ตอนที่สาม
ห้องเก็บสมบัติ
“พี่เจียวจิ้น ข้าทอดร่างให้พี่เชยชมจนสมใจ อีกไม่นานพี่คงเบื่อหน่ายแล้วทอดทิ้งข้า” เถาหลี่น่าเริ่มแผนต่อไปเมื่อสอดใส่กันมาระยะหนึ่งจนเด็กหนุ่มไว้วางใจแล้ว
“พี่ไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าแน่”
“แต่ท่านราชครูคงไม่มีวันยินยอมให้รับข้าเข้ามาอยู่ในจวน” เด็กสาวใช้น้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ท่านพ่อบังคับพี่ไม่ได้” เสียงดื้อดึงเอ่ยออกมา
“หากข้าจะขอความมั่นใจด้วยของประจำตระกูลของพี่เจียวจิ้นสักอย่างเป็นของแทนใจจะมากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ”
“ย่อมไม่ พี่ขอโทษที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เอาเถอะ พี่จะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” ข่งเจียวจิ้นโดนเสน่ห์ของสาวน้อยจนหน้ามืดตามัวเกรงหญิงสาวจะน้อยใจจนหนีหายไป จึงตัดสินใจพานางเข้าไปจนถึงห้องเก็บสมบัติของตระกูลข่ง
“โอ้วว...พี่เจียวจิ้น บ้านท่านมีของมีค่ามากมายเพียงนี้ ยิ่งเห็นข้ายิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควร” เด็กสาวส่งเสียงตื่นเต้นเมื่อได้เห็นคลังสมบัติของตระกูลเก่าแก่
“ไม่นะน้องหลี่น่า เจ้าอย่าคิดมาก ของในนี้บางชิ้นไม่ได้มีราคามากมาย เพียงเก่าแก่เท่านั้น เจ้าลองดูเถิดว่าชอบชิ้นใด พี่จะมอบให้เป็นของแทนใจ” เถาหลี่น่าได้โอกาสรีบเดินสำรวจของมีค่าในห้องอย่างรวดเร็วเพื่อมองหาภาพวาดเป้าหมาย
จนถึงกองภาพวาด นางทำทีเปิดออกดูอย่างตื่นตาหลายภาพ เมื่อได้เห็นภาพที่ต้องการแล้วจึงแสร้งวางแยกไว้ จากนั้นจึงเดินดูของรอบห้องอีกหลายอย่างเพื่อกลบเกลื่อนก่อนจะหยิบไข่มุกราตรีเม็ดหนึ่งขึ้นราวคนมักน้อย
“ข้าขอชิ้นนี้ก็แล้วกัน”
“นั่นเป็นเพียงไข่มุกราตรี ไม่มีราคาค่างวดมากนัก เอาเช่นนี้ พี่มอบป้ายหยกประจำตระกูลให้เจ้าก็แล้วกัน”
ป้ายหยกตระกูลข่งย่อมเอาไปแลกเป็นเงินมิได้ จะเอาไปให้หนักเพื่ออันใด
เถาหลี่น่ามองป้ายหยกในมืออย่างไม่ใคร่ชอบใจแต่เบื้องหน้าจำต้องแสดงท่าซาบซึ้งน้ำตาแทบไหล
“ขอบคุณพี่เจียวจิ้น พี่ช่างดีกับข้าจริงๆ”
“ไข่มุกนี่ก็เอาไปด้วยเถิด”
เถาหลี่น่ากำของสองสิ่งที่ได้รับมาราวมีค่ามากจนต้องทะนุถนอมให้ดี ข่งเจียวจิ้นมองท่าทีนั้นอย่างเอ็นดูก่อนจะพาสาวน้อยกลับไปนอนที่ห้องเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว
แม้เขาจะอยากนอนด้วยกันในห้องของสาวงามทั้งคืน แต่หากบ่าวไพร่พูดมากออกไปย่อมไม่เป็นการดี ชายหนุ่มจึงเพียงแวะเวียนมาร่วมรักสอดใส่แล้วแยกย้ายกลับไปนอนที่ห้องของตนเอง
คืนวันต่อมา สองหนุ่มสาวแวะเวียนมาร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน เถาหลี่น่าส่งพลังความสุขเป็นครั้งสุดท้ายให้ข่งเจียวจิ้นได้ดื่มดำจนสมใจก่อนเขาจะกลับไปนอนหลับด้วยฤทธิ์ยาซึ่งนางแอบใส่ไว้ในน้ำชา
คืนนั้นสาวน้อยซึ่งออกปฏิบัติงานครั้งแรกแม้จะตื่นเต้นมือไม้สั่น แต่ก็ลอบเข้าไปในห้องเก็บสมบัติอย่างง่ายดายด้วยกุญแจซึ่งหยิบมาจากเอวของชายหนุ่มอันหลับใหล
ด้วยจวนราชครูไม่ได้คุ้มกันแน่นหนาจากคนภายใน เถา
หลี่น่าจึงเข้าไปหยิบภาพวาดเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวแวะหยิบทองคำมาสองก้อนด้วยคิดว่าคงไม่เป็นที่สังเกตเห็น จากนั้นสาวน้อยจึงแวะเก็บซ่อนของเอาไว้ที่ใต้กองหินด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆแล้วรีบกลับไปนอน
สาวน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมใต้ตาดำคล้ำด้วยตื่นเต้นจนหลับไม่ลง ข่งเจียวจิ้นมองใบหน้างามด้วยความห่วงใยขณะหญิงสาวอ้างว่าฝันร้ายและได้แต่ซบอ้อนลงกับอกอุ่น
นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดกับชายคนแรกที่ได้ความสาวของนางไปแล้ว หวังว่าเขาจะไม่รู้โดยเร็วว่าถูกขโมยของในห้องเก็บสมบัติไป หากรู้ก็ขอให้เขาไม่สงสัยนาง
สาวน้อยภาวนาในใจก่อนจะพยายามทำตัวเป็นปกติ หลังจบมื้ออาหารเช้า เถาหลี่น่าแสร้งชวนข่งเจียวจิ้นออกไปเดินซื้อของที่ตลาดโดยอ้างว่าอยากได้ของใช้ส่วนตัวของหญิงสาว
นางใจกล้าหยิบของที่ขโมยมาซ่อนไว้ใต้ชุดเสื้อแล้วเดินออกมาด้วยมือชื้นเหงื่อในใจเฝ้าภาวนาให้เห็นสาขาใหญ่ขององค์กรโดยเร็ว
เมื่อเห็นสัญลักษณ์ขององค์กรที่ร้านแพรพรรณ หญิงสาวจึงทำทีสนอกสนใจและเดินเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขอลองผ้าไหมงดงามในห้องส่วนตัว
“พี่เจียวจิ้นรอด้านนอกนี้ก่อน หากเข้าไปด้วยกันผู้คนจะครหานินทา”
“ได้ น้องหลี่น่าเลือกได้จนพอใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา พี่จ่ายไหวแน่”
ข่งเจียวจิ้นเอาใจสาวคนรักอย่างออกนอกหน้าจนเถาหลี่น่าแอบนึกเสียดาย
หากนางได้เป็นคนรักของเขาจริงๆคงได้รับการเอาใจอย่างดีจนล่องลอย
ข่งเจียวจิ้นเอาใจสาวคนรักอย่างออกนอกหน้าจนเถาหลี่น่าแอบนึกเสียดายหากนางได้เป็นคนรักของเขาจริงๆคงได้รับการเอาใจอย่างดีจนล่องลอย แต่นั่นย่อมเป็นเพียงฝัน และนางต้องตื่นโดยเร็ว ลลินาซึ่งเคยถูกล่อลวงด้วยฝันหวานมาหลายครารีบปลุกปลอบตนเอง ภาพวาดถูกส่งออกไปให้คนขององค์กรอย่างเรียบร้อยทำให้เถาหลี่น่าโล่งอกและพรั่งพรูลมหายใจออกมาอย่างเบาใจ จากนั้นสาวน้อยจึงชวนชายหนุ่มเดินเลือกชมข้าวของอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะมีตัวละครซึ่งเตี๊ยมกันมาอย่างดีแล้วที่ร้านแพรพรรณเข้ามาร่วมแสดงบทบาท “หลี่น่า หลานหายไปที่ใดมา พวกเราตามหาเจ้าแทบพลิกแผ่นดิน แล้วท่านพ่อของเจ้าเล่า อยู่ที่ใด” “ท่านอาหญิง ฮือๆๆๆ” เถาหลี่น่าสวมบทบาทสาวน้อยผู้พบเจอญาติสนิทอย่างแนบเนียน สาวใหญ่ผู้ซึ่งอ้างว่าคืออาสาวของเถาหลี่น่า และเป็นน้องสาวซึ่งบิดาของนางต้องการเดินทางมาหาจนถูกปล้นชิงตามคำบอกเล่าของสาวน้อยในวันที่พบกับข่งเจียวจิ้น กอดรัดกับหลานสาวอย่างโศกเศร้าเมื่อได้รับรู้ว่าพี่ชายถูกโจรฆ่าตายแล้ว “ข้าคงต้องขอตัวหลานสาวไปอยู่ด้วย นางเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวจะให้เร่ร่อนพักอาศ
ตอนที่สี่คุ้มค่าเงินที่ลงทุนหรือไม่คำพูดเหล่านั้นของราชครูถูกนำมาบอกเล่ากับเถาหลี่น่าซึ่งหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ท่านราชครูก็เอ่ยเกินไป ข้าเป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็กๆจะอาจหาญถึงขั้นพาพวกบุกปล้นจวนราชครูผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร” “อย่าได้เอาแต่หัวเราะ ระวังอย่าได้พบหน้าข่งเจียวจิ้นอีกเป็นอันขาด เขาเคียดแค้นเจ้ามาก” “หัวหน้าคงไม่นำงานที่ต้องได้พบหน้าเขามาให้ข้าอีกกระมัง” “ข้าจะพยายามคัดเลือกให้ดี แต่เมืองหลวงไม่ใหญ่โตมากจนไม่มีวันได้พบกันอีก” “เช่นนั้นก็ออกนอกเมืองไปไกลๆไม่ได้หรือ”
ตอนที่ห้าดีหรือไม่“แล้วพวกเขาได้สอนให้เจ้าช่วยตนเองบ้างหรือไม่” เมื่อตนเองสุขสมใจแล้ว เถาโจวหย่งจึงคิดอยากลองช่องคับแคบซึ่งเห็นมาตั้งแต่ยังไม่เบ่งบานดูบ้าง“สอนเจ้าค่ะ สอนให้ข้าใช้นิ้วละเลงสร้างความเสียวให้ตนเอง”“แล้วดีหรือไม่”“ข้าชอบ ความรู้สึกเสียวซ่านช่างสุขสันต์ แต่ท่านแม่บอกว่าหากให้ผู้อื่นทำจะดีกว่า”“เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าได้เสียวกว่าที่เคย”หัวหน้าเถาโจวหย่งจับร่างบางขึ้นนอนลงบนเตียง มือหนาจับเรียวขาขาวผ่องอ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้งามและเนินขนนุ่มฟูมือร้อนลูบไล้ผ่านเนินนูนและขนนุ่มไปยังสองกลีบแดงอันเจิ่งนองไปด้วยน้ำหวานใส“อืม...เพิ่งโดนสอดใส่ไม่กี่ครา ร่องของเจ้ายังคงคับแคบอยู่มาก” นิ้วร้อนถูกสอดแยงสำรวจความคับแน่นก่อนจะวกมาบดคลึงยังติ่งเสียวขณะอีกมือลูบขึ้นคลึงเคล้นก้อนเนื้ออวบด้านบน“อ้า...ดียิ่ง บดอีกเจ้าคะ อู้ววว เสียวกว่าใช้นิ้วของตนเองจริงด้วย”ร่างเล็กแอ่นหลั
ตอนที่หกชายสูงวัยเถาหลี่น่าลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อสายมากแล้ว เมื่อคืนนางจำแทบไม่ได้ว่าแตะสวรรค์ไปกี่ครา หัวหน้าเถาโจวหย่งช่างแข็งแรงทรงพลังจนนางสั่นเกร็งแทบขาดใจตายถึงยามนี้ร่างบางจึงปวดท้องจากความเกร็งเสียวต่อเนื่องและปวดร้าวไปทั่วร่างด้วยไม่คุ้นเคยกับการร่วมรักอย่างหนักหน่วงมาก่อนสาวน้อยก้มลงมองร่องดอกไม้ซึ่งแดงช้ำอย่างน่าสงสาร น้ำขุ่นขาวยังหลงเหลือเป็นคราบทั้งในร่องน้ำและหว่างขา ร่องรอยแดงของถูกขยำทั้งนิ้วและฟันถูกประทับไว้จนทั่วทรวงอวบอิ่มและไหล่บางเฮ้อ...คงต้องพักอีกหลายวัน เถาหลี่น่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าด้วยโดนเคี่ยวกรำอยู่ทั้งคืน นางยังเยาว์วัยนักและไม่เคยได้รับความเสียวซ่านเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ลลินาเองก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้รับการเติมเต็มความกระสันอย่างสุขล้นเท่านี้มาก่อนเช่นกันยังดีที่ร่างนี้อายุน้อย แข็งแรง จึงฟื้นฟูได้เร็ว หัวหน้าเถานำอาหารมาให้ลูกศิษย์สาวถึงเตียงนอน
ตอนที่เจ็ด ศึกษาเล่าเรียน “ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่ที่บ้านสกุลสวี พวกเขามีญาติฝั่งมารดาอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว เจ้าจะปลอมเป็นญาติสาวน้อยซึ่งถูกส่งไปศึกษาเล่าเรียนยังสำนักศึกษาในตัวเมือง ด้วยความจำเป็นนี้จึงต้องพักอาศัยที่นั่น” “จะให้ข้าขโมยของที่บ้านนั้นหรือ” “ไม่ใช่ ของสำคัญในครานี้คือตำราลับหายากซึ่งถูกเก็บรักษาอยู่ที่หอตำราชั้นสูงสุดในสำนักศึกษา ชื่อและข้อความบางส่วนอยู่ที่นี่ เจ้าจดจำเอาไว้” กระดาษเล็กถูกส่งมาให้เถาหลี่น่าได้อ่านและจำให้ได้ “ในเมื่อของอยู่ที่สำนักศึกษา เช่นนั้นข้าก็ต้องหาโอกาสระหว่างเข้าเล่าเ
ตอนที่แปด รู้จักข้าน้อยไปเมื่อถึงสำนักศึกษา สาวน้อยรีบเดินไปลงชื่อรายงานตัวจากนั้นจึงเดินหาห้องเรียนและมองหาที่นั่ง ด้วยสำนักศึกษาแห่งนี้รับเด็กทั้งชายหญิงจากหลายเมืองเข้ามาศึกษาเล่าเรียนโดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงมีเด็กหนุ่มสาวมาเรียนกันมากจนต้องแบ่งออกเป็นหลายห้องเรียน เดิมทีหลินหลี่น่าต้องเรียนรวมกับเด็กหญิงในชั้นต้นตามระเบียบ แต่ด้วยหัวหน้าเถาสร้างเรื่องให้นางเก่งกาจจนได้เลื่อนระดับชั้นมาเรียนร่วมกับเด็กชายในชั้นสูง หญิงสาวจึงเป็นเพียงสาวน้อยไม่กี่คนที่ได้นั่งเรียนร่วมกับชายสูงศักดิ์หลายคน เมื่อถึงห้องเรียนและอ่านจนแน่ใจว่าถูกต้อง หลินหลี่น่าจึงกวาดตามองหาสวีเจินจื้อด้วยคิดว่าเขาน่าจะอยู่ห้องเดียวกัน นับว่านางคิดไม่ผิดเมื่อเห็นร่างชายห
ตอนที่เก้า มารยาหญิงซูหวังเหล่ยซึ่งถูกตามตัวมารีบเข้ามาห้ามและสั่งการให้แยกย้ายอย่างเอือมระอา ขณะหลินหลี่น่าซึ่งยืนฟังราวกับเป็นคนนอกยืนยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ แต่เมื่อเห็นว่าศิษย์พี่มองมาทางตนเองจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหมองเพื่อเรียกความสงสาร“เจ้าเป็นญาติของสวีเจินจื้อหรือ”“เจ้าค่ะ แต่พวกเราไม่อาจเทียบสกุลสวีได้”“เรื่องฐานะเป็นเพียงของนอกกาย มีขึ้นย่อมมีลง มีเงินมากไม่แน่ว่าสักวันอาจมีน้อยก็ได้ หากเจ้าขยันหมั่นเพียรศึกษาเล่าเรียน ไม่แน่กาลข้างหน้าอาจมีโอกาสสร้างเงินสร้างฐานะที่สูงกว่าเขาก็เป็นได้”“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” หลินหลี่น่ายิ้มหวานให้ซูหวังเหล่ย กิริยาท่าทางของสาวน้อยคล้ายไร้เดียงสาแต่ความจริงยั่วยวนอย่างเต็มที่จนซูหวังเหล่ยใจสั่น“สวีเจินจื้อหนีขึ้นรถม้ากลับไปแล้ว แล้วเจ้าจะกลับอย่างไร”“ข้า...ข้าคงต้องเดินกลับไปเจ้าค่ะ”“พี่ไปส่งเจ้าดีกว่า ไป พวกเรากลับกัน”หลิน
ตอนที่สิบ แก้ขัด ภาพแรกย่อมเป็นการจุมพิตปากเพื่อเริ่มต้นการเล้าโลม ซูหวังเหล่ยเคยเที่ยวในหอนางโลมอยู่หลายคราด้วยมีอายุ21แล้ว จึงตรงเข้าโลมเลียจุมพิตหวานกับปากบางเป็นการปลุกเร้า “น้องหลี่หลี่ยื่นลิ้นออกมาต่อสู้กันจึงจะสนุก” “ได้ ข้าไม่ยอมแพ้แน่” ลิ้นทั้งสองตวัดเกี่ยวโจมตีดึงดันอยู่ในโพรงปากอุ่นจนน้ำใสไหลย้อยออกมา ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กเอาไว้อย่างแนบแน่นเพื่อจุมพิตอย่างถนัดถนี่จนรู้สึกได้ถึงความอวบหยุ่นซึ่งเด้งไหวไปตามแรงหอบหายใจของกายบาง “น้องหลี่หลี่หายใจแรงมาก เหนื่อยหรือ”&
ตอนพิเศษสามถึงเวลาต้องเลือกชายาสามเดินเยื้องย่างเข้าไปหยุดที่ด้านหน้านางกำนัลของตนเองซึ่งยังยืนเปลือยร่างอ่อนเปลี้ยอยู่คนเดียว “ชายาสาม” เสียงตกใจร้องดังออกมาก่อนร่างเปลือยจะทรุดลงด้วยหมดแรงจริงๆ “พวกเจ้าทำเช่นนี้กันกี่คราแล้ว” ฮัวหลี่น่าย่อมรู้จักชายหนุ่มผู้นั้นด้วยเขาเป็นคนสนิทของหัวหน้าเถาโจวหย่งซึ่งเดินทางมาช่วยงาน เขาเป็นชายรูปงามอีกทั้งคารมดีจึงมีหญิงคณิกาติดใจทอดร่างให้เชยชมอยู่บ่อยๆ แต่นางไม่คิดว่าเขาจะล่อลวงนางกำนัลน้อยในยามที่นางมาช่วยดูแลบุตรสาวที่นี่ แล้วยังกล้าพาตัวออกมาสอดใส่ในที่ลับตาโดยทิ้งเด็กหญิงน้อยไว้คนเดียว “เขา... เขา...บอกว่าชอบหม่อมฉัน และมีของจากต่างเมืองมาฝาก หม่อมฉันคิดว่าจ
ตอนพิเศษสามถึงเวลาต้องเลือก“ท่านแม่เจ้าขา พี่ถิงถิงหายไปแล้วเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตัวอ้วนกลมน่ารักเดินเต๊าะแต๊ะมาตามหานางกำนัลซึ่งเป็นพี่เลี้ยงถึงยังห้องทำงานของฮัวหลี่น่า ชายาสามขององค์ชายฮุ่ยหมิงกำลังนั่งตรวจสอบบัญชีอยู่ที่ชั้นบนของหอคณิกาซึ่งเป็นกิจวัตรซึ่งนางต้องทำเพื่อไม่ให้การเงินรั่วไหลและคอยควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดี นางพาบุตรชายหญิงทั้งสองมาด้วยเช่นทุกครา โดยให้องครักษ์คนสนิทพาบุตรชายซึ่งอยู่ในวัย5ขวบปีไปหาผู้เป็นบิดาที่ด้านหลัง ส่วนบุตรสาวนางกำชับให้นางกำนัลพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ที่สวนด้านข้าง แล้วเหตุใดบุตรสาวตัวน้อยของนางจึงเดินขึ้นมาถึงชั้นบนด้วยตัวคนเดียวโดยไร้เงาของนางกำนัลสาว “ถิงถิงนี่เหลวไหลใหญ่แล้ว คงต้องลงโทษให้หลาบจำ
ตอนพิเศษสองหอคณิกาของชายาสาม“เช่นนั้นข้าจะพาท่านแม่ไปชมทำเลดีดี องค์ชายฮุ่ยหมิงมีทำเลการค้าอยู่ในมือหลายแห่ง ข้าได้ขอเขาไว้แล้วเจ้าค่ะ”“อืม...มีสามีทั้งมีเงิน มีอำนาจ อีกทั้งดีกับเรา ย่อมมีชัยแก่ชีวิต หลี่น่าเอ๊ย เจ้าช่างโชคดีนัก”“ด้วยการสั่งสอนจากท่านแม่ ทำให้เขาไม่อาจตัดใจจากข้าได้ จึงทำให้ข้าโชคดีเจ้าค่ะ”“ไม่ใช่เรื่องนั้นเรื่องเดียวหรอก มิเช่นนั้นหญิงคณิกาในหอของข้าคงมีผู้พาไปเลี้ยงดูอย่างสุขสบายกันทุกคนแล้ว”ฮัวหลี่น่าพยักหน้าอย่างยอมรับเมื่อคิดตาม“แต่เรื่องนั้นย่อมสำคัญเช่นกัน ครานี้แม่นำของสำคัญที่จะช่วยเจ้าได้มามอบให้อีกหลายอย่าง รับรองว่าองค์ชายผู้นี้จะไม่อาจมีหญิงอื่นได้อีกนานทีเดียว” แม่เล้าใหญ่ส่งมอบถุงผ้าขนาดใหญ่ให้สาวน้อยซึ่งรีบขอบคุณอย่างซึ้งในน้ำใจสองสาวต่างวัยพากันออกไปเดินเลือกทำเลการค้าแล้วนั่งลงปรึกษากันอย่างคร่ำเคร่ง ด้วยมีหอคณิกาอยู่แล้วหลายแห่งในเมืองหลวง สองสาวจึงเลือกตั้งหอคณิกาแห่งใหม่ในทำเลที่ไม่ได้อยู่
ท่อนเนื้ออวบถูกนางดูดกลืนเข้าออกสลับกับเลียวนไล่ขึ้นๆลงๆจนกายแกร่งเกร็งเสียวร้องเสียงแหบพร่า“อ้า...เจ้าช่างเก่งจริง ชายารัก ยิ่งกลืนกินเจ้ายิ่งสร้างความสุขให้ข้ามากขึ้นทุกที แล้วอย่างนี้ข้าจะไม่คอยให้ท้ายเจ้าได้อย่างไร โอ้ววว”“หากอยากมีความสุขย่อมต้องให้ท้ายข้า” สาวน้อยยังคงได้ทีด้วยแท่งสวาทอยู่ในกำมือนางปากบางรูดเข้ารูดออกรัวเร็วจนหน้าหล่อเหลาขององค์ชายหนุ่มแหยเกด้วยความซ่านเสียวก่อนจะทนไม่ไหวปล่อยน้ำรักออกมาจนเต็มปากบาง“เจ้าเก่งมากเพียงนี้ ข้าคงต้องยอมตายคาปากของเจ้าเสียแล้ว” เมื่อสุขสมใจคำของชายหนุ่มจึงเอ่ยออกมาโดยไม่คิดมาก“เชอะ ก่อนท่านจะตายข้าต่างหากที่ต้องตายเสียก่อนหากยังโดนท่านใช้งานอย่างหนักทุกคืนเช่นนี้”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หนักที่ใดกัน เจ้าเองเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ข้าดุเดือดรุนแรงเอง บางคราวยังขย่มจนข้าแทบแย่”“นั่นเพราะท่านชื่นชอบเช่นนั้น ข้าจึงอยากให้ท่านพอใจ”“เอาเป็นว่าพวกเราต่างเติมเต็มให้กันอย่างดี คราวนี้เจ้าหันก้นขาวๆมาได้แล้ว มัง
ตอนพิเศษหนึ่งกินของอร่อย ฮัวหลี่น่าได้รับการเติมเต็มอย่างสุขสันต์จากท่อนกายใหญ่ล่ำเกือบทุกค่ำคืน หญิงสาวเคยเฝ้าฝันว่าจะได้ความแข็งแกร่งมาสอดใส่ร่องดอกไม้อันคับแน่น อีกทั้งยังคิดถึงชายหนุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างความเสียดเสียวอย่างที่เคยเห็นมาจากเหล่าพี่สาวคณิกาทั้งหลาย ไม่น่าเชื่อว่านางช่างโชคดีที่สุดท้ายแล้วได้ใช้ชีวิตอยู่กับองค์ชายหนุ่มรูปงามและยังมีแท่งเนื้อทั้งใหญ่แน่น ทั้งยาวอวบ ทั้งแข็งแรง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเชี่ยวชาญด้านกามาจนพลิกแพลงได้ทุกท่วงท่า ลีลารักของเขาสร้างความสุขสมแก่นางจนติดอกติดใจร่ำร้องหาอยู่มิวาย องค์ชายหนุ่มเองย่อมติดใจในร่องดอกไม้แดงอันตอดรัดดีเช่นกัน เขารู้ว่าหญิงสาวมีเคล็ดลับเพื่อรักษาความคับแน่นและการตอดรัดถี่อั
ตอนพิเศษสองชิงอ้ายเหม่ยส่ายหัวให้กับความกระสันอยากซึ่งไม่เคยลดน้อยลงของสามีหนุ่ม เมื่อเขาสอดแทงท่อนลำใหญ่โตเข้ามาจนจุกแน่น หญิงสาวจึงยืนนิ่งรองรับการกระแทกที่กำลังจะตามมา นางยืนรอรับท่อนลำอวบใหญ่ยาวซึ่งสอดเข้าดึงออกในช่องทางคับแน่นอย่างฮึกเหิม ด้วยท่วงท่ายืนกระแทกกระทั้น ชายหนุ่มยิ่งส่งพลังสะท้านสะเทือนจนหญิงสาวต้องใช้มือยันก้อนหินเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้โดนกระแทกจนล้มลงท่อนลำยักษ์ตอกกระแทกเข้ามาชนกับส่วนลึกสุดด้านในอย่างคึกคัก ทั้งยามแทงเข้าและยามถอนออก ส่วนอวบแน่นครูดกับส่วนเสียดเสียวภายในโพรงรักเรียกความกระสันอยากจนสาวน้อยส่งเสียงดังก้องป่า“ซี้ดดดด อ้า...พี่หยาง ข้าเสียวเหลือเกิน”“จงร้องให้ดัง อีกเดี๋ยวจะเสียวยิ่งกว่านี้ อูววว ร่องรูของเจ้ารัดแท่งเนื้อของพี่แน่นเหลือเกิน”ภายในร่องรักแม้จะโดนกระหน่ำมาหลายคราแต่ยังคงดูดกระชับเข้ากันดีกับแก่นกายใหญ่โต เอวอันแข็งแกร่งขยับเข้าออกเป็นจังหวะส่งเสียงดังป๊าบ ป๊าบ ราวดนตรีอันมีท่วงทำนอง&n
ตอนพิเศษสองกลางสายลมแสงแดดบนภูสูงชิงอ้ายเหม่ยหรือเถาหลี่น่ามักขอให้หวังตงหยางพาไปยังห้องเก็บสมบัติลับโดยอ้างว่าเพื่อแต่งกายงดงามด้วยอัญมณีมีค่าและแพรพรรณงามล้ำแล้วเดินไปเดินมาอย่างมีความสุขในที่แห่งนั้นแต่ความเป็นจริงย่อมเพื่อหาของสำคัญที่ต้องการจนพบเจอต่างหากหลังจากนั้นนางจึงใช้ข้ออ้างเพื่อศึกษาหนทางการเข้าออกให้แน่ใจอีกทั้งยังเสาะหาสมบัติอื่นซึ่งน่าจะพอหยิบฉวยออกไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้แม้หวังตงหยางจะไม่เข้าใจในการเดินไปเดินมาแล้วยิ้มแย้มชื่นชมของสวยงามราวคนบ้าของเมียรัก แต่เขาย่อมตามใจด้วยหลังจากนั้นนางมักอารมณ์ดีและยินยอมให้เขาพาไปบรรเลงบทรักเร่าร้อนกันอย่างถึงอกถึงใจ“วันนี้พวกเราไปที่ใดกันดี”เมื่อเห็นว่าหญิงสาวจัดวางข้าวของเก็บเรียบร้อยแล้ว โจรหนุ่มจึงก้าวเข้ามาโอบประคองเพื่อปลุกอารมณ์ให้นางได้คล้อยตามเขามองดูนางผลัดเปลี่ยนชุดงดงามเข้าๆออกๆจนแท่งเนื้อแข็งตุงทิ่มแทงกางเกงแทบขาดแล้ว หากช้ากว่านี้คงได้แต่จับนางยัดร่องกลางถ้ำสมบัติเป็นแน่“บนภูเขาดีหรือไม่ ข้างล
“อืม...เจ้านี่เรียนรู้เร็วจริง” แม่เล้าใหญ่ชื่นชมเมื่อเห็นสาวน้อยทำตามได้อย่างดี ร่างซึ่งยังคงงดงามสมวัยหันกลับมาสอนต่ออย่างตั้งใจ“ต่อจากนั้น เจ้าก็ค่อยๆใช้ลิ้นเลียเล่นให้ทั่วแท่งเนื้อ เลียขึ้นเลียลงราวนี่คืออาหารอันเลิศรส ยิ่งเลียยิ่งได้รสชาติอร่อยจนไม่อาจหยุดได้ ไม่ว่าจะเลียตรงที่ใดล้วนได้รสดีทั้งสิ้น”“ส่วนมือของเจ้าอย่าปล่อยให้อยู่ว่าง ควรจับแท่งเนื้อเอาไว้ให้เลียได้ถนัด จะพลิกไปพลิกมาหรือจับตั้งตรงไว้ก็ย่อมได้ หรือจะเอื้อมไปกอบกุมคลึงเคล้นก้อนตุ่มอีกลูกของพวกเขาก็ย่อมได้เช่นกัน”เสียงสั่งสอนยังลอยออกมาพร้อมท่าทางประกอบอย่างเชี่ยวชาญ“เมื่อขาที่สามนี่ทั้งแข็งทั้งตั้งชันแล้ว เจ้าจึงค่อยใช้มือประคองส่งเข้าปาก โดยปากของเจ้าต้องอ้าให้กว้างเข้าไว้ ระวังอย่าให้ฟันแข็งขูดโดนแท่งเนื้อมิเช่นนั้นแทนที่จะเสียวจะกลายเป็นเจ็บแทน ค่อยๆครอบลงมาทีละน้อยช้าๆ อย่าได้เร็วเกินไปเพื่อให้พวกเขาลุ้นจนตัวสั่นไม่ว่าแท่งเนื้อจะเล็กหรือใหญ่ อย่างไรปากของพวกเราย่อมไม่อาจครอบครองได้ทั้งหมด ดังนั้นส่วนที่เหลือด้านนอกนี่จึงเป
ตอนพิเศษหนึ่งฝึกฝนความเสียวซ่านเถาหลี่น่าถูกพามาส่งถึงมือของแม่เล้าใหญ่แห่งหอคณิกาตั้งแต่ยังไม่เต็มวัยสาว เด็กน้อยได้รับการฝึกฝนวิชาต่างๆมามากแล้ว หัวหน้าเถาโจวหย่งจึงอยากให้นางได้รับการสั่งสอนกลเม็ดเคล็ดลับของหญิงสาวเพื่อสามารถใช้เล่ห์มารยาได้อย่างดีที่สุดคราแรกเด็กสาวย่อมเขินอายและไม่อยากเรียนรู้ด้วยคิดว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจจนเมื่อนางได้แอบไปเห็นพี่สาวคนหนึ่งในหอสมสู่กับแขกถึงสิบกว่าคน พวกเขากลุ้มรุมบนตัวของหญิงสาวนางนั้นอย่างน่าสงสารจนเด็กน้อยทนไม่ไหวตัดสินใจออกไปห้ามปรามและต่อสู้กับคนพวกนั้นแม้นางจะมีฝีมือดีแต่ด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิดและตัวที่เล็กบาง ไม่นานจึงถูกจับโยนออกมา โชคดีที่ร่างของนางยังเล็กจ้อยพวกเขาจึงไม่ใส่ใจที่จะหันมาย่ำยีนางแทนแขกชายคนหนึ่งโมโหที่ไม่ได้ย่ำยีบนกายของคณิกาสาวนางนั้นด้วยเข้าไปแย่งชิงไม่ทันจึงหันมาใส่อารมณ์กับเด็กน้อยร่างหนาถลาเข้ามาบีบคอเล็กจนหน้าเขียวคล้ำหายใจไม่ออก วินาทีแห่งความเป็นความตาย เถาหลี่น่าได้แต่หลับตายอมรับชะตากรรมที่แส่หาเรื่องเข้าไปวุ่นวายกับผู