ณ ห้องตำรายามพรบค่ำชิวเหวินซวงกำลังยกชามน้ำแกงรังนกเดินเข้าไป“ท่านอ๋อง ท่านกำลังยุ่งอยู่หรือ! สุขภาพของท่านจะนอนดึกเช่นนี้บ่อย ๆ มิได้แล้วนะเพคะ!”ชิวเหวินซวงเอ่ยอ่อนโยน “หม่อมฉันต้มน้ำแกงรังนกให้ท่านบำรุงร่างกาย ท่านเสวยแล้วรีบพักผ่อนเถิดเพคะ!”“ขอบใจมาก!”เซียวหลินเทียนวางม้วนกระดาษลงพลางรับมาชิวเหวินซวงจ้องเขม็งขณะที่เซียวหลินเทียนเปิดฝาชาม แล้วพลันส่งช้อนให้เขาว่องไวเมื่อลู่หนานพบว่าเซียวหลินเทียนส่งสายตาให้ตนก็รีบเอ่ยว่า“เหวินซวง เจ้าลองมาดูหน่อย เสื้อคลุมตัวนี้ของท่านอ๋องยังซ่อมได้หรือไม่? น่าเสียดายจริง ๆ ที่ไหมมันขาดหลังสวมไปได้แค่ครั้งเดียว!”ชิวเหวินซวงปรายมองเซียวหลินเทียนแล้วจึงเดินไป “ข้าขอลองดูหน่อย!”ครั้นลู่หนานกำลังจะส่งให้ชิวเหวินซวง นางก็เห็นไหมหลุดออกเป็นหนึ่งสายยาว พลันกล่าวทันที“ซ่อมได้ ข้าจักใช้ด้ายที่สีเดียวกันมาปักลายไม้ไผ่ก็อำพรางได้เจ้าค่ะ!”“เหวินซวง เจ้าช่างเก่งเสียจริง!”ขณะลู่หนานกำลังชื่นชมก็หาเสื้อคลุมยาวมาอีกตัว“เจ้าเอาตัวนี้ไปซ่อมด้วย มีเสี้ยนบนเก้าอี้ล้อของท่านอ๋องที่แต่ก่อนมิพบ อาภรณ์เสียหายไปหลายตัวแล้ว!”ชิวเหวินซวงมองพลาง ลอ
“ท่านอ๋อง พวกเขาคิดทำสิ่งใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อลู่หนานได้ฟังก็รีบกล่าวทันควัน “จักมีประโยชน์กระไรหากแผนที่ตกอยู่ในมือพวกเขา?”เซียวหลินเทียนยิ้มเยาะหยัน “ตกสู่มือคนธรรมดาก็ไร้ประโยชน์… แต่หากพวกเขาคือจารชนของแคว้นศัตรูเล่า?”หัวใจจ้าวซวนจมดิ่งลง ก่อนหน้าพวกเขายังนึกว่าชิวเหวินซวงหมายปองแค่ตำแหน่งพระชายา!ฉะนั้นจึงมิใส่ใจความผิดปกติของชิวเหวินซวงนักแต่หาดสองพี่น้องชิวเหวินซวงคือจารชนของแคว้นศัตรู เช่นนั้นก็จะมิใช่แค่อุบายครองตำแหน่งพระชายาแล้ว!“ท่านอ๋อง เช่นนั้นมิต้องคอยถึงวันพรุ่งหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนำแกงรังนกไปให้พระชายาตรวจสอบประเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวซวนพูดหนักแน่นว่า “หากมีปัญหาจริง กระหม่อมจับนางคืนนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนส่ายหน้า “มิต้องรีบขนาดนั้น! คอยดูการแสดงของชิวเหวินซวง เพราะอาจมิใช่การวางยาพิษร้ายแรง!”“หากหลิงอวี๋ตรวจพบปัญหาล่ะก็ วันพรุ่งเจ้าก็หาวิธีนำแกงรังนกชามนี้ให้ชิวเหวินซวงดื่มเสีย!”“เหอะ แค่ให้นางลองชิมแกงรังนกที่ตัวเองปรุงเท่านั้น!”จ้าวซวนหัวร่อทันใด “ถูกต้อง หนามยอกเอาหนามบ่ง! ท่านอ๋องทรงปราดเปรื่องยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวซวนพูดคำไหน
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้จ้าวซวนตกตะลึงไปทันที เขาเองก็นึกถึงอาการป่วยของหลู่ชิ่งเช่นกันตอนนั้นหลู่ชิ่งออกไปกับชิวเฮ่า แต่หากชิวเหวินซวงรู้จักการใช้แมลงกู่ เช่นนั้นชิวเฮ่าก็อาจจะทำได้เช่นกันหรือว่าที่หลิงอวี๋ตรวจไม่พบเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลู่ชิ่งมิใช่อาการป่วย แต่เป็นการถูกเล่นแมลงกู่ใส่?“พระชายา ข้ามิรู้เรื่องศิลปะการใช้แมลงกู่ แต่ไป่สือรู้ขอรับ เพียงแต่หมอว่านเรียกให้เขาไปช่วยกลั่นยาอายุวัฒนะแล้ว!”“จริงสิ ในบ้านเขามีตำราการแพทย์โบราณอยู่เล่มหนึ่ง ในนั้นมีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแมลงกู่อยู่ด้วย!”“ประเดี๋ยวข้าจักไปหาในบ้านของเขาดู หาพบแล้วจักส่งมาให้พระชายาขอรับ!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ดี แต่เจ้าต้องส่งมาอย่างเงียบ ๆ!”“อย่าให้ชิวเหวินซวงรู้ว่าเจ้าเคยไปที่ห้องของไป่สือ มิฉะนั้นนางอาจสงสัยเอาได้!”จ้าวซวนพยักหน้ากับจากไปเขากังวลใจมาก พอนึกถึงว่าตนเชื่อชิวเฮ่าที่ทำร้ายหลู่ชิ่ง เขาก็เสียใจมาก!แต่พระชายากับท่านอ๋องพูดถูก ก่อนที่พบเจตนาที่แท้จริงของพี่น้องชิว พวกเขายังต้องแกล้งโง่คล้อยตามไปก่อน!พอเซียวหลินเทียนได้ฟังผลการตรวจสอบที่จ้าวซวนกลับมารายงานก็ยิ้มเย็นชา“
สีหน้าของเซียวหลินเทียนดูมิค่อยดีเท่าไหร่ เขาพอจะเดาอะไรบางอย่างได้จากบทสนทนาของจ้าวซวนกับหลิงอวี๋เมื่อสักครู่นี้เพียงแต่เขามิอยากจะเชื่อเลยว่าจ้าวซวนจะมิได้บอกอะไรกับตนเลย!จ้าวซวนอึกอักว่า ตนแกล้งทำเป็นว่าส่งหลู่ชิ่งกลับบ้านเกิด แล้วหลิงอวี๋ก็ส่งคนไปรับหลู่ชิ่งกลางทาง ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา“หลู่ชิ่งอยู่นอกเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ อยู่ในทุ่งนาเล็ก ๆ ที่พระชายาซื้อไว้! เมื่อพระชายามีเวลาก็ไปรักษาเขาพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋อง ขอเพียงหลู่ชิ่งเอ่ยปากได้ ก็จะสามารถเป็นพยานในการทำผิดของชิวเฮ่าได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนจ้องมองจ้าวซวน แต่มิสามารถตำหนิอะไรเขาได้หลิงอวี๋เห็นว่าความลับเล็ก ๆ ของตนกับจ้าวซวนถูกตนเปิดเผยออกไปโดยมิได้ตั้งใจ จึงรีบช่วย“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันมิให้จ้าวซวนบอกท่านเอง! ท่านจักตำหนิเขามิได้! หากท่านจักหนิก็ให้โทษตัวท่านเองไปเสีย ผู้ใดให้ท่านเชื่อใจชิวเฮ่ากับน้องสาวของเขาเล่า!”“หม่อมฉันกลัวว่าท่านกล่าวว่าหม่อมฉันใจแคบที่มุ่งเป้าไปที่พวกเขา จึงบอกจ้าวซวนว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับท่าน!”เซียวหลินเทียนพูดมิออกพวกเขาทั้งหมดแสดงออกว่าเชื่อใจพี่น้องชิวเป็นอย่างมาก การที่หลิงอ
เซียวหลินเทียนฟังอย่างตั้งใจ พลางครุ่นคิดไปด้วย“ข้อสงสัยที่สามคือ หลิงผิงเพิ่งรับปากกับหม่อมฉันว่า วันรุ่งขึ้นจักพาหม่อมฉันไปเอาหลักฐานการทำผิดของหวางซือ แต่นางก็มาถูกฆ่าในวันรุ่งขึ้นเสียอย่างนั้น!”หลิงอวี๋เอ่ย “ครานั้นพวกท่านก็เห็นหม่อมฉันชันสูตรศพแล้ว บนร่างกายของหลิงผิงมีร่องรอยการถูกทรมานอยู่!”“หากชิวเหวินซวงแค่ต้องการฆ่าปิดปาก ก็ทำในบ้านของเกิ่งเสี่ยวหาวก็ได้นกระมัง!”“แต่นางกลับพาหลิงผิงไปที่อื่นโดยมิจำเป็นแล้วทรมานซักถามหลิงผิง! นี่เป็นเพราะเหตุใดเล่า?”จ้าวซวนเองก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดเช่นกัน เขาครุ่นคิดพลางเอ่ยอย่างอึดอัด“พระชายา ครานั้นพวกเราพบว่ามีแม่นมขาเป๋มาตามหาชิวเหวินซวง แต่ผลก็คือพอติดตามชิวเหวินซวงไปร่องรอยของนางก็หายไป!”“ต่อมาได้ยินหลิงหลานบอกว่าหลิงผิงมาหาพวกเขาเพื่อขอยืมเงิน พวกเราก็คิดว่าแม่นมขาเป๋เองก็มาขอยืมเงินชิวเหวินซวงเช่นกัน!”หลิงอวี๋พยักหน้า พลางเอ่ยต่อ“จากข้อสงสัยเหล่านี้ หม่อมฉันคาดเดาได้เลยว่า หลิงผิงรู้ความลับของชิวเหวินซวง แล้วมาที่นี่เพื่อขู่เอาเงินชิวเหวินซวง!”“เพียงแต่ชิวเหวินซวงมิคาดคิดว่า หม่อมฉันจับตัวหลิงผิงได้ นางจึงตามเรามาแ
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนรวบรวมข้อมูลที่ต่างฝ่ายต่างมิเคยรู้กันมาก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน แล้วก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าพี่น้องชิวมีเจตนาร้ายหลิงอวี๋ถอนหายใจ “ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการคาดเดาของเรา หากหมายกล่าวโทษพวกเขาก็ต้องมีหลักฐานที่หนักกว่านี้!”เซียวหลินเทียนยิ้มเล็กน้อยพลางกระซิบ “ไม่มีหลักฐาน เช่นนั้นพวกเราก็ขุดกับดักแล้วให้พวกมันกระโดดเข้าไปเองสิ!”“หากทำเรื่องนี้ได้ดีก็สามารถทำให้สายสืบของพวกเขาทั้งหมดในฉินตะวันตกมาติดร่างแหกันทั้งหมดได้!”ดวงตาของหลิงอวี๋เป็นประกาย “ท่านมีวิธีหรือ?”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย “อืม… แต่ข้าต้องรอคนผู้หนึ่งมาก่อน ขอเพียงเขามาก็สามารถดำเนินการตามแผนได้เลย!”“ผู้ใดกันพ่ะย่ะค่ะ?” ลู่หนานเอ่ยถามอย่างไม่อดทน“เก็บเป็นความลับไว้ก่อน!” เซียวหลินเทียนส่งเสียงจุ๊ ๆ “พวกเจ้ามีสิ่งใดให้ทำก็ไปทำเสียเถอะ! อย่ามารวมตัวกันเช่นนี้ ในช่วงเวลาสำคัญ ต้องให้พวกเขาสองคงอยู่นิ่ง ๆ เข้าไว้!”ราวกับว่าเป็นการยืนยันคำพูดของเซียวหลินเทียน เขาเพิ่งจะพูดจบ เสียงขององครักษ์ก็ดังมาจากข้างนอกแล้ว“องครักษ์ชิวมาพบท่านอ๋องอีกครั้งแล้ว ท่านอ๋องอยู่ข้างในขอรับ!”หลิงอวี๋ลุกขึ้
บุรุษผู้นั้นเอาหมวกไม้ไผ่ออก ใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของเขาจึงปรากฏต่อสายตาของทุกคนบุรุษผู้นี้อายุสี่สิบกว่าปี แม้ว่าจะแตกแดดจนผิวสีแทนเล็กหน่อย แต่ดวงตาของเขาใต้คิ้วหนาของเขากลับดำขลับเป็นประกาย เต็มไปด้วยพลัง“ท่านจินต้า!”ลู่หนานรู้สึกประหลาดใจ มิคาดคิดเลยว่าคนที่เซียวหลินเทียนพาพวกเขาออกมาพบจะเป็นท่านจินต้า!“ขึ้นไปคุยกันบนรถม้า!”ท่านจินต้าเข้าไปในรถม้าของเซียวหลินเทียน จ้าวซวนก็ตามเข้าไปด้วยลู่หนานสั่งให้องครักษ์บังคับรถม้าไปตามถนนแล้วตนก็ตามรถม้าไป“ท่านจินต้า คราวที่แล้วท่านบอกว่ามิสามารถกลับเมืองหลวงได้สักระยะหนึ่งมิใช่หรือ? งานเสร็จแล้วหรือ?”จ้าวซวนเอ่ยถามอย่างค่อนข้างแปลกใจท่านจินต้ายิ้มเล็กน้อย “นั่นท่านอ๋องโกหกเจ้า… ข้าได้รับจดหมายของเจ้าก็รีบมาเลย!”“แต่ระหว่างทางข้าได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องให้ข้าไปทำธุระ ข้าก็เลยไปช่วยท่านอ๋องทำงานก่อน!”“เป็นเยี่ยงไรบ้าง?” เซียวหลินเทียนเอ่ยถามท่านจินต้าหุบยิ้ม พลางเอ่ยเสียงขรึม “ภารกิจลุล่วงพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมทำงานที่ท่านอ๋องมอบหมายสำเร็จแล้ว!”“กระหม่อมพบบ้านเกิดของชิวเฮ่าแล้ว และได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วด้วย ครอบคร
เซียวหลินเทียนพยักหน้า “ฉางซุ่นอี้หลบอยู่ลึกถึงเพียงนี้ ย่อมมีวิธีการของเขา สืบหาคนผู้นี้ต่อไป!”“เรื่องเร่งด่วนที่สุดก็คือ พวกเราต้องกำจัดสายสืบในตำหนักอ๋องอี้ก่อน จากนั้นค่อยดึงตัวสหายของพวกเขาในฉินตะวันตกออกมาให้ได้มากที่สุด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใจเย็น “ข้าได้คิดแผนการที่สามารถบังคับพวกเขาส่วนใหญ่ออกมาได้แล้ว! ท่านจิน จ้าวซวน ลู่หนาน เรื่องนี้ต้องการความร่วมมือจากพวกเจ้า!”“ท่านอ๋องบอกมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน “กระหม่อมยินดีช่วยเหลือเต็มที่!”เซียวหลินเทียนกระซิบบอกแผนการของตน ท่านจินฟังแล้วก็ยิ้มออกมา พลางมองไปทางเซียวหลินเทียนในช่วงที่เขาไม่อยู่ เซียวหลินเทียนเติบโตขึ้นมากอาจเป็นเพราะเดินไม่ได้ ทำให้เซียวหลินเทียนมีเวลาในการศึกษาและครุ่นคิดมากขึ้น ดังนั้นจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!“ท่านอ๋อง แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้าได้ทำการปรับและเพิ่มเติมรายละเอียดในแผนการของเซียวหลินเทียนทั้งสองต่างก็พอใจกับผลหลังจากที่แก้ไขแล้วมาก จึงตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามแผนกระทั่งพูดคุยกันเสร็จ เซียวหลินเทียนก็ให้รถม้าหยุดลง แล้วท่านจินต้าก็