“What? อะไรกันวะ มึงพูดแบบนี้ ธาม... มึงนะมันเห็นแก่ตัว” นัยน์ตาของธนดลเจ็บปวดมาก ๆ ที่เขาทำทุกอย่าง เฝ้าคอย รออย่างมีความหวัง เพราะคำว่ารัก มันจุกแน่นในอก
“ฮึ! ได้... ได้สิ... ปล่อยเหรอวะ! ได้เลย! ปล่อยของกู คือ กูจะไม่ปล่อยมึงให้ลอยนวลอีก วันนี้... และกูจะคิดบัญชีที่มึงให้กูรอ ธามมึงมานี่!”
ธนดลลุกจากเก้าอี้ แล้วตรงดิ่งเข้าไปล็อกตัวของธามเอาไว้ พร้อมกับรวบยกตัวขึ้นลอย พาเดินไปยังโซฟาที่อยู่ในห้องนั้น
“โอ้ย! เจ็บนะ ดล... นายต้องปล่อยฉัน ปล่อย”
ใจร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว หัวใจสั่นระรัว แรงของธนดลมีมากกว่า อีกอย่างเร็วแรงของธามนั้นหมดไปกับการทำงานแล้ว ธนดลเหวี่ยงร่างที่เบา ๆ ของธามลงไปบนโซฟาตัวอย่างที่อยู่กลางห้องนั้น
ก่อนจะเข้ามาจู่โจมโถมทับ สองมือแกร่งจับใบหน้าของธามเอาไว้ ยึดให้อยู่กับที่ ธนดลพยายามจะจูบ โดยการบดขยี้กลีบปากลงไป ทว่าธามดิ้นขลุกขลักและไม่ยอม
แรงที่มีทั้งหมดของธามสู้และขัดขืนการบังคับข่มเหงของธนดลที่จะให้ธามยอมเขา แต่ธามดิ้นรนสุดแรงเกิด แม้จะตัวเล็กกว่ามาก สองมือยกยันใบหน้าของธนดลให้ออกห่าง พอกลีบปากเป็นอิสระก็พูดออกไป
“อื้อ… ปล่อยนะ! ดล! นายอย่าฝืนใจฉัน”
พลั่ก! ตุ้บ…
ผัวะ! ผัวะ!
มือหนาใหญ่ของใครบางคนกระชากร่างของธนดลออกไป แล้วระดมกำปั้นใส่ยกใหญ่
“เฮ้ย! ไอ้เชี่ยเอ้ย... มึงเป็นใครวะ? แล้วมึงเข้ามาได้ยังไงวะ?” ธนดลส่งเสียงโวยวาย ยกมือขึ้นปัดป้อง เพราะไม่รู้ว่าใครกำลังซัดหมัดใส่เขาแบบระยับ แถมยังตอนนี้ธนดลยังถูกจับ และรั้งขึ้น จับแขนได้ก็เหวี่ยงตัวจนเซถลาไป หัวแทบทิ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว
แล้วไม่พอไอ้คนนั้นก็ยังคงเหวี่ยงหมัดใส่ลงหลายตุบหลายตับ ทำเหมือนธนดลเป็นกระสอบทรายก็ไม่ปาน
จนคนที่นอนอยู่ที่โซฟา ต้องลุกขึ้นมานั่งดู ดวงตาของธามเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมาขยี้ตา เพราะคนตรงหน้าที่กำลังสั่งสอนธนดลดูคุ้นเคย และคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ยังเห็นไม่ชัดเจนเลย
“โอ้ย! ไอ้เชี่ย มึงต่อยกูทำไม นี่มันบ้านกู ห้องกู มึงเป็นใคร? มึงมาเล่นงานกูทำไม” ธนดลโมโห ได้แต่ตะโกนลั่น ดวงตาเปิดมอง แต่ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดี
ฝ่ายผู้มาใหม่เห็นว่าใบหน้าของธนดลแตกยับ เขาจึงหยุด และจ้องมองหน้า แต่มือทั้งสองข้างยังกระชากจับแน่นอยู่ที่คอเสื้อ และมองอีกฝ่ายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน สีหน้าทั้งเย็นชา และดุดันเอาเรื่อง ก่อนจะผินหน้า หันเหลือบมองไปยัง... ธาม
“นาย... อาร์ต…” ธามตกใจที่เห็นดวงหน้าของคนที่มาเยือน และช่วยจัดการธนดลให้ตัวเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด
“อะไร? นี่มึงรู้จักกันด้วยหรือธาม!”
“…” ธามไม่ตอบ
“แต่ไอ้นี่ มันก็น่าจะเข้ามาง่าย ๆ นะ มันยังไงกันเนี่ย” ธนดลงงงวย เพราะไม่เคยเห็นหน้าคนที่ทำร้ายตัวเอง แล้วยังดวงตาของธามในเวลาที่ที่สั่นไหวระริกจนสังเกตเห็น
“ว่าไงวะ?” ธนดลยังตะโกนออกมาอย่างไม่ใยดี
“ก็กูมีรหัสห้องนี้ ที่เจ้าของร่วมไม่เคยเปลี่ยนรหัสผ่านประตูอย่างไงล่ะ”
“หา! มึงพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? แล้วมึงเป็นอะไรกับธามของกู”
“ของกูหรือ? แต่เมื่อกี้กูได้ยิน ธามบอกว่าให้มึงปล่อย ธามไม่ได้ยอมมึง”
“ไอ้ขี้เสือก”
“อื้อ... รู้ก็ดีแล้วนี่ กูก็ขี้เสือกจริง ๆ เสียด้วย แต่ขอโทษนะ ห้องนี้เป็นชื่อของกูครึ่งหนึ่ง และก็ชื่อของธามครึ่งหนึ่ง การที่จะให้ใครมาอยู่ที่นี่ก็ต้องได้รับอนุญาตจากกูด้วย”
“มึง มึง...” ดูเหมือนธนดลจะโกรธจนหัวจะระเบิด
“ขอโทษนะ” เขาดึงคอเสื้อของธนดล พร้อมกับฉุดให้ลุกขึ้นยืน
“ที่นี่ ไม่ใช่ที่ของนาย กูกลับมาทวงที่ของฉันแล้ว ออกไปดี ๆ หรือว่าจะให้ลูกน้องของกูเอาตัวมึงออกไป”
“ธาม... พูดอะไรสักอย่างสิ”
“ฮ่า...” เสียงหัวเราะแหลมจนคนฟังเสียดแทงในรูหู
“ถ้าไม่อยากเดือดร้อนนะครับ คุณธนดล ผมคือประธานคนใหม่ของเฉินกวงกรุ๊ป ได้ข่าวว่า พ่อนายเพิ่งจะเสร็จสัญญาไปนี่ ถ้าไม่อยากล้มละลาย หรือว่าให้พ่อของนายเจ๊งล่ะก็ กลับออกไป”
“อะไรนะ?” ธนดลถึงกับมีใบหน้าซีดเผือด
“ได้ยินแล้วนี่ หรือว่านายต้องแคะขี้หูหน่อย”
คราวนี้เป็นธนดลเสียเองที่กลืนน้ำลายลงไปในคออย่างลำบาก
“ฝากความคิดถึงถึงพ่อของนายด้วยนะ แล้ว... เฮ้ย! ใครที่อยู่ข้างนอกนะ พวกนายเข้ามาสิ เข้ามาเอาตัวไอ้หมอนี่ออกไปให้พ้นหน้าฉันที!”
“ครับบอส” ชายฉกรรจ์ชุดสีดำ กรูกันเข้ามาถึงสามคน
“เฮ้ย! อะไรวะ? พวกมึงทำแบบนี้ไม่ได้นะ ปล่อยกูสิวะ ปล่อยกู กูบอกให้ปล่อยไง!”
“แมทธิว”
“ครับบอส”
“คืนเงินให้มันด้วยสองล้าน” แล้วนิ่งไปสักพัก
“อ้อ... ให้ดอกเบี้ยไปด้วย โทรศัพท์ไปบอกคุณธนาพ่อของนายธนดลด้วยสิว่า... คิดดอกเท่าไร มันจะได้ตาแจ้ง”
“ครับบอส”
แล้วแมธทิวก็พาลูกน้องออกไป พร้อมกับตัวของธนดล
ธามยังคงนิ่วหน้าขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ก่อนจะยังตกใจตะลึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ คือ... ‘อาชวิน’
‘อาร์ต... นายมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร’ คำถามมีมากมายในหัวของธาม และไม่เข้าใจมากกว่าว่าทำไมอาชวินกลับมา
ตอนนี้สายตาของอาชวินที่มองธาม เต็มไปด้วยความเย็นชา และเปลี่ยนไป เขาดูดุดันกว่าที่เคยเห็น แต่ใบหน้านั้นยังคงหล่อเหลาคมคายเช่นเคย อาชวินปรายตามองอดีตคนรัก ที่ทำเขาเจ็บช้ำมาอย่างยาวนาน แทบจะเสียคนเลยตอนนั้น
เสียงของธนดลได้หายไป หลังจากที่คนของอาชวินได้ลากตัวธนดลออกไปแล้ว
ธามได้สติ เขาลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย รู้สึกหวั่นไหวกับสายตาที่เรียบนิ่ง
“อาร์ต… นายกลับมาทำไม และต้องการอะไร?”
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อ ชื่อที่นี่เราซื้อด้วยกันสองคนนี่ นายอยู่ได้ ผมก็ต้องอยู่ได้” อาชวินเลือกใช่คำที่ห่างเหิน
ธามหลบสายตาของอาชวินในทันที
ยังไม่ทันที่ ธามจะได้ขยับตัว มือถือของธามก็ดังขึ้นตืด... ตืด... ตืด...‘บัวบูชา’ แค่เห็นชื่อเท่านั้น ธามรีบกดรับสาย เพราะปรกติพี่บัวจะไม่โทรศัพท์มาในเวลาอย่างนี้“มีอะไรหรือครับพี่บัว”(“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”)“เรื่องอะไรหรือครับ”(“คือ... บริษัทของเราเปลี่ยนมือเจ้าของแล้วนะ”)“หา! ว่าอย่างไรนะครับ ที่พี่บัวพูดหมายความว่ายังไงนะครับ?” ธามจ้องหน้าคนที่ทรุดตัวลงนั่งถึงกับยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา สายตาคือผู้ชนะ“พี่บัวครับ พี่ช่วยอธิบายอีกนิดสิครับ”(“เอ่อ… เรื่องนี้พี่ก็ไม่รู้แน่ชัดนะธาม แต่เรื่องจะกระจ่างภายในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้พี่แค่ส่งข่าวให้ธามเตรียมตัว คือโครงการต่าง ๆ ที่เราเสนอไป อาจจะ...”) บัวบูชาพูดไม่ออกเช่นกัน“นั่นหมายถึง โปรเจ๊กของผม”(“ใช่”) เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก ๆ ธามถึงกับเข่าอ่อน(“ยังไงพรุ่งนี้มาแต่เช้านะธาม”)“ครับพี่บัว” หน้าซีด ดวงตาหม่นขึ้นมาทันทีติ้ง ๆ ติ้ง ๆ มีข้อความเข้าในมือถือของเขาอีกครั้ง ธามจึงเปิดดู และแล้ว... ตัวของธามก็ชาดิก เพราะรูปถ่าย และข้อความที่ส่งมาให้ธามดู(นี่คือคุณอาชวิน หรือว่าคุณอาร์ตนะ เขาเป็นเจ้าของคนใหม่ เผื่อพรุ่งนี้ธามเข้ามาในบริษัท แล้วเจอเขา
“คือ… ผม…” แม้จะพึ่งดื่มน้ำไป แต่คอของเขาก็แห้งผาก“ผมกำลังสับสน และยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ยังไงก็ตามวันนี้พอก่อนเถอะ ผมขอตัวนะ… คุณอาร์ต” ในเมื่อเขาทำตัวเหินห่างขนาดนี้ ธามก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตัวสนิทสนมกับเขาอีกที่ในห้องในเวลานี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยแห่งความกระอักกระอ่วน บรรยากาศมาคุลอยอบอวลขึ้นมา แม้แสงไฟจะสว่างจ้า แต่ดวงตาของธามก็พร่ามัวเขากำลังเดินผ่านอาชวิน แต่ทว่ามือหนาของอาชวินก็จับเอาไว้ ธามหันหน้ามามองเขา พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงรินลงมา ก่อนที่ตรงหน้าของธามจะกลายเป็นสีขาวโพลน และร่างเล็ก ๆ ของธามก็ทรุดลงไป ดีที่ยังมีมือของอาชวินจับเอาไว้อยู่“นาย… ธามเป็นอะไร”พออาชวินได้ดึงตัวของธามเข้ามาปะทะกับแผงอก ใบหน้าของธามกระทบกับแผงหน้าอกของเขา อาชวินก็รู้ได้ทันทีว่า ธามกำลังป่วย“ไม่สบายเหรอ?”ธามได้สติมาบ้างแล้ว… ความร้อนที่กระจายออกมาทั่วทั้งร่างกายแผ่ซ่าน ตอนนี้ในหัวของธามปวดร้าวระบมไปหมด อีกทั้งการกลับมาได้เจอกับอาชวิน และได้รับความเฉยชา ไม่ยินดียินร้าย แล้วยังเหยียบย่ำน้ำใจของธามอีกด้วยเขาสำนึกผิดแล้ว… และรอคอยกันกลับมาของอาชวินเสมอ เพียงอยากจะขอโทษอาชวินสักคำแต่ทว่า… ธามไม่ได้พูด
อาชวินถอนหายใจเสียงดังออกมา สลับกับการยิ้มเยาะทางคนป่วย… ก็พูดแทบไม่มีเสียงดังออกมาแล้ว“แต่กลับมาหาฉันใช่ไหม แต่กลับมาทำไม อยากแก้แค้นเหรอ อยากทำอะไรกับฉันเหรอ แต่ฉันรักนาย อาร์ต...” ธามพูดเหมือนคนไม่ได้สติเพราะจับไข้นั่นแหละ"พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่องหรอก คนบ้า..." เขาหยิบยาป้อนข้าวไปที่ปากของธาม“กินซะ” อาชวินพูดสั้น ๆ แต่น้ำเสียงนั้นกลับฟังดูอ่อนโยนกว่าที่เขาคิดธามพยายามลืมตาอย่างยากลำบาก เขามองไปที่อาชวิน ราวกับไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เห็นเป็นความจริงหรือไม่ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เปิดปากรับยา“ดี... อย่างน้อยก็ยังไม่ดื้อไปกว่านี้” อาชวินพูดเสียงเบา เพราะเห็นว่าธามกินยาลงไปแล้ว เขาก็จับธามให้นอนลง อาชวินบรรจงเช็ดตัวให้กลับธามอีกครั้ง จนร่างกายของธามเย็นลง อาชวินถอนหายใจอย่างโล่ง ๆ เขาก็ได้นอนลงไปใกล้ ๆ กับธามสายตาของอาชวินมองไปที่เพดาน เขายังเห็นดาวหลายดวงที่ช่วยกันติดเมื่อครั้งก่อน เวลาปิดไฟแล้วสะท้อนแสง เขายังว่าให้กับธาม“นายน่ะมันปัญญาอ่อน เราโตแล้วนะเว้ย นี่ให้เด็ก ๆ เล่นกันเท่านั้น”“อาชวินช่วยหน่อยสิ” เสียงออดอ้อน จนในที่สุดอาชวินนั่นแหละที่เป็นคนติดให้กับธาม ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนกอด
ร่างเล็ก ๆ ของธามค่อย ๆ ขยับ เขานอนซมเพราะพิษไข้มาทั้งคืนแล้ว และตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแต่ทว่า… เสียงหนึ่งทำให้ธามสะดุ้งสุดตัว“ตื่นแล้ว ธามนายตื่นแล้วใช่ไหม?” น้ำเสียงที่คุ้นเคยสุดๆ“อาร์ต… นาย...” กลีบปากของธามขยับเรียกชื่อของอาชวินออกมา ส่องดวงตาของธามเปิดขึ้น และมองหน้าของคนตรงหน้า“อาร์ต” ธามเอ่ยปากเรียกเขาอีกครั้งหนึ่ง“ทำไมเอาแต่เรียก… อาร์ต… อาร์ต… ฮะ! ธาม ใช่ฉัน! คนที่นายผลักไสเนี่ย อาร์ตไง… นายมองไม่ผิดหรอกน่า และฉันจะบอกว่าฉันยังไม่ตาย ฉันไม่ได้เป็นผี” น้ำเสียงที่กระแทกกระทั้นเสียงดังแบบดุเข้ม จนทำเอาธามต้องตื่นเต็มตา“รู้สึกดีขึ้นหรือยัง เมื่อคืนนายไข้สูงมาก”“ดีขึ้นมากแล้ว” และก็คลี่ยิ้มออกมาให้กับอาชวินด้วยคนตรงหน้าถึงกับไปไม่เป็น ไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่ถวิลหาคิดถึงตลอดเวลา เขาจึงหันหน้าหนี แล้วก็รีบลุกขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่ที่เตียง“จะว่าไปนายต้องกินยาอีกนะ ยาลดไข้น่ะ เพราะไข้ของนายยังไม่ลดหรอก แค่รู้สึกดีขึ้นเท่านั้นเอง”“ขอบคุณมากนะอาร์ตที่อยู่ดูแล”“มันเป็นเรื่องของมนุษยธรรมน่ะ ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน จะปล่อยให้นายตายในห้องนี้ได้อย่างไรกันเล่า”เรื่องราวในหัวที่สนทน
“ก็วัดได้จากความพอใจนะ”"อาร์ต... นายหมายความว่ายังไง?" ธามถามเสียงเบา พยายามซ่อนความหวั่นไหวในใจอาชวินหัวเราะ แววตาไม่เหลือความอบอุ่น เขาจับปลายคางของอีกฝ่ายไว้แน่น"ฉันคิดว่าคงไม่ต้องถามอะไรมากมั้ง ก็แค่ทำตามที่ฉันพอใจ ก็ฉันจ่ายหนี้ให้สองล้าน นายก็รู้อยู่แล้วว่านายต้องให้อะไรตอบแทน มันจะคุ้มค่าแก่การลงทุน อีกอย่าง... นายไม่มีเงินที่จะมาจ่ายเป็นดอกเบี้ยอยู่แล้วนี่"ธามหลบสายตา น้ำตารื้นขึ้นมาแต่เขาพยายามกดมันไว้“นายไม่ต้องการแบบนี้จริง ๆ หรอก...” อาชวินจ้องลึกลงไปในตาของธามเขาใช้น้ำเสียงเริ่มกระซิบข้างๆ ใบหูของธามอย่างเย็นชา“นายคิดว่า... ฉันจะทำเพื่ออะไรล่ะ? เพราะฉันยังรักนายอยู่เหรอ?” เว้นจังหวะ และช้อนสายตามองอย่างเย้ยหยัน“ไม่ใช่เลยธาม ฉันแค่มาทวงสิ่งที่เป็นของฉันคืน... เงิน กับสิ่งที่นายยังค้างคากับฉันอยู่”ความเจ็บปวดแทรกเข้ามาในหัวใจของธาม แต่เขากลับไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของอาชวินได้ธามยอมรับว่าตัวเองรักอาชวินเหลือเกิน ไม่เคยลืมเลือน แม้จะต้องเจ็บปวดจากคำพูดที่ทำให้ใจเขาเหมือนถูกกรีดเป็นเสี่ยง ๆ เขายอมเพราะเขายังรอคอย รอให้อาชวินกลับมาหาสักครั้ง"ถ้าอย่างนั้น... ก็มาสิ
แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวเสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้าส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบและ
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวเสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้าส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบและ