กระทั่งตอนที่ชิวเหวินอิงได้สติ จูเผิงก็สิ้นลมไปแล้วเขาตาเบิกกว้าง ใบหน้าถูกชิวเหวินอิงฟันเละ เลือดไหลเข้าไปในดวงตาแล้วค่อย ๆ เต็มเบ้าตาของเขามดพวกนั้นได้กลิ่นเลือดก็พากันคลานเข้าไปในดวงตาของเขา!“หึ... ผู้ใดให้เจ้าปากแข็งกันเล่า!”ชิวเหวินอิงหงุดหงิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับเข้าไปในรถม้าของตระกูลชิว เอาตั๋วเงินออกมาแล้วรีบออกไปนางเร่งม้าวิ่งออกไปให้ไกล ๆ ก่อนจะหาที่ที่ไม่มีคนรักษาบาดแผลของตนเองจากนั้น ชิวเหวินอิงก็หยิบสัมภาระออกมา เปลี่ยนเป็นอาภรณ์สะอาด หยิบหน้ากากหนังมนุษย์ออกมาแล้วสวมใส่กระทั่งนางเดินออกจากที่ซ่อนตัว ชิวเหวินอิงก็กลายเป็นสตรีในวัยสี่สิบกว่า เป็นคนธรรมดาที่เมื่อเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็มิได้มีใครมองมากนักนางปล่อยม้าไป ถือสัมภาระ เดินเป็นระยะทางสิบกว่าลี้เพื่อหาโรงเตี๊ยมชิวเหวินอิงมิได้ไปที่จุดซุ่มโจมตีเพื่อปล้นเงินทหารชิวเฮ่าไปรายงานข่าวแล้ว หากไปถึงทันเวลาก็จะสามารถช่วยสหายเหล่านั้นได้!และสามารถควบคุมเซียวหลินเทียนได้ด้วย!เช่นนี้พวกเขาก็ยังสามารถแฝงตัวอยู่ในฉินตะวันตกต่อไปได้ โค่นล้มฉินตะวันตก ร่วมมือกับภายนอก ทำให้องค์ชายเยี่ยน ขยายอาณาเ
เซียวหลินเทียนพาพวกลู่หนานกลับไปที่ท้องพระโรง แต่ชิวเฮ่าก็ตามทันก่อนที่ไปถึงเมืองหลวง“ท่านอ๋อง...”ชิวเฮ่าเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ขี่ม้าตามมา แล้วแซงหน้ารถม้าของเซียวหลินเทียนไป จากนั้นร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรงกลิ้งลงไปที่พื้นเซียวหลินเทียนเห็นเข้าแววตาก็สั่นระริก แล้วมองจ้าวซวนตามสัญชาตญาณหัวใจของจ้าวซวนก็กระตุกเช่นกัน เขาให้จูเผิงพาคนไปติดตามชิวเฮ่าเมื่อคืนชิวเฮ่ามิได้มาร่วมในการปล้นเงินทหาร กลุ่มของพวกเขาก็ยังรู้สึกแปลก ๆ ไหนเลยจะคิดว่าวันนี้ชิวเฮ่าจะตามมาที่นี่ด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเลือดเช่นนั้นจูเผิงเล่า?จู่ ๆ จ้าวซวนก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีหรือว่ามีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับจูเผิง?“ชิวเฮ่า นี่เจ้าเป็นกระไรไป?”จ้าวซวนกระโดดลงจากหลังม้า เมื่อเห็นชิวเฮ่าหมดสติไปก็รีบวิ่งไปหาข้อมือข้างหนึ่งของเขาถูกตัดไปและมีผ้าพันแผลพันไว้อย่างลวก ๆ บาดแผลยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่เลย“รีบพาชิวเฮ่าไปที่รถม้าเร็วเข้า!”จ้าวซวนสั่งขณะที่แอบขยิบตาให้ท่านจินต้าไปด้วยท่านจินต้าเข้าใจทันที แล้วไปหาองครักษ์ที่ชาญฉลาดอย่างเงียบ ๆ ให้ไปตรวจสอบทิศทางที่พวกจูเผิงไป“ท่านอ๋อง… เราถูก
ชิวเหวินซวงนึกถึงเรื่องเงินทหารขึ้นมาทันทีการซุ่มโจมตีที่ชิวเฮ่าหมายถึงคือเรื่องนี้ใช่หรือไม่?หรือว่า...เรื่องเงินทหารเป็นเรื่องโกหก สหายที่พวกเขาส่งไปปล้นเงินทหารถูกซุ่มโจมตีกันหมดแล้ว!“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”ชิวเหวินซวงตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เริ่มร้องไห้ในหัวของนางรีบครุ่นคิดถึงการตอบโต้อย่างรวดเร็วชิวเฮ่าบอกเป็นนัยว่าเซียวหลินเทียนสงสัยพวกเขาแล้วใช่หรือไม่?“ท่านอ๋อง ร่างของพวกจูเผิงถูกนำกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์คนหนึ่งเข้ามารายงานเซียวหลินเทียนมองพี่น้องชิวอย่างเย็นชา พลางเอ่ยเสียงทุ้ม“พระชายามาแล้วหรือยัง?”“ท่านอ๋อง พระชายาได้ทำการชันสูตรพลิกศพตามที่ท่านอ๋องสั่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หลังจากที่พระชายาตรวจแล้ว เราจักส่งศพไปที่โรงนาพ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์รายงานเสร็จก็ถอยออกไปเซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย เหลือบมองชิวเหวินซวงที่ยังคงร้องไห้อยู่ พลางยิ้มเย็นชา“ชิวเหวินซวง ชิวเฮ่า ตัวข้าบอกไปแล้วว่าข้าจักตรวจสอบหาคำอธิบายให้พวกเจ้าเอง!”ยังมิทันที่เซียวหลินเทียนจะพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเถาจื่อกับหลิงซวนใบหน้าของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธที่มิสามาร
“เห็นหรือไม่ กระบี่ของชิวเฮ่ามีความโค้ง เมื่อแทงเข้าร่างมนุษย์แล้วชักออก ก่อเกิดแผลฟกช้ำ!”ขณะหลิงอวี๋ชี้กระบี่ชิวเฮ่าก็พลางพูดต่อฝูงชนว่า “กระบี่ของพวกเจ้าผิวเรียบรื่น หากแทงเข้าร่างมนุษย์แล้วชักออกก็จะเป็นแค่แผลที่ราบเรียบ!”“ชิวเฮ่าฆ่าท่านป้าชิวกับองครักษ์ไปสองคน บนตัวล้วนมีแผลฟกช้ำทั้งสิ้น องครักษ์ที่ตรวจศพร่วมกับข้าสามารถยืนยันสิ่งที่ข้าพูดได้ว่าคือความจริง!”หลิงอวี๋ยิ้มหยัน “ศพยังคงรักษาสภาพไว้บ้านโลงศพอย่างดี หากมิเชื่อตัวข้า เราสามารถไปบ้านโลงศพเพื่อตรวจสอบอีกได้!”ชิวเหวินซวงเอ่ยร้อนใจ “พระชายา ข้ามิเข้าใจว่าท่านพูดสิ่งใด… ข้ารู้แค่ว่าท่านพี่ไม่มีทางฆ่าท่านแม่เด็ดขาด! ท่านอย่าใส่ร้ายป้ายสีคน!”“ข้ารู้ หากเราสองพี่น้องขัดตาท่าน พวกเราไปก็ได้!”“แต่ท่านมิควรโยนความผิดให้เราต้องแบกรับชื่อเสียงอัปยศที่ไร้ความยุติธรรม!”ครั้นชิวเหวินซวงกล่าวถึงจุดฮึกเหิมก็คุกเข่าลงดังตุ้บทันที“ท่านอ๋องเพคะ ตั้งแต่ที่เราสองพี่น้องมาตำหนักอ๋องอี้ก็มีจิตใจภักดีต่อท่านอ๋องมาตลอด! ท่านอ๋องมิอาจเชื่อวาจาแค่ฝั่งพระชายาได้นะเพคะ!”“เหอะ ๆ… ชิวเหวินซวง ท่านป้าชิวเป็นแม่เจ้าจริงรึ?”หลิงอวี๋หัวเร
เขาไม่รอให้หลู่ชิ่งพูดต่อ พลันตะโกนด้วยความโมโหทันที“หลู่ชิ่ง เจ้าตอบแทนคุณด้วยความแค้น! ครานั้นเป็นข้าช่วยเจ้าสุดชีวิต เจ้ามิซาบซึ้งก็ช่าง แต่ยังกล้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้อีก!”หลู่ชิ่งยิ้มหยันกล่าวว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ชิวเฮ่าบอกอีกว่า เขาแบ่งสมบัติของตระกูลกวนไว้ส่วนหนึ่ง และทรัพย์สินของเหมืองไปซ่อนไว้ในโลงศพท่านลุงชิวส่งกลับบ้านเกิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ขณะกระหม่อมได้ยินสิ่งเหล่านี้ก็ทำเกิดเสียงโดยประมาท ชิวเฮ่ากับชิวเหวินอิงพลันพุ่งมาโจมตีกระหม่อมขนาบหน้าคนหลังคนทันควัน กระหม่อมจู่โจมพวกเขาทั้งคู่มิไหวจึงได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ!”“ชิวเหวินอิงหวั่นท่านอ๋องจะแคลงใจชิวเฮ่าจึงจงใจแทงชิวเฮ่าสองที! แถมยังให้กระหม่อมกินยาหยุดพูด เพื่อให้กระหม่อมไร้ทางเผยความจริงพ่ะย่ะค่ะ!”“หลู่ชิ่ง เจ้าทำข้าปวดใจเกินไปแล้ว!”ชิวเฮ่าเอ่ยกังวล “เจ้าติดสินบนหลิงอวี๋งั้นหรือ? นางมิได้ช่วยเจ้าด้วยใจหวังดีด้วยซ้ำ เจ้ามิควรฟังคำพูดนางแล้วมาใส่ร้ายข้า!”เซียวหลินเทียนหัวเราะขุ่นเคือง ทั้งพยานและหลักฐานก็ล้วนมี แต่ชิวเฮ่ายังคงแถจนสีข้างถลอก ช่างสุดจะเยียวยาเสียจริง!ชิวเหวินซวงก็กล่าวโกรธเคืองเช่นกัน “หลู่ชิ่ง เจ้
เขาเอื้อมมือไปหยิบกลองเล็ก ๆ จากหน้าอก แล้วพลันตีมันเบา ๆ ทันทีตึ่ง ๆ… เสียงกลองแผ่วและกร่อยจนแทบไม่ได้ยินหากไม่ใส่ใจขณะที่ชิวเฮ่ากำลังตีก็พลันรู้สึกปวดหัวกะทันหัน ทว่าเขามิสนใจและตีมันต่อไป“องครักษ์จ้าว จับเขาไว้!”ตามเสียงคำสั่งของหลิงอวี๋ จ้วนซวนกับลู่หนานกระโจนเข้าไปอย่างเร็วรี่ พลันกดชิวเฮ่าไว้กับพื้นทันที“ท่านอ๋อง กระหม่อมถูกใส่ความพ่ะย่ะค่ะ! ท่านทำเช่นนี้กับกระหม่อมมิได้!”ชิวเฮ่าเอ่ยเรียกร้อนใจ “โปรดทรงฟังวาจาของกระหม่อมเถิด สังหารจ้าวซวน ลู่หนาน… และหลิงอวี๋…”ฝูงชนเริ่มรู้สึกประหลาดใจหลิงอวี๋พุ่งเข้ามาพลางกล่าวว่า “ลู่หนาน ล้วงเอาสิ่งของในอกชิวเฮ่าออกมาเสีย!”ลู่หนานเอื้อมมือไปคว้ามือของชิวเฮ่าออกจากอกอย่างหยาบคาย ครั้นแล้วก็มีกลองจิ๋วอันแปลกประหลาดติดมาด้วยกลองจิ๋วหล่นสู่พื้นกลิ้งหลุน ๆ ไปสองตลบ เมื่อชิวเหวินซวงเห็นจึงโผลงไปคว้าแย่งเก็บกลองจิ๋วต่อหน้าหลิงอวี๋ทันใด“เหวินซวง ตีต่อไป!”ชิวเฮ่าเรียกขึ้นในขณะที่ชิวเหวินซวงใช้นิ้วมือตีกลองจิ๋วเป็นจังหวะแต่ชิวเฮ่ากลับรู้สึกปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนเขาจะฝืนเอ่ยเรียก“เซียวหลินเทียน เจ้าถูกข้าควบคุมไว้ได้แล้ว ร
“ชิวเหวินซวง เจ้าช่างเก่งวาทศิลป์จริง ๆ! ทุกอย่างเป็นแบบนี้แล้ว เจ้ายังปากแข็งอีก!”เซียวหลินเทียนเดือดดาลพลางตะโกน “ท่านลุงชิวตายได้อย่างไร? เจ้าคิดว่าข้ามิรู้งั้นรึ?”“เขาตกลงมาขณะซ่อมห้องครัวคือความจริง แต่เจ้ากลัวเขามิตายจึงใช้กำลังภายในหักซี่โครงเขาซ้ำ! ตัวข้าแอบให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพตรวจร่างแล้ว!”“ส่วนพ่อบ้านฟั่น…”หลิงอวี๋กล่าวเสริมว่า “ช่วงสองวันมานี้ข้าก็ได้พบกับแม่ทัพเฉิน และขุดหลุมฝังศพของพ่อบ้านฟั่นแล้ว”“พิษในตัวพ่อบ้านฟั่นกับในตัวองครักษ์สองคนนั้นของเกิ่งเสี่ยวหาวที่จับตาดูหลิงผิงคือชนิดเดียวกัน...เป็นยาพิษฤทธิ์รุนแรงทำให้หยุดหายใจเฉียบพลัน!”“เรายังพบเข็มเงินอาบยาพิษในคอของพ่อบ้านฟั่นด้วย! ครานั้นทุกคนคิดว่าพ่อบ้านฟั่นล้มป่วยกะทันหันจึงสิ้นใจ ทว่าในความจริงเขาถูกพิษตายต่างหาก!”หลิงอวี๋ยิ้มหยันกล่าว “ตาข่ายสวรรค์ห่างแต่ไม่รั่ว(1) ชิวเหวินซวง เจ้าคิดว่าหากเจ้ามิพูด เจ้าก็ปกปิดพวกเราได้ตลอดชีวิตงั้นรึ?”ชิวเหวินซวงสั่นเทิ้มทั้งร่าง โดยไม่รู้เช่นกันว่าจะกลัวหรือโกรธดีนางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะขุดหลักฐานได้มากขนาดนี้ นางคิดว่าตัวเองกระทำอย่างไร้ท
“เหวินซวง…”ชิวเฮ่าหมายยันตัวลุกขึ้นไปตรวจดูนาง แต่ทันทีที่เขาจะขยับจ้าวซวนพลันตัดเส้นเอ็นมือและเท้าของเขาอย่างไวว่องจ้าวซวนกลัวชิวเฮ่าจะปลิดชีพตนเองเหมือนชิวเหวินซวงจึงบีบกรามของเขา และหยิบเม็ดยาพิษออกจากปากเขาเสียชิวเฮ่าจ้องจ้าวซวนเขม็ง แล้วหัวร่อหึ ๆ ขึ้น“แม้พวกเจ้ากระจ่างทุกสิ่งแล้วจะอย่างไรเล่า? เราจะไม่แพ้… เหวินซวงพูดถูก จะมีคนล้างแค้นให้เรา!”“ฮ่า ๆ… เซียวหลินเทียน เจ้าคงอยากรู้นักหนาว่าที่สองขาเจ้าพิการเป็นข้าทำหรือไม่? มิผิด เป็นข้าเอง…”“เจตนาเดิมของข้าคืออยากฆ่าเจ้า ทำให้ฉินตะวันตกของพวกเจ้าสูญเสียแม่ทัพใหญ่ ผู้ใดจักไปรู้ว่าเจ้าจะดวงดีขนาดนี้ เพียงตกขาหักแค่นั้นเอง…”“ตอนข้าพบเจ้า เดิมทีหมายซ้ำเจ้าสักสองสามดาบ แต่เจ้ากลับฟื้นน่ะสิ… พวกจ้าวซวนก็รุดมาถึงซะแล้ว ข้าจึงไร่โอกาสลงมือ!”ชิวเฮ่าหัวเราะบ้าคลั่งพลางเอ่ยว่า “แม้มิได้ฆ่าเจ้า แต่ก็ทำเจ้าพิกลพิการได้ก็นับว่าสำเร็จแล้วเหมือนกัน!”“หากมิใช่เพราะหญิงชั่วจอมยุ่มย่ามนี่ละก็…”ชิวเฮ่ามองทางหลิงอวี๋พลางด่าอย่างโมโห “คราแรกข้าน่าจะฆ่าเจ้าให้ตายไปเสีย!”ชิวเฮ่าระเบิดหัวเราะบ้าคลั่ง “พวกเจ้าจักมิชนะ…ฮ่า ๆ พวกเจ้าน่าจ
“อย่า… อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าเสิ่นกลัวจนร้องออกมาเสียงสั่นเขาเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของตนว่าจะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะหนีมิพ้นหมาป่าตัวนี้!“หึ! ข้าบอกไปแล้วว่า นอกเสียจากเจ้าจะเร็วกว่าปู้ติง มิเช่นนั้นก็ให้เชื่อฟังคำของข้า! เจ้าอยากจะทนทุกข์ก่อนจึงจะยอมฟังหรือไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเดินเข้าไป เรี่ยวแรงที่ตัวนางกลับคืนมาแล้วลูกปัดสีเขียวนี้มหัศจรรย์จริง ๆ!แต่หลิงอวี๋มิได้มีความคิดที่จะครอบครองเป็นของตน นี่คือของของแม่หมาป่า ในเมื่อให้ปู้ติงไปแล้วเช่นนั้นก็เป็นของปู้ติง“ปู้ติง! ปล่อยเขาเถิด!”ปู้ติงจึงปล่อยหัวหน้าเสิ่นอย่างเชื่อฟัง หลิงอวี๋ก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู จากนั้นก็เอาลูกปัดสีเขียวยัดเข้าปากมันไป“เสี่ยวเจียง ปิดประตู!”หลิงอวี๋เอ่ยกับเสี่ยวเจียงที่กลัวจนสั่นมิหยุดเสี่ยวเจียงมองขาที่เลือดไหลของหัวหน้าเสิ่น เมื่อครู่หมาป่าตัวนั้นรวดเร็วมาก เขาหนีมิได้เลยมีหรือเสี่ยวเจียงจะกล้ามิฟังคำพูดของหลิงอวี๋ เขาจึงเดินไปปิดประตูด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น“ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบสิ่งนั้น มิเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ปู้ติงกัดจะมิใช่ขาของเจ้า แต่เป็นคอ เข้าใจหรือไม่?”หลิ
หลิงอวี๋กุมใบหน้าตนเองอย่างสิ้นหวัง นางมิเชื่อว่าปู้ติงจะทิ้งตนไปจะต้องเป็นเพราะที่นี่อยู่ไกลจากวังเทพมากเกินไปอย่างแน่นอน ปู้ติงจึงมิได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของตนในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดที่จะพยายามกลับไปบนเตียงก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจากด้านล่าง“นั่นคือหมาป่าหรือ? ข้ามิได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่!”“เจ้าตาฝาดแล้ว ที่นี่จะมีหมาป่ามาจากที่ใดกัน!”“แต่ข้าเห็นหมาป่าที่เป็นสีขาวราวกับหิมะทั้งตัววิ่งไปจากบนหลังคาจริง ๆ นะ...”หมาป่าตัวสีขาวราวหิมะ?หลิงอวี๋กำลังจะวางมือก็เห็นว่ามีสายฟ้าสีขาวพุ่งเข้ามาจากหน้าต่างอย่างรวดเร็วหลิงอวี๋ยังมิทันได้เห็นชัด สายฟ้านั้นก็พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของนาง แล้วตัวที่เป็นขนปุกปุยก็ทำให้ทั้งตัวของนางอบอุ่นขึ้นมาหลิงอวี๋ก้มหน้าลงก็เห็นดวงตาสีเขียวของหมาป่าน้อยที่มีขนตาสีขาวข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งปู้ติง!ปู้ติงจริง ๆ ด้วย!มิเจอกันหลายวัน ปู้ติงโตขึ้นอีกแล้วและดูแข็งแรงขึ้นด้วย!หลิงอวี๋กอดปู้ติงอย่างดีใจแล้วก็จุ๊บมันไปแล้วหัวใจที่จมลงสู่ก้นบึ้งก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นทันที“ปู้ติง ข้าถูกคนวางแผนทำร้าย ตัวข้าไม่มีแรงเลย เจ้าหายาแก้พิษให้ข้าหน่อยได้ห
เด็กหนุ่มผอมบางเช่นนี้น่าจะมิใช่คู่ต่อสู้ของตน!หลิงอวี๋หลับตาลงอีกครั้งพลางครุ่นคิดท่านน้าหลิน เสวี่ยเหมยและอี้เหวินให้หัวหน้าเสิ่นที่เป็นผู้ส่งเสบียงพาตนลงจากเขามา จะต้องเป็นเพราะตนได้รับการยกย่องจากหวงฝู่หมิงจูจึงไปดึงดูดความอิจฉาริษยาของพวกนางเป็นแน่นางมิเชื่อว่าท่านน้าหลินเพียงแค่ต้องการให้ตนออกจากวังเทพอย่างเดียวเท่านั้นเมื่อคิดเชื่อมโยงถึงเรื่องเครื่องประดับเหล่านั้นที่หัวหน้าเสิ่นพูดถึง ทั้งยังมีเรื่องที่อี้เหวินอาศัยว่าจะให้ตนดูแลจัดการงานภายในของวังเทพแล้วพาตนไปดูโกดัง อีกทั้งยังบอกตนเรื่องที่หวงฝู่หมิงจูมีจี้หยกราตรีน้ำเงินอีกหลิงอวี๋จึงได้กล้าคาดเดาอะไรเช่นนี้ท่านน้าหลินจะต้องติดสินบนหัวหน้าเสิ่นให้พาตนลงมาจากภูเขา จากนั้นก็ใส่ร้ายว่าตนขโมยเครื่องประดับแล้วหนีไปอย่างแน่นอนขอเพียงมีหนึ่งในเครื่องประดับหนึ่งชิ้นตกหล่นหายไป หวงฝู่หลินก็จะยิ่งเชื่อว่าตนเป็นคนขโมยจากนั้นหัวหน้าเสิ่นก็จะสังหารตนหัวหน้าเสิ่นออกไปแล้ว เสี่ยวเจียงผู้นี้ก็มิใช่คู่ต่อสู่ของตน หากมิหนีเวลานี้แล้วยังจะรออะไรอีกเล่า!หลิงอวี๋คิดแล้วขยับมือเท้าอย่างเงียบ ๆมือเท้ามิได้ถูกมัดไว้ แต่ขยับเ
“ท่านสี่ เราทำอาหารกันค่อนข้างมาก จึงนำมาให้ท่านสักหน่อย!”เก๋อเฟิ่งฉิงเห็นพวกฉินซานเรียกเซียวหลินเทียนว่าท่านสี่จึงเรียกเซียวหลินเทียนเช่นนั้นตามเซียวหลินเทียนมิแม้แต่จะมองถาดของนางแล้วยกอาหารแห้งในมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยเรียบ ๆ “ขอบคุณมาก แต่ข้ากินอิ่มแล้ว!”เขายัดอาหารแห้งที่เหลือใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยเก๋อเฟิ่งฉิงเองก็มิได้ท้อ นางวางถาดไว้ตรงหน้าเขาแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “กินอิ่มแล้วก็กินน้ำแกงผักสักหน่อยก็ได้! จะแบ่งให้ลูกน้องของท่านก็ได้!”หลังจากพูดจบ เก๋อเฟิ่งฉิงก็หันหลังเดินไปคนที่มีตาก็ล้วนมองออกว่าเก๋อเฟิ่งฉิงกำลังเอาใจเซียวหลินเทียนอยู่สตรีพรหมจรรย์นางหนึ่งเอาใจบุรุษคนหนึ่งเช่นนี้ จะเป็นเพราะเหตุใดไปได้เล่า!“ขันทีโม่ ท่านกินเถิด!”เซียวหลินเทียนดันถาดไปให้ขันทีโม่ขันทีโม่มองอาหารตรงหน้า มีเนื้อมีผัก ดูคุณค่าทางอาหารสมบูรณ์มาก เขาจึงยิ้มแล้วเอ่ย“คุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อคงยังมิยอมถอดใจจากท่านเลยนะ! ท่านสี่ เช่นนั้น ยินดีรับไว้ดีหรือไม่?”ขันทีโม่ก็เหมือนกับคนจำนวนมากที่คิดว่าการที่เซียวหลินเทียนจะมีสนมมากมายนั้นเป็นเรื่องปกติแม้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อผู้นี้จะแสร
กลุ่มของเก๋อเฟิ่งฉิงกับเซียวหลินเทียนเข้าไปในเขาด้วยกันแล้วก็เห็นคนของตระกูลเฉียว แต่ทุกคนก็ต่างคนต่างไปการปะทะกันในเวลานี้มิใช่เรื่องที่ฉลาด เพราะว่าการลงมือในถิ่นของหวงฝู่หลินนั้นอาจจะทำให้หวงฝู่หลินโกรธได้แม้ว่าตระกูลหวงฝู่จะอยู่อย่างสันโดษมาหลายชั่วอายุคน แต่ในฐานะของผู้สืบทอดของตระกูลหวงฝู่หลินก็มีความเป็นไปได้ที่พลังจะสูงกว่าพวกเขาทั้งหลายสำหรับหวงฝู่หลิน ผู้นำของทั้งสองตระกูลต่างก็เสนอจุดประสงค์ที่จะดึงมาให้เป็นพวกเดียวกัน ดังนั้นหากมิถึงคราวจำใจจริง ๆ เก๋อเฟิ่งฉิงกับเฉียวไป๋ไม่มีทางทำเรื่องที่จะทำให้หวงฝู่หลินขุ่นเคืองแน่เมื่อเข้าไปในภูเขาหิมะ เริ่มแรกยังมีเส้นทาง แต่เดินไปได้สิบกว่าลี้ก็ไม่มีเส้นทางแล้วทั่วทุกที่ล้วนเป็นสีขาวโพลน แม้ว่าหานเหมยจะเคยมาที่ภูเขาหิมะ แต่เมื่อเห็นสีขาวโพลนนี้นางก็หลงทางเช่นกัน มิรู้ว่าภูเขาแห่งนั้นคือภูเขาที่มีวังเทพอยู่“มิต้องรีบร้อน ค่อย ๆ หาไป ขอเพียงฮูหยินอยู่ที่วังเทพ พวกเราจะต้องตามหานางพบแน่นอน!”ต่อหน้าเก๋อเฟิ่งฉิง เซียวหลินเทียนจึงเรียกหลิงอวี๋ว่าฮูหยินหานเหมยอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ก่อนหน้านี้นางบอกอย่างมั่นใจว่าตนรู้เส้น
หวงฝู่หลินพูดถึงตรงนี้แล้วก็เปลี่ยนน้ำเสียง “ปี้ซง เสวี่ยเหมยที่อยู่ข้างกายหมิงจูผู้นั้นมิอาจใช้งานได้แล้ว!”“ที่หลิงอวี๋หายตัวไปครานี้ จะต้องมีนางสมรู้ร่วมคิดอยู่ด้วยเป็นแน่! เจ้าให้คนของเจ้าจับตาดูนางไว้แล้วให้คนคุ้มกันหมิงจูไว้ให้ดี ๆ อย่าได้เกิดเรื่องอะไรกับนางเป็นอันขาด!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ซงพยักหน้าพร้อมกับแววตาที่ล้ำลึกหวงฝู่หลินมิได้อยู่ที่วังเทพเป็นเวลานาน เดิมทียังคิดว่าลิ่งหูหลินสามารถดูแลหมิงจูเป็นอย่างดีได้ แต่ในเมื่อลิ่งหูหลินคิดมิซื่อ เช่นนั้นทาสในวังเทพเหล่านี้ก็ต้องถูกนางซื้อตัวไว้แล้วเป็นแน่! คราวนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วเซียวหลินเทียนคาดมิถึงเลยว่าเขามาถึงที่ภูเขาหิมะ แต่หลิงอวี๋กลับมิอยู่ที่วังเทพแล้วจะว่าไปแล้ว เซียวหลินเทียนก็เกือบจะเฉียดกับหลิงอวี๋อยู่เหมือนกันที่ด้านนอกภูเขาหิมะ กลุ่มของเซียวหลินเทียนได้พบกับกลุ่มส่งเสบียงของวังเทพหลิงอวี๋ถูกป้อนยาสลบและทำให้กระดูกอ่อนแรงไปจึงนอนหมดสติอยู่บนรถม้ากลุ่มของเซียวหลินเทียนเห็นรถม้าที่ขนของสารพัดมาก็หาได้ใส่ใจไม่ ทั้งสองคนจึงคลาดกันไปเช่นนั้นกลุ่มของเซียวหลินเทียนเข้าไปในอาณาเขตของภูเขาหิมะแล้
ธารน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุดเต็มไปด้วยน้ำแข็งที่สะสมมาตลอดหลายพันปี บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งถูกโซ่เหล็กขนาดเท่าแขนหลายเส้นมัดเอาไว้ และฝังอยู่ในน้ำแข็งที่สะสมอยู่นั้นฝูไห่หลับตาอยู่เหมือนยังมีชีวิต คล้ายกับคนที่กำลังหลับอยู่และสามารถตื่นขึ้นมาได้ตลอดเวลา!พ่อของหวงฝู่หลินบอกกับหวงฝู่หลินไว้ว่า “คนที่มีพลังล้ำลึกเช่นฝูไห่นี้ หากโอกาสเอื้ออำนวย แม้ว่าจะถูกฝังอยู่ในน้ำแข็งเขาก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้!”“ปู่ของเจ้ากับหลงอี้เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกันจึงมิได้สังหารเขาไปตรง ๆ แต่ใช้วิธีเช่นนี้กักขังเขาเอาไว้แทน!”“ตระกูลหวงฝู่ของเรารับผิดชอบในการปกป้องเขา เจ้ารู้ว่าเข้ามาอย่างไรก็พอแล้ว มิต้องไปสนใจเขามากเกินไป เพราะว่าใต้หล้านี้นอกจากหลงอี้กับปู่ของเจ้าจะยินยอม มิฉะนั้นใครก็ไม่มีทางจะคืนชีพเขาได้!”นี่เท่ากับว่าเป็นโลงศพน้ำแข็งที่อยู่ในสุสานน้ำแข็งน่ะสิ!หวงฝู่หลินเห็นแล้วก็มิได้ใส่ใจ หากมิใช่เพราะท่านพ่อพาตนไป เขาก็หาทางเข้าไปมิเจออย่าว่าแต่ตลอดทางยังมีกลไกและกับดักมากมาย เพียงแค่มิระวังนิดเดียว ตัวเองก็อาจต้องตายอยู่ในธารน้ำแข็งเหล่านี้ก่อนหน้านี้หวงฝู่หลินมิ
ในขณะที่เสวี่ยเหมยกำลังระวังตัวอยู่เงียบ ๆ นั้น วังเทพก็ได้ต้อนรับแขกที่มิได้รับเชิญจากหลายทางคนเหล่านี้ก็คือเซียวหลินเทียน คนของตระกูลเฉียวและคนของตระกูลเก๋อทันทีที่คนสามกลุ่มนั้นเข้ามาในพื้นที่ของภูเขาหิมะ องครักษ์ที่ยืนเวรอยู่ด้านหน้าหุบเขาก็ส่งนกพิราบมาส่งข่าวให้หวงฝู่หลินอย่างรวดเร็วหวงฝู่หลินเห็นแล้วก็ตะลึงเป็นเล็กน้อย ตระกูลหวงฝู่มิข้องเกี่ยวกับเรื่องภายนอกมาหลายร้อยปีแล้ว คนเหล่านี้ดาหน้ามาพร้อมกันด้วยเรื่องอันใด?“ทำตามกฎเดิม มิต้องสนใจพวกเขา หากสามารถบุกเข้ามาถึงวังเทพได้ค่อยว่ากัน!”หวงฝู่หลินยิ้มอย่างดูถูกหลายร้อยปีมานี้ มีคนจำนวนนับมิถ้วนที่อยากจะบุกเข้ามาปล้นวังเทพแต่เข้ามาได้ก็กลับออกไปมิได้เขามิเชื่อว่าคนเหล่านั้นจะสามารถบุกเข้ามาในวังเทพได้อย่างราบรื่นภายใต้การวางกับดักที่ซับซ้อนและค่ายกลจำนวนมากแต่ปี้ซงมิได้มองในแง่ดีเช่นหวงฝู่หลิน เขาดูข่าวที่ส่งมาอย่างละเอียดแล้วเอ่ย “ท่านเจ้าวัง กลุ่มที่มาสองกลุ่มคือตระกูลเก๋อกับตระกูลเฉียว นี่คือคนของทางแดนเทพพ่ะย่ะค่ะ!”“หากมิได้มีเรื่องสำคัญนักพวกเขาจะมาที่แดนเทพด้วยกันได้อย่างไร?”“ส่วนคนกลุ่มนี้มิใช่คนของแดนเทพ
หวงฝู่หลินสีหน้าเปลี่ยนไป แล้วในที่สุดก็ตะโกนขึ้นมา “ปี้ซง!”ปี้ซงเดินเข้ามา“ส่งข่าวออกไปทันทีให้ป้าวเฉิงระดมคนทั้งหมดจับเป็นอาอวี๋!”ที่ตัวของอาอวี๋ยังมีตำรับยาที่หวงฝู่หลินต้องการอยู่ ก่อนที่จะได้ตำรับยานั้นมา หวงฝู่หลินต้องการให้อาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ปี้ซงเป็นคนสนิทของหวงฝู่หลินจึงเข้าใจเจตนาของหวงฝู่หลินในทันที แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “พ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ซงรีบใช้นกพิราบส่งข่าวหาป้าวเฉิงอย่างรวดเร็วท่านน้าหลินแอบภูมิใจ หัวหน้าเสิ่นรับเครื่องประดับเหล่านั้นที่ตนให้เขาไปแล้ว จะต้องสังหารหลิงอวี๋แล้วอย่างแน่นอนแม้ว่าปี้ซงจะตามหาหลิงอวี๋กลับมาได้ หลิงอวี๋ก็เป็นศพไปแล้ว ไม่มีทางเป็นภัยคุกคามตำแหน่งของตนได้อีก“เสวี่ยเหมย เจ้านำศพปี้เอ๋อร์ไปฝังเถิด เด็กสาวผู้นี้เองก็เป็นคนที่น่าสงสารที่เจอคนมิดี!”ท่านน้าหลินแสร้งทอดถอนใจแล้วบอกหวงฝู่หมิงจูคือคนที่เสียใจที่สุดในจำนวนเหล่านี้ นางเชื่อใจอาอวี๋ถึงเพียงนั้น อาอวี๋หนีไปได้อย่างไร?หลักการที่ปกตินางสอนให้ตนในการเป็นคนนั้นเป็นของปลอมทั้งหมดเลยหรือ?หวงฝู่หมิงจูรู้สึกว่าตนถูกหักหลัง ในเวลาชั่วครู่นี้ นางได้รู้จักกับความเกลียดเป็นครั้งแรกแล้