“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”
เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมา
ธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างธามและอาชวินเริ่มมีรอยร้าวที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ ความเงียบของธามที่เคยเป็นเครื่องหมายของความมั่นคง กลับกลายเป็นช่องว่างที่อาชวินรู้สึกว่า เขาไม่สามารถข้ามไปถึงได้การทำงานของธามทำให้เขาต้องเดินทาง แลได้พบปะผู้คนหลากหลาย ที่มีทั้งอำนาจและสถานะทางสังคมขณะที่อาชวินซึ่งทำงานในวงการศิลปะและสื่อสร้างสรรค์ มักอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป มีรายได้ไม่แน่นอน และต้องดิ้นรนเพื่อแสดงตัวตนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้าง เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มทวีความรุนแรง ทั้งเรื่องสถานะทางการเงินของอาชวินการใช้ชีวิตที่ไม่หรูหราของอาชวิน มันไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ครอบครัวของธามคาดหวังสิ่งเหล่านี้สร้างแรงกดดันให้กับธามมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งธามเริ่มฟังเสียงรอบตัวมากกว่าคำพูดของคนที่เขารักวันหนึ่ง ธามได้รับแรงกดดันจากครอบครัวให้แต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและชาติตระกูล และในวันนั้นเอง เขาตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับอาชวิน“อะไร? มีอะไรอีก?” เสียงที่เข้มขึ้น และหน้าตาที่มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ“นายจะบอกฉันเมื่อไหร่?” ความกดดันเอ่ยออกมาทางน้ำเสีย
“ใช่สิ! นายเอาแต่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดเสมอ นายฟังคนอื่นพูดได้ และเชื่อไปต่าง ๆ นานา แต่ทำไม? ถึงไม่เคยเชื่อเวลาที่ฉันพูดอะไรเลย เห็นใจกันบ้างเถอะ แต่... ก็เอาเถอะ ได้เลย! ได้! ถ้านายต้องการอย่างนี้จริง ๆ จะไม่มีเราอีกต่อไป ฉันจะไม่รั้งอีกแล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันทำแบบนี้ อ้อ... ห้องนี่ นายอยู่ไปเถอะ ไม่ต้องเก็บของไปไหนหรอก ฉันจะเป็นคนไปเอง!” ธามไม่ตอบอะไร เขานั่งลง ที่โต๊ะกินข้าว และหันหลังให้กับอาชวินอาชวินน้ำตาไหลริน เขารีบเก็บของที่เป็นของเขาจริง ๆ ลงกระเป๋าลากใบเดียวที่มี พร้อมกับเก็บของสำคัญอีกไม่กี่ชิ้นลงกระเป๋าเสียงประตูปิดดังปัง... แล้วธามก็หันกลับไปมองที่บานประตู อาชวินไปแล้วจริง ๆ ธามลุกขึ้น แล้วหันมองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง มองทะลุไปยังประตูห้องน้ำที่เปิดโล่งทุกมุม และทุกบริเวณห้องไร้วี่แววของอาชวิน ร่างของธามค่อยๆ ทรุดลงไปนั่งพังพาบอยู่ที่พื้น ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้า ความรู้สึกคือพังทลาย หัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดีอีกต่อไป‘ไม่มีอีกแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว’‘อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...’ เขาเรียกชื่อของคนที่เขารักครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนจะจารึกบันทึกเอาไว้ในหัวใจ
“What? อะไรกันวะ มึงพูดแบบนี้ ธาม... มึงนะมันเห็นแก่ตัว” นัยน์ตาของธนดลเจ็บปวดมาก ๆ ที่เขาทำทุกอย่าง เฝ้าคอย รออย่างมีความหวัง เพราะคำว่ารัก มันจุกแน่นในอก“ฮึ! ได้... ได้สิ... ปล่อยเหรอวะ! ได้เลย! ปล่อยของกู คือ กูจะไม่ปล่อยมึงให้ลอยนวลอีก วันนี้... และกูจะคิดบัญชีที่มึงให้กูรอ ธามมึงมานี่!”ธนดลลุกจากเก้าอี้ แล้วตรงดิ่งเข้าไปล็อกตัวของธามเอาไว้ พร้อมกับรวบยกตัวขึ้นลอย พาเดินไปยังโซฟาที่อยู่ในห้องนั้น“โอ้ย! เจ็บนะ ดล... นายต้องปล่อยฉัน ปล่อย”ใจร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว หัวใจสั่นระรัว แรงของธนดลมีมากกว่า อีกอย่างเร็วแรงของธามนั้นหมดไปกับการทำงานแล้ว ธนดลเหวี่ยงร่างที่เบา ๆ ของธามลงไปบนโซฟาตัวอย่างที่อยู่กลางห้องนั้นก่อนจะเข้ามาจู่โจมโถมทับ สองมือแกร่งจับใบหน้าของธามเอาไว้ ยึดให้อยู่กับที่ ธนดลพยายามจะจูบ โดยการบดขยี้กลีบปากลงไป ทว่าธามดิ้นขลุกขลักและไม่ยอมแรงที่มีทั้งหมดของธามสู้และขัดขืนการบังคับข่มเหงของธนดลที่จะให้ธามยอมเขา แต่ธามดิ้นรนสุดแรงเกิด แม้จะตัวเล็กกว่ามาก สองมือยกยันใบหน้าของธนดลให้ออกห่าง พอกลีบปากเป็นอิสระก็พูดออกไป“อื้อ… ปล่อยนะ! ดล! นายอย่าฝืนใจฉัน”พลั่ก! ตุ้
ยังไม่ทันที่ ธามจะได้ขยับตัว มือถือของธามก็ดังขึ้นตืด... ตืด... ตืด...‘บัวบูชา’ แค่เห็นชื่อเท่านั้น ธามรีบกดรับสาย เพราะปรกติพี่บัวจะไม่โทรศัพท์มาในเวลาอย่างนี้“มีอะไรหรือครับพี่บัว”(“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”)“เรื่องอะไรหรือครับ”(“คือ... บริษัทของเราเปลี่ยนมือเจ้าของแล้วนะ”)“หา! ว่าอย่างไรนะครับ ที่พี่บัวพูดหมายความว่ายังไงนะครับ?” ธามจ้องหน้าคนที่ทรุดตัวลงนั่งถึงกับยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา สายตาคือผู้ชนะ“พี่บัวครับ พี่ช่วยอธิบายอีกนิดสิครับ”(“เอ่อ… เรื่องนี้พี่ก็ไม่รู้แน่ชัดนะธาม แต่เรื่องจะกระจ่างภายในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้พี่แค่ส่งข่าวให้ธามเตรียมตัว คือโครงการต่าง ๆ ที่เราเสนอไป อาจจะ...”) บัวบูชาพูดไม่ออกเช่นกัน“นั่นหมายถึง โปรเจ๊กของผม”(“ใช่”) เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก ๆ ธามถึงกับเข่าอ่อน(“ยังไงพรุ่งนี้มาแต่เช้านะธาม”)“ครับพี่บัว” หน้าซีด ดวงตาหม่นขึ้นมาทันทีติ้ง ๆ ติ้ง ๆ มีข้อความเข้าในมือถือของเขาอีกครั้ง ธามจึงเปิดดู และแล้ว... ตัวของธามก็ชาดิก เพราะรูปถ่าย และข้อความที่ส่งมาให้ธามดู(นี่คือคุณอาชวิน หรือว่าคุณอาร์ตนะ เขาเป็นเจ้าของคนใหม่ เผื่อพรุ่งนี้ธามเข้ามาในบริษัท แล้วเจอเขา
“คือ… ผม…” แม้จะพึ่งดื่มน้ำไป แต่คอของเขาก็แห้งผาก“ผมกำลังสับสน และยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ยังไงก็ตามวันนี้พอก่อนเถอะ ผมขอตัวนะ… คุณอาร์ต” ในเมื่อเขาทำตัวเหินห่างขนาดนี้ ธามก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตัวสนิทสนมกับเขาอีกที่ในห้องในเวลานี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยแห่งความกระอักกระอ่วน บรรยากาศมาคุลอยอบอวลขึ้นมา แม้แสงไฟจะสว่างจ้า แต่ดวงตาของธามก็พร่ามัวเขากำลังเดินผ่านอาชวิน แต่ทว่ามือหนาของอาชวินก็จับเอาไว้ ธามหันหน้ามามองเขา พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงรินลงมา ก่อนที่ตรงหน้าของธามจะกลายเป็นสีขาวโพลน และร่างเล็ก ๆ ของธามก็ทรุดลงไป ดีที่ยังมีมือของอาชวินจับเอาไว้อยู่“นาย… ธามเป็นอะไร”พออาชวินได้ดึงตัวของธามเข้ามาปะทะกับแผงอก ใบหน้าของธามกระทบกับแผงหน้าอกของเขา อาชวินก็รู้ได้ทันทีว่า ธามกำลังป่วย“ไม่สบายเหรอ?”ธามได้สติมาบ้างแล้ว… ความร้อนที่กระจายออกมาทั่วทั้งร่างกายแผ่ซ่าน ตอนนี้ในหัวของธามปวดร้าวระบมไปหมด อีกทั้งการกลับมาได้เจอกับอาชวิน และได้รับความเฉยชา ไม่ยินดียินร้าย แล้วยังเหยียบย่ำน้ำใจของธามอีกด้วยเขาสำนึกผิดแล้ว… และรอคอยกันกลับมาของอาชวินเสมอ เพียงอยากจะขอโทษอาชวินสักคำแต่ทว่า… ธามไม่ได้พูด
อาชวินถอนหายใจเสียงดังออกมา สลับกับการยิ้มเยาะทางคนป่วย… ก็พูดแทบไม่มีเสียงดังออกมาแล้ว“แต่กลับมาหาฉันใช่ไหม แต่กลับมาทำไม อยากแก้แค้นเหรอ อยากทำอะไรกับฉันเหรอ แต่ฉันรักนาย อาร์ต...” ธามพูดเหมือนคนไม่ได้สติเพราะจับไข้นั่นแหละ"พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่องหรอก คนบ้า..." เขาหยิบยาป้อนข้าวไปที่ปากของธาม“กินซะ” อาชวินพูดสั้น ๆ แต่น้ำเสียงนั้นกลับฟังดูอ่อนโยนกว่าที่เขาคิดธามพยายามลืมตาอย่างยากลำบาก เขามองไปที่อาชวิน ราวกับไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เห็นเป็นความจริงหรือไม่ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เปิดปากรับยา“ดี... อย่างน้อยก็ยังไม่ดื้อไปกว่านี้” อาชวินพูดเสียงเบา เพราะเห็นว่าธามกินยาลงไปแล้ว เขาก็จับธามให้นอนลง อาชวินบรรจงเช็ดตัวให้กลับธามอีกครั้ง จนร่างกายของธามเย็นลง อาชวินถอนหายใจอย่างโล่ง ๆ เขาก็ได้นอนลงไปใกล้ ๆ กับธามสายตาของอาชวินมองไปที่เพดาน เขายังเห็นดาวหลายดวงที่ช่วยกันติดเมื่อครั้งก่อน เวลาปิดไฟแล้วสะท้อนแสง เขายังว่าให้กับธาม“นายน่ะมันปัญญาอ่อน เราโตแล้วนะเว้ย นี่ให้เด็ก ๆ เล่นกันเท่านั้น”“อาชวินช่วยหน่อยสิ” เสียงออดอ้อน จนในที่สุดอาชวินนั่นแหละที่เป็นคนติดให้กับธาม ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนกอด
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
มือหนาของอาชวินจับรั้งร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน เขากดร่างของธามให้ทำท่าคว่ำลงไปบนโต๊ะทำงาน จากนั้นสิ่งที่อาชวินทำต่อ คือการปลดเปลื้องกางเกงที่ธามสวมใส่ ให้รูดลงไปที่ปลายขา“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายจะทำอย่างนี้กับฉัน... ตรงนี้ นี่มันที่ทำงานนะ แล้วมันเป็นห้องทำงานของนาย อาร์ต… ได้โปรด…”“ได้โปรด... อย่าช้าใช่หรือไม่ ได้สิจะจัดให้เลย” เขายิ้มอย่างสาแก่ใจ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอาชวินบอบช้ำเจ็บปวด การถูกผลักไสทอดทิ้ง และรอคอยเวลานี้มาแสนนาน“อึก...” กลีบปากของคนตัวบางงับปิดสนิท เพราะรู้สึกของแข็งที่ใหญ่โตกำลังทะลวงเข้าไปในรูจีบด้านหลัง ธามไม่มีแรงขัดขืน เพราะร่างหนาของอาชวินได้กดเขาแนบอัดอยู่กับโต๊ะทำงานน้ำลายที่ถูกถ่มลงไปบนหัวหยักพาให้ทุกอย่างคล่องตัว&nb
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”“นายอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ” ถามออกไปทันที พร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งที่ก็พอจะรู้อยู่ว่า อาชวินต้องการอะไร…“มันไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทำแบบนั้น”“หื้อ! ไม่ใช่เวลาเหรอ นี่จะบอกอะไรให้นะ ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอดเลย”“อาร์ต… แล้วชีวิตนี้ เหมือนว่านายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนายยังจะ…” เสียงของธามหยุดลงเพราะอาชวินบีบแก้มของเขาจนตอบ และปากบิดเบี้ยวผิดรูป น้ำตาของธามคลอเต็มหน่วยขึ้นมาในทันที มองอาชวินอย่างเสียใจ“ก็บอกไปแล้ว ที่กลับมาวันนี้ มีอยากหนึ่งที่ฉันยังต้องการ และมันยังไม่สาสมในใจนะ และยังอยากได้มันอยู่”สายตาอีกฝ่ายที่เคยเรียบเฉยดูเปลี่ยนไป แม้จะดุดันเข้มจัด แต่ในแวบหนึ่ง ธามก็เห็นว่าแววตาของอาชวินอ่อนแสงความดุดันน้อยลง แถมยังมีแววสั่นไหวเล็กน้อยธามหายใจติดขัด รู้สึกแปลก ๆ รอคอยกลีบปากของคนตรงหน้าที่กำลังขยับเข้ามาใกล้แบบใจจดใจจ่อ ก่อนตัดสินใจถามกลับเมื่ออีกฝ่ายเว้นช่วงนานเกินไป“นายยังมีอะไรที่อยากได้อีกที่ว่าไม่พอใจ”“ตัวของนายที่เป็นดอกเบี้ยไง และความเชื่อใจจากนาย… ที่นายไม่เคยให้ฉันในตอนห้าปีก่อน ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตา
แรงกระทบของท่อนแข็งที่เข้า ๆ ออก ๆ ไร้การควบคุมกำลัง เพราะอาชวินก็สุขเหลือเกิน การกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนกำลังเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟไม่รู้เป็นอย่างไร ทำไมต้องรู้สึกมีความต้องการที่ร้อนแรงทุกครั้งเวลาอยู่กับธาม จิตใจที่ฝักใฝ่ ปรารถนาแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวเสียงเนื้อหนังมนุษย์กระทบกัน ผสานกับเสียงสูดปากของอาชวิน และเสียงทรมานจากร่างเพรียวบาง ตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหนี หรือต่อต้าน นอกจากยินยอมให้อาชวินมอบความสุขที่ซ่านรัญจวนไปทั้งหัวใจ“อย่าดื้อนะ เพราะยังไงดอกเบี้ยแบบนี้ ฉันจะเก็บบ่อยๆ” พูดกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมกับจับใบหน้าของธามให้หันมามอง จูบทีบดขยี้ลงไปบนกลีบปาก ที่เผยออ้าโกยเอาลมหายใจเข้าส่วนล่างของอาชวินก็ยังขยับอย่างเป็นจังหวะที่เร่งเร้าอยากให้ตัวเองระเบิดความสุข“ไม่แค่บอกว่านายต้องการอะไรก็พอ... อาชวิน... ธามจะทำให้อาชวินทุกอย่าง” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเหมือนจะยอมศิโรราบต่ออาชวินทุกประการทั้งสองปล่อยอารมณ์ให้พาไป ปล่อยหัวใจให้ยอมรับความสุขตรงหน้า ว่าเป็นสิ่งที่ปรารถนาและรอคอย ความสุขบันดาลความพอใจ ทั้งสองเล่นเกมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงกระซิบกระซาบและ