ทันใดนั้นกวนอิ่งก็ถูกฟาดจนเนื้อแตก นางทนมิไหว ตะคอกออกมา “เซียวหลินอี้ ท่านยังอยากได้ทรัพย์สินของตระกูลกวนอยู่หรือไม่?”“หากตีข้าอีก ข้าจักยกให้องค์ชายเว่ยแล้ว...!”กวนอิ่งมิพูดยังดีเสียกว่า เมื่อนางพูดออกมาเช่นนี้ เซียวหลินอี้ก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก“นางสารเลว!”“ข้าว่าแล้วเชียว ร้านของตระกูลกวนจักถูกคนที่องค์ชายเว่ยส่งมาปล้นได้เยี่ยงไร! ที่แท้นางสารเลวเช่นเจ้าก็คิดหมายเอาประโยชน์ทั้งสองทาง!”แส้ในมือของเซียวหลินอี้ฟาดอย่างแรง“ข้าปล่อยให้คนสารเลวเช่นเจ้าโกหกข้า!”“ข้าปล่อยให้เจ้าไปสมคบคิดกับองค์ชายเว่ย…”“เซียวหลินอี้...” คำด่าของกวนอิ่งยังมิทันได้ออกจากปาก ก็ถูกเซียวหลินอี้เฆี่ยนบนปากแล้วปากของนางแตกทันใด โลหิตหลั่งไหลออกมาพวกนางรับใช้ของกวนอิ่งได้ยินเสียง วิ่งเข้ามาก็เห็นภาพนี้แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปห้าม“องค์ชาย… อย่าเพคะ… ไม่ต้องตีแล้ว หากตีอีกคุณหนูจักตายแล้วเพคะ...”ท้ายที่สุดชุ่ยเอ๋อร์เห็นว่ากวนอิ่งถูกเฆี่ยนจนเจียนตายแล้ว จึงคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอร้องคราวนี้สติของเซียวหลินอี้จึงค่อย ๆ กลับมา แล้วก็เห็นว่ากวนอิ่งถูกเขาเฆี่ยนจนหมดสติไปแล้วเขาจึงตะโกน “ไปเอาน้ำมา
กวนอิ่งจ้องเซียวหลินอี้นิ่ง พลางเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอยากฆ่าก็ฆ่าหม่อมฉันเถิด! ถึงอย่างไรก็เป็นไปตามเงื่อนไขนี้… รอให้หม่อมฉันหายจากอาการบาดเจ็บ แล้วองค์ชายปล่อยหม่อมฉันไป หม่อมฉันก็จะมอบโฉนดที่ดินให้เพคะ!”“มิฉะนั้น… ไม่ช้าก็เร็วถึงอย่างไรหม่อมฉันก็ต้องตายด้วยน้ำมือขององค์ชายอยู่ดี เหตุใดหม่อมฉันต้องเอาเปรียบองค์ชายด้วยเล่าเพคะ? ”เซียวหลินอี้จ้องกวนอิ่ง มองออกเลยว่านี่คือขอบเขตต่ำสุดของกวนอิ่งแล้ว“หึ!”เซียวหลินอี้ทิ้งกวนอิ่ง พลางยืดตัวตรงนังสารเลว ข้าจักให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกสองวันแล้วกัน!รอให้ข้าได้โฉนดที่ดินที่เหลืออยู่ก่อนเถิด ข้าจะบีบคอเจ้าให้ตายด้วยมือของข้าเอง!......กวนอิ่งนอนอยู่คืนหนึ่ง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามิสามารถอยู่ในตำหนักองค์ชายคังได้แล้ว บัดนี้เซียวหลินอี้โหดเหี้ยมกับนางมาก!รอเขาได้โฉนดที่ดินแล้ว เขาจะยังให้ตนอยู่ดีมีสุขหรือ?“ชุ่ยเอ๋อร์ ข้าอยากหนี ติดต่อกับผู้คุ้มกันของข้าได้หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ชุ่ยเอ๋อร์ก็กระซิบ “คุณหนู องค์ชายให้ผู้คุ้มกันทั้งหมดไปอยู่ในกองกำลังของเขาแล้ว พวกเรามิเหลือผู้ใดที่ใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ!”กวนอิ่งหมดหวังทั
“คุณหนู ท่านห้ามขยับเป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”“คราวนี้จะหนีราบรื่นหรือไม่ขึ้นอยู่ที่คุณหนูแล้วเจ้าค่ะ!”ชุ่ยเอ๋อร์คลุมใบผักเน่าบนศีรษะกวนอิ่งเล็กน้อยกวนอิ่งทั้งโกรธและร้อนใจ คิดแค่ว่าตัวเองไม่เคยจนตรอกขนาดนี้มาก่อนทว่าเพื่อความอยู่รอด นางทำได้แต่อดทน!ชุ่ยเอ๋อร์ปิดฝาถัง แล้วรีบกลับไปต่อแต่นี้ไปไม่เกี่ยวอะไรกับนางแล้ว นางแค่ต้องรอปะปนออกตำหนักองค์ชายคังกับคนรับใช้ที่ไปซื้อกับข้าวในวันพรุ่งเท่านั้น!จากนั้นก็โบยบินไปไกล ๆ!ชุ่ยเอ๋อร์ซ่อนเงินพันตำลึงไว้ในอก อีกทั้งคลำหาอาภรณ์มีราคาในห้องกวนอิ่งมาซุกในเสื้อผ้าหลายชิ้นพระชายาอ๋องอี้บอกว่าเงินที่กวนอิ่งดูแลล้วนเป็นของตน นางจะเอาทรัพย์สมบัติของกวนอิ่งไปเท่าใดย่อมได้!ชุ่ยเอ๋อร์ไม่ละอายที่ทรยศกวนอิ่งเลยสักกระผีก แต่กลับตื่นเต้นไม่หยุดที่ได้คิดบัญชีกวนอิ่งคุณหนูใหญ่กวนผู้นี้ นางช่างสุดจะทนมาตั้งนานแล้ว!ตนติดตามนางหลายปีปานนี้ อย่าว่าแต่มิได้ส่วนดีสักเท่าไรเลย กลับกันต้องรับความทรมานอันมากล้นด้วยซ้ำ!ตอนกวนอิ่งยังเป็นคุณหนูใหญ่ผู้เลื่องลือก็มักตีและด่านางตลอดบัดนี้หลังนางกลายเป็นอนุแห่งตำหนักองค์ชายคังก็มิได้สำรวมอารมณ์เหมือนเดิม
กวนอิ่งยอมรับความจริงมิได้พลางเรียกขึ้นอย่างบ้าบิ่น“หลิงอวี๋ นี่เป็นฝีมือเจ้ารึ?”“เป็นเจ้ายุให้องค์ชายคังตีข้า! และเป็นเจ้าทำให้ชุ่ยเอ๋อร์ทรยศข้า!”หลิงอวี๋กระตุกริมฝีปากยิ้มเยาะ “มิใช่แค่เป็น… แต่เป็นโดยแท้แน่นอน!”“เหตุใดระยะนี้เจ้าจึงเชิญหมอมา? ตัวข้าจักบอกเจ้าตามตรงว่าเป็นข้าทำเองเช่นกัน!”“เหตุใดองค์ชายคังถึงลงมือตีเจ้าอย่างเหี้ยมโหด? เพราะพระองค์ป่วยเป็นโรคเดียวกับเจ้า…!”“เจ้าเอาเชื้อโสโครกจากหอนางโลมมาติดพระองค์ องค์ชายคังมิตีเจ้าให้ตาย ข้าก็ถือว่าพระองค์มีพระทัยเมตตาแล้ว!”หลิงอวี๋ชี้ยังป้ายจารึกที่เถาจื่ออุ้มในมือ“กวนอิ่ง เจ้ายั่วโทสะข้าสุดขีด! ตอนฝังศพหลิงซิน ตัวข้าสาบานต่อหน้าป้ายจารึกของนางว่า ข้าจักถวายหัวเจ้าทำพิธีเซ่นไหว้แก่นางภายในสิบวัน!”“วันนี้เป็นวันที่สิบพอดี!”หลิงอวี๋พูดอย่างไร้ปรานี “ข้าขอบอกเจ้าให้กระจ่างแล้วกัน! สมบัติตระกูลกวนของเจ้าก็เป็นข้าให้คนไปยึด!”“เจ้าคงมิรู้กระมัง? โฉนดที่ดินเหล่านั้นในมือเจ้าล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้น!”“นายท่านตระกูลเจ้าเอาโฉนดที่ดินของจริงให้ท่านกวนเอ้อร์… และท่านกวนเอ้อร์ถวายองค์จักรพรรดิไปแล้ว!”“ตัวข้าพึ่งแค่สิ่งน
นางมิใช่แม่พระ นางมิขัดขวางท่านกวนเอ้อร์ใช้วิธีของเขาล้างแค้นหรอก!ครานั้นท่านกวนเอ้อร์เห็นภรรยาตนถูกคนข่มขืนเจียนตายกับตา ความแค้นของเขา ความเจ็บของเขามีเพียงเขาที่เข้าใจดีที่สุด!หากเขาคิดว่าการแก้แค้นแบบนี้ดีที่สุด เช่นนั้นก็ทำเยี่ยงนี้เถอะ!หลิงอวี๋พาหลิงซวนและเถาจื่อเดินตรงไปกระทั่งถึงที่ที่ไม่ได้ยินเสียงน่าสังเวชของกวนอิ่งจึงหยุดลงหากใช้หัวกวนอิ่งทำพิธีเซ่นไว้หลิงซิน ความแค้นที่ขึงตึงมาตลอดของนางอาจคงปลดปล่อยได้หลิงซิน เจ้าไปสู่สุคติได้แล้วนะ!หลิงซวนเห็นอารมณ์เศร้าซึมของหลิงอวี๋ พลันพูดปลอบทันที“อาจารย์ อย่าเศร้าไปเลยเจ้าค่ะ! หากน้องหลิงซินรู้ว่าท่านล้างแค้นเพื่อนาง นางต้องไปเกิดใหม่อย่างสบายใจแน่เจ้าค่ะ!”“อือ! หวังว่านางจะไปเกิดใหญ่ในครอบครัวที่ดี!”หลิงอวี๋เรียนหมอและไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง แต่ตอนนี้นางภาวนาจากใจจริงขอให้หลิงซินเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดีในภพหน้า!ไม่แสวงหาเงินทอง มีชีวิตสงบสุขเป็นพอ!เมื่อรอให้คนของกวนผิงมาเชิญพวกนางกลับไปก็เป็นเวลาหนึ่งชั่วยามแล้วที่นั่นถูกเก็บกวาดจนสะอาด และไม่พบสุนัขแล้วเช่นกัน มีพียงศีรษะของกวนอิ่งที่วางอยู่ในหีบหนึ่งอย่างเด
หลิงอวี๋และทั้งสองคนนำหัวกวนอิ่งมาถึงหน้าหลุมศพของหลิงซินเรียบร้อยเถาจื่อกำลังวางหัวคนลงหน้าหลุมศพหลิงซินพลางพูดประโลม“หลิงซินไปสู่สุคติเถิด! คุณหนูล้างแค้นให้เจ้าแล้ว!”หลิงอวี๋จ้องหลุมศพหลิงซินอย่างเงียบงัน แม้จะช่วยหลิงซินล้างแค้นแล้ว แต่หัวใจหลิงอวี๋ก็ยังคงหนักอึ้งนักหลิงซินยังเด็ก… และนางยังมิได้ใช้ชีวิตให้มีความสุขเลย!คนต่ำช้ายิ่งกว่าสัตว์เช่นกวนอิ่ง… สมควรตายจริง ๆ!หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ต่อไปนางจะมิปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้กับคนข้างกายตนอีกเด็ดขาด นางจะปกป้องทุกคนอย่างเต็มกำลัง!ครั้นทำพิธีเซ่นไหว้หลิงซินเสร็จ เถาจื่อก็ถือหัวกวนอิ่งหมายหาที่ฝังสักที่การวางหน้าหลุมศพอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้จะก่อเรื่องเอาได้!เมื่อหลิงอวี๋เห็นสถานการณ์จึงรีบปราม “อย่าฝัง หัวคนยังมีประโยชน์อยู่!”เถาจื่อมองทางหลิงอวี๋ค่อนข้างสับสนพลางกล่าวเฉยเมย “คุณหนู มันมีประโยชน์ันใดเจ้าคะ! ขนาดสุนัขยังมิกินหัวคนเลยเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ยิ้มมีเลศนัย “เอากลับไปถวายเซียวหลินเทียนเถอะ!”ช่วงหลายวันมานี้ เซียวหลินเทียนก็ออกแรงวางกลเช่นกันการที่นางกับท่านกวนเอ้อร์ขนย้ายสมบัติของตระกูลกวนได้ราบรื่น เป็นเพราะ
ที่แท้สามีภรรยาอ๋องอี้ใช้แผนหว่านความขัดแย้งนี่เอง!เมื่อลู่หนานฟังก็แจ่มแจ้งโดยพลัน แล้วรีบให้คนนำศีรษะไปให้อิ๋นฮู๋เซียวหลินเทียนเห็นหลิงอวี๋ช่วยเหลือตนจึงกล่าวขอบคุณ“หลิงอวี๋ มีเรื่องที่เจ้าต้องรู้! วันนั้นข้าได้รับจดหมายว่าเลี่ยวซงอยู่ทุ่งหญ้าข้างสะพานใช่หรือไม่เล่า?”“ข้าสืบเรื่องนี้แล้ว เป็นจ้าวเจินเจินหาคนส่งข่าวมา!”หลิงอวี๋ผงะชั่วขณะ อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ท่านหมายความว่าหม่อมฉันควรขอบคุณจ้าวเจินเจิน และต่อไปอย่าสร้างเรื่องยากให้นางอีกใช่หรือไม่?”ครั้นเซียวหลินเทียนได้ยินก็รู้ทันทีว่าหลิงอวี๋เข้าใจผิดซะแล้วแล้วจึงคิดถึงอดีตที่หลิงอวี๋กับเกิ่งเสี่ยวหาวคอยระวังตัวจากเขาหลิงอวี๋มิเต็มใจบอกแผนกับตนมากนัก หรือเพราะสงสัยว่าตนจะแอบส่งข่าวให้จ้าวเจินเจิน?แต่ยามนี้เขาปล่อยวางความรักที่มีต่อจ้าวเจินเจินในตอนนั้นไปแล้ว!ทุกสิ่งที่จ้าวเจินเจินทำมันไม่เหมือนจ้าวเจินเจินผู้นั้นที่เขาเคยชื่นชมในอดีตแสนนาน!ฉะนั้น เซียวหลินเทียนจะไม่ปกป้องนางอีกต่อไป!เขายังต้องร่วมมือกับหลิงอวี๋ต่อต้านองค์ชายเว่ยและองค์ชายคังอยู่ จึงมิอาจเกิดความเข้าใจผิดใด ๆ กับหลิงอวี๋ได้อีก!เซียวหลินเทียนอธิ
ครั้นรอกลับถึงเรือนบุหงา หลิงอวี๋จึงเปิดจดหมายแล้วพบว่าเป็นตั๋วเงินหลายใบอยู่ข้างใน รวม ๆ ก็สองแสนหลิงอวี๋ตกตะลึงทันที ของกำนัลวันเกิดชิ้นนี้ที่เซียวหลินเทียนให้ช่างใจกว้างเหลือเกิน!นางใคร่ครวญอยู่พักหนึ่งก็พลันเข้าใจทันใดเซียวหลินเทียนคงกำลังคิดจะลงทุนให้หอริมธาราของตนกับเกิ่งเสี่ยวหาวที่ถูกจ้าวเฉียงฮั๋วหลอกสี่แสนเป็นแน่เซียวหลินเทียนคงกลัวว่าพวกเขาจะไม่มีเงินหมุน ฉะนั้นจึงอ้างว่าฉลองวันเกิดตน เพื่อให้เงินมากโขนี้ต่อตนละสิ!หลิงอวี๋กำลังคิดว่า บัดนี้เกิ่งเสี่ยวหาวก็หมุนเงินทุนลำบากจริง ๆ จึงยังไม่ได้คืนตั๋วเงินกลับไปเงินพวกนี้นางจะรับจากเซียวหลินเทียนมาเปล่า ๆ มิได้ งั้นถือเสียว่าตนยืมเขามาแล้วกัน!รอเมื่อนางกับเกิ่งเสี่ยวหาวมีเงินเหลือเฟือ นางค่อยคืนเขาก็ย่อมได้!วันรุ่งขึ้น ขณะที่หลิงอวี๋กำลังพาหลิงเยวี่ย สองพี่น้องฉีเต๋อ หลิงซวนและเถาจื่อออกไปข้างนอก สุ่ยหลิงก็อยู่ดูแลแม่นมลี่หลังจากที่แม่นมลี่เห็นหูของหลิงซินในวันนั้นก็ตกใจล้มป่วยกะทันหันไปหลิงอวี๋ขบคิดว่าจะซื้อนางรับใช้มาเพิ่มสองคน และเอาที่ได้วรยุทธ์เป็นดีที่สุด!เรื่องนี้ยังต้องไหว้วานเกิ่งเสี่ยวหาวฉะนั้นหลิ