Share

นายระวิน

แม้จะดัดเสียงให้ห้าวหาญเพียงใด ก็ไม่อาจกลบความหวานของน้ำเสียงได้ ระรินกระแอมเบาเบา

“อ้าวหน้าที่ของเจ้ารึ ตามจริงต้องผลัดกันสองคนกับเจ้าประพันธ์ไม่ใช่รึ”

ฮาฟซาเหมือนจะรู้รายละเอียดในงานของเด็กรับใช้เป็นอย่างดี

“ประพันธ์บอกว่าลุงบุญสมให้ตกลงกันเอาเองขอรับ”

แววตาอ่อนโยนด้วยความเห็นอกเห็นใจ ฉายออกมาเพียงแวบเดียวก็หายไป

“เหนื่อยแย่”

“เขารับปากว่าจะทำอย่างอื่นแทนขอรับ”

ฮาฟซาเลิกคิ้วทำท่าตกใจ ทำให้ใบหน้าคมยิ่งน่ามองยามผ่อนคลาย

“เจ้านี่กล้าหาญไม่น้อย ใครใครก็กลัวองค์ฟีรอสส่วนเจ้าช่างกล้า”

ทำอย่างไรได้ระรินคิดตกกระไดพลอยโจนแล้วนี่

“องค์ฟีรอสท่านใจดีจะตายไป คนมาใหม่ใหม่กลัวท่าน ทุกคนแต่อยู่ไปนานนานเดี๋ยวก็รัก แต่อย่าไปทำให้ท่านโกรธหรือขัดใจถ้ามีเรื่องให้ช่วย บอกเราได้ทุกเวลา ^_____^”

รอยยิ้มหวานถ้าเป็นเวลาอื่นระรินอาจใจละลายไปแล้วแต่ขณะนี้ไม่มีแก่ใจจริงจริง

แสงจันทร์นวลส่องจับใบหน้าสวยหวานของระรินเพียงเสี้ยววินาทีนั้น ดวงหน้าที่ไม่อาจปกปิดได้ของระรินอยู่ในสายตา องครักษ์หนุ่มหัวใจไหววูบด้วยมีบางอย่างแล่นเข้ามาในความคิดคำนึง ผู้ชายทำไมถึงได้มีบางอย่างที่น่ามองและชวนหลงไหลเพียงนี้-

"เจ้าอายุเท่าไหร่"

คำถามที่จงใจถามเพื่อคำตอบ

"ยี่สิบ ครับ ผมอายุยี่สิบ"

ระรินตอบตามความจริง เธอเพิ่งเรียนจบ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการโรงแรมมาเมื่อไม่กี่วันนี้เองก็ไม่จำเปแ้นต้องปิดบังอยุ่แล้วในเมื่อใบสมัครที่ส่งมาก็ยี่สินระวินเองก็อายุเท่ากัน

"หน้าตาเจ้า ไม่น่าถึงยี่สิบ"

อมยิ้มที่มุมปากเหมือนจะหยิกแกมหยอก ชิชะหาว่าเราอ่อนหัด ระรินคิดในใจ

"มีแฟนรึยัง"

 ไม่บอก ระรินคิดต่างจากคำพูดคิดถึงเพื่อนร่วมห้องที่เคยคบหากันมาแต่สุดท้ายก็เลิกรากันไปด้วย ความห่างเหินเมื่อเขาต้องไปเรียนต่อมหาลัย

"ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาข้างในหน่อย"

น้ำเสียงค่อนข้างฉุนเฉียว ดังมาจากห้องบรรทมขององค์ฟีรอส ฮาฟซาและระรินถลาเข้าไปในห้องพร้อมกันยุติการสนทนาเพียงเท่านั้น

"ใครเป็นคนจัด แท่นบรรทมของเราวันนี้"

 ฮาฟซามอง ไปที่แท่นบรรทมพร้อมกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาทันทีก้มหน้าแล้วเหลือบตามองระรินยิ้มๆ อะไรของเขายิ้มเสียหล่อเชียว

" ระวิน กระหม่อม "

 อาการกลั้นหัวเราะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มแต่อีกคนไม่ขำด้วย สายตาคมกริบ แข็งกร้าวหันมามองระรินแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ระรินเสียวสันหลังวาบ

๑_๑ อะไรอีกหนอทีนี้

"บอกมันสิฮาฟซา ว่าทำไม ว่ามันผิดอะไร"ชี้นิ้วเรียวยาวมายังระรินดวงตาดั่งเปลวเพลิงลุกโชน

สายตาตำหนิยังคงส่งมาถึงร่างบอบบางที่ทำตัวลีบ อยากจะหายตัวในบัดดล

" เจ้านี่นะระวิน เห็นไหมว่าต้องวางหมอนไว้ตรงไหน เจ้าวางผิดตำแหน่ง"

ฮาฟซาเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจัง ซวยอีกแล้ว ทำไมไม่มองเลย คงจะคิดถึงบ้านมากไปหน่อยเหม่อไปนิดคิดไถลไปหน่อยเฮ้อ! หันไปทางผิดทางทิศต้องห้าม โธ่ถัง ระรินเอาอีกแล้ว เรียนการโรงแรมแต่เรื่องเล็กน้อยกับพลาดไม่เป็นท่า

"เดี๋ยวกระหม่อมจัดการให้ใหม่"

ฮาฟซารู้สึกสงสารระรินจับใจ ดวงตากลมโตคล้ายลูกกวางระวังภัยนั้นตื่นตกใจไม่น้อยวันแรกก้เจอแจ็คพร็อตเลยทีเดียว

"ทำให้มันดูเป็นตัวอย่างสิ คราวหลังถ้าทำผิดอีก เราจะให้มันนอนกลับหัวบนแท่นนอนนี้แทนเรา" 

ระรินหน้าตาบูดบึ้งแต่ก้รีบก้มหน้า ฮาฟซาขยิบตาเป็นสัญลักษณ์

ระรินรีบปรับสีหน้าให้เรียบเฉย

"ให้มันนอนอยู่ห้องเดิมของเจ้าคนเก่านะ เรามีอะไรต้องเรียกใช้มันอาจจะทั้งคืน" ฮาฟซาส่งสายตาแสดงความเห็นใจ ความสงสารแล่นเข้าสู่หัวใจของฮาฟซาอย่างไม่รู้ตัว ระรินเข่าอ่อนเวรแล้วระรินเอ่ย

ห้องนอน กว้างโอ่อ่าเครื่องปรับอากาศทำห้องเย็นเฉียบ ระรินนอนพลิกตัวไปมา นอนไม่หลับจ้องมองไปยังประตูห้อง ที่เชื่อมต่อกับข้างๆห้ององค์ฟีรอส ผู้ชายหน้าตาดีแต่ค่อนข้างน่ากลัวในสายตาระริน ทำไมทั้งลุงบุญสมและองครักษ์ฮาฟซา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทรงเป็นองค์เดียวที่ใจดีที่สุดในวังทองคำแห่งนี้

ระรินนอนไม่หลับแอบย่องเงียบกริบไปยังระเบียงซึ่งหันหน้าไปทางทิศใต้ อากาศข้างนอกค่อนข้างอุ่นแต่ไม่ถึงกับร้อน เพราะเป็นเวลาดึกพอสมควร ทหารยามสองสามคน ยืนประจำจุดแข็งขันไม่มีทีท่าว่าจะง่วงนอนทั้งทั้งที่เป็นเวลาดึก เธอนึกปลงว่าอีกหน่อยเธอก็คงไม่ต่างจากพวกเขาที่ต้องตาสว่างในเวลากลางคืนแล้วไปนอนยามเช้าที่แดดส่องตา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status