หมอเฝิงเอ่ยอย่างไม่สนใจ “ข้ารู้ว่านางตั้งครรภ์! แต่ตำรับยานี้มิเป็นอันตรายต่อนาง เมื่อครู่ข้าไปตรวจนางแล้ว ตุ่มน้ำของนางก็หายพองแล้ว…”“เลอะเทอะ! ในตำรับยานี้มีชาดอยู่ หากใช้กับผู้ป่วยโรคระบาดทั่วไป มันสามารถขจัดอาการบวม แผลที่ผิวหนัง และล้างพิษได้จริง!”“แต่ชาดเป็นพิษ หากใช้กับสตรีมีครรภ์ ในกรณีที่ไม่รุนแรงอาจทำให้แท้งได้ แต่ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านก็รู้อยู่ว่าแม่นางหยางเป็นสตรีมีครรภ์ เหตุใดจึงกล้าให้นางใช้ยาเช่นนี้!"แต่หมอเฝิงยิ้มอย่างดูหมิ่นคำพูดของหลิงอวี๋พลางเอ่ย “จะเป็นไปได้เยี่ยงไร! ชาดมีฤทธิ์ในการทำให้จิตใจสงบ ขจัดความร้อนและล้างพิษ และช่วยในการมองเห็น! เราใช้มันมาหลายปีแล้วมิเคยได้ยินว่ามันมีพิษเลย!”“พระชายาอ๋องอี้ หากท่านมิอยากเสียตำแหน่งก็พูดมาตามตรง เหตุใดถึงต้องตื่นตระหนกเช่นนี้ด้วย?”“ข้าตื่นตระหนกหรือ?”หลิงอวี๋โกรธมากพลางเอ่ย “ท่านรู้เพียงแค่ขนของชาดเท่านั้นกลับกล้าใช้ส่งเดช… ข้าจะบอกท่านเองว่าแท้จริงแล้วควรจะใช้ชาดเยี่ยงไร…”ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดจบ ผู้ช่วยของหมอเฝิงก็วิ่งเข้ามา พลางตะโกนด้วยความตื่น
“รู้สึกดีจริง ๆ ที่ยืนได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มให้หลิงอวี๋พลางเอ่ย "เมื่อก่อนข้านั่งอยู่บนรถเข็น เวลาอยากจะตีใครก็มิค่อยสะดวก! ตอนนี้มิต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว..."หลิงอวี๋หัวเราะ แต่ไม่มีเวลาที่จะยกย่องเซียวหลินเทียน นางจับชีพจรของแม่นางหยางอย่างตั้งใจ พลางเขียนตำรับยา“หลิงซวน ไปเอายานี้ที่ร้านยา! เตรียมยาสามชามให้เป็นชามเดียวแล้วนำมา!”หลิงซวนรีบรับตำรับยาแล้วออกไปส่งให้เถาจื่อหมอเฝิงยืนอยู่ตรงลานอย่างมิพอใจ เขาถูกเซียวหลินเทียนโยนออกมาทำให้รู้สึกอับอายมาก ๆ เขามิกล้าดุด่าเซียวหลินเทียนทำได้เพียงแค่รอให้หลิงอวี๋ออกมาแล้วตำหนิหลิงอวี๋หมอหานจากโรงไป๋เฉ่ากับหมอเฉินจากโรงหุยชุนยืนเงียบ ๆ อยู่ที่หน้าประตู พลางมองหลิงอวี๋รักษาแม่นางหยางเมื่อเห็นเข็มฉีดยาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในมือของหลิงอวี๋ ดวงตาของหมอเฉินกะพริบเล็กน้อยส่วนหมอหานดูงุนงง พลางครุ่นคิด...ช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปหลังจากที่ฉีดยาเข้าไป ท้องของแม่นางหยางก็ไม่เจ็บแล้ว เลือดก็หยุดไหลแล้วด้วยนางยังคงมองหลิงอวี๋ด้วยความตื่นตระหนกพลางเอ่ยถาม “พระชายาอ๋องอี้ ลูกของข้าเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”“ตอนนี้เด็กไม่เป็นอะไร! เจ้าฟังข้าให้
หมอเฝิงตกใจกับความโกรธอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียน เสียงของเขาจึงเบาลงเล็กน้อยแต่ก็ยังยืนกรานแก้ต่างอยู่“ท่านอ๋องอี้ เราพูดกันแบบมีเหตุผลเถิดพ่ะย่ะค่ะ… พวกหมอหานต่างก็เห็นว่าก่อนหน้านี้ผู้ป่วยของกระหม่อมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้กลับแย่ลง นี่ต้องมีคนเล่นมิซื่อเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านจะเห็นแก่นางเพียงเพราะว่านางเป็นพระชายาของท่านมิได้พ่ะย่ะค่ะ!”“พระชายาอ๋องอี้ดูแลหออักษรนี้อยู่ นางอยากจะทำการใดก็ง่ายนัก! ท่านให้พระชายาอ๋องอี้แสดงหลักฐานมาพิสูจน์ว่านางมิได้ทำ แล้วเราก็จะเชื่อนางพ่ะย่ะค่ะ!”“มิเช่นนั้น… เรามิยอมรับ!”หมอเฝิงดึงพวกหมอหานเข้ามาในฝั่งของตนอย่างชาญฉลาดหลิงอวี๋โกรธ จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ย “เดิมทีแล้วผู้ใดอ้างหลักฐานผู้นั้นต้องเป็นคนหาหลักฐาน! ท่านบอกว่าข้าเล่นมิซื่อ ท่านก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์สิ!”“แต่หมอเฝิง มิใช่ว่าข้าดูถูกท่านหรือไร แต่จนถึงตอนนี้ท่านยังมิรู้ว่าตนเองผิดที่ใด หากให้ท่านไปหาหลักฐานมันคงจะยากเกินไปสำหรับท่าน!”“ข้าจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ท่านเห็นเองแล้วกัน!”หลิงอวี๋พูดขณะที่หยิบตำรับยาหมอเฝิงออกมา พลางเอ่ยกับพวกหมอหาน“เมื่อวานตอนที่ข้าคุยกั
หมอหลี่จากเขตหลินก็กลัวว่าตำรับยาของหมอเฝิงจะไม่ถูกและตนจะเข้าไปพัวพันด้วย จึงช่วยเอ่ย“หมอเฉินพูดถูก โรคระบาดมันอันตรายถึงเพียงนี้ หมอเฝิงจะมาจัดการกับโรคระบาดโดยมิคำนึงถึงความปลอดภัยส่วนบุคคลได้เยี่ยงไร ถึงไม่มีความดีความชอบก็ยังมีความดีที่ทำงานหนัก! ท่านอ๋องอี้ พระชายาอ๋องอี้ โปรดไว้ชีวิตเขาในครั้งนี้ด้วยเถิด!”หมอหานพยักหน้าเล็กน้อย พลางเอ่ยอย่างเห็นด้วย “พระชายาอ๋องอี้ ท่านมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม หมอเฝิงมิได้เก่งเท่าท่าน ก็ให้เขาเรียนได้เรียนรู้อย่างดีไปด้วยเถิด!”หมอเฝิงคุกเข่าลงทันทีพลางร้องขอความเมตตา“พระชายาอ๋องอี้ ทักษะการแพทย์ของท่านยอดเยี่ยมมาก! ข้าเข้าใจท่านผิดไปแล้ว!”“ข้าขออภัย พระชายาอ๋องอี้โปรดจำไว้ว่า ข้าก็ใส่ใจผู้ป่วยเช่นกัน อย่าเอาความข้าเลย!”“และพระชายาอ๋องอี้โปรดคิดตำรับยาที่ได้ผล พวกเราจะทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อกำจัดโรคระบาดโดยเร็วที่สุด!”เซียวหลินเทียนมองหมอเฝิงอย่างเย็นชา ชายผู้นี้สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้เยี่ยมมากเขามองไปที่หลิงอวี๋ที่ส่ายหัวให้เขา“ท่านอ๋อง พวกเขาพูดถูก เวลานี้ต้องใช้กำลังคน ในเมื่อหมอเฝิงรู้ข้อผิดพลาดของตนเองแล้ว
หลิงอวี๋รีบไปตรวจดูแล้วพบว่าเขามีตุ่มน้ำแผลพุพองที่คอด้วยหลิงอวี๋ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด หลี่เฉียงผู้นี้ นางบอกให้เขามาหานางทันทีที่รู้สึกไม่สบาย แต่เขากลับไม่ฟังและยืนกรานจนทำให้อาการป่วยแย่ลงคนเช่นนี้มิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตาจริง ๆ!แม้ว่านางจะโกรธ แต่ก็ยังให้หลู่ชิ่งนำยามาป้อนเขาอยู่ดีหลี่เฉียงเพิ่งป่วยวันนี้ บางทีตำรับยาของตนอาจได้ผลกับเขาด้านนอก หมอเฉินจากโรงหุยชุนกำลังปรึกษาเรื่องตำรับยากับหมอหานและหมอเฝิง จู่ ๆ ลูกศิษย์ของหมอเฉินก็เข้ามาพร้อมซองยา พลางลากหมอเฉินไปด้านข้างลูกศิษย์กระซิบอะไรบางอย่าง แล้วจู่ ๆ คำว่ายาปลอมก็เข้ามาในหูของหมอเฝิง ใจของเขาก็สั่นทันที พลางตะโกน “หมอเฉิน เขาบอกอะไรกับเจ้า?”“เหตุใดข้าได้ยินว่ามียาปลอม… หรือเครื่องยาสมุนไพรจะเป็นของปลอมหรือ?”หมอเฝิงพูดแล้วเดินเข้ามา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปแย่งยาจากมือลูกศิษย์เขาพอหมอเฉินเห็นเช่นนี้ ก็รีบเอื้อมมือออกไปแย่ง พลางเอ่ยอย่างปิดบัง “หมอเฝิง เจ้าได้ยินผิดแล้ว มิได้เป็นเช่นนั้น!”หมอเฝิงมีหรือจะปล่อยให้เขาแย่งกลับไป เขาหลบหลีกมือนั้นแล้วเปิดห่อยาในมือเพื่อตรวจสอบแล้วก็ได้เห็นว่าพวกยาในนั้นเป็นของปลอมทั
หลังจากที่เผยอวี้ส่งเครื่องยาสมุนไพรถึงที่แล้ว เขาก็ร่วมมือกับฉินซานและหลี่ว์จงเจ๋อในงานป้องกันโรคระบาด พาทหารไปฆ่าเชื้อตามบ้านเรือนหมอเฝิงถามทหารจนรู้ว่าเผยอวี้อยู่ที่ใดแล้วลากหมอหานออกไป เมื่อเห็นเผยอวี้ก็ดึงเขาไปข้าง ๆเผยอวี้ขมวดคิ้วพลางเอ่ย “หมอเฝิงมิได้รักษาผู้ป่วยอยู่ในหออักษรหรือ มาทำกระไรที่นี่กัน!”“แม่ทัพเผย เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! หากเรามิมาตามหาท่าน จะให้รอจนเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วถูกตัดหัวหรือ?”เมื่อเห็นฉินซานกับหลี่ว์จงเจ๋อ หมอเฝิงก็จงใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หันกลับมามองและเดินเข้ามา“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”ฉินซานรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัย ได้ยินเข้าก็ตกใจมาก คิดว่าตนประมาทจนทำผิดพลาดใหญ่โต“พวกเครื่องยาสมุนไพรนี้เป็นของปลอม…”หมอเฝิงเอาห่อยาให้พวกเขาดูแล้วแสร้งทำทีลำบากใจ พลางเอ่ยอย่างกังวล“ท่านแม่ทัพทั้งสาม นี่มิใช่เรื่องใหญ่หรือ? เรามากำจัดโรคระบาด หากยานี้ปลอม จะรักษาโรคได้หรือ?”“โดยเฉพาะแม่ทัพเผย! ท่านเป็นผู้ขนส่งเครื่องยาสมุนไพร หากเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ท่านจะเป็นคนแรกที่ถูกลงโทษ!”เผยอวี้ได้ยินแล้วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เหงื่อเย็น ๆ ไหล
ในเวลานี้เซียวหลินเทียนกับฉินซานเพิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเผยอวี้ชี้หน้าด่าหลิงอวี๋ด้วยความโกรธ ทั้งสองก็ขมวดคิ้วทันที“ท่านอ๋องอี้เสด็จแล้ว!”องครักษ์คนหนึ่งตะโกนขึ้นมาเมื่อเผยอวี้เห็นก็ตะโกนด้วยความโกรธ “อาเทียน พระชายาเช่นนี้ข้าว่ามิต้องมีก็ได้กระมัง สร้างปัญหาใหญ่ให้เจ้าเช่นนี้ ข้าสนับสนุนให้เจ้าหย่ากับนางทันที!”เมื่อหลิงหว่านได้ยินเข้าก็มิรอให้หลิงอวี๋เอ่ยปากแล้ว นางด่าเผยอวี้อย่างโกรธเกรี้ยวทันที“ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร? การแต่งงานระหว่างท่านพี่ของข้ากับท่านอ๋องอี้ได้รับพระราชทานจากองค์จักรพรรดิ ท่านอ๋องอี้จะหย่าก็หย่าได้เลยเยี่ยงนั้นรึ?”“ท่านมากล่าวหาท่านพี่ข้าโดยมิพูดเรื่องราวให้ชัดเจน! หรือปกติแล้วท่านจัดการกับเรื่องของทางการเช่นนี้?”“เสียดายที่หัวของท่านใหญ่โตถึงเพียงนั้น แต่มิได้ใส่อะไรลงไปในนั้นเลยหรือ?”เผยอวี้ตะลึงกับสิ่งที่หลิงหว่านพูด จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าหลิงหว่านกำลังด่าว่าตนโง่เขลาเขาโกรธจนตัวสั่น พลางตะคอกใส่หลิงหว่านด้วยความโกรธ“หลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะพูดแทนนาง! ออกไปเสียสาวน้อย เรากำลังพูดเรื่องจริงจังกันอยู่ ไม่มีเวลามาพูดเรื
เซียวหลินเทียนมองเผยอวี้พลางเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าควรตรวจสอบเครื่องยาสมุนไพรให้ดีก่อนทำการขนส่ง แต่เจ้ากลับหละหลวม จนนำมาสู่ความผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้!”“ความผิดของเจ้าไม่อาจให้อภัยได้ ตามวินัยทหารจะถูกลงโทษด้วยการโบยห้าสิบไม้! เจ้าต้องยอมรับมัน!”เผยอวี้เอ่ยเสียงดังฟังชัด “กระหม่อมยอมรับอย่างเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ!”ครั้งนี้ตนประมาทเลินเล่อจริง ๆ แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะฆ่าเขาเพราะความประมาทนี้ เผยอวี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมันเมื่อฉินซานเห็นดังนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย”ท่านอ๋องอี้ กระหม่อมของความเมตตาแก่แม่ทัพเผย ให้โบยครึ่งหนึ่งก่อน รอโรคระบาดถูกกำจัดสิ้นแล้วค่อยทำโทษต่ออีกครึ่ง!”“เรื่องสำคัญเร่งด่วนนัก ทั้งยังต้องคิดหาทางรีบเติมเครื่องยาสมุนไพรอีก ให้แม่ทัพเผยรับผิดชอบงานนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ! เชื่อว่าแม่ทัพเผยจะมิทำพลาดอีกแน่นอน!”หมอเฝิงเอ่ยอย่างกังวล “โบยครึ่งหนึ่งมันก็ได้หรอก แต่จะจัดการผู้กระทำผิดเยี่ยงไรเล่า?”“ท่านอ๋องอี้ ท่านจะปล่อยให้แม่ทัพเผยรับผิดแทนพระชายาอ๋องอี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ! หากท่านจัดการเช่นนี้ พวกเรากับแม่ทัพเผยไม่มีทางยอมรับได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มอย