ในห้องทำงานของกานต์รวี ณัฐรินีย์กำลังนั่งมองเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนคราบกาแฟบนโซฟาด้วยสายตาอ่านไม่ออก
เสื้อเชิ้ตตัวนี้ เป็นเสื้อตัวโปรดของเธอ หาซื้อยาก และมีคุณค่าทางใจสำหรับเธอมาก
“โอ๊ยยย เสื้อฉัน เสื้อฉัน!! ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันจะเอามาซักยังไงเนี้ย คราบกาแฟมันฝังแน่นแล้วว”
ณัฐรินีย์คร่ำครวญ
“เอาน่า ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวฉันจะหาทางช่วย” กานต์รวีปลอบใจ
“อะ กาแฟซองไปก่อนนะ” อาคิราเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะ
“ผู้ชายเฮงซวย ทำอะไรไม่รู้จักระวัง” ณัฐรินีย์บ่นพึมพำ เธออยู่ในชุดเสื้อยืดแบบฟอร์มของพนักงานบริษัท
“ใครกันที่ทำให้เธอโมโหได้ขนาดนี้เนี่ย” อาคิราขำ
“ไม่รู้จักอะ หน้าตาก็ดีนะ แต่...ไม่ไหว เจ้าชู้น่าดู” ณัฐรินีย์ส่ายหน้าจนผมกระจาย
“ฉันสั่งกาแฟให้ใหม่มั้ย เดี๋ยวให้แกรปมาส่ง” กานต์รวีส่งเสียงถาม
“ไม่เป็นไร หมดอารมณ์กินละ กาแฟซองก็ได้” ณัฐรินีย์มีสีหน้าเซ็งๆ เอานิ้วเขี่ยแก้วกาแฟตรงหน้า อาคิราหัวเราะคิกคัก
“ว่าแต่เรียกฉันมามีอะไรเหรอ?” ณัฐรินีย์เงยหน้าถาม
“พอดีคุณธีร์ อยากได้คนออกแบบสินค้าให้เขาน่ะ ฉันเลยนึกถึงเธอคนแรกเลย”
“คุณธีร์นี่ แฟนเธอน่ะเหรอ?”
“ใช่”
“สินค้าแบบไหนอะ?”
“พวกของตกแต่งบ้านน่ะ”
“ฉันไม่เคยออกแบบสินค้าตกแต่งบ้านมาก่อนนะ” ณัฐรีนีย์ออกตัว
“ฉันรู้ว่าเธอเก่ง เธอมีไอเดียดีๆ เยอะ แล้วฉันก็มั่นใจว่าเธอทำได้”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่แน่ใจอะ” ณัฐรินีย์ลังเล
“ลองดูสิ เป็นโอกาสดีนะ ได้ทำงานกับคุณธีร์ บริษัทใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยนะ”
“......” ณัฐรินีย์ชั่งใจคิด
“น่า ถือว่าช่วยๆ กันหน่อย ทำแค่เสาร์-อาทิตย์เองนะ” กานต์รวีอ้อนเพื่อน
“แต่...”
“ที่สำคัญนะ ได้เงินเยอะด้วยนะ”
“เงินเหรอ ?” ณัฐรินีย์ตาโต
“ใช่ เดี๋ยวฉันบอกให้คุณธีร์จ่ายให้เธออย่างงามเลย”
“โอเค” ณัฐรินีย์ตกลงทันที
“โห...ยัยณัฐ พอเป็นเรื่องเงินนี่ตกลงทันทีเลยนะ” อาคิราเคาะหัวเพื่อน ส่ายหน้าอย่างระอาใจ
“แหะๆ ก็แหม พอดีมีของที่อยากได้น่ะ” ณัฐรินีย์ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยให้เพื่อน
“ย่ะ แม่คุณ”
“งั้นเสาร์นี้เจอกันที่เซ็นทรัลเวิร์ลนะ” กานต์รวีจัดแจงนัดเวลาเรียบร้อย
ณ หน้าร้านคาเฟ่สุดชิคใจกลางเมือง
บ่ายวันเสาร์อาคิรามีนัดกับกฤตินที่ร้านคาเฟ่ อาคิรามาถึงก่อนเวลานัดเล็กน้อย เธอหันไปมองกระจกหน้าร้านคาเฟ่ เพื่อสำรวจความเรียบร้อย วันนี้เธอแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงยีนส์สีขาว รองเท้าผ้าใบสีชมพู ดูสวยและน่ารัก
จริงๆ แล้ววันนี้เธอต้องมาทานกับณัฐรินีย์ แต่ว่าเพื่อนเธอมีนัดกับสามีของกานต์รวีเรื่องงาน และบังเอิญกฤตินมาได้ยินตอนที่พวกเธอคุยกันพอดี เขาจึงอาสามาเป็นเพื่อนแทน
ในไม่ช้า กฤตินก็ปรากฎตัวขึ้น เขากำลังเดินตรงมาหาอาคิรา วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว แว่นตากันแดดสีชาทำให้เขาดูเท่มาก ระหว่างทางที่เขาเดินมามีแต่สาวๆ มองเหลียวหลังกันทุกคน
จะหล่อเท่ไปถึงไหนเนี่ย ฮึ่ม
อาคิรารู้สึกหงุดหงิดภายในใจ ที่เขาเป็นที่หมายปองจากสาวๆ หลายคน
กฤตินรีบเดินเข้าไปหาอาคิรา ยิ้มกว้าง
“มานานแล้วเหรอ?”
“.......”
อาคิราจ้องมองกฤตินชั่วครู่ เธออดรู้สึกใจสั่นไม่ได้ วันนี้กฤตินดูหล่อมาก แสงแดดสาดส่องลงมาบนใบหน้าของเขาทำให้เขาดูเปล่งประกาย
“เอ้า นิ่งซะงั้น”
“โอ๊ยๆๆ”
กฤตินดึงแก้มข้างหนึ่งของอาคิรา ทำให้เธอรู้สึกตัว
“เข้าไปข้างในกันเถอะ ตรงนี้ร้อน”
กฤตินจูงมืออาคิราเดินเข้าไปด้านใน
ภายในคาเฟ่ ตกแต่งอย่างสวยงาม บรรยากาศอบอุ่นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟและขนมหวาน
กฤตินและอาคิราเลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่างเพื่อจะได้มองดูวิวทิวทัศน์ของเมือง
“เป็นแบบที่เธอคิดมั้ย”
“ห๊ะ แบบไหน?” อาคิรากำลังเหม่อเลยตกใจ
“ก็คาเฟ่นี่ไง ชอบมั้ย?” กฤตินขำท่าทางของเธอ
“อื้อ ชอบมากเลย” อาคิรายิ้มกว้าง
“ชอบฉันน่ะเหรอ?”
“ห๊ะ ?” อาคิราเบิกตากว้าง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากหนุ่มหล่อตรงหน้าเธอก็รู้ทันทีว่ากำลังโดนแกล้ง
“แกล้งฉันเหรอ” อาคิราหน้าง้ำ
“เปล่าน้า..อะ สั่งของกินดีกว่า”
พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามาหาพวกเขาถามออเดอร์ กฤตินสั่งกาแฟลาเต้ และอาคิราสั่งชาอังกฤษกับแพนเค้กน้ำผึ้ง
หลังจากพนักงานเสิร์ฟนำเครื่องดื่มและขนมมาเสิร์ฟ กฤตินและอาคิราก็นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
“เสียดายจัง ที่ณัฐมาไม่ได้”
“มากับฉันก็ดีแล้วนี่” กฤตินพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“......”
อาคิราจิบน้ำชาพร้อมกับใช้ความคิดเกี่ยวกับผู้ชายตรงหน้า บุคลิกภายนอกของเขาดูเย็นชา แต่ว่าพอได้รู้จักกันจริงๆ เขากลับเป็นคนที่อบอุ่น และขี้แกล้ง
ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ทุกวัน เขาจะมารับเธอ และพาไปทานอาหารเย็นด้วยกัน จากนั้นจึงค่อยไปส่งเธอที่บ้าน จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญเธอจำไม่ได้แล้วว่า เขาเปลี่ยนสรรพานามเรียกจาก “ผม” กับ “คุณ” เป็น “ฉัน” กับ “เธอ” ตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่จะว่าไปอาคิราก็แอบชอบเขาตั้งแต่แรกแล้ว และเธอก็ไม่คิดมาก่อนว่า เขาจะยอมไปไหนมาไหนกับเธอแบบนี้
อาคิราเป็นคนฉลาด เธอไม่เร่งรัดความสัมพันธ์ ถึงแม้ว่า เธออยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ชัดเจนมากแค่ไหน แต่ถ้ากฤตินไม่ได้มองเธอมากกว่าเพื่อน เธอก็จะคงสภาพนี้ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
“ว่าแต่ เธอเอาสมุดบันทึกไปคืนที่เดิมรึยัง ?”
อยู่ๆ กฤตินก็ถามเรื่องสมุดบันทึกขึ้นมา ทำให้ความคิดของอาคิราหยุดชะงักไป
“คืนแล้ว” อาคิราตอบ
“ไม่ได้แอบอ่านใช่มั้ย?” ดวงตาคมเข้มจับที่ใบหน้าสวยราวกับจะอ่านความคิด
“หึ” อาคิราส่ายหน้า
“ดีแล้ว” กฤตินยิ้มอย่างพอใจ
“คุณ....ไม่ได้ทำอะไรกับสมุดใช่มั้ย?”
“ทำไมเหรอ?”
“ฉันรู้สึกว่า...มันแปลกๆ” อาคิราหรี่ตามองชายหนุ่มตรงหน้า
“ยังไง?”
“ไม่รู้สิ รู้สึกเหมือนหลังจากที่เอาสมุดไปคืน ระหว่างคุณเอกกับชัญญาเหมือนมีการเปลี่ยนแปลง..ถึงจะเล็กน้อยก็เถอะ”
อาคิรานิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ปกติเอกวัฒน์ดูไม่มีสติ ฟังแต่ชัญญาคนเดียวเท่านั้น งานบางอย่างแม้ไม่ใช่ความผิดของพนักงาน หากเพียงชัญญาไม่ชอบขี้หน้า และบอกว่า พนักงานคนนั้นทำผิด เอกวัฒน์ก็จะเรียกพนักงานคนไปด่า และไล่ออกทันที
แต่ครั้งล่าสุด ดูเหมือนเอกวัฒน์จะมีสติกลับมา ข้อมูลบางอย่างที่ชัญญาบอก เขาเริ่มขอหลักฐาน เอกสารหรือข้อเท็จจริงเพื่อนำไปพิจารณาประกอบก่อนตัดสินใจ ไม่มีลักษณะอาการโมโหร้ายเหมือนแต่ก่อน
เมื่อเอกวัฒน์เริ่มไม่เป็นไปตามที่ชัญญาต้องการ ทำให้ชัญญาเริ่มออกอาการหงุดหงิด อาคิราเคยแอบได้ยินชัญญาบ่นพึมพำในห้องน้ำ ว่าทำไมสูตรที่เคยใช้ถึงไม่ได้ผล ทำไมคุณเอกถึงไม่เป็นไปตามที่เธอคิด
และนั่นเลยเป็นเหตุผลให้อาคิราสงสัยว่า กฤตินต้องทำอะไรบางอย่างกับสมุดบันทึกนั่น
“คิดมากน่ะ ฉันจะไปทำอะไรกับสมุดนั่นได้” กฤตินวางแก้วกาแฟและยิ้ม
“งั้นคุณเอาสมุดกลับบ้านไปทำอะไร” อาคิราคาดคั้น
“เอาไปดู มันเป็นภาษาไทยโบราณ เธอก็รู้ฉันเป็นบรรณารักษ์หอสมุด เพราะงั้นเอกสารหรือหนังสืออะไรก็ตามที่เป็นพวกของโบราณ ฉันก็สนใจทั้งนั้นล่ะ” กฤตินยักคิ้วให้เธอ ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้
ยิ้มแบบนี้อีกละ ใจเต้นจะหลุดออกมาละ
“เลิกยิ้มแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด” อาคิราแกล้งดุ และหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาจิบแก้เขิน
“เข้าใจผิดเรื่อง ?”
“ก็เรื่อง...”
“เรื่อง??” กฤตินจ้องอาคิรา
“เรื่องที่เรามีความสัมพันธ์กันแบบนี้ไง” อาคิรายกมือขึ้นมาทำรูปหัวใจส่งให้กฤติน
“หืม...” กฤตินยิ้มและมองรูปหัวใจที่เธอส่งมาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“เอ้อ....” อาคิรารู้สึกตัว ลดมือลงและเปลี่ยนเป็นเอานิ้วชี้จิ้มกันไปมาแก้เขิน
“ไม่ใช่ว่าเรา....มีความสัมพันธ์กันแบบนั้นอยู่แล้วเหรอ?”
“ห๊ะ? เอ้อ..” อาคิราตะลึง
ตอนไหน เมื่อไหร่ ยังไง!!!!
อาคิราได้แต่ตะโกนในใจ
ในขณะเดียวกัน
ภายในร้านกาแฟ "The Coffee House" ณัฐรินีย์กำลังนั่งค้นหาข้อมูลสินค้าของบริษัท บ้านสไตล์ ว่ามีดีไซน์ และการออกแบบเป็นอย่างไร
ณัฐรินีย์กำลังรอ ธีรเทพ เจ้าของบริษัทผลิตสินค้าตกแต่งภายในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เธอรู้สึกตื่นเต้นและประหม่า เธอไม่เคยเจอธีรเทพมาก่อน เธอได้ยินว่าเขาเป็นคนเก่งและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ณัฐรินีย์หวังว่า เขาจะชอบไอเดียการออกแบบของเธอ
ทันใดนั้น ธีรเทพชายหนุ่มรูปหล่อ ก็เดินเข้ามาในร้าน เขาสวมสูทสีดำ ดูภูมิฐาน สายตาเขาเหลือบไปเห็นณัฐรินีย์ที่นั่งคนเดียว เขาก็จำได้ทันที
ธีรเทพอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปที่เคาเตอร์เพื่อสั่งกาแฟ แท้จริงแล้วเขาเห็นรูปของณัฐรินีย์จากกานต์รวีก่อนออกจากบ้านมาเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกว่าโชคชะตากำลังเล่นตลก ทำให้เขามาเจอเธออีกครั้ง และดันเป็นนักออกแบบที่เขาต้องการเสียด้วย
“ลาเต้เย็นของคุณครับ”
“ฉันไม่ได้สั่ง...เอ๊ะ คุณ!!” ณัฐรินีย์เงยหน้าขึ้นปฏิเสธก่อนจะตกตะลึงเมื่อเห็นธีรเทพ
“กาแฟของคุณเมื่อวันก่อน ผมกินหมดแล้ว เพราะงั้นแก้วนี้ ผมให้” ธีรเทพถือโอกาสนั่งลงตรงข้ามกับณัฐรินีย์
“ฉันซื้อเองได้” ณัฐรินีย์จ้องเขาด้วยแววตาขุ่นมัว
“ผมซื้อมาแล้ว คุณกินเถอะ ผมไม่อยากติดหนี้” ธีรเทพหัวเราะเบาๆ
“แล้วนี่ คุณมานั่งตรงนี้ทำไม ที่นั่งเยอะแยะ” ณัฐรินีย์เสียงเขียวใส่
“ผมนั่งไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้!!”
“ทำไมล่ะ?”
“ฉันนัดคนไว้” ณัฐรินีย์สะบัดเสียง
“เดทเหรอ ?” ธีรเทพรู้สึกอยากแกล้งหญิงสาวตรงหน้า
“ใช่ เพราะงั้นคุณรีบไปซะ” ณัฐรินีย์รำคาญจึงตอบส่งๆ
“ว้าว ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าผมคือคู่นัดเดทของคุณ” ธีรเทพผิวปาก ก่อนจะยิ้มให้ณัฐรินีย์ที่ยังมีท่าทีงุนงง
“อะไรของคุณ?”
“ผม ‘ธีรเทพ’ ยินดีที่ได้รู้จักคู่เดทของผมครับ”
“ห๊า !!!”
ณัฐรินีย์ตาเบิกว้าง ตกตะลึง ในขณะที่ธีรเทพส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ
ณ บ้านพักตากอากาศริมทะเลแสงจันทร์ส่องสว่างท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบกานต์รวีกำลังยืนอยู่บนระเบียงบ้านพักตากอากาศ มองดูชัญญา เพื่อนสนิทสุดที่รักของเธอที่อยู่ริมทะเลชัญญากำลังถือขวดแก้วในมือ ซึ่งมีผีพรายที่ชื่อ “ริน”กานต์รวีกังวลใจ เธอรู้ว่าชัญญากำลังจะใช้ผีพรายไปเล่นงานภรรยาของเอกวัฒน์คุณเกศ กชมน ภรรยาของคุณเอกวัฒน์เป็นคนดี ไม่เคยทำร้ายใคร กานต์รวีไม่อยากให้ชัญญาทำร้ายเธอเธอพยายามห้ามชัญญาแล้ว แต่ชัญญาไม่ฟัง ภาพเหตุการณ์วันนี้ไหลเข้ามาในสมอง“อย่าทำเลยนะ ญ่า”“ทำไม?”“มันไม่ดี” กานต์รวีไม่อยากให้คนที่เธอรักทำร้ายคนอื่น“ถ้าฉันได้เป็นเมียคุณเอก หน้าที่การงานของเธอก็จะดีขึ้นนะ” ชัญญาเลิกคิ้วมองเพื่อน“แต่.....”“ไม่อยากให้ฉันเป็นเมียหลวงคุณเอกเหรอ?” ชัญญาเอียงคอมองเพื่อนสาว“ฉัน....”“เธอก็รู้.....” ชัญญาเดินเข้าเชยคางเพื่อนสาว“ฉันทำแบบนี้ เพื่อตัวฉัน และเพื่อหน้าที่การงานของเธอด้วย”ชัญญารู้จุดอ่อนของกานต์รวีดี รู้ว่ากานต์รวีรักเธอมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ แม้สิ่งนั้นจะผิดก็ตาม“เธอจะช่วยฉันใช่มั้ย รวี” ชัญญาออดอ้อน และช้อนตามองกานต์รวี“อื้อ ถ้าญ่าต้องการ” กานต์รวีใจอ่อนแบบนี้เ
เมื่อคืนนวลพรรณรีบเร่งกลับจากงานเลี้ยงทางสัมคม จริงๆ แล้วเธอตั้งใจจะค้างคืนกับมินตรา แต่เธอรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เธอจึงตัดสินใจบอกลาเพื่อน และตรงกลับคอนโดทันทีนวลพรรณกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้นห้องของเธอ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอก็รีบเดินไปที่ห้องและไขกุญแจเปิดประตูทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันดังออกมาจากห้องนอน เธอรู้สึกแปลกใจ เธอค่อยๆ เดินเบาๆ ไม่ให้เกิดเสียงประตูห้องนอนของเธอแง้มอยู่ นวลพรรณจึงแอบมองลอดประตูเข้าไปภาพที่เห็นทำให้เธอช็อค และตกใจมาก เมื่อเห็นสามีของเธอและญาณวดีกำลังร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน นวลพรรณรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอแตกสลายนวลพรรณร้องไห้ออกมา เธอเอามือปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นรอดออกมา เธอย่องออกจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อคืนเธอจึงตัดสินใจค้างที่โรงแรมแทนที่จะกลับบ้าน“ไอ้เลว!! กล้าทำแบบนี้ได้ไง” มินตราโกรธมาก“ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันรักก้องมาก แต่....” นวลพรรณน้ำตาคลอเบ้า“ใจเย็นๆ เธอไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง” มินตราจับมือเพื่อน“ฉันควรทำยังไงดี....”มินตรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง“เธอรู้จักชู้ก้องมั้ย?” มินตราถาม“รู้จัก เธอชื่อญาณวดี แอบรักก้องมานานแล้ว” น
ณ ห้องในคอนโดในห้องคอนโดมิเนียมอันกว้างขวางของณัฐรินีย์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ อาคิรายืนหน้าเคาน์เตอร์ครัว กำลังเทกาแฟร้อนๆ ลงในแก้ว แต่สายตาของเธอไม่ได้จดจ่ออยู่กับกาแฟตรงหน้า เธอกลับเหม่อลอยคิดถึงกฤติน ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบ คำพูดของเขาเมื่อวันนั้น ยังคงก้องอยู่ในหัว อาคิราไม่ทันสังเกตว่าแก้วเต็มแล้ว ทำให้กาแฟร้อนๆ ล้นออกจากแก้ว“เอ้า ล้นแล้วแม่คุ้นน”“ห๊ะ?”ณัฐรินีย์จับมือที่กำลังเทกาแฟของอาคิราไว้ได้ทัน ก่อนที่จะหกไปมากกว่านี้“อุ๊ย โทษที”“มัวเหม่ออะไรอยู่ยะ”อาคิรารีบหยิบผ้ามาเช็ดคราบกาแฟ เธอรู้สึกเก้อเขิน“แหมๆๆ ตั้งกะไปเดทวันนั้น ดูจิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวเลยเนอะ”ณัฐรินีย์หรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ และอมยิ้มล้อเลียนเพื่อนสาว“บ้า เดทเดิทอะไรกัน”อาคิราแก้เขินด้วยการถือแก้วกาแฟแล้วเดินไปนั่งที่โซฟานั่งเล่น“จ้า ไม่ได้เดท”ณัฐรินีย์หัวเราะคิกคัก พร้อมกับหอบหนังสือออกแบบประมาณ 5-6 เล่ม มาวางกองไว้ที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบโน้ตบุ๊คมาวางไว้ข้างๆ“ทำงานเหรอ?”“อื้อ อีตาธีรเทพนั่น บอกอยากได้ภาพร่างของแบบสินค้าเร็วๆ น่ะ ฉันเลยต้องถ่างตาทำอยู่เนี่ย”“อื้อหือ แบบเยอะเลยนี่
ภายในห้องคอนโดหรูแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านหน้าต่าง ปลุกให้ธีรเทพตื่น เขาขยับตัวมองไปรอบๆ ห้องนอน แต่ไม่พบกานต์รวีธีรเทพรู้สึกงุนงง เขาลุกจากเตียงและเดินออกมาด้านนอก มองหาภรรยาของเขา พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง ติดไว้ที่ตู้เย็นเขียนว่า “สุดสัปดาห์นี้ ฉันไปกับชัญญานะคะ กลับมาวันจันทร์ค่ะ”ธีรเทพอ่านโน้ตจบ ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะหมู่นี้กานต์รวีใช้เวลากับชัญญา เพื่อนสนิทของเธอเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งกานต์รวีก็ไม่กลับมานอนที่ห้อง โดยให้เหตุผลว่า ชัญญามีปัญหา เธอจึงไปนอนเป็นเพื่อนแต่ธีรเทพก็ปล่อยผ่านไป เพราะกานต์รวีเคยเล่าให้เขาฟังว่า ชัญญาเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญ และเขาก็เคยเจอชัญญาครั้งหนึ่ง เท่าที่เขาเห็น ชัญญาเป็นผู้หญิงสวย เก่ง ฉลาด พูดจาไพเราะ การที่กานต์รวีมีเพื่อนดีแบบนี้ เขาก็รู้สึกดีใจด้วยแต่ช่วงนี้เขารู้สึกเหมือนกานต์รวีห่างเหินไป เรื่องปกติที่เขาเคยปฏิบัติกันทุกคืน กานต์รวีก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมีอะไรด้วย“เฮ้อ...แล้ววันหยุดแบบนี้เราจะทำอะไรดีล่ะเนี่ย”ธีรเทพถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปที่เครื่องชงกาแฟ พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นงานออกแบบสินค้าตัวใหม่ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเขาก
ณ ร้านอาหารหรูหราแสงแดดยามเย็นส่องผ่านกระจกบานใหญ่ของร้าน บวกกับแสงไฟที่สลัว ทำให้บรรยากาศภายในร้านอาหารเต็มไปด้วยความโรแมนติก มีผู้คนมากมายที่มาทานอาหาร เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของผู้คนดังทั่วร้านญาณวดีนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ รอก้องเกียรติที่กำลังเดินทางมาหานวลพรรณ เดินเข้ามาในร้านอาหารด้วยสีหน้าเย็นชา สายตาของเธอจับจ้องไปที่ญาณวดี ที่นั่งอยู่คนเดียวตรงโต๊ะริมหน้าต่างนวลพรรณพุ่งตรงไปหาญาณวดีอย่างรวดเร็ว“วดี ในที่สุดก็เจอแก!”“คุณนวล!” ญาณวดีตกใจมาก“เธอมาทำไม?”“ฉันจะมาเอาผัวฉันคืน”“ผัวเธอ? อย่ามาตลก ก้องรักฉัน ไม่ได้รักเธอ” ญาณวดียิ้มเยาะ“รักเหรอ? ถ้ารักแล้วทำไมเขายังอยู่กับฉัน ทำไมก้องไม่ทิ้งฉันไปหาเธอ?” นวลพรรณยิ้มเหยียด“เพราะก้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว เธอคิดว่าก้องอยากอยู่กับเธอเหรอ?” ญาณวดีเอนตัวไปด้านหลัง เลิกคิ้วเป็นเชิงถามนวลพรรณ“แก...” นวลพรรณตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ“ฉันจะบอกความลับให้นะ...” ญาณวดีลุกขึ้นเดินไปหานวลพรรณ“ก้องน่ะ เขาเบื่อมีเซ็กส์กับเธอแล้ว เพราะเธอมันจืดชืด ส่วนฉันน่ะ เร่าร้อนทุกคืน เขาถึงได้ชอบมามีอะไรกั
ตัณหาราคะร้อนแรงโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ภายนอกเป็นอาคารสูงใหญ่ทันสมัย ผู้คนสัญจรไปมาอย่างรีบเร่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นตัว ผู้คนเดินเข้าออกกันขวักไขว่ภายในของโรงพยาบาลตกแต่งอย่างหรูหรา สะอาดตา พนักงานทุกคนแต่งกายสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใสบริเวณโถงกลางมีผู้ป่วยและญาติรอคิวเข้ารับการตรวจ สามารถนั่งผ่อนคลายบนโซฟานุ่มๆ มีเสียงเพลงบรรเลงเบาๆตึกผู้ป่วยหนักที่ชั้น 5 เป็นโซนที่คุณเกศ หรือคุณกชมน ภรรยาของเอกวัฒน์รักษาตัวอยู่ห้องที่คุณเกศพักเป็นห้องผู้ป่วยส่วนตัว มีขนาดกว้างขวาง สว่างไสว มีหน้าต่างขนาดใหญ่ มองเห็นวิวเมืองได้ไกลบนเตียงผู้ป่วย คุณเกศนอนหลับตาอย่างสงบอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดขาว เครื่องช่วยหายใจส่งเสียงออกมาเป็นระยะ สายยางน้ำเกลือ และจอแสดงผลสัญญาณชีพ เอกวัฒน์นั่งอยู่ข้างเตียง จับมือของเธอไว้ด้วยความเป็นห่วงบรรยากาศภายในห้องเงียบสงัด ชัญญากำลังจัดแจกันดอกไม้อยู่มุมห้อง แอบมองทั้งคู่ด้วยความริษยา“นายขา ไปนอนพักผ่อนตรงโซฟาหน่อยมั้ยคะ” ชัญญาแตะแขนของเอกวัฒน์เบา“อืม..ก็ดีเหมือนกัน” เอกวัฒน์มีสีหน้าไม่สดชื่น“นายคะ ญ่าว่านายไปล้างหน้าซักหน่อยดีกว่าค่ะ จะได้สดชื่น เดี๋ยวญ่า
รอยยิ้มที่หายไปณ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์นของธีรเทพและกานต์รวี ช่วงเวลายามเย็นหลังเลิกงาน แสงแดดที่สาดส่องเข้าไปทำให้บ้านดูสวยงามเป็นอย่างมากธีรเทพเพิ่งเลิกงานกลับมา เขาเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย ภายในบ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัยธีรเทพมองไปรอบๆ บ้านที่เต็มไปด้วยงานศิลปะและการตกแต่งภายในที่เขาเป็นผู้ดูแล เมื่อก่อนเขารู้สึกว่ามันช่างให้ความอบอุ่น และทำให้เขาอยากกลับบ้านเร็วๆ แต่วันนี้กลับไม่มีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นได้เลย“รวี อยู่ไหนครับ?”เสียงเรียกของเขาดังไปทั่วบ้าน แต่ไม่มีการตอบกลับ ธีรเทพถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เขาพบว่ากานต์รวีกำลังจดจ่ออยู่กับโน้ตบุ๊ค แสงจอคอมพิวเตอร์สว่างส่องหน้าเธอขณะที่เธอพิมพ์อะไรบางอย่างอย่างรีบเร่ง“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”“อื๊อ ก็เหมือนเดิมล่ะค่ะ” กานต์รวีเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากของสามีที่กำลังจะหอมแก้มเธอ ทำให้เขาชะงักไปธีรเทพเดินไปนั่งลงข้างๆ เธอ พยายามดึงความสนใจของเธอ“เราควรใช้เวลาด้วยกันหน่อยมั้ย? ไปทานข้าวข้างนอกกับผมนะ” ธีรเทพแตะแขนเธอกานต์รวีหยุดพิมพ์ชั่วครู่ แต่ยังคงไม่ละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ค
รอยจูบในความทรงจำยามบ่ายวันศุกร์ใกล้เลิกงาน ณัฐรินีย์นั่งอยู่ที่โต๊ะในมุมหนึ่งของคาเฟ่เล็ก ๆ ที่อยู่ในตึกของบริษัท Vivid บรรยากาศในร้านสงบเงียบ เสียงเพลงแจ๊สเบา ๆ ลอยคลออยู่ในอากาศ ข้างๆ เธอ กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดใหม่ทำให้บรรยากาศยิ่งอบอุ่นยิ่งขึ้น แต่จิตใจของณัฐรินีย์กลับไม่ได้สงบตามไปด้วยเธอนั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางคิดถึงธีรเทพ หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่นึกถึงเขา ภาพของเขาที่นั่งรอเธอทำมาม่าให้ทาน ภาพของรอยยิ้มที่อบอุ่น และสายตาที่มองเธอด้วยความห่วงใยยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอณัฐรินีย์คิดถึงวันที่ธีรเทพเข้ามาในชีวิตของเธอ โดยไม่ทันได้คาดคิด ความใกล้ชิดและการพูดคุยที่เป็นธรรมชาติทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่หายไปนาน ความรู้สึกที่เคยเก็บซ่อนไว้กลับมาปรากฏชัดในใจอีกครั้ง(ทำไมเราถึงรู้สึกแบบนี้นะ?ทั้งๆ ที่เขามีภรรยาอยู่แล้ว เราควรจะตัดใจสิ...แต่มันยากเหลือเกิน)ณัฐรินีย์คิดในใจ พลางถอนหายใจเบา ๆเธอรู้ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่หัวใจของเธอกลับไม่ยอมฟังเหตุผล ความคิดถึงและความรู้สึกหวั่นไหวที่เธอมีต่อธีรเทพทำให้เธอต้องต่อสู้กับตัวเองในทุกๆ วันณัฐรินีย์เ