ชายในฝันของผู้หญิงเกือบทั้งออฟฟิศก็คือ ‘บอสติณณภพ’ เขาทั้งหล่อ รวย และชาติตระกูลดี แต่! คนอย่างเขามีหรือจะสนใจมองพนักงานระดับล่างอย่างฉัน หน้าตาก็งั้น ๆ แถมยังแต่งตัวสุดแสนจะเชยอีกต่างหาก ในเมื่อสารรูปไม่สามารถเอาชนะใจเขาได้ ฉะนั้นจึงต้องใช้มารยาหญิงเข้าสู้ ยั่วยวนให้บอสสุดหล่อหลงรัก แต่ทว่าการยั่วรักในครั้งนี้ กลับทำให้ฉันได้รู้จักอีกมุมหนึ่งของผู้ชายคนนี้ ที่ไม่ต่างจากซาตานร้ายตนหนึ่งเลยทีเดียว
View Moreบทที่ 13สาบานว่าเธอไม่ได้โกหกหลังจากวันที่บอสมานอนค้างบ้านฉัน เขาก็เริ่มเทียวไปหาแม่บ่อยขึ้นแต่ไม่ได้ค้างคืนเหมือนวันนั้น แม่และน้องสาวฉันปลื้มเขามาก จนอยากจะยกตำแหน่งลูกเขยและพี่เขยให้ซะเต็มประดา แต่ฉันกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดบอสต้องทำอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เขายังคงเย็นชากับฉัน เห็นเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ ราวกับทำไปเพื่อต้องการเอาชนะฉัน ต้องการเอาชนะผู้หญิง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขามีความแค้นฝังใจกับผู้หญิงมาก่อนหรือเปล่าฉันกำลังนั่งรอรถเมล์เหมือนเช่นทุกวัน พลางนึกถึงเรื่องราวระหว่างฉันกับบอสไปด้วย ในระหว่างนั้นก็มีรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งขับมาจอดตรงหน้า ชุดที่เขาสวมใส่ดูคุ้นตาราวกับชุดหมีของฝ่ายวิศวกรรม เมื่ออีกฝ่ายถอดหมวกกันน็อกออกมา ก็พบว่าคือพี่มาร์คนั่นเอง เขาส่งยิ้มหล่อมาให้ทำเอาใจฉันแทบจะละลาย“อ้าว! พี่มาร์คสวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้เขา“สวัสดีครับ ขึ้นรถเร็วไปกับพี่”“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวรถเมล์ก็มาแล้ว”“มาเถอะพี่อุตส่าห์จอดรับขนาดนี้แล้ว”“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันจำต้องยอมรับน้ำใจพี่มา
บทที่ 12ความอ่อนโยนเมื่อรถหรูเคลื่อนล้อมาจอดเทียบหน้าบ้านแล้ว ฉันยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื้อนตัว นั่นเพราะไม่อยากให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยเลยสักนิด แม่เดินมายืนจ้องๆ มองๆ ที่หน้ารถเพื่อดูว่าเป็นใคร ก่อนจะยิ้มแก้มฉีกเมื่อเห็นฉันนั่งอยู่ในรถด้วย“จะลงไม่ลง” เขาเอียงหน้ามาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แม้จะเห็นว่าตอนนี้หน้าฉันกำลังบึ้งตึงมากแค่ไหน“บอสจะค้างจริงๆ เหรอคะ แค่ทานข้าวเย็นก็พอแล้วมั้ง”“ฉันจะค้าง” เขาเอ่ยเสียงเข้มขึ้น สายตาคมที่มองมาราวกับกำลังสะกดจิตให้ฉันยอมศิโรราบ“เฮ้อ! เอาแต่ใจจริงๆ คอยดูเถอะหนูจะหางานใหม่ บอสจะได้ไม่ต้องบังคับหนูได้อีก”“ถึงเธอจะไปทำงานที่อื่นก็อย่าหวังว่าจะหนีฉันได้ ฉะนั้นอย่าแม้แต่จะคิด จะลงไปได้หรือยังแม่เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รออยู่แล้วโน่น”เมื่อหันไปมองก็เป็นอย่างที่บอสพูดจริงๆ ลงจากรถไปแล้วคงจะปูพรมแดงต้อนรับบอสซะดิบดีเลยล่ะสิท่า“อย่าทำตัวรุ่มร่ามละกันหนูขอแค่น
บทที่ 11มัดมือชกใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นฉันก็เริ่มฮอตขึ้นมาทันที จากตอนแรกที่ไม่คิดว่าจะมีหนุ่มๆ สนใจ แต่กลับตรงกันข้าม จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเลือกคบกับใครดี อาจจะดูเหมือนเกินจริงแต่ทว่ามันได้เกิดขึ้นแล้วตอนนี้ฉันกำลังเดินหอบเอกสารปึกใหญ่ เข้าไปในห้องทำลายเอกสารเพียงลำพัง เนื่องจากฉันเป็นน้องเล็กสุดเรื่องอะไรพวกนี้จึงตกมาเป็นหน้าที่อย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเดินเข้าไปในห้องก็พบว่ามีช่างกำลังซ่อมแอร์อยู่ ฉันจึงชะงักเล็กน้อยแล้ววางเอกสารไว้บนโต๊ะ“อ้าว! แอร์เสียหรอกเหรอคะเนี่ย”“ต้องรออีกแปบนะครับคนสวย ผมเปิดหน้าต่างไว้แล้วน่าจะช่วยระบายอากาศได้บ้าง” ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนบันไดหันมาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สวมชุดหมีสีกรมท่าดูแล้วคงจะอยู่ฝ่ายวิศวกรรม ใบหน้าเขาหล่อไม่น้อย ฉันเพิ่งรู้ว่ามีคนหล่อเทียบเท่าบอสในบริษัทด้วยแฮะ“ไม่มีปัญหาค่ะ ซ่อมตามสบายเลยค่ะพี่” ฉันยิ้มให้เขา จากนั้นก็หันมาสนใจงานของตัวเองบ้าง เสียบปลั๊กแล้วก็เปิดเครื่อง หย่อนเอกสารลงไปในช่องเพื่อเข้าสู่กระบวนการทำลายในระหว่างนั้น
บทที่ 10หนูเกลียดบอสก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ”“เชิญ”มือน้อยๆ ของฉันหมุนลูกบิดประตูเปิดเข้าไปในห้อง ใบหน้าหล่อปรากฏรอยยิ้มของมัจจุราชจนฉันรู้สึกหวั่นใจ บอสกำลังนั่งไขว่ห้างเอนหลังบนเก้าอี้อย่างสบายใจ ราวกับตั้งใจรอต้อนรับฉันโดยเฉพาะ“ไม่ทราบว่าบอสมีธุระอะไรกับหนูเหรอคะ” ฉันยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานเขาในท่าทีสุภาพ ทำตัวราวกับเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“ทำไมต้องทำตัวเหินห่างอย่างนั้นด้วยล่ะ”“นี่คือที่ทำงานค่ะ รีบพูดธุระของบอสมาเถอะหนูจะได้รีบกลับไปทำงาน”“สงสัยปีนี้ต้องยกตำแหน่งพนักงานดีเด่นให้เธอซะแล้วล่ะ เก่งทั้งเรื่องงานและเรื่องอย่างว่าหึๆ” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ“แต่คงไม่เก่งเหมือนอย่างบอสหรอกนะคะ เรื่องการเอาเปรียบผู้หญิง”“อย่าคิดว่าสวยแล้วจะปากดีใส่ฉันได้ คืนนี้เธอต้องไปค้างที่คอนโดฉัน”นี่สินะธุระที่เขาจะบอก ไร้สาระสิ้นดี“เรื่องอย่างนี้บอสส่งไลน์บอกก็ได้มั้งคะ ไม่จำเป็นต้องเรียกหนูเข้ามาถึงในห้อง เพราะหนูไม่อยากใ
บทที่ 9โสดค่ะเช้าวันทำงานที่น่าเบื่อเหมือนทุกวันวนกลับมาอีกครั้ง ฉันรีบเดินเข้ามาในบริษัทด้วยความเร่งรีบเพื่อสแกนนิ้วให้ทันเวลา ความเร่งรีบทำให้ฉันลืมตัวไปว่าไม่ได้มาในรูปลักษณ์เดิม วันนี้ฉันตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อให้ยัยฟ้าแต่งหน้าทำผมให้ และผลที่ออกมาก็น่าพอใจเป็นที่สุด“พนักงานใหม่รึเปล่าเนี่ยสวยมากอ่ะแก”“ฉันว่าไม่ใช่หรอกนี่ว่าหน้าคุ้นๆ อยู่นะ แต่นึกชื่อไม่ออก”“เออว่ะ คุ้นหน้าจริงๆ”เสียงพนักงานสาวสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลเอ่ยนินทาในระยะเผาขน ตอนแรกเข้าใจว่าพูดถึงคนอื่น แต่พอปรายตาไปมองก็พบว่าเจ้าหล่อนทั้งสองกำลังจ้องมองมาที่ฉัน เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวก็รีบเดินหนีไปอีกทางโดยเร็ว“สงสัยต้องแต่งหน้าทำผมมาทุกวันซะแล้วสิ” ฉันยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับตัวเอง จากนั้นจึงรีบเดินเข้าไปยังแผนก กะจะไปเซอร์ไพรซ์พวกพี่ๆ สักหน่อยในระหว่างทางพนักงานคนอื่นๆ ต่างก็มองมาที่ฉันพร้อมกับมีเครื่องหมายคำถามบนใบหน้า หนุ่มๆ ที่เคยเมินต่างก็จ้องตาเป็นมัน ราวกับฉันเป็นดอกไม้แรกแย้มที่น่าเชยชมเป็นที่
บทที่ 8เป็นเมียฉันก็ต้องรักฉันสิขณะนั่งรอรถอยู่นั้นก็มีใครบางคนมาดึงแขนฉุดให้ลุกขึ้น ฉันจึงรีบสะบัดแขนทันที กำลังจะหันไปด่า แต่ทว่าคำพูดมันกลับจุกอยู่ที่คอหอยเพราะเขาคนนั้นคือบอสนั่นเอง“บอส!”“เดี๋ยวฉันไปส่ง”“ไม่ไป! หนูกลับเองได้”“ก็ฉันบอกว่าจะไปส่งไงล่ะ อย่าเล่นตัวไปหน่อยน่า”“ไหนบอกว่ารังเกียจคนจนอย่างหนูมากไงคะ ทำไมถึงได้ตามก้นมาอย่างนี้ อย่าบอกนะว่าบอสเริ่มติดใจหนูแล้ว” ฉันยิ้มเยาะให้เขารู้ตัวว่ากำลังจะกลืนน้ำลายตัวเอง ปากก็บอกว่าฉันไม่คู่ควรแต่การกระทำกลับไม่ใช่เลย“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย คนอย่างเธอมันก็เป็นได้แค่ของเล่นฉันเท่านั้นล่ะ มานี่!” เขากึ่งลากกึ่งดึงฉันให้เดินไปที่รถ ที่จอดอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์ไม่ไกลคนที่เดินผ่านไปมาต่างก็มองด้วยความตกใจ บางคนมองบอสราวกับเป็นผู้ร้าย ฉันจึงพยายามร้องขอให้เขาช่วย“ช่วยด้วยค่ะนายคนนี้กำลังจะฉุดฉัน”“แค่ผัวไม่ทำการบ้านทำเป็นงอนนะที่รัก เมียผมก็งี้ล่ะครับงอนบ่อยๆ ชอบให้ผมง้อด้วยวิธีนี้ เธอไม่ค่อยจะเต็มน่ะครับอ
บทที่ 7รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉันรีบหันขวับกลับมาเมื่อรู้ว่าเป็นบอส จะทำยังไงดีหากเจอหน้าเขา ฉันกลัวว่าบอสจะเล่นอะไรพิเรนทร์ๆ แกล้งให้อับอายขายขี้หน้าอีกน่ะสิ“มาช้าจริงเฮีย” เมื่อบอสเดินมาถึงตองจึงเอ่ยกับพี่ชายตัวเอง เขายังคงยืนอยู่ด้านหลังไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร“ก็บอกว่ามีธุระมาให้ก็บุญโขแล้ว ต้องทำอะไรบ้างล่ะ”“งั้นเฮียไปเปลี่ยนชุดด้านโน้นก่อนนะ หล่อระดับเฮียค่อยมาตบแป้งเบาๆ ก็พอ”“โอเคๆ รีบๆ หน่อยละกัน” ฟังจากน้ำเสียงแล้วคงจะถูกบังคับมา หากรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้คือฉัน เขาจะทำหน้ายังไงนะหลังจากบอสเดินไปแล้วฉันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก จนตองขมวดคิ้วมองมาอย่างสงสัย“พี่ดาวถอนหายใจทำไมคะ”“เอ่อ...พี่ตื่นเต้นน่ะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน”“ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ่ายไม่นานหรอก แถมยังไม่มีบทพูดทำตามที่ผู้กำกับสั่งก็พอ”“น้องตองคะ...ช่วยแต่งหน้าพี่แบบว่า...ให้คนอื่นจำไม่ได้ มันพอจะเป็นไปได้ไหม”“เดี๋ยวตองจัดให้เลยค่ะ รับรองว่าสวยจนแม้แต่ไอ้ฟ้าก็จำไม่ได้แน่นอ
บทที่ 6โลกกลมระหว่างนั่งรถกลับฉันก็เอาแต่นิ่งเงียบ เอียงหน้าไปมองข้างทางเพราะไม่อยากเห็นใบหน้าหล่อที่ซ่อนความเป็นร้ายกาจเอาไว้ เขาขับรถฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ทำให้ฉันรู้สึกหมั่นไส้ซะเต็มประดา อยากมีปืนสักกระบอกเพื่อยิงแสกหน้าให้ตายลงตรงนี้เสีย“จอดหน้าปากซอยข้างหน้านี้ละค่ะ” เมื่อรถเคลื่อนล้อใกล้จะถึงหน้าปากซอยเข้าบ้าน ฉันจึงเอ่ยบอกก่อนที่เขาจะขับเลยไป“บ้านเธออยู่ในซอยนี้เหรอ” เขาตีไฟเลี้ยวเพื่อจะขับเข้าไปในซอย“บอกว่าให้จอดไม่ได้ให้เลี้ยวเข้าไป เฮ้อ!!” ฉันเริ่มหงุดหงิดกับความกวนตีนของเขาซะเหลือเกิน“บ้านหลังไหนบอกมาสิ” เขาตีหน้านิ่งขับไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย นั่นทำให้ฉันยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่“อยากจะรู้ไปทำไมคะ”“ก็อยากเห็นว่าบ้านคนจนมันเป็นยังไง ตั้งแต่เกิดฉันไม่เคยเข้ามาในชุมชนแออัดอย่างนี้มาก่อน มันก็น่าตื่นเต้นดีนะ” เขากระตุกยิ้มร้ายขับรถเข้ามาในหมู่บ้านฉันเรียบร้อยแล้ว เมื่อฉันไม่ยอมบอกเขาก็ขับวนไปอยู่อย่างนั้น จนเด็กๆ ในหมู่บ้านเริ่มสนใจกับรถหรูคันนี้เสียแล้ว“เ
บทที่ 5แลกค่าตัวฉันเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเพลงสากลดังแว่วเข้ามาในหู เปลือกตาเริ่มคลี่ขึ้นมาอย่างช้าๆ ก็พบกับเพดานห้องที่ไม่คุ้นตา ฉันขมวดคิ้วแล้วเอียงหน้ามองซ้ายขวา จากนั้นจึงพยายามดันตัวลุกขึ้น แต่ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ศีรษะจนต้องทำหน้าเหยเกล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“โอ๊ย! ทำไมปวดอย่างนี้เนี่ย” ไม่เพียงแค่นั้นฉันยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเป็นไข้ที่นี่มันคือที่ไหนกันนะ?มองไปยังชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ก็พบว่ามันถูกเปิดทิ้งไว้ เป็นช่องรายการเพลงของสถานีต่างประเทศนั่นเอง แต่ทว่ากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้เป็นเจ้าของห้อง“ตื่นสักที...ฉันนึกว่าเธอจะตายแล้วซะอีก” เมื่อได้ยินเสียงทุ้มฉันก็หันขวับไปมองทันที เป็นเขาคนนั้น คนที่ทำให้ฉันต้องเดินตากฝนจนไม่สบายตัวอย่างนี้“บอสพาหนูมาที่นี่ทำไม”“คำแรกที่เธอควรพูดคือคำว่าขอบคุณ ถ้าฉันไม่พาเธอมาที่นี่ป่านนี้คงจะหนาวตายข้างถนนไปแล้วมั้ง” เขาเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ มีเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบเอวไว้ มีหยดน้ำเกาะตามผิวกายประปราย บ่งบอกว่าเขาเพิ่งจะอาบน้ำมาหยก ๆ“จะขอบคุณทำไมในเมื่อคนที่ทำให้หนูต้องเป็นอย่างนี้ก็คือบอส” พูดจบ
บทที่ 1แกมันบ้าไปแล้วฉันเชื่อว่าผู้หญิงหลายๆ คนคงอยากจะมีแฟนหล่อๆ รวยๆ กันทั้งนั้น แต่น้อยนักน้อยหนาที่จะได้ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างนั้นมาครอบครองได้ นอกเสียจากว่าเธอคนนั้นจะมีความสวยโดนเด่นกว่าผู้หญิงทั่วไป และคุณสมบัติพวกนั้นมันไม่มีในตัวฉันเลยสักนิดน่ะสิสวัสดีค่ะฉันชื่อ ‘อิงดาว’ อายุ 23 ปี เป็นพนักงานบัญชีตัวเล็กๆ ในบริษัทผลิตเครื่องสำอางอันดับหนึ่งของประเทศ ที่มีความคิดอยากจะจับบอสสุดหล่อของบริษัทไม่ต่างจากพนักงานสาวคนอื่นๆ แต่ทว่าความจริงแล้วฉันเป็นแค่ผู้หญิงเชยๆ ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย สวมแว่นหนาเตอะ ทรงผมเชยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ละความพยายามในการทำคะแนนมัดใจบอสเขาคนนั้นชื่อ ‘ติณณภพ’ อายุ 32 ปี เป็นหนุ่มสุดฮอตที่สุดในบริษัทนี้ และนั่งเก้าอี้เป็นประธานบริษัทอีกด้วย แม้ว่าเขาจะเป็นคนหน้าดูหยิ่งๆ แต่ทว่านั่นกลับเป็นจุดขายที่ทำให้สาวเล็กสาวใหญ่ยิ่งคลั่งไคล้เข้าไปใหญ่ ในชั่วโมงที่การแข่งขันสูงขนาดนี้ฉันจะทำยังไงดีนะ เพื่อที่จะให้ตัวเองได้รับชัยชนะและอยู่ในสายตาเขาบ้าง“ดาว! ดาว! ยัยดาววว!!!”“ห๊ะ! มีอะไรคะพี่นุช” ฉันนั่งเหม่อลอยคิดถึงแต่ใบหน้าของบอสสุดหล่อ จนลืมไปเลยว่าตอนนี้กำลังนั่...
Comments