ตอนที่ห้า
ดีหรือไม่
“แล้วพวกเขาได้สอนให้เจ้าช่วยตนเองบ้างหรือไม่” เมื่อตนเองสุขสมใจแล้ว เถาโจวหย่งจึงคิดอยากลองช่องคับแคบซึ่งเห็นมาตั้งแต่ยังไม่เบ่งบานดูบ้าง
“สอนเจ้าค่ะ สอนให้ข้าใช้นิ้วละเลงสร้างความเสียวให้ตนเอง”
“แล้วดีหรือไม่”
“ข้าชอบ ความรู้สึกเสียวซ่านช่างสุขสันต์ แต่ท่านแม่บอกว่าหากให้ผู้อื่นทำจะดีกว่า”
“เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าได้เสียวกว่าที่เคย”หัวหน้าเถาโจวหย่งจับร่างบางขึ้นนอนลงบนเตียง มือหนาจับเรียวขาขาวผ่องอ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้งามและเนินขนนุ่มฟู
มือร้อนลูบไล้ผ่านเนินนูนและขนนุ่มไปยังสองกลีบแดงอันเจิ่งนองไปด้วยน้ำหวานใส
“อืม...เพิ่งโดนสอดใส่ไม่กี่ครา ร่องของเจ้ายังคงคับแคบ
อยู่มาก” นิ้วร้อนถูกสอดแยงสำรวจความคับแน่นก่อนจะวกมาบดคลึงยังติ่งเสียวขณะอีกมือลูบขึ้นคลึงเคล้นก้อนเนื้ออวบด้านบน
“อ้า...ดียิ่ง บดอีกเจ้าคะ อู้ววว เสียวกว่าใช้นิ้วของตนเองจริงด้วย”
ร่างเล็กแอ่นหลังยกสะโพกส่งเนินโหนกนูนและร่องชมพูแดงให้หัวหน้าหนุ่มได้คลึงเคล้นอย่างถนัด แม้ลลินาจะรู้ดีว่าการให้ผู้อื่นช่วยสร้างความเสียวย่อมซ่านกระสันได้มากกว่า แต่หญิงสาวจำต้องเอ่ยคำระทึกใจด้วยนี่เป็นครั้งแรกของเด็กสาว
ปากเล็กบ่นพึมพำถึงชายคนแรกที่ได้เบิกร่องสร้างหนทางในโพรงถ้ำของตนเอง
“คุณชายข่งผู้นั้นช่างอ่อนด้อย เขาไม่เคยเล้าโลมข้าเช่นนี้สักครั้ง ที่สำคัญคือเขาไม่เคยร่วมรักมาก่อน ครั้งแรกของข้าจึงเจ็บปวดนักจนข้าแทบไม่อยากให้เขาสอดใส่อีก ยังดีที่ครั้งหลังๆค่อยดีขึ้นพอได้สุขสมบ้าง
แต่เขากลับไม่มีเรี่ยวแรงด้วยเป็นเพียงบัณฑิตน้อย แต่ละคราเพียงโยกร่างไม่กี่ทีก็ใช้การไม่ได้แล้ว ข้าโดนทิ้งค้างอยู่หลายคราวจนท้อแท้ เด็กหนุ่มเช่นนั้นไหนเลยจะสู้หัวหน้าได้”
เสียงเล็กเอ่ยชมทั้งๆที่ยังไม่เจอของจริง
“ฮ่า ฮ่า เจ้ายังไม่โดนข้าใส่เข้าไป ไม่ต้องทำเป็นมาประจบ อีกเดี๋ยวจะร้องไม่ออก ท่อนกายของข้าทั้งใหญ่โตและอวบอ้วน นั่นคือสาเหตุที่ข้าไม่เบิกร่องกลีบของเจ้าเป็นคนแรก ขืนให้เจ้าโดนของใหญ่เข้าไปตั้งแต่คราแรก คงติดใจจนไม่เหลือบแลชายอื่น และร่องรูของเจ้าอาจไม่คับแน่นดังเดิมอีก”
“หัวหน้าช่างคุยโม้นัก เรื่องความคับแน่น ท่านแม่ได้สอนวิธีการที่ดีมาให้แล้ว ท่านไม่ต้องห่วงกังวล อ้า...” ยามนี้เถาหลี่น่าโดนปากหนาดูดดึงทั้งเม็ดติ่งกลางบัวงามและติ่งเกสรกลางร่องน้ำฉ่ำ จึงจำต้องหยุดคำพูดและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความซ่านเสียว
“เสียวดีหรือไม่”
“อืม...ดีกว่าทำเองมาก”
“เช่นนั้นต้องให้ข้าช่วยบ่อยๆ”
“ท่านบอกเองว่าหากโดนของใหญ่บ่อยเกินไปจะส่งผลต่อความคับแน่น”
“เจ้าเพิ่งบอกว่ามีวิธีดีจากแม่เล้าใหญ่”
“เช่นนั้นลองดูก่อนก็แล้วกัน อ๊ายยยยยย”
เถาโจวหย่งรัวลิ้นละเลงเร็วด้วยไม่พอใจที่สาวน้อยเกี่ยงงอนท่อนเนื้ออวบใหญ่ของเขา
แจ็บ แจ็บ แจ็บ
ลิ้นร้อนเลียเร้าแยงแหย่ช่วยกันกับนิ้วอุ่นซึ่งควานล้วงเข้าไปในโพรงถ้ำจนฉ่ำแฉะ เถาหลี่น่าไม่เคยโดนปลุกเร้าถึงเพียงนี้แม้แต่ลลินาเองก็ไม่เคย กายบางจึงแอ่นร่างบิดเร่าจนกระตุกเกร็งตอดรัดรัว
“ร่องน้ำของเจ้าตอดรัดดียิ่ง”
“ร่องสดใหม่ย่อมต้องตอดดี” สาวน้อยตอบโต้ทุกถ้อยคำ
“เช่นนั้นลองดูว่าโดนแท่งทวนของข้าเข้าไปจะยังตอดถี่อยู่อีกหรือไม่”
เถาโจวหย่งอดรนทนไม่ไหวรีบยกร่างขึ้นจ่อท่อนกายเข้าทางปากถ้ำน้ำแล้วกดเข้าไปทีละน้อยจนมิดลำ
“โชคดีที่มีผู้เบิกหนทางแล้ว เจ้าจึงไม่เจ็บมากนัก”
“แต่ท่อนเอ็นของท่านใหญ่โตมากจนข้าจุกแน่นไปหมดแล้ว”
“ค่อยๆผ่อนคลายแล้วเจ้าจะพบความเสียวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
“หัวหน้า ท่านหยุดรออีกครู่ให้ข้าหายใจอีกหน่อย”
“ได้ อย่านานนัก มังกรของข้าอยากกลายร่างสำรวจถ้ำของเจ้าเต็มทีแล้ว”
“เอาล่ะ เริ่มได้”
ทันทีที่ได้รับการพยักหน้าจากสาวน้อย ชายหนุ่มจึงโยกร่างชักท่อนลำมุดเข้ามุดออกอย่างคึกคัก มังกรแกร่งสำรวจไปทั่วอย่างฮึกเหิมทั้งผลุบเข้าผลุบออก เสียดสีไปทั่วร่องจนร่างบางสะท้านเสียว เมื่อได้จังหวะเหมาะสะโพกหนาจึงตอกกระแทกถี่รัวเร็ว แรงจนเตียงสั่นสะเทือนสะท้านไหวดังสนั่น
เอี๊ยด อ๊าด อ๊าด อ๊าด
ปัก ปัก ตับ ตับ ตับ
เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องจนเถาหลี่น่าแอบตกใจในความดุเดือด แต่หญิงสาวยังคงแอ่นร่างยกสะโพกสอดรับการโยกขย่มอย่างไม่หวั่นเกรงด้วยความกระสันอยาก
ยิ่งได้รับความรุนแรง หญิงสาวยิ่งเร่าร้อนโยกร่างรองรับอย่างรัญจวนใจ เสียงครางเปล่งออกมาไม่หยุดด้วยความเสียวซ่านเกินกว่าที่เคย
“อ๊ายยยย เสียว ข้าเสียว อ้า..ท่อนใหญ่ของหัวหน้าช่างดีเหลือเกิน อู้ววววว”
“เสียวดีหรือไม่”
“ดี เอาให้แรงอีกหัวหน้า”
“ได้ อยากได้แรงเท่าใดข้าจะจัดการให้”
ตับ ตับ ตับ
เสียงเนื้อกระทบกันรุนแรงขึ้นอีก เถาหลี่น่าถูกขย่มตัวโยกโยนผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่หญิงสาวยังคงกระแทกสู้โดยไม่ปริปากบ่นแม้ร่องดอกไม้จะโดนกระทบจนบวมแดงแล้ว
“โอ๊ยยย เสียว ข้าเสียวมากกกกก”
สาวน้อยโอดครวญด้วยยังไม่เคยพบความเสียวซ่านสะท้านทรวงถึงเพียงนี้ หญิงสาวเสียวจนตัวแอ่นเกร็งหลังยกลอยแทบไม่แตะเตียงแล้ว
ท่อนลำใหญ่มุดแทรกเข้าออกทั้งเสียดสีทั้งลากครูดกับจุดอ่อนไหวด้านในจนเสียดเสียว เอวสอบถอนท่อนปูดโปนออกก่อนจะสวนกลับเข้าไปใหม่ แท่งเนื้อใหญ่ราวได้ใจโยกเข้าโยกออกถี่รัว
เถาหลี่น่าส่งเสียงครวญคร่ำกรีดร้องด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เสียงเล็กตะโกนร้องขออย่างลืมอายสลับการสูดปาดครวญครางเสียงกระเส่าราวจับไข้ยามของใหญ่กระแทกเข้าใส่จนเต็มร่อง
“ซี้ดดดด อ้า...อู้วววว...”
มิน่าเล่า เหล่าพี่สาวที่หอคณิกาจึงติดอกติดใจ แม้ในวันหยุดก็ยังเสาะหาชายหนุ่มมาเติมเต็มร่องสวาทสร้างความสุขสมอยู่ไม่รู้หน่าย ท่อนลำใหญ่ช่างดีเช่นนี้เอง
หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตที่คับแน่นอยู่ข้างใน นางชะโงกมองกลางกายสาวของตนเองซึ่งโดนสลักปักตรึงด้วยทวนด้ามใหญ่ ลำเอ็นยาวทั้งถูกดึงออกจนเบาโหวงทั้งแทงเข้าไปได้ลึกจนจุกเสียว
เถาหลี่น่าแทบต้องกัดปากเพื่อกลั้นเสียงร้องที่อยากจะเปล่งออกมาจนสุดเสียงทุกครั้งที่ท่อนเอ็นแกร่งขยับเข้าออก ยิ่งเขากระแทกแรงนางก็เด้งสอดรับเร็วจนท้องน้อยบีบรัดกระตุกเกร็ง
“โอ้ว ร่องรูของเจ้าช่างคับแน่นเสียจริง บีบรัดจนข้าแทบทนไม่ไหวแล้ว”
“ข้าก็เสียวจนแทบไม่ไหวแล้ว อู๊ยยยย อ้า...ซี้ดดดด”
ร่างเล็กกระตุกค้าง ยกสะโพกลอย จิกขา กำมือ ภายในตอดรัดถี่รัวเป็นสัญญาณของการถึงฝั่งฝัน
เถาโจวหย่งเร่งแรงตอกกระแทกเพื่อส่งตัวเองตามไปอย่างไม่รั้งรอ
“อ๊ากก เสียวท่อนจริงโว๊ย”
เสียงตะโกนบ่งบอกความเสียวจนเกินทนไหวพร้อมน้ำเหนียวสีขาวถูกพ่นใส่ในโพรงถ้ำ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนซึ่งไหลเข้ามาจนล้นร่อง
เถาโจวหย่งเบิกร่องขย่มช่องทางหลังจากรอคอยมาหลายปี ท่อนใหญ่ลำอวบสอดใส่ทิ่มแทงอยู่ในร่องน้ำฉ่ำแทบทั้งคืน น้ำข้นเหนียวถูกหลั่งออกมาจนเลอะเปรอะเปื้อนเต็มเตียงและพื้นห้อง
ด้วยความถึกทนของสองร่างซึ่งต่างไม่ยอมแพ้กัน พวกเขาจึงโยกตอกกระหน่ำทิ่มแทงใส่กันไม่ยั้งจนฟ้าสว่างคาตา
ตอนที่หกชายสูงวัยเถาหลี่น่าลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อสายมากแล้ว เมื่อคืนนางจำแทบไม่ได้ว่าแตะสวรรค์ไปกี่ครา หัวหน้าเถาโจวหย่งช่างแข็งแรงทรงพลังจนนางสั่นเกร็งแทบขาดใจตายถึงยามนี้ร่างบางจึงปวดท้องจากความเกร็งเสียวต่อเนื่องและปวดร้าวไปทั่วร่างด้วยไม่คุ้นเคยกับการร่วมรักอย่างหนักหน่วงมาก่อนสาวน้อยก้มลงมองร่องดอกไม้ซึ่งแดงช้ำอย่างน่าสงสาร น้ำขุ่นขาวยังหลงเหลือเป็นคราบทั้งในร่องน้ำและหว่างขา ร่องรอยแดงของถูกขยำทั้งนิ้วและฟันถูกประทับไว้จนทั่วทรวงอวบอิ่มและไหล่บางเฮ้อ...คงต้องพักอีกหลายวัน เถาหลี่น่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าด้วยโดนเคี่ยวกรำอยู่ทั้งคืน นางยังเยาว์วัยนักและไม่เคยได้รับความเสียวซ่านเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ลลินาเองก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้รับการเติมเต็มความกระสันอย่างสุขล้นเท่านี้มาก่อนเช่นกันยังดีที่ร่างนี้อายุน้อย แข็งแรง จึงฟื้นฟูได้เร็ว หัวหน้าเถานำอาหารมาให้ลูกศิษย์สาวถึงเตียงนอน
ตอนที่เจ็ด ศึกษาเล่าเรียน “ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่ที่บ้านสกุลสวี พวกเขามีญาติฝั่งมารดาอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว เจ้าจะปลอมเป็นญาติสาวน้อยซึ่งถูกส่งไปศึกษาเล่าเรียนยังสำนักศึกษาในตัวเมือง ด้วยความจำเป็นนี้จึงต้องพักอาศัยที่นั่น” “จะให้ข้าขโมยของที่บ้านนั้นหรือ” “ไม่ใช่ ของสำคัญในครานี้คือตำราลับหายากซึ่งถูกเก็บรักษาอยู่ที่หอตำราชั้นสูงสุดในสำนักศึกษา ชื่อและข้อความบางส่วนอยู่ที่นี่ เจ้าจดจำเอาไว้” กระดาษเล็กถูกส่งมาให้เถาหลี่น่าได้อ่านและจำให้ได้ “ในเมื่อของอยู่ที่สำนักศึกษา เช่นนั้นข้าก็ต้องหาโอกาสระหว่างเข้าเล่าเ
ตอนที่แปด รู้จักข้าน้อยไปเมื่อถึงสำนักศึกษา สาวน้อยรีบเดินไปลงชื่อรายงานตัวจากนั้นจึงเดินหาห้องเรียนและมองหาที่นั่ง ด้วยสำนักศึกษาแห่งนี้รับเด็กทั้งชายหญิงจากหลายเมืองเข้ามาศึกษาเล่าเรียนโดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงมีเด็กหนุ่มสาวมาเรียนกันมากจนต้องแบ่งออกเป็นหลายห้องเรียน เดิมทีหลินหลี่น่าต้องเรียนรวมกับเด็กหญิงในชั้นต้นตามระเบียบ แต่ด้วยหัวหน้าเถาสร้างเรื่องให้นางเก่งกาจจนได้เลื่อนระดับชั้นมาเรียนร่วมกับเด็กชายในชั้นสูง หญิงสาวจึงเป็นเพียงสาวน้อยไม่กี่คนที่ได้นั่งเรียนร่วมกับชายสูงศักดิ์หลายคน เมื่อถึงห้องเรียนและอ่านจนแน่ใจว่าถูกต้อง หลินหลี่น่าจึงกวาดตามองหาสวีเจินจื้อด้วยคิดว่าเขาน่าจะอยู่ห้องเดียวกัน นับว่านางคิดไม่ผิดเมื่อเห็นร่างชายห
ตอนที่เก้า มารยาหญิงซูหวังเหล่ยซึ่งถูกตามตัวมารีบเข้ามาห้ามและสั่งการให้แยกย้ายอย่างเอือมระอา ขณะหลินหลี่น่าซึ่งยืนฟังราวกับเป็นคนนอกยืนยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ แต่เมื่อเห็นว่าศิษย์พี่มองมาทางตนเองจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหมองเพื่อเรียกความสงสาร“เจ้าเป็นญาติของสวีเจินจื้อหรือ”“เจ้าค่ะ แต่พวกเราไม่อาจเทียบสกุลสวีได้”“เรื่องฐานะเป็นเพียงของนอกกาย มีขึ้นย่อมมีลง มีเงินมากไม่แน่ว่าสักวันอาจมีน้อยก็ได้ หากเจ้าขยันหมั่นเพียรศึกษาเล่าเรียน ไม่แน่กาลข้างหน้าอาจมีโอกาสสร้างเงินสร้างฐานะที่สูงกว่าเขาก็เป็นได้”“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” หลินหลี่น่ายิ้มหวานให้ซูหวังเหล่ย กิริยาท่าทางของสาวน้อยคล้ายไร้เดียงสาแต่ความจริงยั่วยวนอย่างเต็มที่จนซูหวังเหล่ยใจสั่น“สวีเจินจื้อหนีขึ้นรถม้ากลับไปแล้ว แล้วเจ้าจะกลับอย่างไร”“ข้า...ข้าคงต้องเดินกลับไปเจ้าค่ะ”“พี่ไปส่งเจ้าดีกว่า ไป พวกเรากลับกัน”หลิน
ตอนที่สิบ แก้ขัด ภาพแรกย่อมเป็นการจุมพิตปากเพื่อเริ่มต้นการเล้าโลม ซูหวังเหล่ยเคยเที่ยวในหอนางโลมอยู่หลายคราด้วยมีอายุ21แล้ว จึงตรงเข้าโลมเลียจุมพิตหวานกับปากบางเป็นการปลุกเร้า “น้องหลี่หลี่ยื่นลิ้นออกมาต่อสู้กันจึงจะสนุก” “ได้ ข้าไม่ยอมแพ้แน่” ลิ้นทั้งสองตวัดเกี่ยวโจมตีดึงดันอยู่ในโพรงปากอุ่นจนน้ำใสไหลย้อยออกมา ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กเอาไว้อย่างแนบแน่นเพื่อจุมพิตอย่างถนัดถนี่จนรู้สึกได้ถึงความอวบหยุ่นซึ่งเด้งไหวไปตามแรงหอบหายใจของกายบาง “น้องหลี่หลี่หายใจแรงมาก เหนื่อยหรือ”&
ตอนที่สิบเอ็ดใช้เต้าไต่ชายหนุ่มเป็นเพียงหนอนตำราอ่อนแอจึงโยกร่างส่งท่อนกายผลุบเข้าผลุบออกได้ไม่กี่ครา เพียงหลั่งน้ำขุ่นข้นได้สองหนก็หมดเรี่ยวแรงนอนซบบนอกอวบหอบหายใจถี่แรงหลินหลี่น่าแตะสวรรค์ไปได้เพียงสองคราเช่นกัน แม้จะสุขสมด้วยห่างหายมานานอีกทั้งยังตื่นเต้นเร้าใจจากการต้องหลบซ่อนสายตาหลังชั้นตำราจนไม่อาจเปล่งเสียงแห่งความรัญจวนใจได้ดังอย่างที่ต้องการหญิงสาวยังคงรู้สึกไม่เต็มอิ่มด้วยโดนกระแทกเพียงเบาแรง แต่ด้วยไม่อาจแสดงออกจึงทำได้เพียงนอนหอบหายใจเช่นกันซูหวังเหล่ยนำผ้าออกมาเช็ดน้ำขุ่นเหนียวออกขณะหลินหลี่น่ารีบก้มหน้ากัดนิ้วให้เลือดออกแล้วหยดใส่ลงบนผ้าทำทีเป็นเลือดพรหมจรรย์ได้สำเร็จด้วยแสงไฟสลัวช่วยให้มองได้ไม่ชัดเจนนักชายหนุ่มดูแลช่วยสวมใส่เสื้อผ้าก่อนจะโอบประคองพาสาวน้อยซึ่งแสร้งทำเป็นเดินอย่างเจ็บปวดกลับไปส่งยังบ้านสกุลสวีอย่างเงียบเชียบหลินหลี่น่าได้ความสนิทชิดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอีกขั้น จึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับซูหวังเหล่ย ทั้งหวังให้เขาช่วยพาขึ้นไปให้ใกล้ชั้นสูงสุดของหอตำร
ตอนที่สิบสองเจ้าต้องอยู่ใต้ร่างข้ามือหนาจับเรียวขาเนียนอ้าออกจนกว้างเผยร่องดอกไม้แดงสดและสองกลีบมิดชิด เพียงลูบไล้น้ำหวานใสก็หลั่งไหลออกมาสัมผัสนิ้วบ่งบอกว่าสาวน้อยมีอารมณ์แล้ว “หลินหลี่น่าเจ้านี่ช่างร่านนัก ยังไม่ทันไรก็หลั่งน้ำออกมาแล้ว” “พี่เจินจื้อทั้งจับทั้งดูดเพียงนั้น หากข้าไม่มีน้ำใสไหลออกมา ย่อมถือว่าพี่ไร้ฝีมือ” หญิงสาวโต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว “เจ้านี่วอนเสียแล้ว เช่นนั้น วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้ความร่านของเจ้าได้สงบลงเสียบ้าง เจ้าต้องนอนอยู่ใต้ร่างข้าคร่ำครวญจนแทบขาดใจแต่อย่าหวังว่าข้าจะใจอ่อน” สวีเจินจื้อจับตัวหนอนซึ่งอ้างว่าเป็นแท่งทวนเข้าจ่อใส่ร่องกุหลาบน้ำด้วยความโมโหชายหนุ่มจ
ตอนที่สิบสามลงโทษจนเริ่มหายเหนื่อย สาวน้อยจึงเริ่มเอ่ยคำท้าทายอีก“พี่เจินจื้อจะลงโทษข้าเพียงเท่านี้ใช่หรือไม่”“ไม่ ข้าจะลงโทษเจ้าทุกคืน อย่าได้หวังจะได้เผยอหน้าไปตีเสมอผู้อื่นอีก”“แต่หนอนเหี่ยว เอ๊ย...แท่งทวนของพี่บัดนี้นอนหลับหมดแรงแล้ว”“เจ้า...หลินหลี่น่า เจ้าเพิ่งโดนข้ากระแทกไปอย่างแรงถึงสองครา ป่านนี้ร่องกลีบคงช้ำระบมไม่อาจเดินตรงได้แล้ว ยังกล้าเอ่ยคำเช่นนี้อีก เจ้าคงไม่อยากนอนหลับดีดีแล้ว”“ข้าเพียงรู้สึกผิด อยากให้พี่เจินจื้อได้ลงโทษจนสมใจ จะได้ไม่แสดงท่าทีรังเกียจข้าอีก”“อย่าหวังว่าข้าจะดีกับเจ้า ที่ข้ากระแทกร่างเจ้าก็เพื่อให้เจ็บเป็นการสั่งสอนลงโทษ คราวนี้เจ้าไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์อีกแล้ว อย่าหวังจะใช้เต้าไต่อันใดของเจ้าอีก”“ข้าเข้าใจแล้ว” หลินหลี่น่าแสร้งทำเสียงเศร้าอย่างน่าสงสารจนชายหนุ่มใจอ่อนยวบที่รังแกนางจนเสียพรหมจรรย์ถึงอย่างไรสาวน้อยนางนี้ก็มีศักดิ์เป็นญาติผู
ตอนที่ห้าสิบห้า แผนการเป็นชายา “ข้านับเป็นคนแคว้นเหลียง จะนับญาติอันใดได้ พวกเขาแล้งน้ำใจกับมารดาถึงเพียงนั้น จะถามหาน้ำใจใดกับข้าได้หรือ”“อืม...ก็จริง”“หากข้าตั้งใจนับญาติกับพวกเขา อาจโดนคิดว่ากำลังหาทางยึดครองแคว้นจ้าวก็เป็นได้”“กลายเป็นเช่นนั้นไป”“คนแคว้นจ้าวต่างหวาดระแวงไม่เชื่อผู้อื่น แคว้นเราไม่ใคร่มีผู้ใดอยากเดินทางไปนักหรอก”“ยิ่งคนในราชวงศ์ยิ่งใช้ไม่ได้”เมื่อนึกถึงการโดนหลอกใช้ให้ขโมยของต่างๆที่ผ่านมา เถาหลี่น่าจึงเอ่ยคำนี้ออกมา“เจ้าเห็นด้วยกับข้าแล้วหรือ”“ข้าเห็นเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”เมื่อไม่เห็นความสำคัญในการพูดคุยเรื่องของแคว้นจ้าว เถาหลี่น่าจึงเปลี่ยนมาสอบถามเรื่องในแคว้นเหลียง“ทุกวันนี้ ท่านดูแลงานด้านใดหรือ”“เดิมทีเสด็จพ่อไม่ได้มอบหมายให้ข้าทำงานด้านใดเป็นพิเศษ แต่หลังจากนี้ข้าจะทูลขอทำงานด้านการข่าว ดีหรือไม่”
บนโต๊ะอาหาร สองหนุ่มสาวพูดคุยกันแผ่วเบาราวกำลังหวานชื่น แต่เรื่องที่คุยกลับเป็น“คนของเราสืบหาอยู่นานยังไม่พบเบาะแสว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นคนของผู้ใด พวกเขาล้วนเป็นนักฆ่าที่ถูกจ้างมา จึงไม่อาจเจาะลงไปถึงผู้ว่าจ้างได้”“ให้หัวหน้าของข้าช่วยดีหรือไม่”“อืม...ดี เจ้าเร่งติดต่อไป อ้อ...ชุดพวกนี้เจ้าชอบหรือไม่”“ชอบมาก ขอบคุณ”“ของพวกนี้ข้ามอบให้เจ้า อีกหน่อยจะมีมากกว่านี้”“อยู่ที่นี่สบายดีมาก อีกนานหรือไม่ที่พวกเราต้องเข้าไปในวังหลวง”“เจ้าไม่อยากไปล่ะสิ”“ย่อมไม่อยาก อยู่ที่นี่ข้าเป็นใหญ่ อยากทำสิ่งใดล้วนไม่มีผู้ใดขัดขวาง”“เอาเถอะ หากมีเวลา เจ้าก็หาทางออกมาพักผ่อนหย่อนใจหรือใช้ชีวิตที่ชอบได้”“ได้หรือ”“ย่อมได้ ข้าเองมีงานมาก อาจไม่มีเวลาปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลา การที่เจ้าออกมาข้างนอกบ้างอาจดีกว่า”“ดี เยี่ยมเลย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มแย้มเต็มหน้าจึงบัง
ตอนที่ห้าสิบสี่รุนแรงสองหนุ่มสาวตกลงกันอย่างจริงจังราวเป็นเรื่องการค้ามิใช่เรื่องสามีภรรยา จนเมื่อตกลงกันได้เรียบร้อย มือหนาของชายหนุ่มจึงเริ่มขยับเขยื้อนเข้าคลึงเคล้นสองก้อนเต้าซึ่งกระเพื่อมไหวหลอกล่ออยู่ตรงหน้า“พวกเราเปลือยร่างตกลงเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ควรทำเรื่องของสามีภรรยาให้สมบูรณ์ใช่หรือไม่”“เชอะ มิใช่ว่าพวกเราทำเรื่องสามีภรรยากันมาหลายคราแล้วหรือ”“จะกี่คราข้าก็ยังติดใจในตัวเจ้าเช่นเดิม เถาหลี่น่า เจ้าใช้ยาเสน่ห์ใดหรือไม่ เหตุใดข้าจึงอยากซุกไซ้สอดใส่ในร่องแคบของเจ้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน”“นั่นเป็นเพียงข้ออ้างของท่านต่างหาก ข้าหรือจะมียาเสน่ห์ใด หากมีข้าคงใช้กับผู้อื่นมิใช่ท่านแล้ว”“เอ่ยเยี่ยงนี้ คืนนี้อย่าหวังจะได้นอนเลย”“ข้าเคยกลัวหรือ”“เถาหลี่น่า เจ้ากล้ามาก”เพียงได้ยินว่าหญิงสาวอยากใช้เสน่ห์ของตนเองกับชายอื่น องค์ชายฮุ่ยหมิงก็จับร่างบางยกขึ้นกางขาสอดแทรกท่อนกายแกร่
ตอนที่ห้าสิบสามสุขสบายองครักษ์เคลื่อนขบวนอย่างระมัดระวังด้วยไม่อาจแน่ใจได้ว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นฝ่ายใด จนถึงชายแดนจึงเริ่มผ่อนคลายขึ้นบ้าง ทหารเฝ้าเขตแดนเข้ามาตรวจตรา เมื่อเห็นว่าเป็นองค์ชายจากแคว้นตนเองจึงเร่งนำขบวนอย่างไม่รีรอ เถาหลี่น่าประคับประคององค์ชายฮุ่ยหมิงตลอดทางจนกระทั่งถึงตำหนักพักร้อนนอกเมืองจึงพอผ่อนคลายได้บ้าง “เอาล่ะ พักที่นี่ก่อนระยะหนึ่ง พวกเจ้ากระจายกันไปสืบหาว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นพวกใดกันแน่” องค์ชายฮุ่ยหมิงตัดสินใจพักรอเพื่อให้บาดแผลหายสนิทดีก่อนกลับเข้าเมืองหลวงเถาหลี่น่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายด้วยแม้เป็นเพียงตำหนักนอกเมือง แต่ก็มีขันทีและนางกำนัลอยู่รับใช้ทุกหน้าที่ นางอยู่ในฐานะสตรีขององค์ชายจึงได้รับการดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “แม่นางเถาจะอาบน้ำหรือไม่เจ้
ตอนที่ห้าสิบสองบาดเจ็บ “เจ็บแผลหรือไม่” เถาหลี่น่าเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางไม่เคยได้รับความคุ้มครองมาก่อน มิคาดว่าองค์ชายหนุ่มซึ่งเดิมทีนางคิดว่าเขาเป็นเพียงชายแปลกหน้ากลับเป็นคนแรกซึ่งให้การดูแลและคุ้มครองปกป้องนางอย่างใส่ใจ “หากจะบอกว่าไม่เจ็บก็คงโกหก เอาเป็นว่าเจ็บบ้างแต่พอทนไหว” “ท่านไม่ควรต้องกอดข้าไว้ น้ำหนักที่มากเกินไปทำให้กระแทกแรงจนเลือดออกมาก” “เจ้าเป็นสาวน้อยตัวเล็กเพียงนี้ไม่ได้เพิ่มน้ำหนักถึงเพียงนั้นหรอกอย่าได้คิดมากไป อีกอย่างเจ้ากับข้าได้ร่วมรักสอดใส่ทุกค่ำคืน นับว่าเจ้าเป็นอนุคนหนึ่งของข้าแล้ว ถึงไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ข้าก็ต้องดูแลเจ้าตามสมควร” “อนุหรือ?”&
ตอนที่ห้าสิบเอ็ดรัญจวนใจองค์ชายหนุ่มตอบพลางถามกลับบ้าง“อ๋องนั่นร่วมรักกับเจ้าทุกคืนใช่หรือไม่”“ใช่ คืนละหลายครา”“เช่นนั้นระหว่างนี้ ข้าจะร่วมรักกับเจ้าทุกคืนคืนละหลายคราเช่นกัน”อ้าว...เดี๋ยว ได้ถามความยินยอมของนางหรือไม่เหตุใดพูดเองเออเองเช่นนี้องค์ชายฮุ่ยหมิงไม่ปล่อยให้สาวน้อยได้ทันคิด มือหนาจับร่างบางคว่ำหน้าแล้วสอดแทรกเข้ามาทางก้นนุ่มนิ่มอย่างรวดเร็ว เสียงตอกกระแทกกระทั้นดังขึ้นอีกคราอย่างดุเดือดป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ“โอ๊ยยยย องค์ชาย แรงเกินไปแล้ว เบาหน่อยเถิด”“ข้าคิดว่าเจ้าชอบแรงๆเสียอีก”“แต่ท่อนกายของท่านใหญ่โตเกินไป ข้าจุก”“เช่นนั้นข้าจะเบาให้สักหน่อย”ชายหนุ่มเบาได้ไม่นานก็ตอกตรึงกระแทกแรงขึ้นอีกตามอารมณ์ร้อนแห่งกามราคะมือหนาสอดส่งมาบดขยี้ติ่งเสียวจนหญิงสาวสะท้านไหว เต้าอวบอิ่มถูกบดคลึงบีบเคล้นจนบี้แบนด้วยความเร่าร้อนแห่งการเสพสม
ตอนที่ห้าสิบ ลบร่องรอยอ๋องหนุ่มหงุดหงิดงุ่นง่านด้วยเพิ่งได้รับการเติมเต็มความร้อนเร่าได้ไม่กี่คราจึงยังไม่สาสมใจ แต่เขาย่อมไม่อยากขัดใจกับชายาเพียงด้วยนางกำนัลไร้ความสำคัญผู้หนึ่ง จึงไม่ไปซักถามให้มากความ ได้แต่ปล่อยเรื่องให้เงียบหายไปตามสายลมเมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว องค์ชายฮุ่ยหมิงจึงขอตัวลากลับแคว้นโดยเร็วด้วยไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ฮ่องเต้ของแคว้นจ้าวย่อมไม่ขัดขวางอีกทั้งยังฝากของกลับไปยังแคว้นเหลียงอีกหลายอย่างเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างแคว้นเถาหลี่น่าถูกพาตัวมาพบกันที่กลางทางนอกเมืองหลวง ขบวนเดินทางขององค์ชายต่างแคว้นเคลื่อนกลับอย่างรวดเร็วผิดกับขามาราวฟ้ากับดินเมื่อเข้าที่พักในโรงเตี๊ยมได้ ผู้ติดตามต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันทำหน้าที่คุ้มครองชายสูงศักดิ์ เหลือเพียงเถาหลี่น่าซึ่งไม่ได้ทำสิ่งใดจึงได้แต่นั่งลงในห้องครุ่นคิดถึงชีวิตต่อไป“คิดสิ่งใดอยู่หรือ”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างใส่ใจ“ข้ากำลังคิดว่าต้องจากแคว้นนี้ไปแล้ว” ด้วยไม่ได
ตอนที่ห้าสิบ ลบร่องรอยฉู่หลันกลับมารับใช้อ๋องหนุ่มดังเดิม นางได้เข้าไปช่วยฝนหมึกในห้องอักษรอย่างใกล้ชิด เมื่อสังเกตเห็นกุญแจในสายคาดเอว นางกำนัลน้อยจึงเสแสร้งเย้ายวนเพื่อสร้างโอกาสให้ตนเอง“ท่านอ๋องเพคะ พวกเราลองทำกันที่โต๊ะอักษรบ้างดีหรือไม่เพคะ”นางกำนัลน้อยนั่งลงบนขอบโต๊ะแล้วเปิดแหวกกระโปรงยาวขึ้นมาจนเห็นขาเรียวขาวเนียน มือน้อยล้วงแหวกร่องชมพูสดเพื่อเปิดออกให้อ๋องหนุ่มได้ชมดู สาวน้อยใช้มือตนเองบดคลึงลูบไล้ยังร่องเสียวเพื่อยั่วเย้าล่อหลอก“หม่อมฉันอยากได้ท่อนกายใหญ่มาเติมเต็มแล้วเพคะ”อ๋องหนุ่มหันไปส่งสัญญาณให้องครักษ์เงากระจายตัวออกห่างก่อนจะก้าวเข้าแหย่คลึงร่องดอกไม้แดงอันสดฉ่ำ“อยากแต่หัววันเชียวหรือ เจ้านี่ช่างร่านเสียจริง”“หม่อมฉันห่างจากท่านอ๋องไปนาน ย่อมคิดถึงความแข็งแกร่งของพระองค์อย่างมากเพคะ”“ได้ ข้าจะตอกตรึงในร่องสวาทของเจ้าจนไม่อาจหุบขาได้เลยทีเดียว” อ๋องหนุ่มประกาศก้องก่อนจะล้วงแท่งเอ็นใหญ่ออกมา ร่างหนาผลักสาวน้อยลงนอนกับโต๊ะแล้
ตอนที่สี่สิบเก้าตำหนักอ๋อง จนได้เวลาเคลื่อนขบวน เถาหลี่น่าจึงแต่งกายด้วยชุดนางกำนัลของแคว้นเหลียงแล้วออกเดินทางไปพร้อมกับองค์ชายฮุ่ยหมิง โดยมีสายตาห่วงใยของหัวหน้าเถาโจวหย่งคอยมองส่งมาขบวนเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นเดินทางอย่างไม่รีบเร่ง ระหว่างทางพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดี จนเถาหลี่น่าสุขสบายไม่น้อยเมื่อถึงวังหลวง ความตึงเครียดจึงเพิ่มขึ้นมาด้วยหญิงสาวต้องได้พบเจอกับคนรู้จักแล้วองค์ชายฮุ่ยหมิงเดินนำเครื่องบรรณาการซึ่งขนมาถวายแก่ฮ่องเต้แคว้นจ้าวส่งมอบให้ตามธรรมเนียม คำทักทายถามสารทุกข์สุกดิบถูกเอ่ยออกตามมารยาทอันดีเมื่อหมดเรื่องแทนที่เขาจะถอยไปยังที่นั่งซึ่งจัดไว้ กลับหันไปโค้งให้อ๋องจ้าวห่าวหร่านแล้วเอ่ยประโยคที่เตรียมไว้ออกมา“ข้ามีคนมาส่งคืนให้แก่ท่านอ๋อง” เถาหลี่น่าถูกนำออกมาอย่างเชื่องช้า“ท่านอ๋อง ฉู่หลันกลับมาแล้วเพคะ” สาวน้อยถลาไปกอดขาอ๋องสูงศักดิ์พลางหลั่งน้ำหูน้ำตานองหน้า“นางกำนัลฉู่หลัน เจ้าหายไปที่ใดมา” อ๋องจ้าวห่าวหร่านมองใบหน้างา