เจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยืนเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าด้วยแววตาอึ้งๆอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูได้ยินและตาได้เห็นว่าคนตรงหน้าจะยิ้มละมุนส่งมาให้ตัวเองแบบนั้น
"นายเป็นอะไรหรือเปล่าภูมิ ทำไมยืนนิ่งแบบนั้นล่ะ"เสียงทุ้มของจินเอ่ยถามทักษกรขึ้นพร้อมกับโบกมือไปมาตรงหน้าของภูมิคล้ายจะเรียกสติและมันก็ได้ผลจริงๆ เมื่อภูมิล่ะสายตาใต้กรอบแว่นแล้วกะพริบตาถี่ๆพลันมือหนาก็ยกขึ้นมาดันแว่นตาอย่างเก้อเขิน ก่อนที่จะเอ่ยตอบณภัทรออกไป
"เอ่อเปล่าครับ ไม่มีอะไรจินมาถึงนานแล้วหรอ"
"อ๋อ ไม่นานหรอกฉันมาถึงก่อนหน้านายไม่กี่นาทีเอง นั่งก่อนสิจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ย"จินเอ่ยตอบพลางถามภูมิกลับไปอย่างเป็นมารยาทว่าเขานั้นจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ย
ซึ่งภูมิก็มองมาที่จินด้วยแววตาอึ้งๆอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าน้อยๆแล้วก้มหน้าหลบสายตาของจินที่จ้องมองมาที่ตน พลันในหัวก็ยังคงนึกสงสัยคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเองในตอนนี้ไม่หาย ว่าทำไมอยู่ๆท่าทีของจินถึงได้เปลี่ยนแบบนี้
เมื่อทักษกรและณภัทรนั่งลงแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วความเงียบก็กลับมาปกคลุมคนทั้งสองอีกครั้ง จนเป็นจินที่เป็นฝ่ายเอ่ยชวนพูดขึ้นก่อนเกี่ยวกับการเจรจาในครั้งนี้ว่าเขาเห็นด้วยที่จะเซ็นทำสัญญาร่วมกันมั้ย
"แล้วเรื่องที่จะมาเจรจาวันนี้เกี่ยวกับคู่ค่ารายใหญ่ที่เขาบอกให้บริษัทเราสองคนเซ็นสัญญาร่วมกันในครั้งนี้เพราะกลัวเรื่องผิดพลาดฉันเห็นด้วยนะ ทางนายล่ะว่าไง"จินพูดขึ้นพลางหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อย ก่อนที่จะวางลงเหมือนเดิมอย่างเป็นธรรมชาติโดยทุกอริยาบทของจินนั้นอยู่ในสายตาของทักษกรอยู่ตลอด
"!!!"
ด้านทักษกรที่ได้ยินประโยคคำพูดของจินก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแทบจะเป็นปมพลางนัยน์ตาใต้กรอบแว่นก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ เพราะไม่นึกว่าการคุยเจรจาครั้งนี้อีกฝั่งจะยอมเซ็นสัญญาทำงานร่วมกันง่ายดายขนาดนี้
"ว่ายังไงภูมิ นายจะเซ็นทำสัญญาร่วมกับฉันมั้ย?"
ณภัทรที่เห็นภูมิเงียบไปก็ถามขึ้นอีกครั้ง เพราะจินจำได้ว่าครั้งก่อนที่จินยังไม่ย้อนเวลามาเขานั้นไม่ได้ทำงานร่วมกันและปาเล่มสัญญาใส่หน้าของภูมิ งานในครั้งนั้นเกิดการผิดพลาดทำให้บริษัทของเขาและคุณพ่อของภูมิเสียหายครั้งใหญ่เลยล่ะ ตอนนั้นจินโมโหในความสะเพร่าและความอคติของตัวเองอย่างมากจนทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงแบบนั้น
และในเมื่อเขาได้ย้อนกลับมาแก้ไข้อดีตแบบนี้ จินจะไม่ยอมให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นอีกแน่ๆ
"เอ่อ...ซะ เซ็นครับเซ็น"ภูมิที่กำลังงงๆอยู่ เมื่อโดนอีกคนไถ่ถามขึ้นอีกครั้งก็รีบพยักหน้าตอบอย่างเลิ่กลั่ก ก่อนที่จะรีบคว้าแฟ้มเอกสารที่ตัวเองถือมาด้วยอย่างร้อนรนจนทำให้แฟ้มหลุดมือร่วงลงพื้น
"หึ หึ รีบร้อนอะไรขนาดนั้น กลัวฉันไม่เซ็นด้วยหรือไง ฉันไม่เปลี่ยนใจหรอกน๊าาา"ณภัทรหัวเราะในลำคอน้อยๆพลางก้มลงไปเพื่อจะเก็บแฟ้มเอกสารที่ภูมิทำร่วง แต่ทว่าดันประจวบเหมาะที่ทักษกรเองก็ก้มตัวลงจะไปเก็บขึ้นมาเหมือนกันเลยทำให้มือของทักษกรแตะโดนมือของณภัทรเบาๆ ก่อนที่จะเงยหน้ามาสบนัยน์ตาของจินและพบว่าใบหน้าของตัวเองอยู่ไม่ห่างจากใบหน้าของจินเท่าไหร่นัก
ด้านทักษกรที่เผลอเอื้อมมือไปแตะโดนมือของณภัทรโดยบังเอิญแถมใบหน้ายังอยู่ใกล้กับใบหน้าของจินอีก ด้วยความที่ตกใจก็รีบชักมือออกพร้อมกับดันตัวลุกถอยห่างจากจินอย่างร้อนรน จนทำให้หัวของเขานั้นชนเขากับขอบโต๊ะอย่างจังจนเกิดเสียงดัง
ปึก!
"เห้ยยย เจ็บมั้ย"นัยน์ตาสีน้ำตาลของจินเบิกขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าหัวของภูมิชนเข้ากับขอบโต๊ะอย่างแรง ร่างสูงโปร่งที่เก็บเอกสารมาถือไว้ในมือแล้วก็รีบปรี่เข้าประชิดตัวของภูมิเพื่อที่จะดูอาการของคนตัวสูงตรงหน้า
แต่ทว่าเมื่อจินก้าวเข้าหาภูมิก็ก้าวถอยห่างออกจากจินด้วยใบหน้าตื่นๆ จนจินต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดภูมิต้องถอยห่างจากเขาอย่างกับรังเกียจเขาแบบนี้
แต่พอมาลองนึกคิดดีๆจินต้องเผลอระบายยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อพึ่งนึกได้ว่าคนตัวสูงที่ลูบหัวตัวเองปรอยๆตรงหน้าเขาในตอนนี้นั้นแอบชอบเขาอยู่
เขินแรงนะเนี่ย
"มะ ไม่เป็นไร ภูมิไม่เป็นไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย จินลองอ่านสัญญาดูนะถ้าจะแก้ตรงไหนจินบอกเราได้เลยนะเดี๋ยวเราจะแก้ให้"เสียงทุ้มรีบเอ่ยพูดขึ้นอย่างรีบร้อนจนแทบจะจับใจความไม่ได้ ภายในใจของภูมิก็พร่ำด่าตัวเองที่ทำขายหน้าต่อหน้าของคนที่ตัวเองแอบชอบแบบนี้
บ้าเอ๊ยยยมึงทำอะไรของมึงเนี่ย แค่จินเดินเข้ามาใกล้มึงก็ตื่นเต้นทำตัวบ้าบอแบบนี้แล้วหรอห๊ะไอ้ภูมิ ทำไมเมื่อก่อนตอนเรียนด้วยกันมึงยังเก็บอาการได้ แต่ทำไมตอนนี้มึงเก็บอาการไม่ได้วะ หรือเป็นเพราะจินน่ารักและดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมอย่างนั้นหรอ
"อ๋อ โอเค งั้นเราไปนั่งเก้าอี้กันเถอะ อย่ายืนอยู่อย่างเลยคนในร้านเริ่มมองมาแล้ว"จินเอ่ยขึ้นพลางยิ้มน้อยๆส่งให้ภูมิ ก่อนที่จะหันกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิมพร้อมกับก้มอ่านเอกสารสัญญา โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่ายิ้มของตัวเองได้ทำให้ชายหนุ่มตัวสูงนั้นเขินจนใบหน้าแดงระเรื่อลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง
ส่วนภูมิที่เขินและหัวใจเต้นแรงกับรอยยิ้มน้อยๆของจินเมื่อกี้ก็ได้แต่ยืนเม้มปากแน่นอยู่สักพัก ก่อนที่จะก้าวเดินมานั่งลงที่เก้าอีกฝั่งของตัวเอง แล้วยกน้ำขึ้นดื่มแก้เขินมากกว่าครึ่งแก้วแล้วนั่งลอบมองจินอยู่นิ่งๆ โดยที่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรขึ้นมาอีก
จนในที่สุดอาหารที่พวกเขาสั่งไปก่อนหน้านี้ก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟจนครบพวกเขาทั้งสองก็เริ่มลงมือทานกันอย่างเงียบๆ
ณภัทรที่นั่งทานอาหารอย่างไร้บทสนทนามาสักพักก็ได้หยุดมือและเงยหน้าขึ้นจ้องมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มน้อยๆออกมาอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารในจานด้วยใบหูแดงๆ โดยที่ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองตัวเขาตรงๆเพราะมีบางครั้งที่ภูมิจะแอบเงยหน้าขึ้นมามองเขาแต่เมื่อเจอสายตาของเขาที่จ้องมองอยู่ ภูมิก็รีบก้มหน้าหลบสายตาเขาทันที
หึหึ ทำไมเขาพึ่งจะสังเกตเห็นความน่ารักของคนคนนี้กันนะ สมัยตอนที่เรียนด้วยกันทำไมเขาไม่เคยสังเกตเห็นมันเลย
"สัญญานี้ไม่มีปัญหาอะไร ฉันเซ็นเรียบร้อยแล้ว แล้วฝั่งของบริษัทฉันนายจะแก้สัญญาข้อไหนมั้ย"ณภัทรที่นั่งจ้องมองภูมิอยู่นานก็ตัดสินใจเปิดหัวข้อบทสนทนาขึ้น ซึ่งภูมิที่ได้ยินคำถามของจินก็รวบช้อนในมือแล้วเงยหน้ามาสบนัยน์ตาสีน้ำตาลของจินเล็กน้อย ก่อนที่จะล่ะสายตาพลางมือหน้าก็เคลื่อนมาดันแว่นสายตาของตัวเองอย่างเป็นนิสัยแล้วจึงเอ่ยตอบกลับไป
"ไม่ครับ ที่บริษัทจินเสนอมามันโอเคทุกอย่างเลย นี้ครับภูมิเซ็นตกลงแล้วภูมิดีใจนะที่ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทจินในครั้งนี้"ภูมิเอ่ยพูดอย่างยิ้มๆพร้อมกับยื่นแฟ้มเอกสารสัญญาข้อตกลงให้กับจิน
ณภัทรมองแฟ้มเอกสารในมือของภูมิที่มีภาพที่ตัวเขาเขวี้ยงแฟ้มเอกสารอันนี้ใส่หน้าของภูมิซ้อนทับเข้ามาในหัวของเขานิ่งๆ ฝ่ามือหนาที่วางอยู่หน้าตักกำเจ้าหากันแน่นพลางกลีบปากนุ่มของจินก็เม้มเขาหากัน ก่อนที่มือที่กำแน่นจะคลายออกแล้วยื่นไปรับแฟ้มสีน้ำเงินอันนั้นมาไว้ในมือแล้วระบายรอยยิ้มบางๆออกมา พร้อมกับส่งแฟ้มอีกอันคืนให้คนตัวสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและเอ่ยพูดขึ้น
"อืมเราก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทWP.Carsเหมือนกัน แล้วก็เมื่อครั้งก่อนขอโทษนะที่เราพูดจาไม่ดีใส่"
ณภัทรเอ่ยขึ้นพลางแสดงสีหน้าสำนึกผิด เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อนที่ตัวเขาและภูมิได้กลับมาเจอกันและพูดกันครั้งแรกในรอบหลายปีหลังจากที่เรียนจบไป เขาก็ดันพูดจาไม่ดีใส่ภูมิเลย ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้นั่นแหละว่าเป็นเพราะความอคติของตัวเขาที่คิดว่าชายหนุ่มตัวสูงคนนี้จะมาใส่ร้ายแฟนสาวของเขาเพื่อทำให้เขาทะเลาะกัน จนไม่โฟกัสเรื่องบริษัท
เพราะความอคติล้วนๆเลย เขาถึงได้พูดจาโมโหร้ายใส่คนคนนี้
"เห้ย จินไม่ต้องขอโทษเราเลย เป็นเราต่างหากที่ต้องขอโทษจิน ก็อยู่ๆเราก็เดินเข้าไปพูดว่าแฟนของจินคิดนอกใจจิน ทั้งที่เราไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่าง เป็นเรา เราก็คงโกรธเหมือนกันนั่นแหละ"
ทักษกรรีบปฏิเสธพัลวันพร้อมกับโบกไม้โบกมือไปมาว่าไม่เป็นไรจริงๆเป็นฝ่ายเขาเองที่ผิด ที่เข้าไปพูดแบบนั้นกับคนตรงหน้าก่อน
"พอพูดถึงเรื่องนี้ เราก็ว่าจะขอให้ภูมิช่วยอะไรบางอย่างพอดีเลย"จินที่นั่งเม้มปากแน่นอยู่สักพักก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองสบกับด้วยตาคมใต้กรอบแว่นของภูมิที่มองมาที่ตัวเขาอยู่ก่อนแล้วด้วยแววตาประหม่า ก่อนที่จินจะตัดสินใจเอ่ยขออะไรบางอย่างออกมา
"อะ อะไรหรอ"
"ที่ภูมิบอกเราว่าแฟนของเรานอกใจ ภูมิช่วยเราจับผิดเพลงพิณกับชู้ของเธอหน่อยได้มั้ย เอาแบบที่จับได้แบบคาหนังคาเขาเลย เพราะเราเริ่มมั่นใจแล้วว่าเธอนอกใจเราอย่างที่ภูมิว่าจริงๆ ภูมิช่วยเราหน่อยได้มั้ย เราขอร้อง"
"ได้สิ เราจะช่วยจินเอง"
บทนำ"อื้มมม.."ร่างรูปร่างสูงรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงนิทราเมื่อได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้องดังขึ้น พลางเรียวคิ้วได้ทรงก็ขมวดเข้าหากันมุ่น นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เริ่มปรับเข้ากับแสงสลัวภายในห้องก็ไล่มองรอบๆห้องเพื่อมองหาร่างบางที่นอนข้างกัน แต่ทว่าก็ไม่พบเห็นแฟนสาวที่จะเข้าวิวาห์กันในวันพรุ่งนี้ที่เคยนอนอยู่ด้านข้าง"ไปไหนของเขานะ"เสียงทุ้มบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนที่ณภัทรในวัย32จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มหลังใหญ่แล้วเดินหาแฟนสาวตัวเล็กที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่ แต่แล้วคิ้วคมต้องขมวดมุ่นเข้าหากันมากกว่าเดิมเมื่อจินที่เดินลงมาชั้นล่างเห็นคนรักที่เขาคบหามากว่า7ปีทำท่าทีลับๆล้อๆเดินไปทางโรงจอดรถจินที่ยืนสงสัยอยู่นานว่าทำไมเพลงพิณหรือพิมพ์แฟนสาวที่เขากำลังจะเข้าพิธีวิวาร์กันในวันพรุ่งนี้ ถึงได้ทำตัวลับๆล้อๆแบบนี้แล้วอีกอย่างนี้มันก็ดึกมากแล้วพิมพ์แฟนสาวของเขากำลังจะออกไปไหนกันแล้วทำไมต้องแอบออกไปในตอนที่เขานอนหลับไม่รู้สึกตัวด้วย นึกได้ดังนั้นจินจึงได้แอบขับรถตามพิมพ์ออกไปอย่างห่างๆจนในที่สุดรถของแฟนสาวตัวเล็กของเขาก็เลี้ยวเขาไปจอดในรั้วบ้านสองชั้นที่เขาค่อนข้างจะคุ้นตาเป็นอย่างดีและเมื่อเห
ร่างโปร่งแสงยืนมองร่างกายของตัวเองที่นอนแน่นิ่งไร้วิญญาณ ตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือดอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่มีความสูงไม่ต่างจากกันสักเท่าไหร่นักและชายคนนี้เขาก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีและรู้ว่าคนคนนี้ที่กอดร่างไร้วิญญาณของเขาอยู่นั้นเป็นใคร ชายคนหนุ่มที่ร่ำไห้กอดร่างไร้ลมหายใจของจินอยู่ในตอนนี้คือ ทักษกร วีระกิตธาดา หรือก็คือ ภูมิชายหนุ่มตัวสูงคนที่เคยเรียนมหาลัยเดียวกันและคณะเดียวกันกับเขาหรือจะพูดง่ายๆเลยก็เคยเป็นเพื่อนร่วมคณะกันนั่นแหละ มีช่วงหนึ่งที่จินสนิทกับภูมิพอสมควรสนิทพอที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แต่สุดท้ายจินที่อยู่ในช่วงวัย22ก็ต้องตีตัวออกห่างจากภูมิด้วยความไม่ตั้งใจเพราะในวันที่จินเรียนจบเป็นวันเดียวกับวันที่พ่อแม่ของจินรถพลิกคว่ำเสียชีวิตทั้งสองในช่วงที่จิน ณภัทรอายุ22ปีถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่หนักหน่วงพอสมควรเลย ด้วยความที่จินพึ่งเรียนจบและยังไม่มีญาติมิตรสหายที่ไหนแถมยังมาเสียเสาร์หลักของบ้านพร้อมๆกันอีก แล้วไหนจะต้องขึ้นมาบริหารบริษัทนำเข้ารถยนต์ของคุณพ่อที่ทิ้งไว้ให้เขา จินที่เป็นเพียงเด็กจบใหม่ในตอนนั้นต้องก้าวข้ามคำดูถูกเหยียดหยามและกู้ชื่อเสียงบริษัทให้คู่ค้ากลั
ณ.ตระกูลภูริสิทธิโชค"ภพคะ เราไม่ไปงานศพของไอ้พี่จินจะดีหรือคะ"เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามชายชู้ที่ตัวเองนั่งซบอกดูทีวีอยู่บนเตียงนอนของจินด้วยสภาพเปลือยเปล่า พลางใบหน้างามก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของพิภพด้วยแววตาออดอ้อนไร้การเศร้าโศกที่ตัวเองพึ่งจะเสียว่าที่สามีในทะเบียนสมรสไปหยกๆ"จิ๊! พิมพ์จะไปพูดถึงมันให้เสียอารมณ์ทำไม ภพอุสาห์ไม่นึกถึงภาพเมื่อวานนี้แล้ว"พิภพพูดขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับดันร่างนุ่มนิ่มของพิมพ์ที่พึ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากันเสร็จไปเมื่อกี้ออกจากการซบอกของตัวเอง ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้พิมพ์นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงตามลำพังและเหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของร่างโปร่งแสงเจ้าของห้องและบ้านหลังนี้ที่ยืนดูอยู่นานหลายนาทีแล้ว'หึ! ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันแต่งงานที่ทุกคนต่างสวมชุดสีมงคลมีความสุขกัน แต่ทุกคนกลับต้องเปลี่ยนมาสวมชุดสีดำและมางานศพของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้าโศกเศร้าแทน ฮ่าๆๆๆ แล้วดูเจ้าสาวของกูสิกลับมานอนกกชายชู้ของมันในห้องของกูอย่างหน้าตาเฉย ตลกเป็นบ้าเลยวะ!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ'ร่างโปร่งแสงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่นอนเ
ร่างสูงที่กำลังหลับใหลในห้วงนิทราต้องลืมตาตื่นขึ้น เมื่อโดนแสงของดวงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องผ่ารอยแง้มของผ้าม่านมากระทบเข้าที่เปลือกตา เมื่อได้สติดีนัยน์ตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของณภัทรที่นอนเหยียดยาวซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนหนาจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าตื่นๆ"อืมมม พี่จิน...กี่โมงแล้วคะ ทำไมพี่จินสะดุ้งตัวแรงขนาดนี้ พี่จินฝันร้ายหรอ"เสียงงัวเงียของหญิงสาวที่หลับอยู่ข้างกายของจินเอ่ยถามแฟนหนุ่มของตัวเองขึ้น ก่อนที่เธอจะดันตัวลุกขึ้นมานั่งข้างๆของจินแล้วซบใบหน้าลงที่แขนแกร่งของจินผ่านชุดนอนด้านจินที่กำลังตื่นตกใจและงงงวยกับภาพความทรงจำและเหตุการณ์ต่างๆที่แล่นอยู่ในหัวตัวเองในตอนนี้ ก็ได้แต่นังนิ่งมึนงงไม่ได้เอ่ยพูดหรือเอ่ยตอบแฟนสาวตัวน้อยที่คบกันมานานกว่า7ปี ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนพึ่งจะบอกข่าวเรื่องตัวเองท้องให้จินได้ทราบ พลันในหัวของจินในตอนนี้ก็ยังคงคิดหนักถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่ตัวเองเสียชีวิตอยู่อย่างนั้นตกลงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความฝันกันแน่ ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องจริง งั้นแสดงว่าชายคนที่เราได้ย
ณ.บริษัทJ.PL.Cars จำกัด"พี่จินคะ พิมพ์เดินเข้าไปพร้อมกับพี่ไม่ได้หรอคะ ตอนนี้เราก็คบกันมา7ปีแล้วนะ อีกอย่างตอนนี้พิมพ์ก็กำลัง..."เพลงพิณที่ก้าวลงจากรถหรูเดินเข้ามากอดแขนแกร่งของจินอย่างหลวมๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างออดอ้อนพร้อมกำลังจะอ้างเรื่องลูกในท้อง แต่ทว่ายังเอ่ยไม่ทันจบประโยคน้ำเสียงทุ้มต่ำของจินก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน"พิมพ์ พี่บอกพิมพ์ตลอดว่าพี่ไม่อยากให้บริษัทของพี่มีข่าวเสียหาย แล้วก่อนคบกันพิมพ์ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าเข้าใจในตรงนี้"ณภัทรพูดขึ้นเสียงต่ำพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปที่แฟนสาวของตัวเองด้วยแววตานิ่งเกิดจะขาดเดา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาจินเขานั้นยอมตามใจแฟนสาวของตัวเองทุกอย่างแต่ทว่าถ้าเป็นเรื่องบริษัทJ.PL.Carsจินไม่เคยปล่อยปละละเลยเลยสักครั้ง เขาจะไม่ยอมให้ชื่อเสียงบริษัทที่เขาพยายามกอบกู้มากว่า5ปีต้องมามีมลทินเรื่องไม่ดีแน่ๆ และตลอดเวลาที่เขาคบกับเพลงพิณมาเขาก็จะบอกชัดเจนกับเพลงพิณตลอด ว่าให้แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจนไม่ให้เธอนั้นมาอวดเบ่งกับพนักงานคนอื่นว่าเป็นแฟนของเจ้าของบริษัทที่นี้เดิม
เจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยืนเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าด้วยแววตาอึ้งๆอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูได้ยินและตาได้เห็นว่าคนตรงหน้าจะยิ้มละมุนส่งมาให้ตัวเองแบบนั้น"นายเป็นอะไรหรือเปล่าภูมิ ทำไมยืนนิ่งแบบนั้นล่ะ"เสียงทุ้มของจินเอ่ยถามทักษกรขึ้นพร้อมกับโบกมือไปมาตรงหน้าของภูมิคล้ายจะเรียกสติและมันก็ได้ผลจริงๆ เมื่อภูมิล่ะสายตาใต้กรอบแว่นแล้วกะพริบตาถี่ๆพลันมือหนาก็ยกขึ้นมาดันแว่นตาอย่างเก้อเขิน ก่อนที่จะเอ่ยตอบณภัทรออกไป"เอ่อเปล่าครับ ไม่มีอะไรจินมาถึงนานแล้วหรอ""อ๋อ ไม่นานหรอกฉันมาถึงก่อนหน้านายไม่กี่นาทีเอง นั่งก่อนสิจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ย"จินเอ่ยตอบพลางถามภูมิกลับไปอย่างเป็นมารยาทว่าเขานั้นจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ยซึ่งภูมิก็มองมาที่จินด้วยแววตาอึ้งๆอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าน้อยๆแล้วก้มหน้าหลบสายตาของจินที่จ้องมองมาที่ตน พลันในหัวก็ยังคงนึกสงสัยคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเองในตอนนี้ไม่หาย ว่าทำไมอยู่ๆท่าทีของจินถึงได้เปลี่ยนแบบนี้เมื่อทักษกรและณภัทรนั่งลงแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วความเงียบก็กลับมาป
ณ.บริษัทJ.PL.Cars จำกัด"พี่จินคะ พิมพ์เดินเข้าไปพร้อมกับพี่ไม่ได้หรอคะ ตอนนี้เราก็คบกันมา7ปีแล้วนะ อีกอย่างตอนนี้พิมพ์ก็กำลัง..."เพลงพิณที่ก้าวลงจากรถหรูเดินเข้ามากอดแขนแกร่งของจินอย่างหลวมๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างออดอ้อนพร้อมกำลังจะอ้างเรื่องลูกในท้อง แต่ทว่ายังเอ่ยไม่ทันจบประโยคน้ำเสียงทุ้มต่ำของจินก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน"พิมพ์ พี่บอกพิมพ์ตลอดว่าพี่ไม่อยากให้บริษัทของพี่มีข่าวเสียหาย แล้วก่อนคบกันพิมพ์ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าเข้าใจในตรงนี้"ณภัทรพูดขึ้นเสียงต่ำพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปที่แฟนสาวของตัวเองด้วยแววตานิ่งเกิดจะขาดเดา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาจินเขานั้นยอมตามใจแฟนสาวของตัวเองทุกอย่างแต่ทว่าถ้าเป็นเรื่องบริษัทJ.PL.Carsจินไม่เคยปล่อยปละละเลยเลยสักครั้ง เขาจะไม่ยอมให้ชื่อเสียงบริษัทที่เขาพยายามกอบกู้มากว่า5ปีต้องมามีมลทินเรื่องไม่ดีแน่ๆ และตลอดเวลาที่เขาคบกับเพลงพิณมาเขาก็จะบอกชัดเจนกับเพลงพิณตลอด ว่าให้แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจนไม่ให้เธอนั้นมาอวดเบ่งกับพนักงานคนอื่นว่าเป็นแฟนของเจ้าของบริษัทที่นี้เดิม
ร่างสูงที่กำลังหลับใหลในห้วงนิทราต้องลืมตาตื่นขึ้น เมื่อโดนแสงของดวงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องผ่ารอยแง้มของผ้าม่านมากระทบเข้าที่เปลือกตา เมื่อได้สติดีนัยน์ตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของณภัทรที่นอนเหยียดยาวซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนหนาจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าตื่นๆ"อืมมม พี่จิน...กี่โมงแล้วคะ ทำไมพี่จินสะดุ้งตัวแรงขนาดนี้ พี่จินฝันร้ายหรอ"เสียงงัวเงียของหญิงสาวที่หลับอยู่ข้างกายของจินเอ่ยถามแฟนหนุ่มของตัวเองขึ้น ก่อนที่เธอจะดันตัวลุกขึ้นมานั่งข้างๆของจินแล้วซบใบหน้าลงที่แขนแกร่งของจินผ่านชุดนอนด้านจินที่กำลังตื่นตกใจและงงงวยกับภาพความทรงจำและเหตุการณ์ต่างๆที่แล่นอยู่ในหัวตัวเองในตอนนี้ ก็ได้แต่นังนิ่งมึนงงไม่ได้เอ่ยพูดหรือเอ่ยตอบแฟนสาวตัวน้อยที่คบกันมานานกว่า7ปี ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนพึ่งจะบอกข่าวเรื่องตัวเองท้องให้จินได้ทราบ พลันในหัวของจินในตอนนี้ก็ยังคงคิดหนักถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่ตัวเองเสียชีวิตอยู่อย่างนั้นตกลงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความฝันกันแน่ ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องจริง งั้นแสดงว่าชายคนที่เราได้ย
ณ.ตระกูลภูริสิทธิโชค"ภพคะ เราไม่ไปงานศพของไอ้พี่จินจะดีหรือคะ"เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามชายชู้ที่ตัวเองนั่งซบอกดูทีวีอยู่บนเตียงนอนของจินด้วยสภาพเปลือยเปล่า พลางใบหน้างามก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของพิภพด้วยแววตาออดอ้อนไร้การเศร้าโศกที่ตัวเองพึ่งจะเสียว่าที่สามีในทะเบียนสมรสไปหยกๆ"จิ๊! พิมพ์จะไปพูดถึงมันให้เสียอารมณ์ทำไม ภพอุสาห์ไม่นึกถึงภาพเมื่อวานนี้แล้ว"พิภพพูดขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับดันร่างนุ่มนิ่มของพิมพ์ที่พึ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากันเสร็จไปเมื่อกี้ออกจากการซบอกของตัวเอง ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้พิมพ์นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงตามลำพังและเหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของร่างโปร่งแสงเจ้าของห้องและบ้านหลังนี้ที่ยืนดูอยู่นานหลายนาทีแล้ว'หึ! ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันแต่งงานที่ทุกคนต่างสวมชุดสีมงคลมีความสุขกัน แต่ทุกคนกลับต้องเปลี่ยนมาสวมชุดสีดำและมางานศพของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้าโศกเศร้าแทน ฮ่าๆๆๆ แล้วดูเจ้าสาวของกูสิกลับมานอนกกชายชู้ของมันในห้องของกูอย่างหน้าตาเฉย ตลกเป็นบ้าเลยวะ!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ'ร่างโปร่งแสงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่นอนเ
ร่างโปร่งแสงยืนมองร่างกายของตัวเองที่นอนแน่นิ่งไร้วิญญาณ ตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือดอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่มีความสูงไม่ต่างจากกันสักเท่าไหร่นักและชายคนนี้เขาก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีและรู้ว่าคนคนนี้ที่กอดร่างไร้วิญญาณของเขาอยู่นั้นเป็นใคร ชายคนหนุ่มที่ร่ำไห้กอดร่างไร้ลมหายใจของจินอยู่ในตอนนี้คือ ทักษกร วีระกิตธาดา หรือก็คือ ภูมิชายหนุ่มตัวสูงคนที่เคยเรียนมหาลัยเดียวกันและคณะเดียวกันกับเขาหรือจะพูดง่ายๆเลยก็เคยเป็นเพื่อนร่วมคณะกันนั่นแหละ มีช่วงหนึ่งที่จินสนิทกับภูมิพอสมควรสนิทพอที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แต่สุดท้ายจินที่อยู่ในช่วงวัย22ก็ต้องตีตัวออกห่างจากภูมิด้วยความไม่ตั้งใจเพราะในวันที่จินเรียนจบเป็นวันเดียวกับวันที่พ่อแม่ของจินรถพลิกคว่ำเสียชีวิตทั้งสองในช่วงที่จิน ณภัทรอายุ22ปีถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่หนักหน่วงพอสมควรเลย ด้วยความที่จินพึ่งเรียนจบและยังไม่มีญาติมิตรสหายที่ไหนแถมยังมาเสียเสาร์หลักของบ้านพร้อมๆกันอีก แล้วไหนจะต้องขึ้นมาบริหารบริษัทนำเข้ารถยนต์ของคุณพ่อที่ทิ้งไว้ให้เขา จินที่เป็นเพียงเด็กจบใหม่ในตอนนั้นต้องก้าวข้ามคำดูถูกเหยียดหยามและกู้ชื่อเสียงบริษัทให้คู่ค้ากลั
บทนำ"อื้มมม.."ร่างรูปร่างสูงรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงนิทราเมื่อได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้องดังขึ้น พลางเรียวคิ้วได้ทรงก็ขมวดเข้าหากันมุ่น นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เริ่มปรับเข้ากับแสงสลัวภายในห้องก็ไล่มองรอบๆห้องเพื่อมองหาร่างบางที่นอนข้างกัน แต่ทว่าก็ไม่พบเห็นแฟนสาวที่จะเข้าวิวาห์กันในวันพรุ่งนี้ที่เคยนอนอยู่ด้านข้าง"ไปไหนของเขานะ"เสียงทุ้มบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนที่ณภัทรในวัย32จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มหลังใหญ่แล้วเดินหาแฟนสาวตัวเล็กที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่ แต่แล้วคิ้วคมต้องขมวดมุ่นเข้าหากันมากกว่าเดิมเมื่อจินที่เดินลงมาชั้นล่างเห็นคนรักที่เขาคบหามากว่า7ปีทำท่าทีลับๆล้อๆเดินไปทางโรงจอดรถจินที่ยืนสงสัยอยู่นานว่าทำไมเพลงพิณหรือพิมพ์แฟนสาวที่เขากำลังจะเข้าพิธีวิวาร์กันในวันพรุ่งนี้ ถึงได้ทำตัวลับๆล้อๆแบบนี้แล้วอีกอย่างนี้มันก็ดึกมากแล้วพิมพ์แฟนสาวของเขากำลังจะออกไปไหนกันแล้วทำไมต้องแอบออกไปในตอนที่เขานอนหลับไม่รู้สึกตัวด้วย นึกได้ดังนั้นจินจึงได้แอบขับรถตามพิมพ์ออกไปอย่างห่างๆจนในที่สุดรถของแฟนสาวตัวเล็กของเขาก็เลี้ยวเขาไปจอดในรั้วบ้านสองชั้นที่เขาค่อนข้างจะคุ้นตาเป็นอย่างดีและเมื่อเห