ณ.ตระกูลภูริสิทธิโชค
"ภพคะ เราไม่ไปงานศพของไอ้พี่จินจะดีหรือคะ"เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามชายชู้ที่ตัวเองนั่งซบอกดูทีวีอยู่บนเตียงนอนของจินด้วยสภาพเปลือยเปล่า พลางใบหน้างามก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของพิภพด้วยแววตาออดอ้อนไร้การเศร้าโศกที่ตัวเองพึ่งจะเสียว่าที่สามีในทะเบียนสมรสไปหยกๆ
"จิ๊! พิมพ์จะไปพูดถึงมันให้เสียอารมณ์ทำไม ภพอุสาห์ไม่นึกถึงภาพเมื่อวานนี้แล้ว"พิภพพูดขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับดันร่างนุ่มนิ่มของพิมพ์ที่พึ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากันเสร็จไปเมื่อกี้ออกจากการซบอกของตัวเอง ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้พิมพ์นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงตามลำพัง
และเหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของร่างโปร่งแสงเจ้าของห้องและบ้านหลังนี้ที่ยืนดูอยู่นานหลายนาทีแล้ว
'หึ! ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันแต่งงานที่ทุกคนต่างสวมชุดสีมงคลมีความสุขกัน แต่ทุกคนกลับต้องเปลี่ยนมาสวมชุดสีดำและมางานศพของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้าโศกเศร้าแทน ฮ่าๆๆๆ แล้วดูเจ้าสาวของกูสิกลับมานอนกกชายชู้ของมันในห้องของกูอย่างหน้าตาเฉย ตลกเป็นบ้าเลยวะ!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ'
ร่างโปร่งแสงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่นอนเล่นมือถืออย่างสบายใจอยู่บนเตียงนอนที่ยับยู่ยี่บ่งบอกว่าพึ่งผ่านอะไรมาเป็นอย่างดี
ด้านเพลงพิณที่นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงอย่างอารมณ์ดีนั้น อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกซู่และรู้สึกเหมือนโดนใครสักคนจ้องมองมาที่ตัวเอง ก็รีบวางมือถือและลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นอะไร จึงล้มตัวกลับมานอนเล่นมือถือเหมือนเดิม ผ่านไปไม่นานพิภพก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมเดินมาหยุดที่ข้างเตียงหลังใหญ่
ก่อนที่จะเอ่ยพูดอะไรบางอย่างออกมาที่ทำให้ร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ชะงักนิ่งไปอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยินจากปากคนที่เขาเชื่อใจ
"พิมพ์แล้วเอกสารบัญชีการเงินบริษัทที่ผมให้คุณเก็บไว้อยู่ที่นี้ด้วยมั้ย ผมจะเอาไปเผาทิ้ง"
'เผาเอกสารบัญชีการเงินบริษัท? เอกสารอะไร แล้วเผาทำไม'
"ภพคะ พิมพ์คงไม่โง่เอาเอกสารที่เราโกงเงินบริษัทของไอ้พี่จินมาไว้ในบ้านของมันหรอก เอกสารพวกนั้นพิมพ์เก็บไว้ที่คอนโดที่พี่มันเคยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดของพิมพ์"เพลงพิณดันตัวลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งพลางหันไปตอบชายคนรักพร้อมกับกลอกตาไปมา เมื่อได้ยินชายหนุ่มที่ลักลอบคบกันมานานกว่า3ปีเอ่ยถามขึ้นมาแบบนั้น
"ภพจะไปรู้มั้ยล่ะ ภพก็นึกว่าพิมพ์จะเก็บไว้ใกล้ๆตัว งั้นพรุ่งนี้เราไปเอาเอกสารการโกงเงินกว่า2ปีพวกนั้นไปเผากันนะพิมพ์"เอ่ยพูดพลางก้าวขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วดึงหญิงสาวมานอนซบที่อกตัวเองเหมือนอย่างเคย
"โอเคค่ะที่รัก"
'นี่พวกมึงสองคนสวมเขาให้กูไม่พอ พวกมึงยังยักยอกเงินบริษัทกูอีกอย่างงั้นหรอ!!!'
"เออ!จริงสิ ตกลงคนสวยของผมจดทะเบียนสมรสกับไอ้พี่จินหน้าโง่นั้นก่อนที่มันจะตายแล้วใช่มั้ยครับ"ถามขึ้นพลางมือหนาก็ลูบไล้ไหล่เนียนของเพลงพิณเล่น ส่วนเพลงพิณที่ได้ยินคำถามก็ขมวดคิ้วเข้าหากันมุ่นพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆตอบออกไปอย่างงงๆ
"ใช่แล้วล่ะ ก็ตามที่เราวางแผนไว้ไงที่รัก ว่าให้พิมพ์แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับพี่มันและค่อยๆปอกลอกเอาสมบัติมันทีล่ะนิดๆ"
"หึๆ แต่ตอนนี้เราไม่ต้องค่อยๆหลอกเอาสมบัติมันแล้วนะ เพราะมันไม่มีญาติที่ไหนไม่ใช่หรอ งั้นก็แสดงว่าทรัพย์สมบัติของมันทั้งหมดในตอนนี้รวมถึงบริษัทที่มันรักนักรักหนาก็ต้องตกมาเป็นของที่รักคนที่จดทะเบียนสมรสกับมันไม่ใช่หรอครับ ฮ่าๆ"พิภพเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะยิ้มแย้มออกมาอย่างชอบอกชอบใจ
"จริงด้วย! งั้นแสดงว่าเงินในบัญชีของพี่มันบริษัทของพี่มันรวมถึงบ้านหลังนี้ก็ตกเป็นของพิมพ์ทั้งหมดน่ะสิ กรี๊ดดดด พวกเรารวยแล้ววววว"หญิงสาวสาธยายขึ้นด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจไม่ต่างจากชายชู้ของตัวเอง เมื่อถึงได้ถึงประโยคคำพูดของชายหนุ่มเมื่อกี้
ส่วนทางกับร่างโปร่งแสงในตอนนี้อย่างสิ้นเชิงที่โกรธเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินว่าบริษัทและทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่และตัวเขาสร้างมาต้องตกไปเป็นของชายชั่วหญิงเลวคู่นี้
'ไม่!!! กูไม่ให้! บริษัทของพ่อแม่กู กูไม่ให้พวกมึง กูไม่มีวันให้บริษัทที่กูลงทุนลงแรงกอบกู้ชื่อเสียงมานานหลายปีตกไปเป็นของคนชั่วๆอย่างพวกมึงสองคน กูไม่ยอมเด็กขาด!!!!'
พรึ่บ
"พะ ภพคะ..."เพลงพิณที่กำลังยิ้มดีใจกับประโยคที่พึ่งได้ยินจากคนรักว่าตัวเองจะได้ทรัพย์สมบัติของจินทั้งหมด เป็นต้องเปลี่ยนเป็นใบหน้าถอดสีพร้อมกับขยับตัวเข้าหาอ้อมกอดของพิภพ เมื่ออยู่ๆไฟในห้องก็ดับพรึ่บไป แต่ไม่นานก็สว่างขึ้นมาเหมือนเดิม แต่ทว่าไฟในห้องกลับดับๆติดๆอยู่อย่างนี้ประมาณ3ครั้งถึงจะกลับมาเป็นปกติดังเดิม
จนทำให้เพลงพิณเริ่มตัวสั่นหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พิภพกลับคิดเพียงว่าหลอดไฟนั้นมีปัญหาเพียงเท่านั้น
"พิมพ์คุณจะกลัวอะไร ก็แค่หลอดไฟมันมีปัญหาแค่นั้นเอง พรุ่งนี้เช้าคุณก็ให้คนเข้ามาดูตอนที่เราออกไปจัดการเรื่องเอกสารการยักยอกเงินด้วยแล้วกัน"ว่าจบพิภพก็ดันตัวแฟนสาวออก ก่อนที่เจ้าตัวจะล้มตัวนอนลงบนเตียงฝั่งที่เคยเป็นพื้นที่ของจิน
ส่วนเพลงพิณที่เห็นคนรักของตัวเองหลับไปแล้ว ก็รีบที่จะล้มตัวนอนตามและพยายามข่มตาให้หลับเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยมีสายตาอาฆาตแค้นของณภัทรจ้องมองอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ร่างโปร่งแสงของจินจะค่อยๆหายวับไปจากห้องนอนของตัวเองที่ตอนนี้เมียของเขาได้พาชายชู้มาทำเรื่องชั่วช้าบนเตียงนอนของเขา
2อาทิตย์ต่อมาหลังจากเสร็จงานเผาศพของจิน
"คุณไม่ละอายใจบ้างหรอ นี่พึ่งจะเผาร่างของจินไปแค่ไม่กี่อาทิตย์คุณก็แต่งตั้งชายชู้ของคุณขึ้นมาเป็น1ในบอร์ดบริหารที่ถือหุ้นมากที่สุด"ทักษกรถามหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎของณภัทรด้วยน้ำเสียงโมโห และหญิงสาวที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้เธอเองก็พึ่งจะได้รับมรดกทั้งหมดของชายหนุ่มคนที่เขาแอบรักมาตลอดหลายไปเพียงไม่กี่วัน
แต่ทว่าเธอที่พึ่งได้ครอบครองมรดกและบริษัทนำเข้ารถยนต์ของจินไปไม่นาน เจ้าหล่อนก็เล่นแต่งตั้งชายชู้ขึ้นมาเป็น1ในบอร์ดบริหารในทันที โดยไม่สนคำคัดคาดหรือคำติฉินนิทราเลยสักนิด
"แล้วจะทำไม ฉันจะแต่งตั้งใครมันก็เรื่องของฉัน นี่มันบริษัทของฉันคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย อ๋อจริงสิคุณคงจะเสียใจมากที่คนที่คุณแอบรักมาตลอดตายไปซินะ ก็นะ อุสาห์พยายามบอกพยายามเตือนเรื่องของฉันกับพี่ภพให้พี่จินรู้ตั้งหลายครั้งนี่เนอะ แต่ทำยังไงได้ก็ไอ้พี่จินมันหลงฉันขนาดนั้น เพื่อนเตือนยังไงก็โง่หลงเชื่อในคำยุยงของฉัน"
เพลงพิณสาธยายออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไร้สำนึกพร้อมกับยกฝ่ามือบางขึ้นมาป้องปากตัวเองแล้วหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนที่จะไหวไหลเล็กน้อยแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบริษัทของจินอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้ภูมิยืนกำมือขบกรามแน่นข่มความโกรธแค้นและโมโหไว้ภายในใจ ก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถด้วยแววตาแดงก่ำ
เดิมทีวันนี้ภูมิตั้งใจจะไปทำบุญและเอาดอกไม้ไปให้จินที่วัด แต่แล้วภูมิต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาที่บริษัทของจินแทนเพราะได้รับข่าวจากพนักงานของจินที่รู้จักเขาทักมาบอกว่าเพลงพิณแต่งตั้งให้ไอ้พิภพชายชู้ขึ้นมาเป็น1ในบอร์ดผู้บริหารที่ถือหุ่นบริษัทถึง30% แค่ได้ยินภูมิก็พอจะเดาออกทันทีว่าไอ้หุ่น30%ที่มันถือนั้นมาจากการไม่ได้ซื้อขายแต่เป็นการที่เพลงพิณเซ็นมอบให้มันเลยต่างหาก
"แม่งเอ๊ยยยย"
ปึก!
คิดมาถึงตรงนี้ฝ่ามือหนาของภูมิก็ฟาดลงที่พวงมาลัยรถอย่างแรงโดยความโมโหและโกรธแค้นที่ทำอะไรไม่ได้
เขานั้นอยากที่จะบีบให้ทางเพลงพิณและชายชู้นั้นที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ถือหุ้นบริษัทของจินมากที่สุดในตอนนี้นั่นล้มละลายและเสียชื่อเสียงเหลือเกิน แต่พอภูมินึกถึงว่าจินรักบริษัทนี้มากแค่ไหนภูมิก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเกี่ยวกับบริษัทของจินมาก ภูมิถึงได้ถอยออกมาแบบนี้ปล่อยให้ชายชั่วหญิงเลวคู่นั้นเสพสมทัพย์สมบัติของคนที่เขารักมากอย่างมีความสุขต่อไป
"ขอโทษ ขอโทษนะจินที่ภูมิช่วยจินไว้ไม่ได้ แถมตอนนี้ภูมิยังช่วยบริษัทของจินไว้ไม่ได้อีก ภูมิขอโทษจริงๆจิน..."ภูมิที่ขับรถออกมาจากบริษัทของจินได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ก็หักพวงมาลัยเข้าข้างทางจอดรถตรงข้างกับศาลไม้เก่าอะไรสักอย่างที่ดูทรุดโทรมเหมือนไร้คนดูแลมานาน
ก่อนที่ทักษกรจะซบใบหน้าลงกับพวงมาลัยรถบ่นพึมพำอะไรสักอย่างกับตัวเองออกมาเสียงเบาจนจับใจความไม่ได้ พลางนัยน์ตาคมทั้งสองข้างก็มีน้ำสีใสไหลลงมาไม่หยุด โดยเบาะข้างคนขับก็มีร่างโปร่งแสงของคนที่ภูมิเอ่ยขอโทษเมื่อกี้นั่งมองอยู่ด้วยแววตาโศกเศร้าไม่ต่างกัน
'มึงไม่ผิดเลยภูมิ เป็นกูเองที่โง่ไม่ยอมเชื่อคำตักเตือนของคนที่หวังดีที่สุดกับกู เป็นกูเองที่โง่ยอมเชื่อคำหลอกลวงแล้วไปจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงสารเลวคนนั้น จนทำให้บริษัทที่พ่อแม่กูสร้างขึ้นมาเองกับมือต้องพังลงเพราะชายชั่วหญิงเลวคู่นั้น ถ้าเกิดว่ากูย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตเหี้ยๆพวกนี้ได้ กูจะไม่ยอมให้เรื่องต่ำช้าพวกนี้เกิดขึ้นกับชีวิตของกูและให้สภาพของมึงเป็นแบบนี้เด็ดขาด และกูจะทำให้พวกมันสองคนได้รับบทเรียนที่สาสม!'
'งั้นเจ้าก็จงกลับไปเปลี่ยนแปลงโชคชะตาชีวิตของตัวเจ้าซะสิ'
'ใคร! เสียงของใคร!'
'กลับไปเปลี่ยนชีวิตของเจ้าซะ โอกาสที่ข้าให้เจ้าครั้งนี้จงใช้มันให้คุ้มค่าเสีย'
'คุณเป็นใคร คุณอยู่ตรงไหน แล้วสิ่งที่คุณพูดหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ โอกาสอะไรของคุณ....'
ณภัทรร้องตะโกนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาได้ยินน้ำเสียงที่ดูทรงพลังและมีอำนาจเอ่ยพูดขึ้นมาเมื่อกี้ ใบหน้าหล่อเหลาหันมองรอบๆก็ไม่เจอใครที่ไหน เห็นเพียงศาลไม้ที่ทรุดโทรมและเก่าตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน แต่แล้วจินที่กำลังจ้องมองศาลไม้เก่าๆด้วยใบหน้างงงวยอยู่นั้นก็ต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบดบังใบหน้าของตัวเอง เมื่ออยู่ๆก็มีแสงสว่างจ้าสาดส่องออกมาจากศาลไม้พุ่งตรงมาทางเขาจนจินต้องปิดเปลือกตาลงแล้วสติของเขาก็ค่อยๆดับวูบไป
ร่างสูงที่กำลังหลับใหลในห้วงนิทราต้องลืมตาตื่นขึ้น เมื่อโดนแสงของดวงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องผ่ารอยแง้มของผ้าม่านมากระทบเข้าที่เปลือกตา เมื่อได้สติดีนัยน์ตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของณภัทรที่นอนเหยียดยาวซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนหนาจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าตื่นๆ"อืมมม พี่จิน...กี่โมงแล้วคะ ทำไมพี่จินสะดุ้งตัวแรงขนาดนี้ พี่จินฝันร้ายหรอ"เสียงงัวเงียของหญิงสาวที่หลับอยู่ข้างกายของจินเอ่ยถามแฟนหนุ่มของตัวเองขึ้น ก่อนที่เธอจะดันตัวลุกขึ้นมานั่งข้างๆของจินแล้วซบใบหน้าลงที่แขนแกร่งของจินผ่านชุดนอนด้านจินที่กำลังตื่นตกใจและงงงวยกับภาพความทรงจำและเหตุการณ์ต่างๆที่แล่นอยู่ในหัวตัวเองในตอนนี้ ก็ได้แต่นังนิ่งมึนงงไม่ได้เอ่ยพูดหรือเอ่ยตอบแฟนสาวตัวน้อยที่คบกันมานานกว่า7ปี ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนพึ่งจะบอกข่าวเรื่องตัวเองท้องให้จินได้ทราบ พลันในหัวของจินในตอนนี้ก็ยังคงคิดหนักถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่ตัวเองเสียชีวิตอยู่อย่างนั้นตกลงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความฝันกันแน่ ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องจริง งั้นแสดงว่าชายคนที่เราได้ย
ณ.บริษัทJ.PL.Cars จำกัด"พี่จินคะ พิมพ์เดินเข้าไปพร้อมกับพี่ไม่ได้หรอคะ ตอนนี้เราก็คบกันมา7ปีแล้วนะ อีกอย่างตอนนี้พิมพ์ก็กำลัง..."เพลงพิณที่ก้าวลงจากรถหรูเดินเข้ามากอดแขนแกร่งของจินอย่างหลวมๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างออดอ้อนพร้อมกำลังจะอ้างเรื่องลูกในท้อง แต่ทว่ายังเอ่ยไม่ทันจบประโยคน้ำเสียงทุ้มต่ำของจินก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน"พิมพ์ พี่บอกพิมพ์ตลอดว่าพี่ไม่อยากให้บริษัทของพี่มีข่าวเสียหาย แล้วก่อนคบกันพิมพ์ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าเข้าใจในตรงนี้"ณภัทรพูดขึ้นเสียงต่ำพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปที่แฟนสาวของตัวเองด้วยแววตานิ่งเกิดจะขาดเดา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาจินเขานั้นยอมตามใจแฟนสาวของตัวเองทุกอย่างแต่ทว่าถ้าเป็นเรื่องบริษัทJ.PL.Carsจินไม่เคยปล่อยปละละเลยเลยสักครั้ง เขาจะไม่ยอมให้ชื่อเสียงบริษัทที่เขาพยายามกอบกู้มากว่า5ปีต้องมามีมลทินเรื่องไม่ดีแน่ๆ และตลอดเวลาที่เขาคบกับเพลงพิณมาเขาก็จะบอกชัดเจนกับเพลงพิณตลอด ว่าให้แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจนไม่ให้เธอนั้นมาอวดเบ่งกับพนักงานคนอื่นว่าเป็นแฟนของเจ้าของบริษัทที่นี้เดิม
เจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยืนเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าด้วยแววตาอึ้งๆอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูได้ยินและตาได้เห็นว่าคนตรงหน้าจะยิ้มละมุนส่งมาให้ตัวเองแบบนั้น"นายเป็นอะไรหรือเปล่าภูมิ ทำไมยืนนิ่งแบบนั้นล่ะ"เสียงทุ้มของจินเอ่ยถามทักษกรขึ้นพร้อมกับโบกมือไปมาตรงหน้าของภูมิคล้ายจะเรียกสติและมันก็ได้ผลจริงๆ เมื่อภูมิล่ะสายตาใต้กรอบแว่นแล้วกะพริบตาถี่ๆพลันมือหนาก็ยกขึ้นมาดันแว่นตาอย่างเก้อเขิน ก่อนที่จะเอ่ยตอบณภัทรออกไป"เอ่อเปล่าครับ ไม่มีอะไรจินมาถึงนานแล้วหรอ""อ๋อ ไม่นานหรอกฉันมาถึงก่อนหน้านายไม่กี่นาทีเอง นั่งก่อนสิจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ย"จินเอ่ยตอบพลางถามภูมิกลับไปอย่างเป็นมารยาทว่าเขานั้นจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ยซึ่งภูมิก็มองมาที่จินด้วยแววตาอึ้งๆอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าน้อยๆแล้วก้มหน้าหลบสายตาของจินที่จ้องมองมาที่ตน พลันในหัวก็ยังคงนึกสงสัยคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเองในตอนนี้ไม่หาย ว่าทำไมอยู่ๆท่าทีของจินถึงได้เปลี่ยนแบบนี้เมื่อทักษกรและณภัทรนั่งลงแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วความเงียบก็กลับมาป
2วันต่อมาเวลา18:46นาที"พิมพ์ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่จินถึงให้พิมพ์ย้ายไปนอนอีกห้อง ทำไมพิมพ์ถึงนอนห้องเดียวกันกับพี่จินไม่ได้ พิมพ์เป็นเมียพี่จินนะ แล้วตอนนี้พิมพ์ก็กำลังท้องลูกของพี่จินอยู่ทำไมพิมพ์นอนห้องเดียวกับพี่จินไม่ได้!"หญิงสาวใบหน้าน่ารักในชุดนอนตัวบางโวยวายเสียงดังเมื่ออยู่ๆวันนี้ตัวเองก็โดนแฟนหนุ่มบอกให้ย้ายไปนอนอีกห้องเพลงพิณไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เลย เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดตั้งแต่วันที่จินบอกเธอว่าฝันร้ายในวันนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็เปลี่ยนไป ถ้าจะถามว่าเปลี่ยนไปยังไงน่ะหรอ ก็แต่ก่อนณภัทรนั้นแคร์เธอและตามใจเธอเป็นไหนๆแต่ตอนนี้การพูดของณภัทรดูจะไม่ค่อยแคร์เธอเลย ไหนจะสายตาที่มองมาบางครั้งแสดงออกว่าไม่อยากจะมองเธอสักเท่าไหร่และไหนจะตอนนี้ที่พยายามดูเหมือนจะตีตัวออกห่างจากเธออีก ทั้งที่เมื่อก่อนแทบจะหาเวลาว่างที่จะใกล้ชิดเธอตลอดเวลาแต่ดูตอนนี้สิทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด พี่จินเป็นอะไรไปทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
2อาทิตย์ต่อมาเวลา16:12นาทีหลังจากที่ณภัทรได้ย้อนเวลากลับมาก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจขอแฟนสาวแต่งงานเพียงไม่กี่อาทิตย์ ตอนนี้เวลาก็พัดผ่านมา2อาทิตย์กว่าๆแล้ว เดิมทีแล้ววันนี้เป็นวันที่เขาตัดสินใจลงทุนตกแต่งบ้านขอเพลงพิณแต่งงาน แต่พอเขาได้โอกาสย้อนเวลากลับมาแก้ไข้อดีตที่เคยเกิดขึ้นตอนนี้ทุกอย่างเลยเปลี่ยนไป จากที่เวลานี้เขาต้องโกหกบอกเพลงพิณว่าเขาจะออกไปคุยงานกับลูกค้าแต่แท้จริงแล้วเขาจัดเตรียมสถานที่เพื่อขอเธอแต่งงานตอนเธอกลับมาจากที่ทำงาน กลับเปลี่ยนเป็นตอนนี้เขามานั่งอยู่บนรถยนต์คันเดียวกับทักษกรชายหนุ่มตัวสูงที่มาช่วยเขาจับผิดเพลงพิณแฟนสาวของเขาที่กำลังเล่นชู้อยู่กับพิภพหัวหน้าฝ่ายบัญชีของเขาแทน"นายรู้ได้ยังไงว่าสองคนนี้แอบมาเจอกันที่นี้บ่อยๆ"จินที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับถามขึ้นเสียงเบาพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลก็ทอดมองไปยังสองร่างที่กำลังตระกองกอดกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่หน้าร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีอีกสองสายตาที่นั่งอยู่ในรถฟิล์มทึบจอดอยู่ไม่ไกลนักจ้องมองอยู่"เอ่อคือความจริงแ
ณ.ร้านชาบู"นั่งเกร็งอะไรขนาดนั้นอ่ะ ทำอย่างกับโดนเราบังคับให้มากินด้วยอย่างไงอย่างงั้น"จินเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆพร้อมกับส่ายศีรษะน้อยๆกับท่าทีของคนตัวสูงที่นั่งนิ่งตัวตรงอยู่ฝั่งตรงข้าม อย่างกับโดนเขาบังคับให้มานั่งกินด้วยซะอย่างงั้น"อ่าาาเราไม่ได้เกร็งอะไรขนาดนั้นสักหน่อย"ภูมิพูดขึ้นเสียงเบา ก่อนที่จะขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งจากนั่งเกร็งหลังตรงให้นั่งในท่าสบาย ซึ่งทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของจินที่นั่งจ้องมองเขาอยู่ โดยในมือก็ถือตะเกียบมาจองับปลายตะเกียบไว้ในปาก"หึ อ่าๆ ไม่เกร็งเลยจริงๆนั่งหลังตรงขนาดนั้น""เลิกแซวเราได้แล้ว กินเข้าไปเลย"พูดขึ้นพลางคีบสไบนางที่ต้มสุกแล้วยื่นไปวางใส่ถ้วยของจิน"ยังจำได้ด้วยว่าเราชอบกิน"เสียงทุ้มใสบ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบาด้วยใบหน้ายิ้มๆ นัยน์ตาสวยจ้องมองของกินในถ้วยตรงหน้าที่เต็มไปด้วยของที่ตัวเองชอบด้วยแววตาเศร้าๆ พลันริมฝีปากบางก็ระบายยิ้มมุมปากน้อยๆ ในหัวก็นึกคิดไปด้วยขนาดคนที่เขาคบมากว่า7เป็นยังจำแทบไม่ได้เลยว่าเขาชอบกินอะไรต่างกับคนตรงหน้าเขา ที่สนิทกับเขาเพียงแค่3-4ปีในตอ
ณ.คอนโดของทักษกร"จินนั่งเล่นรอที่โซฟาก่อนนะครับภูมิขอไปเก็บห้องแป๊บหนึ่ง จินทานน้ำอะไรครับภูมิจะไปเอามาให้ก่อน"พอสองเท้าของทักษกรก้าวเข้ามาเหยียบในพื้นห้องคอนโด เสียงทุ้มของภูมิก็ถามขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดไฟและเครื่องปรับอากาศภายในห้อง ก่อนที่จะก้าวเดินตรงไปยังโซนห้องครัวเพื่อจะเอาน้ำและของกินมาให้ณภัทรส่วนณภัทรที่เดินตามหลังของภูมิมาติดๆก็กวาดสายตาสังเกตมองรอบๆห้องอย่างสนอกสนใจ พลางสองขาก็ก้าวเดินไปนั่งลงยังโซฟาโซนหน้าทีวีเครื่องใหญ่ ก่อนที่จะเอ่ยถามชายหนุ่มตัวสูงเจ้าของห้องว่ามีน้ำมึนเมามั้ยเพราะในตอนนี้เขาต้องการเครื่องดื่มที่ทำให้เขาลืมเรื่องในวันนี้มากกว่าน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่า"มีเหล้ามั้ยหรือเบียร์ก็ได้ ตอนนี้อยากดื่มต่ออ่ะ"ใช่ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกที่เขาบอกว่าเขาอยากดื่มต่อ เพราะหลังจากที่จินไปกินชาบูกับภูมิพวกเขาสองคนก็ไปหาเล่นอะไรคลายเครียด อย่างพวกชูตบาสยิงปืนคีบตุ๊กตา (ที่ไม่ได้สักตัว) แล้วก็ต่อดูหนังแอคชั่นหนึ่งเรื่องก่อนจะจบที่ไปดื่มที่ผับส
"อยากรู้จังว่าเวลาทำกับผู้ชายด้วยกันมันรู้สึกดีมากมั้ย"ณภัทรที่ก้มหน้าอยู่บ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบาส่วนจินที่ได้ยินสิ่งที่คนเมาตรงหน้าบ่นก็พลันเบิกตากว้างอย่างตกใจพร้อมกับอุทานชื่อชายหนุ่มตรงหน้าอย่างติดขัด ก่อนที่ดวงตาคมที่เบิกกว้างอย่างตกใจอยู่แล้วจะสะตั้นตกใจมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินสิ่งที่ณภัทรเอ่ยถามขึ้น"จะ จิน""เรามาลองทำกันมั้ยภูมิ"เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามด้วยแววตาที่หยาดเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าในตอนนี้ชายหนุ่มตัวสูงตรงหน้าของตัวเองนั้นได้สะตั้นตกใจค้างไปแล้ว"!!!""ว่ายังไงภูมิ เราลองมามีอะไรกันดูมั้ย"จินถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับยื่นใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ใบหน้าของภูมิอย่างใกล้ชิน จนลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้าของทักษกรส่วนภูมิที่ยังคงตกใจไม่หายก็ต้องมาได้สติเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือร้อนของจินวางลงที่ต้นขาของตัวเอง ก่อนที่จะรีบตะครุบคว้ามือของจินไว้ไม่ให้เลื่อนไปไหนและรีบเอ่ยพูดขึ้นอย่างรีบร้อนและน้ำเสียง ตะกุกตะกัก"จะ จิน ภูมิว่าจินเมาแล้วนะ จ
เนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านณภัทรหลังจากที่ทักษกรกายภาพบำบัดจนร่างกายหายดีกลับมาเดินเหินได้เป็นปกติ ในวันนี้ก็ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีที่คนตัวสูงออกจากโรงพยาบาลมาและตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ภูมิก็ปฏิบัติต่อจินอย่างกับจินนั้นเป็นคนพิการอย่างไงอย่างงั้น ไม่ว่าจินจะเดินเหินไปไหน จะไปหยิบจับอะไรภูมิก็จะเป็นคนอาสาทำแทนทุกอย่าง ขนาดจินไปทำงานที่บริษัทคนตัวสูงนี่ก็ตามไปประคบประหงมเขาถึงที่บริษัท"คุณทักษกรครับ คุณไม่มีงานที่ต้องทำหรือยังไง ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาผมยังไม่เห็นคุณเข้าบริษัทของคุณเลยนะครับ เอาแต่มาเฝ้าผมที่บริษัทป่านนี้งานคุณไม่ท่วมโต๊ะแล้วหรือไง"ณภัทรที่อยู่ในชุดเสื้อสูทเต็มยศหมุนเก้าอี้หนังราคาแพงหันมาถามคนตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแลคนั่งปอกผลไม้อยู่ที่โซฟารับรองแขกในห้องทำงานของเขา"ภูมิยังอยู่ในช่วงวันลาป่วยอยู่ครับ อีกประมาณ5วัน วันลาป่วยข
บทส่งท้ายวันที่19/09/2***ณ เวลา19:19นาทีเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรนอนหลับใหลไร้สติมานานนับ2เดือนในวันนี้เปลือกตาสีมุกที่เคยปิดสนิทกลับค่อยๆเปิดขึ้น แต่ทว่าเมื่อนัยน์ตาคมโดนแสงสว่างภายในห้องเปลือกตาบางเป็นต้องกะพริบถี่เพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่างทักษกรที่ฟื้นลืมตาตื่นขึ้นหลังจากหลับใหลไปเป็นเดือนๆกวาดสายตามองรอบๆห้องเพื่อมองหาใครบางคน แต่ไม่ว่าทักษกรจะกวาดสายตาจนทั่วห้องแล้วเขาก็ไม่เห็นใครสักคนทักษกรที่ลืมตาตื่นและไม่เห็นใครสักคนจึงพยายามที่จะดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่าด้วยความที่ร่างกายของเขาไม่ได้ขยับมานานนับเดือน จึงทำให้แขนขาของเขาอ่อนแรง"อ่าานี้เราหลับไปนานแค่ไหนกันนะ"น้ำเสียงแหบแห้งพึมพำกับตัวเองออกมาเสียงเบาและเมื่อตัวเขาทำอะไรไม่ได้ ภูมิจึงได้แต่นอนมองเพดานห้องอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปอีกด้านณภัทรที่หายดีปกติหลังจากที่คุณหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เขาก็กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม คือตอนเช้ามา
ณภัทรณภัทรที่อยู่ในชุดลำลองของทางโรงพยาบาลนั่งก้มหน้าจิกเล็บมือลงหลังมือข้างขวาที่มีสายน้ำเกลือของตัวเองแน่นอย่างเคยตัว พลันริมฝีปากได้รูปก็กัดเม้มเข้าหากันพลางก้อนเนื้อด้านซ้ายก็เต้นระส่ำอย่างตื่นกลัวในใจก็พร่ำร้องขอภาวนา ว่าให้คนตัวสูงภายในห้องที่ตอนนี้คุณหมอกำลังปั๊มหัวใจช่วยอยู่นั้นกลับมาทีเถอะอย่าจากเขาไปไหนเลย"หนูจิน...แม่ว่าเรากลับไปรอที่ห้องพักเถอะทางนี้ อึก ให้พ่อกับแม่จัดการเองนะลูก"คุณหญิงวราศิริเดินมาทรุดตัวนั่งลงเก้าอี้ด้านข้างจินพร้อมกับเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นเล็กน้อยตามอายุมาแตะลงที่มือของจิน ก่อนจะเอ่ยพูดกับจินด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและติดขัด พลันนัยน์ตาแดงก่ำทั้งสองก็ไม่กล้าที่จะเงยขึ้นมาสบตากับจินโดยตรงเธอทำได้เพียงแค่เบี่ยงสายตาหลบไปอีกทางเพื่อไม่ให้จินเห็นว่าตอนนี้เธอนั้นกำลังอ่อนแอและเศร้าเสียใจมากแค่ไหน เธอไม่อยากให้จินเศร้าเสียใจไปมากกว่านี้เพราะการที่เครียดมากๆมันไม่ส่งผลดีต่อลูกในท้องและอาจเกิดสภาวะตกเลือดได้"คุณแม่...ให้ผมอยู่ต่อเถอะนะครับ ถ ถ้าเกิดภูมิเข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ อึก ผะ ผมจะได้อ
'เกิดไอ้เด็กตัวน้อยนั้นเป็นอะไรไปเอ็งจะรับผิดชอบไหวหรือไง'หญิงชราที่อยู่ในชุดเสื้อม่อฮ่อมนุ่งผ้าถุงหันมาเอ่ยพูดกับชายชราที่ยืนถือไม้ตะพดอยู่ข้างกายจิน ด้านจินที่ไม่รู้ว่าชายชรากลับมายืนอยู่ข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ล่ะสายตาจากภูมิแล้วหันมามองด้านข้างด้วยความตกใจทันที แต่ทว่าพอหันกลับไปมองที่เดิมก็ไม่เห็นภูมิแล้ว"ไม่ต้องมองหาหรอก ภาพเหตุการณ์ที่เอ็งเห็นเมื่อกี้มันเป็นเพียงภาพที่เคยเกิดขึ้นที่นี้เมื่อ2-3เดือนก่อน ในตอนนี้ร่างของไอ้หนุ่มตัวสูงนั้นก็นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนเดิมนั่นแหละ"ชายชราเอ่ยพูดขึ้นพลางจ้องมองสบนัยน์ตาของจินนิ่งๆด้านจินที่ยืนฟังก็ได้แต่ยืนเม้มปากกำมือแน่น เพราะเขาไม่รู้จะต้องทำยังไงให้ภูมิได้กลับมามันไม่ควรเป็นแบบนี้ ภูมิไม่ควรที่จะต้องมาตายแทนเขาแบบนี้ ในตอนนี้ต้องเป็นตัวเขาไม่ใช่หรอที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงใช่!มันต้องเป็นตัวเขา"เจ้าคิดจะเอาตัวเองมาแลกเหมือนกับไอ้หนุ่มแว่นนั้
"ก็ไอ้หนุ่มนั้นมันเอาชีวิตของตัวเองมาแลกกับการให้เอ็งย้อนเวลากลับมาแก้ไขโชคชะตายังไงล่ะ"จบประโยคของชายชราที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าอาภรณ์เก่าๆ ร่างจิตวิญญาณของจินก็ถูกดึงกระชากออกจากห้องสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบเต็มไปด้วยควันสีขาวแล้วมาโผล่ที่ข้างถนนเส้นหนึ่งที่เป็นทางรุกลังแต่ทว่าจินกับดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก"ที่นี้ที่ไหนทำไมถนนเส้นนี้ดูคุ้นตาจัง"ณภัทรสบถกับตัวเองเสียเบาพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลก็กวาดมองรอบๆเพื่อสังเกตสิ่งรอบข้าง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ศาลไม้หลังหนึ่งที่ข้างในมีรูปปั้นตายายอยู่ แถมข้างหน้าศาลยังมีของไหว้เต็มไปหมดทั้งดอกไม้ธูปเทียนของกิน จนแทบจะไม่มีที่ให้ว่างณภัทรยืนมองได้ไม่นานก็ต้องล่ะสายตาออกจากศาลไม้แล้วหันไปมองยังเส้นถนน เมื่อได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวเซ็งแซ่พูดคุยของชาวบ้านทว่าเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลของจินหันไปมองยังต้นตอของเสียงคิ้วคมของจินเป็นต้องขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม เพราะเหล่าผู้คนที่กำลังเดินมานั้นต่างพากันแต่งกายคล้ายคนสมัยเก่าๆเมื่อ50-60ปีก่อน พลางภายในมือของเหล่าคนที่ทยอยเดินมาต่างก็พากันถือน้ำกับของกินและดอกไม้ธูปเทียนเพื่อเต
2เดือนต่อมาณ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเวลา17:12นาทีแกร๊ก"อ่าวหนูจินเลิกงานแล้วลูกหรอกินอะไรมาหรือยังจ๊ะ"คุณหญิงวราศิริที่กำลังนั่งปอกผลไม้ด้วยสีหน้าและแววตาเศร้าสร้อยอยู่ เมื่อได้ยินเสียงว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาก็หันไปมองยังประตูห้องก็พบว่าเป็นชายหนุ่มตัวสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมานี้ชายหนุ่มคนที่ลูกชายของเธอแอบรักและมักเล่าถึงให้เธอฟังอยู่บ่อยๆ มักจะมาเฝ้าลูกชายของเธอที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ตลอด"คุณน้าคุณอาสวัสดีครับ"ณภัทรที่เปิดประตูเข้ามาก็หันมาสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอน แต่ทว่าพอจินเงยหน้ามาสังเกตมองคุณหญิงวราศิริและคุณณัฐพงษ์ผู้เป็นสามีของเธอ คิ้วคมของจินเป็นต้องขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างสงสัยเพราะสีหน้าของคนทั้งสองนั้นดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด จนจินที่สังเกตเห็นเป็นต้องใจกระตุกวูบ"คุณน้าอะไรล่ะจ้ะ บอกให้เรียกคุณแม่ไง"คุณหญิงวราศิริเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ
โครม!เกิดอะไรขึ้น!ณภัทรที่ได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงเอะอะโวยวายพร้อมกับเสียงดังสนั่นเหมือนกับเสียงรถผสานงากันอยู่ไม่ไกลจากหน้าบริษัทของเขาก็พลันยืนเบิกตาค้างตกใจ เมื่ออยู่ๆในหัวของเขาก็มีภาพเหตุการณ์ในวันที่เขาโดนรถชนจนเสียชีวิตผลุดขึ้นมามิหนำซ้ำประโยคคำพูดต่างๆมากมายในวันนั้นก่อนที่เขาจะโดนรถชนก็เด้งสลับกับคำพูดในวันนี้ของเขากับสองคนนั้นก็เข้ามาด้วยเช่นกัน"เป็นไปไม่ได้....บ้าไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ บ้าไปแล้ว....คำพูดของเรากับสองคนนั้นแทบจะตรงกับวันนั้นทุกประโยคเลย"ณภัทรยืนก้มหน้าบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างคนเหม่อลอยในความคิดอยู่คนเดียว พลางมือข้างที่ถือนาฬิกาล็อกเกตที่หน้าปัดแตกละเอียดก็กำแน่นจนเศษกระจกบางส่วนบาดมือทำให้ของเหลวสีแดงไหลลงย้อมเรือนนาฬิกาสีทองแต่ทว่าณภัทรที่สติหลุดลอยอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่สักพัก ก็ต้องหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองเมื่ออยู่ๆนาฬิกาที่เขากำไว้ในมือแน่นก็มีแสงสีทองสว่างจ้าขึ้นเล็กน้อย
"หึ หรอ ฉันนึกว่าที่เล่าให้กันฟังเพราะว่าภูมิรู้เรื่องที่เธอหักหลังฉันไปเล่นชู้กับมันซะอีก""!!!"เพลงพิณที่ได้ยินประโยคคำพูดของจินก็พลันสะตั้นเบิกตาโพลงขึ้นอย่างตกใจอึ้งส่วนพิภพที่ได้ยินก็ตกใจไม่ต่างกับเพลงพิณ แต่ทว่าเจ้าตัวก็เรียกสติกลับมาได้ก่อนหญิงสาว ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้ายิ้มแหยๆ"ฮะๆ พี่จินก็พูดหยอกเล่นแรงจริงๆนะครับ เอาซะผมตกใจไปด้วยเลย"พิภพเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ทว่าเมื่อได้ยินประโยคคำพูดต่อมาของจินก็พลันหุบรอยยิ้มลงทันที"ตั้งแต่รู้จักกันมา นายคิดว่าฉันเป็นคนชอบพูดเล่นอย่างงั้นหรอ"ยืนกอดอกเอียงใบหน้าเอ่ยถามชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตรงหน้าด้วยแววตานิ่งๆส่วนเพลงพิณที่รู้ว่าแฟนหนุ่มของตัวเองจับได้แล้วว่าตัวเธอเล่นชู้กับคนในบริษัท ก็พลันหันหน้ามองชายชู้ตรงหน้าสลับกับแฟนหนุ่มที่ยืนข้างกายกันไปมาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนที่จะรีบเอ่ยแก้ตัวด้วยน้ำเสียงร้อนรน"มะ ไม่ ไม่ใช่นะคะพี่จิน พี่จินอย่าเชื่อมันนะคะมันใส่ร้ายพิมพ์กับคุณพิภพพี่จินอย่าเชื่อคนอย่างมันนะคะ!"เพลงพิณรีบแก้ตัวอย่างร้อนรนพลางสองมือบางก็
2วันต่อมาวันที่ 7/07/2***"จินจะจัดการสองคนนั้นวันนี้จริงๆหรอครับ"ภูมิที่นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องทำงานของจินเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าเป็นกังวลเพราะทักษกรพึ่งรู้จากปากของจินผ่านทางโทรศัพท์มือถือเมื่อตอนเช้านี้เอง ว่าจินจะจัดการสะสางเพลงพิณกับพิภพชู้ของเธอในวันนี้ ทักษกรจึงรีบตรงมาหาจินที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้วก็มานั่งทำหน้าหงอยในห้องทำงานของจินอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ"อืมใช่แล้วล่ะ แล้วทำไมถึงได้ทำหน้าเครียดขนาดนั้น คิดมากเรื่องอะไรอยู่หรอบอกจินหน่อย"ณภัทรเอ่ยตอบพลางถามภูมิกลับไปก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานแล้วเดินมานั่งลงยังที่ข้างๆ ก่อนที่จะเอื้อมไปจับมือของภูมิแล้วบีบเบาๆพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลก็จ้องมองนัยน์ตาคมด้วยแววตาเป็นห่วงจะไม่ให้จินมองอย่างเป็นห่วงได้ยังไง ก็ภูมิในตอนนี้แสดงสีหน้าและแววตาเหมือนกลัวและหวาดระแวงอะไรสักอย่าง จนตัวของเขาในตอนนี้สั่นอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้หรืออาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่เขาโดนรถชนจนเสียชีวิตต