“ฮูหยิน… แล้ว… แล้วฮูหยินเล่า!”ชิวเฮ่าอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสแล้วลุกขึ้น เทยาลงบนแผลไปด้วย พลางเอ่ยถามไปด้วย“ข้าจักไปสอบสวนจูเผิง เขายังมิตาย! ข้าอยากรู้ว่าเซียวหลินเทียนรู้อะไรบ้าง!”ชิวเหวินอิงตะคอก “ฝ่าบาทมุมานะทำงานหนัก วางกลยุทธ์มานานนับทศวรรษเพื่อสร้างเครือข่ายข่าวกรองนี้...”“หากมันถูกทำลายด้วยมือของพวกเรา ชิวเฮ่า พระองค์ไม่มีวันปล่อยพวกเราไปแน่!”“ครั้งนี้ข้าถูกพวกเจ้าทำให้ตาย!”ชิวเหวินอิงบีบคอของชิวเฮ่า พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“รีบไปขวางคนของเราไว้มิให้ตกหลุมพราง! หวังว่าทุกอย่างยังมิสายเกินไป!”“ชิวเฮ่า เจ้าอย่าคิดหลบหนีไประหว่างทาง! เจ้าก็รู้ว่าวิธีการของฝ่าบาทนั้นร้ายแรงเพียงใด เว้นแต่เจ้าจักตาย มิฉะนั้นแม้ว่าเจ้าหนีไปซ่อนตัวอยู่สุดขอบหล้า พระองค์ก็สามารถจับเจ้าได้!”ชิวเฮ่าตัวสั่น กำลังจะพูดอะไรบางอย่างชิวเหวินอิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าชิวเหวินซวงยังอยู่ในตำหนักอ๋องอี้... เจ้าคงมิอยากให้ญาติเพียงคนเดียวในใต้หล้านี้ของเจ้ามีชีวิตที่ตายทั้งเป็นนับจากนี้กระมัง?”ชิวเฮ่านึกถึงชะตากรรมที่น่าสังเวชของสายสืบเหล่านั้นที่แอบหลบหนี แล้วก็กลัวจนตัวสั่นเขากั
“ความตายมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ายังปากแข็งอยู่อีกรึ?”ชิวเหวินอิงโน้มตัวไปจ้องมองจูเผิง พลางเอ่ยอย่างดุร้าย“หากเจ้าตอบข้ามาดี ๆ ข้าจักปล่อยให้เจ้าตายแบบสบาย ๆ มิเช่นนั้น… เจ้าคงต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าตกนรก!”เท้าทั้งสองข้างของจูเผิงเลือดออก เขารู้สึกได้ว่าตนนอนจมกองเลือดอยู่ แต่เขาก็ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด“ชิวเหวินอิง หากข้าตกนรก เจ้าก็คงตกนรกขุมที่สิบแปด ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าข้าหลายร้อยหลายพันเท่าแน่นอน!”จูเผิงจ้องชิวเหวินอิงอย่างดุเดือด “จะทุบตีหรือฆ่าก็มาเลย! หากข้าจูเผิงขมวดคิ้วแม้สักนิด ข้าก็เป็นเดรัจฉานแล้ว!”ชิวเหวินอิงยิ้มเหยียด “ได้ อยากเป็นบุรุษผู้แข็งแกร่งใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าจักช่วยสงเคราะห์เจ้าเอง!”นางหยิบผงยาออกมาจากแขนแล้วโรยลงบนเลือดของจูเผิงหลังจากนั้นไม่นาน ฝูงมดก็คลานมาจากทุกทิศทุกทาง เข้าไปในบาดแผลและเสื้อผ้าของจูเผิงอย่างรวดเร็ว“เจ้าใช้วิธีนี้ มันต่างอะไรกับการจักจี้ข้าเล่า?”จูเผิงที่ในตอนแรกยังเหยียดหยัน รู้สึกคันอย่างรุนแรงไปทั้งตัวแล้ว!แล้วบาดแผลก็เริ่มรู้สึกเจ็บแปลก ๆความเจ็บปวดเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขามิเคยพบมาก่อน มันกัดกินกระดูก เจ็บปวดอย่างแสนสาหั
กระทั่งตอนที่ชิวเหวินอิงได้สติ จูเผิงก็สิ้นลมไปแล้วเขาตาเบิกกว้าง ใบหน้าถูกชิวเหวินอิงฟันเละ เลือดไหลเข้าไปในดวงตาแล้วค่อย ๆ เต็มเบ้าตาของเขามดพวกนั้นได้กลิ่นเลือดก็พากันคลานเข้าไปในดวงตาของเขา!“หึ... ผู้ใดให้เจ้าปากแข็งกันเล่า!”ชิวเหวินอิงหงุดหงิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับเข้าไปในรถม้าของตระกูลชิว เอาตั๋วเงินออกมาแล้วรีบออกไปนางเร่งม้าวิ่งออกไปให้ไกล ๆ ก่อนจะหาที่ที่ไม่มีคนรักษาบาดแผลของตนเองจากนั้น ชิวเหวินอิงก็หยิบสัมภาระออกมา เปลี่ยนเป็นอาภรณ์สะอาด หยิบหน้ากากหนังมนุษย์ออกมาแล้วสวมใส่กระทั่งนางเดินออกจากที่ซ่อนตัว ชิวเหวินอิงก็กลายเป็นสตรีในวัยสี่สิบกว่า เป็นคนธรรมดาที่เมื่อเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็มิได้มีใครมองมากนักนางปล่อยม้าไป ถือสัมภาระ เดินเป็นระยะทางสิบกว่าลี้เพื่อหาโรงเตี๊ยมชิวเหวินอิงมิได้ไปที่จุดซุ่มโจมตีเพื่อปล้นเงินทหารชิวเฮ่าไปรายงานข่าวแล้ว หากไปถึงทันเวลาก็จะสามารถช่วยสหายเหล่านั้นได้!และสามารถควบคุมเซียวหลินเทียนได้ด้วย!เช่นนี้พวกเขาก็ยังสามารถแฝงตัวอยู่ในฉินตะวันตกต่อไปได้ โค่นล้มฉินตะวันตก ร่วมมือกับภายนอก ทำให้องค์ชายเยี่ยน ขยายอาณาเ
เซียวหลินเทียนพาพวกลู่หนานกลับไปที่ท้องพระโรง แต่ชิวเฮ่าก็ตามทันก่อนที่ไปถึงเมืองหลวง“ท่านอ๋อง...”ชิวเฮ่าเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ขี่ม้าตามมา แล้วแซงหน้ารถม้าของเซียวหลินเทียนไป จากนั้นร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรงกลิ้งลงไปที่พื้นเซียวหลินเทียนเห็นเข้าแววตาก็สั่นระริก แล้วมองจ้าวซวนตามสัญชาตญาณหัวใจของจ้าวซวนก็กระตุกเช่นกัน เขาให้จูเผิงพาคนไปติดตามชิวเฮ่าเมื่อคืนชิวเฮ่ามิได้มาร่วมในการปล้นเงินทหาร กลุ่มของพวกเขาก็ยังรู้สึกแปลก ๆ ไหนเลยจะคิดว่าวันนี้ชิวเฮ่าจะตามมาที่นี่ด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเลือดเช่นนั้นจูเผิงเล่า?จู่ ๆ จ้าวซวนก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีหรือว่ามีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับจูเผิง?“ชิวเฮ่า นี่เจ้าเป็นกระไรไป?”จ้าวซวนกระโดดลงจากหลังม้า เมื่อเห็นชิวเฮ่าหมดสติไปก็รีบวิ่งไปหาข้อมือข้างหนึ่งของเขาถูกตัดไปและมีผ้าพันแผลพันไว้อย่างลวก ๆ บาดแผลยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่เลย“รีบพาชิวเฮ่าไปที่รถม้าเร็วเข้า!”จ้าวซวนสั่งขณะที่แอบขยิบตาให้ท่านจินต้าไปด้วยท่านจินต้าเข้าใจทันที แล้วไปหาองครักษ์ที่ชาญฉลาดอย่างเงียบ ๆ ให้ไปตรวจสอบทิศทางที่พวกจูเผิงไป“ท่านอ๋อง… เราถูก
ชิวเหวินซวงนึกถึงเรื่องเงินทหารขึ้นมาทันทีการซุ่มโจมตีที่ชิวเฮ่าหมายถึงคือเรื่องนี้ใช่หรือไม่?หรือว่า...เรื่องเงินทหารเป็นเรื่องโกหก สหายที่พวกเขาส่งไปปล้นเงินทหารถูกซุ่มโจมตีกันหมดแล้ว!“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”ชิวเหวินซวงตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เริ่มร้องไห้ในหัวของนางรีบครุ่นคิดถึงการตอบโต้อย่างรวดเร็วชิวเฮ่าบอกเป็นนัยว่าเซียวหลินเทียนสงสัยพวกเขาแล้วใช่หรือไม่?“ท่านอ๋อง ร่างของพวกจูเผิงถูกนำกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์คนหนึ่งเข้ามารายงานเซียวหลินเทียนมองพี่น้องชิวอย่างเย็นชา พลางเอ่ยเสียงทุ้ม“พระชายามาแล้วหรือยัง?”“ท่านอ๋อง พระชายาได้ทำการชันสูตรพลิกศพตามที่ท่านอ๋องสั่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หลังจากที่พระชายาตรวจแล้ว เราจักส่งศพไปที่โรงนาพ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์รายงานเสร็จก็ถอยออกไปเซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย เหลือบมองชิวเหวินซวงที่ยังคงร้องไห้อยู่ พลางยิ้มเย็นชา“ชิวเหวินซวง ชิวเฮ่า ตัวข้าบอกไปแล้วว่าข้าจักตรวจสอบหาคำอธิบายให้พวกเจ้าเอง!”ยังมิทันที่เซียวหลินเทียนจะพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเถาจื่อกับหลิงซวนใบหน้าของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธที่มิสามาร
“เห็นหรือไม่ กระบี่ของชิวเฮ่ามีความโค้ง เมื่อแทงเข้าร่างมนุษย์แล้วชักออก ก่อเกิดแผลฟกช้ำ!”ขณะหลิงอวี๋ชี้กระบี่ชิวเฮ่าก็พลางพูดต่อฝูงชนว่า “กระบี่ของพวกเจ้าผิวเรียบรื่น หากแทงเข้าร่างมนุษย์แล้วชักออกก็จะเป็นแค่แผลที่ราบเรียบ!”“ชิวเฮ่าฆ่าท่านป้าชิวกับองครักษ์ไปสองคน บนตัวล้วนมีแผลฟกช้ำทั้งสิ้น องครักษ์ที่ตรวจศพร่วมกับข้าสามารถยืนยันสิ่งที่ข้าพูดได้ว่าคือความจริง!”หลิงอวี๋ยิ้มหยัน “ศพยังคงรักษาสภาพไว้บ้านโลงศพอย่างดี หากมิเชื่อตัวข้า เราสามารถไปบ้านโลงศพเพื่อตรวจสอบอีกได้!”ชิวเหวินซวงเอ่ยร้อนใจ “พระชายา ข้ามิเข้าใจว่าท่านพูดสิ่งใด… ข้ารู้แค่ว่าท่านพี่ไม่มีทางฆ่าท่านแม่เด็ดขาด! ท่านอย่าใส่ร้ายป้ายสีคน!”“ข้ารู้ หากเราสองพี่น้องขัดตาท่าน พวกเราไปก็ได้!”“แต่ท่านมิควรโยนความผิดให้เราต้องแบกรับชื่อเสียงอัปยศที่ไร้ความยุติธรรม!”ครั้นชิวเหวินซวงกล่าวถึงจุดฮึกเหิมก็คุกเข่าลงดังตุ้บทันที“ท่านอ๋องเพคะ ตั้งแต่ที่เราสองพี่น้องมาตำหนักอ๋องอี้ก็มีจิตใจภักดีต่อท่านอ๋องมาตลอด! ท่านอ๋องมิอาจเชื่อวาจาแค่ฝั่งพระชายาได้นะเพคะ!”“เหอะ ๆ… ชิวเหวินซวง ท่านป้าชิวเป็นแม่เจ้าจริงรึ?”หลิงอวี๋หัวเร
เขาไม่รอให้หลู่ชิ่งพูดต่อ พลันตะโกนด้วยความโมโหทันที“หลู่ชิ่ง เจ้าตอบแทนคุณด้วยความแค้น! ครานั้นเป็นข้าช่วยเจ้าสุดชีวิต เจ้ามิซาบซึ้งก็ช่าง แต่ยังกล้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้อีก!”หลู่ชิ่งยิ้มหยันกล่าวว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ชิวเฮ่าบอกอีกว่า เขาแบ่งสมบัติของตระกูลกวนไว้ส่วนหนึ่ง และทรัพย์สินของเหมืองไปซ่อนไว้ในโลงศพท่านลุงชิวส่งกลับบ้านเกิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ขณะกระหม่อมได้ยินสิ่งเหล่านี้ก็ทำเกิดเสียงโดยประมาท ชิวเฮ่ากับชิวเหวินอิงพลันพุ่งมาโจมตีกระหม่อมขนาบหน้าคนหลังคนทันควัน กระหม่อมจู่โจมพวกเขาทั้งคู่มิไหวจึงได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ!”“ชิวเหวินอิงหวั่นท่านอ๋องจะแคลงใจชิวเฮ่าจึงจงใจแทงชิวเฮ่าสองที! แถมยังให้กระหม่อมกินยาหยุดพูด เพื่อให้กระหม่อมไร้ทางเผยความจริงพ่ะย่ะค่ะ!”“หลู่ชิ่ง เจ้าทำข้าปวดใจเกินไปแล้ว!”ชิวเฮ่าเอ่ยกังวล “เจ้าติดสินบนหลิงอวี๋งั้นหรือ? นางมิได้ช่วยเจ้าด้วยใจหวังดีด้วยซ้ำ เจ้ามิควรฟังคำพูดนางแล้วมาใส่ร้ายข้า!”เซียวหลินเทียนหัวเราะขุ่นเคือง ทั้งพยานและหลักฐานก็ล้วนมี แต่ชิวเฮ่ายังคงแถจนสีข้างถลอก ช่างสุดจะเยียวยาเสียจริง!ชิวเหวินซวงก็กล่าวโกรธเคืองเช่นกัน “หลู่ชิ่ง เจ้
เขาเอื้อมมือไปหยิบกลองเล็ก ๆ จากหน้าอก แล้วพลันตีมันเบา ๆ ทันทีตึ่ง ๆ… เสียงกลองแผ่วและกร่อยจนแทบไม่ได้ยินหากไม่ใส่ใจขณะที่ชิวเฮ่ากำลังตีก็พลันรู้สึกปวดหัวกะทันหัน ทว่าเขามิสนใจและตีมันต่อไป“องครักษ์จ้าว จับเขาไว้!”ตามเสียงคำสั่งของหลิงอวี๋ จ้วนซวนกับลู่หนานกระโจนเข้าไปอย่างเร็วรี่ พลันกดชิวเฮ่าไว้กับพื้นทันที“ท่านอ๋อง กระหม่อมถูกใส่ความพ่ะย่ะค่ะ! ท่านทำเช่นนี้กับกระหม่อมมิได้!”ชิวเฮ่าเอ่ยเรียกร้อนใจ “โปรดทรงฟังวาจาของกระหม่อมเถิด สังหารจ้าวซวน ลู่หนาน… และหลิงอวี๋…”ฝูงชนเริ่มรู้สึกประหลาดใจหลิงอวี๋พุ่งเข้ามาพลางกล่าวว่า “ลู่หนาน ล้วงเอาสิ่งของในอกชิวเฮ่าออกมาเสีย!”ลู่หนานเอื้อมมือไปคว้ามือของชิวเฮ่าออกจากอกอย่างหยาบคาย ครั้นแล้วก็มีกลองจิ๋วอันแปลกประหลาดติดมาด้วยกลองจิ๋วหล่นสู่พื้นกลิ้งหลุน ๆ ไปสองตลบ เมื่อชิวเหวินซวงเห็นจึงโผลงไปคว้าแย่งเก็บกลองจิ๋วต่อหน้าหลิงอวี๋ทันใด“เหวินซวง ตีต่อไป!”ชิวเฮ่าเรียกขึ้นในขณะที่ชิวเหวินซวงใช้นิ้วมือตีกลองจิ๋วเป็นจังหวะแต่ชิวเฮ่ากลับรู้สึกปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนเขาจะฝืนเอ่ยเรียก“เซียวหลินเทียน เจ้าถูกข้าควบคุมไว้ได้แล้ว ร
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต