แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านตึกสูงระฟ้าในกรุงเทพฯ เสียงรถราและผู้คนพลุกพล่าน เป็นสัญญาณเริ่มต้นของอีกหนึ่งวันทำงาน สำหรับชัญญา พนักงานสาวสวยฝ่ายการตลาด เช้าวันนี้เธอมีรอยยิ้มที่สดใส แฝงไว้ด้วยความทะเยอทะยาน และความมุ่งมั่น
ชัญญา เดินเข้ามาในบริษัท “Vivid Enterprise” ด้วยท่าทางสง่า เธอแต่งกายด้วยชุดเดรสสีแดงโดยสวมทับด้วยสูทสีดำเรียบหรู เส้นผมสลวยยาว ใบหน้าสวยคม ดวงตาเฉียบคม เธอเป็นที่หมายปองของผู้ชายในบริษัท แต่ชัญญาไม่เคยสนใจใคร เธอมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือการก้าวขึ้นสู่อำนาจ เป็นผู้หญิงที่เหนือกว่าใครๆ
ภายในห้องทำงาน ชัญญาในชุดเดรสสีแดง นั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น เธอจัดการเอกสารต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ เธอมองไปรอบๆ เห็นพนักงานคนอื่นๆ ทำงานอย่างขยันขันแข็ง แต่ไม่มีใครเก่งเท่าเธอ ชัญญารู้สึกภูมิใจในตัวเอง เธอคิดว่าเธอสมควรได้รับตำแหน่งที่สูงกว่านี้
ก๊อก ก๊อก
“เชิญค่ะ” ชัญญาตอบด้วยน้ำเสียงหวานใส
“คุณญ่าคะ คุณเอกวัฒน์ว่างแล้วค่ะ” เลขาแจ้ง
“ได้ค่ะ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ชัญญาตอบ รีบลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน จัดเอกสารให้เรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องไป
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ” ชัญญาบอกเสียงใสก่อนจะเปิดประตูห้องทำงานของเอกวัฒน์
ชัญญาเดินเข้ามาในห้องทำงานของเอกวัฒน์ ด้วยชุดเดรสสีแดงที่ตัดเย็บพอดีตัว เรือนผมยาวสลวยปลิวไสวตามแรงลม เอกวัฒน์นั่งอยู่บนเก้าอี้ใหญ่ เขามองชัญญาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
เอกวัฒน์ชอบผู้หญิงสวย เซ็กซี่ และชัญญา มีทุกอย่างที่เขาต้องการ
“คุณชัญญามีอะไรให้ผมช่วยครับ” เอกวัฒน์ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ดิฉันมีรายงานยอดขายมาเสนอค่ะ” ชัญญากล่าว เธอยื่นเอกสารให้เอกวัฒน์ และอธิบายรายละเอียดต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว
เอกวัฒน์ ฟังชัญญาพูดอย่างตั้งใจ เขาประทับใจในความฉลาด และความสามารถของเธอ เอกวัฒน์คิดว่าชัญญาเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ เขาอยากได้เธอมาเป็นของตัวเอง
“โอเคครับ รายงานที่คุณเสนอมาดีมาก” เอกวัฒน์ปิดแฟ้มเอกสาร ยิ้มพิมพ์ใจ
“ถ้าอย่างนั้น คุณเอก...จะอนุมัติโครงการให้ใช่มั้ยคะ?” ชัญญามองตาหวานเยิ้ม อมยิ้มเล็กน้อย
“เอ..เราไปคุยกันตอนมื้อเที่ยงดีมั้ยครับ?” เอกวัฒน์ถาม
“เอ่อ..ดิฉัน..”
ชัญญาลังเล เธอไม่แน่ใจว่าควรจะตอบตกลงหรือไม่ เธอรู้ดีว่าเอกวัฒน์มีภรรยาแล้ว แต่เธอรู้สึกดึงดูดด้วยเสน่ห์ของเขา และโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพ
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณไม่สะดวก...” เอกวัฒน์พูด ยิ้มให้ชัญญาอย่างเจ้าเสน่ห์
ชัญญามองเอกวัฒน์ รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความเย้ายวน เธอรู้ดีว่าเอกวัฒน์ต้องการอะไร เธอคิดหนัก ชั่งน้ำหนักระหว่างศีลธรรม และความทะเยอทะยาน สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจ
“ได้ค่ะ” ชัญญาตอบ รอยยิ้มของเธอแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอรู้ดีว่านี่คือโอกาสของเธอ โอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่อำนาจ เป็นผู้หญิงที่เหนือกว่าใครๆ
เอกวัฒน์ ยิ้มอย่างพอใจ เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทานอาหารกลางวันกับชัญญา เขามั่นใจว่าเธอจะตกหลุมเสน่ห์ของเขา และกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเขา
ห้องทำงานของญาณวดี
ญาณวดี เซลล์สาว รูปร่างอวบ แต่หลงตัวเอง กำลังนั่งจิบกาแฟ มองดูชัญญาเดินออกจากห้องทำงานของเอกวัฒน์ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความริษยา
“ชัญญา ยัยนี่มันน่ารำคาญจริงๆ” ญาณวดีบ่นกับตัวเอง
“คิดว่าตัวเองสวย เก่ง ดีกว่าใคร เดี๋ยวฉันจะทำให้รู้ว่า ฉันไม่ใช่พวกกระจอกอย่างที่คิด”
ญาณวดี ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอหยิบตลับยาสีดำขึ้นมา เปิดฝาตลับ ควักผงสีแดงคล้ำออกมาเล็กน้อย โรยลงบนปลายนิ้ว แล้วทาลงบนริมฝีปาก
“เสน่ห์ยาแฝด ช่วยให้ผู้ชายหลงใหล เชื่อฟัง และทำตามฉันทุกอย่าง” ญาณวดีร่ายคาถาโบราณ มั่นใจว่าเสน่ห์ยาแฝดจะช่วยให้เธอเอาชนะชัญญาได้
ในร้านอาหารหรู
ชัญญา และเอกวัฒน์ นั่งทานอาหารกลางวันด้วยกัน บทสนทนาของพวกเขาดูเป็นไปอย่างราบรื่น ชัญญารู้ดีว่าเอกวัฒน์ชอบผู้หญิงที่ฉลาด และสามารถพูดคุยได้อย่างชาญฉลาด เธอจึงพยายามแสดงออกอย่างเต็มที่ เพื่อเอาชนะใจเขา
เอกวัฒน์ รู้สึกประทับใจชัญญามากขึ้นทุกที เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ เขารู้สึกอยากได้เธอมาเป็นของตัวเอง แต่เขายังไม่แน่ใจว่าชัญญารู้สึกอย่างไรกับเขา เขาจึงแอบวางแผนภายในใจอย่างเงียบๆ
“คุณชัญญา สนใจจะมาเป็นเลขาของผมมั้ย?”
“อะไรนะคะ?” ชัญญาตกใจ ดวงตาสวยเบิกกว้าง
“ผมประทับใจในความสามารถของคุณมาก ผมคิดว่าคุณเหมาะที่จะมาทำงานเป็นเลขาของผม” เอกวัฒน์พูดด้วยท่าทางสบายๆ
“ขอบคุณค่ะ ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ”
“ผมจริงจังนะ คุณทำงานเก่ง ฉลาด พูดเก่ง ผมมั่นใจว่า คุณจะช่วยผมทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม”
“ดีใจจังค่ะ แต่ขอเวลาคิดสักหน่อยนะคะ” ชัญญายิ้มเขิน
“ไม่ต้องรีบครับ ผมรอได้” เอกวัฒน์ยิ้มให้
ชัญญายิ้มหวาน เธอรู้ดีว่านี่คือโอกาสทองของเธอ โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเอกวัฒน์ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงกว่านี้ ถึงเธอจะรู้สึกกังวล กลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงโลภ และไร้ศีลธรรม แต่...โอกาสไม่ได้มีมาง่ายๆ ถ้าไม่คว้าไว้ เธอคงโง่มาก
ในขณะเดียวกันญาณวดี นั่งอยู่ในร้านอาหารอีกแห่งหนึ่ง มองดูชัญญา และเอกวัฒน์ ด้วยความริษยา เธอสาบานว่าจะไม่ยอมให้ชัญญามีความสุข เธอจะใช้เสน่ห์ยาแฝด เพื่อทำลายชีวิตชัญญา และแย่งเอกวัฒน์มาเป็นของตัวเอง
อาคิรา และ ณัฐรินีย์ กำลังนั่งทานอาหารกลางวันด้วยกัน บรรยากาศภายในโรงอาหารของออฟฟิศเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ
“เมื่อคืนฉันดูหนังตลกมา สนุกมาก!” อาคิราเล่าให้ณัฐรินีย์ฟัง
“หนังอะไรเหรอ? น่าสนใจไหม?” ณัฐรินีย์ถาม
“เป็นหนังตลกเกี่ยวกับหมาพูดได้ ฮามาก!”
“หมาพูดได้เนี่ยเหรอ? น่าดูนะ ไว้ฉันต้องไปหาดูบ้าง”
“เธอน่าจะชอบนะ ดูแล้วอารมณ์ดีแน่นอน” ทั้งคู่คุยกันอย่างสนุกสนาน หัวเราะร่า
ทันใดนั้น รุ่นพี่ในออฟฟิศคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพวกเธอ
“ได้ยินข่าวชัญญารึยัง?” รุ่นพี่พูดด้วยน้ำเสียงนินทา
“ข่าวอะไรเหรอคะ?” ณัฐรินีย์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เมื่อคืนฉันเห็นชัญญาไปเที่ยวกับผู้ชายคนใหม่ หล่อมากเลยนะ”
“จริงเหรอ? ผู้ชายคนไหน?” อาคิรารู้สึกสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาคนนั้นดูดีมีฐานะมากเลย” รุ่นพี่พูดต่อด้วยน้ำเสียงอิจฉา
“ชัญญาเนี่ยโชคดีจริงนะ ผู้ชายหล่อๆ รุมจีบเพียบ” ณัฐรินีย์พูดด้วยความรู้สึกแซะ
“ใช่สิ เธอน่าจะเอาบ้างนะ อาคิรา” รุ่นพี่พูดต่อ
“ฉันก็อยากมีแฟนนะ แต่ไม่รู้จะไปหาจากไหน” อาคิราตอบอย่างเขินอาย
“ลองหาในแอปหาคู่สิ เผื่อจะเจอผู้ชายดีๆ สักคน” ณัฐรินีย์แนะนำ
“เดี๋ยวฉันลองดูนะ”
ทั้งคู่คุยกันต่ออย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจสายตาของรุ่นพี่ที่มองพวกเธอด้วยความอิจฉา
หลังจากเลิกงาน อาคิรา เดินออกจากออฟฟิศ แสงแดดยามเย็นสาดส่องลงมา ท้องฟ้าสีทองสวยงาม อากาศกำลังเย็นสบาย
เอ..วันนี้อากาศดีจัง ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะก่อนกลับบ้านน่าจะดี
คิดได้ดังนั้น เท้าก็ไวเท่าความคิด สาวน้อยเดินลัดเลาะตรงไปยังสวนสาธารณะที่อยู่ไม่ห่างจากออฟฟิศมากนัก ภายในสวนสาธารณะมีผู้คนกำลังเดินเล่น หรือออกกำลังกายอยู่ บางครอบครัวก็พาลูกมาถีบเรือเป็ด
อาคิรา สาวน้อยผมสีน้ำตาลขลับ ดวงตาสีอำพัน กำลังเดินเล่นชมบรรยากาศสวนสาธารณะยามเย็น เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังก้องไปทั่ว อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีปลิวร่วงตามแรงลม
ทันใดนั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง นั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ กฤติน ชายหนุ่มผมสีดำขลับ ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าคมคาย กำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ
แสงแดดยามเย็นที่สาดร่างของชายหนุ่มทำให้อาคิรารู้สึกประทับใจในตัวเขา เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปทักทายอย่างเขินอาย
“สวัสดีค่ะ อ่านอะไรอยู่เหรอคะ”
กฤติน เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ มองดูเธอด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดี เธอชื่ออะไรเหรอ”
“ฉันชื่ออาคิราค่ะ คุณชื่ออะไรคะ”
“ฉันชื่อกฤติน ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“คุณมาที่นี่บ่อยเหรอคะ?” อาคิราถาม
“ใช่ บางครั้งฉันก็ชอบมาอ่านหนังสือที่นี่ เงียบสงบดี”
“ฉันก็ชอบมาที่นี่เหมือนกันค่ะ อากาศดี ร่มรื่น”
“เธอชอบอ่านหนังสืออะไรเหรอ?”
“ฉันชอบอ่านนิยายโรแมนติกค่ะ แล้วคุณล่ะคะ?” สาวน้อยเอียงคอมองหนังสือในมือของเขา
“ฉันชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์น่ะ”
“น่าสนใจดีค่ะ แต่มันยากสำหรับฉันมากเลยค่า” อาคิรายิ้มแหยๆ เธอไม่ค่อยถูกกับพวกประวัติศาสตร์เท่าไหร่
“ลองอ่านดูซักครั้ง อาจจะติดใจก็ได้นะ” กฤตินยิ้มให้ หัวใจอาคิราถึงกับเต้นตึกตัก ใบหน้าร้อนผ่าว
“เธอชอบทำอะไรยามว่างเหรอ?”
“เอ้อ..ฉันชอบฟังเพลง ดูหนังแล้วก็เที่ยวกับเพื่อนๆ ค่ะ”
“ฉันชอบเล่นกีฬา ว่ายน้ำ แล้วก็เล่นดนตรีน่ะ”
“เก่งจังค่ะ” อาคิรามองเขาทึ่งๆ
“เธอก็คงมีงานอดิเรกที่น่าสนใจเหมือนกัน”
“ใช่ค่ะ ฉันชอบวาดรูปแล้วก็ทำอาหารค่ะ” อาคิรายิ้มอายๆ
“เก่งมากเลย ฉันวาดรูปไม่ได้ แต่เรื่องทำอาหารฉันคงไม่แพ้เธอแน่ๆ” กฤตินหัวเราะออกมาเบาๆ
ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกัน อาคิรา รู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับกฤติน เขาเป็นคนพูดจาสุภาพ ฉลาด และมีเสน่ห์
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่อาคิราจะรู้ตัว พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินแล้ว
“ฉันต้องกลับบ้านแล้วค่ะ” อาคิรา เอ่ยอย่างเสียดาย
“ไว้เจอกันอีกนะ อาคิรา” กฤตินยิ้มให้เธอ
อาคิรากลับบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เธอรู้สึกตื่นเต้นที่ได้คุยกับกฤติน
กฤติน มองตามร่างของอาคิรา ดวงตาสีอำพันของเธอช่างคุ้นเคย ภาพความหลังของพวกเขาก็ย้อนกลับมาในความทรงจำ กฤติน จำได้ดีว่าเขาเคยพบกับอาคิรามาก่อน
ย้อนไปในอดีต กฤตินและอาคิราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย พวกเขาสนิทกันมาก อาคิราเป็นเด็กสาวที่ร่าเริง มีชีวิตชีวา กฤตินชอบอยู่ใกล้เธอ เธอทำให้เขารู้สึกมีความสุข
แต่แล้ววันหนึ่ง ครอบครัวของอาคิราต้องย้ายบ้านไปต่างประเทศ กฤตินรู้สึกเสียใจที่ต้องจากเธอ เขาพยายามติดต่อเธอ แต่ก็ไร้ผล
กฤติน คิดว่าอาคิราคงจะลืมเขาไปแล้ว เพราะหน้าตาและรูปร่างของเขาเมื่อตอนเด็กกับตอนนี้แตกต่างกันอย่างมาก แต่เมื่อเขาได้พบกับเธออีกครั้ง ภาพความทรงจำเก่าๆ ก็กลับมาย้อนขึ้นมา
กฤติน รู้สึกดีใจที่ได้พบกับอาคิราอีกครั้ง เขาอยากจะถามเธอว่าเธอจำเขาได้ไหม แต่เขาไม่กล้า
เขาไม่รู้ว่าเธอจำเขาได้หรือไม่ เขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา
กฤติน ตัดสินใจเก็บความรู้สึกของเขาเอาไว้ เขาไม่อยากทำลายมิตรภาพ
เขาหวังว่าอย่างน้อย อาคิรา ก็น่าจะจำเขาได้
ในบ้านหลังใหญ่ที่หรูหราภายในห้องนอนที่มืดมิด แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่าง เป็นประกายระยิบระยับ กานต์รวี นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง ดวงตาของเธอปิดสนิท แต่หัวใจของเธอดิ้นรนด้วยความปรารถนา เธอคิดถึงชัญญา หญิงสาวผู้จุดประกายไฟแห่งรักในตัวเธอกานต์รวี รู้จักชัญญามานานแล้ว ทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันสมัยเรียนด้วยกัน ทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน ชอบทำกิจกรรมคล้ายๆ กัน กานต์รวี ชื่นชมในความสวยงามและความร่าเริงของชัญญา ในขณะที่ชัญญา ชื่นชอบในความฉลาดและความใจดีของกานต์รวี ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเสมอกานต์รวีแอบหลงรักชัญญา เธอเกือบจะสารภาพรักกับชัญญา แต่เมื่อชัญญาพาแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาและดูดีมาแนะนำให้รู้จัก กานต์วรีรู้สึกเสียใจ และต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้หลังเรียนจบ ทั้งคู่แยกย้ายกันไปทำงานและไม่ได้ติดต่อกันอีก ในที่สุดกานต์รวีตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มที่ชื่อ ธีรเทพ เพื่อลืมความรักที่มีต่อชัญญา แต่ถึงแม้จะแต่งงานแล้ว กานต์รวีก็ยังไม่สามารถลืมชัญญาได้ เธอแอบติดตามชีวิตของชัญญาผ่านโซเชียลมีเดียอยู่เสมอจนกระทั่งวันหนึ่ง เหมือนสวรรค์เล่นตลกให้ชัญญามาสมัครงานที่บริษัท Vivid Ente
สัปดาห์ถัดมา ชัญญาได้เริ่มต้นทำงานใหม่ในตำแหน่งเลขาของเอกวัฒน์ เธอตั้งเป้าที่จะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ความสามารถของเธอ และเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจที่เธอต้องการภายในห้องทำงานของเอกวัฒน์ชัญญา ทำงานอย่างขะมักเขม้น เธอจัดการเอกสารต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ เธอสามารถตอบคำถามของเอกวัฒน์ได้อย่างถูกต้อง และตรงประเด็น เอกวัฒน์รู้สึกประทับใจในความสามารถของชัญญามากขึ้นทุกทีในฐานะเลขาของเอกวัฒน์ ชัญญามีงานที่หนักขึ้น เธอต้องจัดการงานต่างๆ ให้กับเอกวัฒน์ ทั้งงานเอกสาร งานประชุม งานติดต่อลูกค้า ชัญญาทำงานอย่างคล่องแคล่ว และมีประสิทธิภาพ เธอสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเอกวัฒน์นั่งมองหญิงสาวทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยสายตาชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง“นายคะ กาแฟค่ะ” ชัญญาเสิร์ฟกาแฟ พร้อมเปลี่ยนสรรพานามในการเรียกเอกวัฒน์ใหม่“ขอบคุณมาก คุณทำงานดีมาก ผมประทับใจจริงๆ” เอกวัฒน์ชม พร้อมกับจับมือของชัญญาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาเจ้าชู้ และแรงปรารถนา“อ๊ะ..ถ้านายชอบ ญ่าก็ดีใจค่ะ” ชัญญามีท่าทีเขินอาย เธอพยายามดึงมือออก“คืนนี้คุณว่างมั้ย ?” เอกวัฒน์ยอมปล่อยมือ“ว่างค่ะ ทำไมเหรอคะ?” ชัญญาประสานมือไว้ด้
ในห้องทำงานหรูหราใจกลางคฤหาสน์เอกวัฒน์ นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังนุ่ม แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างลงมาบนใบหน้าของเขา ในมือถือแก้วไวน์แดง จิบไปช้าๆ พลางจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างค่ำคืนนี้ เอกวัฒน์รู้สึกเหงา และคิดถึงชัญญา เลขาคนสวย ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาจากดินเนอร์กับชัญญา บรรยากาศในร้านอาหารโรแมนติก แสงไฟสลัว เสียงเพลงคลอเบาๆชัญญา ดูสวยมากในชุดเดรสสีดำ เธอฉลาด พูดเก่ง ภาพชัญญายิ้มหวาน พูดคุยอย่างสนุกสนาน ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว และรู้สึกหลงใหลในตัวชัญญา เขารู้สึกว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขารู้จักเขารู้สึก...เหมือนหลงรักเธอเขารู้สึก..อยากกอด จูบเธอเขารู้สึก...อยากครอบครองเธอเอกวัฒน์ถอนหายใจยาว พักหลัง เขารู้สึกถึงความเย็นชาในความสัมพันธ์ของเขากับภรรยา เขาต้องการผู้หญิงที่สดใส มีชีวิตชีวา และทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนชัญญาเอกวัฒน์ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังหน้าต่าง เขามองออกไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับ เหมือนกับความฝันของเขาเขาฝันอยากจะมีความสุขกับชัญญาเอกวัฒน์กำหมัดแน่น เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องได้ตัวชัญญามาคร
นที่ 5:ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในห้องทำงานของญาณวดีญาณวดีนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูขวดแก้วสีแดงที่บรรจุยาเสน่ห์สีดำขลับ เธอรู้สึกโกรธแค้นและผิดหวังยาเสน่ห์ที่เธอคิดว่าจะช่วยให้เธอเอาชนะใจของเอกวัฒน์ กลับกลายเป็นว่าไร้ผล เอกวัฒน์ไม่ได้หลงรักเธอ แต่เขากลับหลงรักชัญญา เลขาสาวของเขา“ทำไมมันถึงไม่ได้ผล ฉันใช้ยาเสน่ห์ชั้นดี แต่ทำไมคุณเอกถึงไม่หลงรักฉัน” ญาณวดีกำขวดยาเสน่ห์แน่นญาณวดีนึกย้อนเหตุการณ์ในอดีต เธอเคยใช้ยาเสน่ห์กับผู้ชายมากมาย และทุกครั้งมันก็ได้ผล ผู้ชายทุกคนหลงรักเธอ หัวปักหัวปำ แต่ทำไมกับเอกวัฒน์ ยาเสน่ห์ถึงไม่ทำงาน“ชัญญา เธอต้องชดใช้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้” ญาณวดีคำรามในลำคอเบาๆญาณวดีลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบขวดแก้วอีกขวดหนึ่งขึ้นมา ขวดแก้วนี้บรรจุยาเสน่ห์สูตรใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับจากหมอทำเสน่ห์ที่มีชื่อเสียงแถวภาคกลาง“ยาสูตรนี้แรงมาก ไม่จำเป็นต้องหยดใส่ให้ไอ้หนุ่มนั่นกิน แต่เธอต้องเป็นคนกินเอง ว่าแต่เธอจะกล้ากินหรือเปล่า?” คำพูดของหมอทำเสน่ห์ดังก้องในหัว“ก็เอาสิ ลองดูกันสักตั้ง”ญาณวดีเทยาเสน่ห์ลงในแก้วน้ำ และยกขึ้นจิบ รสชาติของยาเสน่ห์ช่างขมขื่น แต่เ
มนุษย์เรานั้นช่างน่าประหลาด อะไรที่ตัวเองมีอยู่ ก็มักไม่สนใจ อยากได้ของคนอื่น ของที่เคยทำแล้วทำ ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดี ก็ไม่พอใจกับผลลัพธ์ของมัน อยากได้ผลสัมฤทธิ์ที่มากกว่านั้นชัญญาเองก็เช่นกัน แม้ว่าเอกวัฒน์จะหลงเสน่ห์เธอจนหัวปั่น เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเธอ ตั้งแต่...ซื้อคอนโดหรูใจกลางเมืองเพื่อเป็นรังรักของเขาและเธอทำบัตรเครดิตให้เธอ เพื่อให้เธอใช้ตามสบายเวลาว่างก็พาเธอไปเที่ยวต่างประเทศซื้อรถสปอร์ตคันหรูให้เธอชีวิตของชัญญายิ่งสะดวกสบายมากขึ้น ตั้งแต่เธอยอมพลีกายให้เอกวัฒน์เชยชม และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอรู้ว่า เอกวัฒน์และภรรยาห่างเหินเรื่องบนเตียงนานมากทุกครั้งที่เอกวัฒน์มาหาเธอที่คอนโด เธอสั่งอาหารจากภัตราคารหรูมารอเสมอ และหลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอกวัฒน์ก็ต้องการชัญญาเป็นของหวานหลังมื้ออาหารทุกครั้งแต่เธอก็ยังไม่พอใจ เพราะความทะเยอทะยานของเธอคือ ต้องการเป็นที่หนึ่งเท่านั้น แต่...เอกวัฒน์ก็ไม่เคยคิดที่จะหย่ากับภรรยา นั่นทำให้เธอคิดว่า ยาเสน่ห์ที่เธอทำ ฤทธิ์ของมันคงไม่แรงพอ“นายขา.....” ชัญญาเรียกเสียงหวานจากบนเตียง“หืม ?”เอกวัฒน์กำลังยืนผูกเนคไทอยู่หน้ากระจก เ
ณ อาศรมในป่าลึกแห่งหนึ่งกานต์รวีพาชัญญามาหาอาจารย์มั่น เป็นหมอทำคุณไสย เธอรู้จักหมอคุณไสยนี้เป็นการส่วนตัว เพราะเธอเคยขอความช่วยเหลือมาก่อนหน้าแล้วเมื่อไปถึงตำหนักอาศรม กานต์รวีก็พาชัญญาเข้าไปพบกับอาจารย์มั่นแบบเป็นการส่วนตัว“แม่หนู ของดีเต็มตัวเลยนี่” อาจารย์มั่นทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าชัญญา“อาจารย์รู้ดีจังนะคะ” ชัญญายิ้มหวาน“หึหึ แม่หนู คนที่เจ้าอยากได้ ก็ได้มาแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะ”“ฉันต้องการกำจัดผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ”“เธอขวางทางความรักของฉัน” ชัญญาบอกเสียงเรียบ“ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายนะ” อาจารย์มั่นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“ฉันพร้อมจ่ายค่ะ”“ฮ่าๆ ดี ดี” อาจารย์มั่นหัวเราะเสียงดัง“ไอ้ดำ เอาของสิ่งนั้นมาซิ”เมื่ออาจารย์ได้เครื่องรางของขลัง เขาก็เริ่มบริกรรมคาถา เสียงร้องของสัตว์ดังก้องไปทั่วป่าชัญญาและกานต์รวีรู้สึกขนลุก แต่พวกเธอก็อดทนรอจนเสร็จพิธีกรรม“เอ้า แม่หนูมานี่” อาจารย์มั่นกวักมือเรียกชัญญา“นี่คืออะไรคะ?” ชัญญารับเครื่องรางที่อยู่ในถุงดำมาถือไว้“มันคือผีพรายชื่อ ริน”“ถ้าอยากสั่งให้มันทำอะไร ก็ท่องคาถาบทนี้ แล้วก็พูดสั่งการมัน” อาจารย์มั่นส่งบทคาถาให้ชัญญา“แล้วต้องบูช
ราชาแห่งการตกแต่งภายในในห้องทำงานอันหรูหรา ธีรเทพนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูวิวเมืองกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับธีรเทพ ชายหนุ่มวัย 38 ปี เจ้าของบริษัทผลิตสินค้าตกแต่งภายในบ้านที่มีชื่อว่า “บ้านสไตล์” บริษัทของเขามีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วประเทศ เขาเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจด้วยความเก่งกาจและฉลาดธีรเทพก่อตั้งบริษัทของเขามาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มต้นในโรงรถของบ้าน ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยเขาทำงานหนัก ทุ่มเท และอดทน เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ และพัฒนาธุรกิจของเขาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด เขาก็ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นเจ้าของบริษัทที่ใหญ่โตธีรเทพ ไม่ได้มุ่งหวังแค่ความสำเร็จทางธุรกิจ เขาต้องการที่จะสร้างสรรค์สินค้าตกแต่งบ้านที่สวยงาม และมีคุณภาพ เขาต้องการช่วยให้ผู้คนสร้างบ้านให้สวยงาม และน่าอยู่ เขาต้องการทำให้บ้านของทุกคนเป็นสถานที่ที่อบอุ่น และเต็มไปด้วยความสุขธีรเทพ เป็นคนทำงานหนัก และทุ่มเทให้กับธุรกิจของเขา แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเวลาว่าง ธีรเทพ ชอบออกไปเที่ยว และผ่อนคลาย เขามักจะไปเล่นกอล์ฟ หรือไปทานอาหารกับ
ในห้องทำงานของกานต์รวี ณัฐรินีย์กำลังนั่งมองเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนคราบกาแฟบนโซฟาด้วยสายตาอ่านไม่ออกเสื้อเชิ้ตตัวนี้ เป็นเสื้อตัวโปรดของเธอ หาซื้อยาก และมีคุณค่าทางใจสำหรับเธอมาก“โอ๊ยยย เสื้อฉัน เสื้อฉัน!! ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันจะเอามาซักยังไงเนี้ย คราบกาแฟมันฝังแน่นแล้วว”ณัฐรินีย์คร่ำครวญ“เอาน่า ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวฉันจะหาทางช่วย” กานต์รวีปลอบใจ“อะ กาแฟซองไปก่อนนะ” อาคิราเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะ“ผู้ชายเฮงซวย ทำอะไรไม่รู้จักระวัง” ณัฐรินีย์บ่นพึมพำ เธออยู่ในชุดเสื้อยืดแบบฟอร์มของพนักงานบริษัท“ใครกันที่ทำให้เธอโมโหได้ขนาดนี้เนี่ย” อาคิราขำ“ไม่รู้จักอะ หน้าตาก็ดีนะ แต่...ไม่ไหว เจ้าชู้น่าดู” ณัฐรินีย์ส่ายหน้าจนผมกระจาย“ฉันสั่งกาแฟให้ใหม่มั้ย เดี๋ยวให้แกรปมาส่ง” กานต์รวีส่งเสียงถาม“ไม่เป็นไร หมดอารมณ์กินละ กาแฟซองก็ได้” ณัฐรินีย์มีสีหน้าเซ็งๆ เอานิ้วเขี่ยแก้วกาแฟตรงหน้า อาคิราหัวเราะคิกคัก“ว่าแต่เรียกฉันมามีอะไรเหรอ?” ณัฐรินีย์เงยหน้าถาม“พอดีคุณธีร์ อยากได้คนออกแบบสินค้าให้เขาน่ะ ฉันเลยนึกถึงเธอคนแรกเลย”“คุณธีร์นี่ แฟนเธอน่ะเหรอ?”“ใช่”“สินค้าแบบไหน