“ใต้เท้าหลิง จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนแห่งนี้ยังมิใช่ของท่าน ตัวข้าขอเตือนท่านว่าอย่าโอหังให้มากนัก!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นเขาชักสีหน้าก็ยิ้มหยันเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ“องค์ชายเว่ยยังมิได้แต่งหลิงเยี่ยนเข้าเรือน ท่านเอาความมั่นใจจากที่ใดมากล้าขวางมิให้ข้ามาจวนเสนาบดี?”“ตัวข้าเป็นถึงพระชายาอ๋องอี้ผู้สง่า! ที่เรียกท่านว่าพ่อก็เพราะเห็นแก่หน้าท่านอดีตเสนาบดี ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าท่านจะวางท่าต่อข้าได้?”หลิงอวี๋กล่าวดูแคลน “แม้องค์ชายเว่ยให้ตำแหน่งขุนนางกับท่านและหลิงเฟิง แล้วอย่างไรเล่า?”“แค่วาจาข้าประโยคเดียวก็เอาพวกท่านกลับสู่สภาพเดิมได้แล้ว! หากท่านมิเชื่อก็ลองดูสิ!”หลิงเสียงเซิงโมโหตัวสั่นทั้งร่างกับคำพูดหลิงอวี๋“เจ้า… เจ้าลูกเลว เจ้า… ลูกชู้!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นตึก ๆ ตัก ๆ ครั้นได้ยินหลิงเสียงเซิงด่าสองคำว่า ‘ลูกชู้’หรือเรื่องที่หลิงผิงบอกว่าตนกับท่านพี่มิใช่ลูกโดยกำเนิดของหลิงเสียงเซิงจะเป็นความจริง?หลิงอวี๋ตัดสินใจแน่วแน่ว่าวันนี้ต้องเค้นหลิงเสียงเซิงพูดความจริงออกมาให้จงได้นางมองยังหลิงเสียงเซิงด้วยสายตาดูถูก“ลูกชู้? เฮอะ…ใต้เท้าหลิง ท่านรู้หรือไม่ว่าสองคำนี้หมายถึงสิ่งใด
“แน่นอนว่าข้ามีหลักฐาน…”หลิงเสียงเซิงคำรามป่าเถื่อน แต่ด้วยภายใต้สายตาอันเย็นชาของหลิงอวี๋ เสียงก็พลันเบาลงทันควัน“หลังหลานฮุ่ยจวนแต่งเข้ามา ข้าก็มิเคยแตะต้องนาง! แต่นางกลับตั้งท้อง! เจ้ากับพี่ชายเจ้ามิใช่ลูกของข้าแน่!”“เจ้าลองไปถามท่านปู่เจ้าเรื่องนี้สิ เขารู้ชัดเจนทุกอย่าง! เหตุใดข้าต้องเลี้ยงลูกแทนคนอื่นเสียเปล่า ๆ ด้วย!”ความโกรธและความคับข้องเต็มท้องหลิงเสียงเซิง“ท่านปู่เจ้าบอกว่าเป็นหนี้ท่านตาเจ้า! แต่นี่มันเกี่ยวอันใดกับข้า! ไฉนข้าต้องได้รับความคับอกคับใจด้วย?”ในที่สุดบัดนี้หลิงอวี๋ก็เชื่อแล้วว่าตนกับท่านพี่มิใช่ลูกทางสายเลือดของหลิงเสียงเซิงจริง!คนที่เกี่ยวข้องคือผู้ที่มีสิทธิ์ออกความเห็นที่สุด เพื่อใส่ร้ายนางกับหลิงเสี่ยง หลิงเสียงเซิงไม่ถึงกับฝืนยอมโดนสวมเขา“เช่นนั้นท่านพ่อข้าคือผู้ใด?”หลิงเสียงเซิงจ้องหลิงอวี๋เขม็งพลางกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ข้าจักไปรู้ได้อย่างไร หากข้ารู้ก็คงสับมันเป็นหมื่นท่อนตั้งนานแล้ว!”หลิงอวี๋หายใจเข้าลึก ๆ ถามว่า “แล้วท่านแม่ข้าตายได้อย่างไรหรือ?”หลิงเสียงเซิงหลบสายตาของหลิงอวี๋อย่างประหม่าในพริบตา ก่อนจะพูดมั่นใจเต็มปาก“แ
ครานั้นหลิงอวี๋กำลังเตรียมคุมตัวหลิงผิงไปหาหลักฐานว่าหวางซือวางยาหลานฮุ่ยจวน ทว่าในวันรุ่งขึ้นหลิงผิงกลับถูกฆ่าโดยไม่คาดคิดแต่หลิงอวี๋ในตอนนั้นตรวจศพหลิงผิงกลับพบว่าหลิงผิงถูกคนทรมานก่อนสิ้นใจไปหากชิวเหวินซวงอยากฆ่าหลิงผิง นางลงมือโดยตรงก็ได้แล้วแต่ชิวเหวินซวงกลับพาหลิงผิงไปคฤหาสน์ทรุดโทรม ก่อนจะทรมานนางแล้วจึงสังหารนางไปหรือว่าชิวเหวินซวงเค้นถามเอาหลักฐานในมือหลิงผิงมาได้แล้ว จากนั้นค่อยนำหลักฐานไปข่มขู่หวางซือ?สมมติว่าชิวเหวินซวงทำเรื่องพวกนี้จริง เช่นนั้นนางต้องการเงินมากขนาดนี้ไปทำสิ่งใด?สินเดิมมากมายของตนในตอนแรกล้วนถูกชิวเหวินซวงวางกับดัก ให้หลิงผิงหลอกเอาไปจากมือตน!แม้ความทะเยอทะยานของชิวเหวินซวงคือพระชายาอ๋องอี้ แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์พวกนี้แล้วก็ไม่เหมือนคนที่หมายปองตำแหน่งพระชายาจะพึงกระทำเดิมทีหลิงอวี๋อยากไปคุยความสงสัยของตนกับเซียวหลินเทียน แต่ก็นึกถึงว่าปัจจุบันสองพี่น้องชิวเหวินซวงกับชิวเฮ่าได้รับความไว้ใจจากเซียวหลินเทียนอีกครั้งหากนางบอกไปเช่นนี้ เซียวหลินเทียนอาจสงสัยตนทันทีว่ามีเจตนามุ่งเป้าสองพี่น้องชิวเหวินซวง……ณ เรือนริมวารีชิวเหวินซวงยกอาหาร
ณ ห้องตำรายามพรบค่ำชิวเหวินซวงกำลังยกชามน้ำแกงรังนกเดินเข้าไป“ท่านอ๋อง ท่านกำลังยุ่งอยู่หรือ! สุขภาพของท่านจะนอนดึกเช่นนี้บ่อย ๆ มิได้แล้วนะเพคะ!”ชิวเหวินซวงเอ่ยอ่อนโยน “หม่อมฉันต้มน้ำแกงรังนกให้ท่านบำรุงร่างกาย ท่านเสวยแล้วรีบพักผ่อนเถิดเพคะ!”“ขอบใจมาก!”เซียวหลินเทียนวางม้วนกระดาษลงพลางรับมาชิวเหวินซวงจ้องเขม็งขณะที่เซียวหลินเทียนเปิดฝาชาม แล้วพลันส่งช้อนให้เขาว่องไวเมื่อลู่หนานพบว่าเซียวหลินเทียนส่งสายตาให้ตนก็รีบเอ่ยว่า“เหวินซวง เจ้าลองมาดูหน่อย เสื้อคลุมตัวนี้ของท่านอ๋องยังซ่อมได้หรือไม่? น่าเสียดายจริง ๆ ที่ไหมมันขาดหลังสวมไปได้แค่ครั้งเดียว!”ชิวเหวินซวงปรายมองเซียวหลินเทียนแล้วจึงเดินไป “ข้าขอลองดูหน่อย!”ครั้นลู่หนานกำลังจะส่งให้ชิวเหวินซวง นางก็เห็นไหมหลุดออกเป็นหนึ่งสายยาว พลันกล่าวทันที“ซ่อมได้ ข้าจักใช้ด้ายที่สีเดียวกันมาปักลายไม้ไผ่ก็อำพรางได้เจ้าค่ะ!”“เหวินซวง เจ้าช่างเก่งเสียจริง!”ขณะลู่หนานกำลังชื่นชมก็หาเสื้อคลุมยาวมาอีกตัว“เจ้าเอาตัวนี้ไปซ่อมด้วย มีเสี้ยนบนเก้าอี้ล้อของท่านอ๋องที่แต่ก่อนมิพบ อาภรณ์เสียหายไปหลายตัวแล้ว!”ชิวเหวินซวงมองพลาง ลอ
“ท่านอ๋อง พวกเขาคิดทำสิ่งใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อลู่หนานได้ฟังก็รีบกล่าวทันควัน “จักมีประโยชน์กระไรหากแผนที่ตกอยู่ในมือพวกเขา?”เซียวหลินเทียนยิ้มเยาะหยัน “ตกสู่มือคนธรรมดาก็ไร้ประโยชน์… แต่หากพวกเขาคือจารชนของแคว้นศัตรูเล่า?”หัวใจจ้าวซวนจมดิ่งลง ก่อนหน้าพวกเขายังนึกว่าชิวเหวินซวงหมายปองแค่ตำแหน่งพระชายา!ฉะนั้นจึงมิใส่ใจความผิดปกติของชิวเหวินซวงนักแต่หาดสองพี่น้องชิวเหวินซวงคือจารชนของแคว้นศัตรู เช่นนั้นก็จะมิใช่แค่อุบายครองตำแหน่งพระชายาแล้ว!“ท่านอ๋อง เช่นนั้นมิต้องคอยถึงวันพรุ่งหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนำแกงรังนกไปให้พระชายาตรวจสอบประเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวซวนพูดหนักแน่นว่า “หากมีปัญหาจริง กระหม่อมจับนางคืนนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนส่ายหน้า “มิต้องรีบขนาดนั้น! คอยดูการแสดงของชิวเหวินซวง เพราะอาจมิใช่การวางยาพิษร้ายแรง!”“หากหลิงอวี๋ตรวจพบปัญหาล่ะก็ วันพรุ่งเจ้าก็หาวิธีนำแกงรังนกชามนี้ให้ชิวเหวินซวงดื่มเสีย!”“เหอะ แค่ให้นางลองชิมแกงรังนกที่ตัวเองปรุงเท่านั้น!”จ้าวซวนหัวร่อทันใด “ถูกต้อง หนามยอกเอาหนามบ่ง! ท่านอ๋องทรงปราดเปรื่องยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวซวนพูดคำไหน
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้จ้าวซวนตกตะลึงไปทันที เขาเองก็นึกถึงอาการป่วยของหลู่ชิ่งเช่นกันตอนนั้นหลู่ชิ่งออกไปกับชิวเฮ่า แต่หากชิวเหวินซวงรู้จักการใช้แมลงกู่ เช่นนั้นชิวเฮ่าก็อาจจะทำได้เช่นกันหรือว่าที่หลิงอวี๋ตรวจไม่พบเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลู่ชิ่งมิใช่อาการป่วย แต่เป็นการถูกเล่นแมลงกู่ใส่?“พระชายา ข้ามิรู้เรื่องศิลปะการใช้แมลงกู่ แต่ไป่สือรู้ขอรับ เพียงแต่หมอว่านเรียกให้เขาไปช่วยกลั่นยาอายุวัฒนะแล้ว!”“จริงสิ ในบ้านเขามีตำราการแพทย์โบราณอยู่เล่มหนึ่ง ในนั้นมีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแมลงกู่อยู่ด้วย!”“ประเดี๋ยวข้าจักไปหาในบ้านของเขาดู หาพบแล้วจักส่งมาให้พระชายาขอรับ!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ดี แต่เจ้าต้องส่งมาอย่างเงียบ ๆ!”“อย่าให้ชิวเหวินซวงรู้ว่าเจ้าเคยไปที่ห้องของไป่สือ มิฉะนั้นนางอาจสงสัยเอาได้!”จ้าวซวนพยักหน้ากับจากไปเขากังวลใจมาก พอนึกถึงว่าตนเชื่อชิวเฮ่าที่ทำร้ายหลู่ชิ่ง เขาก็เสียใจมาก!แต่พระชายากับท่านอ๋องพูดถูก ก่อนที่พบเจตนาที่แท้จริงของพี่น้องชิว พวกเขายังต้องแกล้งโง่คล้อยตามไปก่อน!พอเซียวหลินเทียนได้ฟังผลการตรวจสอบที่จ้าวซวนกลับมารายงานก็ยิ้มเย็นชา“
สีหน้าของเซียวหลินเทียนดูมิค่อยดีเท่าไหร่ เขาพอจะเดาอะไรบางอย่างได้จากบทสนทนาของจ้าวซวนกับหลิงอวี๋เมื่อสักครู่นี้เพียงแต่เขามิอยากจะเชื่อเลยว่าจ้าวซวนจะมิได้บอกอะไรกับตนเลย!จ้าวซวนอึกอักว่า ตนแกล้งทำเป็นว่าส่งหลู่ชิ่งกลับบ้านเกิด แล้วหลิงอวี๋ก็ส่งคนไปรับหลู่ชิ่งกลางทาง ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา“หลู่ชิ่งอยู่นอกเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ อยู่ในทุ่งนาเล็ก ๆ ที่พระชายาซื้อไว้! เมื่อพระชายามีเวลาก็ไปรักษาเขาพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋อง ขอเพียงหลู่ชิ่งเอ่ยปากได้ ก็จะสามารถเป็นพยานในการทำผิดของชิวเฮ่าได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนจ้องมองจ้าวซวน แต่มิสามารถตำหนิอะไรเขาได้หลิงอวี๋เห็นว่าความลับเล็ก ๆ ของตนกับจ้าวซวนถูกตนเปิดเผยออกไปโดยมิได้ตั้งใจ จึงรีบช่วย“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันมิให้จ้าวซวนบอกท่านเอง! ท่านจักตำหนิเขามิได้! หากท่านจักหนิก็ให้โทษตัวท่านเองไปเสีย ผู้ใดให้ท่านเชื่อใจชิวเฮ่ากับน้องสาวของเขาเล่า!”“หม่อมฉันกลัวว่าท่านกล่าวว่าหม่อมฉันใจแคบที่มุ่งเป้าไปที่พวกเขา จึงบอกจ้าวซวนว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับท่าน!”เซียวหลินเทียนพูดมิออกพวกเขาทั้งหมดแสดงออกว่าเชื่อใจพี่น้องชิวเป็นอย่างมาก การที่หลิงอ
เซียวหลินเทียนฟังอย่างตั้งใจ พลางครุ่นคิดไปด้วย“ข้อสงสัยที่สามคือ หลิงผิงเพิ่งรับปากกับหม่อมฉันว่า วันรุ่งขึ้นจักพาหม่อมฉันไปเอาหลักฐานการทำผิดของหวางซือ แต่นางก็มาถูกฆ่าในวันรุ่งขึ้นเสียอย่างนั้น!”หลิงอวี๋เอ่ย “ครานั้นพวกท่านก็เห็นหม่อมฉันชันสูตรศพแล้ว บนร่างกายของหลิงผิงมีร่องรอยการถูกทรมานอยู่!”“หากชิวเหวินซวงแค่ต้องการฆ่าปิดปาก ก็ทำในบ้านของเกิ่งเสี่ยวหาวก็ได้นกระมัง!”“แต่นางกลับพาหลิงผิงไปที่อื่นโดยมิจำเป็นแล้วทรมานซักถามหลิงผิง! นี่เป็นเพราะเหตุใดเล่า?”จ้าวซวนเองก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดเช่นกัน เขาครุ่นคิดพลางเอ่ยอย่างอึดอัด“พระชายา ครานั้นพวกเราพบว่ามีแม่นมขาเป๋มาตามหาชิวเหวินซวง แต่ผลก็คือพอติดตามชิวเหวินซวงไปร่องรอยของนางก็หายไป!”“ต่อมาได้ยินหลิงหลานบอกว่าหลิงผิงมาหาพวกเขาเพื่อขอยืมเงิน พวกเราก็คิดว่าแม่นมขาเป๋เองก็มาขอยืมเงินชิวเหวินซวงเช่นกัน!”หลิงอวี๋พยักหน้า พลางเอ่ยต่อ“จากข้อสงสัยเหล่านี้ หม่อมฉันคาดเดาได้เลยว่า หลิงผิงรู้ความลับของชิวเหวินซวง แล้วมาที่นี่เพื่อขู่เอาเงินชิวเหวินซวง!”“เพียงแต่ชิวเหวินซวงมิคาดคิดว่า หม่อมฉันจับตัวหลิงผิงได้ นางจึงตามเรามาแ