แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟ
ไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียว
เสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ
“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้า
ส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข
“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการ
ทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบ
และมีคนบางคนเผลอบอกว่า ยังรักอาชวินอยู่ดังไม่ขาดสาย เหมือนจะย้ำให้อาชวินได้รู้ว่า การแก้แค้นนี้มันทำให้อาชวินเกิดความสุขจริงหรือ เนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และความพอใจที่หลั่งไหลออกมาราวกับมันถูกกักขังเอาไว้แสนนาน
“ฉีดยาให้หลายเข็มแล้วนะ นายจะได้รีบหาย” คำพูดเย้าหยอก หากเป็นเมื่อก่อน มันหวานจับใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เหมือนเขากำลังหยัดและเหยียดธาม
ธามนอนหลับลงไปอย่างอ่อนเพลีย แต่ใบหน้ามีรอยยิ้ม เขาไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของตัวเอง ไม่เคยมีความรู้สึกว่าโล่งในสมองเหมือนวันนี้มาก่อน
วันนี้อาชวินยังไม่ได้ยกโทษให้
‘แต่สักวัน... ฉันจะทำให้นาย... หยุดคิดที่จะทำร้ายกันอีก แต่... ตอนนี้ยังไงก็ยอม ขอแค่มีนาย’
บนใบหน้าของธามที่เคยมีรอยย่นขมวดที่หน้าผาก ตอนนี้หายไปหมดแล้ว
ส่วนอาชวิน เขาพยายามรวบรวมสติและความคิดของตัวเองให้กลับมา ‘อย่าใจอ่อนเด็ดขาดนะอาร์ต’ คำเตือนที่ให้กับตัวเอง พร้อมกับลุกขึ้นไปจากเตียง มุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ
อาชวินสบตากับตัวเองในกระจก ดวงตาที่เคยดุดัน พยศ บ้าคลั่ง เหมือนจะลดทอนลงไป รวมถึงความอึดอัดสะสมที่เต็มไปด้วยความแค้นก็ลดราลงไปด้วย...
เขาเลือกที่จะกลับออกมา แล้วหายออกไปจากห้องนั้น ทิ้งให้ธามนอนหลับเพียงลำพัง
ธามตื่นนอน เขาเดินหาอาชวินไปทั่วห้อง แต่ไร้เงาของอาชวินในห้องนี้ ธามนั่งลงพับพาบอยู่ที่พื้น พร้อมกับปล่อยเสียงสะอื้นออกมา ความเสียใจถาโถม
‘ทำไมล่ะ นายจะแก้แค้นฉันแค่นี้หรืออาชวิน ทำไม?’
เหมือนโลกถล่มลงมาอีกครั้ง ธามคิดว่าอาชวินจะไปจากเขาจริง ๆ อีกครั้ง มาให้เห็นหน้า มาให้คิดถึง แล้วก็หายไป
‘อาชวิน นายจะลงโทษฉันเท่าไรก็ได้นะ ขอแค่นายอยู่ใกล้ฉัน จะด่าทอต่อว่า เสียดสีอย่างไรก็ได้ ฉันยอมทั้งนั้น’
ทั้งหัวใจและร่างกายของธามอ่อนแรง... ธามได้แต่ปล่อยเสียงโฮ ๆ และสะอื้นฮัก ๆ ไม่ได้ร้องไห้แบบนี้มานานมากแล้ว น้ำตาที่กักเก็บซ่อนเอาไว้จากลึกสุดใจ ตอนนี้ธามได้ปล่อยมันให้ไหลออกมา
เช้าวันถัดมา
ในทันที อาชวินเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ร่างสูงของท่านประธานบริษัทคนใหม่ก็เดินเข้ามา
‘อาชวิน... อาร์ต...’ ในใจของเขาเผลอยิ้ม
ธามได้แต่มองตามร่างสูงนั้นไป ไม่รู้ว่าจะต้องเอ่ยคำพูดใดออกมา นอกจากคำว่าดีใจ และโล่งใจ ที่อาชวินไม่ได้ไปไหน ยังคงอยู่ที่นี่ และอยู่กับเขา
ไม่ใช่สิ… ทำงานที่เดียวกัน
“หล่อจังเลยเนอะ”
“ใช่ อายุยังน้อยนี่ดิ โคตรเก่งเลยอะ”
“ได้ข่าวว่าพ่อของคุณอาชวินเป็นถึงเจ้าสัวใหญ่ของปักกิ่งนะ”
“อิจฉาเลยอะ คนเราทำไมจะโชคดีอะไรอย่างนั้น”
“จีบเลยไหม”
“หื้อ! คุณอาชวินเขาไม่สนใจหญิงจ้า”
“บ้าน่า!”
“จริง เขาประกาศออกสื่อชัดเจนนะ ว่าเขาเป็นอะไร?”
“หล่อนไปเห็นที่ไหนมายะ”
“เคยมีอีช้อยร้อยแปด อะไรสักอย่าง แบบมีตัวย่อนะ อชว…”
“เชอะ! แกก็ใส่ไคร้เสียมากกว่า อะไรจะรู้ลึก และคิดว่าเป็นเจ้านายคนใหม่ของเราล่ะฮึ!”
“บ้า! เรื่องจริงย่ะ แล้วฉันไปหา ส่งให้แกอ่านก็แล้วกัน”
สาว ๆ ในออฟฟิศพากันเมาท์มอย...
จนกระทั่ง… คุณบัวบูชาเดินเข้ามา...
“พวกหล่อนหุบปากกันหน่อยนะ พูดกันดังมาก และวิจารณ์ใครไม่วิจารณ์ นั่นเจ้าของบริษัทคนใหม่นะยะ” ทุกคนพากันหลบสายตา และแตกหือไปคนละทิศะลทาง
คุณบัวบูชาเดินมาที่โต๊ะของธาม... “คุณอาชวินอยากจะคุยกับธามก่อนคนอื่นนะ เพราะทุกโปรเจ็กต่าง ๆ อยู่ในมือของธาม”
“ตอนไหนครับพี่บัว”
“ตอนนี้สิ”
“ครับ” ธามสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะหยิบแฟ้มการทำงานของเขา เข้าไปในห้องของอาชวิน ตามคำสั่งของพี่บัว
คุณบัวบูชาหันไปเล่นงานสาว ๆ ที่จับกลุ่มเมาท์กันเมื่อสักครู่
ส่วนธามเดินตรงไปที่หน้าห้องทำงานของอาชวิน เขาหยุดยืนอ่านป้ายที่มีคนมาเปลี่ยนแล้ว
‘อาชวิน พรเพชร ประธานบริษัท’
‘อาร์ต… ฉันควรดีใจกับนายสินะ’ ธามก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ก่อนที่เขาจะยืดตัว และสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง
ทำไมการกลับมาครั้งนี้ ธามประหม่าลงไปมากอย่างไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะสายตาที่เคียดแค้นหนักของอาชวินอย่างนั้นหรือ หรือว่าเพราะความกลัวที่ตัวเองยังรักอาชวินไม่เคยเปลี่ยน!
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... ธามเคาะประตูอยู่ข้างนอก
“เข้ามาสิ” เสียงคนข้างในตอบกลับมา ธามจึงเปิดประตูห้องทำงานของอาชวินเข้าไป
สายตาของคนสองคนประสานสอดกันแน่น... ธามดีใจที่ยังเห็นเขาอยู่ตรงหน้านี้ ใบหน้าเปื้อนยิ้มยินดีอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยเหรอ”
“เอ่อ… ขอบคุณเรื่องอะไร” ถามกลับทันที แต่ก็นึกขึ้นได้ ธามไม่ควรทำให้อาชวินไม่พอใจ
“อ่า! ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ช่วยดูแลตอนที่ไม่สบาย”
“แล้วดีขึ้นแล้วหรือ” ถามเหมือนเจ้านายถามลูกน้อง สายตาว่างเปล่า จนธามเจ็บที่หน้าอก
“เข้ามาใกล้ ๆ สิ เชิญนั่ง เพราะเราต้องคุยงานกันอีกนาน”
“เอ่อ… ผมได้ส่งงานที่คุณขอมากับพี่บัวให้ทางอีเมลแล้ว”
“มันจะเหมือนที่จะมาคุยด้วยตัวเองได้อย่างไร”
“อ้อ… ครับ”
พอเห็นความเป็นทางการของธามแล้ว อาชวินก็หงุดหงิด เมื่อเขาเห็นธามนั่งลง เขาก็ลุกขึ้นทันที ธามมองตามเขา อย่างไม่เข้าใจ เพราะอาชวินเดินอ้อมโต๊ะแล้วมาที่ตัวเอง
หมับ… สองมือของเขาจับลงไปที่หัวไหล่ของธาม
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวเสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้าส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบและ