Share

บทที่ 380

Author: กานเฟย
จ้าวเจินเจินเพิ่งจะเดินออกจากตำหนักอ๋องอี้ ก็มีนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาพลางเอ่ยเสียงเบา

“พระชายาคัง บ่าวเป็นนางรับใช้ของคุณหนูเสิ่นเจ้าค่ะ คุณหนูเสิ่นบอกว่าขอเชิญพระชายาดื่มชา นางรอพระชายาอยู่ที่โรงน้ำชาข้างหน้าเจ้าค่ะ!”

จ้าวเจินเจินยิ้มเล็กน้อย เรื่องที่เสิ่นจวนพักอยู่ในตำหนักอ๋องอี้ชั่วคราวนั้นนางรู้อยู่แล้ว

นางอยากแยกหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนออกจากกัน และเสิ่นจวนผู้นี้ก็เป็นมีดที่เหมาะสมมาก!

จ้าวเจินเจินพานางรับใช้ไปที่โรงน้ำชา

เสิ่นจวนสั่งชาไปแล้ว เมื่อนางเห็นนางก็ยืนขึ้นต้อนรับ

หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันแล้ว เสิ่นจวนก็รีบเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่องของเซียวหลินเทียนอย่างรวดเร็ว

“พี่จ้าว ข้ารู้เรื่องในอดีตของพี่กับท่านพี่ของข้า พี่มาเยี่ยมเขา คงต้องเป็นห่วงเขาแน่ ๆ!”

จ้าวเจินเจินยิ้มพลางเอ่ย “เรื่องในอดีตมันเป็นอดีตไปแล้ว! วันนี้ข้ามาเยี่ยมเพราะสามีข้าขอให้ข้ามา!”

“พระองค์เป็นห่วงอาการบาดเจ็บของน้องสี่มาก เพียงแต่พระองค์งานยุ่ง ไม่มีเวลาถึงส่งข้ามาแทน!”

เสิ่นจวนรีบเอ่ย “ข้าผิดไปแล้ว! พวกท่านเป็นครอบครัวเดียวกัน ย่อมเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพี่ข้าอยู่แล้ว!”

“พี่จ้าว ข้าก็เป็น
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 381

    “ไม่ได้ ข้าจักต้องแต่งงานกับท่านพี่ข้า!”เสิ่นจวนเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าจักไม่มีทางแต่งงานกับผู้ใดนอกจากเขา!”จ้าวเจินเจินแสร้งเป็นทุกข์ “สาวน้อย เหตุใดเจ้ามิฟังคำเตือนหนา! เห้อ มิรู้ว่าหลิงอวี๋มีกระไรดี ไฉนท่านพี่ของเจ้ามิหย่ากับนางแล้วมาแต่งงานกับเจ้านะ?”“เจ้ารักท่านพี่ของเจ้าถึงเพียงนี้ ต้องทำให้ท่านอ๋องอี้มีความสุขได้อย่างแน่นอน!”“จริงสิ งานฉลองวันพระราชสมภพครั้งที่แล้ว หลิงอวี๋พิสูจน์ว่าเด็กคนนั้นเป็นบุตรของท่านอ๋องอี้มิใช่หรือ? เหตุใดท่านอ๋องอี้มิพาเด็กคนนั้นไปเข้าราชวงศ์เล่า?”“หรือว่าท่านอ๋องอี้ยังสงสัยอยู่ว่าเด็กคนนั้นมิใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา?”เสิ่นจวนเอ่ยด้วยความโกรธ “มิรู้ว่าท่านพี่คิดเยี่ยงไร… ข้าก็บอกเขาไปแล้วว่าการหลั่งเลือดพิสูจน์เชื้อสายนั้นมันมิจริง แต่เขามิฟังข้า!”จ้าวเจินเจินเอ่ยราวกับไม่ได้ตั้งใจ “ท่านอ๋องอี้เป็นคนที่ต้องการหลักฐานแน่น จากที่ได้ฟังเขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน เจ้าจักโน้มน้าวเขาเจ้าต้องมีหลักฐาน!”“เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ข้าจักไปหาหลักฐานได้จากที่ใดกัน?” เสิ่นจวนเอ่ยถามอย่างกังวลจ้าวเจินเจินเหลือบมองเสิ่นจวนอย่างดูถูก นังหัวหมูนี่ เตือนชัดเจนถึ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 382

    แต่แม่นมลี่มิสนใจมิได้ นางเอ่ยอย่างกังวล“คุณหนู คุณหนูจักประมาทมิได้หนาเจ้าคะ… ครานั้นคุณหนูแย่งท่านอ๋องมา จ้าวเจินเจินต้องเกลียดคุณหนูมากแน่ ๆ!”“หากนางพูดมิดีเกี่ยวกับคุณหนูต่อหน้าท่านอ๋อง ท่านอ๋องจักทรงเกลียดคุณหนูอีกหนาเจ้าคะ!”หลิงอวี๋ยิ้ม “แม่นม มิต้องกังวลหรอก! เซียวหลินเทียนมิใช่คนประเภทที่ถูกยุยงได้ง่าย ๆ นะ!”แม่นมลี่จ้องหลิงอวี๋ด้วยความโกรธ“คุณหนู คุณหนูมิระวังเลย!”“ยามนี้ในตำหนักมีเสิ่นจวนเข้ามาก็รบกวนคุณหนูมากพอแล้วหนาเจ้าคะ! หากเพิ่มพระชายาคังมาอีกคน จักต้องเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายเป็นแน่!”“คุณหนู อย่าว่าบ่าวพูดมากเลยเจ้าค่ะ… บ่าวเห็นว่าช่วงนี้คุณหนูกับท่านอ๋องเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!”“เช่นนั้น… อย่าหย่ากันเลยเจ้าค่ะ! ใช้ชีวิตกับท่านอ๋องเถิด!”“เสิ่นจวนผู้นั้นอยากแต่งงานกับท่านอ๋องเข้ามาเป็นชายารอง คุณหนูอย่าให้นางมีโอกาสเอาเปรียบได้หนาเจ้าคะ!”หลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าก็กระตุก พลางเอ่ยอย่างจนใจ“แม่นม อย่าคิดเหลวไหลเลย!”“ช่วงนี้ข้าสนิทกับเซียวหลินเทียนเพราะเขาช่วยข้า และข้าก็ช่วยเขาในเรื่องบางอย่างด้วย!”แม่นมลี่ยังคงมิยอมแพ้ พลางเอ่ยเตือน“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 383

    “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจู่ ๆ ถึงรีบร้อนเช่นนี้?”หลิงอวี๋เองก็เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงเอ่ยถาม“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก… ข้าแค่อยากรู้ว่าข้าต้องใช้เวลารักษาอีกนานแค่ไหนถึงยืนได้?”เซียวหลินเทียนเบือนหน้าหลบสายตาของหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างหงุดหงิด“จักทำอันใดให้สำเร็จก็ต้องมีความอดทน!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจ “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็บอกท่านแล้วมิใช่หรือ? ว่าขาของท่าน...”“เจ้าก็บอกมาว่านานแค่ไหน… หนึ่งเดือนหรือสองเดือน?”เซียวหลินเทียนพูดตัดบทหลิงอวี๋อย่างไม่อดทน ด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างหลิงอวี๋ตะลึงกับการที่เขาตะคอกอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็มิได้คิดอะไรมาก คิดว่าเซียวหลินเทียนไปเจอเรื่องที่ไม่สบายใจมา ดังนั้นวันนี้จึงหงุดหงิด“ฝังเข็มอีกสักสองสามครั้ง ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว!”หลิงอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “หม่อมฉันจักเปลี่ยนตำรับโอสถให้ท่าน ทำร่วมกับการอาบน้ำสมุนไพรจักยิ่งได้ผลดี!”“เช่นนั้นก็ฝังเข็มเลย! จัดการตำรับยาก่อน ข้าจักให้ลู่หนานไปเอาโอสถ!”เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนร้อนใจถึงเพียงนี้ หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงเขียนตำรับโอสถก่อน จากนั้นจึงหยิบเข็มเงินออกมาเซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 384

    “หลิงอวี๋?”เซียวหลินเทียนมิเห็นหลิงอวี๋ตรวจขาเขา จึงเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด “ข้าถามเจ้านะ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ?”“ได้ยินแล้ว… หม่อมฉันกำลังคิดอยู่!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชาชั่วครู่นางอยากจะเดินออกไปเลย แต่นึกถึงที่เซียวหลินเทียนช่วยตนมาหลายครั้ง ออกไปเช่นนี้ดูไร้หัวใจไปสักหน่อย!ช่างมันเถิด นับจากนี้ก็แค่รักษาระยะห่างไว้ก็พอ!รักษาขาของเขาเสร็จ รอวันที่จะได้เข้าไปในวังอีกครั้ง จะขอให้ไทเฮาช่วยขอองค์จักรพรรดิ ให้นางได้หย่ากับเซียวหลินเทียน!ต่อไปก็อยู่ให้ห่างกันไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว!หลิงอวี๋หยิบคีมยาวออกมาจากล่วมยาแล้วนั่งยอง ๆ อีกครั้งนางใช้คีมยาวเคาะที่เข่าของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนมีการตอบสนอง น่องมีการขยับหลิงอวี๋ใช้คีมตรวจน่องของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ย“วันนี้ฝังเข็มให้ท่านอีกครั้ง แล้วให้อาบน้ำสมุนไพรสักสองสามสัก รอดูผลแล้วค่อยว่ากัน!”“หากได้ผลดี ต่อไปก็มิจำเป็นต้องฝังเข็มแล้ว ท่านค่อย ๆ ฟื้นตัวก็พอแล้ว!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังเรื่องวิธีการฟื้นตัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดอะไรมาก ได้แค่เอ่ยไปตรง ๆ“ข้าจักเริ่มฝ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 385

    เซียวหลินเทียนยังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็น “เช่นนั้นแม่นมจูรู้หรือไม่ว่าหลิงอวี๋มิได้กลับเรือนตอนกลางคืนนั้น นางไปพบใคร?”“แม่นมจูบอกว่ามิรู้ แต่นางมีหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ...”จ้าวซวนหยิบจดหมายออกมาส่งให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรับมาเอาออกมาดู มันเป็นจดหมายของจางเฉินเหนียน เป็นจดหมายรัก...ในจดหมายไม่มีการเรียกชื่อ เนื้อหาข้างในเต็มไปด้วยคำรัก มันเลี่ยนเกินกว่าจะอ่านได้!เขามองอย่างรังเกียจ พวกคำที่บอกข้าชอบมองรอยยิ้มของเจ้า ตั้งแต่ที่ชอบเจ้า เรื่องอื่น ๆ ก็ไม่สำคัญ เพราะหัวใจของข้าถูกเจ้าครอบครองไปแล้ว...ช่วงนี้เซียวหลินเทียนคุ้นเคยกับลายมือของหลิงอวี๋มาก แค่มองปราดเดียวก็ยืนยันได้เลยว่าเป็นลายมือของหลิงอวี๋เขาขยำจดหมายอย่างโมโห!หลิงอวี๋ เจ้ากล้าทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้กับข้าหรือ!!เมื่อเซียวหลินเทียนนึกถึงที่หลิงอวี๋พาลูกของคนอื่นมาแต่งงานกับเขา ก็โกรธมากจนอยากจะบีบคอหลิงอวี๋ให้ตายยังมิทันที่เขาจะคิดว่าจะทำเยี่ยงไรกับหลิงอวี๋ดี องครักษ์ก็ตะโกนจากข้างนอก “พระชายามาแล้ว...”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็เอ่ยอย่างกังวลใจ “ท่านอ๋อง เวลานี้ยังมิใช่เวลาชำระบัญชีกับหลิงอวี๋! ท่านอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 386

    เป็นเวลาสองวันแล้วที่หลิงอวี๋มิได้ไปที่เรือนริมวารี ในทุกวันนางจะพาหลิงซวนกับเถาจื่อไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง หรือไปซื้อเครื่องยาสมุนไพรกับเกิ่งเสี่ยวหาวการค้าของเกิ่งเสี่ยวหาวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาไม่เพียงแต่คุ้นเคยกับทุกหมู่บ้านภายในรัศมีร้อยลี้จากเมืองหลวงเท่านั้น เขายังคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรที่มีในภูเขาทุกแห่งในพื้นที่ด้วย“ท่านพี่ คราที่ข้าออกไปเดินดูรอบ ๆ ถึงได้พบว่าใต้หล้านี้กว้างใหญ่มาก มีคนยากจนมากมาย สงครามในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ทำลายบ้านเรือนของผู้คนไปมิน้อยเลย!”“ท่านพี่ต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าบางคนยังอาศัยอยู่ในถ้ำอยู่เลย! ชีวิตของพวกเขายากลำบากนัก!”เกิ่งเสี่ยวหาวถอนหายใจพลางเอ่ย “ข้าอยากช่วยเหลือพวกเขา แต่ข้าก็ช่วยคนมากถึงเพียงนั้นมิได้!”พอได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋จึงเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นสามารถช่วยได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย! อีกอย่าง เสี่ยวหาว การหาปลามาให้เขากินนั้นมิดีเท่าสอนเขาตกปลาหรอก...”หลิงอวี๋เห็นว่าเกิ่งเสี่ยวหาวไม่เข้าใจ จึงอธิบายอย่างเข้าใจง่ายให้เขาฟัง“เจ้าช่วยพวกเขา ให้เงินพวกเขา แต่เงินมันก็ต้องหมดไป แต่หากเจ้าสอนวิธีหาเงินกับพวกเขา นั่นต่างหากที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 387

    “ท่านเอ้อร์!”หลิงอวี๋เดินเข้าไป ถึงได้พบว่านอกจากท่านกวนเอ้อร์แล้ว ยังมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งอีกสองคนอยู่ข้างในด้วย“พระชายาอ๋องอี้เชิญนั่งเถิด!”พอท่านกวนเอ้อร์เห็นหลิงอวี๋มองผู้คุ้มกันทั้งสอง ก็เอ่ยขึ้นมา “นี่คือคนสนิทของข้า พระชายาอย่าได้ถือสา!”“อ๋อ!”หลิงอวี๋นั่งลง พลางเอ่ยถาม “ท่านเอ้อร์ ยาแก้พิษที่ข้าส่งไปให้มิได้ผลหรือ?”“พระชายาวางใจได้ ยาแก้พิษนั้นดีมาก นายท่านกวนสบายดีแล้ว!”ท่านกวนเอ้อร์ยิ้มเล็กน้อย ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเดินเข้ามารินน้ำชาให้ทั้งสองคน“พระชายา ที่แซ่กวนมาที่นี่ในวันนี้ก็ตั้งใจมาขอบคุณพระชายาขอรับ! หากไม่มีพระชายา นายท่านก็คงอยู่ได้ไม่นาน!”“นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระชายา พระชายาโปรดรับไว้ด้วยเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์หยิบกล่องหนึ่งกล่องออกมา แล้วผลักมาให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รีบเอ่ย “ท่านเอ้อร์เกรงใจกันเกินไป เท่านให้รางวัลข้ามาแล้ว หลิงอวี๋มีหรือจักต้องการมากมาย! ท่านเอ้อร์เก็บกลับไปเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์ไม่คะยั้นคะยอ ยิ้มพลางเอ่ย “ข้าให้คนยกอาหารมาแล้ว พระชายาดื่มชาก่อนเถิด อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว!”หลิงอวี๋เหนื่อยมาทั้งวัน นางจึงหยิบ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 388

    “หลิงอวี๋… นังสารเลว!”กวนอิ่งพุ่งเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน ยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่หน้าหลิงอวี๋อย่างแรงขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะหลบ ผู้คุ้มกันสองคนก็คว้าแขนของนางไว้เพียะ เพียะ เพียะ…กวนอิ่งง้างมือซ้ายทีขวาด้วยความโกรธ แล้วตบไปหลายครั้งจนหลิงอวี๋เวียนหัว“หมาบ้า เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? กล้าทุบตีข้า เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะลงโทษเจ้ารึ?”หลิงอวี๋มึนงง นางกับกวนอิ่งมีความแค้นกันฝังลึกแค่ไหนกัน กวนอิ่งถึงได้บ้าถึงเพียงนี้?“เจ้าทำอะไร? เจ้ามิรู้รึ? เจ้าทำร้ายข้า… ข้าจักมิเสียเวลาพูดกับเจ้าอีก...”กวนอิ่งจิกผมของหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“วันนี้ข้าจักทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น!”“สำหรับความเจ็บปวดที่ข้าได้รับ ข้าจักทำให้เจ้าชดใช้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า!”กวนอิ่งเตะเข่าของหลิงอวี๋อย่างแรง หลิงอวี๋จึงคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวด“กวนอิ่ง เจ้าทำบ้าอะไร? เซียวหลินเทียนไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “กวนอิ่ง เจ้ากล้ามีเรื่องกับข้าเช่นนี้ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”“เอายาให้นาง!”“สารเลว! หากเจ้ามีชีวิตอยู่รอดพ้นคืนนี้ไปได้ เจ้าค่อยมาพูดคำโหดร้ายเช่นนี้ใหม่!”

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status