บุรุษผู้นั้นเอาหมวกไม้ไผ่ออก ใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของเขาจึงปรากฏต่อสายตาของทุกคนบุรุษผู้นี้อายุสี่สิบกว่าปี แม้ว่าจะแตกแดดจนผิวสีแทนเล็กหน่อย แต่ดวงตาของเขาใต้คิ้วหนาของเขากลับดำขลับเป็นประกาย เต็มไปด้วยพลัง“ท่านจินต้า!”ลู่หนานรู้สึกประหลาดใจ มิคาดคิดเลยว่าคนที่เซียวหลินเทียนพาพวกเขาออกมาพบจะเป็นท่านจินต้า!“ขึ้นไปคุยกันบนรถม้า!”ท่านจินต้าเข้าไปในรถม้าของเซียวหลินเทียน จ้าวซวนก็ตามเข้าไปด้วยลู่หนานสั่งให้องครักษ์บังคับรถม้าไปตามถนนแล้วตนก็ตามรถม้าไป“ท่านจินต้า คราวที่แล้วท่านบอกว่ามิสามารถกลับเมืองหลวงได้สักระยะหนึ่งมิใช่หรือ? งานเสร็จแล้วหรือ?”จ้าวซวนเอ่ยถามอย่างค่อนข้างแปลกใจท่านจินต้ายิ้มเล็กน้อย “นั่นท่านอ๋องโกหกเจ้า… ข้าได้รับจดหมายของเจ้าก็รีบมาเลย!”“แต่ระหว่างทางข้าได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องให้ข้าไปทำธุระ ข้าก็เลยไปช่วยท่านอ๋องทำงานก่อน!”“เป็นเยี่ยงไรบ้าง?” เซียวหลินเทียนเอ่ยถามท่านจินต้าหุบยิ้ม พลางเอ่ยเสียงขรึม “ภารกิจลุล่วงพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมทำงานที่ท่านอ๋องมอบหมายสำเร็จแล้ว!”“กระหม่อมพบบ้านเกิดของชิวเฮ่าแล้ว และได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วด้วย ครอบคร
เซียวหลินเทียนพยักหน้า “ฉางซุ่นอี้หลบอยู่ลึกถึงเพียงนี้ ย่อมมีวิธีการของเขา สืบหาคนผู้นี้ต่อไป!”“เรื่องเร่งด่วนที่สุดก็คือ พวกเราต้องกำจัดสายสืบในตำหนักอ๋องอี้ก่อน จากนั้นค่อยดึงตัวสหายของพวกเขาในฉินตะวันตกออกมาให้ได้มากที่สุด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใจเย็น “ข้าได้คิดแผนการที่สามารถบังคับพวกเขาส่วนใหญ่ออกมาได้แล้ว! ท่านจิน จ้าวซวน ลู่หนาน เรื่องนี้ต้องการความร่วมมือจากพวกเจ้า!”“ท่านอ๋องบอกมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน “กระหม่อมยินดีช่วยเหลือเต็มที่!”เซียวหลินเทียนกระซิบบอกแผนการของตน ท่านจินฟังแล้วก็ยิ้มออกมา พลางมองไปทางเซียวหลินเทียนในช่วงที่เขาไม่อยู่ เซียวหลินเทียนเติบโตขึ้นมากอาจเป็นเพราะเดินไม่ได้ ทำให้เซียวหลินเทียนมีเวลาในการศึกษาและครุ่นคิดมากขึ้น ดังนั้นจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!“ท่านอ๋อง แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้าได้ทำการปรับและเพิ่มเติมรายละเอียดในแผนการของเซียวหลินเทียนทั้งสองต่างก็พอใจกับผลหลังจากที่แก้ไขแล้วมาก จึงตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามแผนกระทั่งพูดคุยกันเสร็จ เซียวหลินเทียนก็ให้รถม้าหยุดลง แล้วท่านจินต้าก็
พวกเขาไม่มีทางให้เงินและเสบียงทหารตกเป็นของแม่ทัพฟ่านได้!หรือว่า...จู่ ๆ ชิวเฮ่าก็ใจเต้น ฝ่าบาทให้เขากับชิวเหวินซวงหาเงินด้วยมิใช่หรือ?หากพวกเขารู้เวลาส่งมอบเงินและเสบียงทหาร แล้วพวกเขาก็สกัดกั้นเงินก้อนนี้ในระหว่างทาง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าตัดเงินและเสบียงทหารของแม่ทัพฟ่าน และทำภารกิจสำเร็จไปพร้อมกันเลยมิใช่หรือ?หากมีจำนวนมาก เมื่อพวกเราได้เงินและเสบียงทหารนี้ไป ฝ่าบาทจะต้องชื่นชมพวกเขาอย่างแน่นอน!และฝ่าบาทอาจจะเลื่อนขั้นและเพิ่มเงินให้เพราะความสำเร็จยิ่งใหญ่นี้ด้วย!ชิวเฮ่ายิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น พอเห็นพวกเซียวหลินเทียนไปแล้ว เขาก็รีบไปหาชิวเหวินซวงแล้วเล่าเรื่องนี้และความคิดของเขาทันทีชิวเหวินซวงก็ตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน ทว่าเนื่องสตรีมีความละเอียดรอบคอบ นางจึงกระซิบ“ท่านพี่ ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงรึ?”ชิวเฮ่ากลอกตาใส่นาง “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงสิ! ยามนี้เซียวหลินเทียนเชื่อใจพวกเรามาก เจ้าดูสิขนาดวันนี้ปรึกษาเรื่องสำคัญเขายังมิให้ข้าออกไปเลย!”“อีกอย่าง วันนี้เขาออกไปกับลู่หนาน ยังให้ข้าช่วยเขาจัดการเอกสารในห้องตำราด้วย! หากเซียวหลินเทียนสงสัยพวกเรา เขาจักให้ข้าอยู่ในห้องห
เมื่อลู่หนานเห็นว่าเขาไปแล้ว จึงกระซิบกับเซียวหลินเทียน“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องคิดว่าชิวเฮ่าจะไปด้วยตนเองหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหลินเทียนยิ้มเล็กน้อย “นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างความสำเร็จยิ่งใหญ่ เขาต้องไปแน่!”“ลู่หนาน เชื่อหรือไม่ พอเขาเห็นด้วยตาของตนเองว่าพวกเราได้เตรียมเงินและเสบียงทหารอย่างดีแล้ว เขาจักต้องหาโอกาสขอลาอย่างแน่นอน!”ลู่หนานเอ่ยด้วยความโกรธ “ท่านอ๋อง กระหม่อมก็อยากจะขอลาเช่นกัน กระหม่อมอยากจะตามรัฐทายาทอันไป อยากจับชิวเฮ่ากลับมาด้วยตัวกระหม่อมเอง อยากจับพวกสาบสืบและทำงานให้สำเร็จด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนใจเต้น เขาเองก็อยากจะไปด้วย!พวกชิวเฮ่าจะต้องลงมืออย่างเต็มที่เพื่อเงินจำนวนมหาศาลนี้เป็นแน่ เขามิได้เพลิดเพลินไปกับความรู้สึกพุลุ่งพล่านในสนามรบมานานมากแล้ว!ในช่วงสองวันที่ผ่านมาขาของตนก็สามารถยืนได้นานขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หากทำอย่างรวดเร็วก็มิน่ามีปัญหาใด!เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งใจเต้น แล้วความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา“ลู่หนาน ข้ามีความคิดอะไรบางอย่าง ไม่เพียงแต่พวกเจ้าขอไปได้ แต่มิดึงดูดความสงสัยของชิวเหวินซวงด้วย!”ดวงตาของลู่หนานเป็นประกาย รีบขยับหูไปฟัง
ภารกิจของจูเผิงในครั้งนี้คือการเฝ้าติดตามชิวเฮ่ากับคนของตระกูลชิวอย่างลับ ๆเขาพาองครักษ์สองสามคนติดตามคนของตระกูลชิวไป ระหว่างทางไม่มีอะไรผิดปกติเลยจูเผิงเองก็มิกล้าชะล่าใจ เขารู้เรื่องที่หลู่ชิ่งถูกหลิงอวี๋รับตัวไประหว่างทาง จึงกลัวว่าชิวเฮ่าจะใช้ลูกไม้กลยุทธิ์จักจั่นลอกคราบเช่นนี้มาทำให้ตนตายใจเช่นกันหลังจากเดินทางเช่นนี้เป็นเวลาสามวัน จูเผิงก็กังวลใจเล็กน้อยหรือว่าชิวเฮ่ามิได้คิดจะไปปล้นเงินทหาร?พลบค่ำวันนี้ ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงแล้ว รถม้าของพวกชิวเฮ่าก็ยังเดินทางไปอย่างสบาย ๆ บนถนนจูเผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อสองวันก่อนชิวเฮ่าได้พาครอบครัวของเขาไปหาที่พักแล้ว แต่คืนนี้ดูท่าทีไม่เหมือนว่าเขาจะพักโรงเตี๊ยมเลย!หรือว่าชิวเฮ่าวางแผนที่จะหลบหนีในคืนนี้?จูเผิงพาคนตามไปอีกช่วงถนน ถนนส่วนนี้อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีผู้ใดอยู่บนถนนเลยจูเผิงมิกล้าตามไปใกล้มากเกินไป กระทั่งเห็นรถม้าหายไปตรงทางเลี้ยว เขาจึงพาคนตามไปแต่เมื่อพวกเขาเลี้ยวไป กลับพบว่ารถม้าของครอบครัวชิวเฮ่าหายไปแล้วจูเผิงตกใจมาก ขณะที่เขากำลังจะไล่ตามไป ก็เห็นป่าที่อยู่ข้างหน้าไม่ไกล“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี
จูเผิงได้ยินเสียงลม ก็รีบหันกลับมาใช้ดาบต้านไว้ แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันจูเผิงกังวลมาก ในขณะที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น ชิวเหวินอิงก็ตามมาทันแล้ว“ข้าจะจัดการกับเขาเอง...”ชิวเหวินอิงเอ่ย “ชิวเฮ่าเจ้าออกไปแสร้งทำเป็นเผชิญหน้ากับโจร ดูว่าจูเผิงพาคนมากี่คนแล้วล่อพวกเขาเข้ามา!”“พวกเจ้ามันเป็นชายหญิงที่หัวใจโหดเหี้ยม ข้าไม่มีทางยอมให้พวกเจ้าทำสำเร็จหรอก!”จูเผิงกัดฟันตะคอกด้วยความโกรธ จากนั้นก็ยกดาบแทงไปทางชิวเฮ่า ชิวเฮ่าหันกลับมาเหวี่ยงดาบใส่แขนของเขาหนังแยกออกเสียจนเห็นกระดูก!จูเผิงกัดฟัน เขาจับดาบไว้แน่นแล้วหันกลับไปแทงชิวเฮ่าอีกครั้งชิวเหวินอิงแทงไปที่เอวของจูเผิงเขาเดินโซเซ อดทนต่ออาการบาดเจ็บยกดาบฟันไปที่ชิวเหวินอิงชิวเฮ่ารีบวิ่งออกไป พลางตะโกน “ใครก็ได้… พวกเราถูกซุ่มโจมตี!”พวกองครักษ์ที่ติดตามจูเผิงได้ยินเสียงจึงลงจากหลังม้าแล้ววิ่งเข้าไปเมื่อชิวเฮ่าเห็นว่าอีกฝ่ายมีทั้งหมดสี่คน ก็รู้สึกสบายใจทันที“ข้าง… ข้างใน รีบหน่อย จูเผิงจักทนมิไหวแล้ว!”ชิวเฮ่าวิ่งนำเข้าไปข้างใน พวกองครักษ์ได้ยินเสียงการต่อสู้กันในป่าจึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว“ตรง… ข้างหน้านั่น...”ชิวเฮ่า
“ฮูหยิน… แล้ว… แล้วฮูหยินเล่า!”ชิวเฮ่าอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสแล้วลุกขึ้น เทยาลงบนแผลไปด้วย พลางเอ่ยถามไปด้วย“ข้าจักไปสอบสวนจูเผิง เขายังมิตาย! ข้าอยากรู้ว่าเซียวหลินเทียนรู้อะไรบ้าง!”ชิวเหวินอิงตะคอก “ฝ่าบาทมุมานะทำงานหนัก วางกลยุทธ์มานานนับทศวรรษเพื่อสร้างเครือข่ายข่าวกรองนี้...”“หากมันถูกทำลายด้วยมือของพวกเรา ชิวเฮ่า พระองค์ไม่มีวันปล่อยพวกเราไปแน่!”“ครั้งนี้ข้าถูกพวกเจ้าทำให้ตาย!”ชิวเหวินอิงบีบคอของชิวเฮ่า พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“รีบไปขวางคนของเราไว้มิให้ตกหลุมพราง! หวังว่าทุกอย่างยังมิสายเกินไป!”“ชิวเฮ่า เจ้าอย่าคิดหลบหนีไประหว่างทาง! เจ้าก็รู้ว่าวิธีการของฝ่าบาทนั้นร้ายแรงเพียงใด เว้นแต่เจ้าจักตาย มิฉะนั้นแม้ว่าเจ้าหนีไปซ่อนตัวอยู่สุดขอบหล้า พระองค์ก็สามารถจับเจ้าได้!”ชิวเฮ่าตัวสั่น กำลังจะพูดอะไรบางอย่างชิวเหวินอิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าชิวเหวินซวงยังอยู่ในตำหนักอ๋องอี้... เจ้าคงมิอยากให้ญาติเพียงคนเดียวในใต้หล้านี้ของเจ้ามีชีวิตที่ตายทั้งเป็นนับจากนี้กระมัง?”ชิวเฮ่านึกถึงชะตากรรมที่น่าสังเวชของสายสืบเหล่านั้นที่แอบหลบหนี แล้วก็กลัวจนตัวสั่นเขากั
“ความตายมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ายังปากแข็งอยู่อีกรึ?”ชิวเหวินอิงโน้มตัวไปจ้องมองจูเผิง พลางเอ่ยอย่างดุร้าย“หากเจ้าตอบข้ามาดี ๆ ข้าจักปล่อยให้เจ้าตายแบบสบาย ๆ มิเช่นนั้น… เจ้าคงต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าตกนรก!”เท้าทั้งสองข้างของจูเผิงเลือดออก เขารู้สึกได้ว่าตนนอนจมกองเลือดอยู่ แต่เขาก็ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด“ชิวเหวินอิง หากข้าตกนรก เจ้าก็คงตกนรกขุมที่สิบแปด ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าข้าหลายร้อยหลายพันเท่าแน่นอน!”จูเผิงจ้องชิวเหวินอิงอย่างดุเดือด “จะทุบตีหรือฆ่าก็มาเลย! หากข้าจูเผิงขมวดคิ้วแม้สักนิด ข้าก็เป็นเดรัจฉานแล้ว!”ชิวเหวินอิงยิ้มเหยียด “ได้ อยากเป็นบุรุษผู้แข็งแกร่งใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าจักช่วยสงเคราะห์เจ้าเอง!”นางหยิบผงยาออกมาจากแขนแล้วโรยลงบนเลือดของจูเผิงหลังจากนั้นไม่นาน ฝูงมดก็คลานมาจากทุกทิศทุกทาง เข้าไปในบาดแผลและเสื้อผ้าของจูเผิงอย่างรวดเร็ว“เจ้าใช้วิธีนี้ มันต่างอะไรกับการจักจี้ข้าเล่า?”จูเผิงที่ในตอนแรกยังเหยียดหยัน รู้สึกคันอย่างรุนแรงไปทั้งตัวแล้ว!แล้วบาดแผลก็เริ่มรู้สึกเจ็บแปลก ๆความเจ็บปวดเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขามิเคยพบมาก่อน มันกัดกินกระดูก เจ็บปวดอย่างแสนสาหั