ทันทีที่จ้าวซวนเห็นหลิงอวี๋เข้ามา ก็กลัวว่าเลี่ยวซงจะทำร้ายหลิงอวี๋ จึงตัดเอ็นที่มืออีกข้างของเลี่ยวซงไปเสียเลี่ยวซงส่งเสียง อดกลั้นไม่กรีดร้องออกมา“ข้าจักถามเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลิงซินอยู่ที่ใด?”คำพูดของหลิงอวี๋แทบจะลอดไรฟันออกมาเลี่ยวซงมองหลิงอวี๋อย่างเย็นชา แล้วหันไปด้านข้างพลางเอ่ยอย่างดูถูกเป็นอย่างมาก“ข้าเป็นคนขององค์ชายคัง หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องข้า องค์ชายคังไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”หลิงอวี๋หันไปมองผู้คุ้มกันที่ทรยศเลี่ยวซงเมื่อครู่นี้ “หลิงซินอยู่ที่ใด?”ผู้คุ้มกันมองไปที่เลี่ยวซงอย่างลังเล คำพูดของเลี่ยวซงทำให้ใจเขาเกิดความหวังริบหรี่ขอเพียงไม่บอกที่อยู่ของนางรับใช้ผู้นั้น แล้วยืนหยัดรอไปจนกว่าองค์ชายคังจะมา ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยใช่หรือไม่?หลิงอวี๋เห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ใบหน้าก็มืดมน พลางหยิบมีดผ่าตัดออกมาขณะที่ทุกคนยังมิได้สติ หลิงอวี๋ก็ก้าวไปคว้าหูของเลี่ยวซงไว้...ยกมีดขึ้นแล้วหูข้างหนึ่งของเลี่ยวซงก็ถูกหลิงอวี๋เฉือนออกมา เลือดสด ๆ ไหลอาบลงมาจากหูของเลี่ยวซงจนกระทั่งเห็นปลายมีดของหลิงอวี๋มีหูของตนอยู่ เลี่ยวซงถึงได้รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเซียวหลินเทีย
องค์ชายสององค์ชายคังมาแล้วพวกหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนหันไปมอง เห็นองค์ชายคังพากวนอิ่งมาพร้อมกับพวกองครักษ์เมื่อศัตรูคู่อาฆาตมาเจอหน้ากัน หลิงอวี๋เกลียดเสียจนอยากจะพุ่งเข้าไปตัดหูของกวนอิ่งเสีย!ให้นางได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทรมานที่หลิงซินต้องเผชิญดูเสียบ้าง!พอเลี่ยวซงเห็นองค์ชายคังดวงตาของเขาก็เป็นประกาย พลางตะโกนอย่างรู้สึกผิด “องค์อาย… องค์อายอ้องอัดอิ๋นใอ้อะอ่อมอ่ะอ่ะอ่ะ (องค์ชาย… องค์ชายต้องตัดสินให้กระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ)...”ลู่หนานทำให้ฟันของเขาร่วงไปหลายซี่ ตอนนี้จึงพูดไม่รู้เรื่องพอกวนอิ่งเห็นบนตัวของเลี่ยวซงเต็มไปด้วยเลือด ก็ตะโกนด้วยความโกรธ“เซียวหลินเทียน หลิงอวี๋ พวกเจ้ากล้ามาสร้างปัญหาที่โรงเลี้ยงม้าของข้าหรือ...”“องค์ชาย พวกเขามิได้เห็นองค์ชายอยู่ในสายตาเลยเพคะ!”องค์ชายคังเห็นสภาพน่าสังเวชของเลี่ยวซง ทั้งยังมีศพของผู้คุ้มกันทั้งสองอยู่บนพื้นอีก ใบหน้าของเขาก็มิพอใจขึ้นมาทันทีองค์ชายคังตะคอกด้วยความโกรธ “เซียวหลินเทียน ผู้ใดเป็นคนทำ? หากวันนี้ข้ามิได้ตัดมือมันผู้นั้น ก็อย่ามานับว่าข้าแซ่เซียวเลย!”เซียวหลินเทียนยิ้มเย็นชา พลางเอ่ยเสียงทุ้ม “เสด็จพี่ ก่อนที่เสด
กวนอิ่งเองก็คิดไม่ถึงว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะหาที่นี่เจอเร็วถึงเพียงนี้ตระกูลกวนของนางมีร้านค้าตั้งมากมาย หากรอให้พวกหลิงอวี๋ค้นหากันไปทีละแห่ง กว่าจะมาเจอที่นี่ซากกระดูกของหลิงซินก็คงหายไปแล้ว!คราวนี้นางโชคไม่ดีเลยจริง ๆ!แต่องค์ชายคังหมายความว่าอะไรกัน?เขาบอกว่าเขาโปรดปรานตนที่สุดมิใช่หรือ?เหตุใดเซียวหลินเทียนพูดเพียงไม่กี่ประโยคจึงเปลี่ยนทัศนคติของเขาได้เล่า? และคำพูดนี้ขององค์ชายคัง ก็คือเตรียมจะทิ้งเลี่ยวซงแล้วใช่หรือไม่?เดิมทีกวนอิ่งคิดว่าจะยืมอำนาจขององค์ชายคังมาปกป้องเลี่ยวซงไว้ แต่องค์ชายคังพูดเช่นนี้ กวนอิ่งก็รู้สึกหวั่นใจแล้ว“องค์ชาย เลี่ยวซง…”กวนอิ่งมิยอมแพ้ คิดจะขอความเมตตาให้เลี่ยวซง แต่เมื่อนางสบตาที่เป็นคำเตือนขององค์ชายคัง กวนอิ่งก็มิกล้าเอ่ยขอความเมตตาแล้วหากต้องทำสิ่งที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตขององค์ชายคังเพื่อผู้คุ้มกันคนหนึ่ง เช่นนั้นองค์ชายคังไม่มีทางปล่อยตนไปแน่!“เลี่ยวซง… เจ้าทำเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไรกัน!”กวนอิ่งเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นตะคอก “แม้ว่าข้ากับพระชายาอ๋องอี้มีความขัดแย้งกันเล็กน้อย เจ้าก็มิควรคิดระบายความโกรธแทนข้าแล้วไปหาเรื่องนางรั
“ข้ามิได้ทำกระไรทั้งนั้น ไฉนเจ้าถึงตื่นตูมถึงเพียงนี้เล่า?”หลิงอวี๋เงยหน้าขึ้นมองผึ้งเหล่านั้น พลางเอ่ย“ก็แค่วิญญาณอาฆาตของหลิงซินกลับมาแก้แค้นเท่านั้น นี่เจ้ากลัวแล้วหรือ!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะมองกวนอิ่ง พลางเอ่ยอย่างมีความหมาย“ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว! ทุกคนที่ทำร้ายหลิงซิน ไม่มีทางลงเอยด้วยดีแน่!”พอหลิงซวนได้ยินสิ่งนี้ก็ตะโกนขึ้นมา “อาจารย์พูดถูก! หลิงซินจะไม่มีวันปล่อยคนที่ทำร้ายนางไปแน่!”กวนอิ่งมิเชื่อเรื่องผีกลับมาแก้แค้นเลย ผึ้งเหล่านี้ต้องเป็นสิ่งที่หลิงอวี๋ทำแน่ ๆ!แต่บัดนี้เลี่ยวซงกลายเป็นคนถูกทอดทิ้งไปแล้ว นางจะไปหาเรื่องหลิงอวี๋เพื่อคนที่ถูกทอดทิ้งได้หรือ?“ไปกันเถิด!”องค์ชายคังก็คิดในจุดนี้เช่นกัน เขาจ้องหลิงอวี๋อย่างดุร้าย แล้วพากวนอิ่งจากไปเลี่ยวซงถูกผึ้งจำนวนนับไม่ถ้วนต่อยจนร่างกายของเขาบวมไปทั้งร่าง พูดอะไรไม่ได้เลยหลิงอวี๋ไม่ได้มองเขา แค่จ้องแผ่นหลังของกวนอิ่ง แล้วยิ้มอย่างเย็นชาให้เจ้าได้ภาคภูมิใจไปก่อนสักสองวัน คราวนี้ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถแน่นอน!หลิงอวี๋คิดไว้แล้วจริง ๆ ว่าจะจัดการกับกวนอิ่งเยี่ยงไรดี!การส่งกวนอิ่งเข้าคุกมันน้อยไปสำหรับน
“ว่ากระไรนะ?”จ้าวเจินเจินเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พระชายา เรื่องจริงหนาเจ้าคะ! โรคที่ยากจะเอ่ยถึงเช่นนี้ กวนอิ่งมิกล้าไปหาหมออย่างเปิดเผย จึงต้องหาหมออย่างเงียบ ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้าใช้ความพยายามอย่างหนักเลยกว่าจะสืบมาได้!”คนสนิทเอ่ย “พระชายา ลองคิดดูเถิดเจ้าค่ะ ฝ่ายกวนอิ่งมักจะพาผู้คุ้มกันเหล่านั้นมาด้วยเสมอ บุรุษสตรีอยู่ลำพัง อะไรก็เกิดขึ้นได้หนาเจ้าคะ!”“นางเองก็เปิดหอนางโลมด้วย การติดโรคเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ปกตินักเจ้าค่ะ!”จ้าวเจินเจินยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจ โชคดีที่เมื่อกวนอิ่งเข้ามาในตำหนักองค์ชายคัง ตนก็กลับบ้านพ่อแม่!มิฉะนั้นหากองค์ชายคังไปสัมผัสกวนอิ่งแล้วมาสัมผัสตนอีก เช่นนั้นจะมิแพร่เชื้อให้ตนเองหรือ?“พระชายา กวนอิ่งก็แค่คนสารเลวใจง่ายเจ้าค่ะ!”“ได้ยินมาว่ากวนอิ่งบอกผู้คุ้มกันด้วยว่า องค์ชายเว่ยมิได้เรื่อง เวลาน้อยเกินไป มิสมกับเป็นชายชาตรี! ด้วยเหตุนี้นางจึงแต่งงานกับองค์ชายของเราเจ้าค่ะ!”“พอแล้ว! มิต้องพูดแล้ว!”จ้าวเจินเจินทนฟังไม่ไหวแล้ว เรื่องเยี่ยงนี้ยังมีหน้าไปพูดกับคนนอกอีก กวนอิ่งนี่ช่างสารเลวนัก!เลวเสียจนเลวไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!จ้าวเจินเจิน
หนอนบ่อนไส้?ใบหน้าขององค์ชายเว่ยมืดมนลง เขาเอ่ยถามเป็นนิสัย “ท่านหาน ท่านคิดว่าหนอนบ่อนไส้คือผู้ใดเล่า?”ทันทีที่พูดจบ องค์ชายเว่ยถึงได้พบว่าหานหลินมิอยู่องค์ชายเว่ยตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยถาม “หานหลินเล่า?”สีหน้าของหัวหน้าองครักษ์เปลี่ยนไป “องค์ชาย หานหลินไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว พวกเราไปปล้นเงินของตระกูลกวนก็มิเห็นเขา… หรือว่าเขาจะเป็นหนอนบ่อนไส้พ่ะย่ะค่ะ?”“องค์ชาย คราที่หารือเรื่องการปล้นตระกูลกวนมีเพียงพวกเราสามคนเท่านั้น… หรือว่าหานหลินรู้ว่าเราหมายลงมือกลางดึก ดังนั้นจึงพาคนไปปล้นตระกูลกวนก่อนแล้ว?”“หากตระกูลกวนมาสอบสวนทีหลังก็โยนความผิดใส่ร้ายพวกเราได้เช่นนั้นรึ?”“ไปตามหาหานหลิน!”องค์ชายเว่ยนึกขึ้นได้ว่าหานหลินเป็นคนที่เชื่อมโยงเขากับกวนซิน แต่ในท้ายที่สุดพี่น้องของกวนซินก็แปรพักตร์เป็นพวกขององค์ชายคัง!บางทีหานหลินอาจคิดว่าตนไม่มีทางสงสัยเขา ถึงได้ฉวยโอกาสองค์ชายเว่ยนอนไม่หลับแล้ว จึงพาคนไปที่บ้านของหานหลินในเมืองด้วยตัวเอง แต่บ้านตระกูลหานนั้นว่างเปล่าแล้วในเรือนทิ้งข้าวของระเกะระกะที่เอาไปด้วยมิได้ไว้มากมายเมื่อองค์ชายเว่ยเห็นดังนั้นมีหรือจะมิเข้าใจ ต้องเ
ร้านของกวนอิ่งว่างเปล่าในชั่วข้ามคืนข่าวเช่นนี้หลิงอวี๋จะมิเปิดเผยให้จ้าวเจินเจินรู้ได้เยี่ยงไรเล่า!เช่นเดียวกับที่หลิงอวี๋คิดไว้จ้าวเจินเจินได้ยินว่าเงินของตระกูลกวนหายไปหมดแล้ว จากนั้นก็ได้ยินว่าองค์ชายเว่ยปล้นไปจ้าวเจินเจินกลับไปที่ตำหนักองค์ชายคังโดยมิลังเลก่อนหน้านี้ จ้าวเจินเจินยังคงคิดว่าองค์ชายคังจะใช้ประโยชน์จากกวนอิ่งเพื่อทรัพย์สินของตระกูลกวน ดังนั้นตอนที่นางจัดการกับกวนอิ่งจึงยังมีความยับยั้งอยู่บ้างแต่บัดนี้เงินของตระกูลกวนถูกองค์ชายเว่ยปล้นไปแล้ว จ้าวเจินเจินก็ไม่ยับยั้งแล้วกวนอิ่งไม่มีเงินอยู่ในมือ ทั้งยังทำให้องค์ชายคังก็ติดโรคสกปรกเช่นนั้นอีก องค์ชายคังจะทนกวนอิ่งอยู่ได้เยี่ยงไร!จ้าวเจินเจินตรงกลับไปที่ตำหนักองค์ชายคังโดยไม่หยุด แล้วให้คนไปจับหมอที่รักษากวนอิ่งมาที่ในตำหนักองค์ชายคังองค์ชายคังเซียวหลินอี้เพิ่งกลับมาที่ตำหนักองค์ชายคัง จ้าวเจินเจินก็ไปพบเซียวหลินอี้“เจินเจิน เจ้ากลับมาแล้วรึ?”วันนี้เซียวหลินอี้เข้าวังก็ถูกพระชายาเส้าดุ บอกให้เขารีบไปรับจ้าวเจินเจินกลับมาโดยเร็วที่สุดพระชายาเส้าเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าหลงนางสารเลวกวนอิ่งนั่นจนหน้ามื
“เอามันไป!”เมื่อจ้าวเจินเจินเห็นว่าหมอพูดในสิ่งที่ตนต้องการ ก็ตะโกนองครักษ์คนหนึ่งเข้ามา ปิดปากหมอแล้วลากเขาออกไป“องค์ชาย… กวนอิ่งยังเคยไปหาหมออีกสองคนด้วยเพคะ!”“หากองค์ชายมิเชื่อที่หม่อมฉันพูด หม่อมฉันจักเรียกพวกเขาเข้ามาให้องค์ชายสอบสวน!”จ้าวเจินเจินแสร้งทำเป็นมิรู้ว่าเซียวหลินอี้เองก็ติดโรคนี้เช่นกัน พลางเอ่ยอย่างกังวล“เจินเจินมิได้อยากทำให้กวนอิ่งลำบากใจเพคะ แต่กลัวว่าองค์ชายอาจมิได้ป้องกันตัวจากนางแล้วถูกนางหลอก!”“มิต้อง...”ใบหน้าของเซียวหลินอี้ดูมิสู้ดี ร่างกายของตนสามารถพิสูจน์ได้ เขาจะมิเชื่อสิ่งที่จ้าวเจินเจินพูดได้เยี่ยงไร!“ฆ่าหมอพวกนี้ให้หมด!”เซียวหลินอี้สั่งออกมาอย่างเย็นชาจ้าวเจินเจินยิ้มเยาะในใจ แต่แสร้งทำท่าทีเป็นกังวล“องค์ชาย วันนี้เจินเจินได้ยินมาอีกเรื่องเพคะ… เงินทั้งหมดในร้านค้าของตระกูลกวนถูกองค์ชายเว่ยปล้นไปแล้วเพคะ!”“ว่ากระไรนะ?”เซียวหลินอี้เด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที พลางเอ่ยอย่างร้อนใจ “ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงรึ?”จ้าวเจินเจินพยักหน้า “ลูกพี่ลูกน้องของหม่อมส่งคนมาบอกเพคะ เขามีร้านอยู่ใกล้ ๆ ของตระกูลกวน ได้ยินมาว่าเมื่อคืนวานนี้ ห