เซียวหลินเทียนพาพวกลู่หนานกลับไปที่ท้องพระโรง แต่ชิวเฮ่าก็ตามทันก่อนที่ไปถึงเมืองหลวง“ท่านอ๋อง...”ชิวเฮ่าเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ขี่ม้าตามมา แล้วแซงหน้ารถม้าของเซียวหลินเทียนไป จากนั้นร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรงกลิ้งลงไปที่พื้นเซียวหลินเทียนเห็นเข้าแววตาก็สั่นระริก แล้วมองจ้าวซวนตามสัญชาตญาณหัวใจของจ้าวซวนก็กระตุกเช่นกัน เขาให้จูเผิงพาคนไปติดตามชิวเฮ่าเมื่อคืนชิวเฮ่ามิได้มาร่วมในการปล้นเงินทหาร กลุ่มของพวกเขาก็ยังรู้สึกแปลก ๆ ไหนเลยจะคิดว่าวันนี้ชิวเฮ่าจะตามมาที่นี่ด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเลือดเช่นนั้นจูเผิงเล่า?จู่ ๆ จ้าวซวนก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีหรือว่ามีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับจูเผิง?“ชิวเฮ่า นี่เจ้าเป็นกระไรไป?”จ้าวซวนกระโดดลงจากหลังม้า เมื่อเห็นชิวเฮ่าหมดสติไปก็รีบวิ่งไปหาข้อมือข้างหนึ่งของเขาถูกตัดไปและมีผ้าพันแผลพันไว้อย่างลวก ๆ บาดแผลยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่เลย“รีบพาชิวเฮ่าไปที่รถม้าเร็วเข้า!”จ้าวซวนสั่งขณะที่แอบขยิบตาให้ท่านจินต้าไปด้วยท่านจินต้าเข้าใจทันที แล้วไปหาองครักษ์ที่ชาญฉลาดอย่างเงียบ ๆ ให้ไปตรวจสอบทิศทางที่พวกจูเผิงไป“ท่านอ๋อง… เราถูก
ชิวเหวินซวงนึกถึงเรื่องเงินทหารขึ้นมาทันทีการซุ่มโจมตีที่ชิวเฮ่าหมายถึงคือเรื่องนี้ใช่หรือไม่?หรือว่า...เรื่องเงินทหารเป็นเรื่องโกหก สหายที่พวกเขาส่งไปปล้นเงินทหารถูกซุ่มโจมตีกันหมดแล้ว!“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”ชิวเหวินซวงตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เริ่มร้องไห้ในหัวของนางรีบครุ่นคิดถึงการตอบโต้อย่างรวดเร็วชิวเฮ่าบอกเป็นนัยว่าเซียวหลินเทียนสงสัยพวกเขาแล้วใช่หรือไม่?“ท่านอ๋อง ร่างของพวกจูเผิงถูกนำกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์คนหนึ่งเข้ามารายงานเซียวหลินเทียนมองพี่น้องชิวอย่างเย็นชา พลางเอ่ยเสียงทุ้ม“พระชายามาแล้วหรือยัง?”“ท่านอ๋อง พระชายาได้ทำการชันสูตรพลิกศพตามที่ท่านอ๋องสั่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หลังจากที่พระชายาตรวจแล้ว เราจักส่งศพไปที่โรงนาพ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์รายงานเสร็จก็ถอยออกไปเซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย เหลือบมองชิวเหวินซวงที่ยังคงร้องไห้อยู่ พลางยิ้มเย็นชา“ชิวเหวินซวง ชิวเฮ่า ตัวข้าบอกไปแล้วว่าข้าจักตรวจสอบหาคำอธิบายให้พวกเจ้าเอง!”ยังมิทันที่เซียวหลินเทียนจะพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเถาจื่อกับหลิงซวนใบหน้าของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธที่มิสามาร
“เห็นหรือไม่ กระบี่ของชิวเฮ่ามีความโค้ง เมื่อแทงเข้าร่างมนุษย์แล้วชักออก ก่อเกิดแผลฟกช้ำ!”ขณะหลิงอวี๋ชี้กระบี่ชิวเฮ่าก็พลางพูดต่อฝูงชนว่า “กระบี่ของพวกเจ้าผิวเรียบรื่น หากแทงเข้าร่างมนุษย์แล้วชักออกก็จะเป็นแค่แผลที่ราบเรียบ!”“ชิวเฮ่าฆ่าท่านป้าชิวกับองครักษ์ไปสองคน บนตัวล้วนมีแผลฟกช้ำทั้งสิ้น องครักษ์ที่ตรวจศพร่วมกับข้าสามารถยืนยันสิ่งที่ข้าพูดได้ว่าคือความจริง!”หลิงอวี๋ยิ้มหยัน “ศพยังคงรักษาสภาพไว้บ้านโลงศพอย่างดี หากมิเชื่อตัวข้า เราสามารถไปบ้านโลงศพเพื่อตรวจสอบอีกได้!”ชิวเหวินซวงเอ่ยร้อนใจ “พระชายา ข้ามิเข้าใจว่าท่านพูดสิ่งใด… ข้ารู้แค่ว่าท่านพี่ไม่มีทางฆ่าท่านแม่เด็ดขาด! ท่านอย่าใส่ร้ายป้ายสีคน!”“ข้ารู้ หากเราสองพี่น้องขัดตาท่าน พวกเราไปก็ได้!”“แต่ท่านมิควรโยนความผิดให้เราต้องแบกรับชื่อเสียงอัปยศที่ไร้ความยุติธรรม!”ครั้นชิวเหวินซวงกล่าวถึงจุดฮึกเหิมก็คุกเข่าลงดังตุ้บทันที“ท่านอ๋องเพคะ ตั้งแต่ที่เราสองพี่น้องมาตำหนักอ๋องอี้ก็มีจิตใจภักดีต่อท่านอ๋องมาตลอด! ท่านอ๋องมิอาจเชื่อวาจาแค่ฝั่งพระชายาได้นะเพคะ!”“เหอะ ๆ… ชิวเหวินซวง ท่านป้าชิวเป็นแม่เจ้าจริงรึ?”หลิงอวี๋หัวเร
เขาไม่รอให้หลู่ชิ่งพูดต่อ พลันตะโกนด้วยความโมโหทันที“หลู่ชิ่ง เจ้าตอบแทนคุณด้วยความแค้น! ครานั้นเป็นข้าช่วยเจ้าสุดชีวิต เจ้ามิซาบซึ้งก็ช่าง แต่ยังกล้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้อีก!”หลู่ชิ่งยิ้มหยันกล่าวว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ชิวเฮ่าบอกอีกว่า เขาแบ่งสมบัติของตระกูลกวนไว้ส่วนหนึ่ง และทรัพย์สินของเหมืองไปซ่อนไว้ในโลงศพท่านลุงชิวส่งกลับบ้านเกิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ขณะกระหม่อมได้ยินสิ่งเหล่านี้ก็ทำเกิดเสียงโดยประมาท ชิวเฮ่ากับชิวเหวินอิงพลันพุ่งมาโจมตีกระหม่อมขนาบหน้าคนหลังคนทันควัน กระหม่อมจู่โจมพวกเขาทั้งคู่มิไหวจึงได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ!”“ชิวเหวินอิงหวั่นท่านอ๋องจะแคลงใจชิวเฮ่าจึงจงใจแทงชิวเฮ่าสองที! แถมยังให้กระหม่อมกินยาหยุดพูด เพื่อให้กระหม่อมไร้ทางเผยความจริงพ่ะย่ะค่ะ!”“หลู่ชิ่ง เจ้าทำข้าปวดใจเกินไปแล้ว!”ชิวเฮ่าเอ่ยกังวล “เจ้าติดสินบนหลิงอวี๋งั้นหรือ? นางมิได้ช่วยเจ้าด้วยใจหวังดีด้วยซ้ำ เจ้ามิควรฟังคำพูดนางแล้วมาใส่ร้ายข้า!”เซียวหลินเทียนหัวเราะขุ่นเคือง ทั้งพยานและหลักฐานก็ล้วนมี แต่ชิวเฮ่ายังคงแถจนสีข้างถลอก ช่างสุดจะเยียวยาเสียจริง!ชิวเหวินซวงก็กล่าวโกรธเคืองเช่นกัน “หลู่ชิ่ง เจ้
เขาเอื้อมมือไปหยิบกลองเล็ก ๆ จากหน้าอก แล้วพลันตีมันเบา ๆ ทันทีตึ่ง ๆ… เสียงกลองแผ่วและกร่อยจนแทบไม่ได้ยินหากไม่ใส่ใจขณะที่ชิวเฮ่ากำลังตีก็พลันรู้สึกปวดหัวกะทันหัน ทว่าเขามิสนใจและตีมันต่อไป“องครักษ์จ้าว จับเขาไว้!”ตามเสียงคำสั่งของหลิงอวี๋ จ้วนซวนกับลู่หนานกระโจนเข้าไปอย่างเร็วรี่ พลันกดชิวเฮ่าไว้กับพื้นทันที“ท่านอ๋อง กระหม่อมถูกใส่ความพ่ะย่ะค่ะ! ท่านทำเช่นนี้กับกระหม่อมมิได้!”ชิวเฮ่าเอ่ยเรียกร้อนใจ “โปรดทรงฟังวาจาของกระหม่อมเถิด สังหารจ้าวซวน ลู่หนาน… และหลิงอวี๋…”ฝูงชนเริ่มรู้สึกประหลาดใจหลิงอวี๋พุ่งเข้ามาพลางกล่าวว่า “ลู่หนาน ล้วงเอาสิ่งของในอกชิวเฮ่าออกมาเสีย!”ลู่หนานเอื้อมมือไปคว้ามือของชิวเฮ่าออกจากอกอย่างหยาบคาย ครั้นแล้วก็มีกลองจิ๋วอันแปลกประหลาดติดมาด้วยกลองจิ๋วหล่นสู่พื้นกลิ้งหลุน ๆ ไปสองตลบ เมื่อชิวเหวินซวงเห็นจึงโผลงไปคว้าแย่งเก็บกลองจิ๋วต่อหน้าหลิงอวี๋ทันใด“เหวินซวง ตีต่อไป!”ชิวเฮ่าเรียกขึ้นในขณะที่ชิวเหวินซวงใช้นิ้วมือตีกลองจิ๋วเป็นจังหวะแต่ชิวเฮ่ากลับรู้สึกปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนเขาจะฝืนเอ่ยเรียก“เซียวหลินเทียน เจ้าถูกข้าควบคุมไว้ได้แล้ว ร
“ชิวเหวินซวง เจ้าช่างเก่งวาทศิลป์จริง ๆ! ทุกอย่างเป็นแบบนี้แล้ว เจ้ายังปากแข็งอีก!”เซียวหลินเทียนเดือดดาลพลางตะโกน “ท่านลุงชิวตายได้อย่างไร? เจ้าคิดว่าข้ามิรู้งั้นรึ?”“เขาตกลงมาขณะซ่อมห้องครัวคือความจริง แต่เจ้ากลัวเขามิตายจึงใช้กำลังภายในหักซี่โครงเขาซ้ำ! ตัวข้าแอบให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพตรวจร่างแล้ว!”“ส่วนพ่อบ้านฟั่น…”หลิงอวี๋กล่าวเสริมว่า “ช่วงสองวันมานี้ข้าก็ได้พบกับแม่ทัพเฉิน และขุดหลุมฝังศพของพ่อบ้านฟั่นแล้ว”“พิษในตัวพ่อบ้านฟั่นกับในตัวองครักษ์สองคนนั้นของเกิ่งเสี่ยวหาวที่จับตาดูหลิงผิงคือชนิดเดียวกัน...เป็นยาพิษฤทธิ์รุนแรงทำให้หยุดหายใจเฉียบพลัน!”“เรายังพบเข็มเงินอาบยาพิษในคอของพ่อบ้านฟั่นด้วย! ครานั้นทุกคนคิดว่าพ่อบ้านฟั่นล้มป่วยกะทันหันจึงสิ้นใจ ทว่าในความจริงเขาถูกพิษตายต่างหาก!”หลิงอวี๋ยิ้มหยันกล่าว “ตาข่ายสวรรค์ห่างแต่ไม่รั่ว(1) ชิวเหวินซวง เจ้าคิดว่าหากเจ้ามิพูด เจ้าก็ปกปิดพวกเราได้ตลอดชีวิตงั้นรึ?”ชิวเหวินซวงสั่นเทิ้มทั้งร่าง โดยไม่รู้เช่นกันว่าจะกลัวหรือโกรธดีนางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะขุดหลักฐานได้มากขนาดนี้ นางคิดว่าตัวเองกระทำอย่างไร้ท
“เหวินซวง…”ชิวเฮ่าหมายยันตัวลุกขึ้นไปตรวจดูนาง แต่ทันทีที่เขาจะขยับจ้าวซวนพลันตัดเส้นเอ็นมือและเท้าของเขาอย่างไวว่องจ้าวซวนกลัวชิวเฮ่าจะปลิดชีพตนเองเหมือนชิวเหวินซวงจึงบีบกรามของเขา และหยิบเม็ดยาพิษออกจากปากเขาเสียชิวเฮ่าจ้องจ้าวซวนเขม็ง แล้วหัวร่อหึ ๆ ขึ้น“แม้พวกเจ้ากระจ่างทุกสิ่งแล้วจะอย่างไรเล่า? เราจะไม่แพ้… เหวินซวงพูดถูก จะมีคนล้างแค้นให้เรา!”“ฮ่า ๆ… เซียวหลินเทียน เจ้าคงอยากรู้นักหนาว่าที่สองขาเจ้าพิการเป็นข้าทำหรือไม่? มิผิด เป็นข้าเอง…”“เจตนาเดิมของข้าคืออยากฆ่าเจ้า ทำให้ฉินตะวันตกของพวกเจ้าสูญเสียแม่ทัพใหญ่ ผู้ใดจักไปรู้ว่าเจ้าจะดวงดีขนาดนี้ เพียงตกขาหักแค่นั้นเอง…”“ตอนข้าพบเจ้า เดิมทีหมายซ้ำเจ้าสักสองสามดาบ แต่เจ้ากลับฟื้นน่ะสิ… พวกจ้าวซวนก็รุดมาถึงซะแล้ว ข้าจึงไร่โอกาสลงมือ!”ชิวเฮ่าหัวเราะบ้าคลั่งพลางเอ่ยว่า “แม้มิได้ฆ่าเจ้า แต่ก็ทำเจ้าพิกลพิการได้ก็นับว่าสำเร็จแล้วเหมือนกัน!”“หากมิใช่เพราะหญิงชั่วจอมยุ่มย่ามนี่ละก็…”ชิวเฮ่ามองทางหลิงอวี๋พลางด่าอย่างโมโห “คราแรกข้าน่าจะฆ่าเจ้าให้ตายไปเสีย!”ชิวเฮ่าระเบิดหัวเราะบ้าคลั่ง “พวกเจ้าจักมิชนะ…ฮ่า ๆ พวกเจ้าน่าจ
นางรับใช้ผู้หนึ่งกล่าวเสียงเครือว่า “ขอรายงานพระชายาเจ้าค่ะ หลิงหลานมิได้กลับมาสองวันแล้วเจ้าค่ะ! พี่เหวินซวงบอกให้นางไปไถ่ถอนตัวเอง… แต่บ่าวรู้สึกว่ามีบางอย่างวมิชอบมาพากลเจ้าค่ะ!”“อ้อ มิชอบมาพากลเช่นไร?” หลิงอวี๋ถามนางรับใช้คนนั้นก้มศีรษะเอ่ยเสียงแผ่ว “ก่อนที่หลิงหลานออกไปข้างนอกกับบ่าว นางใช้เงินห้าตำลึงซื้อสร้อยข้อมือ หากนางจักไถ่ตัวคงมิทิ้งสร้อยข้อมือมีราคาแบบนี้ไว้หรอกเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เอ่ยทันควัน “พาข้าไปดูห้องหลิงหลานที!”นางรับใช้คนนั้นรีบพาหลิงอวี๋เข้าประตูไปทันที เมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าหลิงหลานมีเสื้อผ้าสภาพดีหลายชิ้น และเป็นของใหม่ร้อยละแปดสิบที่ไม่ได้เอาไปด้วย“ผู้ใดพบหลิงหลานเป็นคนสุดท้าย?”หลิงอวี๋ถามนางรับใช้ผู้หนึ่งกล่าวเสียงต่ำ “น่าจะเป็นบ่าวเจ้าค่ะ! เมื่อคืนหลิงหลานไปห้องพี่เหวินซวง ต่อมาก็ไม่เห็นกลับมาอีกเลยเจ้าค่ะ!”เมื่อได้ยินวาจานี้ เฉาอี้พร้อมทั้งองครักษ์และหลิงอวี๋พลันรุดไปห้องชิวเหวินซวงทันทีหลังเหล่าองครักษ์ค้นหาไปเที่ยวหนึ่ง ในที่สุดก็พบว่าหลิงหลานถูกมัดห่ออยู่ใต้เตียงของชิวเหวินซวงหลิงหลานสิ้นใจไปแล้ว โดยมีรอยฟกช้ำที่คอหลายจุดที่น่าจะถูกคนบีบ
เมื่อมีท่าทีเล็ก ๆ นี้ หลิงอวี๋จึงยิ่งระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเพียงแต่ของที่ตนกินดื่ม แม้แต่ของที่ไทฮองไทเฮากินและดื่ม หลิงอวี๋ก็จะระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมากแต่ท่าทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสดงออกมานั้นปกติมาก มิได้แตะต้องของกินของทั้งสองคนแต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ยังมิอาจวางใจได้นางรู้สึกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลึกลับมาก ยอดฝีมือในดินแดนที่หก หากจะลงมือต้องมิทันได้รู้ตัวอย่างแน่นอน นางมิอยากให้ตนตายไปแบบมิรู้เรื่องใดที่จริงแล้วสตรีทั้งสี่ก็มิได้มีสิ่งใดให้พูดคุยกัน ภายนอกพวกนางคือครอบครัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นศัตรู เมื่อถอดหน้ากากความเป็นครอบครัวออกก็ล้วนเกลียดกันจนมิใครก็มิใครต้องตายหลังจากคุยกันไปสักพัก และรับประทานอาหารเสร็จ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ขอตัวลาหลิงอวี๋รอให้พวกนางไป แล้วให้หลิงซวนกับแม่นมเว่ยรีบตรวจสอบในจุดที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าแตะต้องอย่างละเอียดทันทีไทฮองไทเฮาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาอวี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปหรือไม่? พวกนางสองคนมิได้ไปที่อื่นเลยนอกจากโถงใหญ่ ในโถงใหญ่เองก็มีทุกคนจับตามองอยู่ พวกนางจะทำสิ่งใดได้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “
“ข้านึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อน!”“อาอวี๋ เจ้าอยู่กินอาหารกับไท่เฟยเส้าและไทฮองไทเฮาเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นพี่สะใภ้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องร่วมโต๊ะอาหารกับเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนจึงบอกกับหลิงอวี๋และไทฮองไทเฮาแล้วกำลังจะไป“ฝ่าบาท หรุ่ยหรุ่ยรบกวนการเสวยของพวกท่านหรือเพคะ?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยด้วยใบหน้าที่อึดอัดเจือความรู้สึกผิด “หรุ่ยหรุ่ยแค่อยากจะมาคารวะไทฮองไทเฮาเพคะ หากมิสะดวก เช่นนั้นหรุ่ยหรุ่ยขอทูลลา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ระดับความเสแสร้งของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิได้ด้อยไปว่าจ้าวเจินเจินเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนกำลังหลีกเลี่ยง แม้ว่าคนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างก็มิควรเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลับหยิบยกมาพูดแสร้งทำเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยผู้ไร้เดียงสา!“พี่สะใภ้รอง องค์จักรพรรดิมีธุระจริง ๆ เมื่อครู่ก็บอกไว้แล้ว ให้เขาไปเถิด พวกเราบรรดาสตรีกินด้วยกันก็พอแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เซียวหลินเทียนเล็กน้อยพลางเอ่ย “ฝ่าบาท กลางคืนหม่อมฉันจะเตรียมพระกระยาหารมื้อดึกไว้ให้ ท่านจัดการเรื่องบ้านเมืองเสร็จแล้วก็มาเสวยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนสับสนไปในทันที เข
ไท่เฟยเส้ามิได้พอใจกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้เป็นสะใภ้มากนัก ก่อนหน้านี้นางหวังให้ตระกูลจ้าวให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานเข้ามาและสามารถช่วยให้องค์ชายคังประสบความสำเร็จได้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผชิญหน้ากับหลิงอวี๋ครั้งแรกก็พ่ายแพ้แล้ว สิ่งนี้ทำให้ไท่เฟยเส้าผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะมาไหว้ตน ไท่เฟยเส้าก็เรียกเข้ามาตำหนิภายนอกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยฟังอย่างนอบน้อม แต่ในใจอยากจะจัดการนางดังเช่นที่ทำกับองค์ชายคัง“สิ่งที่หมู่เฟยสอนก็คือ คราวนี้หรุ่ยหรุ่ยไม่มีประสบการณ์ เตรียมการมิมากพอ ครั้งต่อไปจะมิให้หลิงอวี๋รอดไปได้แล้วเพคะ!”คำพูดอ่อนโยนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้ความโกรธของไท่เฟยเส้าเบาบางลงไปมาก อย่างน้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็สามารถบีบให้หลิงอวี๋อยู่ในสถานการณ์อับจนได้ เมื่อเทียบกับจ้าวเจินเจินแล้วจ้าวหรุ่ยหรุ่ยดีมากแล้วไท่เฟยเส้าได้ต่อว่าไปแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงมา แล้วก็เอ่ยด้วยความเกลียด “ตอนนี้ในวังอยู่ในการควบคุมของหลิงอวี๋กับยายเฒ่านั่น หมู่เฟยจะทำอะไรก็มิได้สะดวกนัก”“หมู่เฟยอยากให้ยายแก่นั่นตายไปเร็ว ๆ เช่นนี้แล้วหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็จะไม่มียายเฒ่าคอยหนุนหลัง ก็จะจัดการได้ง่
สำหรับคำถามของหลิงอวี๋ ฮูหยินผู้เฒ่าเผยกับใต้เท้าเผยได้หารือกันในบ้านแล้วฮูหยินผู้เฒ่าเผยเองก็รู้ว่า หากเอาเรื่องที่หลิงหว่านต้องไว้ทุกข์แม่สามปีมาถอนหมั้นนั้นฟังมิขึ้น แต่นางกับตระกูลเผยล้วนมิชอบหลิงหว่าน จึงยอมที่จะถูกด่าลับหลังและยืนกรานที่จะถอนหมั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยมิกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จึงทำได้เพียงเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ฮองเฮา การแต่งงานเป็นการผูกสัมพันธ์ที่ดีของสองตระกูล มิใช่การผูกความโกรธแค้น...”“ถือเสียว่าตระกูลเผยขอโทษคุณหนูหลิง ขอร้องให้ฮองเฮาทรงเห็นใจ ตกลงกับคำร้องที่จะถอนพระราชโองการด้วยเถิดเพคะ สินสอดก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นการชดใช้ให้คุณหนูหลิงเถิด!”หลิงหว่านได้ยินก็โกรธมาก จึงเอ่ยเรียบ ๆ “หม่อมฉันมิต้องการการชดใช้! ฮองเฮา ท่านตกลงเถิดเพคะ! หม่อมฉันหลิงหว่าน แม้ว่าชีวิตนี้จะมิได้แต่งงานก็ไม่มีทางร้องขอแต่งงานเข้าตระกูลเผย!”หลิงอวี๋ทอดถอนใจอยู่ในใจ แม้ว่านางจะรู้สึกว่าเผยอวี้คือคนที่หลิงหว่านสามารถไว้วางใจไปได้ตลอดชีวิต แต่ตระกูลเผยทั้งหลายต่อต้านหลิงหว่านเช่นนี้ หากหลิงหว่านแต่งงานเข้าไปก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขการแต่งงานมิใช่การแต่งกับคนคนเดียว โดยเฉพา
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้