือดป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ“โอ๊ยยยย องค์ชาย แรงเกินไปแล้ว เบาหน่อยเถิด”“ข้าคิดว่าเจ้าชอบแรงๆเสียอีก”“แต่ท่อนกายของท่านใหญ่โตเกินไป ข้าจุก”“เช่นนั้นข้าจะเบาให้สักหน่อย”ชายหนุ่มเบาได้ไม่นานก็ตอกตรึงกระแทกแรงขึ้นอีกตามอารมณ์ร้อนแห่งกามราคะมือหนาสอดส่งมาบดขยี้ติ่งเสียวจนหญิงสาวสะท้านไหว เต้าอวบอิ่มถูกบดคลึงบีบเคล้นจนบี้แบนด้วยความเร่าร้อนแห่งการเสพสม
ตอนที่ห้าสิบ ลบร่องรอยอ๋องหนุ่มหงุดหงิดงุ่นง่านด้วยเพิ่งได้รับการเติมเต็มความร้อนเร่าได้ไม่กี่คราจึงยังไม่สาสมใจ แต่เขาย่อมไม่อยากขัดใจกับชายาเพียงด้วยนางกำนัลไร้ความสำคัญผู้หนึ่ง จึงไม่ไปซักถามให้มากความ ได้แต่ปล่อยเรื่องให้เงียบหายไปตามสายลมเมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว องค์ชายฮุ่ยหมิงจึงขอตัวลากลับแคว้นโดยเร็วด้วยไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ฮ่องเต้ของแคว้นจ้าวย่อมไม่ขัดขวางอีกทั้งยังฝากของกลับไปยังแคว้นเหลียงอีกหลายอย่างเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างแคว้นเถาหลี่น่าถูกพาตัวมาพบกันที่กลางทางนอกเมืองหลวง ขบวนเดินทางขององค์ชายต่างแคว้นเคลื่อนกลับอย่างรวดเร็วผิดกับขามาราวฟ้ากับดินเมื่อเข้าที่พักในโรงเตี๊ยมได้ ผู้ติดตามต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันทำหน้าที่คุ้มครองชายสูงศักดิ์ เหลือเพียงเถาหลี่น่าซึ่งไม่ได้ทำสิ่งใดจึงได้แต่นั่งลงในห้องครุ่นคิดถึงชีวิตต่อไป“คิดสิ่งใดอยู่หรือ”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างใส่ใจ“ข้ากำลังคิดว่าต้องจากแคว้นนี้ไปแล้ว” ด้วยไม่ได
ตอนที่ห้าสิบ ลบร่องรอยฉู่หลันกลับมารับใช้อ๋องหนุ่มดังเดิม นางได้เข้าไปช่วยฝนหมึกในห้องอักษรอย่างใกล้ชิด เมื่อสังเกตเห็นกุญแจในสายคาดเอว นางกำนัลน้อยจึงเสแสร้งเย้ายวนเพื่อสร้างโอกาสให้ตนเอง“ท่านอ๋องเพคะ พวกเราลองทำกันที่โต๊ะอักษรบ้างดีหรือไม่เพคะ”นางกำนัลน้อยนั่งลงบนขอบโต๊ะแล้วเปิดแหวกกระโปรงยาวขึ้นมาจนเห็นขาเรียวขาวเนียน มือน้อยล้วงแหวกร่องชมพูสดเพื่อเปิดออกให้อ๋องหนุ่มได้ชมดู สาวน้อยใช้มือตนเองบดคลึงลูบไล้ยังร่องเสียวเพื่อยั่วเย้าล่อหลอก“หม่อมฉันอยากได้ท่อนกายใหญ่มาเติมเต็มแล้วเพคะ”อ๋องหนุ่มหันไปส่งสัญญาณให้องครักษ์เงากระจายตัวออกห่างก่อนจะก้าวเข้าแหย่คลึงร่องดอกไม้แดงอันสดฉ่ำ“อยากแต่หัววันเชียวหรือ เจ้านี่ช่างร่านเสียจริง”“หม่อมฉันห่างจากท่านอ๋องไปนาน ย่อมคิดถึงความแข็งแกร่งของพระองค์อย่างมากเพคะ”“ได้ ข้าจะตอกตรึงในร่องสวาทของเจ้าจนไม่อาจหุบขาได้เลยทีเดียว” อ๋องหนุ่มประกาศก้องก่อนจะล้วงแท่งเอ็นใหญ่ออกมา ร่างหนาผลักสาวน้อยลงนอนกับโต๊ะแล้
ตอนที่สี่สิบเก้าตำหนักอ๋อง จนได้เวลาเคลื่อนขบวน เถาหลี่น่าจึงแต่งกายด้วยชุดนางกำนัลของแคว้นเหลียงแล้วออกเดินทางไปพร้อมกับองค์ชายฮุ่ยหมิง โดยมีสายตาห่วงใยของหัวหน้าเถาโจวหย่งคอยมองส่งมาขบวนเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นเดินทางอย่างไม่รีบเร่ง ระหว่างทางพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดี จนเถาหลี่น่าสุขสบายไม่น้อยเมื่อถึงวังหลวง ความตึงเครียดจึงเพิ่มขึ้นมาด้วยหญิงสาวต้องได้พบเจอกับคนรู้จักแล้วองค์ชายฮุ่ยหมิงเดินนำเครื่องบรรณาการซึ่งขนมาถวายแก่ฮ่องเต้แคว้นจ้าวส่งมอบให้ตามธรรมเนียม คำทักทายถามสารทุกข์สุกดิบถูกเอ่ยออกตามมารยาทอันดีเมื่อหมดเรื่องแทนที่เขาจะถอยไปยังที่นั่งซึ่งจัดไว้ กลับหันไปโค้งให้อ๋องจ้าวห่าวหร่านแล้วเอ่ยประโยคที่เตรียมไว้ออกมา“ข้ามีคนมาส่งคืนให้แก่ท่านอ๋อง” เถาหลี่น่าถูกนำออกมาอย่างเชื่องช้า“ท่านอ๋อง ฉู่หลันกลับมาแล้วเพคะ” สาวน้อยถลาไปกอดขาอ๋องสูงศักดิ์พลางหลั่งน้ำหูน้ำตานองหน้า“นางกำนัลฉู่หลัน เจ้าหายไปที่ใดมา” อ๋องจ้าวห่าวหร่านมองใบหน้างา