ตอนที่สอง
ช่วยข้าด้วย
“ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วยยยย” เสียงตะโกนร้องอย่างน่าเห็นใจพร้อมร่างกระเซอะกระเซิงของสาวน้อยซึ่งวิ่งหนีอย่างไร้หนทาง
‘ข่งเจียวจิ้น’ บุตรชายราชครูซึ่งนั่งรถม้าผ่านมาเปิดผ้าม่านเพื่อมองดูเห็นร่างน้อยวิ่งสะเปะสะปะอย่างหมดเรี่ยวแรงจนไปล้มลงข้างต้นไม้ใหญ่ เขาตัดสินใจสั่งหยุดรถเพื่อลงไปดูด้วยตนเองจนเห็นร่างสาวน้อยวัยเยาว์นอนคว่ำหน้าหมดสติ
“แม่นางน้อย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หนุ่มน้อยพลิกร่างบอบบางขึ้นก่อนจะตกตะลึงเมื่อเห็นความงดงามเย้ายวนตรงหน้า
เสื้อผ้าของสาวน้อยถูกกิ่งไม้เกี่ยวจนขาดวิ่นเผยทรวงอวบอิ่มออกมาเกือบครึ่งเต้า ใบหน้าอ่อนหวานเต็มไปด้วยเหงื่อและคราบน้ำตา
อืม...นางดูน่าสงสารนัก คงมิใช่คนร้ายกระมัง
บุตรชายราชครูตัดสินใจนำหญิงสาวแปลกหน้ากลับจวนเพื่อช่วยรักษาดูแล หมอหลวงถูกตามมารักษาและจัดยาก่อนที่สาวน้อยจะฟื้นคืนสติในเวลาไม่นาน
“ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ” เถาหลี่น่าเล่าเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาอย่างน่าเห็นใจ นางทั้งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนผู้ฟังต่างใจอ่อนยวบด้วยความสงสาร เรื่องการแสดงเหล่านี้ลลินาถนัดมากอีกทั้งยังได้รับการสั่งสอนเพิ่มเติมจากแม่เล้าใหญ่จึงดั่งติดปีกให้สาวน้อยแสดงจนไม่มีช่องโหว่ให้จับผิดได้
“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจเถิด ข้าจะช่วยดูแลเจ้าเอง” ข่งเจียวจิ้นเอ่ยปากอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
หลังจากเฝ้าดูแลอยู่หลายวัน ความใกล้ชิดสนิทสนมย่อมเพิ่มพูน บัดนี้สองหนุ่มสาวเปลี่ยนคำเรียกขานแล้ว
“พี่เจียวจิ้น ข้าอยากตอบแทนพี่ที่ช่วยเหลือ”
“น้องหลี่น่าไม่ต้องคิดมาก”
“แต่ข้าพักอยู่ที่นี่หลายวันแล้ว เกรงจะไม่ใช่เรื่องดีนัก”
“ผู้ใดกล้าพูดมาก”
“ข้าไม่ได้เป็นอันใดกับพี่ หรือคนในจวนนี้ หากพวกเขาจะพูดมากย่อมเป็นเรื่องสมควร”
“แต่...เจ้าเป็นคนรักของพี่” หนุ่มน้อยตัดสินใจเอ่ยเพื่อปลอบใจหญิงสาว
“พี่เจียวจิ้น ท่านดีมาก ข้า...ข้ารักพี่” สาวน้อยหลี่น่าชะโงกหน้ามาจุมพิตแก้มของชายหนุ่มอย่างเงอะงะ เพียงเท่านั้นย่อมทำให้หนุ่มน้อยวัยใสตบะแตกเลิกอดกลั้นความรู้สึกภายในใจ
ข่งเจียวจิ้นเอื้อมหน้ามาประกบจุมพิตปากบางในทันที แต่เขายังไม่เคยจุมพิตอย่างจริงจังได้แต่อ่านจากในตำราของบิดา ท่วงท่าจึงได้แต่บดคลึงไปมาจนลลินาหรือเถาหลี่น่าแทบอยากจะลุกขึ้นสอดลิ้นรุกไล่ด้วยตนเอง
แต่ยามนี้นางสวมบทบาทสาวน้อยไร้เดียงสาซึ่งยังไม่เคยต้องมือชาย เถาหลี่น่าจึงจำต้องอดทนทำทีคล้อยตามความเงอะงะไปด้วยกัน
มือเรียวของบุตรชายราชครูตะปบลงบนทรวงอวบอิ่มซึ่งยังอยู่ในชุดเสื้อคล้ายลังเลใจ เถาหลี่น่าแสร้งบิดกายไปตามแรงเร้าแต่เอื้อมมือไปปลดสายคาดเอวและแหวกชุดเสื้อเพื่อปลดปล่อยทรวงใหญ่ล้นออกมาหลอกล่อเชิญชวน
เพียงหนุ่มน้อยได้เห็นเต้าทรวงใหญ่โตซึ่งเด้งไหวอยู่ต่อหน้า เขาย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อยอีก สองมือเอื้อมกอบกุมแนบแน่นด้วยไม่อาจปกปิดความหื่นกระหาย
เถาหลี่น่าแสร้งเด้งร่างใส่อย่างไร้เดียงสา มือน้อยทำทีปัดป้องแต่ความจริงคือช่วยให้เขาได้คลึงเคล้นขยำขยี้อย่างถูกต้อง
“พี่เจียวจิ้น อ่า...” สาวน้อยแสร้งเขินอายบิดกายไปมาเพื่อให้กระโปรงด้านล่างได้แหวกช่องออกจนเห็นเรียวขาเนียน
ข่งเจียวจิ้นถูกความอวบอิ่มตรงหน้าหลอกล่อยั่วยวนจนสติแตกไม่อาจควบคุมมือไม้ ยิ่งร่างบางเอนกายลงไปนอนลงยกขาขึ้นข้างหนึ่งคล้ายพยุงตนเองไม่อยู่ แต่นั่นกลับแหวกสองเรียวขาให้อ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้ชมพูอันสวยสดมิดชิด
“อ้า...พี่เจียวจิ้น พี่ลูบทรวงอกข้าเช่นนี้รู้สึกดีมาก” สาวน้อยแสร้งเด้งร่างไปมารับการลูบคลึง
“เช่นนั้นพี่ลูบเจ้าทั้งตัวดีหรือไม่”
“อืม...ดี”
ตอนที่สอง ช่วยข้าด้วย ข่งเจียวจิ้นถูกความอวบอิ่มตรงหน้าหลอกล่อยั่วยวนจนสติแตกไม่อาจควบคุมมือไม้ ยิ่งร่างบางเอนกายลงไปนอนลงยกขาขึ้นข้างหนึ่งคล้ายพยุงตนเองไม่อยู่ แต่นั่นกลับแหวกสองเรียวขาให้อ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้ชมพูอันสวยสดมิดชิด “อ้า...พี่เจียวจิ้น พี่ลูบทรวงอกข้าเช่นนี้รู้สึกดีมาก” สาวน้อยแสร้งเด้งร่างไปมารับการลูบคลึง “เช่นนั้นพี่ลูบเจ้าทั้งตัวดีหรือไม่” “อืม...ดี” เถาหลี่น่าแทบจะส่งร่างบางของตนเองให้เขาได้ลูบไล้จนสมใจ ยามเมื่อมือหนาแหวกเรียวร่องสองช่องกลีบเพื่อสำรวจดูอย่างตื่นตาตื่นใจ หญิงสาวเด้งร่างบิดเร้าอย่างซ่านกระสันโอ๊ย หนุ่มน้อย เมื่อไหร่จะเข้ามาเสียที นางอยากจนตัวสั่นแล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้าทั้งหน้าตาดี ทั้งยังหนุ่มแน่น ลลินาจึงคิดถึงความสุขสมซึ่งรอคอยอยู่เบื้องหน้าจนแทบทนไม่ไหว เธอไม่ได้สอดใส่มานานจนแทบลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว หญิงสาวแทบอยากเลิกเสแสร้ง แต่ด้วยต้องรักษาบทบาทเอาไว้จึงเพียงเด้งร่างไปมาเพื่อให้ข่งเจียวจิ้นจับท่อนกายสอดใส่เข้ามาในร่องแคบของนางเสียที "โอ๊ยยยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดพร้อมน้ำตา
ตอนที่สามห้องเก็บสมบัติ“พี่เจียวจิ้น ข้าทอดร่างให้พี่เชยชมจนสมใจ อีกไม่นานพี่คงเบื่อหน่ายแล้วทอดทิ้งข้า” เถาหลี่น่าเริ่มแผนต่อไปเมื่อสอดใส่กันมาระยะหนึ่งจนเด็กหนุ่มไว้วางใจแล้ว“พี่ไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าแน่”“แต่ท่านราชครูคงไม่มีวันยินยอมให้รับข้าเข้ามาอยู่ในจวน” เด็กสาวใช้น้ำเสียงเศร้าสร้อย“ท่านพ่อบังคับพี่ไม่ได้” เสียงดื้อดึงเอ่ยออกมา“หากข้าจะขอความมั่นใจด้วยของประจำตระกูลของพี่เจียวจิ้นสักอย่างเป็นของแทนใจจะมากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ” “ย่อมไม่ พี่ขอโทษที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เอาเถอะ พี่จะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” ข่งเจียวจิ้นโดนเสน่ห์ของสาวน้อยจนหน้ามืดตามัวเกรงหญิงสาวจะน้อยใจจนหนีหายไป จึงตัดสินใจพานางเข้าไปจนถึงห้องเก็บสมบัติของตระกูลข่ง “โอ้วว...พี่เจียวจิ้น บ้านท่านมีของมีค่ามากมายเพียงนี้ ยิ่งเห็นข้ายิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควร” เด็กสาวส่งเสียงตื่นเต้นเมื่อได้เห็นคลังสมบัติของตระกูลเก่าแก่ “ไม่นะน้องหลี่น่า เจ้าอย่าคิดมาก ของในนี้บางชิ้นไม่ได้มีราคามากมาย เพียงเก่าแก่เท่านั้น เจ้าลองดูเถิดว่าชอบชิ้นใด พี่จะมอบให้เป็นของแทนใจ” เถาหลี่น่าได้โอกาสรีบเดินส
ข่งเจียวจิ้นเอาใจสาวคนรักอย่างออกนอกหน้าจนเถาหลี่น่าแอบนึกเสียดายหากนางได้เป็นคนรักของเขาจริงๆคงได้รับการเอาใจอย่างดีจนล่องลอย แต่นั่นย่อมเป็นเพียงฝัน และนางต้องตื่นโดยเร็ว ลลินาซึ่งเคยถูกล่อลวงด้วยฝันหวานมาหลายครารีบปลุกปลอบตนเอง ภาพวาดถูกส่งออกไปให้คนขององค์กรอย่างเรียบร้อยทำให้เถาหลี่น่าโล่งอกและพรั่งพรูลมหายใจออกมาอย่างเบาใจ จากนั้นสาวน้อยจึงชวนชายหนุ่มเดินเลือกชมข้าวของอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะมีตัวละครซึ่งเตี๊ยมกันมาอย่างดีแล้วที่ร้านแพรพรรณเข้ามาร่วมแสดงบทบาท “หลี่น่า หลานหายไปที่ใดมา พวกเราตามหาเจ้าแทบพลิกแผ่นดิน แล้วท่านพ่อของเจ้าเล่า อยู่ที่ใด” “ท่านอาหญิง ฮือๆๆๆ” เถาหลี่น่าสวมบทบาทสาวน้อยผู้พบเจอญาติสนิทอย่างแนบเนียน สาวใหญ่ผู้ซึ่งอ้างว่าคืออาสาวของเถาหลี่น่า และเป็นน้องสาวซึ่งบิดาของนางต้องการเดินทางมาหาจนถูกปล้นชิงตามคำบอกเล่าของสาวน้อยในวันที่พบกับข่งเจียวจิ้น กอดรัดกับหลานสาวอย่างโศกเศร้าเมื่อได้รับรู้ว่าพี่ชายถูกโจรฆ่าตายแล้ว “ข้าคงต้องขอตัวหลานสาวไปอยู่ด้วย นางเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวจะให้เร่ร่อนพักอาศ
ตอนที่สี่คุ้มค่าเงินที่ลงทุนหรือไม่คำพูดเหล่านั้นของราชครูถูกนำมาบอกเล่ากับเถาหลี่น่าซึ่งหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ท่านราชครูก็เอ่ยเกินไป ข้าเป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็กๆจะอาจหาญถึงขั้นพาพวกบุกปล้นจวนราชครูผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร” “อย่าได้เอาแต่หัวเราะ ระวังอย่าได้พบหน้าข่งเจียวจิ้นอีกเป็นอันขาด เขาเคียดแค้นเจ้ามาก” “หัวหน้าคงไม่นำงานที่ต้องได้พบหน้าเขามาให้ข้าอีกกระมัง” “ข้าจะพยายามคัดเลือกให้ดี แต่เมืองหลวงไม่ใหญ่โตมากจนไม่มีวันได้พบกันอีก” “เช่นนั้นก็ออกนอกเมืองไปไกลๆไม่ได้หรือ”
ตอนที่ห้าดีหรือไม่“แล้วพวกเขาได้สอนให้เจ้าช่วยตนเองบ้างหรือไม่” เมื่อตนเองสุขสมใจแล้ว เถาโจวหย่งจึงคิดอยากลองช่องคับแคบซึ่งเห็นมาตั้งแต่ยังไม่เบ่งบานดูบ้าง“สอนเจ้าค่ะ สอนให้ข้าใช้นิ้วละเลงสร้างความเสียวให้ตนเอง”“แล้วดีหรือไม่”“ข้าชอบ ความรู้สึกเสียวซ่านช่างสุขสันต์ แต่ท่านแม่บอกว่าหากให้ผู้อื่นทำจะดีกว่า”“เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าได้เสียวกว่าที่เคย”หัวหน้าเถาโจวหย่งจับร่างบางขึ้นนอนลงบนเตียง มือหนาจับเรียวขาขาวผ่องอ้าออกจนเห็นร่องดอกไม้งามและเนินขนนุ่มฟูมือร้อนลูบไล้ผ่านเนินนูนและขนนุ่มไปยังสองกลีบแดงอันเจิ่งนองไปด้วยน้ำหวานใส“อืม...เพิ่งโดนสอดใส่ไม่กี่ครา ร่องของเจ้ายังคงคับแคบอยู่มาก” นิ้วร้อนถูกสอดแยงสำรวจความคับแน่นก่อนจะวกมาบดคลึงยังติ่งเสียวขณะอีกมือลูบขึ้นคลึงเคล้นก้อนเนื้ออวบด้านบน“อ้า...ดียิ่ง บดอีกเจ้าคะ อู้ววว เสียวกว่าใช้นิ้วของตนเองจริงด้วย”ร่างเล็กแอ่นหลั
ตอนที่หกชายสูงวัยเถาหลี่น่าลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อสายมากแล้ว เมื่อคืนนางจำแทบไม่ได้ว่าแตะสวรรค์ไปกี่ครา หัวหน้าเถาโจวหย่งช่างแข็งแรงทรงพลังจนนางสั่นเกร็งแทบขาดใจตายถึงยามนี้ร่างบางจึงปวดท้องจากความเกร็งเสียวต่อเนื่องและปวดร้าวไปทั่วร่างด้วยไม่คุ้นเคยกับการร่วมรักอย่างหนักหน่วงมาก่อนสาวน้อยก้มลงมองร่องดอกไม้ซึ่งแดงช้ำอย่างน่าสงสาร น้ำขุ่นขาวยังหลงเหลือเป็นคราบทั้งในร่องน้ำและหว่างขา ร่องรอยแดงของถูกขยำทั้งนิ้วและฟันถูกประทับไว้จนทั่วทรวงอวบอิ่มและไหล่บางเฮ้อ...คงต้องพักอีกหลายวัน เถาหลี่น่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าด้วยโดนเคี่ยวกรำอยู่ทั้งคืน นางยังเยาว์วัยนักและไม่เคยได้รับความเสียวซ่านเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ลลินาเองก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้รับการเติมเต็มความกระสันอย่างสุขล้นเท่านี้มาก่อนเช่นกันยังดีที่ร่างนี้อายุน้อย แข็งแรง จึงฟื้นฟูได้เร็ว หัวหน้าเถานำอาหารมาให้ลูกศิษย์สาวถึงเตียงนอน
ตอนที่เจ็ด ศึกษาเล่าเรียน “ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่ที่บ้านสกุลสวี พวกเขามีญาติฝั่งมารดาอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว เจ้าจะปลอมเป็นญาติสาวน้อยซึ่งถูกส่งไปศึกษาเล่าเรียนยังสำนักศึกษาในตัวเมือง ด้วยความจำเป็นนี้จึงต้องพักอาศัยที่นั่น” “จะให้ข้าขโมยของที่บ้านนั้นหรือ” “ไม่ใช่ ของสำคัญในครานี้คือตำราลับหายากซึ่งถูกเก็บรักษาอยู่ที่หอตำราชั้นสูงสุดในสำนักศึกษา ชื่อและข้อความบางส่วนอยู่ที่นี่ เจ้าจดจำเอาไว้” กระดาษเล็กถูกส่งมาให้เถาหลี่น่าได้อ่านและจำให้ได้ “ในเมื่อของอยู่ที่สำนักศึกษา เช่นนั้นข้าก็ต้องหาโอกาสระหว่างเข้าเล่าเ
ตอนที่แปด รู้จักข้าน้อยไปเมื่อถึงสำนักศึกษา สาวน้อยรีบเดินไปลงชื่อรายงานตัวจากนั้นจึงเดินหาห้องเรียนและมองหาที่นั่ง ด้วยสำนักศึกษาแห่งนี้รับเด็กทั้งชายหญิงจากหลายเมืองเข้ามาศึกษาเล่าเรียนโดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงมีเด็กหนุ่มสาวมาเรียนกันมากจนต้องแบ่งออกเป็นหลายห้องเรียน เดิมทีหลินหลี่น่าต้องเรียนรวมกับเด็กหญิงในชั้นต้นตามระเบียบ แต่ด้วยหัวหน้าเถาสร้างเรื่องให้นางเก่งกาจจนได้เลื่อนระดับชั้นมาเรียนร่วมกับเด็กชายในชั้นสูง หญิงสาวจึงเป็นเพียงสาวน้อยไม่กี่คนที่ได้นั่งเรียนร่วมกับชายสูงศักดิ์หลายคน เมื่อถึงห้องเรียนและอ่านจนแน่ใจว่าถูกต้อง หลินหลี่น่าจึงกวาดตามองหาสวีเจินจื้อด้วยคิดว่าเขาน่าจะอยู่ห้องเดียวกัน นับว่านางคิดไม่ผิดเมื่อเห็นร่างชายห
ตอนที่ห้าสิบห้า แผนการเป็นชายา “ข้านับเป็นคนแคว้นเหลียง จะนับญาติอันใดได้ พวกเขาแล้งน้ำใจกับมารดาถึงเพียงนั้น จะถามหาน้ำใจใดกับข้าได้หรือ”“อืม...ก็จริง”“หากข้าตั้งใจนับญาติกับพวกเขา อาจโดนคิดว่ากำลังหาทางยึดครองแคว้นจ้าวก็เป็นได้”“กลายเป็นเช่นนั้นไป”“คนแคว้นจ้าวต่างหวาดระแวงไม่เชื่อผู้อื่น แคว้นเราไม่ใคร่มีผู้ใดอยากเดินทางไปนักหรอก”“ยิ่งคนในราชวงศ์ยิ่งใช้ไม่ได้”เมื่อนึกถึงการโดนหลอกใช้ให้ขโมยของต่างๆที่ผ่านมา เถาหลี่น่าจึงเอ่ยคำนี้ออกมา“เจ้าเห็นด้วยกับข้าแล้วหรือ”“ข้าเห็นเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”เมื่อไม่เห็นความสำคัญในการพูดคุยเรื่องของแคว้นจ้าว เถาหลี่น่าจึงเปลี่ยนมาสอบถามเรื่องในแคว้นเหลียง“ทุกวันนี้ ท่านดูแลงานด้านใดหรือ”“เดิมทีเสด็จพ่อไม่ได้มอบหมายให้ข้าทำงานด้านใดเป็นพิเศษ แต่หลังจากนี้ข้าจะทูลขอทำงานด้านการข่าว ดีหรือไม่”
บนโต๊ะอาหาร สองหนุ่มสาวพูดคุยกันแผ่วเบาราวกำลังหวานชื่น แต่เรื่องที่คุยกลับเป็น“คนของเราสืบหาอยู่นานยังไม่พบเบาะแสว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นคนของผู้ใด พวกเขาล้วนเป็นนักฆ่าที่ถูกจ้างมา จึงไม่อาจเจาะลงไปถึงผู้ว่าจ้างได้”“ให้หัวหน้าของข้าช่วยดีหรือไม่”“อืม...ดี เจ้าเร่งติดต่อไป อ้อ...ชุดพวกนี้เจ้าชอบหรือไม่”“ชอบมาก ขอบคุณ”“ของพวกนี้ข้ามอบให้เจ้า อีกหน่อยจะมีมากกว่านี้”“อยู่ที่นี่สบายดีมาก อีกนานหรือไม่ที่พวกเราต้องเข้าไปในวังหลวง”“เจ้าไม่อยากไปล่ะสิ”“ย่อมไม่อยาก อยู่ที่นี่ข้าเป็นใหญ่ อยากทำสิ่งใดล้วนไม่มีผู้ใดขัดขวาง”“เอาเถอะ หากมีเวลา เจ้าก็หาทางออกมาพักผ่อนหย่อนใจหรือใช้ชีวิตที่ชอบได้”“ได้หรือ”“ย่อมได้ ข้าเองมีงานมาก อาจไม่มีเวลาปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลา การที่เจ้าออกมาข้างนอกบ้างอาจดีกว่า”“ดี เยี่ยมเลย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มแย้มเต็มหน้าจึงบัง
ตอนที่ห้าสิบสี่รุนแรงสองหนุ่มสาวตกลงกันอย่างจริงจังราวเป็นเรื่องการค้ามิใช่เรื่องสามีภรรยา จนเมื่อตกลงกันได้เรียบร้อย มือหนาของชายหนุ่มจึงเริ่มขยับเขยื้อนเข้าคลึงเคล้นสองก้อนเต้าซึ่งกระเพื่อมไหวหลอกล่ออยู่ตรงหน้า“พวกเราเปลือยร่างตกลงเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ควรทำเรื่องของสามีภรรยาให้สมบูรณ์ใช่หรือไม่”“เชอะ มิใช่ว่าพวกเราทำเรื่องสามีภรรยากันมาหลายคราแล้วหรือ”“จะกี่คราข้าก็ยังติดใจในตัวเจ้าเช่นเดิม เถาหลี่น่า เจ้าใช้ยาเสน่ห์ใดหรือไม่ เหตุใดข้าจึงอยากซุกไซ้สอดใส่ในร่องแคบของเจ้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน”“นั่นเป็นเพียงข้ออ้างของท่านต่างหาก ข้าหรือจะมียาเสน่ห์ใด หากมีข้าคงใช้กับผู้อื่นมิใช่ท่านแล้ว”“เอ่ยเยี่ยงนี้ คืนนี้อย่าหวังจะได้นอนเลย”“ข้าเคยกลัวหรือ”“เถาหลี่น่า เจ้ากล้ามาก”เพียงได้ยินว่าหญิงสาวอยากใช้เสน่ห์ของตนเองกับชายอื่น องค์ชายฮุ่ยหมิงก็จับร่างบางยกขึ้นกางขาสอดแทรกท่อนกายแกร่
ตอนที่ห้าสิบสามสุขสบายองครักษ์เคลื่อนขบวนอย่างระมัดระวังด้วยไม่อาจแน่ใจได้ว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นฝ่ายใด จนถึงชายแดนจึงเริ่มผ่อนคลายขึ้นบ้าง ทหารเฝ้าเขตแดนเข้ามาตรวจตรา เมื่อเห็นว่าเป็นองค์ชายจากแคว้นตนเองจึงเร่งนำขบวนอย่างไม่รีรอ เถาหลี่น่าประคับประคององค์ชายฮุ่ยหมิงตลอดทางจนกระทั่งถึงตำหนักพักร้อนนอกเมืองจึงพอผ่อนคลายได้บ้าง “เอาล่ะ พักที่นี่ก่อนระยะหนึ่ง พวกเจ้ากระจายกันไปสืบหาว่าคนร้ายในวันนั้นเป็นพวกใดกันแน่” องค์ชายฮุ่ยหมิงตัดสินใจพักรอเพื่อให้บาดแผลหายสนิทดีก่อนกลับเข้าเมืองหลวงเถาหลี่น่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายด้วยแม้เป็นเพียงตำหนักนอกเมือง แต่ก็มีขันทีและนางกำนัลอยู่รับใช้ทุกหน้าที่ นางอยู่ในฐานะสตรีขององค์ชายจึงได้รับการดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “แม่นางเถาจะอาบน้ำหรือไม่เจ้
ตอนที่ห้าสิบสองบาดเจ็บ “เจ็บแผลหรือไม่” เถาหลี่น่าเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางไม่เคยได้รับความคุ้มครองมาก่อน มิคาดว่าองค์ชายหนุ่มซึ่งเดิมทีนางคิดว่าเขาเป็นเพียงชายแปลกหน้ากลับเป็นคนแรกซึ่งให้การดูแลและคุ้มครองปกป้องนางอย่างใส่ใจ “หากจะบอกว่าไม่เจ็บก็คงโกหก เอาเป็นว่าเจ็บบ้างแต่พอทนไหว” “ท่านไม่ควรต้องกอดข้าไว้ น้ำหนักที่มากเกินไปทำให้กระแทกแรงจนเลือดออกมาก” “เจ้าเป็นสาวน้อยตัวเล็กเพียงนี้ไม่ได้เพิ่มน้ำหนักถึงเพียงนั้นหรอกอย่าได้คิดมากไป อีกอย่างเจ้ากับข้าได้ร่วมรักสอดใส่ทุกค่ำคืน นับว่าเจ้าเป็นอนุคนหนึ่งของข้าแล้ว ถึงไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ข้าก็ต้องดูแลเจ้าตามสมควร” “อนุหรือ?”&
ตอนที่ห้าสิบเอ็ดรัญจวนใจองค์ชายหนุ่มตอบพลางถามกลับบ้าง“อ๋องนั่นร่วมรักกับเจ้าทุกคืนใช่หรือไม่”“ใช่ คืนละหลายครา”“เช่นนั้นระหว่างนี้ ข้าจะร่วมรักกับเจ้าทุกคืนคืนละหลายคราเช่นกัน”อ้าว...เดี๋ยว ได้ถามความยินยอมของนางหรือไม่เหตุใดพูดเองเออเองเช่นนี้องค์ชายฮุ่ยหมิงไม่ปล่อยให้สาวน้อยได้ทันคิด มือหนาจับร่างบางคว่ำหน้าแล้วสอดแทรกเข้ามาทางก้นนุ่มนิ่มอย่างรวดเร็ว เสียงตอกกระแทกกระทั้นดังขึ้นอีกคราอย่างดุเดือดป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ“โอ๊ยยยย องค์ชาย แรงเกินไปแล้ว เบาหน่อยเถิด”“ข้าคิดว่าเจ้าชอบแรงๆเสียอีก”“แต่ท่อนกายของท่านใหญ่โตเกินไป ข้าจุก”“เช่นนั้นข้าจะเบาให้สักหน่อย”ชายหนุ่มเบาได้ไม่นานก็ตอกตรึงกระแทกแรงขึ้นอีกตามอารมณ์ร้อนแห่งกามราคะมือหนาสอดส่งมาบดขยี้ติ่งเสียวจนหญิงสาวสะท้านไหว เต้าอวบอิ่มถูกบดคลึงบีบเคล้นจนบี้แบนด้วยความเร่าร้อนแห่งการเสพสม
ตอนที่ห้าสิบ ลบร่องรอยอ๋องหนุ่มหงุดหงิดงุ่นง่านด้วยเพิ่งได้รับการเติมเต็มความร้อนเร่าได้ไม่กี่คราจึงยังไม่สาสมใจ แต่เขาย่อมไม่อยากขัดใจกับชายาเพียงด้วยนางกำนัลไร้ความสำคัญผู้หนึ่ง จึงไม่ไปซักถามให้มากความ ได้แต่ปล่อยเรื่องให้เงียบหายไปตามสายลมเมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว องค์ชายฮุ่ยหมิงจึงขอตัวลากลับแคว้นโดยเร็วด้วยไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ฮ่องเต้ของแคว้นจ้าวย่อมไม่ขัดขวางอีกทั้งยังฝากของกลับไปยังแคว้นเหลียงอีกหลายอย่างเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างแคว้นเถาหลี่น่าถูกพาตัวมาพบกันที่กลางทางนอกเมืองหลวง ขบวนเดินทางขององค์ชายต่างแคว้นเคลื่อนกลับอย่างรวดเร็วผิดกับขามาราวฟ้ากับดินเมื่อเข้าที่พักในโรงเตี๊ยมได้ ผู้ติดตามต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันทำหน้าที่คุ้มครองชายสูงศักดิ์ เหลือเพียงเถาหลี่น่าซึ่งไม่ได้ทำสิ่งใดจึงได้แต่นั่งลงในห้องครุ่นคิดถึงชีวิตต่อไป“คิดสิ่งใดอยู่หรือ”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างใส่ใจ“ข้ากำลังคิดว่าต้องจากแคว้นนี้ไปแล้ว” ด้วยไม่ได
ตอนที่ห้าสิบ ลบร่องรอยฉู่หลันกลับมารับใช้อ๋องหนุ่มดังเดิม นางได้เข้าไปช่วยฝนหมึกในห้องอักษรอย่างใกล้ชิด เมื่อสังเกตเห็นกุญแจในสายคาดเอว นางกำนัลน้อยจึงเสแสร้งเย้ายวนเพื่อสร้างโอกาสให้ตนเอง“ท่านอ๋องเพคะ พวกเราลองทำกันที่โต๊ะอักษรบ้างดีหรือไม่เพคะ”นางกำนัลน้อยนั่งลงบนขอบโต๊ะแล้วเปิดแหวกกระโปรงยาวขึ้นมาจนเห็นขาเรียวขาวเนียน มือน้อยล้วงแหวกร่องชมพูสดเพื่อเปิดออกให้อ๋องหนุ่มได้ชมดู สาวน้อยใช้มือตนเองบดคลึงลูบไล้ยังร่องเสียวเพื่อยั่วเย้าล่อหลอก“หม่อมฉันอยากได้ท่อนกายใหญ่มาเติมเต็มแล้วเพคะ”อ๋องหนุ่มหันไปส่งสัญญาณให้องครักษ์เงากระจายตัวออกห่างก่อนจะก้าวเข้าแหย่คลึงร่องดอกไม้แดงอันสดฉ่ำ“อยากแต่หัววันเชียวหรือ เจ้านี่ช่างร่านเสียจริง”“หม่อมฉันห่างจากท่านอ๋องไปนาน ย่อมคิดถึงความแข็งแกร่งของพระองค์อย่างมากเพคะ”“ได้ ข้าจะตอกตรึงในร่องสวาทของเจ้าจนไม่อาจหุบขาได้เลยทีเดียว” อ๋องหนุ่มประกาศก้องก่อนจะล้วงแท่งเอ็นใหญ่ออกมา ร่างหนาผลักสาวน้อยลงนอนกับโต๊ะแล้
ตอนที่สี่สิบเก้าตำหนักอ๋อง จนได้เวลาเคลื่อนขบวน เถาหลี่น่าจึงแต่งกายด้วยชุดนางกำนัลของแคว้นเหลียงแล้วออกเดินทางไปพร้อมกับองค์ชายฮุ่ยหมิง โดยมีสายตาห่วงใยของหัวหน้าเถาโจวหย่งคอยมองส่งมาขบวนเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นเดินทางอย่างไม่รีบเร่ง ระหว่างทางพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดี จนเถาหลี่น่าสุขสบายไม่น้อยเมื่อถึงวังหลวง ความตึงเครียดจึงเพิ่มขึ้นมาด้วยหญิงสาวต้องได้พบเจอกับคนรู้จักแล้วองค์ชายฮุ่ยหมิงเดินนำเครื่องบรรณาการซึ่งขนมาถวายแก่ฮ่องเต้แคว้นจ้าวส่งมอบให้ตามธรรมเนียม คำทักทายถามสารทุกข์สุกดิบถูกเอ่ยออกตามมารยาทอันดีเมื่อหมดเรื่องแทนที่เขาจะถอยไปยังที่นั่งซึ่งจัดไว้ กลับหันไปโค้งให้อ๋องจ้าวห่าวหร่านแล้วเอ่ยประโยคที่เตรียมไว้ออกมา“ข้ามีคนมาส่งคืนให้แก่ท่านอ๋อง” เถาหลี่น่าถูกนำออกมาอย่างเชื่องช้า“ท่านอ๋อง ฉู่หลันกลับมาแล้วเพคะ” สาวน้อยถลาไปกอดขาอ๋องสูงศักดิ์พลางหลั่งน้ำหูน้ำตานองหน้า“นางกำนัลฉู่หลัน เจ้าหายไปที่ใดมา” อ๋องจ้าวห่าวหร่านมองใบหน้างา