มนุษย์เรานั้นช่างน่าประหลาด อะไรที่ตัวเองมีอยู่ ก็มักไม่สนใจ อยากได้ของคนอื่น ของที่เคยทำแล้วทำ ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดี ก็ไม่พอใจกับผลลัพธ์ของมัน อยากได้ผลสัมฤทธิ์ที่มากกว่านั้น
ชัญญาเองก็เช่นกัน แม้ว่าเอกวัฒน์จะหลงเสน่ห์เธอจนหัวปั่น เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเธอ ตั้งแต่...
ซื้อคอนโดหรูใจกลางเมืองเพื่อเป็นรังรักของเขาและเธอ
ทำบัตรเครดิตให้เธอ เพื่อให้เธอใช้ตามสบาย
เวลาว่างก็พาเธอไปเที่ยวต่างประเทศ
ซื้อรถสปอร์ตคันหรูให้เธอ
ชีวิตของชัญญายิ่งสะดวกสบายมากขึ้น ตั้งแต่เธอยอมพลีกายให้เอกวัฒน์เชยชม และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอรู้ว่า เอกวัฒน์และภรรยาห่างเหินเรื่องบนเตียงนานมาก
ทุกครั้งที่เอกวัฒน์มาหาเธอที่คอนโด เธอสั่งอาหารจากภัตราคารหรูมารอเสมอ และหลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอกวัฒน์ก็ต้องการชัญญาเป็นของหวานหลังมื้ออาหารทุกครั้ง
แต่เธอก็ยังไม่พอใจ เพราะความทะเยอทะยานของเธอคือ ต้องการเป็นที่หนึ่งเท่านั้น แต่...เอกวัฒน์ก็ไม่เคยคิดที่จะหย่ากับภรรยา นั่นทำให้เธอคิดว่า ยาเสน่ห์ที่เธอทำ ฤทธิ์ของมันคงไม่แรงพอ
“นายขา.....” ชัญญาเรียกเสียงหวานจากบนเตียง
“หืม ?”
เอกวัฒน์กำลังยืนผูกเนคไทอยู่หน้ากระจก เหลือบตามองชัญญาที่นอนกึ่งเปลือยอยู่บนเตียงผ่านกระจกเงา
“ญ่า ขอลาพักร้อนซัก 1 อาทิตย์นะคะ”
ชัญญาดึงผ้าห่มมาห่อตัว และลุกขึ้นมาคลอเคลียร์เอกวัฒน์ทางด้านหลัง
“เธอจะไปไหนเหรอ ?”
“รวีชวนญ่าไปดูบ้านพักตากอากาศแถวหัวหินค่ะ เห็นว่าอยากจะซื้อไว้เป็นที่พักผ่อนน่ะ” ชัญญาเอาคางเกยไหล่เอกวัฒน์ และใช้จมูกไซ้ซอกคอของเขา
“อืม...ให้ผมไปด้วยไหม?” เอกวัฒน์เสียวซ่านกับสิ่งที่ชัญญาทำ
“ไม่เป็นไรค่ะ ญ่าไปกับรวีได้” มือของชัญญาเริ่มซุกซน
“ได้สิ แต่..ทำแบบนี้ผมจะไปสายนะ” เอกวัฒน์หันกลับมากอดร่างกึ่งเปลือยเอาไว้
“ช้านิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณเกศน่าจะรอได้” ชัญญากระซิบเสียงกระเส่า
“หึหึ เธอหาเรื่องเองนะ”
เอกวัฒน์หัวเราะในลำคอก่อนจะจูบชัญญาอย่างเร่าร้อน ชัญญาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ร่างกายของเธอร้อนระอุไปด้วยไฟปรารถนา
เอกวัฒน์ช้อนตัวชัญญาขึ้นมา และวางไปที่บนเตียงนอน มือของเขาดึงผ้าห่มออกจากตัวของเธอ เขาจ้องมองร่างกายเปลือยเปล่าของชัญญาอย่างหลงใหล
เขาสัมผัสผิวของเธออย่างอ่อนโยน รู้สึกถึงความเรียบเนียนและอบอุ่น ชัญญาครางเบาๆ ด้วยความรู้สึกสุข
เอกวัฒน์เริ่มจูบเธอตามลำตัว มือของเขาไล่เรี่ยไปทั่วร่างกายของเธอ
“เธอ..ช่างสวยเหลือเกิน” เอกวัฒน์ถอนหายใจ
“นายขา...” ชัญญาเริ่มลูบไล้กล้ามเนื้อของเขาอย่างเร่าร้อน
เอกวัฒน์ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก เขาทาบทับตัวลงบนร่างกายของเธอ เริ่มจูบเธออย่างลึกซึ้ง
ชัญญารู้สึกเหมือนไฟลุกโชนในตัวเธอ เธอต้องการเขา
เอกวัฒน์เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ สัมผัสที่อ่อนโยนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน
ชัญญาครางอย่างมีความสุข เสียงของเธอดังก้องไปทั่วห้อง
เอกวัฒน์เร่งจังหวะเร็วขึ้น ร่างกายของพวกเขารวมเป็นหนึ่ง ชัญญารู้สึกถึงความสุข เอกวัฒน์ก็รู้สึกถึงความเร้าใจที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
พวกเขารักกันอย่างเร่าร้อน ไฟปรารถนาของพวกเขาเผาไหม้ทุกสิ่ง ชั่วครู่ต่อมา ทั้งคู่ก็ปลดปล่อยความสุขออกมา พวกเขานอนกอดกันอย่างแนบแน่น เหงื่อไหลอาบใบหน้า
ชัญญารู้สึกอิ่มเอมใจ เธอรู้สึกเหมือนเจ้าหญิงในนิยาย
เอกวัฒน์รู้สึกพึงพอใจ เขารู้สึกเหมือนเป็นราชาผู้พิชิต
แต่..ความสุขนี้เป็นเพียงชั่วคราว เสน่ห์มนตร์ดำกำลังหลอกลวงพวกเขา
ความรักที่เกิดขึ้นจากมนตร์ดำจะไม่มีวันยั่งยืน
ในห้องทำงานของญาณวดี
ญาณวดีกำลังเครียด เธอรู้สึกผิดหวัง เธอพยายามทำเสน่ห์ใส่เอกวัฒน์ แต่กลับไม่มีผล เธอทุ่มเททั้งเวลาและเงินทองให้กับอาจารย์ดำ หมอผีที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำเสน่ห์มนตร์ดำ แต่กลับไร้ประโยชน์
“ว่าไง เพื่อน”
“ชัญญา!”
ญาณวดีตกใจที่อยู่ๆ ชัญญาก็เปิดประตูห้องทำงานเข้ามาโดยไม่บอกกล่าว
“เป็นอะไรไป ทำหน้ายังกับเห็นผีแน่ะ” ชัญญาหัวเราะคิกคัก แต่สายตาของเธอกลับวาวโรจน์
“ธะ..ธะ..เธอมีอะไร” ญาณวดีหวาดกลัวชัญญาโดยไม่รู้สาเหตุ
“ไม่มีอะไร ฉันแค่สงสัยว่า....” ชัญญาใช้นิ้วชี้เรียวสวยไล่ไปบนโต๊ะของญาณวดี
“เธอคิดว่า เธอจะแย่งเขาไปจากฉันได้เหรอ?”
ชัญญาเท้ามือบนโต๊ะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ฉันสวยกว่าเธอ เก่งกว่าเธอ และมีเสน่ห์มากกว่าเธอ เธอคิดว่าคุณเอกจะหลงรักเธองั้นเหรอ?”
น้ำเสียงเหยียดหยามนั้นทำให้ญาณวดีโกรธแค้น แต่เธอทำอะไรไม่ได้ เธอรู้ว่าชัญญาพูดความจริง เอกวัฒน์ไม่สนใจเธอเลย ไม่แม้แต่จะชายตามอง
“ฉันไม่อยากเถียงกับเธอ” ญาณวดีพูดเบาๆ
“ฉันหวังว่าคุณเอกวัฒน์จะรักเธอด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพราะเสน่ห์มนตร์ดำ” ญาณวดีแขวะ
“เธอพูดอะไรของเธอ ความจริงใจเหรอ?มันมีอยู่จริงเหรอในโลกใบนี้?” ชัญญาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
“สำหรับฉัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ อำนาจ ฉันต้องการควบคุมทุกสิ่งอย่าง” ชัญญามองเหยียด
“นี่เธอ...”
“ความรักมันไม่มีจริงหรอก อย่าโลกสวยนัก”
ชัญญายิ้มเย้ย ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องทำงานไป ทิ้งให้ญาณวดีเจ็บใจและเคียดแค้นอยู่คนเดียว
ห้องอาหารของบริษัท
อาคิราและณัฐรินีย์กำลังนั่งทานข้าวกลางวันด้วยกัน ทั้งคู่นั่งคุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่
“ฉันขอคุยด้วยคนสิ” ญาณวดีถือวิสาสะนั่งลงที่โต๊ะของทั้งคู่
“เฮ้ย อะไรของเธอเนี่ย” ณัฐรินีย์โวยวาย
“มีอะไร?” อาคิรายิงคำถามทันที
“เอ้า ไอ...”
“ฉันอยากให้ช่วย” ณาณวดีรู้สึกอับอายที่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากคนที่เธอเคยมีเรื่องทะเลาะด้วย
“เรื่องอะไร?”
“คือ...”
ญาณวดีเล่าเรื่องที่สงสัยว่าชัญญาทำเสน่ห์ใส่เอกวัฒน์ให้ทั้งสองคนฟัง
“บ้าไปแล้ว ชัญญาเหรอจะทำเสน่ห์” ณัฐรินีย์แหกปากตะโกน ก่อนจะปิดปากตัวเอง
“เธอแน่ใจเหรอ?” อาคิราย้อนถาม
“ชัญญาพูดเอง”
“แล้วจะให้ช่วยยังไง?”
“หาหลักฐานให้หน่อย” ญาณวดีมองหน้าอาคิราและณัฐรินีย์
“ก็ได้”
“เอ้ย ไอ เอาจริงดิ” ณัฐรินีย์ท้วงเพื่อน
“ถือว่าทำบุญ” อาคิราหันไปบอกเพื่อน
“ขอบคุณนะ”
“แทนที่จะขอบคุณ เธอควรจัดการกับคุณไสยของเธอก่อนเหอะ” อาคิราย้อนทันที
“ฉัน..เปล่านะ”
“อย่าโกหก” อาคิราจ้องเขม็งจนทำให้ญาณวดีรู้สึกเกร็ง
“ได้สิ ฉันจะจัดการ” ญาณวดีดูเซื่องซึม ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“สัญญาด้วยว่าจะไม่ทำอีก”
ญาณวดีชะงักกับคำพูดของอาคิราที่ดังขึ้นมา
“ฉัน...สัญญา” ญาณวดีกัดริมฝีปาก ก่อนจะพูดออกมา และเดินจากไป
“ไอ จะช่วยมันทำไมอะ ก่อนหน้ามันหาเรื่องเธอ กะเอาเธอออกจากบริษัทนะ” ณัฐรินีย์ไม่เข้าใจเพื่อน
“ฉันรู้ แต่ถ้าไม่ช่วย เกิดเค้าเป็นอะไรไป ฉันคงรู้สึกผิด”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ณัฐรินีย์ตาโต
“ก็อาจจะ...”
“โอ้ย เออ ช่างมันๆ ว่าแต่วันนี้หนุ่มหล่อมารับรึเปล่าน่ะ” ณัฐรินีย์เปลี่ยนเรื่องทันที ส่งยิ้มล้อเลียนให้เพื่อน
“นี่แน่ะ” อาคิราดีดหน้าผากเพื่อนตัวดี
“โอ๊ย ฉันพูดเรื่องจริงนี่นา” ณัฐรินีย์คลำหน้าผากป้อยๆ
“มาย่ะ”
“แหม...ตั้งแต่ไปดินเนอร์วันนั้น หนุ่มหล่อก็มารับทุกวันเลยน้า” ณัฐรินีย์หยอกเย้า
“เอ้อ...” อาคิราเผลอยกมือขึ้นแตะเปลือกตา
“เป็นไร เจ็บตาเหรอ?” ณัฐรินีย์งง จ้องหน้าเพื่อน
“ปะ...เปล่าๆ พูดมากจริง” อาคิราหน้าแดงบอกปัดเพื่อน
“อ้าว ไม่สบายหรอ หน้าแดงเชียว”
“ไปทำงานได้แล้วน่ะ” อาคิราแก้เก้อ ลุกขึ้น และรีบเดินไปทางลิฟท์ทันที
ณ อาศรมในป่าลึกแห่งหนึ่งกานต์รวีพาชัญญามาหาอาจารย์มั่น เป็นหมอทำคุณไสย เธอรู้จักหมอคุณไสยนี้เป็นการส่วนตัว เพราะเธอเคยขอความช่วยเหลือมาก่อนหน้าแล้วเมื่อไปถึงตำหนักอาศรม กานต์รวีก็พาชัญญาเข้าไปพบกับอาจารย์มั่นแบบเป็นการส่วนตัว“แม่หนู ของดีเต็มตัวเลยนี่” อาจารย์มั่นทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าชัญญา“อาจารย์รู้ดีจังนะคะ” ชัญญายิ้มหวาน“หึหึ แม่หนู คนที่เจ้าอยากได้ ก็ได้มาแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะ”“ฉันต้องการกำจัดผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ”“เธอขวางทางความรักของฉัน” ชัญญาบอกเสียงเรียบ“ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายนะ” อาจารย์มั่นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“ฉันพร้อมจ่ายค่ะ”“ฮ่าๆ ดี ดี” อาจารย์มั่นหัวเราะเสียงดัง“ไอ้ดำ เอาของสิ่งนั้นมาซิ”เมื่ออาจารย์ได้เครื่องรางของขลัง เขาก็เริ่มบริกรรมคาถา เสียงร้องของสัตว์ดังก้องไปทั่วป่าชัญญาและกานต์รวีรู้สึกขนลุก แต่พวกเธอก็อดทนรอจนเสร็จพิธีกรรม“เอ้า แม่หนูมานี่” อาจารย์มั่นกวักมือเรียกชัญญา“นี่คืออะไรคะ?” ชัญญารับเครื่องรางที่อยู่ในถุงดำมาถือไว้“มันคือผีพรายชื่อ ริน”“ถ้าอยากสั่งให้มันทำอะไร ก็ท่องคาถาบทนี้ แล้วก็พูดสั่งการมัน” อาจารย์มั่นส่งบทคาถาให้ชัญญา“แล้วต้องบูช
ราชาแห่งการตกแต่งภายในในห้องทำงานอันหรูหรา ธีรเทพนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูวิวเมืองกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับธีรเทพ ชายหนุ่มวัย 38 ปี เจ้าของบริษัทผลิตสินค้าตกแต่งภายในบ้านที่มีชื่อว่า “บ้านสไตล์” บริษัทของเขามีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วประเทศ เขาเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจด้วยความเก่งกาจและฉลาดธีรเทพก่อตั้งบริษัทของเขามาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มต้นในโรงรถของบ้าน ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยเขาทำงานหนัก ทุ่มเท และอดทน เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ และพัฒนาธุรกิจของเขาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด เขาก็ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นเจ้าของบริษัทที่ใหญ่โตธีรเทพ ไม่ได้มุ่งหวังแค่ความสำเร็จทางธุรกิจ เขาต้องการที่จะสร้างสรรค์สินค้าตกแต่งบ้านที่สวยงาม และมีคุณภาพ เขาต้องการช่วยให้ผู้คนสร้างบ้านให้สวยงาม และน่าอยู่ เขาต้องการทำให้บ้านของทุกคนเป็นสถานที่ที่อบอุ่น และเต็มไปด้วยความสุขธีรเทพ เป็นคนทำงานหนัก และทุ่มเทให้กับธุรกิจของเขา แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเวลาว่าง ธีรเทพ ชอบออกไปเที่ยว และผ่อนคลาย เขามักจะไปเล่นกอล์ฟ หรือไปทานอาหารกับ
ในห้องทำงานของกานต์รวี ณัฐรินีย์กำลังนั่งมองเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนคราบกาแฟบนโซฟาด้วยสายตาอ่านไม่ออกเสื้อเชิ้ตตัวนี้ เป็นเสื้อตัวโปรดของเธอ หาซื้อยาก และมีคุณค่าทางใจสำหรับเธอมาก“โอ๊ยยย เสื้อฉัน เสื้อฉัน!! ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันจะเอามาซักยังไงเนี้ย คราบกาแฟมันฝังแน่นแล้วว”ณัฐรินีย์คร่ำครวญ“เอาน่า ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวฉันจะหาทางช่วย” กานต์รวีปลอบใจ“อะ กาแฟซองไปก่อนนะ” อาคิราเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะ“ผู้ชายเฮงซวย ทำอะไรไม่รู้จักระวัง” ณัฐรินีย์บ่นพึมพำ เธออยู่ในชุดเสื้อยืดแบบฟอร์มของพนักงานบริษัท“ใครกันที่ทำให้เธอโมโหได้ขนาดนี้เนี่ย” อาคิราขำ“ไม่รู้จักอะ หน้าตาก็ดีนะ แต่...ไม่ไหว เจ้าชู้น่าดู” ณัฐรินีย์ส่ายหน้าจนผมกระจาย“ฉันสั่งกาแฟให้ใหม่มั้ย เดี๋ยวให้แกรปมาส่ง” กานต์รวีส่งเสียงถาม“ไม่เป็นไร หมดอารมณ์กินละ กาแฟซองก็ได้” ณัฐรินีย์มีสีหน้าเซ็งๆ เอานิ้วเขี่ยแก้วกาแฟตรงหน้า อาคิราหัวเราะคิกคัก“ว่าแต่เรียกฉันมามีอะไรเหรอ?” ณัฐรินีย์เงยหน้าถาม“พอดีคุณธีร์ อยากได้คนออกแบบสินค้าให้เขาน่ะ ฉันเลยนึกถึงเธอคนแรกเลย”“คุณธีร์นี่ แฟนเธอน่ะเหรอ?”“ใช่”“สินค้าแบบไหน
ณ บ้านพักตากอากาศริมทะเลแสงจันทร์ส่องสว่างท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบกานต์รวีกำลังยืนอยู่บนระเบียงบ้านพักตากอากาศ มองดูชัญญา เพื่อนสนิทสุดที่รักของเธอที่อยู่ริมทะเลชัญญากำลังถือขวดแก้วในมือ ซึ่งมีผีพรายที่ชื่อ “ริน”กานต์รวีกังวลใจ เธอรู้ว่าชัญญากำลังจะใช้ผีพรายไปเล่นงานภรรยาของเอกวัฒน์คุณเกศ กชมน ภรรยาของคุณเอกวัฒน์เป็นคนดี ไม่เคยทำร้ายใคร กานต์รวีไม่อยากให้ชัญญาทำร้ายเธอเธอพยายามห้ามชัญญาแล้ว แต่ชัญญาไม่ฟัง ภาพเหตุการณ์วันนี้ไหลเข้ามาในสมอง“อย่าทำเลยนะ ญ่า”“ทำไม?”“มันไม่ดี” กานต์รวีไม่อยากให้คนที่เธอรักทำร้ายคนอื่น“ถ้าฉันได้เป็นเมียคุณเอก หน้าที่การงานของเธอก็จะดีขึ้นนะ” ชัญญาเลิกคิ้วมองเพื่อน“แต่.....”“ไม่อยากให้ฉันเป็นเมียหลวงคุณเอกเหรอ?” ชัญญาเอียงคอมองเพื่อนสาว“ฉัน....”“เธอก็รู้.....” ชัญญาเดินเข้าเชยคางเพื่อนสาว“ฉันทำแบบนี้ เพื่อตัวฉัน และเพื่อหน้าที่การงานของเธอด้วย”ชัญญารู้จุดอ่อนของกานต์รวีดี รู้ว่ากานต์รวีรักเธอมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ แม้สิ่งนั้นจะผิดก็ตาม“เธอจะช่วยฉันใช่มั้ย รวี” ชัญญาออดอ้อน และช้อนตามองกานต์รวี“อื้อ ถ้าญ่าต้องการ” กานต์รวีใจอ่อนแบบนี้เ
เมื่อคืนนวลพรรณรีบเร่งกลับจากงานเลี้ยงทางสัมคม จริงๆ แล้วเธอตั้งใจจะค้างคืนกับมินตรา แต่เธอรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เธอจึงตัดสินใจบอกลาเพื่อน และตรงกลับคอนโดทันทีนวลพรรณกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้นห้องของเธอ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอก็รีบเดินไปที่ห้องและไขกุญแจเปิดประตูทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันดังออกมาจากห้องนอน เธอรู้สึกแปลกใจ เธอค่อยๆ เดินเบาๆ ไม่ให้เกิดเสียงประตูห้องนอนของเธอแง้มอยู่ นวลพรรณจึงแอบมองลอดประตูเข้าไปภาพที่เห็นทำให้เธอช็อค และตกใจมาก เมื่อเห็นสามีของเธอและญาณวดีกำลังร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน นวลพรรณรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอแตกสลายนวลพรรณร้องไห้ออกมา เธอเอามือปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นรอดออกมา เธอย่องออกจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อคืนเธอจึงตัดสินใจค้างที่โรงแรมแทนที่จะกลับบ้าน“ไอ้เลว!! กล้าทำแบบนี้ได้ไง” มินตราโกรธมาก“ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันรักก้องมาก แต่....” นวลพรรณน้ำตาคลอเบ้า“ใจเย็นๆ เธอไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง” มินตราจับมือเพื่อน“ฉันควรทำยังไงดี....”มินตรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง“เธอรู้จักชู้ก้องมั้ย?” มินตราถาม“รู้จัก เธอชื่อญาณวดี แอบรักก้องมานานแล้ว” น
ณ ห้องในคอนโดในห้องคอนโดมิเนียมอันกว้างขวางของณัฐรินีย์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ อาคิรายืนหน้าเคาน์เตอร์ครัว กำลังเทกาแฟร้อนๆ ลงในแก้ว แต่สายตาของเธอไม่ได้จดจ่ออยู่กับกาแฟตรงหน้า เธอกลับเหม่อลอยคิดถึงกฤติน ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบ คำพูดของเขาเมื่อวันนั้น ยังคงก้องอยู่ในหัว อาคิราไม่ทันสังเกตว่าแก้วเต็มแล้ว ทำให้กาแฟร้อนๆ ล้นออกจากแก้ว“เอ้า ล้นแล้วแม่คุ้นน”“ห๊ะ?”ณัฐรินีย์จับมือที่กำลังเทกาแฟของอาคิราไว้ได้ทัน ก่อนที่จะหกไปมากกว่านี้“อุ๊ย โทษที”“มัวเหม่ออะไรอยู่ยะ”อาคิรารีบหยิบผ้ามาเช็ดคราบกาแฟ เธอรู้สึกเก้อเขิน“แหมๆๆ ตั้งกะไปเดทวันนั้น ดูจิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวเลยเนอะ”ณัฐรินีย์หรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ และอมยิ้มล้อเลียนเพื่อนสาว“บ้า เดทเดิทอะไรกัน”อาคิราแก้เขินด้วยการถือแก้วกาแฟแล้วเดินไปนั่งที่โซฟานั่งเล่น“จ้า ไม่ได้เดท”ณัฐรินีย์หัวเราะคิกคัก พร้อมกับหอบหนังสือออกแบบประมาณ 5-6 เล่ม มาวางกองไว้ที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบโน้ตบุ๊คมาวางไว้ข้างๆ“ทำงานเหรอ?”“อื้อ อีตาธีรเทพนั่น บอกอยากได้ภาพร่างของแบบสินค้าเร็วๆ น่ะ ฉันเลยต้องถ่างตาทำอยู่เนี่ย”“อื้อหือ แบบเยอะเลยนี่
ภายในห้องคอนโดหรูแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านหน้าต่าง ปลุกให้ธีรเทพตื่น เขาขยับตัวมองไปรอบๆ ห้องนอน แต่ไม่พบกานต์รวีธีรเทพรู้สึกงุนงง เขาลุกจากเตียงและเดินออกมาด้านนอก มองหาภรรยาของเขา พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง ติดไว้ที่ตู้เย็นเขียนว่า “สุดสัปดาห์นี้ ฉันไปกับชัญญานะคะ กลับมาวันจันทร์ค่ะ”ธีรเทพอ่านโน้ตจบ ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะหมู่นี้กานต์รวีใช้เวลากับชัญญา เพื่อนสนิทของเธอเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งกานต์รวีก็ไม่กลับมานอนที่ห้อง โดยให้เหตุผลว่า ชัญญามีปัญหา เธอจึงไปนอนเป็นเพื่อนแต่ธีรเทพก็ปล่อยผ่านไป เพราะกานต์รวีเคยเล่าให้เขาฟังว่า ชัญญาเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญ และเขาก็เคยเจอชัญญาครั้งหนึ่ง เท่าที่เขาเห็น ชัญญาเป็นผู้หญิงสวย เก่ง ฉลาด พูดจาไพเราะ การที่กานต์รวีมีเพื่อนดีแบบนี้ เขาก็รู้สึกดีใจด้วยแต่ช่วงนี้เขารู้สึกเหมือนกานต์รวีห่างเหินไป เรื่องปกติที่เขาเคยปฏิบัติกันทุกคืน กานต์รวีก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมีอะไรด้วย“เฮ้อ...แล้ววันหยุดแบบนี้เราจะทำอะไรดีล่ะเนี่ย”ธีรเทพถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปที่เครื่องชงกาแฟ พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นงานออกแบบสินค้าตัวใหม่ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเขาก
ณ ร้านอาหารหรูหราแสงแดดยามเย็นส่องผ่านกระจกบานใหญ่ของร้าน บวกกับแสงไฟที่สลัว ทำให้บรรยากาศภายในร้านอาหารเต็มไปด้วยความโรแมนติก มีผู้คนมากมายที่มาทานอาหาร เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของผู้คนดังทั่วร้านญาณวดีนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ รอก้องเกียรติที่กำลังเดินทางมาหานวลพรรณ เดินเข้ามาในร้านอาหารด้วยสีหน้าเย็นชา สายตาของเธอจับจ้องไปที่ญาณวดี ที่นั่งอยู่คนเดียวตรงโต๊ะริมหน้าต่างนวลพรรณพุ่งตรงไปหาญาณวดีอย่างรวดเร็ว“วดี ในที่สุดก็เจอแก!”“คุณนวล!” ญาณวดีตกใจมาก“เธอมาทำไม?”“ฉันจะมาเอาผัวฉันคืน”“ผัวเธอ? อย่ามาตลก ก้องรักฉัน ไม่ได้รักเธอ” ญาณวดียิ้มเยาะ“รักเหรอ? ถ้ารักแล้วทำไมเขายังอยู่กับฉัน ทำไมก้องไม่ทิ้งฉันไปหาเธอ?” นวลพรรณยิ้มเหยียด“เพราะก้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว เธอคิดว่าก้องอยากอยู่กับเธอเหรอ?” ญาณวดีเอนตัวไปด้านหลัง เลิกคิ้วเป็นเชิงถามนวลพรรณ“แก...” นวลพรรณตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ“ฉันจะบอกความลับให้นะ...” ญาณวดีลุกขึ้นเดินไปหานวลพรรณ“ก้องน่ะ เขาเบื่อมีเซ็กส์กับเธอแล้ว เพราะเธอมันจืดชืด ส่วนฉันน่ะ เร่าร้อนทุกคืน เขาถึงได้ชอบมามีอะไรกั