“คารวะท่านพี่จ้าวเจ้าค่ะ!”เสิ่นจวนโค้งคำนับอย่างเชื่อฟัง พลางยิ้มเล็กน้อย“พี่จ้าวไปเยี่ยมท่านพี่แล้ว ค่อยมาคุยกับข้านะเจ้าคะ! มิได้เจอพี่จ้าวกันนมนาน จวนเอ๋อร์อยากคุยกับพี่จ้าว!”จ้าวเจินเจินมองนางอย่างประหลาดใจ เสิ่นจวนกะพริบตาอย่างลึกลับ แล้วพานางรับใช้เดินออกไปจ้าวเจินเจินกระตุกริมฝีปาก แล้วก้าวเข้าไปในประตูเรือนเซียวหลินเทียนนั่งอยู่ในเรือน เห็นสาวงามหยดย้อยเดินมาหาตนเขามองนิ่ง มิได้เจอกันมาสี่ปีแล้ว จ้าวเจินเจินสวยขึ้นกว่าเดิม!ใบหน้าที่ในวันเก่า ๆ ยังมีความเคร่งขรึมอยู่หน่อย ๆ ตอนนี้คลายแล้ว ดูงดงามสะดุดตายิ่งนักจ้าวเจินเจินเดินไปหยุดอยู่ตรงที่ห่างจากเซียวหลินเทียนเพียงไม่กี่เมตร นางเองยังมองเซียวหลินเทียนอย่างนิ่ง ๆ เช่นกันหนที่มาครั้งล่าสุด เซียวหลินเทียนยังมิได้สติ จะเป็นจะตายก็ยังมิรู้เลย!แต่ตอนนี้ นอกจากใบหน้าซีดเซียวที่เสียเลือดมากเกินไปแล้ว ก็ไม่มีเค้าของการที่ชีวิตถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายอีกต่อไปแล้วไม่ได้เจอกันมาสี่ปี เซียวหลินเทียนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว ใบหน้าที่ทำให้นางหลงใหลในอดีตนั้นหล่อเหลามาดบุรุษมากขึ้นอีก!หัวใจของจ้าวเจินเจินรู้สึกราวกับว่าถูกแมวข่
“หลิงอวี๋ นาง...”เซียวหลินเทียนกำลังคิดจะบอกออกไปเรื่องที่หลิงอวี๋รักษาขาของตนได้ผล แต่คำพูดติดอยู่บนริมฝีปากเซียวหลินเทียนเห็นจ้าวเจินเจินกำลังเล่นกับจี้หยกบนเข็มขัดของตน!จี้หยกนั่นเป็นจี้หยกไม้ไผ่ของบุรุษ เช่นนั้นคงจะเป็นสิ่งที่องค์ชายคังมอบให้กับจ้าวเจินเจิน!เซียวหลินเทียนนึกขึ้นได้ถึงตัวตนของจ้าวเจินเจินในเวลานี้...นางเป็นภริยาขององค์ชายสอง เป็นพระชายาคัง!เซียวหลินเทียนเพิ่งจะคิดแผนจัดการองค์ชายคังกับองค์ชายเว่ย แล้วจ้าวเจินเจินก็มาเยี่ยมถึงที่!ระหว่างทั้งสองฝ่ายนี้ไม่มีความสัมพันธ์ใดหรือ?“น้องสะใภ้เป็นเยี่ยงไรบ้าง? หาวิธีรักษาขาของท่านได้แล้วหรือไม่?”จ้าวเจินเจินเอ่ยอย่างรีบร้อน “เช่นนี้ก็เยี่ยมมากเลย! หากพี่สี่สามารถยืนขึ้นได้ในเร็ววัน พวกเราล้วนยินดีกับท่านด้วย!”เซียวหลินเทียนหลุบตาลง ในใจรู้สึกสับสนมากจ้าวเจินเจินอยากให้ขาของตนหายขาดจริง ๆ หรือ?นางเป็นห่วงตนจริง ๆ หรือ?แต่หากไม่ใช่เล่า?หากนางมาหยั่งเชิงตนเองแทนองค์ชายสองเล่า?“ไม่… หลิงอวี๋ตรวจขาของข้าแล้ว นางบอกว่าทำอันใดมิได้แล้ว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “หมอว่านก็บอกด้วยว่า ไม่มีผู้ใดส
จ้าวเจินเจินเห็นท่าทีโกรธเกรี้ยวของเซียวหลินเทียน ในใจก็แอบหัวเราะอย่างภาคภูมิใจหลิงอวี๋ แม้ว่ายามนี้เจ้าได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนแล้วจะอย่างไรเล่า!ข้าพูดไม่กี่คำ ก็สามารถดึงเจ้ากลับไปอยู่ในจุดเดิมได้แล้ว!จ้าวเจินเจินมาครั้งนี้มิได้มาเพียงเพื่อหยั่งเชิงดูว่าขาของเซียวหลินเทียนสามารถรักษาได้หรือไม่!หากนางต้องการเป็นฮองเฮาของฉินตะวันตกในอนาคต นางมิสามารถให้ใครมาทำลายแผนการขององค์ชายคังได้!แม้แต่เซียวหลินเทียนก็มิได้!ครั้งนี้เซียวหลินเทียนบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้นแต่ก็สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ สิ่งนี้ทำให้จ้าวเจินเจินกับองค์ชายคังมิสามารถประมาทของหลิงอวี๋ได้อีกต่อไป!หลิงอวี๋ทำให้ท่านอดีตเสนาบดีที่ควรจะต้องตายกลับมีชีวิตอยู่ได้ พวกเขาจะต้องมิให้โอกาสหลิงอวี๋รักษาขาของเซียวหลินเทียนอีก!ข้อเสนอเดิมของจ้าวเจินเจินคือฆ่าหลิงอวี๋เสีย แต่องค์ชายคังมิเห็นด้วยองค์ชายคังบอกว่าหลิงอวี๋ยังมีประโยชน์ เขาจะยังมิเอาชีวิตของหลิงอวี๋ในขณะนี้!แม้ว่าจ้าวเจินเจินจะสงสัยว่าเหตุใดยามนี้ถึงมิสามารถฆ่าหลิงอวี๋ได้ แต่องค์ชายคังมิได้บอก บอกเพียงแค่ว่าเดี๋ยวต่อไปจ้าวเจินเจินก็จะรู้เอง!วั
จ้าวเจินเจินเพิ่งจะเดินออกจากตำหนักอ๋องอี้ ก็มีนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาพลางเอ่ยเสียงเบา“พระชายาคัง บ่าวเป็นนางรับใช้ของคุณหนูเสิ่นเจ้าค่ะ คุณหนูเสิ่นบอกว่าขอเชิญพระชายาดื่มชา นางรอพระชายาอยู่ที่โรงน้ำชาข้างหน้าเจ้าค่ะ!”จ้าวเจินเจินยิ้มเล็กน้อย เรื่องที่เสิ่นจวนพักอยู่ในตำหนักอ๋องอี้ชั่วคราวนั้นนางรู้อยู่แล้วนางอยากแยกหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนออกจากกัน และเสิ่นจวนผู้นี้ก็เป็นมีดที่เหมาะสมมาก!จ้าวเจินเจินพานางรับใช้ไปที่โรงน้ำชาเสิ่นจวนสั่งชาไปแล้ว เมื่อนางเห็นนางก็ยืนขึ้นต้อนรับหลังจากที่ทั้งสองทักทายกันแล้ว เสิ่นจวนก็รีบเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่องของเซียวหลินเทียนอย่างรวดเร็ว“พี่จ้าว ข้ารู้เรื่องในอดีตของพี่กับท่านพี่ของข้า พี่มาเยี่ยมเขา คงต้องเป็นห่วงเขาแน่ ๆ!”จ้าวเจินเจินยิ้มพลางเอ่ย “เรื่องในอดีตมันเป็นอดีตไปแล้ว! วันนี้ข้ามาเยี่ยมเพราะสามีข้าขอให้ข้ามา!”“พระองค์เป็นห่วงอาการบาดเจ็บของน้องสี่มาก เพียงแต่พระองค์งานยุ่ง ไม่มีเวลาถึงส่งข้ามาแทน!”เสิ่นจวนรีบเอ่ย “ข้าผิดไปแล้ว! พวกท่านเป็นครอบครัวเดียวกัน ย่อมเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพี่ข้าอยู่แล้ว!”“พี่จ้าว ข้าก็เป็น
“ไม่ได้ ข้าจักต้องแต่งงานกับท่านพี่ข้า!”เสิ่นจวนเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าจักไม่มีทางแต่งงานกับผู้ใดนอกจากเขา!”จ้าวเจินเจินแสร้งเป็นทุกข์ “สาวน้อย เหตุใดเจ้ามิฟังคำเตือนหนา! เห้อ มิรู้ว่าหลิงอวี๋มีกระไรดี ไฉนท่านพี่ของเจ้ามิหย่ากับนางแล้วมาแต่งงานกับเจ้านะ?”“เจ้ารักท่านพี่ของเจ้าถึงเพียงนี้ ต้องทำให้ท่านอ๋องอี้มีความสุขได้อย่างแน่นอน!”“จริงสิ งานฉลองวันพระราชสมภพครั้งที่แล้ว หลิงอวี๋พิสูจน์ว่าเด็กคนนั้นเป็นบุตรของท่านอ๋องอี้มิใช่หรือ? เหตุใดท่านอ๋องอี้มิพาเด็กคนนั้นไปเข้าราชวงศ์เล่า?”“หรือว่าท่านอ๋องอี้ยังสงสัยอยู่ว่าเด็กคนนั้นมิใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา?”เสิ่นจวนเอ่ยด้วยความโกรธ “มิรู้ว่าท่านพี่คิดเยี่ยงไร… ข้าก็บอกเขาไปแล้วว่าการหลั่งเลือดพิสูจน์เชื้อสายนั้นมันมิจริง แต่เขามิฟังข้า!”จ้าวเจินเจินเอ่ยราวกับไม่ได้ตั้งใจ “ท่านอ๋องอี้เป็นคนที่ต้องการหลักฐานแน่น จากที่ได้ฟังเขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน เจ้าจักโน้มน้าวเขาเจ้าต้องมีหลักฐาน!”“เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ข้าจักไปหาหลักฐานได้จากที่ใดกัน?” เสิ่นจวนเอ่ยถามอย่างกังวลจ้าวเจินเจินเหลือบมองเสิ่นจวนอย่างดูถูก นังหัวหมูนี่ เตือนชัดเจนถึ
แต่แม่นมลี่มิสนใจมิได้ นางเอ่ยอย่างกังวล“คุณหนู คุณหนูจักประมาทมิได้หนาเจ้าคะ… ครานั้นคุณหนูแย่งท่านอ๋องมา จ้าวเจินเจินต้องเกลียดคุณหนูมากแน่ ๆ!”“หากนางพูดมิดีเกี่ยวกับคุณหนูต่อหน้าท่านอ๋อง ท่านอ๋องจักทรงเกลียดคุณหนูอีกหนาเจ้าคะ!”หลิงอวี๋ยิ้ม “แม่นม มิต้องกังวลหรอก! เซียวหลินเทียนมิใช่คนประเภทที่ถูกยุยงได้ง่าย ๆ นะ!”แม่นมลี่จ้องหลิงอวี๋ด้วยความโกรธ“คุณหนู คุณหนูมิระวังเลย!”“ยามนี้ในตำหนักมีเสิ่นจวนเข้ามาก็รบกวนคุณหนูมากพอแล้วหนาเจ้าคะ! หากเพิ่มพระชายาคังมาอีกคน จักต้องเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายเป็นแน่!”“คุณหนู อย่าว่าบ่าวพูดมากเลยเจ้าค่ะ… บ่าวเห็นว่าช่วงนี้คุณหนูกับท่านอ๋องเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!”“เช่นนั้น… อย่าหย่ากันเลยเจ้าค่ะ! ใช้ชีวิตกับท่านอ๋องเถิด!”“เสิ่นจวนผู้นั้นอยากแต่งงานกับท่านอ๋องเข้ามาเป็นชายารอง คุณหนูอย่าให้นางมีโอกาสเอาเปรียบได้หนาเจ้าคะ!”หลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าก็กระตุก พลางเอ่ยอย่างจนใจ“แม่นม อย่าคิดเหลวไหลเลย!”“ช่วงนี้ข้าสนิทกับเซียวหลินเทียนเพราะเขาช่วยข้า และข้าก็ช่วยเขาในเรื่องบางอย่างด้วย!”แม่นมลี่ยังคงมิยอมแพ้ พลางเอ่ยเตือน“
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจู่ ๆ ถึงรีบร้อนเช่นนี้?”หลิงอวี๋เองก็เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงเอ่ยถาม“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก… ข้าแค่อยากรู้ว่าข้าต้องใช้เวลารักษาอีกนานแค่ไหนถึงยืนได้?”เซียวหลินเทียนเบือนหน้าหลบสายตาของหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างหงุดหงิด“จักทำอันใดให้สำเร็จก็ต้องมีความอดทน!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจ “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็บอกท่านแล้วมิใช่หรือ? ว่าขาของท่าน...”“เจ้าก็บอกมาว่านานแค่ไหน… หนึ่งเดือนหรือสองเดือน?”เซียวหลินเทียนพูดตัดบทหลิงอวี๋อย่างไม่อดทน ด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างหลิงอวี๋ตะลึงกับการที่เขาตะคอกอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็มิได้คิดอะไรมาก คิดว่าเซียวหลินเทียนไปเจอเรื่องที่ไม่สบายใจมา ดังนั้นวันนี้จึงหงุดหงิด“ฝังเข็มอีกสักสองสามครั้ง ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว!”หลิงอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “หม่อมฉันจักเปลี่ยนตำรับโอสถให้ท่าน ทำร่วมกับการอาบน้ำสมุนไพรจักยิ่งได้ผลดี!”“เช่นนั้นก็ฝังเข็มเลย! จัดการตำรับยาก่อน ข้าจักให้ลู่หนานไปเอาโอสถ!”เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนร้อนใจถึงเพียงนี้ หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงเขียนตำรับโอสถก่อน จากนั้นจึงหยิบเข็มเงินออกมาเซียวหลินเที
“หลิงอวี๋?”เซียวหลินเทียนมิเห็นหลิงอวี๋ตรวจขาเขา จึงเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด “ข้าถามเจ้านะ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ?”“ได้ยินแล้ว… หม่อมฉันกำลังคิดอยู่!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชาชั่วครู่นางอยากจะเดินออกไปเลย แต่นึกถึงที่เซียวหลินเทียนช่วยตนมาหลายครั้ง ออกไปเช่นนี้ดูไร้หัวใจไปสักหน่อย!ช่างมันเถิด นับจากนี้ก็แค่รักษาระยะห่างไว้ก็พอ!รักษาขาของเขาเสร็จ รอวันที่จะได้เข้าไปในวังอีกครั้ง จะขอให้ไทเฮาช่วยขอองค์จักรพรรดิ ให้นางได้หย่ากับเซียวหลินเทียน!ต่อไปก็อยู่ให้ห่างกันไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว!หลิงอวี๋หยิบคีมยาวออกมาจากล่วมยาแล้วนั่งยอง ๆ อีกครั้งนางใช้คีมยาวเคาะที่เข่าของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนมีการตอบสนอง น่องมีการขยับหลิงอวี๋ใช้คีมตรวจน่องของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ย“วันนี้ฝังเข็มให้ท่านอีกครั้ง แล้วให้อาบน้ำสมุนไพรสักสองสามสัก รอดูผลแล้วค่อยว่ากัน!”“หากได้ผลดี ต่อไปก็มิจำเป็นต้องฝังเข็มแล้ว ท่านค่อย ๆ ฟื้นตัวก็พอแล้ว!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังเรื่องวิธีการฟื้นตัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดอะไรมาก ได้แค่เอ่ยไปตรง ๆ“ข้าจักเริ่มฝ