มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”
“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน
“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงาน
น้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว
&nb
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างธามและอาชวินเริ่มมีรอยร้าวที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ ความเงียบของธามที่เคยเป็นเครื่องหมายของความมั่นคง กลับกลายเป็นช่องว่างที่อาชวินรู้สึกว่า เขาไม่สามารถข้ามไปถึงได้การทำงานของธามทำให้เขาต้องเดินทาง แลได้พบปะผู้คนหลากหลาย ที่มีทั้งอำนาจและสถานะทางสังคมขณะที่อาชวินซึ่งทำงานในวงการศิลปะและสื่อสร้างสรรค์ มักอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป มีรายได้ไม่แน่นอน และต้องดิ้นรนเพื่อแสดงตัวตนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้าง เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มทวีความรุนแรง ทั้งเรื่องสถานะทางการเงินของอาชวินการใช้ชีวิตที่ไม่หรูหราของอาชวิน มันไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ครอบครัวของธามคาดหวังสิ่งเหล่านี้สร้างแรงกดดันให้กับธามมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งธามเริ่มฟังเสียงรอบตัวมากกว่าคำพูดของคนที่เขารักวันหนึ่ง ธามได้รับแรงกดดันจากครอบครัวให้แต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและชาติตระกูล และในวันนั้นเอง เขาตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับอาชวิน“อะไร? มีอะไรอีก?” เสียงที่เข้มขึ้น และหน้าตาที่มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ“นายจะบอกฉันเมื่อไหร่?” ความกดดันเอ่ยออกมาทางน้ำเสีย
“ใช่สิ! นายเอาแต่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดเสมอ นายฟังคนอื่นพูดได้ และเชื่อไปต่าง ๆ นานา แต่ทำไม? ถึงไม่เคยเชื่อเวลาที่ฉันพูดอะไรเลย เห็นใจกันบ้างเถอะ แต่... ก็เอาเถอะ ได้เลย! ได้! ถ้านายต้องการอย่างนี้จริง ๆ จะไม่มีเราอีกต่อไป ฉันจะไม่รั้งอีกแล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันทำแบบนี้ อ้อ... ห้องนี่ นายอยู่ไปเถอะ ไม่ต้องเก็บของไปไหนหรอก ฉันจะเป็นคนไปเอง!” ธามไม่ตอบอะไร เขานั่งลง ที่โต๊ะกินข้าว และหันหลังให้กับอาชวินอาชวินน้ำตาไหลริน เขารีบเก็บของที่เป็นของเขาจริง ๆ ลงกระเป๋าลากใบเดียวที่มี พร้อมกับเก็บของสำคัญอีกไม่กี่ชิ้นลงกระเป๋าเสียงประตูปิดดังปัง... แล้วธามก็หันกลับไปมองที่บานประตู อาชวินไปแล้วจริง ๆ ธามลุกขึ้น แล้วหันมองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง มองทะลุไปยังประตูห้องน้ำที่เปิดโล่งทุกมุม และทุกบริเวณห้องไร้วี่แววของอาชวิน ร่างของธามค่อยๆ ทรุดลงไปนั่งพังพาบอยู่ที่พื้น ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้า ความรู้สึกคือพังทลาย หัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดีอีกต่อไป‘ไม่มีอีกแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว’‘อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...’ เขาเรียกชื่อของคนที่เขารักครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนจะจารึกบันทึกเอาไว้ในหัวใจ
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวเสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้าส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบและ