จ้าวเจินเจินเพิ่งจะเดินออกจากตำหนักอ๋องอี้ ก็มีนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาพลางเอ่ยเสียงเบา“พระชายาคัง บ่าวเป็นนางรับใช้ของคุณหนูเสิ่นเจ้าค่ะ คุณหนูเสิ่นบอกว่าขอเชิญพระชายาดื่มชา นางรอพระชายาอยู่ที่โรงน้ำชาข้างหน้าเจ้าค่ะ!”จ้าวเจินเจินยิ้มเล็กน้อย เรื่องที่เสิ่นจวนพักอยู่ในตำหนักอ๋องอี้ชั่วคราวนั้นนางรู้อยู่แล้วนางอยากแยกหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนออกจากกัน และเสิ่นจวนผู้นี้ก็เป็นมีดที่เหมาะสมมาก!จ้าวเจินเจินพานางรับใช้ไปที่โรงน้ำชาเสิ่นจวนสั่งชาไปแล้ว เมื่อนางเห็นนางก็ยืนขึ้นต้อนรับหลังจากที่ทั้งสองทักทายกันแล้ว เสิ่นจวนก็รีบเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่องของเซียวหลินเทียนอย่างรวดเร็ว“พี่จ้าว ข้ารู้เรื่องในอดีตของพี่กับท่านพี่ของข้า พี่มาเยี่ยมเขา คงต้องเป็นห่วงเขาแน่ ๆ!”จ้าวเจินเจินยิ้มพลางเอ่ย “เรื่องในอดีตมันเป็นอดีตไปแล้ว! วันนี้ข้ามาเยี่ยมเพราะสามีข้าขอให้ข้ามา!”“พระองค์เป็นห่วงอาการบาดเจ็บของน้องสี่มาก เพียงแต่พระองค์งานยุ่ง ไม่มีเวลาถึงส่งข้ามาแทน!”เสิ่นจวนรีบเอ่ย “ข้าผิดไปแล้ว! พวกท่านเป็นครอบครัวเดียวกัน ย่อมเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพี่ข้าอยู่แล้ว!”“พี่จ้าว ข้าก็เป็น
“ไม่ได้ ข้าจักต้องแต่งงานกับท่านพี่ข้า!”เสิ่นจวนเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าจักไม่มีทางแต่งงานกับผู้ใดนอกจากเขา!”จ้าวเจินเจินแสร้งเป็นทุกข์ “สาวน้อย เหตุใดเจ้ามิฟังคำเตือนหนา! เห้อ มิรู้ว่าหลิงอวี๋มีกระไรดี ไฉนท่านพี่ของเจ้ามิหย่ากับนางแล้วมาแต่งงานกับเจ้านะ?”“เจ้ารักท่านพี่ของเจ้าถึงเพียงนี้ ต้องทำให้ท่านอ๋องอี้มีความสุขได้อย่างแน่นอน!”“จริงสิ งานฉลองวันพระราชสมภพครั้งที่แล้ว หลิงอวี๋พิสูจน์ว่าเด็กคนนั้นเป็นบุตรของท่านอ๋องอี้มิใช่หรือ? เหตุใดท่านอ๋องอี้มิพาเด็กคนนั้นไปเข้าราชวงศ์เล่า?”“หรือว่าท่านอ๋องอี้ยังสงสัยอยู่ว่าเด็กคนนั้นมิใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา?”เสิ่นจวนเอ่ยด้วยความโกรธ “มิรู้ว่าท่านพี่คิดเยี่ยงไร… ข้าก็บอกเขาไปแล้วว่าการหลั่งเลือดพิสูจน์เชื้อสายนั้นมันมิจริง แต่เขามิฟังข้า!”จ้าวเจินเจินเอ่ยราวกับไม่ได้ตั้งใจ “ท่านอ๋องอี้เป็นคนที่ต้องการหลักฐานแน่น จากที่ได้ฟังเขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน เจ้าจักโน้มน้าวเขาเจ้าต้องมีหลักฐาน!”“เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ข้าจักไปหาหลักฐานได้จากที่ใดกัน?” เสิ่นจวนเอ่ยถามอย่างกังวลจ้าวเจินเจินเหลือบมองเสิ่นจวนอย่างดูถูก นังหัวหมูนี่ เตือนชัดเจนถึ
แต่แม่นมลี่มิสนใจมิได้ นางเอ่ยอย่างกังวล“คุณหนู คุณหนูจักประมาทมิได้หนาเจ้าคะ… ครานั้นคุณหนูแย่งท่านอ๋องมา จ้าวเจินเจินต้องเกลียดคุณหนูมากแน่ ๆ!”“หากนางพูดมิดีเกี่ยวกับคุณหนูต่อหน้าท่านอ๋อง ท่านอ๋องจักทรงเกลียดคุณหนูอีกหนาเจ้าคะ!”หลิงอวี๋ยิ้ม “แม่นม มิต้องกังวลหรอก! เซียวหลินเทียนมิใช่คนประเภทที่ถูกยุยงได้ง่าย ๆ นะ!”แม่นมลี่จ้องหลิงอวี๋ด้วยความโกรธ“คุณหนู คุณหนูมิระวังเลย!”“ยามนี้ในตำหนักมีเสิ่นจวนเข้ามาก็รบกวนคุณหนูมากพอแล้วหนาเจ้าคะ! หากเพิ่มพระชายาคังมาอีกคน จักต้องเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายเป็นแน่!”“คุณหนู อย่าว่าบ่าวพูดมากเลยเจ้าค่ะ… บ่าวเห็นว่าช่วงนี้คุณหนูกับท่านอ๋องเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!”“เช่นนั้น… อย่าหย่ากันเลยเจ้าค่ะ! ใช้ชีวิตกับท่านอ๋องเถิด!”“เสิ่นจวนผู้นั้นอยากแต่งงานกับท่านอ๋องเข้ามาเป็นชายารอง คุณหนูอย่าให้นางมีโอกาสเอาเปรียบได้หนาเจ้าคะ!”หลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าก็กระตุก พลางเอ่ยอย่างจนใจ“แม่นม อย่าคิดเหลวไหลเลย!”“ช่วงนี้ข้าสนิทกับเซียวหลินเทียนเพราะเขาช่วยข้า และข้าก็ช่วยเขาในเรื่องบางอย่างด้วย!”แม่นมลี่ยังคงมิยอมแพ้ พลางเอ่ยเตือน“
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจู่ ๆ ถึงรีบร้อนเช่นนี้?”หลิงอวี๋เองก็เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงเอ่ยถาม“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก… ข้าแค่อยากรู้ว่าข้าต้องใช้เวลารักษาอีกนานแค่ไหนถึงยืนได้?”เซียวหลินเทียนเบือนหน้าหลบสายตาของหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างหงุดหงิด“จักทำอันใดให้สำเร็จก็ต้องมีความอดทน!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจ “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็บอกท่านแล้วมิใช่หรือ? ว่าขาของท่าน...”“เจ้าก็บอกมาว่านานแค่ไหน… หนึ่งเดือนหรือสองเดือน?”เซียวหลินเทียนพูดตัดบทหลิงอวี๋อย่างไม่อดทน ด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างหลิงอวี๋ตะลึงกับการที่เขาตะคอกอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็มิได้คิดอะไรมาก คิดว่าเซียวหลินเทียนไปเจอเรื่องที่ไม่สบายใจมา ดังนั้นวันนี้จึงหงุดหงิด“ฝังเข็มอีกสักสองสามครั้ง ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว!”หลิงอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “หม่อมฉันจักเปลี่ยนตำรับโอสถให้ท่าน ทำร่วมกับการอาบน้ำสมุนไพรจักยิ่งได้ผลดี!”“เช่นนั้นก็ฝังเข็มเลย! จัดการตำรับยาก่อน ข้าจักให้ลู่หนานไปเอาโอสถ!”เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนร้อนใจถึงเพียงนี้ หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงเขียนตำรับโอสถก่อน จากนั้นจึงหยิบเข็มเงินออกมาเซียวหลินเที
“หลิงอวี๋?”เซียวหลินเทียนมิเห็นหลิงอวี๋ตรวจขาเขา จึงเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด “ข้าถามเจ้านะ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ?”“ได้ยินแล้ว… หม่อมฉันกำลังคิดอยู่!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชาชั่วครู่นางอยากจะเดินออกไปเลย แต่นึกถึงที่เซียวหลินเทียนช่วยตนมาหลายครั้ง ออกไปเช่นนี้ดูไร้หัวใจไปสักหน่อย!ช่างมันเถิด นับจากนี้ก็แค่รักษาระยะห่างไว้ก็พอ!รักษาขาของเขาเสร็จ รอวันที่จะได้เข้าไปในวังอีกครั้ง จะขอให้ไทเฮาช่วยขอองค์จักรพรรดิ ให้นางได้หย่ากับเซียวหลินเทียน!ต่อไปก็อยู่ให้ห่างกันไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว!หลิงอวี๋หยิบคีมยาวออกมาจากล่วมยาแล้วนั่งยอง ๆ อีกครั้งนางใช้คีมยาวเคาะที่เข่าของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนมีการตอบสนอง น่องมีการขยับหลิงอวี๋ใช้คีมตรวจน่องของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ย“วันนี้ฝังเข็มให้ท่านอีกครั้ง แล้วให้อาบน้ำสมุนไพรสักสองสามสัก รอดูผลแล้วค่อยว่ากัน!”“หากได้ผลดี ต่อไปก็มิจำเป็นต้องฝังเข็มแล้ว ท่านค่อย ๆ ฟื้นตัวก็พอแล้ว!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังเรื่องวิธีการฟื้นตัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดอะไรมาก ได้แค่เอ่ยไปตรง ๆ“ข้าจักเริ่มฝ
เซียวหลินเทียนยังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็น “เช่นนั้นแม่นมจูรู้หรือไม่ว่าหลิงอวี๋มิได้กลับเรือนตอนกลางคืนนั้น นางไปพบใคร?”“แม่นมจูบอกว่ามิรู้ แต่นางมีหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ...”จ้าวซวนหยิบจดหมายออกมาส่งให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรับมาเอาออกมาดู มันเป็นจดหมายของจางเฉินเหนียน เป็นจดหมายรัก...ในจดหมายไม่มีการเรียกชื่อ เนื้อหาข้างในเต็มไปด้วยคำรัก มันเลี่ยนเกินกว่าจะอ่านได้!เขามองอย่างรังเกียจ พวกคำที่บอกข้าชอบมองรอยยิ้มของเจ้า ตั้งแต่ที่ชอบเจ้า เรื่องอื่น ๆ ก็ไม่สำคัญ เพราะหัวใจของข้าถูกเจ้าครอบครองไปแล้ว...ช่วงนี้เซียวหลินเทียนคุ้นเคยกับลายมือของหลิงอวี๋มาก แค่มองปราดเดียวก็ยืนยันได้เลยว่าเป็นลายมือของหลิงอวี๋เขาขยำจดหมายอย่างโมโห!หลิงอวี๋ เจ้ากล้าทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้กับข้าหรือ!!เมื่อเซียวหลินเทียนนึกถึงที่หลิงอวี๋พาลูกของคนอื่นมาแต่งงานกับเขา ก็โกรธมากจนอยากจะบีบคอหลิงอวี๋ให้ตายยังมิทันที่เขาจะคิดว่าจะทำเยี่ยงไรกับหลิงอวี๋ดี องครักษ์ก็ตะโกนจากข้างนอก “พระชายามาแล้ว...”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็เอ่ยอย่างกังวลใจ “ท่านอ๋อง เวลานี้ยังมิใช่เวลาชำระบัญชีกับหลิงอวี๋! ท่านอ
เป็นเวลาสองวันแล้วที่หลิงอวี๋มิได้ไปที่เรือนริมวารี ในทุกวันนางจะพาหลิงซวนกับเถาจื่อไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง หรือไปซื้อเครื่องยาสมุนไพรกับเกิ่งเสี่ยวหาวการค้าของเกิ่งเสี่ยวหาวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาไม่เพียงแต่คุ้นเคยกับทุกหมู่บ้านภายในรัศมีร้อยลี้จากเมืองหลวงเท่านั้น เขายังคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรที่มีในภูเขาทุกแห่งในพื้นที่ด้วย“ท่านพี่ คราที่ข้าออกไปเดินดูรอบ ๆ ถึงได้พบว่าใต้หล้านี้กว้างใหญ่มาก มีคนยากจนมากมาย สงครามในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ทำลายบ้านเรือนของผู้คนไปมิน้อยเลย!”“ท่านพี่ต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าบางคนยังอาศัยอยู่ในถ้ำอยู่เลย! ชีวิตของพวกเขายากลำบากนัก!”เกิ่งเสี่ยวหาวถอนหายใจพลางเอ่ย “ข้าอยากช่วยเหลือพวกเขา แต่ข้าก็ช่วยคนมากถึงเพียงนั้นมิได้!”พอได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋จึงเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นสามารถช่วยได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย! อีกอย่าง เสี่ยวหาว การหาปลามาให้เขากินนั้นมิดีเท่าสอนเขาตกปลาหรอก...”หลิงอวี๋เห็นว่าเกิ่งเสี่ยวหาวไม่เข้าใจ จึงอธิบายอย่างเข้าใจง่ายให้เขาฟัง“เจ้าช่วยพวกเขา ให้เงินพวกเขา แต่เงินมันก็ต้องหมดไป แต่หากเจ้าสอนวิธีหาเงินกับพวกเขา นั่นต่างหากที
“ท่านเอ้อร์!”หลิงอวี๋เดินเข้าไป ถึงได้พบว่านอกจากท่านกวนเอ้อร์แล้ว ยังมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งอีกสองคนอยู่ข้างในด้วย“พระชายาอ๋องอี้เชิญนั่งเถิด!”พอท่านกวนเอ้อร์เห็นหลิงอวี๋มองผู้คุ้มกันทั้งสอง ก็เอ่ยขึ้นมา “นี่คือคนสนิทของข้า พระชายาอย่าได้ถือสา!”“อ๋อ!”หลิงอวี๋นั่งลง พลางเอ่ยถาม “ท่านเอ้อร์ ยาแก้พิษที่ข้าส่งไปให้มิได้ผลหรือ?”“พระชายาวางใจได้ ยาแก้พิษนั้นดีมาก นายท่านกวนสบายดีแล้ว!”ท่านกวนเอ้อร์ยิ้มเล็กน้อย ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเดินเข้ามารินน้ำชาให้ทั้งสองคน“พระชายา ที่แซ่กวนมาที่นี่ในวันนี้ก็ตั้งใจมาขอบคุณพระชายาขอรับ! หากไม่มีพระชายา นายท่านก็คงอยู่ได้ไม่นาน!”“นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระชายา พระชายาโปรดรับไว้ด้วยเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์หยิบกล่องหนึ่งกล่องออกมา แล้วผลักมาให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รีบเอ่ย “ท่านเอ้อร์เกรงใจกันเกินไป เท่านให้รางวัลข้ามาแล้ว หลิงอวี๋มีหรือจักต้องการมากมาย! ท่านเอ้อร์เก็บกลับไปเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์ไม่คะยั้นคะยอ ยิ้มพลางเอ่ย “ข้าให้คนยกอาหารมาแล้ว พระชายาดื่มชาก่อนเถิด อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว!”หลิงอวี๋เหนื่อยมาทั้งวัน นางจึงหยิบ