Share

ตอนที่ 4 เสน่ห์ยาแฝด

ในห้องทำงานหรูหราใจกลางคฤหาสน์

เอกวัฒน์ นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังนุ่ม แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างลงมาบนใบหน้าของเขา ในมือถือแก้วไวน์แดง จิบไปช้าๆ พลางจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง

ค่ำคืนนี้ เอกวัฒน์รู้สึกเหงา และคิดถึงชัญญา เลขาคนสวย ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาจากดินเนอร์กับชัญญา บรรยากาศในร้านอาหารโรแมนติก แสงไฟสลัว เสียงเพลงคลอเบาๆ

ชัญญา ดูสวยมากในชุดเดรสสีดำ เธอฉลาด พูดเก่ง ภาพชัญญายิ้มหวาน พูดคุยอย่างสนุกสนาน ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว และรู้สึกหลงใหลในตัวชัญญา เขารู้สึกว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขารู้จัก

เขารู้สึก...เหมือนหลงรักเธอ

เขารู้สึก..อยากกอด จูบเธอ

เขารู้สึก...อยากครอบครองเธอ

เอกวัฒน์ถอนหายใจยาว พักหลัง เขารู้สึกถึงความเย็นชาในความสัมพันธ์ของเขากับภรรยา เขาต้องการผู้หญิงที่สดใส มีชีวิตชีวา และทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนชัญญา

เอกวัฒน์ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังหน้าต่าง เขามองออกไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับ เหมือนกับความฝันของเขา

เขาฝันอยากจะมีความสุขกับชัญญา

เอกวัฒน์กำหมัดแน่น เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องได้ตัวชัญญามาครอบครอง


ในห้องนอนของชัญญา

ชัญญานอนเอนกายบนเตียง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอคิดถึงค่ำคืนอันแสนโรแมนติกที่เธอได้ดินเนอร์กับเอกวัฒน์ ชายหนุ่มรูปงามและร่ำรวย ที่เป็นถึงกรรมการบริหารของบริษัท

ชัญญาหยิบขวดแก้วใสที่บรรจุยาเสน่ห์สีแดงเข้มขึ้นมาดู เธอรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่สามารถใช้ยาเสน่ห์มัดใจเอกวัฒน์ให้หลงใหลในตัวเธอได้อย่างง่ายดาย

“ยาเสน่ห์ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ” ชัญญายิ้มพอใจ

ชัญญานึกถึงแผนการของเธอ เธอพยายามหยดยาเสน่ห์ขวดนี้ทุกครั้งที่เสิร์ฟกาแฟให้เอกวัฒน์ เธอต้องการใช้เอกวัฒน์เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ

ชัญญาต้องการเงิน อำนาจและชื่อเสียง เธอรู้ดีว่าเอกวัฒน์สามารถทำให้ความปรารถนาของเธอสำเร็จได้

“คุณเอก คุณต้องตกเป็นทาสของฉัน ฉันจะควบคุมทุกอย่าง และคุณต้องทำตามคำสั่งฉัน จนกว่า ฉันจะเบื่อคุณ

ชัญญายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เธอเก็บขวดยาเสน่ห์ไว้ใต้เตียง และล้มตัวลงนอน เธอหลับใหลไปด้วยความฝันหวาน ฝันถึงชีวิตที่สุขสบายและร่ำรวย

ในขณะเดียวกัน

กานต์รวีเพื่อนสนิทของชัญญา นอนพลิกไปมากระสับกระส่าย เธอนอนไม่หลับ เธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับชัญญา เธอรู้ดีว่าชัญญาใช้ยาเสน่ห์ และเธอก็กลัวว่าชัญญาจะทำผิดพลาดและเสียใจภายหลัง

ญ่า เธอต้องหยุดใช้ยาเสน่ห์นะ มันไม่ดี

กานต์รวีพลิกตัวไปมาด้วยความกังวล และตัดสินใจว่า เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งชัญญา เธอไม่อยากให้คนที่เธอรักต้องทำผิดพลาด และเสียใจภายหลัง


ในร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ

อาคิราและณัฐรินีย์ เพื่อนสนิทของเธอ นั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน บรรยากาศในร้านอาหารคึกคักไปด้วยผู้คน ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของพวกเธอดังก้องไปทั่ว

“ณัฐ ได้ยินข่าวชัญญากับคุณเอกวัฒน์หรือยัง”

“ข่าวอะไร ? ชัญญาไหน?” ณัฐรินีย์กำลังแทะน่องไก่เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

“ชัญญาเพื่อนร่วมงานเธอไง ที่จู่ๆ ก็ย้ายจากฝ่ายการตลาดไปทำงานเป็นเลขาน่ะ”

“อ้อ ชัญญาคนนั้นเหรอ มีข่าวอะไรอะ?”

“มีคนลือกันว่า ชัญญากับคุณเอกวัฒน์แอบคบกันอยู่”

“เฮ้ย ฉันไม่เห็นได้ยินเรื่องนี้เลย” ณัฐรินีย์ตกใจ

“เรื่องจริง มีคนเห็นว่าทั้งคู่ไปทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน แถมรอบนี้คุณเอกวัฒน์กับชัญญาไปญี่ปุ่นกันแค่ 2 คน ตั้ง 7 วันเลยนะ”

“บ้าน่ะ...คุณเอกวัฒน์มีเมียแล้วนะ” ณัฐรินีย์คราง

“อ้อ มีอีกนะ เขาลือกันว่าที่คุณเอกวัฒน์เป็นแบบนี้เพราะชัญญาใช้เสน่ห์ยาแฝดมัดใจคุณเอกวัฒน์ จนคุณเอกวัฒน์หลงรักหัวปักหัวปำอะ”

“เฮ้ย บ้าน่ะ สมัยนี้ยังจะมีเรื่องเสน่ห์ยาแฝดอีกเนี่ยนะ” ณัฐรินีย์แหกปากตกใจ

“ฉันได้ยินจากรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน เขาบอกว่า เห็นชัญญาหยดยาใส่กาแฟให้คุณเอกวัฒน์น่ะ” อาคิรากระซิบ

“โอ้โห ไออย่าบ้าน่ะ เธอคิดว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ ?”

“ไม่รู้ดิ แต่ฉันแค่แปลกใจว่า ชัญญาออกจะสวย เซ็กซี่ แถมฉลาดอีกต่างหาก ผู้ชายคนไหนก็หลงรักเธอได้ง่ายๆ แล้วจะใช้ยาเสน่ห์ทำไมกัน” อาคิราเริ่มอิ่ม เธอคว้าโยเกิร์ตมาดื่มต่อ

“ฉันไม่เชื่อหรอก ชัญญาทำงานเก่ง เป็นคนดี คนอื่นคงอิจฉาล่ะสิ เลยลือกันมั่วๆ น่ะ” ณัฐรินีย์ถอนหายใจ

“ไม่รู้เหมือนกัน มันก็แค่ข่าวลือน่ะ อย่าคิดมากเลย” อาคิราพูดพลางยักไหล่

“อืม..เธอพูดถูก ช่างมันเหอะ เราทานข้าวกันต่อดีกว่า”

ทั้ง 2 คนนั่งทานอาหารกันต่อ โดยไม่รู้เลยว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่โต๊ะถัดไป แอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่

ยามค่ำคืนบนท้องถนนที่เงียบเหงา แสงไฟจากเสาไฟสลัว

หลังจากที่อาคิราแยกกับณัฐรินีย์ เธอก็เดินกลับบ้านคนเดียว ท้องฟ้าวันนี้สวยงามเสียจน เธอค่อยๆ เดินไปอย่างเชื่องช้า เพราะเป็นถนนเส้นที่เธอเดินกลับบ้านประจำ เธอจึงไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่

ระหว่างที่อาคิรากำลังเดินกลับบ้านเข้าในซอยเปลี่ยว ก็มีชายหนุ่มสองคนเดินสวนทางกับเธอ พวกเขาจ้องมองเธอด้วยสายตาหื่นกาม สายตาของพวกมันโลมเลียขาขาวสวยที่อยู่ภายใต้กระโปรงสั้น

อาคิรารู้สึกกลัว เธอรีบเร่งฝีเท้าเดินเพื่อกลับเข้าบ้าน ทันใดนั้น ชายหนุ่ม 2 คนนั้นก็วิ่งตามเธอมาและดักหน้าไว้

“สาวน้อย เดินกลับบ้านดึกๆ แบบนี้คนเดียวมันอันตรายนะ” ชายหนุ่มคนที่ 1 ยิ้มเจ้าชู้

“มา...มา เดี๋ยวพวกเราจะเดินเป็นเพื่อน” ชายหนุ่มคนที่ 2 หัวเราะ

“ไม่เป็นไรค่ะ” อาคิรารู้สึกกลัวมาก เธอรีบเบี่ยงตัวหลบ และเดินหนี แต่ชายหนุ่มทั้ง 2 คนก็รวบตัวเธอไว้

“ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย อึ๊ !” อาคิราร้องก่อนจะโดนชายคนหนึ่งเอามือปิดปากไว้

“เงียบซะ เดี๋ยวพวกเราจะพาไปหาที่ปลอดภัยให้เอง” ชายหนุ่มที่ 1 รวบขาของเธอขึ้น และทั้ง 2 คนก็ลากเธอเข้าไปในซอยเปลี่ยวเล็กๆ

อาคิราพยายามดิ้นรนหนี ชายหนุ่มคนหนึ่งกระชากเสื้อของเธอจนเสื้อขาด เผยให้เห็นผิวขาวเนียนภายใต้บราเซียร์ลูกไม้ลายหวาน

“โอ้โห ของดีเลยนี่หว่า” ชายคนหนึ่งคำรามด้วยความพึงพอใจ

“เฮ้ย รีบๆ หน่อย เดี๋ยวกูขอต่อ” อีกคนจับแขนทั้ง 2 ข้างของอาคิราไว้

“ม่ายน้า....” อาคิราร้อง พร้อมกับดิ้นรน

“เฉยๆ น่า เดี๋ยวจะทำให้มีความสุขนะ น้องสาว” น้ำเสียงของมันช่างหื่นกามพอๆ กับการกระทำ มันเริ่มใช้มือล้วงเข้าไปภายใต้กระโปรงสั้นของเธอ

“พวกแกนี่มันเลวจริงๆ นะ”

เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น เขายืนอยู่เหนือทั้ง 2 คน

“เฮ้ย เสือกไรด้วยวะ” ชายคนหนึ่งฉุนจัดลุกขึ้นและปรี่เข้าไปชกทันที

“กระจอก”

ชายคนนั้นเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย ปากของเขาพึมพำอะไรสักอย่าง เพียงครู่เดียวชายที่โจมตีเขา ก็ทรุดลงไปกองสลบเหมือด

“เฮ้ย มึงทำไรเพื่อนกู” ชายอีกคนเห็นดังนั้น ก็ปล่อยมือที่จับอาคิรา พร้อมกับกระโจนเข้าไปหาชายคนนั้นทันที

ไม่ทันที่มันจะโดนตัว ชายคนนั้นก็เบี่ยงตัวหลบ ปล่อยหมัดต่อยเสยคาง และเตะซ้ำที่ท้องอีกครั้ง ทำให้ชายชั่วที่เหลือทรุดตัวลงไปกองกับพื้นเช่นกัน

“ไม่เป็นไรนะ”

ชายคนนั้นถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก และคลุมร่างกายของอาคิราที่นั่งตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่ตรงเสาไฟฟ้า

“ขะ..ขอบคุณค่ะ..อ๊ะ..คุณ” อาคิราเงยหน้ามองก็พบว่าเขาคือ กฤติน ผู้ชายที่เธอเจอในสวนสาธารณะวันก่อน

“ยืนไหวมั้ยครับ?”

“เอ้อ..ไหวค่ะ” พออาคิราจะลุก เธอกลับลุกไม่ขึ้น เธอเพิ่งรู้ซึ้งถึงคำว่า กลัวจนเข่าอ่อน ก็วันนี้

“ผมช่วย” กฤตินยิ้ม ก่อนก้มลงไปอุ้มอาคิราขึ้นมาด้วยท่าเจ้าหญิง

“อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินได้..” อาคิราตกใจ

“แค่ลุกยังไม่ไหวเลย อย่าฝืนเลยครับ” กฤตินยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์

“เอ้อ....” อาคิราหน้าแดงด้วยความอาย รอยยิ้มของเขาทำให้เธอใจเต้นแรง แม้จะอยู่ภายใต้แสงไฟที่น้อยนิด ก็ไม่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูดรอบลงได้เลย

“บ้านคุณอยู่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”

“เอ่อ...บ้านของฉันเดินไปอีก 50 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ รบ...รบกวนด้วยนะคะ” อาคิราหน้าแดง ได้แต่เอามือกอดคอของเขาไว้ และปล่อยให้เขาอุ้มเธอไปส่งที่บ้าน

หน้าบ้านของอาคิรา

เมื่อมาถึงหน้าบ้าน กฤตินก็ปล่อยอาคิราลง บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด

“เอ่อ..ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉัน และยังมาส่งฉันอีกค่ะ” อาคิราขอบคุณด้วยสีหน้าเขินอาย

“ไม่เป็นไรครับ” กฤตินยิ้ม

“คราวหน้าระวังตัวด้วยนะครับ ดึกๆ ไม่ควรเดินคนเดียว” กฤตินมองอาคิราด้วยสายตาอ่อนโยน

“ค่ะ คราวหน้าฉันจะระวังอย่างดีเลยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ” กฤตินยิ้มหวาน

“เอ่อ....พรุ่งนี้คุณว่างมั้ยคะ” อาคิราเผลอหลุดปากถาม

“?”

“ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าคุณว่างมั้ยคะ?” อาคิราเอานิ้วชี้จิ้มกันแก้เขิน

กฤตินอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ท่าทางของเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“ขอโทรศัพท์หน่อยครับ”

“คะ?” อาคิรางงเล็กน้อย แต่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือให้เขาโดยดี

“นี่เบอร์ของผม” กฤตินเมมเบอร์โทรศัพท์ของตนเองในมือถือของอาคิรา และกดโทรออก

“ไว้พรุ่งนี้ผมโทรหานะ” กฤตินยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้กับอาคิรา

“คะ..ค่ะ” อาคิรารู้สึกมึนงง นึกว่าตัวเองฝันไป

“รีบเข้าบ้านเถอะ”

“ค่ะ” อาคิราพยักหน้าและเปิดประตูบ้าน ก่อนจะหันกลับไปมองกฤตินอีกครั้ง

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ” กฤตินยืนยิ้มให้เธอ หัวใจของเธอเต้นแรง เธอผงกศีรษะ แล้วเข้าบ้านไปทันที

หลังจากที่อาคิราเข้าบ้าน สีหน้าของกฤตินก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม

“เอาล่ะ ได้เวลากำจัดขยะแล้วสินะ”

ชายหนุ่มโกรธจัดที่ไอ้ชั่ว 2 คนนั้นบังอาจมาแตะต้องอาคิรา หญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขา เขาเดินกลับไปยังที่มัน 2 คนนอนสลบไม่ได้สติอยู่ เพื่อจัดการตามวิธีของเขา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status