เนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ณภัทร
หลังจากที่ทักษกรกายภาพบำบัดจนร่างกายหายดีกลับมาเดินเหินได้เป็นปกติ ในวันนี้ก็ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีที่คนตัวสูงออกจากโรงพยาบาลมา
และตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ภูมิก็ปฏิบัติต่อจินอย่างกับจินนั้นเป็นคนพิการอย่างไงอย่างงั้น ไม่ว่าจินจะเดินเหินไปไหน จะไปหยิบจับอะไรภูมิก็จะเป็นคนอาสาทำแทนทุกอย่าง ขนาดจินไปทำงานที่บริษัทคนตัวสูงนี่ก็ตามไปประคบประหงมเขาถึงที่บริษัท
"คุณทักษกรครับ คุณไม่มีงานที่ต้องทำหรือยังไง ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาผมยังไม่เห็นคุณเข้าบริษัทของคุณเลยนะครับ เอาแต่มาเฝ้าผมที่บริษัทป่านนี้งานคุณไม่ท่วมโต๊ะแล้วหรือไง"
ณภัทรที่อยู่ในชุดเสื้อสูทเต็มยศหมุนเก้าอี้หนังราคาแพงหันมาถามคนตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแลคนั่งปอกผลไม้อยู่ที่โซฟารับรองแขกในห้องทำงานของเขา
"ภูมิยังอยู่ในช่วงวันลาป่วยอยู่ครับ อีกประมาณ5วัน วันลาป่วยข
บทนำ"อื้มมม.."ร่างรูปร่างสูงรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงนิทราเมื่อได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้องดังขึ้น พลางเรียวคิ้วได้ทรงก็ขมวดเข้าหากันมุ่น นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เริ่มปรับเข้ากับแสงสลัวภายในห้องก็ไล่มองรอบๆห้องเพื่อมองหาร่างบางที่นอนข้างกัน แต่ทว่าก็ไม่พบเห็นแฟนสาวที่จะเข้าวิวาห์กันในวันพรุ่งนี้ที่เคยนอนอยู่ด้านข้าง"ไปไหนของเขานะ"เสียงทุ้มบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนที่ณภัทรในวัย32จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มหลังใหญ่แล้วเดินหาแฟนสาวตัวเล็กที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่ แต่แล้วคิ้วคมต้องขมวดมุ่นเข้าหากันมากกว่าเดิมเมื่อจินที่เดินลงมาชั้นล่างเห็นคนรักที่เขาคบหามากว่า7ปีทำท่าทีลับๆล้อๆเดินไปทางโรงจอดรถจินที่ยืนสงสัยอยู่นานว่าทำไมเพลงพิณหรือพิมพ์แฟนสาวที่เขากำลังจะเข้าพิธีวิวาร์กันในวันพรุ่งนี้ ถึงได้ทำตัวลับๆล้อๆแบบนี้แล้วอีกอย่างนี้มันก็ดึกมากแล้วพิมพ์แฟนสาวของเขากำลังจะออกไปไหนกันแล้วทำไมต้องแอบออกไปในตอนที่เขานอนหลับไม่รู้สึกตัวด้วย นึกได้ดังนั้นจินจึงได้แอบขับรถตามพิมพ์ออกไปอย่างห่างๆจนในที่สุดรถของแฟนสาวตัวเล็กของเขาก็เลี้ยวเขาไปจอดในรั้วบ้านสองชั้นที่เขาค่อนข้างจะคุ้นตาเป็นอย่างดีและเมื่อเห
ร่างโปร่งแสงยืนมองร่างกายของตัวเองที่นอนแน่นิ่งไร้วิญญาณ ตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือดอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่มีความสูงไม่ต่างจากกันสักเท่าไหร่นักและชายคนนี้เขาก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีและรู้ว่าคนคนนี้ที่กอดร่างไร้วิญญาณของเขาอยู่นั้นเป็นใคร ชายคนหนุ่มที่ร่ำไห้กอดร่างไร้ลมหายใจของจินอยู่ในตอนนี้คือ ทักษกร วีระกิตธาดา หรือก็คือ ภูมิชายหนุ่มตัวสูงคนที่เคยเรียนมหาลัยเดียวกันและคณะเดียวกันกับเขาหรือจะพูดง่ายๆเลยก็เคยเป็นเพื่อนร่วมคณะกันนั่นแหละ มีช่วงหนึ่งที่จินสนิทกับภูมิพอสมควรสนิทพอที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แต่สุดท้ายจินที่อยู่ในช่วงวัย22ก็ต้องตีตัวออกห่างจากภูมิด้วยความไม่ตั้งใจเพราะในวันที่จินเรียนจบเป็นวันเดียวกับวันที่พ่อแม่ของจินรถพลิกคว่ำเสียชีวิตทั้งสองในช่วงที่จิน ณภัทรอายุ22ปีถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่หนักหน่วงพอสมควรเลย ด้วยความที่จินพึ่งเรียนจบและยังไม่มีญาติมิตรสหายที่ไหนแถมยังมาเสียเสาร์หลักของบ้านพร้อมๆกันอีก แล้วไหนจะต้องขึ้นมาบริหารบริษัทนำเข้ารถยนต์ของคุณพ่อที่ทิ้งไว้ให้เขา จินที่เป็นเพียงเด็กจบใหม่ในตอนนั้นต้องก้าวข้ามคำดูถูกเหยียดหยามและกู้ชื่อเสียงบริษัทให้คู่ค้ากลั
ณ.ตระกูลภูริสิทธิโชค"ภพคะ เราไม่ไปงานศพของไอ้พี่จินจะดีหรือคะ"เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามชายชู้ที่ตัวเองนั่งซบอกดูทีวีอยู่บนเตียงนอนของจินด้วยสภาพเปลือยเปล่า พลางใบหน้างามก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของพิภพด้วยแววตาออดอ้อนไร้การเศร้าโศกที่ตัวเองพึ่งจะเสียว่าที่สามีในทะเบียนสมรสไปหยกๆ"จิ๊! พิมพ์จะไปพูดถึงมันให้เสียอารมณ์ทำไม ภพอุสาห์ไม่นึกถึงภาพเมื่อวานนี้แล้ว"พิภพพูดขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับดันร่างนุ่มนิ่มของพิมพ์ที่พึ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากันเสร็จไปเมื่อกี้ออกจากการซบอกของตัวเอง ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้พิมพ์นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงตามลำพังและเหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของร่างโปร่งแสงเจ้าของห้องและบ้านหลังนี้ที่ยืนดูอยู่นานหลายนาทีแล้ว'หึ! ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันแต่งงานที่ทุกคนต่างสวมชุดสีมงคลมีความสุขกัน แต่ทุกคนกลับต้องเปลี่ยนมาสวมชุดสีดำและมางานศพของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้าโศกเศร้าแทน ฮ่าๆๆๆ แล้วดูเจ้าสาวของกูสิกลับมานอนกกชายชู้ของมันในห้องของกูอย่างหน้าตาเฉย ตลกเป็นบ้าเลยวะ!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ'ร่างโปร่งแสงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่นอนเ
ร่างสูงที่กำลังหลับใหลในห้วงนิทราต้องลืมตาตื่นขึ้น เมื่อโดนแสงของดวงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องผ่ารอยแง้มของผ้าม่านมากระทบเข้าที่เปลือกตา เมื่อได้สติดีนัยน์ตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของณภัทรที่นอนเหยียดยาวซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนหนาจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าตื่นๆ"อืมมม พี่จิน...กี่โมงแล้วคะ ทำไมพี่จินสะดุ้งตัวแรงขนาดนี้ พี่จินฝันร้ายหรอ"เสียงงัวเงียของหญิงสาวที่หลับอยู่ข้างกายของจินเอ่ยถามแฟนหนุ่มของตัวเองขึ้น ก่อนที่เธอจะดันตัวลุกขึ้นมานั่งข้างๆของจินแล้วซบใบหน้าลงที่แขนแกร่งของจินผ่านชุดนอนด้านจินที่กำลังตื่นตกใจและงงงวยกับภาพความทรงจำและเหตุการณ์ต่างๆที่แล่นอยู่ในหัวตัวเองในตอนนี้ ก็ได้แต่นังนิ่งมึนงงไม่ได้เอ่ยพูดหรือเอ่ยตอบแฟนสาวตัวน้อยที่คบกันมานานกว่า7ปี ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนพึ่งจะบอกข่าวเรื่องตัวเองท้องให้จินได้ทราบ พลันในหัวของจินในตอนนี้ก็ยังคงคิดหนักถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่ตัวเองเสียชีวิตอยู่อย่างนั้นตกลงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความฝันกันแน่ ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องจริง งั้นแสดงว่าชายคนที่เราได้ย
ณ.บริษัทJ.PL.Cars จำกัด"พี่จินคะ พิมพ์เดินเข้าไปพร้อมกับพี่ไม่ได้หรอคะ ตอนนี้เราก็คบกันมา7ปีแล้วนะ อีกอย่างตอนนี้พิมพ์ก็กำลัง..."เพลงพิณที่ก้าวลงจากรถหรูเดินเข้ามากอดแขนแกร่งของจินอย่างหลวมๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างออดอ้อนพร้อมกำลังจะอ้างเรื่องลูกในท้อง แต่ทว่ายังเอ่ยไม่ทันจบประโยคน้ำเสียงทุ้มต่ำของจินก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน"พิมพ์ พี่บอกพิมพ์ตลอดว่าพี่ไม่อยากให้บริษัทของพี่มีข่าวเสียหาย แล้วก่อนคบกันพิมพ์ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าเข้าใจในตรงนี้"ณภัทรพูดขึ้นเสียงต่ำพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปที่แฟนสาวของตัวเองด้วยแววตานิ่งเกิดจะขาดเดา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาจินเขานั้นยอมตามใจแฟนสาวของตัวเองทุกอย่างแต่ทว่าถ้าเป็นเรื่องบริษัทJ.PL.Carsจินไม่เคยปล่อยปละละเลยเลยสักครั้ง เขาจะไม่ยอมให้ชื่อเสียงบริษัทที่เขาพยายามกอบกู้มากว่า5ปีต้องมามีมลทินเรื่องไม่ดีแน่ๆ และตลอดเวลาที่เขาคบกับเพลงพิณมาเขาก็จะบอกชัดเจนกับเพลงพิณตลอด ว่าให้แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจนไม่ให้เธอนั้นมาอวดเบ่งกับพนักงานคนอื่นว่าเป็นแฟนของเจ้าของบริษัทที่นี้เดิม
เจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยืนเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าด้วยแววตาอึ้งๆอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูได้ยินและตาได้เห็นว่าคนตรงหน้าจะยิ้มละมุนส่งมาให้ตัวเองแบบนั้น"นายเป็นอะไรหรือเปล่าภูมิ ทำไมยืนนิ่งแบบนั้นล่ะ"เสียงทุ้มของจินเอ่ยถามทักษกรขึ้นพร้อมกับโบกมือไปมาตรงหน้าของภูมิคล้ายจะเรียกสติและมันก็ได้ผลจริงๆ เมื่อภูมิล่ะสายตาใต้กรอบแว่นแล้วกะพริบตาถี่ๆพลันมือหนาก็ยกขึ้นมาดันแว่นตาอย่างเก้อเขิน ก่อนที่จะเอ่ยตอบณภัทรออกไป"เอ่อเปล่าครับ ไม่มีอะไรจินมาถึงนานแล้วหรอ""อ๋อ ไม่นานหรอกฉันมาถึงก่อนหน้านายไม่กี่นาทีเอง นั่งก่อนสิจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ย"จินเอ่ยตอบพลางถามภูมิกลับไปอย่างเป็นมารยาทว่าเขานั้นจะสั่งอะไรมากินก่อนมั้ยซึ่งภูมิก็มองมาที่จินด้วยแววตาอึ้งๆอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าน้อยๆแล้วก้มหน้าหลบสายตาของจินที่จ้องมองมาที่ตน พลันในหัวก็ยังคงนึกสงสัยคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเองในตอนนี้ไม่หาย ว่าทำไมอยู่ๆท่าทีของจินถึงได้เปลี่ยนแบบนี้เมื่อทักษกรและณภัทรนั่งลงแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วความเงียบก็กลับมาป
2วันต่อมาเวลา18:46นาที"พิมพ์ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่จินถึงให้พิมพ์ย้ายไปนอนอีกห้อง ทำไมพิมพ์ถึงนอนห้องเดียวกันกับพี่จินไม่ได้ พิมพ์เป็นเมียพี่จินนะ แล้วตอนนี้พิมพ์ก็กำลังท้องลูกของพี่จินอยู่ทำไมพิมพ์นอนห้องเดียวกับพี่จินไม่ได้!"หญิงสาวใบหน้าน่ารักในชุดนอนตัวบางโวยวายเสียงดังเมื่ออยู่ๆวันนี้ตัวเองก็โดนแฟนหนุ่มบอกให้ย้ายไปนอนอีกห้องเพลงพิณไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เลย เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดตั้งแต่วันที่จินบอกเธอว่าฝันร้ายในวันนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็เปลี่ยนไป ถ้าจะถามว่าเปลี่ยนไปยังไงน่ะหรอ ก็แต่ก่อนณภัทรนั้นแคร์เธอและตามใจเธอเป็นไหนๆแต่ตอนนี้การพูดของณภัทรดูจะไม่ค่อยแคร์เธอเลย ไหนจะสายตาที่มองมาบางครั้งแสดงออกว่าไม่อยากจะมองเธอสักเท่าไหร่และไหนจะตอนนี้ที่พยายามดูเหมือนจะตีตัวออกห่างจากเธออีก ทั้งที่เมื่อก่อนแทบจะหาเวลาว่างที่จะใกล้ชิดเธอตลอดเวลาแต่ดูตอนนี้สิทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด พี่จินเป็นอะไรไปทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
2อาทิตย์ต่อมาเวลา16:12นาทีหลังจากที่ณภัทรได้ย้อนเวลากลับมาก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจขอแฟนสาวแต่งงานเพียงไม่กี่อาทิตย์ ตอนนี้เวลาก็พัดผ่านมา2อาทิตย์กว่าๆแล้ว เดิมทีแล้ววันนี้เป็นวันที่เขาตัดสินใจลงทุนตกแต่งบ้านขอเพลงพิณแต่งงาน แต่พอเขาได้โอกาสย้อนเวลากลับมาแก้ไข้อดีตที่เคยเกิดขึ้นตอนนี้ทุกอย่างเลยเปลี่ยนไป จากที่เวลานี้เขาต้องโกหกบอกเพลงพิณว่าเขาจะออกไปคุยงานกับลูกค้าแต่แท้จริงแล้วเขาจัดเตรียมสถานที่เพื่อขอเธอแต่งงานตอนเธอกลับมาจากที่ทำงาน กลับเปลี่ยนเป็นตอนนี้เขามานั่งอยู่บนรถยนต์คันเดียวกับทักษกรชายหนุ่มตัวสูงที่มาช่วยเขาจับผิดเพลงพิณแฟนสาวของเขาที่กำลังเล่นชู้อยู่กับพิภพหัวหน้าฝ่ายบัญชีของเขาแทน"นายรู้ได้ยังไงว่าสองคนนี้แอบมาเจอกันที่นี้บ่อยๆ"จินที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับถามขึ้นเสียงเบาพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลก็ทอดมองไปยังสองร่างที่กำลังตระกองกอดกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่หน้าร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีอีกสองสายตาที่นั่งอยู่ในรถฟิล์มทึบจอดอยู่ไม่ไกลนักจ้องมองอยู่"เอ่อคือความจริงแ
เนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านณภัทรหลังจากที่ทักษกรกายภาพบำบัดจนร่างกายหายดีกลับมาเดินเหินได้เป็นปกติ ในวันนี้ก็ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีที่คนตัวสูงออกจากโรงพยาบาลมาและตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ภูมิก็ปฏิบัติต่อจินอย่างกับจินนั้นเป็นคนพิการอย่างไงอย่างงั้น ไม่ว่าจินจะเดินเหินไปไหน จะไปหยิบจับอะไรภูมิก็จะเป็นคนอาสาทำแทนทุกอย่าง ขนาดจินไปทำงานที่บริษัทคนตัวสูงนี่ก็ตามไปประคบประหงมเขาถึงที่บริษัท"คุณทักษกรครับ คุณไม่มีงานที่ต้องทำหรือยังไง ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาผมยังไม่เห็นคุณเข้าบริษัทของคุณเลยนะครับ เอาแต่มาเฝ้าผมที่บริษัทป่านนี้งานคุณไม่ท่วมโต๊ะแล้วหรือไง"ณภัทรที่อยู่ในชุดเสื้อสูทเต็มยศหมุนเก้าอี้หนังราคาแพงหันมาถามคนตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแลคนั่งปอกผลไม้อยู่ที่โซฟารับรองแขกในห้องทำงานของเขา"ภูมิยังอยู่ในช่วงวันลาป่วยอยู่ครับ อีกประมาณ5วัน วันลาป่วยข
บทส่งท้ายวันที่19/09/2***ณ เวลา19:19นาทีเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรนอนหลับใหลไร้สติมานานนับ2เดือนในวันนี้เปลือกตาสีมุกที่เคยปิดสนิทกลับค่อยๆเปิดขึ้น แต่ทว่าเมื่อนัยน์ตาคมโดนแสงสว่างภายในห้องเปลือกตาบางเป็นต้องกะพริบถี่เพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่างทักษกรที่ฟื้นลืมตาตื่นขึ้นหลังจากหลับใหลไปเป็นเดือนๆกวาดสายตามองรอบๆห้องเพื่อมองหาใครบางคน แต่ไม่ว่าทักษกรจะกวาดสายตาจนทั่วห้องแล้วเขาก็ไม่เห็นใครสักคนทักษกรที่ลืมตาตื่นและไม่เห็นใครสักคนจึงพยายามที่จะดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่าด้วยความที่ร่างกายของเขาไม่ได้ขยับมานานนับเดือน จึงทำให้แขนขาของเขาอ่อนแรง"อ่าานี้เราหลับไปนานแค่ไหนกันนะ"น้ำเสียงแหบแห้งพึมพำกับตัวเองออกมาเสียงเบาและเมื่อตัวเขาทำอะไรไม่ได้ ภูมิจึงได้แต่นอนมองเพดานห้องอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปอีกด้านณภัทรที่หายดีปกติหลังจากที่คุณหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เขาก็กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม คือตอนเช้ามา
ณภัทรณภัทรที่อยู่ในชุดลำลองของทางโรงพยาบาลนั่งก้มหน้าจิกเล็บมือลงหลังมือข้างขวาที่มีสายน้ำเกลือของตัวเองแน่นอย่างเคยตัว พลันริมฝีปากได้รูปก็กัดเม้มเข้าหากันพลางก้อนเนื้อด้านซ้ายก็เต้นระส่ำอย่างตื่นกลัวในใจก็พร่ำร้องขอภาวนา ว่าให้คนตัวสูงภายในห้องที่ตอนนี้คุณหมอกำลังปั๊มหัวใจช่วยอยู่นั้นกลับมาทีเถอะอย่าจากเขาไปไหนเลย"หนูจิน...แม่ว่าเรากลับไปรอที่ห้องพักเถอะทางนี้ อึก ให้พ่อกับแม่จัดการเองนะลูก"คุณหญิงวราศิริเดินมาทรุดตัวนั่งลงเก้าอี้ด้านข้างจินพร้อมกับเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นเล็กน้อยตามอายุมาแตะลงที่มือของจิน ก่อนจะเอ่ยพูดกับจินด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและติดขัด พลันนัยน์ตาแดงก่ำทั้งสองก็ไม่กล้าที่จะเงยขึ้นมาสบตากับจินโดยตรงเธอทำได้เพียงแค่เบี่ยงสายตาหลบไปอีกทางเพื่อไม่ให้จินเห็นว่าตอนนี้เธอนั้นกำลังอ่อนแอและเศร้าเสียใจมากแค่ไหน เธอไม่อยากให้จินเศร้าเสียใจไปมากกว่านี้เพราะการที่เครียดมากๆมันไม่ส่งผลดีต่อลูกในท้องและอาจเกิดสภาวะตกเลือดได้"คุณแม่...ให้ผมอยู่ต่อเถอะนะครับ ถ ถ้าเกิดภูมิเข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ อึก ผะ ผมจะได้อ
'เกิดไอ้เด็กตัวน้อยนั้นเป็นอะไรไปเอ็งจะรับผิดชอบไหวหรือไง'หญิงชราที่อยู่ในชุดเสื้อม่อฮ่อมนุ่งผ้าถุงหันมาเอ่ยพูดกับชายชราที่ยืนถือไม้ตะพดอยู่ข้างกายจิน ด้านจินที่ไม่รู้ว่าชายชรากลับมายืนอยู่ข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ล่ะสายตาจากภูมิแล้วหันมามองด้านข้างด้วยความตกใจทันที แต่ทว่าพอหันกลับไปมองที่เดิมก็ไม่เห็นภูมิแล้ว"ไม่ต้องมองหาหรอก ภาพเหตุการณ์ที่เอ็งเห็นเมื่อกี้มันเป็นเพียงภาพที่เคยเกิดขึ้นที่นี้เมื่อ2-3เดือนก่อน ในตอนนี้ร่างของไอ้หนุ่มตัวสูงนั้นก็นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนเดิมนั่นแหละ"ชายชราเอ่ยพูดขึ้นพลางจ้องมองสบนัยน์ตาของจินนิ่งๆด้านจินที่ยืนฟังก็ได้แต่ยืนเม้มปากกำมือแน่น เพราะเขาไม่รู้จะต้องทำยังไงให้ภูมิได้กลับมามันไม่ควรเป็นแบบนี้ ภูมิไม่ควรที่จะต้องมาตายแทนเขาแบบนี้ ในตอนนี้ต้องเป็นตัวเขาไม่ใช่หรอที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงใช่!มันต้องเป็นตัวเขา"เจ้าคิดจะเอาตัวเองมาแลกเหมือนกับไอ้หนุ่มแว่นนั้
"ก็ไอ้หนุ่มนั้นมันเอาชีวิตของตัวเองมาแลกกับการให้เอ็งย้อนเวลากลับมาแก้ไขโชคชะตายังไงล่ะ"จบประโยคของชายชราที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าอาภรณ์เก่าๆ ร่างจิตวิญญาณของจินก็ถูกดึงกระชากออกจากห้องสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบเต็มไปด้วยควันสีขาวแล้วมาโผล่ที่ข้างถนนเส้นหนึ่งที่เป็นทางรุกลังแต่ทว่าจินกับดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก"ที่นี้ที่ไหนทำไมถนนเส้นนี้ดูคุ้นตาจัง"ณภัทรสบถกับตัวเองเสียเบาพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลก็กวาดมองรอบๆเพื่อสังเกตสิ่งรอบข้าง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ศาลไม้หลังหนึ่งที่ข้างในมีรูปปั้นตายายอยู่ แถมข้างหน้าศาลยังมีของไหว้เต็มไปหมดทั้งดอกไม้ธูปเทียนของกิน จนแทบจะไม่มีที่ให้ว่างณภัทรยืนมองได้ไม่นานก็ต้องล่ะสายตาออกจากศาลไม้แล้วหันไปมองยังเส้นถนน เมื่อได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวเซ็งแซ่พูดคุยของชาวบ้านทว่าเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลของจินหันไปมองยังต้นตอของเสียงคิ้วคมของจินเป็นต้องขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม เพราะเหล่าผู้คนที่กำลังเดินมานั้นต่างพากันแต่งกายคล้ายคนสมัยเก่าๆเมื่อ50-60ปีก่อน พลางภายในมือของเหล่าคนที่ทยอยเดินมาต่างก็พากันถือน้ำกับของกินและดอกไม้ธูปเทียนเพื่อเต
2เดือนต่อมาณ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเวลา17:12นาทีแกร๊ก"อ่าวหนูจินเลิกงานแล้วลูกหรอกินอะไรมาหรือยังจ๊ะ"คุณหญิงวราศิริที่กำลังนั่งปอกผลไม้ด้วยสีหน้าและแววตาเศร้าสร้อยอยู่ เมื่อได้ยินเสียงว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาก็หันไปมองยังประตูห้องก็พบว่าเป็นชายหนุ่มตัวสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมานี้ชายหนุ่มคนที่ลูกชายของเธอแอบรักและมักเล่าถึงให้เธอฟังอยู่บ่อยๆ มักจะมาเฝ้าลูกชายของเธอที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ตลอด"คุณน้าคุณอาสวัสดีครับ"ณภัทรที่เปิดประตูเข้ามาก็หันมาสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอน แต่ทว่าพอจินเงยหน้ามาสังเกตมองคุณหญิงวราศิริและคุณณัฐพงษ์ผู้เป็นสามีของเธอ คิ้วคมของจินเป็นต้องขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างสงสัยเพราะสีหน้าของคนทั้งสองนั้นดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด จนจินที่สังเกตเห็นเป็นต้องใจกระตุกวูบ"คุณน้าอะไรล่ะจ้ะ บอกให้เรียกคุณแม่ไง"คุณหญิงวราศิริเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ
โครม!เกิดอะไรขึ้น!ณภัทรที่ได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงเอะอะโวยวายพร้อมกับเสียงดังสนั่นเหมือนกับเสียงรถผสานงากันอยู่ไม่ไกลจากหน้าบริษัทของเขาก็พลันยืนเบิกตาค้างตกใจ เมื่ออยู่ๆในหัวของเขาก็มีภาพเหตุการณ์ในวันที่เขาโดนรถชนจนเสียชีวิตผลุดขึ้นมามิหนำซ้ำประโยคคำพูดต่างๆมากมายในวันนั้นก่อนที่เขาจะโดนรถชนก็เด้งสลับกับคำพูดในวันนี้ของเขากับสองคนนั้นก็เข้ามาด้วยเช่นกัน"เป็นไปไม่ได้....บ้าไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ บ้าไปแล้ว....คำพูดของเรากับสองคนนั้นแทบจะตรงกับวันนั้นทุกประโยคเลย"ณภัทรยืนก้มหน้าบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างคนเหม่อลอยในความคิดอยู่คนเดียว พลางมือข้างที่ถือนาฬิกาล็อกเกตที่หน้าปัดแตกละเอียดก็กำแน่นจนเศษกระจกบางส่วนบาดมือทำให้ของเหลวสีแดงไหลลงย้อมเรือนนาฬิกาสีทองแต่ทว่าณภัทรที่สติหลุดลอยอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่สักพัก ก็ต้องหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองเมื่ออยู่ๆนาฬิกาที่เขากำไว้ในมือแน่นก็มีแสงสีทองสว่างจ้าขึ้นเล็กน้อย
"หึ หรอ ฉันนึกว่าที่เล่าให้กันฟังเพราะว่าภูมิรู้เรื่องที่เธอหักหลังฉันไปเล่นชู้กับมันซะอีก""!!!"เพลงพิณที่ได้ยินประโยคคำพูดของจินก็พลันสะตั้นเบิกตาโพลงขึ้นอย่างตกใจอึ้งส่วนพิภพที่ได้ยินก็ตกใจไม่ต่างกับเพลงพิณ แต่ทว่าเจ้าตัวก็เรียกสติกลับมาได้ก่อนหญิงสาว ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้ายิ้มแหยๆ"ฮะๆ พี่จินก็พูดหยอกเล่นแรงจริงๆนะครับ เอาซะผมตกใจไปด้วยเลย"พิภพเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ทว่าเมื่อได้ยินประโยคคำพูดต่อมาของจินก็พลันหุบรอยยิ้มลงทันที"ตั้งแต่รู้จักกันมา นายคิดว่าฉันเป็นคนชอบพูดเล่นอย่างงั้นหรอ"ยืนกอดอกเอียงใบหน้าเอ่ยถามชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตรงหน้าด้วยแววตานิ่งๆส่วนเพลงพิณที่รู้ว่าแฟนหนุ่มของตัวเองจับได้แล้วว่าตัวเธอเล่นชู้กับคนในบริษัท ก็พลันหันหน้ามองชายชู้ตรงหน้าสลับกับแฟนหนุ่มที่ยืนข้างกายกันไปมาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนที่จะรีบเอ่ยแก้ตัวด้วยน้ำเสียงร้อนรน"มะ ไม่ ไม่ใช่นะคะพี่จิน พี่จินอย่าเชื่อมันนะคะมันใส่ร้ายพิมพ์กับคุณพิภพพี่จินอย่าเชื่อคนอย่างมันนะคะ!"เพลงพิณรีบแก้ตัวอย่างร้อนรนพลางสองมือบางก็
2วันต่อมาวันที่ 7/07/2***"จินจะจัดการสองคนนั้นวันนี้จริงๆหรอครับ"ภูมิที่นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องทำงานของจินเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าเป็นกังวลเพราะทักษกรพึ่งรู้จากปากของจินผ่านทางโทรศัพท์มือถือเมื่อตอนเช้านี้เอง ว่าจินจะจัดการสะสางเพลงพิณกับพิภพชู้ของเธอในวันนี้ ทักษกรจึงรีบตรงมาหาจินที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้วก็มานั่งทำหน้าหงอยในห้องทำงานของจินอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ"อืมใช่แล้วล่ะ แล้วทำไมถึงได้ทำหน้าเครียดขนาดนั้น คิดมากเรื่องอะไรอยู่หรอบอกจินหน่อย"ณภัทรเอ่ยตอบพลางถามภูมิกลับไปก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานแล้วเดินมานั่งลงยังที่ข้างๆ ก่อนที่จะเอื้อมไปจับมือของภูมิแล้วบีบเบาๆพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลก็จ้องมองนัยน์ตาคมด้วยแววตาเป็นห่วงจะไม่ให้จินมองอย่างเป็นห่วงได้ยังไง ก็ภูมิในตอนนี้แสดงสีหน้าและแววตาเหมือนกลัวและหวาดระแวงอะไรสักอย่าง จนตัวของเขาในตอนนี้สั่นอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้หรืออาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่เขาโดนรถชนจนเสียชีวิตต