ในห้องทำงานหรูหราใจกลางคฤหาสน์
เอกวัฒน์ นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังนุ่ม แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างลงมาบนใบหน้าของเขา ในมือถือแก้วไวน์แดง จิบไปช้าๆ พลางจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง
ค่ำคืนนี้ เอกวัฒน์รู้สึกเหงา และคิดถึงชัญญา เลขาคนสวย ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาจากดินเนอร์กับชัญญา บรรยากาศในร้านอาหารโรแมนติก แสงไฟสลัว เสียงเพลงคลอเบาๆ
ชัญญา ดูสวยมากในชุดเดรสสีดำ เธอฉลาด พูดเก่ง ภาพชัญญายิ้มหวาน พูดคุยอย่างสนุกสนาน ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว และรู้สึกหลงใหลในตัวชัญญา เขารู้สึกว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขารู้จัก
เขารู้สึก...เหมือนหลงรักเธอ
เขารู้สึก..อยากกอด จูบเธอ
เขารู้สึก...อยากครอบครองเธอ
เอกวัฒน์ถอนหายใจยาว พักหลัง เขารู้สึกถึงความเย็นชาในความสัมพันธ์ของเขากับภรรยา เขาต้องการผู้หญิงที่สดใส มีชีวิตชีวา และทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนชัญญา
เอกวัฒน์ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังหน้าต่าง เขามองออกไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับ เหมือนกับความฝันของเขา
เขาฝันอยากจะมีความสุขกับชัญญา
เอกวัฒน์กำหมัดแน่น เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องได้ตัวชัญญามาครอบครอง
ในห้องนอนของชัญญา
ชัญญานอนเอนกายบนเตียง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอคิดถึงค่ำคืนอันแสนโรแมนติกที่เธอได้ดินเนอร์กับเอกวัฒน์ ชายหนุ่มรูปงามและร่ำรวย ที่เป็นถึงกรรมการบริหารของบริษัท
ชัญญาหยิบขวดแก้วใสที่บรรจุยาเสน่ห์สีแดงเข้มขึ้นมาดู เธอรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่สามารถใช้ยาเสน่ห์มัดใจเอกวัฒน์ให้หลงใหลในตัวเธอได้อย่างง่ายดาย
“ยาเสน่ห์ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ” ชัญญายิ้มพอใจ
ชัญญานึกถึงแผนการของเธอ เธอพยายามหยดยาเสน่ห์ขวดนี้ทุกครั้งที่เสิร์ฟกาแฟให้เอกวัฒน์ เธอต้องการใช้เอกวัฒน์เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ
ชัญญาต้องการเงิน อำนาจและชื่อเสียง เธอรู้ดีว่าเอกวัฒน์สามารถทำให้ความปรารถนาของเธอสำเร็จได้
“คุณเอก คุณต้องตกเป็นทาสของฉัน ฉันจะควบคุมทุกอย่าง และคุณต้องทำตามคำสั่งฉัน จนกว่า ฉันจะเบื่อคุณ”
ชัญญายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เธอเก็บขวดยาเสน่ห์ไว้ใต้เตียง และล้มตัวลงนอน เธอหลับใหลไปด้วยความฝันหวาน ฝันถึงชีวิตที่สุขสบายและร่ำรวย
ในขณะเดียวกัน
กานต์รวีเพื่อนสนิทของชัญญา นอนพลิกไปมากระสับกระส่าย เธอนอนไม่หลับ เธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับชัญญา เธอรู้ดีว่าชัญญาใช้ยาเสน่ห์ และเธอก็กลัวว่าชัญญาจะทำผิดพลาดและเสียใจภายหลัง
ญ่า เธอต้องหยุดใช้ยาเสน่ห์นะ มันไม่ดี
กานต์รวีพลิกตัวไปมาด้วยความกังวล และตัดสินใจว่า เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งชัญญา เธอไม่อยากให้คนที่เธอรักต้องทำผิดพลาด และเสียใจภายหลัง
ในร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ
อาคิราและณัฐรินีย์ เพื่อนสนิทของเธอ นั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน บรรยากาศในร้านอาหารคึกคักไปด้วยผู้คน ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของพวกเธอดังก้องไปทั่ว
“ณัฐ ได้ยินข่าวชัญญากับคุณเอกวัฒน์หรือยัง”
“ข่าวอะไร ? ชัญญาไหน?” ณัฐรินีย์กำลังแทะน่องไก่เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“ชัญญาเพื่อนร่วมงานเธอไง ที่จู่ๆ ก็ย้ายจากฝ่ายการตลาดไปทำงานเป็นเลขาน่ะ”
“อ้อ ชัญญาคนนั้นเหรอ มีข่าวอะไรอะ?”
“มีคนลือกันว่า ชัญญากับคุณเอกวัฒน์แอบคบกันอยู่”
“เฮ้ย ฉันไม่เห็นได้ยินเรื่องนี้เลย” ณัฐรินีย์ตกใจ
“เรื่องจริง มีคนเห็นว่าทั้งคู่ไปทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน แถมรอบนี้คุณเอกวัฒน์กับชัญญาไปญี่ปุ่นกันแค่ 2 คน ตั้ง 7 วันเลยนะ”
“บ้าน่ะ...คุณเอกวัฒน์มีเมียแล้วนะ” ณัฐรินีย์คราง
“อ้อ มีอีกนะ เขาลือกันว่าที่คุณเอกวัฒน์เป็นแบบนี้เพราะชัญญาใช้เสน่ห์ยาแฝดมัดใจคุณเอกวัฒน์ จนคุณเอกวัฒน์หลงรักหัวปักหัวปำอะ”
“เฮ้ย บ้าน่ะ สมัยนี้ยังจะมีเรื่องเสน่ห์ยาแฝดอีกเนี่ยนะ” ณัฐรินีย์แหกปากตกใจ
“ฉันได้ยินจากรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน เขาบอกว่า เห็นชัญญาหยดยาใส่กาแฟให้คุณเอกวัฒน์น่ะ” อาคิรากระซิบ
“โอ้โห ไออย่าบ้าน่ะ เธอคิดว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ ?”
“ไม่รู้ดิ แต่ฉันแค่แปลกใจว่า ชัญญาออกจะสวย เซ็กซี่ แถมฉลาดอีกต่างหาก ผู้ชายคนไหนก็หลงรักเธอได้ง่ายๆ แล้วจะใช้ยาเสน่ห์ทำไมกัน” อาคิราเริ่มอิ่ม เธอคว้าโยเกิร์ตมาดื่มต่อ
“ฉันไม่เชื่อหรอก ชัญญาทำงานเก่ง เป็นคนดี คนอื่นคงอิจฉาล่ะสิ เลยลือกันมั่วๆ น่ะ” ณัฐรินีย์ถอนหายใจ
“ไม่รู้เหมือนกัน มันก็แค่ข่าวลือน่ะ อย่าคิดมากเลย” อาคิราพูดพลางยักไหล่
“อืม..เธอพูดถูก ช่างมันเหอะ เราทานข้าวกันต่อดีกว่า”
ทั้ง 2 คนนั่งทานอาหารกันต่อ โดยไม่รู้เลยว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่โต๊ะถัดไป แอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่
ยามค่ำคืนบนท้องถนนที่เงียบเหงา แสงไฟจากเสาไฟสลัว
หลังจากที่อาคิราแยกกับณัฐรินีย์ เธอก็เดินกลับบ้านคนเดียว ท้องฟ้าวันนี้สวยงามเสียจน เธอค่อยๆ เดินไปอย่างเชื่องช้า เพราะเป็นถนนเส้นที่เธอเดินกลับบ้านประจำ เธอจึงไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่
ระหว่างที่อาคิรากำลังเดินกลับบ้านเข้าในซอยเปลี่ยว ก็มีชายหนุ่มสองคนเดินสวนทางกับเธอ พวกเขาจ้องมองเธอด้วยสายตาหื่นกาม สายตาของพวกมันโลมเลียขาขาวสวยที่อยู่ภายใต้กระโปรงสั้น
อาคิรารู้สึกกลัว เธอรีบเร่งฝีเท้าเดินเพื่อกลับเข้าบ้าน ทันใดนั้น ชายหนุ่ม 2 คนนั้นก็วิ่งตามเธอมาและดักหน้าไว้
“สาวน้อย เดินกลับบ้านดึกๆ แบบนี้คนเดียวมันอันตรายนะ” ชายหนุ่มคนที่ 1 ยิ้มเจ้าชู้
“มา...มา เดี๋ยวพวกเราจะเดินเป็นเพื่อน” ชายหนุ่มคนที่ 2 หัวเราะ
“ไม่เป็นไรค่ะ” อาคิรารู้สึกกลัวมาก เธอรีบเบี่ยงตัวหลบ และเดินหนี แต่ชายหนุ่มทั้ง 2 คนก็รวบตัวเธอไว้
“ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย อึ๊ !” อาคิราร้องก่อนจะโดนชายคนหนึ่งเอามือปิดปากไว้
“เงียบซะ เดี๋ยวพวกเราจะพาไปหาที่ปลอดภัยให้เอง” ชายหนุ่มที่ 1 รวบขาของเธอขึ้น และทั้ง 2 คนก็ลากเธอเข้าไปในซอยเปลี่ยวเล็กๆ
อาคิราพยายามดิ้นรนหนี ชายหนุ่มคนหนึ่งกระชากเสื้อของเธอจนเสื้อขาด เผยให้เห็นผิวขาวเนียนภายใต้บราเซียร์ลูกไม้ลายหวาน
“โอ้โห ของดีเลยนี่หว่า” ชายคนหนึ่งคำรามด้วยความพึงพอใจ
“เฮ้ย รีบๆ หน่อย เดี๋ยวกูขอต่อ” อีกคนจับแขนทั้ง 2 ข้างของอาคิราไว้
“ม่ายน้า....” อาคิราร้อง พร้อมกับดิ้นรน
“เฉยๆ น่า เดี๋ยวจะทำให้มีความสุขนะ น้องสาว” น้ำเสียงของมันช่างหื่นกามพอๆ กับการกระทำ มันเริ่มใช้มือล้วงเข้าไปภายใต้กระโปรงสั้นของเธอ
“พวกแกนี่มันเลวจริงๆ นะ”
เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น เขายืนอยู่เหนือทั้ง 2 คน
“เฮ้ย เสือกไรด้วยวะ” ชายคนหนึ่งฉุนจัดลุกขึ้นและปรี่เข้าไปชกทันที
“กระจอก”
ชายคนนั้นเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย ปากของเขาพึมพำอะไรสักอย่าง เพียงครู่เดียวชายที่โจมตีเขา ก็ทรุดลงไปกองสลบเหมือด
“เฮ้ย มึงทำไรเพื่อนกู” ชายอีกคนเห็นดังนั้น ก็ปล่อยมือที่จับอาคิรา พร้อมกับกระโจนเข้าไปหาชายคนนั้นทันที
ไม่ทันที่มันจะโดนตัว ชายคนนั้นก็เบี่ยงตัวหลบ ปล่อยหมัดต่อยเสยคาง และเตะซ้ำที่ท้องอีกครั้ง ทำให้ชายชั่วที่เหลือทรุดตัวลงไปกองกับพื้นเช่นกัน
“ไม่เป็นไรนะ”
ชายคนนั้นถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก และคลุมร่างกายของอาคิราที่นั่งตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่ตรงเสาไฟฟ้า
“ขะ..ขอบคุณค่ะ..อ๊ะ..คุณ” อาคิราเงยหน้ามองก็พบว่าเขาคือ กฤติน ผู้ชายที่เธอเจอในสวนสาธารณะวันก่อน
“ยืนไหวมั้ยครับ?”
“เอ้อ..ไหวค่ะ” พออาคิราจะลุก เธอกลับลุกไม่ขึ้น เธอเพิ่งรู้ซึ้งถึงคำว่า กลัวจนเข่าอ่อน ก็วันนี้
“ผมช่วย” กฤตินยิ้ม ก่อนก้มลงไปอุ้มอาคิราขึ้นมาด้วยท่าเจ้าหญิง
“อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินได้..” อาคิราตกใจ
“แค่ลุกยังไม่ไหวเลย อย่าฝืนเลยครับ” กฤตินยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์
“เอ้อ....” อาคิราหน้าแดงด้วยความอาย รอยยิ้มของเขาทำให้เธอใจเต้นแรง แม้จะอยู่ภายใต้แสงไฟที่น้อยนิด ก็ไม่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูดรอบลงได้เลย
“บ้านคุณอยู่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“เอ่อ...บ้านของฉันเดินไปอีก 50 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ รบ...รบกวนด้วยนะคะ” อาคิราหน้าแดง ได้แต่เอามือกอดคอของเขาไว้ และปล่อยให้เขาอุ้มเธอไปส่งที่บ้าน
หน้าบ้านของอาคิรา
เมื่อมาถึงหน้าบ้าน กฤตินก็ปล่อยอาคิราลง บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด
“เอ่อ..ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉัน และยังมาส่งฉันอีกค่ะ” อาคิราขอบคุณด้วยสีหน้าเขินอาย
“ไม่เป็นไรครับ” กฤตินยิ้ม
“คราวหน้าระวังตัวด้วยนะครับ ดึกๆ ไม่ควรเดินคนเดียว” กฤตินมองอาคิราด้วยสายตาอ่อนโยน
“ค่ะ คราวหน้าฉันจะระวังอย่างดีเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ” กฤตินยิ้มหวาน
“เอ่อ....พรุ่งนี้คุณว่างมั้ยคะ” อาคิราเผลอหลุดปากถาม
“?”
“ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าคุณว่างมั้ยคะ?” อาคิราเอานิ้วชี้จิ้มกันแก้เขิน
กฤตินอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ท่าทางของเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ขอโทรศัพท์หน่อยครับ”
“คะ?” อาคิรางงเล็กน้อย แต่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือให้เขาโดยดี
“นี่เบอร์ของผม” กฤตินเมมเบอร์โทรศัพท์ของตนเองในมือถือของอาคิรา และกดโทรออก
“ไว้พรุ่งนี้ผมโทรหานะ” กฤตินยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้กับอาคิรา
“คะ..ค่ะ” อาคิรารู้สึกมึนงง นึกว่าตัวเองฝันไป
“รีบเข้าบ้านเถอะ”
“ค่ะ” อาคิราพยักหน้าและเปิดประตูบ้าน ก่อนจะหันกลับไปมองกฤตินอีกครั้ง
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ” กฤตินยืนยิ้มให้เธอ หัวใจของเธอเต้นแรง เธอผงกศีรษะ แล้วเข้าบ้านไปทันที
หลังจากที่อาคิราเข้าบ้าน สีหน้าของกฤตินก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม
“เอาล่ะ ได้เวลากำจัดขยะแล้วสินะ”
ชายหนุ่มโกรธจัดที่ไอ้ชั่ว 2 คนนั้นบังอาจมาแตะต้องอาคิรา หญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขา เขาเดินกลับไปยังที่มัน 2 คนนอนสลบไม่ได้สติอยู่ เพื่อจัดการตามวิธีของเขา
นที่ 5:ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในห้องทำงานของญาณวดีญาณวดีนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูขวดแก้วสีแดงที่บรรจุยาเสน่ห์สีดำขลับ เธอรู้สึกโกรธแค้นและผิดหวังยาเสน่ห์ที่เธอคิดว่าจะช่วยให้เธอเอาชนะใจของเอกวัฒน์ กลับกลายเป็นว่าไร้ผล เอกวัฒน์ไม่ได้หลงรักเธอ แต่เขากลับหลงรักชัญญา เลขาสาวของเขา“ทำไมมันถึงไม่ได้ผล ฉันใช้ยาเสน่ห์ชั้นดี แต่ทำไมคุณเอกถึงไม่หลงรักฉัน” ญาณวดีกำขวดยาเสน่ห์แน่นญาณวดีนึกย้อนเหตุการณ์ในอดีต เธอเคยใช้ยาเสน่ห์กับผู้ชายมากมาย และทุกครั้งมันก็ได้ผล ผู้ชายทุกคนหลงรักเธอ หัวปักหัวปำ แต่ทำไมกับเอกวัฒน์ ยาเสน่ห์ถึงไม่ทำงาน“ชัญญา เธอต้องชดใช้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้” ญาณวดีคำรามในลำคอเบาๆญาณวดีลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบขวดแก้วอีกขวดหนึ่งขึ้นมา ขวดแก้วนี้บรรจุยาเสน่ห์สูตรใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับจากหมอทำเสน่ห์ที่มีชื่อเสียงแถวภาคกลาง“ยาสูตรนี้แรงมาก ไม่จำเป็นต้องหยดใส่ให้ไอ้หนุ่มนั่นกิน แต่เธอต้องเป็นคนกินเอง ว่าแต่เธอจะกล้ากินหรือเปล่า?” คำพูดของหมอทำเสน่ห์ดังก้องในหัว“ก็เอาสิ ลองดูกันสักตั้ง”ญาณวดีเทยาเสน่ห์ลงในแก้วน้ำ และยกขึ้นจิบ รสชาติของยาเสน่ห์ช่างขมขื่น แต่เ
มนุษย์เรานั้นช่างน่าประหลาด อะไรที่ตัวเองมีอยู่ ก็มักไม่สนใจ อยากได้ของคนอื่น ของที่เคยทำแล้วทำ ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดี ก็ไม่พอใจกับผลลัพธ์ของมัน อยากได้ผลสัมฤทธิ์ที่มากกว่านั้นชัญญาเองก็เช่นกัน แม้ว่าเอกวัฒน์จะหลงเสน่ห์เธอจนหัวปั่น เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเธอ ตั้งแต่...ซื้อคอนโดหรูใจกลางเมืองเพื่อเป็นรังรักของเขาและเธอทำบัตรเครดิตให้เธอ เพื่อให้เธอใช้ตามสบายเวลาว่างก็พาเธอไปเที่ยวต่างประเทศซื้อรถสปอร์ตคันหรูให้เธอชีวิตของชัญญายิ่งสะดวกสบายมากขึ้น ตั้งแต่เธอยอมพลีกายให้เอกวัฒน์เชยชม และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอรู้ว่า เอกวัฒน์และภรรยาห่างเหินเรื่องบนเตียงนานมากทุกครั้งที่เอกวัฒน์มาหาเธอที่คอนโด เธอสั่งอาหารจากภัตราคารหรูมารอเสมอ และหลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอกวัฒน์ก็ต้องการชัญญาเป็นของหวานหลังมื้ออาหารทุกครั้งแต่เธอก็ยังไม่พอใจ เพราะความทะเยอทะยานของเธอคือ ต้องการเป็นที่หนึ่งเท่านั้น แต่...เอกวัฒน์ก็ไม่เคยคิดที่จะหย่ากับภรรยา นั่นทำให้เธอคิดว่า ยาเสน่ห์ที่เธอทำ ฤทธิ์ของมันคงไม่แรงพอ“นายขา.....” ชัญญาเรียกเสียงหวานจากบนเตียง“หืม ?”เอกวัฒน์กำลังยืนผูกเนคไทอยู่หน้ากระจก เ
ณ อาศรมในป่าลึกแห่งหนึ่งกานต์รวีพาชัญญามาหาอาจารย์มั่น เป็นหมอทำคุณไสย เธอรู้จักหมอคุณไสยนี้เป็นการส่วนตัว เพราะเธอเคยขอความช่วยเหลือมาก่อนหน้าแล้วเมื่อไปถึงตำหนักอาศรม กานต์รวีก็พาชัญญาเข้าไปพบกับอาจารย์มั่นแบบเป็นการส่วนตัว“แม่หนู ของดีเต็มตัวเลยนี่” อาจารย์มั่นทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าชัญญา“อาจารย์รู้ดีจังนะคะ” ชัญญายิ้มหวาน“หึหึ แม่หนู คนที่เจ้าอยากได้ ก็ได้มาแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะ”“ฉันต้องการกำจัดผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ”“เธอขวางทางความรักของฉัน” ชัญญาบอกเสียงเรียบ“ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายนะ” อาจารย์มั่นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“ฉันพร้อมจ่ายค่ะ”“ฮ่าๆ ดี ดี” อาจารย์มั่นหัวเราะเสียงดัง“ไอ้ดำ เอาของสิ่งนั้นมาซิ”เมื่ออาจารย์ได้เครื่องรางของขลัง เขาก็เริ่มบริกรรมคาถา เสียงร้องของสัตว์ดังก้องไปทั่วป่าชัญญาและกานต์รวีรู้สึกขนลุก แต่พวกเธอก็อดทนรอจนเสร็จพิธีกรรม“เอ้า แม่หนูมานี่” อาจารย์มั่นกวักมือเรียกชัญญา“นี่คืออะไรคะ?” ชัญญารับเครื่องรางที่อยู่ในถุงดำมาถือไว้“มันคือผีพรายชื่อ ริน”“ถ้าอยากสั่งให้มันทำอะไร ก็ท่องคาถาบทนี้ แล้วก็พูดสั่งการมัน” อาจารย์มั่นส่งบทคาถาให้ชัญญา“แล้วต้องบูช
ราชาแห่งการตกแต่งภายในในห้องทำงานอันหรูหรา ธีรเทพนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูวิวเมืองกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับธีรเทพ ชายหนุ่มวัย 38 ปี เจ้าของบริษัทผลิตสินค้าตกแต่งภายในบ้านที่มีชื่อว่า “บ้านสไตล์” บริษัทของเขามีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วประเทศ เขาเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจด้วยความเก่งกาจและฉลาดธีรเทพก่อตั้งบริษัทของเขามาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มต้นในโรงรถของบ้าน ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยเขาทำงานหนัก ทุ่มเท และอดทน เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ และพัฒนาธุรกิจของเขาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด เขาก็ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นเจ้าของบริษัทที่ใหญ่โตธีรเทพ ไม่ได้มุ่งหวังแค่ความสำเร็จทางธุรกิจ เขาต้องการที่จะสร้างสรรค์สินค้าตกแต่งบ้านที่สวยงาม และมีคุณภาพ เขาต้องการช่วยให้ผู้คนสร้างบ้านให้สวยงาม และน่าอยู่ เขาต้องการทำให้บ้านของทุกคนเป็นสถานที่ที่อบอุ่น และเต็มไปด้วยความสุขธีรเทพ เป็นคนทำงานหนัก และทุ่มเทให้กับธุรกิจของเขา แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเวลาว่าง ธีรเทพ ชอบออกไปเที่ยว และผ่อนคลาย เขามักจะไปเล่นกอล์ฟ หรือไปทานอาหารกับ
ในห้องทำงานของกานต์รวี ณัฐรินีย์กำลังนั่งมองเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนคราบกาแฟบนโซฟาด้วยสายตาอ่านไม่ออกเสื้อเชิ้ตตัวนี้ เป็นเสื้อตัวโปรดของเธอ หาซื้อยาก และมีคุณค่าทางใจสำหรับเธอมาก“โอ๊ยยย เสื้อฉัน เสื้อฉัน!! ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันจะเอามาซักยังไงเนี้ย คราบกาแฟมันฝังแน่นแล้วว”ณัฐรินีย์คร่ำครวญ“เอาน่า ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวฉันจะหาทางช่วย” กานต์รวีปลอบใจ“อะ กาแฟซองไปก่อนนะ” อาคิราเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะ“ผู้ชายเฮงซวย ทำอะไรไม่รู้จักระวัง” ณัฐรินีย์บ่นพึมพำ เธออยู่ในชุดเสื้อยืดแบบฟอร์มของพนักงานบริษัท“ใครกันที่ทำให้เธอโมโหได้ขนาดนี้เนี่ย” อาคิราขำ“ไม่รู้จักอะ หน้าตาก็ดีนะ แต่...ไม่ไหว เจ้าชู้น่าดู” ณัฐรินีย์ส่ายหน้าจนผมกระจาย“ฉันสั่งกาแฟให้ใหม่มั้ย เดี๋ยวให้แกรปมาส่ง” กานต์รวีส่งเสียงถาม“ไม่เป็นไร หมดอารมณ์กินละ กาแฟซองก็ได้” ณัฐรินีย์มีสีหน้าเซ็งๆ เอานิ้วเขี่ยแก้วกาแฟตรงหน้า อาคิราหัวเราะคิกคัก“ว่าแต่เรียกฉันมามีอะไรเหรอ?” ณัฐรินีย์เงยหน้าถาม“พอดีคุณธีร์ อยากได้คนออกแบบสินค้าให้เขาน่ะ ฉันเลยนึกถึงเธอคนแรกเลย”“คุณธีร์นี่ แฟนเธอน่ะเหรอ?”“ใช่”“สินค้าแบบไหน
ณ บ้านพักตากอากาศริมทะเลแสงจันทร์ส่องสว่างท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบกานต์รวีกำลังยืนอยู่บนระเบียงบ้านพักตากอากาศ มองดูชัญญา เพื่อนสนิทสุดที่รักของเธอที่อยู่ริมทะเลชัญญากำลังถือขวดแก้วในมือ ซึ่งมีผีพรายที่ชื่อ “ริน”กานต์รวีกังวลใจ เธอรู้ว่าชัญญากำลังจะใช้ผีพรายไปเล่นงานภรรยาของเอกวัฒน์คุณเกศ กชมน ภรรยาของคุณเอกวัฒน์เป็นคนดี ไม่เคยทำร้ายใคร กานต์รวีไม่อยากให้ชัญญาทำร้ายเธอเธอพยายามห้ามชัญญาแล้ว แต่ชัญญาไม่ฟัง ภาพเหตุการณ์วันนี้ไหลเข้ามาในสมอง“อย่าทำเลยนะ ญ่า”“ทำไม?”“มันไม่ดี” กานต์รวีไม่อยากให้คนที่เธอรักทำร้ายคนอื่น“ถ้าฉันได้เป็นเมียคุณเอก หน้าที่การงานของเธอก็จะดีขึ้นนะ” ชัญญาเลิกคิ้วมองเพื่อน“แต่.....”“ไม่อยากให้ฉันเป็นเมียหลวงคุณเอกเหรอ?” ชัญญาเอียงคอมองเพื่อนสาว“ฉัน....”“เธอก็รู้.....” ชัญญาเดินเข้าเชยคางเพื่อนสาว“ฉันทำแบบนี้ เพื่อตัวฉัน และเพื่อหน้าที่การงานของเธอด้วย”ชัญญารู้จุดอ่อนของกานต์รวีดี รู้ว่ากานต์รวีรักเธอมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ แม้สิ่งนั้นจะผิดก็ตาม“เธอจะช่วยฉันใช่มั้ย รวี” ชัญญาออดอ้อน และช้อนตามองกานต์รวี“อื้อ ถ้าญ่าต้องการ” กานต์รวีใจอ่อนแบบนี้เ
เมื่อคืนนวลพรรณรีบเร่งกลับจากงานเลี้ยงทางสัมคม จริงๆ แล้วเธอตั้งใจจะค้างคืนกับมินตรา แต่เธอรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เธอจึงตัดสินใจบอกลาเพื่อน และตรงกลับคอนโดทันทีนวลพรรณกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้นห้องของเธอ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอก็รีบเดินไปที่ห้องและไขกุญแจเปิดประตูทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันดังออกมาจากห้องนอน เธอรู้สึกแปลกใจ เธอค่อยๆ เดินเบาๆ ไม่ให้เกิดเสียงประตูห้องนอนของเธอแง้มอยู่ นวลพรรณจึงแอบมองลอดประตูเข้าไปภาพที่เห็นทำให้เธอช็อค และตกใจมาก เมื่อเห็นสามีของเธอและญาณวดีกำลังร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน นวลพรรณรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอแตกสลายนวลพรรณร้องไห้ออกมา เธอเอามือปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นรอดออกมา เธอย่องออกจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อคืนเธอจึงตัดสินใจค้างที่โรงแรมแทนที่จะกลับบ้าน“ไอ้เลว!! กล้าทำแบบนี้ได้ไง” มินตราโกรธมาก“ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันรักก้องมาก แต่....” นวลพรรณน้ำตาคลอเบ้า“ใจเย็นๆ เธอไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง” มินตราจับมือเพื่อน“ฉันควรทำยังไงดี....”มินตรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง“เธอรู้จักชู้ก้องมั้ย?” มินตราถาม“รู้จัก เธอชื่อญาณวดี แอบรักก้องมานานแล้ว” น
ณ ห้องในคอนโดในห้องคอนโดมิเนียมอันกว้างขวางของณัฐรินีย์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ อาคิรายืนหน้าเคาน์เตอร์ครัว กำลังเทกาแฟร้อนๆ ลงในแก้ว แต่สายตาของเธอไม่ได้จดจ่ออยู่กับกาแฟตรงหน้า เธอกลับเหม่อลอยคิดถึงกฤติน ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบ คำพูดของเขาเมื่อวันนั้น ยังคงก้องอยู่ในหัว อาคิราไม่ทันสังเกตว่าแก้วเต็มแล้ว ทำให้กาแฟร้อนๆ ล้นออกจากแก้ว“เอ้า ล้นแล้วแม่คุ้นน”“ห๊ะ?”ณัฐรินีย์จับมือที่กำลังเทกาแฟของอาคิราไว้ได้ทัน ก่อนที่จะหกไปมากกว่านี้“อุ๊ย โทษที”“มัวเหม่ออะไรอยู่ยะ”อาคิรารีบหยิบผ้ามาเช็ดคราบกาแฟ เธอรู้สึกเก้อเขิน“แหมๆๆ ตั้งกะไปเดทวันนั้น ดูจิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวเลยเนอะ”ณัฐรินีย์หรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ และอมยิ้มล้อเลียนเพื่อนสาว“บ้า เดทเดิทอะไรกัน”อาคิราแก้เขินด้วยการถือแก้วกาแฟแล้วเดินไปนั่งที่โซฟานั่งเล่น“จ้า ไม่ได้เดท”ณัฐรินีย์หัวเราะคิกคัก พร้อมกับหอบหนังสือออกแบบประมาณ 5-6 เล่ม มาวางกองไว้ที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบโน้ตบุ๊คมาวางไว้ข้างๆ“ทำงานเหรอ?”“อื้อ อีตาธีรเทพนั่น บอกอยากได้ภาพร่างของแบบสินค้าเร็วๆ น่ะ ฉันเลยต้องถ่างตาทำอยู่เนี่ย”“อื้อหือ แบบเยอะเลยนี่