แชร์

บทที่ 706

ผู้เขียน: กานเฟย
พอหลิงอวี๋ได้ยินว่าหมอหลายคนเห็นด้วย คิด ๆ ดูแล้วก็มิสามารถไปทำลายความกระตือรือร้นของหมอเหล่านี้ได้ จึงเอ่ย

“เช่นนั้นทำตามที่พวกท่านบอกแล้วกัน! ข้าจะตั้งกฎ ไม่ว่าใครจะรับช่วงต่อผู้ป่วยคนใดคนไหน ก็จะต้องบันทึกอาการของผู้ป่วยอย่างซื่อสัตย์และต้องเก็บตำรับยาไว้ด้วย!”

“เราจะมีประชุมกันทุกเช้าเพื่อแจ้งสถานะการรักษาให้รู้ซึ่งกันและกัน! ทำเช่นนี้หากตำรับยาของผู้ใดได้ผลก็จะช่วยส่งเสริมได้โดยเร็วที่สุด!”

คำพูดนี้ทำให้หมอหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าหมอจางจะไม่พอใจนัก แต่จะค้านกับหลิงอวี๋อย่างเปิดเผยเกินไปก็มิดี

“เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้! ข้าจะให้องครักษ์ทำความสะอาดห้องรักษาให้พวกท่านก่อน!”

หลิงอวี๋กำชับเล็กน้อยแล้วเดินออกไป

หลิงหว่านอยู่ในห้องรักษาของหลิงอวี๋ จากนั้นหลิงอวี๋ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

หลิงหว่านเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดทหารตัวน้อยแล้ว เมื่อเห็นหลิงอวี๋เข้ามาก็ยิ้มพลางเอ่ย

“ท่านพี่ อย่าโกรธเลยนะ ข้ามิได้แอบออกมาจริง ๆ!”

“ท่านแม่ของข้ากับเสี่ยวเยี่ยนจื่อจัดการที่อยู่อาศัยเรียบร้อยแล้ว! ท่านแม่ของข้าก็รู้เรื่องที่ข้าออกมาเจ้าค่ะ!”

หลิงอวี๋ขมวดคิ้วมองนาง “จริงหรือ?”

“อื้ม ๆ เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 707

    ก่อนหน้านี้เผยอวี้ยังคิดว่าหลิงหว่านไม่เป็นอะไร ทำให้ลำบากก็ไม่มีทางร้องไห้ออกมา!พอตอนนี้ได้ยินนางร้องไห้เสียใจกับพระชายาอ๋องอี้ถึงเพียงนี้ เขาก็ตระหนักได้ว่า มิใช่ว่าหลิงหว่านมิร้องไห้ แต่นางมิเปิดเผยด้านที่อ่อนแอของนางให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกันเช่นเขาได้เห็นต่างหาก!นี่มันต่างไปจากพวกคุณหนูที่เขาเคยเจอมาอย่างสิ้นเชิงเลย!พวกเพื่อนของน้องสาวตน มีใครบ้างที่จะไม่บอบบางอ่อนแอ บอบช้ำนิดหน่อยก็อยากให้ทุกคนในใต้หล้าเห็นใจนางกันหมดแล้ว!“ไม่ต้องร้องไห้แล้ว! เช็ดน้ำตาเสีย ข้ามีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก ในเมื่อเจ้ามาแล้วก็ช่วยข้าทำงาน! ไปถามแม่ทัพเผยหน่อยว่าทางเขายังมีหน้ากากอยู่หรือไม่?”พอเผยอวี้ได้ยินที่หลิงอวี๋พูดก็รีบเดินออกไปวนรอบ ๆ นอกก่อนจะแสร้งทำเป็นเดินกลับมาหลิงหว่านกำลังจะออกไปตามหาเขาพอดี พอเห็นเผยอวี้จึงเอ่ย“แม่ทัพเผย พระชายาอ๋องอี้ให้ข้ามาถามท่าน ทางท่านยังมีหน้ากากอยู่หรือไม่?”“ข้ากำลังจะคุยเรื่องนี้กับพระชายาอ๋องอี้อยู่พอดี หน้ากากที่นางให้เกิ่งเสี่ยวหาวเตรียมไว้ให้พวกเรา เมื่อครู่ตอนที่ขนของข้าไปดูแล้วไม่เห็นมีอยู่ในรถม้าเลย!”เผยอวี้ได้ยินเซียวหลินเทียนพูดถึงความสำคัญขอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 708

    เซียวหลินเทียนเห็นว่าชายผู้นี้เป็นผู้นำในการขัดขวางอีกก็ทนไม่ไหวแล้ว“ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นคนรู้หนังสือ เช่นนั้นเจ้าน่าจะรู้ถึงเหตุผลที่ต้องอ่านหนังสือแล้วทำความเข้าใจ! ไก่เหล่านี้ ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่พวกมันวิ่งอยู่ข้างนอกตลอดทั้งวัน ติดเชื้อโรคได้มากมายเชียวล่ะ!”“เชื้อโรคเหล่านี้แพร่กระจายทางอากาศ หากพวกเจ้าสูดดมเชื้อโรคบนตัวของพวกมันเข้าไปก็จะติดโรคระบาดไปด้วย!”“พูดจาไร้สาระ กระหม่อมว่าพวกท่านแค่อยากกินเนื้อไก่เนื้อเป็ดก็เลยคิดหาเหตุผลไร้สาระขึ้นมามากกว่า!”หยางซงตะคอกด้วยความโกรธ “วันนี้กระหม่อมจะไม่มอบไก่เหล่านี้ให้ หากท่านทำได้ก็จับกระหม่อมเข้าคุกเลย!”เมื่อเห็นว่าหยางซงดื้อรั้นเช่นนี้ ความอดทนของเซียวหลินเทียนก็หายไปทันที พลางตะคอกเสียงแข็ง“เฉาอี้ เข้าไปจับให้หมด ใครกล้าขัดขวาง ให้ถือเป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่!”เฉาอี้โบกมือ จากนั้นพวกองครักษ์ก็บุกเข้าไป“พวกท่านยังเห็นแก่กฎหมายกันอยู่หรือไม่? ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะไปฟ้องร้องพวกท่าน!”หยางซงรีบวิ่งเข้ามาขวางไว้ แต่แค่องครักษ์คนหนึ่งโบกมือก็ทำเอาเขากระเด็นออกไปได้แล้วหยางซงล้มลงกับพื

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 709

    แต่เฉาอี้ตีลงมาอีกหลายครั้ง ร่างเล็ก ๆ ของหยางซงมีหรือจะทนไหว เขาจึงส่งเสียงร้องออกมาพอหญิงชราได้ยินเสียงร้องของลูกชาย ก็ปวดใจพลางตะโกนอย่างไม่สนใจสิ่งใดแล้ว“ท่านอ๋อง หยุดตีเถิดเพคะ… พวกท่านเอาไก่ออกไปให้หมดเลย! เราไม่ต้องการแล้ว… ได้โปรดปล่อยลูกชายของหม่อมฉันเถิด!”“หม่อมฉันจะจับไปพวกมันให้เอง...”หญิงชราพุ่งไปที่เล้าไก่และรีบจับไก่เอาไว้เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นสิ่งนี้ ก็ส่งสัญญาณให้เฉาอี้หยุดเขาหันกลับไปพูดกับพวกคนที่ดูอยู่ “ชาวบ้านทุกคน ข้ารู้ว่าการเลี้ยงไก่กับเป็ดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไก่กับเป็ดเหล่านี้มีเชื้อโรคที่พวกเจ้ามองไม่เห็น หากมิฆ่าพวกมันแล้วยังใช้ชีวิตอยู่กับพวกมันต่อ ไม่ช้าก็เร็วทุกคนจะติดโรคระบาดกันหมด!”“เมื่อเทียบกับชีวิตหนึ่งชีวิตแล้ว พวกเจ้าต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่าสิ่งใดสำคัญกว่า!”“หากกังวลว่ากองทัพของข้าจะเอาไก่กับเป็ดพวกนี้ไปกิน พวกเจ้าก็ตามข้าไปดูตรงทางเข้าหมู่บ้านได้ว่าข้ายักยอกพวกมันไปหรือไม่!”พวกชาวบ้านตกใจกับการกระทำของเซียวหลินเทียนจึงมิกล้าต่อต้านอีกต่อไป พวกเขาจ้องมองพวกเฉาอี้กับกลุ่มองครักษ์ขนไก่ เป็ด และหมูในครอบครัวขึ้นรถม้าไปที่ทางเข้าหมู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 710

    ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนได้ยินมาว่าหยางต้าหู่ปฏิเสธมิให้เข้าหมู่บ้านกระทั่งคนที่หลี่เจิ้งพามาเมื่อเห็นฝูงชนที่อยู่ด้านหลังหยางต้าหู่ เซียวหลินเทียนก็ยิ้มอย่างเย็นชา นี่มีการเตรียมพร้อมมาแล้ว!“หยางต้าหู่ ข้ามิใช่คนไร้เหตุผล แต่ที่พวกเจ้ามิให้เข้าไปฆ่าพวกสัตว์ปีก นั่นคือสิ่งที่ครอบครัวเจ้าต้องการหรือเป็นสิ่งที่ทุกคนคิด?”หยางต้าหู่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องอี้ นี่เป็นการตัดสินใจที่เราทุกคนได้หารือร่วมกันแล้ว!”เซียวหลินเทียนยิ้มบาง ๆ พลางเอ่ย “หยางต้าหู่ เจ้ามีเหตุผลเช่นนี้ ช่วยข้าลดภาระงานไปได้ทีเดียว ข้ารู้สึกซาบซึ้งมาก!”“แต่ข้ามากำจัดโรคระบาดตามคำสั่งของราชสำนัก มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของข้า บางคำพูดก็จำต้องพูดให้ชัดเจน!”หยางต้าหู่เอ่ยด้วยความเคารพ “เชิญท่านอ๋องอี้บอกมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพร้อมฟังแล้ว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา “ราชสำนักมีเครื่องยาสมุนไพรที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยโรคระบาดอย่างจำกัด ข้าทำงานอย่างหนักเพราะอยากจะป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาด และลดจำนวนผู้ป่วยลง เพื่อที่เครื่องยาสมุนไพรที่มีจำกัดจะได้ใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด!”“หยางต้าหู่ ข้าเข้าใจพวกเจ้า แต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 711

    วันนี้หลิงอวี๋ไม่ได้พักผ่อนสักเท่าใด นางเขียนตำรับยาให้บรรดาผู้ป่วยของตนเอง แล้วให้หลิงซวนไปต้มยาให้พวกเขาดื่มปู่หยางกับหยางต้ายาก็เป็นผู้ป่วยของหลิงอวี๋ และยังมีภรรยาของหยางซงอีกด้วยแม่นางหยางตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว ตามร่างกายมีแผลพุพอง นางเป็นไข้หวัดนก หลิงอวี๋ต้องให้ยานางอย่างระมัดระวังและรอบคอบมาก เพราะกลัวว่ายาจะมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ของนางหลิงอวี๋กับแม่นางหยางคุยกันเรื่องผลกระทบจากโรคระบาดที่อาจกระทบต่อเด็กในครรภ์แม่นางหยางเอ่ยอย่างกังวล “เช่นนั้นข้าไม่กินยาเจ้าค่ะ! สักพักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างอดทน “โรคชนิดนี้ถึงพักไปก็มิสามารถหายได้หรอก! แม่นางหยาง หากเจ้ามิกินยา อาการก็อาจจะแย่ลง!”“ข้ากินยามิได้… กว่าจะท้องลูกคนนี้ข้าลำบากมาก ก่อนหน้านี้แม่สามีให้เจ้าอาวาสวัดทำนายให้ ลูกคนนี้ต้องเป็นเด็กผู้ชายแน่นอนเจ้าค่ะ!”“ข้าจะต้องให้กำเนิดเขา!”แม่นางหยางเอ่ยอย่างกังวล “พระชายาอ๋องอี้ ท่านบอกว่าท่านเป็นหมอชั้นเซียนมิใช่หรือ? ท่านไม่มียาที่ช่วยให้ลูกของข้าเกิดมาอย่างแข็งแรงหรือเจ้าคะ?”“ขึ้นชื่อว่ายาย่อมมีสามส่วนที่เป็นพิษ ข้ามิกล้าสามารถรับปร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 712

    หลิงอวี๋ได้ยินแล้วก็ถอนหายใจโล่งอกพลางเอ่ย “เรากำลังตรวจสอบว่าตำรับยาใดที่ใช้ได้ผลกับโรคระบาดนี้ ขอเพียงได้ผล ก็จะเร่งผลักดันโดยเร็วที่สุด!”“อืม! เจ้าพยายามทำให้ดีที่สุดก็พอ! อย่าให้ตัวเองเหนื่อยล้ามากนัก ดูแลสุขภาพด้วย!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใส่ใจหลิงอวี๋เงยหน้าขึ้นมองเขา นางคุ้นเคยกับเซียวหลินเทียนที่นั่งอยู่บนรถเข็น พอลุกขึ้นได้เช่นนี้ นางถึงได้พบว่าเขาสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรเลย กดความสูงของตนไปหมดสิ้นเลยทีเดียว!ชุดเกราะสีดำของเซียวหลินเทียนดูสง่างามมาก แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากาก แต่คิ้วหล่อเหลาของเขาที่พ้นออกมานอกหน้ากากก็ดูดีจับตามาก ๆหลิงอวี๋ยกกำปั้นขึ้น พลางเอ่ยยิ้ม ๆ “ท่านก็สุขภาพของตัวเองด้วย! เรามาสู้ไปด้วยกันแล้วกำจัดโรคระบาดให้ได้โดยเร็วที่สุดกันเถิดเพคะ!”“ท่าทางเช่นนี้หมายถึงการให้กำลังใจหรือ?”เซียวหลินเทียนมองเห็นเพียงดวงตาของหลิงอวี๋ เขาจึงคาดเดาสีหน้าของนางภายใต้หน้ากาก คิ้วโค้งงอนั่น คงกำลังยิ้มอยู่สินะ!“เพคะ! แล้วก็ท่านี้… หมายถึงชัยชนะ!”หลิงอวี๋ทำสัญลักษณ์ชูสองนิ้วมุมปากของเซียวหลินเทียนยกขึ้น คิดว่าน่าสนใจมาก จึงทำตามหลิงอวี๋อีกครั้ง“เช่นนั้นเรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 713

    “ขอแสดงความยินดีกับหมอเฝิงด้วย…”หมอหานกับหมอหลี่ต่างก็แสดงความยินดีกับหมอเฝิงหลังจากได้รับคำชมไปเล็กน้อย หมอเฝิงก็รู้สึกยินดีขึ้นมาทันที พลางเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ“ข้าก็บอกแล้วว่า ตำรับของข้าได้รับการยกย่องจากถังถีเตี่ยนแต่มีบางคนมิเชื่อ!”“เรียนทักษะการแพทย์ได้สองสามวันก็ไม่เห็นหัวใครแล้ว องค์จักรพรรดิเองก็ถูกนางหลอกเช่นกัน จึงแต่งตั้งนางให้เป็นหัวหน้า!”แม้ว่าหมอเฝิงจะมิได้เอ่ยชื่อ แต่หมอหานกับคนอื่น ๆ ก็รู้ว่าเขากำลังเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้หลิงอวี๋เดินออกมาพอดี ได้ยินดังนั้นก็มิได้โกรธทั้งยังเอ่ยอย่างสุภาพอีกด้วย“ทุกท่านไปที่ห้องรักษาก่อนเถิด! เรามาหารือเรื่องตำรับยาและวิธีการรักษาของหมอเฝิงกัน หากได้ผลจริง จะได้ให้ท่านอ๋องอี้ช่วยผลักดัน!”“เหตุใดจะมิได้ผลเล่า? ผู้ป่วยเหล่านั้นคือตัวอย่างที่มีชีวิต!”หมอเฝิงยิ้มอย่างเย็นชา พลางเอ่ยด้วยท่าทีแปลก ๆ“พระชายาอ๋องอี้มิยอมรับหรือว่าทักษะทางการแพทย์ของข้าดีกว่าของท่าน? ในฐานะแพทย์ท่านควรจะใจกว้าง และถ่อมตัวพร้อมที่จะเรียนรู้เพื่อที่จะได้ไปได้ไกล!”หลิงอวี๋ยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ย “หมอเฝิงกังวลเกินไปแล้ว! หลิงอวี๋ได้รับคำสั่งให้มารักษ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 714

    หมอเฝิงเอ่ยอย่างไม่สนใจ “ข้ารู้ว่านางตั้งครรภ์! แต่ตำรับยานี้มิเป็นอันตรายต่อนาง เมื่อครู่ข้าไปตรวจนางแล้ว ตุ่มน้ำของนางก็หายพองแล้ว…”“เลอะเทอะ! ในตำรับยานี้มีชาดอยู่ หากใช้กับผู้ป่วยโรคระบาดทั่วไป มันสามารถขจัดอาการบวม แผลที่ผิวหนัง และล้างพิษได้จริง!”“แต่ชาดเป็นพิษ หากใช้กับสตรีมีครรภ์ ในกรณีที่ไม่รุนแรงอาจทำให้แท้งได้ แต่ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านก็รู้อยู่ว่าแม่นางหยางเป็นสตรีมีครรภ์ เหตุใดจึงกล้าให้นางใช้ยาเช่นนี้!"แต่หมอเฝิงยิ้มอย่างดูหมิ่นคำพูดของหลิงอวี๋พลางเอ่ย “จะเป็นไปได้เยี่ยงไร! ชาดมีฤทธิ์ในการทำให้จิตใจสงบ ขจัดความร้อนและล้างพิษ และช่วยในการมองเห็น! เราใช้มันมาหลายปีแล้วมิเคยได้ยินว่ามันมีพิษเลย!”“พระชายาอ๋องอี้ หากท่านมิอยากเสียตำแหน่งก็พูดมาตามตรง เหตุใดถึงต้องตื่นตระหนกเช่นนี้ด้วย?”“ข้าตื่นตระหนกหรือ?”หลิงอวี๋โกรธมากพลางเอ่ย “ท่านรู้เพียงแค่ขนของชาดเท่านั้นกลับกล้าใช้ส่งเดช… ข้าจะบอกท่านเองว่าแท้จริงแล้วควรจะใช้ชาดเยี่ยงไร…”ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดจบ ผู้ช่วยของหมอเฝิงก็วิ่งเข้ามา พลางตะโกนด้วยความตื่น

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1806

    กระบี่คุนอู๋?หรือว่านี่จะเป็นกระบี่เทพในตำนาน?เซียวหลินเทียนเป็นคนที่รักกระบี่ เมื่อก่อนตอนที่เป็นอ๋องอี้ก็สะสมกระบี่ที่มีชื่อเสียงไว้มิน้อยแต่กระบี่ที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น หากมาเทียบกับกระบี่คุนอู๋เล่มนี้ก็ล้วนเป็นขยะไปทั้งหมดนี่คือกระบี่คุนอู๋จริงหรือ?เซียวหลินเทียนมิอยากจะเชื่อว่านี่คือกระบี่โบราณอายุกว่าพันปี ซึ่งคนในใต้หล้ามิเคยได้เห็นมาก่อน ดังนั้นแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้จักกระบี่คุนอู๋ แต่ก็คิดว่าเป็นเพียงเทพนิยายที่คนในใต้หล้าแต่งขึ้นมาเอง!ตำนานกล่าวไว้ว่า กระบี่คุนอู๋เกิดจากกระดูกสันหลัง การบำเพ็ญตนเป็นเวลาร้อยปีและพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของผานกู่บรรพบุรุษผู้บุกเบิกที่ผสานรวมกับพลังชีวิตของฟ้าดินตามตำนานกล่าวไว้ว่า หลังจากที่ผานกู่หลอมกระบี่คุนอู๋สำเร็จแล้ว เขาก็มิสามารถควบคุมมันได้ เนื่องด้วยพลังวิญญาณของกระบี่เล่มนี้แข็งแกร่งมาก สุดท้ายจึงทำได้เพียงเก็บรวบรวมพลังชีวิตและพลังวิญญาณทั้งหมดไว้ในกระบี่คุนอู๋นี้กระบี่คุนอู๋เป็นบรรพบุรุษของกระบี่ ความคมของกระบี่นั้นสามารถทำลายฟ้าดินได้เลยทีเดียวหากว่านี่คือกระบี่คุนอู๋ในตำนานจริง ๆ เช่นนั้นก็ต้องอยู่ในสามอันดับแร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1805

    ก้อนน้ำแข็งแตกจำนวนนับมิถ้วนพากันกระแทกเข้ามา แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะมีวรยุทธ์ไร้เทียมทาน แต่ก็มิอาจหนีพ้นการแก้แค้นที่รุนแรงของธรรมชาติเช่นนี้ไปได้เขาเบี่ยงหลบไปทางซ้ายทีขวาที แต่เพราะว่าหล่นลงมารวดเร็วจนเกินไป จึงมิอาจหลบพ้นก้อนน้ำแข็งเหล่านั้นที่พากันกระแทกเข้ามาได้ก้อนน้ำแข็งก้อนหนึ่งกระแทกเข้ามาที่หัวของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนรู้สึกว่าหัวของตนมีเลือดไหลออกมา แต่ยังมิทันจะได้ยื่นมือไปสัมผัส ก็มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่มากก้อนหนึ่งกระแทกเข้ามาอีก เซียวหลินเทียนรู้สึกว่าตรงหน้ามืดลงไปทันที และมองก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้นพุ่งเข้ามาใส่ตนอย่างสิ้นหวังคราวนี้จะต้องตายอยู่ในภูเขาหิมะแห่งนี้จริง ๆ หรือ?อาอวี๋ ข้าจะยังได้พบเจ้าหรือไม่?เซียวหลินเทียนยังมิทันได้ย้อนรำลึกถึงช่วงชีวิตนี้ เขาก็ได้ยินเสียงดังลั่น จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าร่างกายตนกระเทือนแล้วตกลงไปในความมืดมิรู้ว่าเซียวหลินเทียนสลบไปนานเท่าไรก่อนที่จะได้สติขึ้นมา ยังมิทันที่เขาจะลืมตา ก็รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดไปทั้งตัวราวกับว่าตัวจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆในเมื่อรู้สึกเจ็บปวดได้ก็แสดงว่าตนยังคงมีชีวิตอยู่ เซียวหลินเทียนลืมตาขึ้นอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1804

    ฉินซานเห็นว่าเซียวหลินเทียน ขันทีโม่และเก๋อเฟิ่งฉิงร่วงลงไปกันอย่างรวดเร็วปานนั้น ต่อให้ตนกระโดดลงไปก็มิสามารถช่วยเซียนหลินเทียนขึ้นมาได้แล้ว เขาจึงกระโดดตามหานเหมยออกมาจากหุบเขาส่วนซูจู๋นางรับใช้ของเก๋อเฟิ่งฉิง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์มิดีก็หนีออกไปพร้อมกับคนรับใช้คนอื่น ๆ นานแล้วทุกคนหนีออกมาค่อนข้างไกลแล้วและมายืนอยู่ข้างนอกหุบเขา แต่ก็ยังได้ยินเสียงของก้อนน้ำแข็งเหล่านั้นดังสนั่นอยู่“พวกเขา… คุณหนูยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”ซูจู๋ตกใจเสียจนตาค้างไปหมด ผ่านเวลาไปสักพักจึงเรียกสติกลับคืนมาได้ นางจึงเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเทาทั้งหานเหมยและฉินซานเองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะตอบคำถามของนาง พวกเขามองภาพที่ภูเขาหิมะถล่มลงมาอย่างตื่นตระหนก มิเข้าใจเลยว่าคนของตระกูลเฉียวทำลงได้อย่างไร!พวกเฉียวไป๋ยืนอยู่บนยอดเขาตรงกันข้าม แล้วจ้องมองภาพหิมะถล่มนั้นอย่างเย็นชาหลังจากที่ได้รู้ว่าเซียวหลินเทียนคือสามีของหลิงอวี๋ พ่อของเฉียวไป๋ ผู้ซึ่งเป็นนายใหญ่ตระกูลเฉียวผู้นำตระกูลคนปัจจุบันก็วางแผนที่จะแก้แค้นแทนบุตรชายของตนนี่เป็นเพียงแค่ขั้นแรกในการแก้แค้นของนายใหญ่เฉียวเท่านั้นสังหารคนหนุนหลังของหลิงอวี๋ไป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1803

    เซียวหลินเทียนมองมิเห็นคนของตระกูลเฉียว เพราะถูกยอดภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้บดบังสายตาอยู่“ทุกคนระวังด้วย! ดูแลกันเข้าไว้!”เซียวหลินเทียนกำชับพวกฉินซานให้ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย ส่วนตนกับขันทีโม่ก็อาศัยว่ามีวรยุทธ์ที่สูงกว่าพวกเขา จึงไปค้นหาเส้นทางอยู่ทางด้านหน้าเก๋อเฟิ่งฉิงมิปล่อยให้โอกาสในการได้ใกล้ชิดกับเซียวหลินเทียนหลุดลอยไป นางจึงตามไปเช่นกันก่อนหน้านี้เก๋อเฟิ่งเจียวทำให้เก๋อเฟิ่งฉิงเสียเรื่อง ดังนั้นในการเข้ามาที่ภูเขาหิมะครั้งนี้ เก๋อเฟิ่งฉิงจึงมิได้พาเก๋อเฟิ่งเจียวมาด้วยทางด้านหานอวี้ตั้งใจจะสร้างโอกาสให้ฉินซานกับพี่สาวของตน จึงลากเถาจื่อไปพลางเอ่ยออกมา “เราสองคนไปด้วยกัน จะได้ดูแลกันและกัน!”ดังนั้นคนที่เหลือก็มีเพียงแค่ฉินซานกับหานเหมยแล้ว ฉินซานจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างใจดี “เช่นนั้นข้าก็อยู่กลุ่มเดียวกับหานเหมย!”เขาจึงคว้าแขนของหานเหมยไว้ จากนั้นก็ตามไปพร้อมกันหานเหมยหน้าแดงขึ้นมา แต่ก็มิได้สะบัดมือฉินซานออกไปหานอวี้บอกกับนางว่า การที่นางหายตัวไปครั้งนี้นั้นฉินซานกระวนกระวายมาก และตั้งใจที่จะมาตามหานาง“พี่หญิง การที่เจ้ามีความทะเยอทะยานก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องแต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1802

    ทางด้านเถ้าแก่เจียง ท่านป้าวบอกว่าจะช่วยหลิงอวี๋ตามหาน้องสาว จึงจะให้หลิงอวี๋อยู่ที่นี่สักสองสามวัน เขาเห็นว่าหลิงอวี๋ก็ดูท่าทางเห็นด้วยเช่นกัน จึงมิได้ใส่ใจ ให้หลิงอวี๋อยู่ที่นี่ส่วนตนก็พาเสี่ยวซานเอ๋อร์กลับในตอนที่ยังมิรู้ถึงบทบาทของหลิงอวี๋ที่มีต่อหวงฝู่หลินอย่างแน่ชัดนี้ ท่านป้าวจึงจัดให้หลิงอวี๋ไปอยู่ที่เรือนทางสวนด้านหลังที่อยู่ห่างออกไป แต่แม้ว่าจะห่างไกลก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มิได้เพิกเฉยหลิงอวี๋ไปท่านป้าวมิได้เอ่ยถึงเรื่องที่จะช่วยหลิงอวี๋ตามหาน้องสาว หลิงอวี๋ก็มิอยากจะพูดเช่นกัน นางรู้สึกว่าตนตกอยู่ในเงื้อมมือของหวงฝู่หลินเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วหากตามหาน้องสาวเจอ ก็จะเป็นการเพิ่มคนที่หวงฝู่หลินจะนำมาข่มขู่ตนมากขึ้นอีกคนหลังจากนี้เมื่อตนสามารถหลุดพ้นออกมาได้ ก็ค่อยไปตามหาน้องสาวแล้วกันหลิงซินเห็นว่าหลิงอวี๋จัดการเพียงชั่วครู่ ก็ทำให้ท่านป้าวที่เป็นดั่งหอคอยเหล็กผู้นั้นเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนางไปได้แล้ว ความหวาดกลัวในใจก็ลดลงไปมากนางรู้สึกว่า ความสามารถของคุณหนูผู้นี้มีมากกว่าเถ้าแก่เจียงอีก การติดตามนางดูน่าจะไม่มีอันตรายใด ๆกระทั่งเถ้าแก่เจียงกลับไปแล้ว หล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1801

    หน้ากากผิวหนังมนุษย์นั้นเมื่อตรวจสอบก็เปิดเผยออกมาทันที เมื่อแม่นมหน้าเหมือนม้าผู้นั้นฉีกหน้ากากออกจากใบหน้าของหลิงอวี๋ ก็เผยให้เห็นใบหน้าของหลิงอวี๋ที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลจากมีด“เหอะ ๆ รีบไปบอกนายใหญ่เสียว่า ข้าเจอคนที่เขาตามหาแล้ว!”แม่นมหน้าเหมือนม้าส่งหน้ากากผิวหนังมนุษย์ให้แม่นมอีกคนอย่างพึงพอใจ จากนั้นแม่นมผู้นั้นก็รีบวิ่งออกไปแจ้งข่าวหลิงซินถูกแม่นมคนหนึ่งกดอยู่ที่พื้นจนมิสามารถเคลื่อนไหวได้ และนางก็มองคุณหนูที่ตนเพิ่งจะรู้จักมิถึงสองวันดีกลายเป็นอีกคนไปอย่างตกตะลึงหลังจากที่หลิงอวี๋ถูกเปิดเผยตัวตนแล้ว ทางด้านแม่นมหน้าเหมือนม้าก็มิได้ทำให้นางต้องลำบากอีก จึงให้พวกแม่นมปล่อยหลิงอวี๋พวกนางเพียงแค่ต้องเฝ้าหลิงอวี๋เอาไว้ มิให้นางหนีไปได้ก็พอแล้วเมื่อหลิงอวี๋ถูกพยุงขึ้นมา หัวใจที่ว้าวุ่นของนางก็ค่อย ๆ สงบลงหวงฝู่หลินไม่มีทางให้ตนตายไปก่อนที่เขาจะได้ตำรับยาห้ามเลือดไปหรอก!บางทีตนอาจจะยังสามารถพึ่งพายันต์ช่วยชีวิตนี้ทำให้หวงฝู่หลินปล่อยตนไปได้อยู่เรื่องการขโมยนั้นมีคำสารภาพของหัวหน้าเสิ่นอยู่ ก็น่าจะสามารถอธิบายให้ชัดเจนได้หลิงอวี๋ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความมั่นใจ จึงนั่งลงไป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1800

    เผยอวี้ก็เคยเห็นคนที่ผ่านอุปสรรคมามายมากเช่นกัน หางตาของเขาเห็นพวกป้าวเฉิงมองตนกับหลิงอวี๋อย่างแปลกประหลาดก็มิกล้าพูดอะไรอีกเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมรับ เผยอวี้ก็เอ่ยออกไป “เจ้าชื่อเจียงเสี่ยวยาหรือ เช่นนั้นข้าก็คงจำคนผิดแล้ว แผ่นหลังของเจ้ากับของสหายข้าดูค่อนข้างคล้ายกัน เมื่อครู่ข้าคิดว่าเจ้าคือนาง!”“ขอโทษด้วย ข้าบุ่มบ่ามไปหน่อย!”เผยอวี้ประสานมือควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นของตนเอาไว้ แล้วเดินออกไปใบหน้าสามารถปลอมแปลงกันได้ แต่เสียงของหลิงอวี๋กับแผ่นหลังของนางทำให้เผยอวี้มั่นใจว่าคนตรงหน้าก็คือหลิงอวี๋มิรู้ว่าฮองเฮาไปตกอยู่ในมือของป้าวเฉิงได้อย่างไร?คนที่เขาพามาด้วยตอนนี้มีมิมากนัก แม้ว่าจะพยายามพาตัวฮองเฮาไป ก็คงจะหนีมิพ้นมือของป้าวเฉิงตอนนี้เขามิอาจแหวกหญ้าให้งูตื่นได้ รอกลับไปก่อนแล้วค่อยหาคนมาช่วยหลิงอวี๋ดีกว่าอีกทั้งยังต้องคิดวิธีส่งจดหมายไปให้เซียวหลินเทียนให้เขารีบกลับมาอีกหลิงอวี๋เห็นว่าเผยอวี้มิได้ซักถามอะไรอีก ก็แอบถอนหายใจโล่งอก แล้วหันหลังตามพวกเถ้าแก่เจียงไปแต่หลิงอวี๋กับเผยอวี้ไม่มีทางคาดคิดเลยว่า เหตุการณ์เล็ก ๆ นี้กลับอยู่ในสายตาของป้าวเฉิงป้าวเฉิงมิใช่ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1799

    เถ้าแก่ป้าวรู้จักเผยอวี้ก็เพราะเรื่องที่เซียวหลินเทียนซื้อทาสหญิงเกวียนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว ลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้มิได้พบบ่อย ๆ ดังนั้นเถ้าแก่ป้าวจึงไปสืบมาเล็กน้อยและได้รู้ที่มาของเซียวหลินเทียนอย่างชัดเจนแม้ว่าเถ้าแก่ป้าวจะมิได้ทำงานให้เซียนหลินเทียน แต่ว่าถิ่นที่เขาอยู่นั้นเป็นของเยวี่ยใต้และมู่หรงเหยียนซงกษัตริย์ของเยวี่ยใต้ก็สนิทกับเซียวหลินเทียนราวกับพี่น้องกัน หากมิถึงขั้นจำเป็นจริง ๆ เถ้าแก่ป้าวก็มิอยากจะเป็นศัตรูกับราชสำนัก ดังนั้นจึงมีความเกรงใจต่อพวกของเซียวหลินเทียนอยู่พอเป็นพิธี“แม่ทัพเผย ท่านมาได้อย่างไร? หรือว่าท่านเองก็สนใจคนที่ถูกสังหารนี้?”ป้าวเฉิงหัวเราะเหอะ ๆ“ผู้ว่าการอำเภอหยางของพวกเจ้าได้ยินว่ามีคนถูกสังหารจึงมาดู ส่วนข้าก็มิได้มีธุระอะไรจึงตามมาดูเรื่องสนุก!”คนที่อยู่ข้าง ๆ เผยอวี้ก็คือผู้ว่าการอำเถอในแถบนี้ แม้ว่าจะมีป้าวเฉิงอยู่และตำแหน่งของเขานั้นก็แทบจะไม่มีความหมาย แต่สิ่งที่เขาควรจะแสดงตัวก็ต้องแสดงตัวเสียหน่อย“ท่านป้าว ท่านรู้จักคนผู้นี้หรือ?”ผู้ว่าการอำเภอหยางเอ่ยถาม“มิรู้จัก ก็แค่ลูกน้องของข้ามาพบว่ามีคนถูกสังหาร ข้าเองก็มาดูเรื่องสนุกเช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1798

    หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดนี้ ใจก็กระตุกไปเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปลูบหน้าของตนโดยมิรู้ตัวคนที่ป้าวเฉิงช่วยตระกูลหวงฝู่ตามหาก็คือตน!แล้วคนที่เขาบอกว่าถูกสังหารไปแล้วนั่นคือใครกัน?หรือว่าจะเป็นหัวหน้าเสิ่นกับเสี่ยวเจียง?หลิงอวี๋เหงื่อตก หากเป็นพวกเขาสองคนที่ถูกสังหารไปจริง ๆ แล้วคนที่สังหารพวกเขาคือใคร?หากมือสังหารพบว่าหัวหน้าเสิ่นมิได้สังหารตน จะกำลังตามหาตนอยู่หรือไม่?เถ้าแก่เจียงที่อยู่ด้านหน้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของป้าวเฉิงกับตระกูลหวงฝู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยออกไป “คนตายไปแล้วก็ส่งศพไปให้เจ้าวังก็จบแล้ว เหตุใดพี่ใหญ่ป้าวต้องไปตรวจสอบด้วยตนเองเล่า!”“เจ้ามิเข้าใจ คนที่เจ้าวังต้องการคือสตรีผู้หนึ่ง สตรีผู้นั้นมีความสำคัญต่อเจ้าวังมาก เจ้าวังบอกมาว่าขอเพียงข้าตามหานางพบและยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะให้สมบัติก้อนโตกับข้า!”ป้าวเฉิงเอ่ยอย่างเป็นทุกข์ “สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ก็คือ คนที่ถูกสังหารจะเป็นสตรีผู้นั้น เช่นนั้นก็มิสามารถไปอธิบายกับเจ้าวังได้แล้ว!”“จริงสิ บอกเรื่องของเจ้ามาก่อนเถิด เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”เถ้าแก่เจียงจึงหันไปเรียก “น้องหญิง มานี่!”

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status