หลิงอวี๋ยกยิ้ม ก่อนหน้านี้ยังกลัวท่านเกิ่งเอ้อร์กับเกิ่งเสี่ยวหาวจะไม่เข้าใจอยู่เลยตอนนี้เห็นพวกเขาคิดได้เช่นนี้นางก็วางใจแล้วท้ายที่สุดหลิงอวี๋ก็นำสองแสนของเซียวหลินเทียนให้เกิ่งเสี่ยวหาวไปเกิ่งเสี่ยวหาวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปฏิเสธอ้อม ๆ“ท่านพี่ ข้ามิอาจรับ เงินของท่านเหลือไม่มากแล้ว ท่านเก็บไว้เองเถิด!”“ข้ายังมีอยู่ เป็นเซียวหลินเทียนมอบเงินพวกนี้ให้!”หลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนเดาเอาเองเกี่ยวกับเงินที่เซียวหลินเทียนมอบให้ต่อเกิ่งเสี่ยวหาว กล่าวปิดท้ายว่า“เซียวหลินเทียนช่างจิตใจดีนัก ข้าจึงมิได้ปฏิเสธ เจ้ารับไปเถอะ! รอเราได้กำไรแล้วค่อยคืนพระองค์!”เมื่อเกิ่งเสี่ยวหาวได้ยินเช่นนั้นถึงรับไว้ เขาพูดอย่างปลงใจไปหนึ่งประโยค“สิ่งที่ท่านอ๋องอี้กระทำในครั้งนี้ยังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่!”“เอาเถอะ ตราบใดที่พระองค์ไม่ถือหางให้จ้าวเจินเจินกับคนของตระกูลจ้าว ต่อไปข้าก็มิหักหน้าพระองค์แล้ว!”“ท่านพี่ วันหลังขอเชิญท่านอ๋องอี้กับคนข้างกายพระองค์ที่ท่านพี่ถูกชะตามาทานอาหารที่ภัตตาคารจี๋เสียงสักมื้อเถอะ! ข้าเลี้ยงเอง! ถือเสียว่าจัดงานวันคล้ายเกิดให้ท่านย้อนหลัง!”“เอาสิ!”ช่วงระยะนี้หลิงอว
หลิงอวี๋ไม่อยากให้ท่านอดีตเสนาบดีว้าวุ่นใจ ครั้นเข้าไปจึงมิได้เอ่ยถึงเรื่องที่ถูกคนเฝ้าประตูขัดขวางขาของท่านอดีตเสนาบดีฟื้นตัวได้มิเลว ตอนนี้เขาสามารถลงเตียงได้แล้วหลิงหว่านและคนรับใช้ชายผู้หนึ่งกำลังประคองเขาเดินอยู่ในลานจวนเมื่อเห็นหลิงอวี๋มา ท่านอดีตเสนาบดีก็กลอกตาใส่นางด้วยท่าทีเด็ก ๆ พลางกิริยาของเขาดูไม่ต้อนรับอย่างยิ่งครั้นแล้วก็หันหน้ามามองทางหลิงเยวี่ยอย่างยิ้มแย้ม กล่าวด้วยใบหน้าอ่อนโยน“เยวี่ยเยวี่ย คิดถึงปู่ทวดหรือไม่?”หลิงอวี๋ “…”หลิงเยวี่ยเด็กน้อยปากหวานคนนี้ เมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ของท่านอดีตเสนาบดีก็พลันวิ่งไปกอดต้นขาท่านอดีตเสนาบดีทันที แล้วพูดด้วยความน่าเอ็นดู“เยวี่ยเยวี่ยคิดถึงท่านปู่ทวดมากขอรับ! คิดถึงที่สุดเลย!”ท่านอดีตเสนาบดีปรายมองหลิงอวี๋ จากนั้นก็หัวเราะเยาะและเอ่ยด่า “เด็กขี้โกหก! คิดถึงปู่ทวดก็ไม่เห็นมาหาปู่ทวดเลย!”“ปู่ทวดคิดถึงเจ้าแทบแย่ แต่เจ้ากลับไม่คิดถึงปู่ทวดเลย!”“ท่านปู่ทวด ท่านก้มลงมาขอรับ!”ท่านอดีตเสนาบดีมิรู้ว่าหลิงเยวี่ยจะทำอันใด พลันก้มลงหลิงเยวี่ยกอดคอท่านอดีตเสนาบดีพลางหอมปรางแก้มของเขาจากนั้นก็หอมลงไปอีกข้างหนึ่ง!ท่
ทว่าโดยเนื้อแท้แล้วนี่คือทางเลือกของหลิงเยี่ยน หลิงอวี๋จึงมิใส่ใจแต่นางกังวลว่าองค์ชายเว่ยจะวางอุบายบางอย่างต่อจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนผ่านหลิงเยี่ยนกับหลิงเสียงเซิงน่ะสิ“ท่านปู่ ท่านมิใช่แม่ทัพใหญ่แล้ว! องค์ชายเว่ยจักถูกใจหลิงเยี่ยนหรือเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ถามอย่างแปลกใจก่อนหน้านี้องค์ชายคิดดึงท่านอดีตเสนาบดีมาเป็นพวก จึงอยากแต่งหลิงเยี่ยนเป็นชายารอง!แต่ตอนนี้ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ถูกคนอื่นได้รับเลือกไปแล้ว องค์ชายเว่ยจะเหลียวมองหลิงเสียงเซิงที่ไร้อำนาจสิ้นอิทธิพลได้อย่างไร!“ไปคุยกันในเรือนเถอะ!”ท่านอดีตเสนาบดีหวั่นหน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง จึงให้หลิงอวี๋กับเถาจื่อประคองตัวเองเข้าเรือน“อาอวี๋ ถึงแม้ปู่เจ้าจักมิใช่แม่ทัพใหญ่แล้ว แต่ทหารที่ข้าเคยฝึกฝนก็มีคนที่ประสบความสำเร็จมิน้อย!”ท่านอดีตเสนาบดีนั่งลงพลันพูดอย่างภูมิใจ “แม่ทัพเสิ่นปินที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งขึ้นใหม่คือศิษย์ของข้าเอง!”ด้วยวาจาของท่านอดีตเสนาบดีทำให้หลิงอวี๋ตกตะลึงช่วงระยะนี้ นางมักขัดแย้งกับเซียวหลินเทียน หลายเรื่องในราชสำนักเซียวหลินเทียนจึงล้วนมิได้บอกตนนางมิรู้ว่าแม่ทัพใหญ่ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่จะเป็นศิษย์ขอ
ที่จริงท่านอดีตเสนาบดีแฝงกายอยู่ท้องพระโรงมานับหลายปี และสัญชาตญาณทางการเมืองอันเฉียบแหลมนั้นตนก็เทียบมิติดในเมื่อเขาพูดแบบนี้ หลิงอวี๋ก็มิกล้าชะล่าใจ“ท่านปู่โปรดวางใจ กลับไปข้าจักช่วยหาคู่ให้หว่านเอ๋อร์โดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋กล่าวปลอบใจ “ท่านปู่ท่านก็อย่าคิดมากเกินไป องค์จักรพรรดิทรงปราดเปรื่องพระองค์มิให้โอกาสพวกเขาแน่เจ้าค่ะ!”ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน เสียงผู้คุ้มกันของท่านอดีตเสนาบดีก็ลอยมาจากข้างนอก“พระชายา ท่านรัฐทายาทส่งคนมาเชิญท่านไปพูดคุยขอรับ!”หลิงอวี๋พลันลุกขึ้นเดินออกไปก็พบสาวงามแปลกหน้าผู้หนึ่งกำลังรออยู่หน้าประตูลานจวนหัวใจหลิงอวี๋สั่นไหว นี่น่าจะเป็นกู่ซุ่ย!นางตีหน้าตายพินิจพิจารณากู่ซุ่ยไปชั่วครู่มีวัยยี่สิบกว่าปี เครื่องหน้างามวิจิตร แม้อาภรณ์ที่สวมจะพราวเสน่ห์ แต่ทั้งคนกลับดูไร้ความยั่วยวนที่เกินงามเลยเสียอย่างนั้น“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ข้ามาเชิญท่านตามคำสั่งของท่านรัฐทายาทเจ้าค่ะ กรุณาไปสักเที่ยวเถิดเจ้าค่ะ!”กู่ซุ่ยโค้งคำนับหลิงอวี๋ พลันถอยหลังครึ่งก้าวเดินไปเป็นกับหลิงอวี๋“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ กู่ซุ่ยสืบมาแล้วว่าช่วงนี้หลิงหลานมักพบปะกับหวางซือข
“ใต้เท้าหลิง จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนแห่งนี้ยังมิใช่ของท่าน ตัวข้าขอเตือนท่านว่าอย่าโอหังให้มากนัก!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นเขาชักสีหน้าก็ยิ้มหยันเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ“องค์ชายเว่ยยังมิได้แต่งหลิงเยี่ยนเข้าเรือน ท่านเอาความมั่นใจจากที่ใดมากล้าขวางมิให้ข้ามาจวนเสนาบดี?”“ตัวข้าเป็นถึงพระชายาอ๋องอี้ผู้สง่า! ที่เรียกท่านว่าพ่อก็เพราะเห็นแก่หน้าท่านอดีตเสนาบดี ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าท่านจะวางท่าต่อข้าได้?”หลิงอวี๋กล่าวดูแคลน “แม้องค์ชายเว่ยให้ตำแหน่งขุนนางกับท่านและหลิงเฟิง แล้วอย่างไรเล่า?”“แค่วาจาข้าประโยคเดียวก็เอาพวกท่านกลับสู่สภาพเดิมได้แล้ว! หากท่านมิเชื่อก็ลองดูสิ!”หลิงเสียงเซิงโมโหตัวสั่นทั้งร่างกับคำพูดหลิงอวี๋“เจ้า… เจ้าลูกเลว เจ้า… ลูกชู้!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นตึก ๆ ตัก ๆ ครั้นได้ยินหลิงเสียงเซิงด่าสองคำว่า ‘ลูกชู้’หรือเรื่องที่หลิงผิงบอกว่าตนกับท่านพี่มิใช่ลูกโดยกำเนิดของหลิงเสียงเซิงจะเป็นความจริง?หลิงอวี๋ตัดสินใจแน่วแน่ว่าวันนี้ต้องเค้นหลิงเสียงเซิงพูดความจริงออกมาให้จงได้นางมองยังหลิงเสียงเซิงด้วยสายตาดูถูก“ลูกชู้? เฮอะ…ใต้เท้าหลิง ท่านรู้หรือไม่ว่าสองคำนี้หมายถึงสิ่งใด
“แน่นอนว่าข้ามีหลักฐาน…”หลิงเสียงเซิงคำรามป่าเถื่อน แต่ด้วยภายใต้สายตาอันเย็นชาของหลิงอวี๋ เสียงก็พลันเบาลงทันควัน“หลังหลานฮุ่ยจวนแต่งเข้ามา ข้าก็มิเคยแตะต้องนาง! แต่นางกลับตั้งท้อง! เจ้ากับพี่ชายเจ้ามิใช่ลูกของข้าแน่!”“เจ้าลองไปถามท่านปู่เจ้าเรื่องนี้สิ เขารู้ชัดเจนทุกอย่าง! เหตุใดข้าต้องเลี้ยงลูกแทนคนอื่นเสียเปล่า ๆ ด้วย!”ความโกรธและความคับข้องเต็มท้องหลิงเสียงเซิง“ท่านปู่เจ้าบอกว่าเป็นหนี้ท่านตาเจ้า! แต่นี่มันเกี่ยวอันใดกับข้า! ไฉนข้าต้องได้รับความคับอกคับใจด้วย?”ในที่สุดบัดนี้หลิงอวี๋ก็เชื่อแล้วว่าตนกับท่านพี่มิใช่ลูกทางสายเลือดของหลิงเสียงเซิงจริง!คนที่เกี่ยวข้องคือผู้ที่มีสิทธิ์ออกความเห็นที่สุด เพื่อใส่ร้ายนางกับหลิงเสี่ยง หลิงเสียงเซิงไม่ถึงกับฝืนยอมโดนสวมเขา“เช่นนั้นท่านพ่อข้าคือผู้ใด?”หลิงเสียงเซิงจ้องหลิงอวี๋เขม็งพลางกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ข้าจักไปรู้ได้อย่างไร หากข้ารู้ก็คงสับมันเป็นหมื่นท่อนตั้งนานแล้ว!”หลิงอวี๋หายใจเข้าลึก ๆ ถามว่า “แล้วท่านแม่ข้าตายได้อย่างไรหรือ?”หลิงเสียงเซิงหลบสายตาของหลิงอวี๋อย่างประหม่าในพริบตา ก่อนจะพูดมั่นใจเต็มปาก“แ
ครานั้นหลิงอวี๋กำลังเตรียมคุมตัวหลิงผิงไปหาหลักฐานว่าหวางซือวางยาหลานฮุ่ยจวน ทว่าในวันรุ่งขึ้นหลิงผิงกลับถูกฆ่าโดยไม่คาดคิดแต่หลิงอวี๋ในตอนนั้นตรวจศพหลิงผิงกลับพบว่าหลิงผิงถูกคนทรมานก่อนสิ้นใจไปหากชิวเหวินซวงอยากฆ่าหลิงผิง นางลงมือโดยตรงก็ได้แล้วแต่ชิวเหวินซวงกลับพาหลิงผิงไปคฤหาสน์ทรุดโทรม ก่อนจะทรมานนางแล้วจึงสังหารนางไปหรือว่าชิวเหวินซวงเค้นถามเอาหลักฐานในมือหลิงผิงมาได้แล้ว จากนั้นค่อยนำหลักฐานไปข่มขู่หวางซือ?สมมติว่าชิวเหวินซวงทำเรื่องพวกนี้จริง เช่นนั้นนางต้องการเงินมากขนาดนี้ไปทำสิ่งใด?สินเดิมมากมายของตนในตอนแรกล้วนถูกชิวเหวินซวงวางกับดัก ให้หลิงผิงหลอกเอาไปจากมือตน!แม้ความทะเยอทะยานของชิวเหวินซวงคือพระชายาอ๋องอี้ แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์พวกนี้แล้วก็ไม่เหมือนคนที่หมายปองตำแหน่งพระชายาจะพึงกระทำเดิมทีหลิงอวี๋อยากไปคุยความสงสัยของตนกับเซียวหลินเทียน แต่ก็นึกถึงว่าปัจจุบันสองพี่น้องชิวเหวินซวงกับชิวเฮ่าได้รับความไว้ใจจากเซียวหลินเทียนอีกครั้งหากนางบอกไปเช่นนี้ เซียวหลินเทียนอาจสงสัยตนทันทีว่ามีเจตนามุ่งเป้าสองพี่น้องชิวเหวินซวง……ณ เรือนริมวารีชิวเหวินซวงยกอาหาร
ณ ห้องตำรายามพรบค่ำชิวเหวินซวงกำลังยกชามน้ำแกงรังนกเดินเข้าไป“ท่านอ๋อง ท่านกำลังยุ่งอยู่หรือ! สุขภาพของท่านจะนอนดึกเช่นนี้บ่อย ๆ มิได้แล้วนะเพคะ!”ชิวเหวินซวงเอ่ยอ่อนโยน “หม่อมฉันต้มน้ำแกงรังนกให้ท่านบำรุงร่างกาย ท่านเสวยแล้วรีบพักผ่อนเถิดเพคะ!”“ขอบใจมาก!”เซียวหลินเทียนวางม้วนกระดาษลงพลางรับมาชิวเหวินซวงจ้องเขม็งขณะที่เซียวหลินเทียนเปิดฝาชาม แล้วพลันส่งช้อนให้เขาว่องไวเมื่อลู่หนานพบว่าเซียวหลินเทียนส่งสายตาให้ตนก็รีบเอ่ยว่า“เหวินซวง เจ้าลองมาดูหน่อย เสื้อคลุมตัวนี้ของท่านอ๋องยังซ่อมได้หรือไม่? น่าเสียดายจริง ๆ ที่ไหมมันขาดหลังสวมไปได้แค่ครั้งเดียว!”ชิวเหวินซวงปรายมองเซียวหลินเทียนแล้วจึงเดินไป “ข้าขอลองดูหน่อย!”ครั้นลู่หนานกำลังจะส่งให้ชิวเหวินซวง นางก็เห็นไหมหลุดออกเป็นหนึ่งสายยาว พลันกล่าวทันที“ซ่อมได้ ข้าจักใช้ด้ายที่สีเดียวกันมาปักลายไม้ไผ่ก็อำพรางได้เจ้าค่ะ!”“เหวินซวง เจ้าช่างเก่งเสียจริง!”ขณะลู่หนานกำลังชื่นชมก็หาเสื้อคลุมยาวมาอีกตัว“เจ้าเอาตัวนี้ไปซ่อมด้วย มีเสี้ยนบนเก้าอี้ล้อของท่านอ๋องที่แต่ก่อนมิพบ อาภรณ์เสียหายไปหลายตัวแล้ว!”ชิวเหวินซวงมองพลาง ลอ