“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”
“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…
“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”
“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”
“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลง
เพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ
“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”
สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อย
ธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป
“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”
“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม นายต้องเชื่อใจฉัน”
“นายหมายความว่ายังไง?” ธามรู้ความหมาย แต่ในตอนที่ให้เหตุผลในตอนจากลากับอาชวินเมื่อห้าปีก่อน เขาผิดเองที่ใส่โทษให้เป็นความผิดของอาชวินทุกอย่าง
“ห้าปีที่ผ่านมา นายได้มีอิสระ มีความสุข และได้ทำตามความต้องการของครอบครัว และตัวนายเอง นายพอใจหรือยังล่ะ”
ทั้งที่รู้ความเป็นไปเป็นมาของธามทุกอย่าง แต่อาชวินไม่ปล่อยผ่าน ก็แค่อยากจะแดกดันให้ธามรู้สึกเจ็บเหมือนเขา
อาชวินอยากให้ธามทรมานเหมือนเขา เพราะห้าปี อาชวินไม่เคยปล่อยวางได้สักวันเดียว...
“เดี๋ยวสิ ตอบคำถามฉันมานะ นายหมายความว่ายังไงที่นายพูดเมื่อกี้”
“ฉันต้องการนาย แค่นี้ยังไม่ชัดอีกเหรอ”
“นาย… ไม่ได้เกลียดฉันแล้วหรอกเหรอ”
“ก็ถ้าฉันเกลียด แล้วนายจะทำยังไง”
“ไม่รู้สิ… แต่คนที่เขาเกลียดกัน เขาจะไม่อยากเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ แต่นายพึ่งบอกนี่ว่า... นายต้องการฉัน นายล้อเล่นกับฉันหรือไง บอกมาสิ”
“ฉันไม่เคยล้อเล่น ชีวิตของฉันพูดและทำจริงเสมอ ฉันบอกว่าฉันจะไป ฉันก็ไป แต่ฉันไม่ได้บอกว่า ฉันจะไม่กลับเข้ามาในชีวิตนายเพื่อทำสิ่งดี ๆ ด้วยสักหน่อย ตอนนี้ระหว่างเรา ไม่มีอุปสรรคแล้วนี่ อย่าเสียเวลา มาทำอะไรอย่างว่ากันดีกว่า”
“อาร์ต…” เสียงที่กลืนหายลงไปในลำคอ
มือหนาของอาชวินจับลงไปบนไหล่บางของธาม และในเวลาอันรวดเร็ว เขาก็ได้รูดซิป แล้วงัดเอาบางสิ่งบางอย่างออกมา
ธามถึงกับทำตาโต เงยหน้ามองเขายังไม่เข้าใจ
“นายจะทำอะไร”
“ยังจะมาถามอีก ไม่อยากเสียเวลานะ”
“เดี๋ยว… ที่นี่ มันที่ทำงานนะ”
“แล้วไง บริษัทของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
“คนอื่นอาจจะมาเจอก็ได้นะ”
“กลัวอะไรล่ะ ที่นี่... ฉันสั่งเอาไว้แล้ว ถ้าฉันไม่เรียกใคร ก็อย่าบังอาจเข้ามาในห้องนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นโดนไล่ออก”
“เผด็จการ เอาแต่ใจ”
“มันมีคนบางคนเปลี่ยนฉันน่ะ เมื่อก่อนฉันก็ไม่ได้เป็นคนแบบนี้หรอกนะ นายก็รู้ดี แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว…”
พูดจบเขาก็จิ้มแท่งเนื้อที่แข็ง ๆ ของตัวเองเข้าไปที่กลีบปากของคนตัวเล็ก ตอนนี้หน้าซีดจังไปหมดแล้ว พร้อมกับช้อนตาขึ้นมามองเขาอย่างไม่พอใจ
“เร็ว ๆ สิ”
ธามที่ถูกบังคับถึงกับทำหน้าไม่ถูก ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง แต่แล้ว... ก็ต้องทำตามความประสงค์ของอาชวิน
ดวงตาของคนตัวเล็กมองต่ำ เผยออ้าปาก ก่อนจะใช้กลีบปากของตัวเองแตะลงไปที่หัวมันหยักของคนตัวโต ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ก็บอกนายแล้ว ว่าอย่าดื้อ ฉันสั่งอะไรนาย นายก็ต้องทำ ตอนนี้… นายเป็นหนี้ฉันอยู่นะ”
ธามกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ก่อนจะจัดการดูดดุนแท่งโตของอาชวินเข้าไปในโพรงปากของตัวเอง เสียงครางอื้ออ้าหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของอาชวิน ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับลูบใบหน้าของธามอย่างชอบอกชอบใจ พลางขยุ้มเส้นผมของธามอีกด้วย
“อ๊อก...” เสียงที่ทรมานออกมาจากลำคอของธาม ความคืบหน้าของแท่งใหญ่อัดกระแทกเข้าไปเต็ม ๆ
“ดูดสิ ทำให้ฉันมีความสุขหน่อย… โอ้ว… โอ้อย่างนั้นแหละ” เสียงหัวใจของทั้งสองคนเต้นสั่นรัว ๆ
เจ้าของร่างเพรียวขบงับริมฝีปากดูดดุนแท่งโตอันมีเส้นเลือดโป่งพองคับแน่น น้ำตาคลอออกมายังไม่รู้ตัว ธามรู้สึกเจ็บใจอยู่เหมือนกัน
แต่ทั้งหมดของการกดขี่ข่มเหง มันเป็นผลมาจากการกระทำของเขาในอดีต ในตอนนี้สิ่งที่ธามทำได้ คือทำตามความต้องการที่เอาแต่ใจของอาชวิน
“ฉันไม่ใช่คนโง่… ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันตื่นจากความฝันร้าย วันนี้ฉันจะให้นายตกอยู่ในฝันร้ายนั้นบ้าง ว่าการถูกย่ำยีทางจิตใจ มันเป็นอย่างไร ฉันไม่ได้ต้องการที่จะกลับมาฟังนายพูดความจริง มันไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ความรัก… มันเป็นเรื่องหลอกลวง การแต่งงาน และคำมั่นสัญญาที่จะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย งานแต่งงานที่เราเคยฝัน ฉันที่เคยคิดเอาไว้ว่า จะแห่ขันหมากไปที่บ้านของนาย แล้วคุยต่อหน้าพ่อแม่นายเลย จากนั้น... เราก็จัดงานในแบบฉบับที่เราต้องการ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ อู้…” อาชวินลั่นปากคราง และสูดปากยาว
ธามที่ถูกบีบบังคับ… เขาพยายามจะเข้าใจว่า สิ่งที่อาชวินได้รับนั้นคืออย่างไร
จะว่าไปแล้ว... ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธามก็จมดิ่งอยู่กับความผิดหวังเสียใจด้วยเช่นกัน ในใจของธาม ‘ยังไงฉันก็ไม่เข้าใจ นายช่วยใช้หนี้ฉันทำไม นายควรจะเกลียดฉันสิ ฉันทอดทิ้งนายนะ แล้วคิดว่า การกระทำแบบนี้คือการแก้แค้นเหรอ ฉันรักนายนะ… อาร์ต’
สิ่งที่ธามคิด แต่ไม่ได้พูดมันออกมา เพราะว่าตอนนี้ท่อนรักของอาชวินอัดแน่นอยู่เต็มโพรงปากของเขา และคนเป็นเจ้าของแท่งใหญ่ก็กำลังขยับชักเข้าออก ๆ
“ฉันรู้สึกดีนะ ดูดแรงอีกนิดนึงสิ” เสียงของอาชวินเร่งเร้า ก่อนที่เขาจะพูดอีก
“ถ้าฉันบอกว่า ที่ผ่านมาฉันเข้าใจเหตุผลของนายดี จึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายไป ทำให้เหมือนกับว่า ฉันและนายจบกันไปจริง ๆ ถ้าฉันจะบอกว่า ที่ผ่านมาฉันเชื่อใจนายเสมอว่า... เราจะไม่ยอมมีอะไรกับใคร และรอฉันกลับเข้ามาในสักวัน ถ้าฉันจะบอกว่า ฉันรู้ทุกอย่างตลอดระยะเวลาห้าปีที่เกี่ยวกับตัวนาย นายจะเชื่อฉันไหมล่ะ”
อาชวินพูดไปในขณะที่ โยกย้ายสะโพกสอบ พร้อมกับใช้นิ้วจิกขยุ้มเส้นผมของธามแรง ๆ เสียงสอดประสานของสองอวัยวะ เสียงน้ำลายที่เอ่อท่วมล้นกลีบปากของธาม ความรู้สึกของทั้งสองคนคือกระเจิดกระเจิง อาชวินได้ถอดด้ามแข็งออกมาจากโพรงปากของธาม
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างธามและอาชวินเริ่มมีรอยร้าวที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ ความเงียบของธามที่เคยเป็นเครื่องหมายของความมั่นคง กลับกลายเป็นช่องว่างที่อาชวินรู้สึกว่า เขาไม่สามารถข้ามไปถึงได้การทำงานของธามทำให้เขาต้องเดินทาง แลได้พบปะผู้คนหลากหลาย ที่มีทั้งอำนาจและสถานะทางสังคมขณะที่อาชวินซึ่งทำงานในวงการศิลปะและสื่อสร้างสรรค์ มักอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป มีรายได้ไม่แน่นอน และต้องดิ้นรนเพื่อแสดงตัวตนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้าง เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มทวีความรุนแรง ทั้งเรื่องสถานะทางการเงินของอาชวินการใช้ชีวิตที่ไม่หรูหราของอาชวิน มันไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ครอบครัวของธามคาดหวังสิ่งเหล่านี้สร้างแรงกดดันให้กับธามมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งธามเริ่มฟังเสียงรอบตัวมากกว่าคำพูดของคนที่เขารักวันหนึ่ง ธามได้รับแรงกดดันจากครอบครัวให้แต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและชาติตระกูล และในวันนั้นเอง เขาตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับอาชวิน“อะไร? มีอะไรอีก?” เสียงที่เข้มขึ้น และหน้าตาที่มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ“นายจะบอกฉันเมื่อไหร่?” ความกดดันเอ่ยออกมาทางน้ำเสีย
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวเสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้าส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบและ