หนอนบ่อนไส้?ใบหน้าขององค์ชายเว่ยมืดมนลง เขาเอ่ยถามเป็นนิสัย “ท่านหาน ท่านคิดว่าหนอนบ่อนไส้คือผู้ใดเล่า?”ทันทีที่พูดจบ องค์ชายเว่ยถึงได้พบว่าหานหลินมิอยู่องค์ชายเว่ยตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยถาม “หานหลินเล่า?”สีหน้าของหัวหน้าองครักษ์เปลี่ยนไป “องค์ชาย หานหลินไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว พวกเราไปปล้นเงินของตระกูลกวนก็มิเห็นเขา… หรือว่าเขาจะเป็นหนอนบ่อนไส้พ่ะย่ะค่ะ?”“องค์ชาย คราที่หารือเรื่องการปล้นตระกูลกวนมีเพียงพวกเราสามคนเท่านั้น… หรือว่าหานหลินรู้ว่าเราหมายลงมือกลางดึก ดังนั้นจึงพาคนไปปล้นตระกูลกวนก่อนแล้ว?”“หากตระกูลกวนมาสอบสวนทีหลังก็โยนความผิดใส่ร้ายพวกเราได้เช่นนั้นรึ?”“ไปตามหาหานหลิน!”องค์ชายเว่ยนึกขึ้นได้ว่าหานหลินเป็นคนที่เชื่อมโยงเขากับกวนซิน แต่ในท้ายที่สุดพี่น้องของกวนซินก็แปรพักตร์เป็นพวกขององค์ชายคัง!บางทีหานหลินอาจคิดว่าตนไม่มีทางสงสัยเขา ถึงได้ฉวยโอกาสองค์ชายเว่ยนอนไม่หลับแล้ว จึงพาคนไปที่บ้านของหานหลินในเมืองด้วยตัวเอง แต่บ้านตระกูลหานนั้นว่างเปล่าแล้วในเรือนทิ้งข้าวของระเกะระกะที่เอาไปด้วยมิได้ไว้มากมายเมื่อองค์ชายเว่ยเห็นดังนั้นมีหรือจะมิเข้าใจ ต้องเ
ร้านของกวนอิ่งว่างเปล่าในชั่วข้ามคืนข่าวเช่นนี้หลิงอวี๋จะมิเปิดเผยให้จ้าวเจินเจินรู้ได้เยี่ยงไรเล่า!เช่นเดียวกับที่หลิงอวี๋คิดไว้จ้าวเจินเจินได้ยินว่าเงินของตระกูลกวนหายไปหมดแล้ว จากนั้นก็ได้ยินว่าองค์ชายเว่ยปล้นไปจ้าวเจินเจินกลับไปที่ตำหนักองค์ชายคังโดยมิลังเลก่อนหน้านี้ จ้าวเจินเจินยังคงคิดว่าองค์ชายคังจะใช้ประโยชน์จากกวนอิ่งเพื่อทรัพย์สินของตระกูลกวน ดังนั้นตอนที่นางจัดการกับกวนอิ่งจึงยังมีความยับยั้งอยู่บ้างแต่บัดนี้เงินของตระกูลกวนถูกองค์ชายเว่ยปล้นไปแล้ว จ้าวเจินเจินก็ไม่ยับยั้งแล้วกวนอิ่งไม่มีเงินอยู่ในมือ ทั้งยังทำให้องค์ชายคังก็ติดโรคสกปรกเช่นนั้นอีก องค์ชายคังจะทนกวนอิ่งอยู่ได้เยี่ยงไร!จ้าวเจินเจินตรงกลับไปที่ตำหนักองค์ชายคังโดยไม่หยุด แล้วให้คนไปจับหมอที่รักษากวนอิ่งมาที่ในตำหนักองค์ชายคังองค์ชายคังเซียวหลินอี้เพิ่งกลับมาที่ตำหนักองค์ชายคัง จ้าวเจินเจินก็ไปพบเซียวหลินอี้“เจินเจิน เจ้ากลับมาแล้วรึ?”วันนี้เซียวหลินอี้เข้าวังก็ถูกพระชายาเส้าดุ บอกให้เขารีบไปรับจ้าวเจินเจินกลับมาโดยเร็วที่สุดพระชายาเส้าเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าหลงนางสารเลวกวนอิ่งนั่นจนหน้ามื
“เอามันไป!”เมื่อจ้าวเจินเจินเห็นว่าหมอพูดในสิ่งที่ตนต้องการ ก็ตะโกนองครักษ์คนหนึ่งเข้ามา ปิดปากหมอแล้วลากเขาออกไป“องค์ชาย… กวนอิ่งยังเคยไปหาหมออีกสองคนด้วยเพคะ!”“หากองค์ชายมิเชื่อที่หม่อมฉันพูด หม่อมฉันจักเรียกพวกเขาเข้ามาให้องค์ชายสอบสวน!”จ้าวเจินเจินแสร้งทำเป็นมิรู้ว่าเซียวหลินอี้เองก็ติดโรคนี้เช่นกัน พลางเอ่ยอย่างกังวล“เจินเจินมิได้อยากทำให้กวนอิ่งลำบากใจเพคะ แต่กลัวว่าองค์ชายอาจมิได้ป้องกันตัวจากนางแล้วถูกนางหลอก!”“มิต้อง...”ใบหน้าของเซียวหลินอี้ดูมิสู้ดี ร่างกายของตนสามารถพิสูจน์ได้ เขาจะมิเชื่อสิ่งที่จ้าวเจินเจินพูดได้เยี่ยงไร!“ฆ่าหมอพวกนี้ให้หมด!”เซียวหลินอี้สั่งออกมาอย่างเย็นชาจ้าวเจินเจินยิ้มเยาะในใจ แต่แสร้งทำท่าทีเป็นกังวล“องค์ชาย วันนี้เจินเจินได้ยินมาอีกเรื่องเพคะ… เงินทั้งหมดในร้านค้าของตระกูลกวนถูกองค์ชายเว่ยปล้นไปแล้วเพคะ!”“ว่ากระไรนะ?”เซียวหลินอี้เด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที พลางเอ่ยอย่างร้อนใจ “ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงรึ?”จ้าวเจินเจินพยักหน้า “ลูกพี่ลูกน้องของหม่อมส่งคนมาบอกเพคะ เขามีร้านอยู่ใกล้ ๆ ของตระกูลกวน ได้ยินมาว่าเมื่อคืนวานนี้ ห
ทันใดนั้นกวนอิ่งก็ถูกฟาดจนเนื้อแตก นางทนมิไหว ตะคอกออกมา “เซียวหลินอี้ ท่านยังอยากได้ทรัพย์สินของตระกูลกวนอยู่หรือไม่?”“หากตีข้าอีก ข้าจักยกให้องค์ชายเว่ยแล้ว...!”กวนอิ่งมิพูดยังดีเสียกว่า เมื่อนางพูดออกมาเช่นนี้ เซียวหลินอี้ก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก“นางสารเลว!”“ข้าว่าแล้วเชียว ร้านของตระกูลกวนจักถูกคนที่องค์ชายเว่ยส่งมาปล้นได้เยี่ยงไร! ที่แท้นางสารเลวเช่นเจ้าก็คิดหมายเอาประโยชน์ทั้งสองทาง!”แส้ในมือของเซียวหลินอี้ฟาดอย่างแรง“ข้าปล่อยให้คนสารเลวเช่นเจ้าโกหกข้า!”“ข้าปล่อยให้เจ้าไปสมคบคิดกับองค์ชายเว่ย…”“เซียวหลินอี้...” คำด่าของกวนอิ่งยังมิทันได้ออกจากปาก ก็ถูกเซียวหลินอี้เฆี่ยนบนปากแล้วปากของนางแตกทันใด โลหิตหลั่งไหลออกมาพวกนางรับใช้ของกวนอิ่งได้ยินเสียง วิ่งเข้ามาก็เห็นภาพนี้แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปห้าม“องค์ชาย… อย่าเพคะ… ไม่ต้องตีแล้ว หากตีอีกคุณหนูจักตายแล้วเพคะ...”ท้ายที่สุดชุ่ยเอ๋อร์เห็นว่ากวนอิ่งถูกเฆี่ยนจนเจียนตายแล้ว จึงคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอร้องคราวนี้สติของเซียวหลินอี้จึงค่อย ๆ กลับมา แล้วก็เห็นว่ากวนอิ่งถูกเขาเฆี่ยนจนหมดสติไปแล้วเขาจึงตะโกน “ไปเอาน้ำมา
กวนอิ่งจ้องเซียวหลินอี้นิ่ง พลางเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอยากฆ่าก็ฆ่าหม่อมฉันเถิด! ถึงอย่างไรก็เป็นไปตามเงื่อนไขนี้… รอให้หม่อมฉันหายจากอาการบาดเจ็บ แล้วองค์ชายปล่อยหม่อมฉันไป หม่อมฉันก็จะมอบโฉนดที่ดินให้เพคะ!”“มิฉะนั้น… ไม่ช้าก็เร็วถึงอย่างไรหม่อมฉันก็ต้องตายด้วยน้ำมือขององค์ชายอยู่ดี เหตุใดหม่อมฉันต้องเอาเปรียบองค์ชายด้วยเล่าเพคะ? ”เซียวหลินอี้จ้องกวนอิ่ง มองออกเลยว่านี่คือขอบเขตต่ำสุดของกวนอิ่งแล้ว“หึ!”เซียวหลินอี้ทิ้งกวนอิ่ง พลางยืดตัวตรงนังสารเลว ข้าจักให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกสองวันแล้วกัน!รอให้ข้าได้โฉนดที่ดินที่เหลืออยู่ก่อนเถิด ข้าจะบีบคอเจ้าให้ตายด้วยมือของข้าเอง!......กวนอิ่งนอนอยู่คืนหนึ่ง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามิสามารถอยู่ในตำหนักองค์ชายคังได้แล้ว บัดนี้เซียวหลินอี้โหดเหี้ยมกับนางมาก!รอเขาได้โฉนดที่ดินแล้ว เขาจะยังให้ตนอยู่ดีมีสุขหรือ?“ชุ่ยเอ๋อร์ ข้าอยากหนี ติดต่อกับผู้คุ้มกันของข้าได้หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ชุ่ยเอ๋อร์ก็กระซิบ “คุณหนู องค์ชายให้ผู้คุ้มกันทั้งหมดไปอยู่ในกองกำลังของเขาแล้ว พวกเรามิเหลือผู้ใดที่ใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ!”กวนอิ่งหมดหวังทั
“คุณหนู ท่านห้ามขยับเป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”“คราวนี้จะหนีราบรื่นหรือไม่ขึ้นอยู่ที่คุณหนูแล้วเจ้าค่ะ!”ชุ่ยเอ๋อร์คลุมใบผักเน่าบนศีรษะกวนอิ่งเล็กน้อยกวนอิ่งทั้งโกรธและร้อนใจ คิดแค่ว่าตัวเองไม่เคยจนตรอกขนาดนี้มาก่อนทว่าเพื่อความอยู่รอด นางทำได้แต่อดทน!ชุ่ยเอ๋อร์ปิดฝาถัง แล้วรีบกลับไปต่อแต่นี้ไปไม่เกี่ยวอะไรกับนางแล้ว นางแค่ต้องรอปะปนออกตำหนักองค์ชายคังกับคนรับใช้ที่ไปซื้อกับข้าวในวันพรุ่งเท่านั้น!จากนั้นก็โบยบินไปไกล ๆ!ชุ่ยเอ๋อร์ซ่อนเงินพันตำลึงไว้ในอก อีกทั้งคลำหาอาภรณ์มีราคาในห้องกวนอิ่งมาซุกในเสื้อผ้าหลายชิ้นพระชายาอ๋องอี้บอกว่าเงินที่กวนอิ่งดูแลล้วนเป็นของตน นางจะเอาทรัพย์สมบัติของกวนอิ่งไปเท่าใดย่อมได้!ชุ่ยเอ๋อร์ไม่ละอายที่ทรยศกวนอิ่งเลยสักกระผีก แต่กลับตื่นเต้นไม่หยุดที่ได้คิดบัญชีกวนอิ่งคุณหนูใหญ่กวนผู้นี้ นางช่างสุดจะทนมาตั้งนานแล้ว!ตนติดตามนางหลายปีปานนี้ อย่าว่าแต่มิได้ส่วนดีสักเท่าไรเลย กลับกันต้องรับความทรมานอันมากล้นด้วยซ้ำ!ตอนกวนอิ่งยังเป็นคุณหนูใหญ่ผู้เลื่องลือก็มักตีและด่านางตลอดบัดนี้หลังนางกลายเป็นอนุแห่งตำหนักองค์ชายคังก็มิได้สำรวมอารมณ์เหมือนเดิม
กวนอิ่งยอมรับความจริงมิได้พลางเรียกขึ้นอย่างบ้าบิ่น“หลิงอวี๋ นี่เป็นฝีมือเจ้ารึ?”“เป็นเจ้ายุให้องค์ชายคังตีข้า! และเป็นเจ้าทำให้ชุ่ยเอ๋อร์ทรยศข้า!”หลิงอวี๋กระตุกริมฝีปากยิ้มเยาะ “มิใช่แค่เป็น… แต่เป็นโดยแท้แน่นอน!”“เหตุใดระยะนี้เจ้าจึงเชิญหมอมา? ตัวข้าจักบอกเจ้าตามตรงว่าเป็นข้าทำเองเช่นกัน!”“เหตุใดองค์ชายคังถึงลงมือตีเจ้าอย่างเหี้ยมโหด? เพราะพระองค์ป่วยเป็นโรคเดียวกับเจ้า…!”“เจ้าเอาเชื้อโสโครกจากหอนางโลมมาติดพระองค์ องค์ชายคังมิตีเจ้าให้ตาย ข้าก็ถือว่าพระองค์มีพระทัยเมตตาแล้ว!”หลิงอวี๋ชี้ยังป้ายจารึกที่เถาจื่ออุ้มในมือ“กวนอิ่ง เจ้ายั่วโทสะข้าสุดขีด! ตอนฝังศพหลิงซิน ตัวข้าสาบานต่อหน้าป้ายจารึกของนางว่า ข้าจักถวายหัวเจ้าทำพิธีเซ่นไหว้แก่นางภายในสิบวัน!”“วันนี้เป็นวันที่สิบพอดี!”หลิงอวี๋พูดอย่างไร้ปรานี “ข้าขอบอกเจ้าให้กระจ่างแล้วกัน! สมบัติตระกูลกวนของเจ้าก็เป็นข้าให้คนไปยึด!”“เจ้าคงมิรู้กระมัง? โฉนดที่ดินเหล่านั้นในมือเจ้าล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้น!”“นายท่านตระกูลเจ้าเอาโฉนดที่ดินของจริงให้ท่านกวนเอ้อร์… และท่านกวนเอ้อร์ถวายองค์จักรพรรดิไปแล้ว!”“ตัวข้าพึ่งแค่สิ่งน
นางมิใช่แม่พระ นางมิขัดขวางท่านกวนเอ้อร์ใช้วิธีของเขาล้างแค้นหรอก!ครานั้นท่านกวนเอ้อร์เห็นภรรยาตนถูกคนข่มขืนเจียนตายกับตา ความแค้นของเขา ความเจ็บของเขามีเพียงเขาที่เข้าใจดีที่สุด!หากเขาคิดว่าการแก้แค้นแบบนี้ดีที่สุด เช่นนั้นก็ทำเยี่ยงนี้เถอะ!หลิงอวี๋พาหลิงซวนและเถาจื่อเดินตรงไปกระทั่งถึงที่ที่ไม่ได้ยินเสียงน่าสังเวชของกวนอิ่งจึงหยุดลงหากใช้หัวกวนอิ่งทำพิธีเซ่นไว้หลิงซิน ความแค้นที่ขึงตึงมาตลอดของนางอาจคงปลดปล่อยได้หลิงซิน เจ้าไปสู่สุคติได้แล้วนะ!หลิงซวนเห็นอารมณ์เศร้าซึมของหลิงอวี๋ พลันพูดปลอบทันที“อาจารย์ อย่าเศร้าไปเลยเจ้าค่ะ! หากน้องหลิงซินรู้ว่าท่านล้างแค้นเพื่อนาง นางต้องไปเกิดใหม่อย่างสบายใจแน่เจ้าค่ะ!”“อือ! หวังว่านางจะไปเกิดใหญ่ในครอบครัวที่ดี!”หลิงอวี๋เรียนหมอและไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง แต่ตอนนี้นางภาวนาจากใจจริงขอให้หลิงซินเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดีในภพหน้า!ไม่แสวงหาเงินทอง มีชีวิตสงบสุขเป็นพอ!เมื่อรอให้คนของกวนผิงมาเชิญพวกนางกลับไปก็เป็นเวลาหนึ่งชั่วยามแล้วที่นั่นถูกเก็บกวาดจนสะอาด และไม่พบสุนัขแล้วเช่นกัน มีพียงศีรษะของกวนอิ่งที่วางอยู่ในหีบหนึ่งอย่างเด