“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจู่ ๆ ถึงรีบร้อนเช่นนี้?”หลิงอวี๋เองก็เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงเอ่ยถาม“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก… ข้าแค่อยากรู้ว่าข้าต้องใช้เวลารักษาอีกนานแค่ไหนถึงยืนได้?”เซียวหลินเทียนเบือนหน้าหลบสายตาของหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างหงุดหงิด“จักทำอันใดให้สำเร็จก็ต้องมีความอดทน!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจ “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็บอกท่านแล้วมิใช่หรือ? ว่าขาของท่าน...”“เจ้าก็บอกมาว่านานแค่ไหน… หนึ่งเดือนหรือสองเดือน?”เซียวหลินเทียนพูดตัดบทหลิงอวี๋อย่างไม่อดทน ด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างหลิงอวี๋ตะลึงกับการที่เขาตะคอกอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็มิได้คิดอะไรมาก คิดว่าเซียวหลินเทียนไปเจอเรื่องที่ไม่สบายใจมา ดังนั้นวันนี้จึงหงุดหงิด“ฝังเข็มอีกสักสองสามครั้ง ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว!”หลิงอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “หม่อมฉันจักเปลี่ยนตำรับโอสถให้ท่าน ทำร่วมกับการอาบน้ำสมุนไพรจักยิ่งได้ผลดี!”“เช่นนั้นก็ฝังเข็มเลย! จัดการตำรับยาก่อน ข้าจักให้ลู่หนานไปเอาโอสถ!”เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนร้อนใจถึงเพียงนี้ หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงเขียนตำรับโอสถก่อน จากนั้นจึงหยิบเข็มเงินออกมาเซียวหลินเที
“หลิงอวี๋?”เซียวหลินเทียนมิเห็นหลิงอวี๋ตรวจขาเขา จึงเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด “ข้าถามเจ้านะ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ?”“ได้ยินแล้ว… หม่อมฉันกำลังคิดอยู่!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชาชั่วครู่นางอยากจะเดินออกไปเลย แต่นึกถึงที่เซียวหลินเทียนช่วยตนมาหลายครั้ง ออกไปเช่นนี้ดูไร้หัวใจไปสักหน่อย!ช่างมันเถิด นับจากนี้ก็แค่รักษาระยะห่างไว้ก็พอ!รักษาขาของเขาเสร็จ รอวันที่จะได้เข้าไปในวังอีกครั้ง จะขอให้ไทเฮาช่วยขอองค์จักรพรรดิ ให้นางได้หย่ากับเซียวหลินเทียน!ต่อไปก็อยู่ให้ห่างกันไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว!หลิงอวี๋หยิบคีมยาวออกมาจากล่วมยาแล้วนั่งยอง ๆ อีกครั้งนางใช้คีมยาวเคาะที่เข่าของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนมีการตอบสนอง น่องมีการขยับหลิงอวี๋ใช้คีมตรวจน่องของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ย“วันนี้ฝังเข็มให้ท่านอีกครั้ง แล้วให้อาบน้ำสมุนไพรสักสองสามสัก รอดูผลแล้วค่อยว่ากัน!”“หากได้ผลดี ต่อไปก็มิจำเป็นต้องฝังเข็มแล้ว ท่านค่อย ๆ ฟื้นตัวก็พอแล้ว!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังเรื่องวิธีการฟื้นตัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดอะไรมาก ได้แค่เอ่ยไปตรง ๆ“ข้าจักเริ่มฝ
เซียวหลินเทียนยังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็น “เช่นนั้นแม่นมจูรู้หรือไม่ว่าหลิงอวี๋มิได้กลับเรือนตอนกลางคืนนั้น นางไปพบใคร?”“แม่นมจูบอกว่ามิรู้ แต่นางมีหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ...”จ้าวซวนหยิบจดหมายออกมาส่งให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรับมาเอาออกมาดู มันเป็นจดหมายของจางเฉินเหนียน เป็นจดหมายรัก...ในจดหมายไม่มีการเรียกชื่อ เนื้อหาข้างในเต็มไปด้วยคำรัก มันเลี่ยนเกินกว่าจะอ่านได้!เขามองอย่างรังเกียจ พวกคำที่บอกข้าชอบมองรอยยิ้มของเจ้า ตั้งแต่ที่ชอบเจ้า เรื่องอื่น ๆ ก็ไม่สำคัญ เพราะหัวใจของข้าถูกเจ้าครอบครองไปแล้ว...ช่วงนี้เซียวหลินเทียนคุ้นเคยกับลายมือของหลิงอวี๋มาก แค่มองปราดเดียวก็ยืนยันได้เลยว่าเป็นลายมือของหลิงอวี๋เขาขยำจดหมายอย่างโมโห!หลิงอวี๋ เจ้ากล้าทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้กับข้าหรือ!!เมื่อเซียวหลินเทียนนึกถึงที่หลิงอวี๋พาลูกของคนอื่นมาแต่งงานกับเขา ก็โกรธมากจนอยากจะบีบคอหลิงอวี๋ให้ตายยังมิทันที่เขาจะคิดว่าจะทำเยี่ยงไรกับหลิงอวี๋ดี องครักษ์ก็ตะโกนจากข้างนอก “พระชายามาแล้ว...”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็เอ่ยอย่างกังวลใจ “ท่านอ๋อง เวลานี้ยังมิใช่เวลาชำระบัญชีกับหลิงอวี๋! ท่านอ
เป็นเวลาสองวันแล้วที่หลิงอวี๋มิได้ไปที่เรือนริมวารี ในทุกวันนางจะพาหลิงซวนกับเถาจื่อไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง หรือไปซื้อเครื่องยาสมุนไพรกับเกิ่งเสี่ยวหาวการค้าของเกิ่งเสี่ยวหาวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาไม่เพียงแต่คุ้นเคยกับทุกหมู่บ้านภายในรัศมีร้อยลี้จากเมืองหลวงเท่านั้น เขายังคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรที่มีในภูเขาทุกแห่งในพื้นที่ด้วย“ท่านพี่ คราที่ข้าออกไปเดินดูรอบ ๆ ถึงได้พบว่าใต้หล้านี้กว้างใหญ่มาก มีคนยากจนมากมาย สงครามในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ทำลายบ้านเรือนของผู้คนไปมิน้อยเลย!”“ท่านพี่ต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าบางคนยังอาศัยอยู่ในถ้ำอยู่เลย! ชีวิตของพวกเขายากลำบากนัก!”เกิ่งเสี่ยวหาวถอนหายใจพลางเอ่ย “ข้าอยากช่วยเหลือพวกเขา แต่ข้าก็ช่วยคนมากถึงเพียงนั้นมิได้!”พอได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋จึงเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นสามารถช่วยได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย! อีกอย่าง เสี่ยวหาว การหาปลามาให้เขากินนั้นมิดีเท่าสอนเขาตกปลาหรอก...”หลิงอวี๋เห็นว่าเกิ่งเสี่ยวหาวไม่เข้าใจ จึงอธิบายอย่างเข้าใจง่ายให้เขาฟัง“เจ้าช่วยพวกเขา ให้เงินพวกเขา แต่เงินมันก็ต้องหมดไป แต่หากเจ้าสอนวิธีหาเงินกับพวกเขา นั่นต่างหากที
“ท่านเอ้อร์!”หลิงอวี๋เดินเข้าไป ถึงได้พบว่านอกจากท่านกวนเอ้อร์แล้ว ยังมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งอีกสองคนอยู่ข้างในด้วย“พระชายาอ๋องอี้เชิญนั่งเถิด!”พอท่านกวนเอ้อร์เห็นหลิงอวี๋มองผู้คุ้มกันทั้งสอง ก็เอ่ยขึ้นมา “นี่คือคนสนิทของข้า พระชายาอย่าได้ถือสา!”“อ๋อ!”หลิงอวี๋นั่งลง พลางเอ่ยถาม “ท่านเอ้อร์ ยาแก้พิษที่ข้าส่งไปให้มิได้ผลหรือ?”“พระชายาวางใจได้ ยาแก้พิษนั้นดีมาก นายท่านกวนสบายดีแล้ว!”ท่านกวนเอ้อร์ยิ้มเล็กน้อย ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเดินเข้ามารินน้ำชาให้ทั้งสองคน“พระชายา ที่แซ่กวนมาที่นี่ในวันนี้ก็ตั้งใจมาขอบคุณพระชายาขอรับ! หากไม่มีพระชายา นายท่านก็คงอยู่ได้ไม่นาน!”“นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระชายา พระชายาโปรดรับไว้ด้วยเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์หยิบกล่องหนึ่งกล่องออกมา แล้วผลักมาให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รีบเอ่ย “ท่านเอ้อร์เกรงใจกันเกินไป เท่านให้รางวัลข้ามาแล้ว หลิงอวี๋มีหรือจักต้องการมากมาย! ท่านเอ้อร์เก็บกลับไปเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์ไม่คะยั้นคะยอ ยิ้มพลางเอ่ย “ข้าให้คนยกอาหารมาแล้ว พระชายาดื่มชาก่อนเถิด อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว!”หลิงอวี๋เหนื่อยมาทั้งวัน นางจึงหยิบ
“หลิงอวี๋… นังสารเลว!”กวนอิ่งพุ่งเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน ยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่หน้าหลิงอวี๋อย่างแรงขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะหลบ ผู้คุ้มกันสองคนก็คว้าแขนของนางไว้เพียะ เพียะ เพียะ…กวนอิ่งง้างมือซ้ายทีขวาด้วยความโกรธ แล้วตบไปหลายครั้งจนหลิงอวี๋เวียนหัว“หมาบ้า เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? กล้าทุบตีข้า เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะลงโทษเจ้ารึ?”หลิงอวี๋มึนงง นางกับกวนอิ่งมีความแค้นกันฝังลึกแค่ไหนกัน กวนอิ่งถึงได้บ้าถึงเพียงนี้?“เจ้าทำอะไร? เจ้ามิรู้รึ? เจ้าทำร้ายข้า… ข้าจักมิเสียเวลาพูดกับเจ้าอีก...”กวนอิ่งจิกผมของหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“วันนี้ข้าจักทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น!”“สำหรับความเจ็บปวดที่ข้าได้รับ ข้าจักทำให้เจ้าชดใช้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า!”กวนอิ่งเตะเข่าของหลิงอวี๋อย่างแรง หลิงอวี๋จึงคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวด“กวนอิ่ง เจ้าทำบ้าอะไร? เซียวหลินเทียนไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “กวนอิ่ง เจ้ากล้ามีเรื่องกับข้าเช่นนี้ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”“เอายาให้นาง!”“สารเลว! หากเจ้ามีชีวิตอยู่รอดพ้นคืนนี้ไปได้ เจ้าค่อยมาพูดคำโหดร้ายเช่นนี้ใหม่!”
“ท่านแม่ ผู้หญิงคนนี้คุณหนูใหญ่สั่งเป็นการส่วนตัวว่าให้ดูแลให้ดี คืนนี้อย่าปล่อยให้นางอยู่เฉย ๆ…”เสียงหัวเราะลามกของผู้คุ้มกันมาจากประตูหลิงอวี๋ลืมตาขึ้น เห็นว่าผู้คุ้มกันหันหลังให้ตน นางรีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มยาสลบและยาถอนพิษออกมายาที่ทำให้มึนเมาเช่นนี้ หลิงอวี๋เคยศึกษามาก่อนจึงพยายามเตรียมยาแก้พิษนางรีบฉีดยาให้ตน แต่ก่อนที่จะดึงเข็มออก นางก็ได้ยินผู้คุ้มกันอีกคนพูด“พี่… ให้พวกเรามาสนุกกันก่อนดีกว่า แทนที่จะเสียเปรียบคนอื่น สู้พวกเราได้ก่อนดีกว่า!”ผู้คุ้มกันตรงหน้าลังเล “หากคุณหนูใหญ่รู้เข้า...”“เหอะ นางแค่ให้เราดูผู้หญิงคนนี้ไม่ให้หนีไปไหน นางจะรู้หรือว่าเราทำอะไร?”เมื่อกี้เขาพาหลิงอวี๋มา ร่างกายที่อ่อนนุ่มของหลิงอวี๋ทำให้ผู้คุ้มกันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่น้องชายพูด ก็หวั่นไหวทันที!“ท่านแม่ เช่นนั้นท่านลงไปก่อนเถิด! พวกเราเสร็จแล้วจะเรียก!”พูดแล้วผู้คุ้มกันทั้งสองก็ปิดประตู แล้วเดินไปหาหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้มหลิงอวี๋บีบเข็มยาสลบแน่น แอบดีใจที่ผู้คุ้มกันสองคนนี้กล้าพอที่จะมาพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องยากสำหรับตนที่จะจัดการกับพวกเขาทีละคน
รถม้ามุ่งกลับไปยังตำหนักอ๋องอี้ระหว่างทาง หลิงอวี๋ผลัดผ้าเปลี่ยนเป็นอาภรณ์ที่หลิงซวนเตรียมไว้ให้นาง ให้ดูแล้วไม่ได้ดูแย่อะไรกระทั่งมาถึงตำหนักอ๋องอี้ หลิงอวี๋ก็พาคนสองสามคนวิ่งไปที่เรือนริมวารีที่ประตูมีองครักษ์ที่ไม่คุ้นเคยสองคนอยู่ หลิงอวี๋ไม่รู้จัก เมื่อเห็นว่าไฟในเรือนยังสว่างอยู่ จึงเอ่ย “ข้าต้องการพบท่านอ๋อง!”องครักษ์คนหนึ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “พระชายาอ๋องอี้ ท่านอ๋องบรรทมแล้ว! ท่านรับสั่งมิอนุญาตให้ผู้ใดไปรบกวน!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว แต่ยังคงเอ่ยอย่างอดทน“รบกวนพวกเจ้าไปรายงานทีว่าข้ามีเรื่องด่วนมากจะพูดกับท่านอ๋อง!”องครักษ์อีกคนหัวเราะอย่างดูถูก“พระชายาล้อเล่นหรือ! ชิวเหวินซวงกลับมาแล้ว ท่านมิต้องดูแลบ้านแล้ว ยังจะมีเรื่องด่วนมากอันใดอีก!”“พระชายา โปรดกลับไปเถิด! อย่าทำให้พวกเราลำบากเลย!”หลิงอวี๋อยากจะพูดอีก แต่ก็เห็นไฟในห้องนอนของเซียวหลินเทียนดับลง!นี่หมายความว่าเซียวหลินเทียนไม่เต็มใจที่จะพบนางใช่หรือไม่?หลิงอวี๋นึกถึงวันที่นางฝังเข็มให้เซียวหลินเทียนได้ เขามิยอมให้ตนสัมผัสเขา!หัวใจของนางเย็นวาบทันที!คิดไม่ถึงว่าเซียวหลินเทียนจะแยกเรื่องอื่นกับเรื่องส่วนตัว