หมอหลี่จากเขตหลินก็กลัวว่าตำรับยาของหมอเฝิงจะไม่ถูกและตนจะเข้าไปพัวพันด้วย จึงช่วยเอ่ย“หมอเฉินพูดถูก โรคระบาดมันอันตรายถึงเพียงนี้ หมอเฝิงจะมาจัดการกับโรคระบาดโดยมิคำนึงถึงความปลอดภัยส่วนบุคคลได้เยี่ยงไร ถึงไม่มีความดีความชอบก็ยังมีความดีที่ทำงานหนัก! ท่านอ๋องอี้ พระชายาอ๋องอี้ โปรดไว้ชีวิตเขาในครั้งนี้ด้วยเถิด!”หมอหานพยักหน้าเล็กน้อย พลางเอ่ยอย่างเห็นด้วย “พระชายาอ๋องอี้ ท่านมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม หมอเฝิงมิได้เก่งเท่าท่าน ก็ให้เขาเรียนได้เรียนรู้อย่างดีไปด้วยเถิด!”หมอเฝิงคุกเข่าลงทันทีพลางร้องขอความเมตตา“พระชายาอ๋องอี้ ทักษะการแพทย์ของท่านยอดเยี่ยมมาก! ข้าเข้าใจท่านผิดไปแล้ว!”“ข้าขออภัย พระชายาอ๋องอี้โปรดจำไว้ว่า ข้าก็ใส่ใจผู้ป่วยเช่นกัน อย่าเอาความข้าเลย!”“และพระชายาอ๋องอี้โปรดคิดตำรับยาที่ได้ผล พวกเราจะทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อกำจัดโรคระบาดโดยเร็วที่สุด!”เซียวหลินเทียนมองหมอเฝิงอย่างเย็นชา ชายผู้นี้สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้เยี่ยมมากเขามองไปที่หลิงอวี๋ที่ส่ายหัวให้เขา“ท่านอ๋อง พวกเขาพูดถูก เวลานี้ต้องใช้กำลังคน ในเมื่อหมอเฝิงรู้ข้อผิดพลาดของตนเองแล้ว
หลิงอวี๋รีบไปตรวจดูแล้วพบว่าเขามีตุ่มน้ำแผลพุพองที่คอด้วยหลิงอวี๋ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด หลี่เฉียงผู้นี้ นางบอกให้เขามาหานางทันทีที่รู้สึกไม่สบาย แต่เขากลับไม่ฟังและยืนกรานจนทำให้อาการป่วยแย่ลงคนเช่นนี้มิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตาจริง ๆ!แม้ว่านางจะโกรธ แต่ก็ยังให้หลู่ชิ่งนำยามาป้อนเขาอยู่ดีหลี่เฉียงเพิ่งป่วยวันนี้ บางทีตำรับยาของตนอาจได้ผลกับเขาด้านนอก หมอเฉินจากโรงหุยชุนกำลังปรึกษาเรื่องตำรับยากับหมอหานและหมอเฝิง จู่ ๆ ลูกศิษย์ของหมอเฉินก็เข้ามาพร้อมซองยา พลางลากหมอเฉินไปด้านข้างลูกศิษย์กระซิบอะไรบางอย่าง แล้วจู่ ๆ คำว่ายาปลอมก็เข้ามาในหูของหมอเฝิง ใจของเขาก็สั่นทันที พลางตะโกน “หมอเฉิน เขาบอกอะไรกับเจ้า?”“เหตุใดข้าได้ยินว่ามียาปลอม… หรือเครื่องยาสมุนไพรจะเป็นของปลอมหรือ?”หมอเฝิงพูดแล้วเดินเข้ามา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปแย่งยาจากมือลูกศิษย์เขาพอหมอเฉินเห็นเช่นนี้ ก็รีบเอื้อมมือออกไปแย่ง พลางเอ่ยอย่างปิดบัง “หมอเฝิง เจ้าได้ยินผิดแล้ว มิได้เป็นเช่นนั้น!”หมอเฝิงมีหรือจะปล่อยให้เขาแย่งกลับไป เขาหลบหลีกมือนั้นแล้วเปิดห่อยาในมือเพื่อตรวจสอบแล้วก็ได้เห็นว่าพวกยาในนั้นเป็นของปลอมทั
หลังจากที่เผยอวี้ส่งเครื่องยาสมุนไพรถึงที่แล้ว เขาก็ร่วมมือกับฉินซานและหลี่ว์จงเจ๋อในงานป้องกันโรคระบาด พาทหารไปฆ่าเชื้อตามบ้านเรือนหมอเฝิงถามทหารจนรู้ว่าเผยอวี้อยู่ที่ใดแล้วลากหมอหานออกไป เมื่อเห็นเผยอวี้ก็ดึงเขาไปข้าง ๆเผยอวี้ขมวดคิ้วพลางเอ่ย “หมอเฝิงมิได้รักษาผู้ป่วยอยู่ในหออักษรหรือ มาทำกระไรที่นี่กัน!”“แม่ทัพเผย เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! หากเรามิมาตามหาท่าน จะให้รอจนเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วถูกตัดหัวหรือ?”เมื่อเห็นฉินซานกับหลี่ว์จงเจ๋อ หมอเฝิงก็จงใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หันกลับมามองและเดินเข้ามา“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”ฉินซานรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัย ได้ยินเข้าก็ตกใจมาก คิดว่าตนประมาทจนทำผิดพลาดใหญ่โต“พวกเครื่องยาสมุนไพรนี้เป็นของปลอม…”หมอเฝิงเอาห่อยาให้พวกเขาดูแล้วแสร้งทำทีลำบากใจ พลางเอ่ยอย่างกังวล“ท่านแม่ทัพทั้งสาม นี่มิใช่เรื่องใหญ่หรือ? เรามากำจัดโรคระบาด หากยานี้ปลอม จะรักษาโรคได้หรือ?”“โดยเฉพาะแม่ทัพเผย! ท่านเป็นผู้ขนส่งเครื่องยาสมุนไพร หากเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ท่านจะเป็นคนแรกที่ถูกลงโทษ!”เผยอวี้ได้ยินแล้วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เหงื่อเย็น ๆ ไหล
ในเวลานี้เซียวหลินเทียนกับฉินซานเพิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเผยอวี้ชี้หน้าด่าหลิงอวี๋ด้วยความโกรธ ทั้งสองก็ขมวดคิ้วทันที“ท่านอ๋องอี้เสด็จแล้ว!”องครักษ์คนหนึ่งตะโกนขึ้นมาเมื่อเผยอวี้เห็นก็ตะโกนด้วยความโกรธ “อาเทียน พระชายาเช่นนี้ข้าว่ามิต้องมีก็ได้กระมัง สร้างปัญหาใหญ่ให้เจ้าเช่นนี้ ข้าสนับสนุนให้เจ้าหย่ากับนางทันที!”เมื่อหลิงหว่านได้ยินเข้าก็มิรอให้หลิงอวี๋เอ่ยปากแล้ว นางด่าเผยอวี้อย่างโกรธเกรี้ยวทันที“ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร? การแต่งงานระหว่างท่านพี่ของข้ากับท่านอ๋องอี้ได้รับพระราชทานจากองค์จักรพรรดิ ท่านอ๋องอี้จะหย่าก็หย่าได้เลยเยี่ยงนั้นรึ?”“ท่านมากล่าวหาท่านพี่ข้าโดยมิพูดเรื่องราวให้ชัดเจน! หรือปกติแล้วท่านจัดการกับเรื่องของทางการเช่นนี้?”“เสียดายที่หัวของท่านใหญ่โตถึงเพียงนั้น แต่มิได้ใส่อะไรลงไปในนั้นเลยหรือ?”เผยอวี้ตะลึงกับสิ่งที่หลิงหว่านพูด จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าหลิงหว่านกำลังด่าว่าตนโง่เขลาเขาโกรธจนตัวสั่น พลางตะคอกใส่หลิงหว่านด้วยความโกรธ“หลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะพูดแทนนาง! ออกไปเสียสาวน้อย เรากำลังพูดเรื่องจริงจังกันอยู่ ไม่มีเวลามาพูดเรื
เซียวหลินเทียนมองเผยอวี้พลางเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าควรตรวจสอบเครื่องยาสมุนไพรให้ดีก่อนทำการขนส่ง แต่เจ้ากลับหละหลวม จนนำมาสู่ความผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้!”“ความผิดของเจ้าไม่อาจให้อภัยได้ ตามวินัยทหารจะถูกลงโทษด้วยการโบยห้าสิบไม้! เจ้าต้องยอมรับมัน!”เผยอวี้เอ่ยเสียงดังฟังชัด “กระหม่อมยอมรับอย่างเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ!”ครั้งนี้ตนประมาทเลินเล่อจริง ๆ แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะฆ่าเขาเพราะความประมาทนี้ เผยอวี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมันเมื่อฉินซานเห็นดังนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย”ท่านอ๋องอี้ กระหม่อมของความเมตตาแก่แม่ทัพเผย ให้โบยครึ่งหนึ่งก่อน รอโรคระบาดถูกกำจัดสิ้นแล้วค่อยทำโทษต่ออีกครึ่ง!”“เรื่องสำคัญเร่งด่วนนัก ทั้งยังต้องคิดหาทางรีบเติมเครื่องยาสมุนไพรอีก ให้แม่ทัพเผยรับผิดชอบงานนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ! เชื่อว่าแม่ทัพเผยจะมิทำพลาดอีกแน่นอน!”หมอเฝิงเอ่ยอย่างกังวล “โบยครึ่งหนึ่งมันก็ได้หรอก แต่จะจัดการผู้กระทำผิดเยี่ยงไรเล่า?”“ท่านอ๋องอี้ ท่านจะปล่อยให้แม่ทัพเผยรับผิดแทนพระชายาอ๋องอี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ! หากท่านจัดการเช่นนี้ พวกเรากับแม่ทัพเผยไม่มีทางยอมรับได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มอย
“ท่านอ๋อง กระหม่อมยอมรับการลงโทษพ่ะย่ะค่ะ!”เผยอวี้ตบตนเองไปหลายครั้ง หากเขาตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนออกเดินทาง ก็คงไม่ทำผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้!ตอนนี้เครื่องยาสมุนไพรเป็นของปลอม เช่นนั้นหลิงอวี๋จะช่วยผู้คนได้เยี่ยงไรกัน?เซียวหลินเทียนเชื่อในตัวเขาถึงได้ให้เขาขนส่งเครื่องยาสมุนไพร แต่เขากลับทำให้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ถูกคุกคามเช่นนี้… เขาสมควรตายจริง ๆ!“ทำตามที่แม่ทัพฉินพูด โบยครึ่งหนึ่งก่อนเพื่อให้เจ้าจำบทเรียนนี้ไว้! อีกครึ่งหลังรอให้เรื่องคลี่คลายไปก่อนแล้วค่อยโบย!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างไม่แสดงสีหน้า "ใครก็ได้ เอาไม้มา!"องครักษ์สองคนก้าวไปข้างหน้า เผยอวี้ถอดชุดเกราะของตนออกแล้วนอนลงบนพื้นอย่างมีสติเพื่อรับการโบยไม้กระทบกับร่างกายของเผยอวี้อย่างต่อเนื่อง ทำเอาหลิงหว่านเห็นแล้วรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย ความโกรธต่อเผยอวี้ที่กล่าวหาหลิงอวี๋ส่งเดชจางหายไปเล็กน้อย พลางมองด้วยความกลัวหลิงหว่านเห็นเผยอวี้กัดฟันทนรับโทษโดยไม่หือไม่อือก็แอบชื่นชมเขาในใจ แม้ว่าเผยอวี้ผู้นี้จะดูน่ารังเกียจในบางครั้ง แต่ด้านที่แข็งแกร่งก็สมควรได้รับการยกย่อง!ท่านปู่บอกว่าผู้ชายหลั่งเลือดได้แต่หลั่งน้ำ
ในตอนนี้แม้ว่าทั้งสองคนจะสงสัยโรงหุยชุน แต่ก็เกินกว่าจะเข้าไปยุ่งได้ พวกเขาไม่สามารถสอบสวนและตัดสินลงโทษโรงหุยชุนได้เลยหลิงอวี๋เห็นเซียวหลินเทียนหงุดหงิดจึงปลอบใจเขา “กลับไปค่อยว่ากันเถิดเพคะ! แม้ว่าครั้งนี้จะตัดสินโทษพวกเขามิได้ แต่เราก็สามารถหาวิธีอื่นลงโทษพวกเขาได้!”“ทำเรื่องไม่ดีมากมาย จะต้องเกิดปัญหาเป็นแน่ พวกหมอจางจะต้องชดใช้!”“อืม ข้าเชื่อเจ้า!”เซียวหลินเทียนคิดพลางเอ่ย “เผยอวี้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเจ้า เจ้าอย่าได้ไปใส่ใจเขาเลย เขาถ่ายทอดความคิดของข้ามิได้หรอก!"จู่ ๆ หัวข้อก็เปลี่ยนไป หลิงอวี๋ไม่ตอบสนองไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ท่านคิดสิ่งใด?”เซียวหลินเทียนหน้าแดงพลางเอ่ยเบา ๆ “ข้าไม่คิดว่าเจ้าเลว ข้าจะไม่ขอหย่ากับเจ้าโดยไม่มีเหตุผล!”หลิงอวี๋กลอกตาใส่เขาพลางเอ่ย “ถึงมีเหตุผลหม่อมฉันก็ให้ท่านอ๋องขอหย่ามิได้เพคะ เราตกลงกันแล้วว่าจะแยกทางกันด้วยดี… ก็ต้องแยกทางกันด้วยดีเท่านั้น!”“หม่อมฉันมิสามารถปล่อยให้จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนมีบุตรีที่ถูกขอหย่าได้ เช่นนั้นจะทำให้หลิงหว่านกับคนอื่น ๆ แต่งงานได้ยากเพคะ!”“เซียวหลินเทียน หลังจากโรคระบาดนี้หายไป พอกลับไปแล้วหม่
ฉินรั่วซือยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น หลิงอวี๋ดีกว่าตนเพียงเล็กน้อย แต่นางไม่มีความเคารพต่อท่านอ๋องอี้เลย ทั้งยังเรียกชื่อของท่านอ๋องอี้ไปตรง ๆ เลยด้วยซ้ำหากตนทำตัวดี ๆ เสียหน่อย ท่านอ๋องอี้เห็นความดีของตนก็จะชอบตนเป็นแน่!ขณะที่ฉินรั่วซือกำลังครุ่นคิดก็เห็นเซียวหลินเทียนเดินออกมา นางจึงฉวยโอกาสแสร้งทำเป็นโซเซไปชนเข้ากับเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนพยุงนางโดยไม่รู้ตัว ยาต้มในมือของฉินรั่วซือก็หกเลอะไปทั่วตัวของเซียวหลินเทียน“ว๊าย… ขอประทานอภัยเพคะ… ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ระวังเอง ท่านอ๋องบาดเจ็บหรือไม่เพคะ!”ฉินรั่วซือรีบหยิบผ้าออกมาช่วยเช็ดให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนถอยไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัวแล้วขมวดคิ้วพลางเอ่ย "ข้าไม่เป็นไร!"เซียวหลินเทียนเช็ดยาที่เลอะบนชุดเกราะแบบลวก ๆ แล้วเดินไปโดยไม่แม้แต่จะมองนางเลยเขารู้สึกหงุดหงิดมาก เมื่อนึกถึงสิ่งที่หลิงอวี๋พูดว่า หลังจากกลับไปจะใช้ความดีความชอบขอให้องค์จักรพรรดิอนุญาตให้พวกเขาหย่าร้างกันก็ยิ่งหงุดหงิดมากหากหลิงอวี๋ควบคุมโรคระบาดได้จริง ๆ มันจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เสด็จพ่อจะต้องยอมให้กับคำขอของนางอย่างแน่นอน!เมื่อถึงเวลานั้น น